สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ กลับมาอีกครั้งนะคะในทุกวันพุธที่วิวจะนำเอา เสภาเรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน ฉบับหอพระสมุดเล่มนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ ยังพูดไม่คล่องเลยนะคะ เพิ่งจะ 5 ตอนเท่านั้นเอง แต่ว่าตอนนี้เราเริ่มเข้าจุดไคลแมกซ์ของเรื่องแล้วค่ะ เรียกได้ว่าตอนนี้เป็นตอนที่ค่อนข้างจะ 18+ แล้วก็เป็นตอนที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกับเนื้อเรื่องอยู่แล้วนะคะ แต่บอกเลยว่าถ้าไปอ่านละเอียด ๆ เนี่ย มันแซ่บกว่าที่เราเคยได้ยินได้ฟังมาหลายเท่าเลยทีเดียวค่ะ ดังนั้นนะคะ เดี๋ยวเราค่อย ๆ ไปฟังเรื่องราวนี้พร้อมกันดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามนะคะ ก่อนที่เราจะไปฟังเรื่องราวทั้งหลายต่อจากนี้เนี่ย อันนี้ขออนุญาตออกตัวนิดนึง เพราะรู้ว่าช่องเราเนี่ย เด็กดูค่อนข้างเยอะนะคะ น้อง ๆ คนไหนที่ได้ฟังเรื่องราวตอนนี้ จริง ๆ แล้วถ้าอายุยังไม่ถึง 18 ก็ยังไม่อยากให้ฟังเท่าไหร่นะ แต่ถ้าสมมติว่าจะฟังก็อยากให้รู้ไว้ว่า นี่เป็นแค่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวรรณกรรมนะคะ ไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องราวที่ถูก เป็นเรื่องราวที่ควร ก็เอาเป็นว่าเราอ่านเรื่องราวอะไรแล้ว เราต้องมีวิจารณญาณค่ะ ต้องพิจารณาว่าคนแต่งเขาแต่งเพื่อความบันเทิงรึเปล่า เขาแต่งเพื่อสอนว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีรึเปล่านะคะ ไม่ใช่ว่าอะไรที่อยู่ในวรรณคดีคือสิ่งที่ดี คือสิ่งที่ควรปฏิบัติตามทั้งหมดเนอะ เอาเป็นว่าเชื่อว่าน้อง ๆ ในช่องเราน่าจะเข้าใจค่ะ ดังนั้นนะคะ พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ ความเดิมจากตอนที่แล้วเนี่ยนะคะ พลายแก้วของเรา หรือว่าเณรแก้วของเราเนี่ย เจอนางพิมในงานเทศน์มหาชาติค่ะ แล้วก็รู้สึกว่า หลงรักมาก ๆ นะคะ ไม่รู้จะทำยังไงดี ความรักมันอั้นอยู่ในอก นอนก็ไม่หลับ กินก็ไม่ได้ นอนก็ไม่ได้ ฝั่งนางพิมก็แอบปิ๊ง ๆ กับพลายแก้วมาแล้วเล็กน้อยนะคะ ดังนั้นค่ะ ในวันรุ่งขึ้นพลายแก้วเนี่ยรู้สึกว่า ความรักมันแน่นอก จะต้องยกออก ฉันจะทำอะไรซักอย่างนึง ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อที่ฉันจะได้รู้ว่าเธอรักฉันเหมือนกันไหมนะคะ ดังนั้นเช้านั้นค่ะ แน่นอนว่าตอนนี้เณรแก้วยังเป็นเณรอยู่นะคะ ภารกิจในยามเช้าก็คือ ออกไปบิณฑบาตค่ะ ทีนี้ปกติเวลาบิณฑบาตเนี่ย เขาก็จะต้องบิณฑบาตแบบเดินไปเรื่อย ๆ ใช่ไหม เดินเจอบ้านไหน ใส่บ่งใส่บาตรก็เดินเก็บ ๆ ไปเรื่อย ๆ เป็น route ใช่ไหมคะ แล้วก็วนกลับมาที่วัดค่ะ แต่เณรแก้วของเราเนี่ย ตอนนี้ใจมันไม่ได้อยู่กับ การบิณฑบาตกับการบวชอะไรทั้งสิ้นแล้วค่ะ ดังนั้นนะคะ ตื่นเช้ามาค่ะ เณรแก้วคว้าบาตรหมับเลยแล้วก็ รีบออกไปบิณฑบาตนะคะ แต่ว่าเดินไปใน route ที่แบบ ไม่สนใจเลยว่าใครจะมาใส่บาตรอะไรฉันหรือว่าอยู่ตรงไหน ปกติเขาก็ต้องบิณฑบาตรอบ ๆ วัดตัวเองอะไรใช่ไหม เณรแก้วคว้าบาตรค่ะ แล้วก็เดินดุ่ม ๆ ข้ามเมืองไปเลยค่ะ ข้ามไปที่บ้านของนางพิมนะคะ แล้วก็ไปยืนรอรับบาตรอยู่ ยืนเรียบร้อย ยืนแบบ ใส่บาตรได้ ฉันเป็นผู้ทรงศีล ประมาณนั้นเลยนะคะ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าในทุกวันมีคนคนนึงที่เป็นคนใจบุญมาก ๆ แล้วก็ตักบาตรทุกวันนะคะ นั่นก็คือ นางพิมนั่นเอง ปกตินางพิมจะออกมาตักบาตรกับนางสายทองอะนะ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของตัวเองค่ะ วันนี้นางพิมก็ทำเหมือนปกติ ก็เตรียมขงเตรียมของอะไร เตรียมจะไปตักบาตรนะคะ ปรากฏว่าเดินออกจากบ้านมาค่ะ นึกสภาพบ้านเรือนไทยแต่ก่อน มันก็จะต้องเป็นเรือนใช่ไหม มีบันไดลงมา นางพิมยืนอยู่ข้างบนค่ะ มองลงมาจากบันไดเห็นละ โอ้โห นั่นมันเณรแก้วนี่หว่า เณรที่เราเจอเมื่อวาน อุ๊ยตาย ๆ เขิน ๆ ๆ นะคะ ประกอบกับเณรแก้วเงยหน้าขึ้นมาเจอนางพิมมาแล้ว เณรแก้วก็จัดการเสกคาถามหาระรวยทันทีค่ะ เสกคาถา บริกรรมคาถาอะไรต่าง ๆ เล่นเอานางพิมนะคะ เขินบิดค่ะ ประมาณว่าแบบ โอ๊ย ตายแล้ว ตอนแรกเนี่ยนะคะ เขินบิดจังหวะแรกก็คือ รีบคว้าข้าวของต่าง ๆ ค่ะ จะลงไปหาเณรแก้ว จะไปตักบาตรกับเณรแก้วนะคะ แต่ลงไปได้ประมาณครึ่งทาง ก็แบบ ฉันเป็นผู้หญิง ฉันเขิน ฉันเขินมากนะคะ ดังนั้นนางพิมก็เลยเอาของทุกอย่างโยนใส่มือสายทองค่ะ พี่ พี่ไปตักบาตรไป วันนี้ฉันไม่พร้อม ฉันไม่อยากลงไป ว่าแล้วนะคะนางพิมก็สะบัดก้นค่ะ แล้วก็กลับขึ้นบ้านไปเลย ไปแอบมองอยู่นะคะ ไปเกาะฝาบ้านดูประมาณว่าแบบ เป็นยังไงน้า ให้นางสายทองลงไปแล้วจะเป็นยังไงน้า แล้วรู้ไหมคะว่านางสายทองลงไปแล้วเป็นยังไง นางสายทองนะคะ ลงไปจะไปใส่บาตรเณรแก้วค่ะ ปรากฏลงไปเนี่ย ไม่ได้ลงไปใส่บาตรอย่างเดียวค่ะ มือเนี่ยใส่บาตร แต่ปากเนี่ยคุยกันไปคุยกันมา เณรแก้วนี่ก็มีความแบบว่า นี่ สีกาพี่ รู้ไหมว่าฉันรีบเดินทางมาบ้านนี้บ้านเดียวเลยน้า เพราะว่าอยากเจอทั้งนางพิมทั้งสีกาพี่เนี่ย เณรเนี่ยอยากรู้มากว่าสีกาเป็นอะไรกัน คือวันก่อนเนี่ยนะ เสียใจมากจริง ๆ น้อยใจมากจริง ๆ ที่ตั้งใจมาเนี่ยนะ จริง ๆ ไม่ได้จะมาลวนลามหรืออะไรนะ เณรน่ะอยากรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นในวันเทศน์มหาชาติ เณรอุตส่าห์ตั้งใจเทศน์ อยู่ดี ๆ เจ้าของกัณฑ์ก็ลุกสะบัดก้น แล้วก็เดินออกไปซะอย่างนั้นเลย เณรเสียใจน้า ไม่อยู่ฟังจนจบอะ มีความแบบตัดพ้อนะคะ นางสายทองก็แบบ อ๋อ มันไม่มีอะไร อะไรต่าง ๆ ก็พยายามงอนง้อกันไป งอนง้อกันมานะคะ สุดท้ายสายทองก็เลยแอบนัดกับเณรแก้วนะคะบอกว่า อะ ๆ เอาอย่างนี้ละกัน เดี๋ยวตอนบ่ายนะ หลังเพล ลองกลับมาตรงท่าน้ำละกัน ฉันจะพานางพิมลงไปอาบน้ำ เดี๋ยวค่อยไปให้คุยกันตอนนั้นนะ ตอนนี้มันอยู่หน้าบ้าน ใครเดินผ่านไปผ่านมาเห็นหมด ฉันไปละ ไปละ ไปละ ว่าแล้วนะคะ เณรแก้วก็เดินจากไปค่ะ สายทองก็ขึ้นบ้าน แน่นอนว่าขึ้นบ้านไป นางพิมด่าเปิงเลยนะคะประมาณว่าแบบ พี่สายทอง ไหนไปแอบคุยอะไรกัน บอกมาซิ ไปปากมุบมิบ ๆ กันอยู่ตรงนั้น อะไรมาคุยกับเณร ไหนบอกมาให้หมด สารภาพมา ไปแอบยืนคุยอะไรกับผู้ชายข้างล่าง เกี่ยวกับฉันรึเปล่านะคะ ซึ่งสายทองก็ไม่บอกนะคะ สายทองก็บอกว่า ไม่เอา ไม่บอก บอกไม่ได้ น่า ไม่เอา อย่าถามเลย อย่าถาม ฉันก็ไม่ได้คุยอะไร ก็ใส่บงใส่บาตรธรรมดา เณรเขาก็ถามสารทุกข์สุขดิบน่ะ ไม่ได้มีอะไรหรอก พี่สายทองนี่ก็มีความกั๊กนะคะ คือกั๊กเอาไว้ ดังนั้นค่ะ นางพิมก็เลยงอนนะคะ งอนสายทองสะบัดเลยประมาณว่าแบบ ฮึ พี่ไม่บอกก็ไม่บอก ฉันไม่คุยด้วยก็ได้นะคะ พอนางพิมงอนนะคะก็ไม่คุยกับสายทองค่ะ ปรากฏว่าพอถึงเวลาบ่ายเนี่ย สายทองก็รู้สึกว่าแบบ ลุกลี้ลุกลนและประมาณว่า เอ่า ใกล้ได้เวลานัดและ ฉันต้องพานางพิมลงไปอาบน้ำ ทำยังไงดีนะ สายทองนะคะก็เลยไปชวนนางพิมค่ะบอกว่า นางพิม บ่ายแล้วนะน้อง น้องพิมจ๋า ไปอาบน้ำกันเถอะ นะคะ ซึ่งนางพิมก็ยังมีความงอนสายทองอยู่ไงก็เลยบอกว่า ไม่ไป พี่จะไปก็ไปคนเดียว รู้นะว่านัดผู้ชายไว้ ฉันไม่ไปหรอก ไปจีบกันมาใช่ไหมล่ะ เขาจีบพี่ใช่ไหม ฮึ คือนางพิมเนี่ยแอบงอนเล็ก ๆ เพราะว่าเข้าใจว่า เณรแก้วจีบสายทอง ไม่ได้จีบตัวเองด้วยไง ดังนั้นก็มีความงอนอะไรต่าง ๆ นะคะ สุดท้ายค่ะสายทองก็เลยต้องลงไปอาบน้ำคนเดียวนะคะ ซึ่งพอสายทองลงไปอาบน้ำเนี่ยนะคะ แน่นอนว่าเณรแก้วก็จะต้อง มาดักรออยู่ตรงนั้นแล้วค่ะ เณรแก้วก็มีความแบบไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้ค่ะ แล้วก็เอาดินโยนออกไป ปิ้ว ๆ ประมาณนั้นนะคะ โยนออกไปเนี่ยเพื่อจะเรียกสายทองว่า อยู่นี่จ้า อยู่นี่จ้า สายทองซึ่งอาบน้ำไปอาบน้ำมา มองหาเณรแก้วอยู่แล้วนะคะ ก็เลยเดินมาคุยด้วยค่ะ เนื้อหาที่คุยเนี่ยหลัก ๆ ก็ประมาณว่า ช่วยจีบนางพิมให้หน่อยเถอะ ได้โปรด เดี๋ยวอยากได้อะไรได้หมดเลยจ้า เณรแก้วก็เฉลยว่า เนี่ย จริง ๆ แล้วนะสีกาพี่ ฉันเนี่ยหลงรักนางพิมมาตั้งนานแล้ว รู้ไหมว่าจริง ๆ ตัวเนี่ยอยู่ไกลไปถึงกาญจนบุรี แต่ว่าหลงรักนางพิม ก็เลยต้องไปขอให้แม่นะพาไปบวช แล้วก็รีบมาที่สุพรรณนี่แหละ แล้วเห็นไหมว่ามาถึงเนี่ยก็พยายามจะทำตัวให้ได้เจอ ในวันเทศน์อุตส่าห์เจอก็มาสะบัดก้นหนีกัน วันนี้ก็เห็นไหม อุตส่าห์รีบเดินทางมา ตั้งใจจะมาคุยกับนางพิมซะหน่อย หลงรักมาตั้งแต่เด็กแล้ว ทำไมถึงหนีหน้ากันอีกล่ะ น่ะ มีความแต่งเรื่องต่าง ๆ นานานะคะ ตัวเองไม่ได้หลงรักนางพิมอะไรเลย ตอนที่บวชนี่คืออยากได้วิชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนางพิม ลืมนางพิมไปแล้ว เพิ่งจะมาเจอกันแล้วจำได้นะคะ ความมารยาร้อยเล่มเกวียนของพลายแก้วนี่ก็ สุดจริง ๆ นะคะทุกคน อย่างไรก็ตามค่ะ สายทองก็มีความแบบ แหน่ะ จะมาทำอะไร จะให้ฉันมาเป็นแม่สื่อเหรอ เป็นแม่สื่อเดี๋ยวฉันก็ซวยหรอก ใครเขาให้เป็นแม่สื่อให้มาจีบสาวกัน อุ๊ ไม่ได้ ๆ ฉันเป็นพี่เลี้ยง ฉันต้องปกป้องน้องของฉัน ไม่ใช่ให้เธอมาจีบนะคะ แต่เณรแก้วก็มีความพยายามจะบุกต่อนะคะ โดยการพยายามติดสินบนสายทองค่ะ บอกว่า พี่ พี่สายทอง อยากได้เงินอยากได้ทองเท่าไหร่ ก็เรียกนางพิมมาคุยกับฉัน แล้วเดี๋ยวฉันให้ เดี๋ยวฉันจัดให้ทุกอย่างแหละ เท่านั้นยังไม่พอนะ พี่ พี่สายทองรู้ไหมว่าตัวพี่นี่จริง ๆ ก็สวยไม่แพ้กันเหมือนกันน้า สายทองก็มีความแบบ ฮะ อะไร เข้าตัวฉันได้ยังไง อะไร จะมาสนใจอะไรฉัน แต่ก็มีความชม้อยชม้ายตานะคะเพราะว่า เณรแก้วนี่ก็มีความแบบ เสกคาถามหาระรวยไปหลายตลบแล้วไง แน่นอนว่าสายทองก็ต้องโดนปลาย ๆ ไปด้วยแหละ เณรแก้วนะคะก็มีความแบบว่า แหม พี่สายทอง พี่เนี่ยถึงจะเป็นข้ารับใช้นะ แต่เจ้านายไปไหน พี่ก็ไปด้วย คือปกติต้องบอกว่าสายทองนี่เป็นทาสใช่ไหม ดังนั้นค่ะ เวลาที่อยู่ในบ้านเนี่ย สมมติว่าถ้าเณรแก้วเป็นเจ้านาย ถ้าได้แต่งงานกับนางพิมจริง สายทองก็จะกลายเป็นทาสของพลายแก้วด้วย ถูกต้องป้ะ ซึ่งสมัยก่อนการที่ยกทาสขึ้นมาเป็นเมียเนี่ย ถือว่าเป็นเกียรติยศนะคะ ถือว่าเป็นแบบว่าได้เลื่อนตำแหน่งไง จากที่เป็นทาสธรรมดาก็ได้ขึ้นมาเป็นเมียทาสนะคะ ก็จะได้ทำงานอะไรต่าง ๆ น้อยลง ถ้าใครนึกไม่ออกให้ไปดูเรื่องนางทาสนะคะ ที่มีความแบบเฆี่ยนหลังอีเย็น ประมาณนั้นเลยค่ะ ดังนั้นนะคะ สายทองก็มีความแบบหูผึ่งประมาณว่า อะไร อะไร จะมาจีบอะไรฉัน จะจีบเจ้านายฉัน เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย เณรแก้วนะคะก็มีความปากหวานต่อประมาณว่า แหม พี่เองก็สวยไม่ใช่เล่นน้า ถ้าสมมตินะว่าฉันได้กับนางพิมขึ้นมาจริง แล้วพี่ต้องมาเป็นทาสฉันจริง ๆ เนี่ย ฉันเลี้ยงพี่อย่างดีแน่นอน เลี้ยงเท่านางพิมเลย ดีไหม ๆ พี่เองก็เป็นผู้มีพระคุณกับฉันไง อะ เงินทองก็จะให้ อะไรก็จะให้ จีบนางพิมให้ฉันหน่อย ช่วยฉันหน่อยเถอะ ฉันรักนางพิมมากนะคะ ซึ่งสุดท้ายเนี่ยสายทองก็ยอมนะคะ ประมาณว่า อะ ได้เลย เต็มที่เลยจ้า เดี๋ยวฉันจัดให้ เดี๋ยวฉันจะเป็นแม่สื่อให้นะ สุดท้ายเนื้อหาก็คือสายทองเนี่ย ยอมเป็นแม่สื่อให้กับเณรแก้วค่ะ เพราะว่า เณรแก้วเนี่ยเอาทั้งเงินมาล่อ เอาทั้งตำแหน่งเมียมาล่ออะไรต่าง ๆ ประมาณว่า เดี๋ยวจะเลี้ยงให้สายทองเทียบเท่ากับนางพิมนะคะ และแล้วนะคะ ในที่สุดหลังจากที่ ตกลงผลประโยชน์อะไรกันได้เสร็จเรียบร้อยค่ะ เณรแก้วก็กลับวัดไปนะคะ ทิ้งให้สายทองไปทำภารกิจค่ะ โดยการไป กล่อมนางพิมนั่นเอง ซึ่งต้องบอกว่า ตอนแรกเนี่ยนะคะ นางพิมเนี่ยก็ จริง ๆ ก็หลงรักเณรแก้วแล้วแหละ เพราะว่าโดนคาถามหาระรวยอะไรต่าง ๆ ไปนะ แต่นางพิมเนี่ยมีความที่เป็นผู้ดีค่อนข้างจะมากนะ แล้วก็รู้สึกว่าแบบเฮ้ย เรื่องอย่างนี้มันไม่โอเค ฉันควรจะรักนวลสงวนตัวอะไรต่าง ๆ ชอบจริงก็มาสู่ขอกับพ่อแม่สิ จะมาจีบอะไรอย่างนี้ไม่ได้ สมัยนี้ นี่มันยุคอยุธยาเธอ ไม่ใช่ยุคปี 2020 จะมาจงมาจีบฉันไม่ได้นะคะ ดังนั้นแม้ว่านางสายทองจะพยายามกล่อมขนาดไหน ประมาณว่า นี่ มันมีคนหลงรักเธออยู่น้า แต่เธอคงดูไม่ออก อะไรอย่างนี้ นางพิมก็ไม่สนใจค่ะ นางพิมก็บอกว่า ไม่ ฉันไม่เอา ไม่สนใจ ไม่ฟัง อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันจะไปนอนแล้ว พี่สายทองอย่ามายุ่ง นางพิมก็ไปนอนนะคะ ซึ่งแน่นอนว่าปกติสายทองก็จะต้องกล่อมค่ะ ปกติก็ร้องเพลงกล่อม ปกติก็แบบเอ่เอ๊ โอละเห่อะไรต่าง ๆ นะคะ แต่วันนี้ค่ะ สายทองร้องเป็นเพลงนะคะประมาณว่า แอบหลงรักเธออยู่แต่เธอคงดูไม่ออก รู้ไหมมีเณรคนนึงที่เขาหลงรักเธออยู่นะ ก็แต่งกันเป็นเพลง ร้องไปมีเรื่องเณรมาแอบสบตาอะไรต่าง ๆ นะคะ จนนางพิมเนี่ยทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมาคุยด้วยค่ะ ทั้งคู่ก็มีความเจรจาตกลงอะไรกันต่าง ๆ นะคะ ซึ่งนางพิมก็แบบไม่เอา พี่จะบ้าเหรอ พี่จะมาเป็นแม่สื่อได้ยังไง จริง ๆ พี่อยากได้เองน่ะสิ มาสนใจอะไรฉัน เขาให้เงินพี่เท่าไหร่ ฮะ ซึ่งสายทองนะคะก็พยายามจะบอกว่า ไม่ ๆ ๆ ๆ เขาไม่ได้ให้อะไรพี่ พี่อยากให้น้องได้อะไรดี ๆ น้องเข้าใจไหมว่าตอนนี้น้องอยู่กับแม่ ซึ่งแม่ก็แก่แล้ว ถ้าสมมติว่าแม่เป็นอะไรไป น้องเป็นผู้หญิงคนเดียว น้องจะโดนรังแก น้องควรจะมีผัวได้แล้ว พี่ก็เห็นว่ามีผู้ชายดี ๆ พี่ก็เลยพยายามจะเอามาแนะนำให้น้องไง ซึ่งตอนนั้นนางพิมเนี่ยก็ยังไม่ตกลงนะคะ นางพิมก็บอกว่า อะไร แม่ฉันยังอยู่ สมมติว่าฉันอยากมีผัว แม่ก็ต้องเป็นคนหาให้ ชอบจริงก็ให้เขาไปสู่ขอกับแม่นู่น หรือว่าถ้าสมมติว่าแม่ตายไป ฉันก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น ฉันก็พยายามหาทางไปต่อได้ ถึงเวลานั้นฉันค่อยคิดว่าจะทำยังไง แม่ฉันก็ยังดูแข็งแรงอยู่ น่าจะอยู่ได้อีกหลายปี จะมาพูดอะไรตอนนี้นะคะ แต่อย่างไรก็ตามค่ะ สุดท้าย สายทองนี่ก็กล่อม ๆ ๆ นะคะ กล่อมจนนางพิมเนี่ย ยอมค่ะ ประมาณว่า ก็ไปเล่าเรื่องชักแม่น้ำทั้งห้ามาว่า โห เนี่ยนะ ไม่รู้เหรอว่าพลายแก้วเนี่ยเขารักเธอนะ เขาอุตส่าห์มาจากกาญจนบุรี แล้วเขาก็ดิ้นพล่าน ๆ ๆ ๆ เอาเป็นว่าถ้าไม่ชอบเขา พรุ่งนี้ก็ลงไปปฏิเสธเองแล้วกันตอนใส่บาตรนะคะ อื้อหือ เล่าไปรู้สึกบาปไปเลยทุกคน หลังจากที่สายทองพยายามจะพูดอะไรต่าง ๆ นานานะคะ ให้นางพิมยอมเนี่ย นางพิมก็เอาแต่ปัด ๆ ๆ ๆ ประมาณว่าเขิน ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา จริง ๆ ข้างในนี่เอาแน่นอนแล้วนะคะ แต่ว่าอย่างไรก็ตามค่ะ สุดท้ายสายทองก็เลยบอกว่า อะ เอาอย่างนี้ละกัน ถ้าอยากปฏิเสธนะ พรุ่งนี้ตอนใส่บาตรก็ลงไปปฏิเสธกันเองแล้วกัน ฉันไม่เกี่ยว ฉันไม่รู้เรื่องค่ะ สุดท้ายนะคะ วันรุ่งขึ้นนางพิมก็จำเป็นจะต้อง ลงไปใส่บาตรกับเณรแก้วค่ะ ซึ่งแน่นอนนะคะว่าลงไปก็คือเสร็จ เพราะว่าเณรแก้วก็จัดคาถามหาระรวยให้ชุดใหญ่ค่ะ อย่างไรก็ตามนะคะแอบบอกว่า นางพิมถึงจะบอกว่าไม่เอา ๆ นะคะแต่ว่าตอนจะลงไปเนี่ย แอบจัดหมากจัดพลูอะไรเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจริง ๆ เขาไม่ได้เอาใส่บาตรกันนะคะ เขาเอาไว้จีบกัน แอบใส่ไว้อะไร แล้วลงไปนี่ก็เขิน เรียกได้ว่า มั่วไปหมดค่ะ ตักบาตรนี่คือเอาข้าวเทใส่บาตร เอาปลาเทใส่บาตร เอาบุหรี่ยัดลงไปด้วยแล้วก็ เอาพลูยัดลงไปด้วย เรียกได้ว่ามั่วไปหมดเลยค่ะ ซึ่งพอนางพิมตักบาตรอย่างรวดเร็วนะคะ แล้วก็เขินสะบัดก้นไปเนี่ย สายทองก็มีความทวงเงินเณรแก้วนิดนึงประมาณว่า เฮ้ย เห็นเปล่า นัดสาวลงมาให้แล้ว ไหนเงินฉัน ๆ ซึ่งเณรแก้วก็บอกว่า เดี๋ยวก่อน ยังไม่ได้สำเร็จอะไรเลย จะมาทวงเงินอะไรตอนนี้ ทั้งสองคนนะคะก็เลยนัดกันค่ะประมาณว่า เดี๋ยวตอนบ่าย นางพิมจะไปเก็บฝ้ายที่ไร่ฝ้าย เจอกันนะจ๊ะ ซึ่งเณรแก้วค่ะก็รีบกลับวัดไปนะคะ ไปถึงเนี่ยก็ไปที่โบสถ์ค่ะ ไปหาคนนึงค่ะชื่อว่า ชีต้น อะ ฟังถึงชีต้น หลายคนนึกถึงแม่ชีนะคะ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ คำว่า ชี เนี่ย หมายถึงพระนะคะสมัยก่อน เหมือนคำว่าชีเปลือย ก็แปลว่าพระที่โป๊นั่นแหละค่ะ ซึ่งชีต้นคนนี้ก็เป็นเหมือนกับ คนที่สนิทกับเณรแก้วอะไรอย่างนี้นะคะ เณรแก้วไปถึงก็บอกว่า ชีต้น ชีต้น เณรเนี่ยอยากจะสึกไปซักวันนึง เดี๋ยวกลับมาบวชใหม่ ชีต้นสึกให้เณรได้ไหม แล้วเดี๋ยวเณรกลับมาแล้วบวชให้เณรด้วยนะ อย่าบอกสมภารเด็ดขาด คือเณรมีภารกิจจริง ๆ นะคะ ซึ่งชีต้นค่ะก็บอกว่า ได้ ๆ ๆ แต่ว่าน้า ออกนอกวัดไปทำธุระเนี่ย ก่อนกลับมาซื้อหมากซื้อพลูมาให้อาตมาด้วยน้า ก็ฝากซื้อของกันไปซะอย่างนั้นนะคะ เณรแก้วก็เลยสึกออกมาเป็นพลายแก้วนะคะแล้วก็ รีบเดินทางไปที่ไร่ฝ้ายค่ะ ประกอบกับตอนนั้นเนี่ย ฝั่งนางพิมกับนางสายทองนี่ก็ หาเรื่องไปคุยกับแม่นางพิมนะคะประมาณว่า นี่ แม่ เดี๋ยววันนี้ลูกเนี่ยนะจะไปตรวจไร่ฝ้ายด้วยตัวเอง คือบ้านนางพิมเป็นเจ้าของไร่ฝ้ายนะคะ ซึ่งเขาก็เอามา ทำผลิตภัณฑ์อะไรต่าง ๆ ค่ะ นางพิมก็ไปใส่ไฟกับแม่ประมาณว่า วันนี้ลูกจะไปตรวจกิจการด้วยตัวเอง เพราะว่าลูกคิดว่านะ เราไม่เคยออกไปตรวจกิจการเลย พวกบ่าวไพร่ของเราเนี่ยจะต้องขโมยเก็บฝ้ายนะ เอาไปทำนู่นทำนี่ เอาไปแอบขายเองแน่ ๆ วันนี้ลูกจะเป็นคนดี ลูกจะไปตรวจกิจการให้ ซึ่งแม่นะคะได้ยินอย่างนั้นก็อาละวาดใหญ่เลยประมาณว่า ไล่ด่าบ่าวไพร่นะคะ แกหน้าไหนขโมยของฉัน อะไรต่าง ๆ นางพิมกับสายทองก็อาศัยจังหวะนี้แหละ จังหวะที่ทุกคนกำลังมึน ๆ เนี่ยนะคะ รีบเดินทางไปที่ไร่ฝ้ายค่ะ เมื่อไปถึงนะคะ ก็พบว่าพลายแก้วนั่งรออยู่แล้วนะคะ ไปหาสุมทุมพุ่มไม้อยู่ได้พุ่มนึง เป็นพุ่มที่แบบว่า มองมาจากด้านนอกไม่เห็นนะคะ สายทองก็ส่งให้นางพิมเข้าไปคุยกับพลายแก้วค่ะ ซึ่งพอเข้าไปถึงเนี่ยนะคะ ทั้งคู่ก็มีความจีบกันอะไรต่าง ๆ นะคะ พลายแก้วก็จัดเต็มค่ะ ประมาณว่าแบบ ว่าไงจ๊ะน้องสาว พี่เนี่ยชอบน้องสาวมากก็เลยมานะ ตั้งใจจะมาคุยด้วย จริง ๆ ตัวเองก็เขินนะคะ เพราะว่าไม่เคยจีบสาวมาก่อน ต้องบอกว่านางพิมนี่เป็น ผู้หญิงคนแรกในชีวิตของพลายแก้วนะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ ก็ทำใจดีสู้เสือเพราะว่า ก็ชอบเขาอะ ถ้าไม่จีบจะได้ไหม คือแบบเกตป้ะ คือชอบก็ต้องจีบ ถ้าไม่จีบก็อดนะคะ สุดท้ายค่ะนางพิมก็พยายามจะพูดปัดต่าง ๆ ประมาณว่า นี่ ถ้าชอบฉันจริงก็ให้แม่มาสู่ขอ มาอะไรอย่างนี้ มาคุยกันอย่างนี้ ฉันไม่โอเคนะ นี่ แล้วจริง ๆ ตั้งใจจะมาหาฉันเหรอ ถ้าจะหาพี่สายทอง นู่น ๆ อยู่พุ่มไม้นู้น ไปตรงนู้นนะคะ ก็ปัดอะไรไปต่าง ๆ นานา พลายแก้วก็พยายามจะแบบแต๊ะอั๋งนางพิมไปเรื่อย จับหน้า จับแก้ม จับนม อุ้มบ้างอะไรบ้าง นางพิมก็แบบอี๊ ออกไป ถ้าชอบจริงอย่ามาจีบฉัน ถ้าชอบจริงไปขอกับแม่ นี่ฉันเป็นผู้ดีนะรู้ไหม ผู้ดี ๆ เข้าใจไหม แต่เณรแก้วก็ไม่ฟังค่ะ ก็ทำท่าจะแบบ เกินเลยกับนางพิมไปจนแบบสุดทางว่าอย่างนั้นเถอะ แต่นางพิมนะคะก็ไม่ยอม สุดท้ายนางพิมก็เลยบอกว่า เอางี้ ๆ ถ้ามันห้ามไม่อยู่จริง ๆ เนี่ย สู้แรงก็ไม่ไหว ฉันเป็นลูกผู้ดี แล้วนี่ก็ครั้งแรกของฉัน จะให้ฉันมาแบบกลางไร่ฝ้ายก็ไม่ใช่เรื่องไหม ก็ไปตามห้องหับอะไรให้มันถูกต้องนิดนึงนะคะ ดังนั้นค่ะ ตอนแรกพลายแก้วก็ทำท่าจะไม่ยอมนะ แต่ว่าบังเอิญว่าข้ารับใช้คนอื่น ๆ ที่มาเก็บฝ้ายด้วย ทำท่าจะเดินมาทางนี้ค่ะ พลายแก้วก็เลยจำเป็นจะต้องยอมนะคะ แล้วก็บอกว่า อะได้ บอกให้ไปหาห้องหับใช่ไหม เดี๋ยวคืนนี้ไปหาถึงบ้านเลยจ้า ว่าแล้วนะคะพลายแก้วก็กลับไปค่ะ ฝั่งนางพิมนี่ใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ นะคะประมาณว่า อะไร นี่จะมาหาจริงเหรอ เธอจะมาหาจริงรึเปล่าแล้วก็ กลับบ้านไปนี่ก็ด่าสายทองเปิงเลยนะคะประมาณว่า นี่ อะไรพี่สายทอง นัดผู้ชายมาหาฉัน มาให้ลวนลามฉันเนี่ย ดูซิ อะไร ไม่โอเคเลย ฉันไม่ชอบแบบนี้ ไม่โอเคมาก ๆ นี่คอยดูนะ วันนี้ฉันจะปิดประตูห้องให้แน่นหนา เอากลอนลง เห็นไหมเอากลอนลง คืนนี้ฉันจะนอนถือมีดไว้ด้วย ใครเข้ามาทำอะไรฉันนะ ฉันเอามีดกะซวกพุงจริง ๆ ด้วย น่ะ ประมาณนั้นนะคะ แล้วก็ไล่สายทองออกจากห้องไปค่ะว่า คืนนี้ไม่ต้องมานอนด้วยกัน ฉันโกรธพี่อยู่ พี่ไปนอนห้องอื่นเลยไปนะคะ อย่างไรก็ตาม คืนนั้นค่ะนางพิมนอนฝันทั้งคืนเลยนะคะ เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำก็แบบ เอ๊ จะมาจริง ๆ รึเปล่าน้า จะมาหลอกฉันเล่น ๆ รึเปล่า อะไรต่าง ๆ นะคะ แต่ว่านางพิมก็ไม่เห็นพลายแก้วมาซักทีค่ะ ก็เลยเข้านอนไปนะคะแล้วก็ เข้านอนไปด้วยความรู้สึกที่ว่าแบบ ฉันโดนหลอก ฉันโดนหลอกแน่ ๆ เลย โดนหลอกแต๊ะอั๋งนะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ ฝั่งพลายแก้วถามว่ามาจริงไหม มาจริงค่ะ แต่ว่าพลายแก้วนี่ไม่ได้มาหัวค่ำ คือดูฤกษ์ดูยามอะไรแล้วคิดว่าควรจะมาหลังเที่ยงคืนนะคะ พลายแก้วก็บุกมาหลังเที่ยงคืนค่ะ แล้วก็เสกมนตร์สะกดอะไรต่าง ๆ ทำให้คนหลับทั้งบ้าน แล้วเท่านั้นยังไม่พอนะคะ กลอนประตูนี่คือกระเด้งหลุดหมดบ้านเลยค่ะ เพราะว่ามนตร์คาถาของพลายแก้วนะคะ พลายแก้วก็ปีนเข้าไปในห้องนางพิมค่ะ ไปถึงก็แต๊ะอั๋งก่อน ยังไม่ปลุกนะคะ มีความแต๊ะอั๋งอะไรต่าง ๆ นานา แล้วค่อยปลุกนางพิมขึ้นมาบอกว่า จ๊ะเอ๋ พี่มาแล้วจ้า คือตอนนี้นางพิมจะเขินก็ไม่ทันแล้ว เพราะว่าตัวเองคืออยู่ในมือพลายแก้วแล้วว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ นางพิมก็แบบทำอะไร ทำอะไรฉันนะคะ ก็มีความแบบว่าจู๋จี๋กันต่าง ๆ นานา เถียงบ้างอะไรบ้าง นางพิมก็เขินนะคะ แต่แน่นอนค่ะว่าถึงห้องขนาดนี้แล้ว ถามว่าจะรอดไหม ก็ต้องบอกว่า ไม่รอดนะคะ ทั้งคู่ก็มีความสุขด้วยกันไป ซึ่งหลังจากที่มีความสุขด้วยกันแล้วเนี่ย นางพิมก็ติดพลายแก้วแจเลยนะคะ ถึงขนาดที่ว่าตอนเช้าพลายแก้วจะกลับเนี่ย ก็มีความร้องห่มร้องไห้ประมาณว่า อะไร จะกลับแล้วเหรอ อย่างนี้จะโอเคเหรอ จะทิ้งฉันไปไหน ไปอยู่ที่วัดแล้วยังไง อะไรยังไงนะคะ แต่สุดท้ายพลายแก้วก็จำเป็นจะต้องกลับวัดไปค่ะ เพราะว่าเดี๋ยวคนจับได้ไง แล้วพอกลับวัดไปก็ให้ชีต้นเนี่ยบวชให้ตัวเอง กลับเป็นเณรอีกครั้งนึงค่ะ ซึ่งนี่ก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นนะคะ ต้องบอกว่าครั้งแรกที่หลาย ๆ คนเข้าใจว่า เณรแก้วได้นางพิมทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังเป็นเณรอยู่ ไม่ใช่นะคะ แต่ว่าเณรแก้วสึกออกมาค่ะ แม้ว่าจะสึกออกมาวันนึงก็ตาม แต่ก็... ก็สึกน่ะนะ อย่างไรก็ตามค่ะ เดี๋ยวเราไปดูกันที่สัปดาห์หน้าดีกว่า ว่าเรื่องราววุ่น ๆ นี้จะดำเนินเป็นยังไงต่อไปนะคะ แน่นอนว่าสัปดาห์หน้าจะแซ่บขึ้นกว่านี้ค่ะ สำหรับวันนี้ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืม กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ กดแชร์เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ เอาละ เนื่องจากวิวลืมอัดตอนจบคลิปอีกแล้วนะคะ ไม่เป็นไรค่ะ เราขออนุญาตใช้ช่วงเวลานี้ในการ ขายของนะคะ สิ่งที่วิวจะขายในวันนี้ก็คือวิวอยากจะบอกทุกคนว่า วิวมีอีกช่องทางนึงให้ทุกคนติดตามวิวเพิ่มเติมแล้วนะคะ จากช่องทางเดิมที่ทุกคนติดตามอยู่ นั่นก็คือช่องทาง Tiktok นั่นเอง มาแรงจริง ๆ นะคะ อย่าลืมเข้าไปติดตามได้ที่ @pointoofview นะคะ แต่ว่าตรง of มี o 2 ตัวนะ เหมือน Twitter เลย ไปดูสาระความรู้สนุก ๆ ที่จบภายใน 1 นาทีกันได้ค่ะ ป่ะ ใครติดตามแล้วก็ คอมเมนต์บอกกันด้านล่างได้ด้วยนะคะ วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ