0:00:07.176,0:00:12.117
ใน ค.ศ. 1985 นักวิจัยสามคน[br]ที่เดินทางสำรวจชีวิตโลมา

0:00:12.117,0:00:13.662
เกิดอาการเบื่อเล็กน้อย

0:00:13.662,0:00:16.913
เพื่อจะให้มีชีวิตชีวาขึ้น [br]คนหนึ่งแกล้งทำเป็นเทพโพไซดอน

0:00:16.913,0:00:21.565
โดยการวางพวงมาลัยสาหร่ายบนศีรษะของเขา[br]และโยนมันทิ้งลงไปในมหาสมุทร

0:00:21.565,0:00:27.193
หลังจากนั้น โลมาว่ายขึ้นมาบนผิวน้ำ[br]โดยมีสาหร่ายอยู่บนหัวของมัน

0:00:27.193,0:00:29.274
แน่นอน นี่อาจเป็นเรื่องบังเอิญ

0:00:29.274,0:00:35.255
แต่มันก็เป็นไปได้ว่าโลมากำลังเลียนแบบ[br]นักวิทยาศาสตร์อยู่

0:00:35.255,0:00:39.940
นั่นเพราะว่าโลมาคือหนึ่งในสายพันธุ์สัตว์[br]ที่ฉลาดที่สุดในโลก

0:00:39.940,0:00:42.990
แล้วพวกมันฉลาดแค่ไหนกันนะ

0:00:42.990,0:00:45.108
เหมือนกับวาฬและโลมาหัวบาตร

0:00:45.108,0:00:47.709
โลมาอยู่ในกลุ่ม[br]สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็นสัตว์น้ำ

0:00:47.709,0:00:52.540
ที่เรียกกันว่า ซีตาเชี่ยน (cetaceans)[br]ซึ่งประกอบรวมด้วยสัตว์ 86 สายพันธุ์

0:00:52.540,0:00:57.104
และมีส่วนเหมือนร่วมกันกับสัตว์เท้ากีบ

0:00:57.104,0:00:59.500
แต่เดิมพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม[br]ที่อยู่บนบก

0:00:59.500,0:01:04.160
สัตว์จำพวกซีตาเซี่ยนกลุ่มแรก ๆ [br]ย้ายลงมาอยู่ในน้ำเมื่อประมาณ 55 ล้านปีก่อน

0:01:04.198,0:01:06.791
เป็นนักล่าขนาดใหญ่ที่มีฟันแหลม

0:01:06.791,0:01:11.550
หลังจากนั้น อุณหภูมิมหาสมุทร[br]ที่มีการเปลี่ยนแปลงประมาณ 35 ล้านปีก่อน

0:01:11.550,0:01:14.568
ลดเหยื่อให้มีจำนวนน้อยลง

0:01:14.568,0:01:17.686
สัตว์จำพวกซีตาเซี่ยนกลุ่มหนึ่ง[br]ที่รอดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

0:01:17.686,0:01:22.103
ออดอนโทซีเทส (odontocetes) [br]มีขนาดเล็กลงและฟันที่แหลมน้อยลง

0:01:22.103,0:01:25.538
แต่มีสมองที่ใหญ่และซับซ้อนขึ้น

0:01:25.538,0:01:28.238
ซึ่งทำให้มีความสัมพันธ์ทางสังคมที่ซับซ้อน

0:01:28.238,0:01:31.893
เช่นเดียวกับ วิธีกำหนดระยะทางโดยเรดาร์[br]เพื่อการกำกับเส้นทางและการสื่อสาร

0:01:31.893,0:01:33.466
กระโดดข้ามมาถึงปัจจุบัน

0:01:33.466,0:01:38.227
และสมองโลมาปัจจุบันใหญ่มาก[br]จนความฉลาดของสมอง

0:01:38.227,0:01:41.566
ขนาดของสมองเปรียบเทียบกับ[br]ค่าเฉลี่ยของลำตัวมัน

0:01:41.566,0:01:43.855
เป็นที่สองรองจากมนุษย์เท่านั้น

0:01:43.855,0:01:46.603
โลมาวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอด

0:01:46.603,0:01:49.844
ผ่านความสามารถของมัน[br]เพื่อสร้างเครือข่ายสังคมที่ซับซ้อน

0:01:49.844,0:01:54.021
เพื่อล่า ไล่ศัตรู และเลี้ยงลูกด้วยกัน

0:01:54.021,0:01:56.728
ตัวอย่างเช่น โลมาฟลอริดากลุ่มหนึ่ง

0:01:56.728,0:02:01.023
รวมมือกันอย่างละเอียดซับซ้อนเพื่อล่าปลา

0:02:01.023,0:02:04.785
โลมาถูกกำหนดให้เป็นผู้สร้างตาข่าย[br]โดยการเตะดินโคลนขึ้นมา

0:02:04.785,0:02:06.647
ขณะที่อีกตัวหนึ่งให้สัญญาณ

0:02:06.647,0:02:12.075
ให้โลมาตัวอื่น ๆ เรียงแถวและจับปลา[br]ที่ว่ายน้ำหนีในเวลาเดียวกัน

0:02:12.075,0:02:16.223
การบรรลุเป้าหมายแบบนี้ต้องมีการวางแผน[br]ที่ไตร่ตรองไว้ดีแล้วและมีการร่วมมือกัน

0:02:16.223,0:02:20.521
ซึ่งต้องมีการสื่อสารแบบจงใจในรูปแบบหนึ่ง

0:02:20.521,0:02:24.025
โลมาส่งต่อการสื่อสารและทักษะอื่น

0:02:24.025,0:02:26.046
จากรุ่นสู่รุ่น

0:02:26.046,0:02:30.157
ประชากรโลมาต่าง ๆ [br]แสดงการทักทายที่แตกต่างกัน

0:02:30.157,0:02:33.237
วิธีการล่าเหยื่อและพฤติกรรมอื่น ๆ

0:02:33.237,0:02:37.510
การส่งต่อทางวัฒนธรรมแบบนี้[br]ยังรวมไปถึงการใช้เครื่องมือ

0:02:37.510,0:02:41.303
โลมาปากขวดกลุ่มหนึ่ง[br]ที่อยู่ชายฝั่งออสเตรเลีย

0:02:41.303,0:02:43.514
ที่มีชื่อเล่นว่า สโมสรโลมาฟองน้ำ

0:02:43.514,0:02:49.073
ได้เรียนรู้การปิดจงอยปากด้วยฟองน้ำ[br]เมื่อดำน้ำลงไปเจอปะการังแหลม ๆ

0:02:49.073,0:02:51.859
ส่งต่อความรู้จากแม่ไปสู่ลูกสาว

0:02:51.859,0:02:54.954
โลมายังแสดงความสามารถ[br]ในการเข้าใจทางภาษาอีกด้วย

0:02:54.954,0:02:58.068
เมื่อถูกสอนด้วยภาษากาย[br]อย่างการผิวปากและท่าทาง

0:02:58.068,0:03:00.544
พวกมันไม่เพียงแค่เข้าใจความหมาย[br]ของสัญญาณเหล่านั้น

0:03:00.544,0:03:02.849
แต่เข้าใจด้วยว่าลำดับท่าทางก็มีความหมาย

0:03:02.849,0:03:05.353
ความแตกต่างระหว่าง[br]เอาลูกบอลลอดห่วง

0:03:05.353,0:03:07.633
และเอาห่วงผ่านลูกบอล

0:03:07.633,0:03:11.974
ดังนั้น พวกมันสามารถประมวลผล[br]สองส่วนประกอบหลักของภาษามนุษย์:

0:03:11.974,0:03:14.571
สัญลักษณ์ที่แสดงถึงวัตถุและการกระทำ

0:03:14.571,0:03:18.556
และวากยสัมพันธ์ที่[br]กำกับว่าพวกมันควรมีโครงอย่างไร

0:03:18.556,0:03:22.772
โลมาเป็นหนึ่งในสัตว์ไม่กี่ประเภทที่ผ่าน[br]การทดสอบด้วยกระจก

0:03:22.772,0:03:27.719
ด้วยการรู้จักตัวเองในกระจก[br]พวกมันบ่งบอกว่ารู้จักตนเองทางกายภาพ

0:03:27.719,0:03:31.786
และการวิจัยแสดงว่าไม่เพียงแต่พวกมัน[br]จะจดจำตัวเองได้อย่างเดียว

0:03:31.786,0:03:36.956
แต่ยังรับรู้ถึงความคิดของพวกมันเอง[br]คุณสมบัติหนึ่งที่เรียกว่า อภิปัญญา

0:03:36.956,0:03:39.653
ในการศึกษาหนึ่ง[br]โลมาที่เปรียบเทียบเสียงสองเสียง

0:03:39.653,0:03:44.371
สามารถบ่งบอกถึงการตอบสนองที่[br]เหมือนกัน ต่างกัน หรือ ไม่แน่นอน

0:03:44.371,0:03:45.625
เหมือนกับมนุษย์

0:03:45.625,0:03:49.384
พวกมันบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนบ่อยขึ้น[br]เมื่อพบกับการทดสอบยาก ๆ

0:03:49.384,0:03:51.572
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พวกมันรู้ถึงสิ่งที่พวกมันรู้

0:03:51.572,0:03:54.557
และระดับความความรู้สึกมั่นใจต่อความรู้นั้น

0:03:54.557,0:03:57.443
แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดเกี่ยวกับโลมา

0:03:57.443,0:04:01.172
คือความรู้สึกเห็นใจ น้ำใจ และผูกพัน

0:04:01.172,0:04:05.982
นิสัยช่วยผู้อื่นที่บาดเจ็บ[br]ก้าวข้ามขอบเขตเพื่อนร่วมสายพันธุ์

0:04:05.982,0:04:07.817
ดังที่เห็นได้จากหลักฐาน

0:04:07.817,0:04:11.476
โลมาพามนุษย์ขึ้นมาเหนือน้ำเพือหายใจ

0:04:11.476,0:04:14.142
และเหมือนกับพวกเรา [br]โลมาคร่ำครวญถึงโลมาที่ตาย

0:04:14.142,0:04:16.353
เมื่อพวกเราพิจารณาหลักฐานทั้งหมด

0:04:16.353,0:04:19.669
พวกเราอาจจะสงสัยว่า[br]ทำไมมนุษย์ยังล่าเนื้อโลมาอยู่

0:04:19.669,0:04:22.176
ทำให้พวกมันใกล้สูญพันธ์ุ[br]ด้วยการตกปลาและมลภาวะ

0:04:22.176,0:04:25.028
หรือขังมันเพื่อการแสดง

0:04:25.028,0:04:28.534
คำถามสุดท้ายอาจจะไม่ใช่ว่า[br]โลมาฉลาด

0:04:28.534,0:04:30.424
และเป็นสิ่งมีชีวิตซับซ้อนหรือเปล่า

0:04:30.424,0:04:34.601
แต่อาจเป็นว่า มนุษย์จะสามารถเห็นใจพวกมันมากพอ[br]ที่จะช่วยให้มันปลอดภัยและเป็นอิสระได้หรือเปล่า