1 00:00:04,750 --> 00:00:06,883 ผมพูดเจ็ดภาษา 2 00:00:06,883 --> 00:00:09,460 ทันทีที่คนรู้เรื่องนี้ 3 00:00:09,460 --> 00:00:11,721 สิ่งที่ผมมักจะถูกถามก็คือ -- 4 00:00:11,721 --> 00:00:13,693 แทนที่จะเป็นการถูกขอเบอร์โทรศัพท์ -- 5 00:00:13,693 --> 00:00:16,042 คือ: "คุณทำได้อย่างไรน่ะ" 6 00:00:16,042 --> 00:00:20,395 คุณเรียนภาษาต่างๆ ทั้งหมดนี้ได้อย่างไร 7 00:00:20,395 --> 00:00:24,255 ครับ วันนี้ผมจะมาแบ่งปัน เคล็ดลับคำตอบนั้นกับคุณ 8 00:00:24,255 --> 00:00:26,438 ครับ เบอร์โทรศัพท์ผมคือ 212... 9 00:00:26,438 --> 00:00:27,551 (เสียงหัวเราะ) 10 00:00:27,551 --> 00:00:28,704 ผมล้อเล่นครับ 11 00:00:28,704 --> 00:00:30,743 ครับ ผมเติบโตมาท่ามกลางหลายภาษา 12 00:00:30,743 --> 00:00:33,288 เมื่อผมอายุ 18 ปี 13 00:00:33,288 --> 00:00:36,312 ผมพูดได้แล้วสี่ภาษา 14 00:00:36,312 --> 00:00:38,663 และจากนั้นอีกสามปี 15 00:00:38,663 --> 00:00:40,668 ผมก็เรียนอีกสามภาษา 16 00:00:40,668 --> 00:00:43,290 นั่นเป็นสามปีที่ผมอยากจะพูดถึง 17 00:00:43,290 --> 00:00:46,094 เพราะว่ากระบวนการเรียนภาษาของผม 18 00:00:46,094 --> 00:00:48,758 แตกต่างไปจากวิธีการของเพื่อน ๆ ผมมาก 19 00:00:48,758 --> 00:00:51,235 ไม่เคยรู้สึกว่าเคร่งเครียด 20 00:00:51,235 --> 00:00:54,842 ยากราวกับเข็นครก หรือเหมือนสิ่งที่ไม่สามารถเป็นไปได้ 21 00:00:54,842 --> 00:00:58,279 แต่ว่าเป็นเรื่องที่น่าเพลิดเพลิน สนุก ตื่นเต้น 22 00:00:58,279 --> 00:01:01,232 ผมรักมัน ทุกวินาทีของมัน 23 00:01:02,612 --> 00:01:05,057 และผมต้องการที่จะแบ่งปันมันกับคุณ 24 00:01:05,057 --> 00:01:08,308 ทำไม อะไรที่ทำให้มันพิเศษนัก 25 00:01:08,308 --> 00:01:10,784 ครับ ผมเริ่มต้นเร็ว 26 00:01:10,784 --> 00:01:14,840 ผมรู้สี่ภาษาตั้งแต่แรก ๆ 27 00:01:14,840 --> 00:01:17,326 แต่ว่ายังมี 5 เคล็ดลับ 28 00:01:17,326 --> 00:01:20,569 5 ทักษะ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ที่ผมใช้ 29 00:01:20,569 --> 00:01:23,851 ที่ทำให้กระบวนการเรียนภาษาง่ายขึ้น 30 00:01:23,851 --> 00:01:25,708 และมันก็เป็น 5 เคล็ดลับ 31 00:01:25,708 --> 00:01:27,753 ที่ผมอยากจะพูดถึง 32 00:01:27,753 --> 00:01:29,883 เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย 33 00:01:29,883 --> 00:01:31,292 ข้อแรก 34 00:01:31,292 --> 00:01:33,487 อย่างแรกที่เราต้องทำก็คือ 35 00:01:33,487 --> 00:01:37,073 หายใจลึก ๆ 36 00:01:41,593 --> 00:01:43,483 และทำใจให้สบาย 37 00:01:43,483 --> 00:01:46,407 และเหตุผลก็เพราะว่าทั้งชีวิตของเรา 38 00:01:46,407 --> 00:01:49,249 เราถูกสอนว่าต้องทำอย่างไรให้ถูกต้อง 39 00:01:49,249 --> 00:01:51,370 ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราเกิด เราถูกสอน 40 00:01:51,370 --> 00:01:54,471 ว่าสิ่งใดที่เราควรทำ สิ่งใดที่เราไม่ควรทำ 41 00:01:54,471 --> 00:01:57,142 และต้องทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเหมาะสมอย่างไร 42 00:01:57,142 --> 00:01:59,625 ครับ เมื่อมันเป็นเรื่องของการเรียนภาษา 43 00:01:59,625 --> 00:02:01,833 กฎทองสำหรับการเรียนภาษา 44 00:02:01,833 --> 00:02:04,131 สิ่งที่สำคัญที่สุด 45 00:02:04,131 --> 00:02:07,087 ก็คือทำสิ่งที่ผิด 46 00:02:07,087 --> 00:02:09,173 ทำพลาด 47 00:02:09,173 --> 00:02:11,081 และนั่นก็เป็นกฎข้อแรก 48 00:02:11,081 --> 00:02:12,893 ให้ผมอธิบายกับคุณว่าทำไม 49 00:02:12,893 --> 00:02:14,923 เมื่อเรารู้ภาษาแล้ว 50 00:02:14,923 --> 00:02:17,118 เรารู้ถึงกลุ่มของเสียงทั้งหมด 51 00:02:17,118 --> 00:02:19,785 และกลุ่มของโครงสร้างทั้งหมด 52 00:02:19,785 --> 00:02:22,437 ซึ่งถูกรวมเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดสิ่งที่ผมมักเรียกว่า -- 53 00:02:22,437 --> 00:02:24,587 และตามจุดประสงค์ของการนำเสนอนี้ -- 54 00:02:24,587 --> 00:02:26,825 "ฐานข้อมูลภาษา" ของเรา 55 00:02:26,825 --> 00:02:28,879 และฐานข้อมูลภาษาของเราจะมี 56 00:02:28,879 --> 00:02:30,923 เสียงและโครงสร้างทั้งหมดที่เรารู้ 57 00:02:30,923 --> 00:02:33,649 อย่างไรก็ดี ตระกูลของเสียง และโครงสร้างภาษามีมากมาย 58 00:02:33,649 --> 00:02:36,478 เกินกว่าฐานข้อมูลของเรา 59 00:02:36,478 --> 00:02:41,902 และเพื่อที่เราจะสามารถเริ่มต้นกับพวกมัน และสามารถที่จะสำรวจพวกมันได้ 60 00:02:41,902 --> 00:02:44,526 มันไม่มีอะไรที่อยู่ในขอบเขตฐานข้อมูลของเรา 61 00:02:44,526 --> 00:02:46,329 ไม่มีอะไรอยู่ในขอบเขตความรู้ของเรา 62 00:02:46,329 --> 00:02:49,377 ที่จะบอกเราว่า เมื่อไรที่ใช้โครงสร้างได้ถูกต้อง 63 00:02:49,377 --> 00:02:52,952 ไม่มีอะไรที่บอกเราว่า เมื่อไรที่เสียงจะถูกต้อง 64 00:02:52,952 --> 00:02:56,277 สมมติว่าเรากำลังจะสำรวจ เสียงเฉพาะเสียงหนึ่ง 65 00:02:56,277 --> 00:02:58,568 ไม่มีอะไรในฐานข้อมูลของเรา 66 00:02:58,568 --> 00:03:01,317 เมื่อเราพูดมัน เราอาจพูดมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ 67 00:03:01,317 --> 00:03:05,533 แต่ในความคิดของเรา มันฟังดูเหมือนว่าผิด 68 00:03:05,533 --> 00:03:09,294 ฉะนั้นคุณรู้ได้ถึงความรู้สึกตื่นกลัว ความรู้สึกไม่มั่นใจ 69 00:03:09,294 --> 00:03:13,054 เมื่อคุณรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังทำอะไรผิดอยู่ 70 00:03:13,054 --> 00:03:15,533 นั่นเป็นการกระตุ้นที่คุณต้องมองหา 71 00:03:15,533 --> 00:03:21,073 เพราะว่านั่นเป็นสัญญาณที่บอกคุณ ว่าคุณกำลังไปไกลกว่าฐานข้อมูลของคุณแล้ว 72 00:03:21,073 --> 00:03:25,055 และคุณได้อนุญาตให้ตัวเอง ได้สำรวจดินแดนใหม่ของภาษาใหม่ 73 00:03:25,055 --> 00:03:27,120 ให้ผมได้แสดงให้คุณดูว่า มันเป็นอย่างไรในทางปฏิบัติ 74 00:03:27,120 --> 00:03:31,148 สมมติว่า เรากำลังที่จะเรียนคำว่า "ประตู" ในภาษาสเปน 75 00:03:31,148 --> 00:03:33,336 คำว่า "ประตู" ในภาษาสเปนคือ "พัวเอต้า" (Puerta) 76 00:03:33,336 --> 00:03:36,526 ฉะนั้น สำหรับ "พัวเอต้า" เรามีบางเสียงที่มีในภาษาอังกฤษ 77 00:03:36,526 --> 00:03:38,760 เสียง "พู" "เอ" และ "ต้า" 78 00:03:38,760 --> 00:03:42,257 อย่างไรก็ดี เมื่อมันมี "อาร์" (r) 79 00:03:42,257 --> 00:03:45,185 เสียงนั้นไม่มีในฐานข้อมูลของเรา 80 00:03:45,185 --> 00:03:46,495 "รร" (RR) 81 00:03:46,495 --> 00:03:52,909 การกระดกลิ้นที่ไม่มีในฐานข้อมูลภาษาอังกฤษ 82 00:03:52,909 --> 00:03:55,623 และมันก็เกินกว่าขอบเขตไปนิดหน่อย 83 00:03:55,623 --> 00:03:58,293 แต่ถ้าเรายอมให้ตัวเราเอง 84 00:03:58,293 --> 00:04:01,263 เชื่อมโยงฐานข้อมูลและฝ่ามันออกไป 85 00:04:01,263 --> 00:04:02,753 และทำผิดพลาด 86 00:04:02,753 --> 00:04:04,888 เราสามารถที่จะทำเสียงอย่าง "รร" ได้ 87 00:04:04,888 --> 00:04:06,607 แต่แทนที่จะเป็นแบบนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นบางครั้ง 88 00:04:06,607 --> 00:04:10,410 ก็คือ เราใช้สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดในฐานข้อมูลของเรา 89 00:04:10,410 --> 00:04:12,787 และนั่นคือเสียง "อาห์-เออ" 90 00:04:12,787 --> 00:04:14,204 (เสียงหัวเราะ) 91 00:04:14,204 --> 00:04:16,190 และเสียง "อาห์-เออ" 92 00:04:16,190 --> 00:04:18,808 ให้เสียงที่เหมือนกับ "พัว-เออ-อาต้า" 93 00:04:18,808 --> 00:04:22,476 ซึ่งไม่ได้มีความหมายอะไรเลยในภาษาสเปน 94 00:04:22,476 --> 00:04:26,157 และอันที่จริง ฟังดูไม่มีสเน่ห์เท่าไร 95 00:04:26,157 --> 00:04:28,780 และมันก็ไม่ได้บอกอะไรกับคุณมาก 96 00:04:28,780 --> 00:04:30,735 ฉะนั้น สำหรับเคล็ดลับแรก 97 00:04:30,735 --> 00:04:33,464 อนุญาตให้ตัวเองทำผิดพลาด 98 00:04:33,464 --> 00:04:36,754 เพื่อให้เสียงอย่าง "พัวเอต้า" เปล่งออกมาได้ 99 00:04:36,754 --> 00:04:38,518 และตอนนี้ ไปยังข้อที่สองกัน 100 00:04:38,518 --> 00:04:39,829 สำหรับข้อที่สอง 101 00:04:39,829 --> 00:04:41,925 ผมต้องการความร่วมมือบางอย่างจากพวกคุณ 102 00:04:41,925 --> 00:04:45,283 เรากำลังจะอ่านคำสวย ๆ สี่คำนี้ 103 00:04:45,283 --> 00:04:46,822 และเมื่อผมนับถึงสาม 104 00:04:46,822 --> 00:04:50,489 เอาล่ะ มาเริ่มจากคำแรกกัน เมื่อผมนับสาม: หนึ่ง สอง สาม 105 00:04:50,489 --> 00:04:52,235 (ผู้ชม) เหมา (ซิด) "เหมา" ยอดเลยครับ 106 00:04:52,235 --> 00:04:54,608 คำที่สอง: หนึ่ง สอง สาม (ผู้ชม) โกโก้ 107 00:04:54,608 --> 00:04:56,735 (ซิด) เยี่ยม คำที่สาม หนึ่ง สอง สาม 108 00:04:56,735 --> 00:04:58,933 (ผู้ชม) โคโค้ (ซิด) ยอดเยี่ยม 109 00:04:58,933 --> 00:05:01,565 และคำที่สี่ หนึ่ง สอง สาม 110 00:05:01,565 --> 00:05:03,333 (เงียบ) 111 00:05:03,333 --> 00:05:06,280 โอ้ 112 00:05:06,280 --> 00:05:08,987 ให้ผมแสดงให้คุณดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อผมทำแบบนั้น 113 00:05:08,987 --> 00:05:11,296 เราเห็นคำทั้งสี่คำนี้ 114 00:05:11,296 --> 00:05:14,972 และนำพวกมันผ่าน ตัวกรองภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน 115 00:05:14,972 --> 00:05:19,736 และเราก็ได้อะไรบางอย่าง ที่เป็นประมาณนี้ 116 00:05:19,736 --> 00:05:21,786 และผมจะบอกคุณถึงผลลัพท์ของมัน 117 00:05:21,786 --> 00:05:24,119 เอาล่ะ คำแรก "โม" (Mão) 118 00:05:24,119 --> 00:05:26,291 ซึ่งหมายถึง "มือ" ในภาษาโปรตุเกส 119 00:05:26,291 --> 00:05:29,087 เรานำมันผ่านตัวกรองและได้คำว่า "เหมา" 120 00:05:29,087 --> 00:05:30,703 (เสียงหัวเราะ) 121 00:05:30,703 --> 00:05:32,811 สำหรับคำที่สอง เราได้ "โกโก้" 122 00:05:32,811 --> 00:05:34,980 ซึ่งคือ "มะพร้าว" ในภาษาโปรตุกีส 123 00:05:34,980 --> 00:05:38,326 หรือ "โคโค่" ซึ่งหมายถึง "อึ" 124 00:05:38,326 --> 00:05:41,074 เรานำมันผ่านตัวกรอง เราก็เลยได้โคโค่ร้อน 125 00:05:41,074 --> 00:05:42,522 (เสียงหัวเราะ) 126 00:05:42,522 --> 00:05:44,521 และคำที่สี่ 127 00:05:44,521 --> 00:05:45,865 เราได้คำว่า "หัว" (huo) 128 00:05:45,865 --> 00:05:48,419 ซึ่งหมายถึง "ไฟ" ในภาษาจีน 129 00:05:48,419 --> 00:05:49,573 และเราได้ -- 130 00:05:49,573 --> 00:05:52,609 ถ้าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ บางทีคุณคงคิดว่านั่นเป็นผู้ชายทำท่าคาราเต้... 131 00:05:52,634 --> 00:05:53,680 (เสียงหัวเราะ) 132 00:05:53,712 --> 00:05:55,582 แต่อย่างไรก็ดี 133 00:05:55,582 --> 00:05:59,772 มันไม่ได้บอกอะไรกับคุณมากนัก ว่าคำพวกนี้อ่านออกเสียงอย่างไร 134 00:05:59,772 --> 00:06:01,688 และถ้าคุณคิดว่ามันเป็นเพียงหนทางเดียว 135 00:06:01,688 --> 00:06:04,482 ถ้าคุณคิดจะเรียนภาษาอื่น จากภาษาอังกฤษ 136 00:06:04,482 --> 00:06:06,207 คิดถึงคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาสิครับ 137 00:06:06,207 --> 00:06:07,823 และพยายามอธิบายกับใครสักคน 138 00:06:07,823 --> 00:06:09,862 ว่าคำนี้อ่านว่า "โธว์" (though) 139 00:06:09,862 --> 00:06:12,286 และคำนี้อ่านออกเสียงว่า "ธอท" (thought) 140 00:06:12,286 --> 00:06:14,602 และแม้ว่า มันดูเกือบจะเหมือนกัน 141 00:06:14,602 --> 00:06:16,997 พวกมันไม่มีอะไรเหมือนกันเลย 142 00:06:16,997 --> 00:06:18,620 หรือพยายามอธิบายให้พวกเขาฟังว่า 143 00:06:18,620 --> 00:06:20,080 คำนี้คือ "อินาฟ" (enough) 144 00:06:20,080 --> 00:06:22,489 และคำนี้มันผิด 145 00:06:22,489 --> 00:06:29,107 เห็นไหมครับมันไม่มีประโยชน์เลย ที่จะใช้ตัวอักษรต่างภาษา 146 00:06:29,107 --> 00:06:31,098 เมื่อคุณกำลังเรียนภาษานั้น ๆ 147 00:06:31,098 --> 00:06:34,086 ทำไมน่ะหรือครับ เพราะว่า มันจะทำให้คุณได้สัญญาณที่ผิด 148 00:06:34,086 --> 00:06:36,477 ฉะนั้น อะไรเป็นเคล็ดลับที่สอง 149 00:06:36,477 --> 00:06:37,880 ทิ้งมันไปเลยครับ 150 00:06:37,880 --> 00:06:40,889 โยนตัวอักษรต่างภาษาทิ้งไป 151 00:06:40,889 --> 00:06:44,859 ให้ผมให้ทางเลือกกับคุณว่าจะทำอย่างไร 152 00:06:44,859 --> 00:06:46,900 นี่คือสกุลเงินบราซิล 153 00:06:46,900 --> 00:06:48,541 และมันสะกดแบบนี้ 154 00:06:48,541 --> 00:06:51,939 นับหนึ่งถึงสาม ลองอ่านชื่อหน่วยเงินนี้สิครับ 1, 2, 3 155 00:06:51,939 --> 00:06:53,374 (ผู้ชม) รีล 156 00:06:53,374 --> 00:06:55,997 (ซิด) เรามีบางคนที่รู้จักตัวสะกด 157 00:06:56,057 --> 00:06:58,487 ครับ "รี-อัล" เป็นส่วนใหญ่ 158 00:06:58,487 --> 00:07:03,973 และอย่างที่คุณเห็นประโยชน์ของมัน มันไม่ได้บอกอะไรกับคุณเลยสักอย่าง 159 00:07:03,973 --> 00:07:07,445 และเมื่อคุณพูดภาษาโปรตุเกส "เรียล" ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย 160 00:07:07,445 --> 00:07:08,944 ให้ผมให้ทางเลือกกับคุณนะครับ 161 00:07:08,944 --> 00:07:13,643 ในภาษาโปรตุเกส เวลาเราออกเสียงคำว่า "เรียล" ว่า "เฮียว" 162 00:07:13,652 --> 00:07:16,726 ให้ผมสอนนะครับว่าพูดอย่างไร 163 00:07:16,726 --> 00:07:19,012 เมื่อนับถึงสาม ให้พูดว่า "เฮ" 164 00:07:19,012 --> 00:07:21,181 แบบ "เฮย์" โดยไม่มีเสียง "ย์" 165 00:07:21,181 --> 00:07:23,312 เอาล่ะ หนึ่ง สอง สาม -- "เฮ" 166 00:07:23,312 --> 00:07:25,023 (ผู้ชม) ฮี (ซิด) ยอดครับ 167 00:07:25,023 --> 00:07:26,456 และตอนนี้พูดว่า "เอา" 168 00:07:26,456 --> 00:07:28,872 เหมือน "เอาช์" ที่ไม่มีเสียง "ช์" 169 00:07:28,872 --> 00:07:30,998 เอาล่ะ "เอา" หนึ่ง สอง สาม 170 00:07:31,008 --> 00:07:32,810 (ผู้ชม) เอา 171 00:07:32,810 --> 00:07:33,884 และ "ฮี" 172 00:07:33,884 --> 00:07:35,183 (ผู้ชม) ฮี 173 00:07:35,183 --> 00:07:36,520 (ซิด) "เอา" 174 00:07:36,520 --> 00:07:37,580 (ผู้ชม) เอา 175 00:07:37,580 --> 00:07:38,890 (ซิด) "เฮ" (ผู้ชม) เฮ 176 00:07:38,890 --> 00:07:40,308 (ซิด) "เอา" (ผู้ชม) เอา 177 00:07:40,308 --> 00:07:43,972 (ซิด) "ฮี-เอา" เฮียว 178 00:07:43,972 --> 00:07:46,730 (ผู้ชม) ฮี-เอา (ซิด) เยี่ยมครับ 179 00:07:46,730 --> 00:07:49,914 ทีนี้คุณพูดเหมือนชาวบราซิเลียนระดับนายทุน ผู้กระตือรือล้นเลยครับ 180 00:07:49,914 --> 00:07:51,598 (เสียงหัวเราะ) 181 00:07:51,598 --> 00:07:58,202 ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณจะใช้อะไรบางอย่าง ที่ดูเป็นแบบนี้ 182 00:07:58,202 --> 00:08:00,203 ที่มันดูเหมือน "เรียล" 183 00:08:00,203 --> 00:08:02,035 เมื่ออันที่จริงคุณสามารถใช้อะไรบางอย่าง 184 00:08:02,035 --> 00:08:05,152 ที่ดูเป็นแบบนี้ และให้ข้อมูลกับคุณมากกว่า 185 00:08:05,152 --> 00:08:08,794 เกี่ยวกับว่ามันอ่านอย่างไร ในภาษาต่างชาติ 186 00:08:08,794 --> 00:08:10,608 และนั่นนำเราไปยังจุดที่ดี 187 00:08:10,608 --> 00:08:12,927 เพราะว่าในจุดนี้ เราอนุญาตให้ตัวเราเอง 188 00:08:12,927 --> 00:08:15,811 ฝ่าออกไปจากฐานข้อมูลของเรา และทำผิดพลาด 189 00:08:15,811 --> 00:08:19,478 เพื่อที่จะไปยังดินแดนที่ไม่คุ้นเคย ของภาษาใหม่ 190 00:08:19,478 --> 00:08:22,657 และจากนั้น เราก็พบว่า จะใช้เครื่องหมายเหล่านี้อย่างไร 191 00:08:22,657 --> 00:08:25,792 ในแบบที่ข้อมูลจะมีความหมาย 192 00:08:25,792 --> 00:08:28,051 แต่ว่า เราจะทดสอบมันได้อย่างไร 193 00:08:28,051 --> 00:08:31,006 และนั่นเป็นหน้าที่ของเคล็ดลับที่ 3 194 00:08:31,006 --> 00:08:35,011 เคล็ดลับที่ 3 เป็นการหาสิ่งจูงใจ 195 00:08:35,011 --> 00:08:37,809 หาใครสักคนที่ใส่ใจกับรายละเอียด 196 00:08:37,809 --> 00:08:40,520 และไม่ยอมให้คุณหนีไปไหน เมื่อยังมีความผิดพลาด 197 00:08:40,520 --> 00:08:43,865 และยิ่งไปกว่าการหาใครสักคนที่เป็นคนจริง ๆ 198 00:08:43,865 --> 00:08:45,665 ผู้รู้ทางด้านภาษา 199 00:08:45,665 --> 00:08:49,702 มันเกี่ยวกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง มากกว่า 200 00:08:49,702 --> 00:08:51,088 ความสัมพันธ์กับใครสักคน 201 00:08:51,088 --> 00:08:54,016 ที่จะแก้ไขคุณ และรู้สึกสบายใจที่จะแก้ไขให้คุณ 202 00:08:54,016 --> 00:08:57,869 และทำให้มั่นใจว่าคุณจะได้ไปถึงจุดที่คุณต้องการ ในด้านภาษา 203 00:08:57,869 --> 00:08:59,434 แต่ในเวลาเดียวกัน 204 00:08:59,434 --> 00:09:00,879 ใครสักคนที่จะชักนำคุณ 205 00:09:00,879 --> 00:09:04,146 ให้ทำในสิ่งที่ผิดและทำให้ข้อผิดพลาดพวกนั้น เกิดขึ้นแต่แรก 206 00:09:04,146 --> 00:09:06,739 และสิ่งจูงใจนั้นอาจเป็นคุณครูของคุณ 207 00:09:06,739 --> 00:09:08,482 อาจเป็นครูสอนพิเศษ อาจเป็นเพื่อนของคุณ 208 00:09:08,482 --> 00:09:12,586 อาจเป็นใครบางคนในสไกป์ หรือเครกลีส ที่ไหนก็ได้ 209 00:09:12,586 --> 00:09:14,595 คุณสามารถพบผู้ชักนำได้ทั่วไป 210 00:09:14,595 --> 00:09:17,784 และด้วยเทคโนโลยี มันทำให้การหาสิ่งเหล่านั้นง่ายขึ้น 211 00:09:17,784 --> 00:09:21,045 และจากนั้น มันก็ถึงเวลาฝึกซ้อม 212 00:09:21,045 --> 00:09:24,486 และสำหรับการฝึกซ้อม เราก็มีเคล็ดลับที่สี่ 213 00:09:24,486 --> 00:09:26,422 เห็นไหมครับ ผมคิดมาตลอดเลยว่าผมมีสิ่งนี้ 214 00:09:26,454 --> 00:09:30,412 นั่นมันออกจะ "บ้าในแบบของซิด" นิดหน่อย 215 00:09:30,412 --> 00:09:32,671 แต่จากนั้น ผมก็รู้ว่ามันมีประโยชน์แค่ไหน 216 00:09:32,671 --> 00:09:38,735 ผมทำสิ่งที่ผมเรียกว่า "การสนทนาในห้องอาบน้ำ" เสมอ ๆ 217 00:09:38,735 --> 00:09:42,502 และการสนทนาในห้องอาบน้ำ ก็เป็นอย่างที่คุณได้ยิน 218 00:09:42,502 --> 00:09:44,253 เมื่อผมเรียนภาษาใหม่ 219 00:09:44,253 --> 00:09:46,534 ผมจะอยู่ในห้องอาบน้ำสักสองสามนาที 220 00:09:46,534 --> 00:09:48,875 ผมจำได้ว่าผมได้ถกประเด็นเหล่านี้ 221 00:09:48,875 --> 00:09:50,889 ผมจำได้ว่าผมกำลังเรียนภาษาจีน 222 00:09:50,889 --> 00:09:53,949 และผมก็ต่อรองราคา พยายามขออีกสองหยวน 223 00:09:53,949 --> 00:09:57,479 เพื่อที่จะได้ซื้อเกี๊ยวลดราคา 224 00:09:57,479 --> 00:09:59,418 หรือผมอาจไปโรม 225 00:09:59,418 --> 00:10:02,887 และถามทางไปลานกลางเมืองที่ดีที่สุด 226 00:10:02,887 --> 00:10:04,187 มันเจ๋งมากครับ 227 00:10:04,187 --> 00:10:06,473 สิ่งที่สวยงามสำหรับการสนทนาในห้องน้ำ 228 00:10:06,473 --> 00:10:10,879 คือมันอนุญาตให้คุณพบอะไรก็ตาม ที่มาเติมช่องว่างในความรู้ของคุณ 229 00:10:10,879 --> 00:10:14,099 เพราะว่าคุณมีการสนทนาจากทั้งสองฝั่ง 230 00:10:14,099 --> 00:10:18,242 ยกตัวอย่างเช่น มันง่ายที่จะถามทาง แล้วการตอบรับล่ะ 231 00:10:18,242 --> 00:10:20,415 หรือที่ยิ่งไปกว่านั้น การบอกทางล่ะ 232 00:10:20,415 --> 00:10:24,510 ครับ การสนทนาในห้องน้ำ บังคับให้คุณเป็นทั้งสองฝั่งสนทนา 233 00:10:24,510 --> 00:10:27,204 และคุณก็ไม่ต้องไปพูดในห้องน้ำก็ได้ 234 00:10:27,204 --> 00:10:30,105 สิ่งที่สวยงามอีกอย่างหนึ่งคือ คุณจะไปใช้ที่ไหนก็ได้ 235 00:10:30,105 --> 00:10:32,501 คุณสามารถพูดในห้องน้ำ ในอพาร์ทเมนต์ 236 00:10:32,501 --> 00:10:35,457 ขณะที่เดินไปตามถนน ในรถใต้ดิน 237 00:10:35,457 --> 00:10:38,003 และเอาจริง ๆ นะ ถ้าคุณอยู่ในรถใต้ดิน 238 00:10:38,003 --> 00:10:40,661 พูดกับตัวเองในภาษาต่างชาติในนิวยอร์ค 239 00:10:40,661 --> 00:10:42,022 คุณจะดูเหมาะเจาะมาก 240 00:10:42,025 --> 00:10:43,662 คุณจะไม่เป็นไรหรอกครับ 241 00:10:43,662 --> 00:10:44,916 มันเจ๋ง 242 00:10:44,916 --> 00:10:49,230 เพราะว่าคุณไม่ต้องไปพึ่งอะไรหรือใคร ให้มาช่วยคุณฝึกฝน 243 00:10:49,230 --> 00:10:51,084 และผมก็ทำมันมาหลายปีแล้ว 244 00:10:51,084 --> 00:10:54,009 แถมผมพบว่านักกีฬามืออาชีพ ก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน 245 00:10:54,009 --> 00:10:58,293 เป็นที่รู้กันว่า ไมเคิล เฟลฟส์ นึกถึงภาพทุกการแข่งขันของเขา 246 00:10:58,293 --> 00:11:01,487 สองสามรอบ ก่อนที่จะโดดลงน้ำ 247 00:11:01,487 --> 00:11:02,932 มันได้ผลสำหรับเขา 248 00:11:02,932 --> 00:11:04,936 และมันได้ผลกับผมเช่นกัน 249 00:11:04,936 --> 00:11:07,648 ฉะนั้นมันก็น่าจะได้ผลกับคุณด้วย 250 00:11:07,648 --> 00:11:10,961 และตอนนี้ ลองมาใช้ภาษากัน 251 00:11:10,961 --> 00:11:12,681 เพราะว่า ถึงตอนนี้ มันเจ๋งครับ 252 00:11:12,681 --> 00:11:14,831 เราได้พบว่าเราทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร 253 00:11:14,831 --> 00:11:18,303 และนั่นก็นำเราไปยังจุดที่ดี ในการใช้ภาษา 254 00:11:18,303 --> 00:11:22,477 และเพื่อสิ่งนั้นผมก็ขอแนะนำ ให้คุณหาเพื่อนคุย 255 00:11:22,477 --> 00:11:24,601 ในการหาเพื่อนคุย 256 00:11:24,601 --> 00:11:29,495 ผมแนะนำให้คุณทำตามในสิ่งที่ผมเรียกว่า "สูตรเพื่อน" 257 00:11:29,495 --> 00:11:31,942 เป็นวิธีที่คุณจะมั่นใจได้ว่า 258 00:11:31,942 --> 00:11:37,228 สิ่งจูงใจของคุณจะสอดคล้องกับการใช้ภาษาใหม่ของคุณ 259 00:11:37,228 --> 00:11:38,593 ฉะนั้น 260 00:11:38,593 --> 00:11:42,918 ภาษาเป้าหมาย ควรเป็นภาษาที่คุณทั้งสองรู้ดีที่สุด 261 00:11:42,918 --> 00:11:44,074 ทำไมน่ะหรือ 262 00:11:44,074 --> 00:11:45,921 ถ้าคุณเป็นเหมือนผมสักนิด 263 00:11:45,921 --> 00:11:47,781 คือคุณชอบเรียนภาษาแล้วล่ะก็ 264 00:11:47,781 --> 00:11:50,721 เพื่อที่คุณจะสามารถสื่อสาร กับคนได้มากมาย 265 00:11:50,721 --> 00:11:52,183 เพื่อที่คุณจะได้เข้าถึง 266 00:11:52,183 --> 00:11:56,098 และเข้าใจได้มากขึ้นอีกนิด 267 00:11:56,098 --> 00:11:59,862 ถ้าคุณพยายามที่จะพูดกับใครสักคน ในภาษาต่างชาติ 268 00:11:59,862 --> 00:12:03,246 ซึ่งพวกคุณทั้งคู่ไม่ได้ถนัด เหมือนกับตอนที่กำลังพูดภาษาอังกฤษ 269 00:12:03,246 --> 00:12:06,556 หรือภาษาอะไรก็ตาม ที่คุณรู้สึกมั่นใจในการใช้ทั้งคู่ 270 00:12:06,556 --> 00:12:10,097 เป็นไปได้ว่าคุณจะกลับมายังภาษาที่ง่ายกว่า 271 00:12:10,097 --> 00:12:13,489 ฉะนั้น ผมแนะนำให้คุณหาใครสักคน ที่ใช้ภาษาเดียวกันกับที่คุณรู้เป็นอย่างดี 272 00:12:13,489 --> 00:12:15,311 เป็นภาษาเป้าหมายของคุณ 273 00:12:15,311 --> 00:12:18,028 และถ้าคุณไม่พบคนท้องถิ่น ก็ลองพึ่งเทคโนโลยีดู 274 00:12:18,028 --> 00:12:21,475 ถ้าคุณสามารถเดินทางไปได้ ก็จะยอดเยี่มที่สุด 275 00:12:21,475 --> 00:12:24,007 แต่นั่นก็เป็นปัญหาอยู่เหมือนกัน และผมพบว่า 276 00:12:24,007 --> 00:12:27,749 เป็นการยากที่จะหาใครสักคน ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทุกประการ 277 00:12:27,749 --> 00:12:29,473 แต่ผมมีข่าวดี 278 00:12:29,473 --> 00:12:32,317 และผมก็พบว่าเมื่อผมทำงาน 279 00:12:32,317 --> 00:12:34,697 และหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของผม ซึ่งเป็นนักภาษาศาสตร์เช่นกัน 280 00:12:34,697 --> 00:12:37,217 เขาพูดภาษาได้มากมายหลายภาษา 281 00:12:37,217 --> 00:12:41,349 และภาษาที่เราทั้งสองรู้ดีที่สุด แน่นอน มันคือภาษาอังกฤษ 282 00:12:41,349 --> 00:12:44,928 ภาษาที่สองที่ดีที่สุดของเรา แน่นอน มันคือภาษาฝรั่งศส 283 00:12:44,928 --> 00:12:49,947 แต่เราพูดภาษาเยอรมันกันตลอดเวลา ในสำนักงาน 284 00:12:49,947 --> 00:12:51,726 ทำไมน่ะหรือครับ 285 00:12:51,726 --> 00:12:54,930 เพราะว่ามีคนในสำนักงานที่พูดภาษาอังกฤษ 286 00:12:54,930 --> 00:12:57,454 มีคนในสำนักงานที่พูดภาษาฝรั่งเศส 287 00:12:57,454 --> 00:13:00,879 แต่เราสามารถพูดถึงคืนวันศุกร์และวันเสาร์ได้ ในภาษาเยอรมัน 288 00:13:00,879 --> 00:13:03,951 และไม่มีใครเข้าใจว่าเราพูดถึงอะไร 289 00:13:03,957 --> 00:13:07,651 ฉะนั้น มันอาจเป็นภาษาลับที่ดีที่สุด ที่คุณทั้งสองมีร่วมกัน 290 00:13:07,651 --> 00:13:09,318 (เสียงหัวเราะ) 291 00:13:09,318 --> 00:13:11,501 และมันก็กลายเป็นเครื่องมือที่สะดวกสบาย 292 00:13:11,501 --> 00:13:13,457 คุณสามารถใช้มันกับเพื่อน 293 00:13:13,457 --> 00:13:16,393 และได้ความเป็นส่วนตัวในที่สาธารณะ 294 00:13:16,393 --> 00:13:19,459 ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณสามารถมีการสนทนาส่วนตัวได้ 295 00:13:19,459 --> 00:13:21,144 เอาล่ะ มาทวนกัน 296 00:13:21,144 --> 00:13:22,651 เคล็ดลับแรก 297 00:13:22,651 --> 00:13:26,288 คุณต้องยอมให้ตัวคุณฝ่ากำแพงภาษาออกไป 298 00:13:26,288 --> 00:13:29,216 ไปสำรวจพรมแดนใหม่ ๆ 299 00:13:29,216 --> 00:13:31,940 ของเสียงและโครงสร้าง ภายนอกฐานข้อมูลของคุณ 300 00:13:31,940 --> 00:13:33,795 จากนั้น ลำดับที่สอง 301 00:13:33,795 --> 00:13:35,621 เราเรียนรู้ว่าจะจดบันทึกอย่างไร 302 00:13:35,621 --> 00:13:37,727 และจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าการจดบันทึกนั้น 303 00:13:37,727 --> 00:13:41,015 จะเป็นแบบที่เราสามารถเลียนเสียง และโครงสร้างได้ในภายหลัง 304 00:13:41,015 --> 00:13:44,905 จากนั้นเราสามารถจัดการกับความผิดพลาด โดยการหาสิ่งจูงใจ 305 00:13:44,905 --> 00:13:46,334 สี่: การฝึกฝน 306 00:13:46,334 --> 00:13:49,263 ลองการสนทนาในห้องน้ำ ไม่ว่าคุณจะอยู่ไหน 307 00:13:49,263 --> 00:13:51,504 และจากนั้น ทำตามสูตรเพื่อน 308 00:13:51,504 --> 00:13:54,684 และคุณจะสามารถหาใครสักคน มาฝึกภาษากับคุณได้ 309 00:13:54,684 --> 00:13:56,766 และหลังจากนั้น 310 00:13:56,766 --> 00:14:00,532 (ภาษาอิตาเลียน) เราไปถึงสถานที่สวยงาม 311 00:14:00,532 --> 00:14:02,562 (ภาษาเยอรมัน) ที่ซึ่งการเรียนภาษา 312 00:14:02,562 --> 00:14:06,642 ไม่เครียด ยาก และน่าเบื่ออีกต่อไป 313 00:14:06,642 --> 00:14:09,800 (ภาษาสเปน) แต่เป็นโลกแห่งโอกาส 314 00:14:09,800 --> 00:14:12,508 โลกที่เราแต่ละคนมีโอกาสสำรวจ 315 00:14:12,508 --> 00:14:17,326 (ภาษาฝรั่งเศส) วัฒนธรรมใหม่ และวิถีความเป็นอยู่ต่าง ๆ 316 00:14:17,326 --> 00:14:19,805 (ภาษาโปรตุเกส บราซิล) รางวัลอันยิ่งใหญ่ที่สุดจากสิ่งนี้ 317 00:14:19,805 --> 00:14:23,054 คือการได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น 318 00:14:23,054 --> 00:14:27,010 (ภาษากรีก) สำหรับตอนนี้ มันอาจฟังดูยากสำหรับคุณ 319 00:14:27,010 --> 00:14:31,676 แต่มันไม่ได้หมายความว่า คุณจะเรียนมันไม่ได้ 320 00:14:32,185 --> 00:14:34,514 (ภาษาจีนกลาง) "การเดินทางนับพันไมล์ 321 00:14:34,514 --> 00:14:35,932 เริ่มจากด้วยก้าวแรก" 322 00:14:35,932 --> 00:14:40,926 (ภาษาอังกฤษ) และนี่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่าตอนนี้คุณรู้แล้วว่าจะพูดอย่างไร 323 00:14:40,926 --> 00:14:42,270 ขอบคุณครับ 324 00:14:42,270 --> 00:14:45,059 (เสียงปรบมือ)