สวัสดีค่ะ วิวจาก Channel Point of View ค่ะ
กลับมาพบกันในเช่นเดิมในทุกวันพุธนะคะที่วิวจะนำเอา
รามเกียรติ์ ฉบับพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
เล่มนี้มาเล่าให้ทุกคนฟัง อย่างละเอียดยิบเลยค่ะ
ซึ่งตอนในวันนี้นะคะ จะเป็นภารกิจแรกของพระรามค่ะ
ที่จะได้ออกปราบเหล่าร้ายแล้ว
เนื่อเรื่องน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวนะคะ
พูดมาเดิมๆ เหมือนทุกอาทิตย์แล้ว
ไม่จำเป็นต้องเวิ่นเว้อไปเกริ่นอะไรมากมายนะคะ ดังนั้น
รีบเข้าเรื่องดีกว่า
แต่!
ก่อนที่จะไปเข้าเรื่องนะคะ
ใครที่ยังไม่ได้กดปุ่ม subscribe ให้วิวอย่าลืมกดปุ่ม subscribe ให้วิวนะคะ
กดปุ่ม subscribe เสร็จแล้ว อย่าลืมปุ่มกระดิ่งเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างด้วยค่ะ
มันจะได้แจ้งเตือนทุกครั้งที่วิวโพสคลิปวีดีโอใหม่ๆ ค่ะ
สำหรับใครที่อยากติดตามเรื่องรามเกียรติ์ยาวๆ แบบที่ไม่ต้องมากดดูทีละคลิปนะคะ
วิวทำเป็น playlist ไว้ให้แล้ว ไปดูได้ตรงนี้เลยนะคะ
โอเคค่ะ ทุกคน ถ้าพร้อมจะฟังเรื่องที่ทั้งสนุกและมีสาระ
ไปพร้อมกันแล้วก็
ไปฟังกันเลยค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้วนะคะ เราพอจะรู้ว่า 4 พี่น้อง พระราม พระลักษมณ์ พระพรต พระสัตรุดเนี่ย
ตอนนี้แยกเป็นคู่ๆ ใช่ไหมค่ะ
พระพรตกับพระสัตรุดเนี่ยโดนส่งไปที่เมืองไกยเกษ
ส่วนพระรามกับพระลักษณ์เนี่ย
ยังอยู่ที่กรุงศรีอโยธยาค่ะ
ซึ่งเรื่องราวในวันนี้จะเป็นภาระกิจแรกของสองคนนี้
เพราะว่ามียักษ์ตนหนึ่งค่ะ เริ่มก่อเรื่องขึ้นมาแล้ว
และยักษ์ตนนั้นก็ไม่ใช่ใครเลยแต่ก็คือ
ทศกัณฐ์ของเรานั่นเอง
ในที่สุดทศกัณฐ์ก็กลับมามีบทบาทอีกครั้ง
หลังจากที่ห่างหายกันไปนานนะคะ
เกิดอะไรขึ้นกับทศกัณฐ์
คือทศกัณฐ์เนี่ยค่ะ เริ่มถึงคราวเคราะห์แล้ว
เริ่มฉายแสงว่าจะโดนปราบ
ตั้งแต่ตอนนี้นี่แหละ
เพราะวันหนึ่งค่ะ ทศกัณฐ์นั่งอยู่ที่เมืองของตัวเอง
นั่งไปนั่งมาก็รู้สึกว่า
เอ๊ะ ชีวิตฉันเนี่ยมีปัญหาอยู่ข้อหนึ่ง
เป็นปัญหาที่พวกเราใน channel นี้ เห็นกันมานานแล้ว
นั่นก็คือปัญหาที่ว่า
เวลาใครไปทำพิธีขอนู่นขอนี่ ให้ฤาษีทำพิธีนั่นให้ฤาษีทำพิธีนี่
เหล่าเทพเจ้ามักจะลงมาประทานพรเสมอ
ทศกัณฐ์ก็เคยได้ ญาติๆ ของทศกัณฐ์ก็เคยได้
และ
พระรามก็เพิ่งจะได้ลูกศรมา ดังนั้น
ใครก็ตามที่ไปเรียนวิชากับพระฤาษีเนี่ย
ได้อาวุธ ได้พรติดตัวกันไปทั้งนั้น
ทศกัณฐ์นะคะ ก็เลย คิดว่า
เอ๊ะ ไม่ได้การแล้ว
พวกฉันเนี่ยได้กันมาครบเรียบร้อยแล้ว
แล้วถ้าในอนาคตพระฤาษีเนี่ย
เกิดไปทำพิธีมอบอาวงอาวุธให้คนนู้นคนนี้คนนั้นอีกมากมาย
พวกนี้ก็จะมีพลังเท่าฉันน่ะสิ
ไม่ได้แล้วตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่า
ดังนั้นนะคะ ทศกัณฐ์ก็เลยคิดว่าจะต้องไป
สกัดกั้นไม่ให้เหล่าฤาษีสามารถนั่งสมาธิ บำเพ็ญตบะ
ทำให้ฌานแก่กล้าจนสามารถขอพรจากพระเป็นเจ้าได้ค่ะ
โดยที่ทศกัณฐ์ไม่รู้เลยนะคะว่าพระฤาษีเนี่ย
ขอให้พี่น้องชุดหนึ่งไปแล้ว
และเป็น 4 พี่น้องที่กระทบชีวิตตัวเอง
อย่างหนักหน่วงที่สุดด้วยนะ
ช้าไป 1 ตอนนะคะทศกัณฐ์ เสียใจด้วย
พอคิดได้แบบนั้นนะคะ ทศกัฐณ์ก็มองไปที่เหล่ายักษ์
ในเมืองของตัวเองค่ะ ว่าใครเหมาะสมที่จะไปทำภารกิจนี้
ว่าแล้วนะคะ ทศกัณฐ์ก็เลือกยักษ์ขึ้นมาตนหนึ่งค่ะ
ก็คือนางกากนาสูรนั่นเอง
จำนางกากนาสูรได้ไหมคะ
นางยักษ์ที่สามารถแปลงร่างเป็นกาได้
ที่เคยบินไปโฉบขโมยเอาข้าวทิพย์มาครึ่งปั้น
จากตอนกำเนิดพระรามนั่นแหละค่ะ
ทศกัณฐ์นะคะ เรียกนางกากนาสูรขึ้นมาค่ะ
แล้วก็สั่งให้นางกากนาสูรเนี่ย
ไปเรียกไพร่พลของตัวเองมา ซึ่งเป็นไพร่พลที่สามารถแปลงร่างเป็นอีกายักษ์ได้แบบทั้งฝูง ทั้งทัพเลยทีเดียวนะคะ
บอกว่าให้พาไพร่พลเหล่าเนี่ย
บินไปถล่มอาศรมพระฤาษีให้เรียบเป็นหน้ากลองเลย
ในป่าเนี่ย ไม่ให้อยู่ได้ ไม่ให้มีสติสมาธิ นั่งสมาธิอะไร
อย่าให้มีสมาธิได้นะคะ
และไม่ได้ให้ไปถล่มรอบเดียว
เพราะถล่มรอบเดียว ปุ๊บ แป๊ปเดียวเดี๋ยวพระฤาษีตั้งกุฏิใหม่
นั่งสมาธิใหม่ เดี๋ยวสมาธิกลับมา
ให้ทำแบบนี้ซ้ำๆๆๆ ไปทุกๆ 7 วัน
เรียกได้ว่า อะ เอาสิ
ฉันถล่มเสร็จแกสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ฉันก็ถล่มใหม่ได้เหมือนกัน
ทำนองนี้นะคะ
แน่นอนว่านางกากนาสูรก็ไม่ได้ขัดอะไรทศกัณฐ์แล้วก็
นำไพร่พลเนี่ยค่ะ
แปลงร่างเป็นกาบินออกไป พั่บๆๆๆ
บินไปจนถึงที่ตั้งกุฏิของพระฤาษีทั้งหลาย
บินไปถึงปุ๊บนะคะ ก็เริ่มอาละวาดเต็มที่เลย อะถล่มตรงนี้
กระพือปีก พั่บๆ เอาลมใส่ตรงนั้น
ให้พระฤาษีวิ่งหนี ก็วิ่งไปจิกๆๆๆๆๆๆ กระจุยกระจาย เรียกได้ว่า
ของเนี่ยกระจายหมด แล้วเหล่าพระฤาษี
ก็วิ่งหายเข้าป่ากันไปต่างๆ นานา
เมื่อถล่มราบเป็นหน้ากลองแล้วนะคะ
นางกากนาสูรก็พาเอาไพร่พลทั้งหลายเนี่ย
บินกลับกรุงลงกาไปสบายใจเฉิบ
กะว่าเดี๋ยวอีก 7 วัน ฉันมาถล่มใหม่จ้า
หลังจากเหตุการณ์นั้นนะคะ เหล่าพระฤาษีก็รู้สึกว่า
ไม่ได้แล้วถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป
พวกเราก็จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ทุกๆ 7 วันก็จะมีเหล่าอีกายักษ์บินมา แล้วก็ถล่มๆๆ
แล้วเราจะใช้ชีวิตกันต่อไปได้ยังไง นะคะ
ดังนั้นค่ะเหล่าพระฤาษีลูกกระจ๊อกทั้งหลายก็เลย
วิ่งเข้าฟ้องพระฤาษีวสิษฐ์กับพระฤาษีวิศวามิตร
ซึ่งจำชื่อ 2 คนนี้ได้ไหมคะ เป็นพระฤาษีที่เป็นพระอาจารย์ของพระรามและพระลักษมณ์นั่นเอง
ฤาษี 2 ตนนี้นะคะ พอได้ฟังก็รู้สึกว่า
โอะ ในที่สุด สิ่งที่ฉันรอคอยก็มาถึงแล้ว
ไม่ๆ ไม่ได้หมายถึงว่ารอคอยให้เหล่าฤาษีพวกนี้ตายนะ
แต่ฤาษี 2 ตนเนี่ย รอให้เหล่ายักษ์อาละวาด
เพื่อที่จะไปเชิญพระรามมาเริ่มปราบยักษ์
ก็ตรงกับจุดประสงค์ที่เชิญอวตารพระนารายณ์
มาปราบยักษ์นั่นเอง
คือฝั่งพวกนี้มันเป็นฝั่งคนดี เก็ตไหมคะ
พระรามไม่สามารถลงมาเกิดแล้วก็ อะ ฉันมีหน้าที่ปราบยักษ์
แล้วก็เดินเข้าไปในกรุงลงกาเอาลูกศรยิงหัวทศกัณฐ์ ปิ้ว ได้
ทั้งที่ทศกัณฐ์ไม่มีความผิดอะไร
ดังนั้นเมื่อทศกัณฐ์เริ่มทำความผิด
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้พระรามเริ่มปราบยักษ์ได้ค่ะ
ฤาษีทั้ง 2 ตนนะคะ ก็เลยเดินทางเข้าไปที่กรุงศรีอโยธยาค่ะ
ไปถึงก็บอกท้าวทศรถว่า
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ตอนนี้ยักษ์เริ่มอาละวาดแล้วจ้า
ตอนนี้มีอีกายักษ์มาบุกถล่มพระฤาษีต่างๆ
ขอเชิญเสร็จพระรามกับพระลักษณ์เนี่ย ช่วยไปปราบยักษ์หน่อย
ซึ่งแน่นอนนะคะ ท้าวทศรถที่สปอยล์ลูกสุดขีด
แล้วก็ยังรู้สึกว่าลูกฉันยังเด็กอยู่เลย
มีเหรอ จะปล่อยให้ลูกเนี่ยไปปราบยักษ์
ท้าวทศรถก็บอกว่า
โอ้ย เดี๋ยวก่อนพระอาจารย์
ลูกข้ายังเด็กอยู่เลย
เอางี้ๆ ถ้าอยากปราบยักษ์จริงๆ ข้าไปปราบให้เองเอาไหม
เห็นไหม เห็นเรซูเม่ข้าไหม
นี่ ประวัติการทำงานข้า ข้าเคยปราบยักษ์มาครั้งที่ 1 2 3 4 5 6
เดี๋ยวข้าไปปราบให้เอง ยิงปิ้วๆ 2 ทีตายแล้ว
แต่ว่าพระฤาษีนะคะบอกว่า ไม่ได้ นี่!
แล้วท่านจะเชิญพระนารายณ์เสด็จอวตารลงมาทำไม ถ้าจะเชิญมาแล้วก็ทิ้งไว้ในเมือง ไม่ให้ออกไปทำภารกงภารกิจอะไรเลย
ไม่ได้ๆ
งานนี้เป็นงานของพระราม
พระรามจะต้องออกไปปราบยักษ์นะคะ
ในที่สุดเมื่อเจอเหตุผลแบบนี้เข้าไป ท้าวทศรถก็เลยยอมค่ะ
ให้พระฤาษีเนี่ย พาพระรามกับพระลักษมณ์ ออกไปปราบยักษ์
ซึ่งพระรามนี่ก็ดีใจมาก เพราะว่าเป็นเด็กที่รู้ตั้งแต่เกิดไงว่า
อ๋อ ฉันเป็นพระนารายณ์ ฉันเกิดมาเพื่อปราบยักษ์จ้า
ในที่สุดฉันก็ได้ปราบยักษ์แล้ว
ดังนั้นพระรามกับพระลักษมณ์
ก็เลยเดินทางตามพระฤาษีออกไปนอกเมืองค่ะ
เมื่อไปถึงเนี่ยก็ไปอาศัยกับพระฤาษีก่อนสักระยะเวลาหนึ่ง
ให้ที่สุดนะคะ เวลา 7 วันก็ผ่านพ้นไปค่ะ
นางกากนาสูรก็มาตามนัด
บินมา พั่บๆๆ
พร้อมกับฝูงบริวารทั้งหลายนะคะ มาถึงก็พยายามจะจิกถล่มตีพระฤาษีเหมือนเช่นเดิมเลย แต่คราวนี้สิ่งที่ต่างไป คือ
พระฤาษีมีพระรามคอยป้องกันเเล้ว
ดังนั้นนะคะ พระรามกับพระลักษมณ์ก็เลยเดินออกมาจากกุฏิค่ะ แล้วก็บอกว่า
หยุด! เจ้านก เจ้าเป็นใครมาจากไหน
กล้าดียังไงมาถล่มพระฤาษีแบบนี้
คือนิทานไทยเนี่ยนะ ก่อนจะรบกันจะต้องมีการถาม
ชื่อเสียงเรียงนามกันนิดนึง แนะนำตัวนิดนึงจะได้รู้ว่ารบกับใคร
ฝั่งนางกากนาสูรนะคะ ก็แบบ ข้ากากนาสูร
บริวารของทศกัณฐ์แห่งกรุงลงกา
เจ้าเป็นเด็กตัวกะเปี้ยก
กล้าดียังไงมาห้ามข้า เจ้าเป็นใคร
ชื่อเสียงเรียงนามจากไหนเป็นลูกเต้าเหล่าใคร อธิบายมาเดียวนี้
คืออันนี้เป็นธรรมเนียมนะ ถามชื่อพ่อนี่ถามเทือกเถาเหล่ากอ
ถามวงศ์ตระกูลเฉยๆ แค่อยากรู้จัก
เพราะว่าสมัยโบราณไม่ได้มีนามสกุลไง ต้องถามชื่อพ่อ
ไม่ใช่จะเอามาล้อแบบ ว้าย ไอ้ทศรถ
ไม่ใช่ๆ เขาไม่ได้ล้อชื่อพ่อกันนะจ๊ะ
ซึ่งพระรามก็อธิบายไปบอกว่า
ข้าคือพระราม
แห่งกรุงศรีอโยธยา ลูกของท้าวทศรถ
ผู้ที่ปราบยักษ์มาแล้วนับร้อย
เจ้ากล้าดียังไงมาถล่มพระฤาษีแบบนี้
ฝั่งนางกากนาสูรได้ยินแบบนั้นนะคะ
ยัง ยังไม่รบกันต้องเถียงกันก่อน
เถียงต่อประมาณว่า
แก
แกอยู่กรุงศรีอโยธยาแล้วมาเกี่ยวอะไรด้วย
นี่มันเรื่องของฉันกับพระฤาษี ฉันกำลังทะเลาะกับพระฤาษีอยู่
แกเป็นบุคคลที่สามมายุ่งอะไรด้วย กลับไปเดี๋ยวนี้
พระรามนี่ก็ Hero สุดขีดอะนะ
ตอบไปประมาณว่า
เอ้า จะไม่เกี่ยวได้ไง อยู่ดีๆ แกเนี่ยมา แล้วแกก็ถล่มพระฤาษี ถล่มๆๆๆ
ฉันเป็นคนดี ฉันต้องช่วยเหล่าพระฤาษี
ดังนั้นฉันจะถล่มแกเอง
ว่าแล้วนะคะสองฝ่ายก็รบตะลุมบอนกัน ปิ้วๆๆ
พระรามก็หยิบลูกศรขึ้นมาแล้วก็ยิง ปิ้วๆๆๆ ไปมานะคะ
ทำให้เหล่าบริวารของนางกากนาสูรเนี่ย ตายเรียบไปหมดเลย
นางกากนาสูรเห็นแบบนั้นนะคะ ก็โกรธ ก็พยายามโจมตีพระราม โจมตีไป โจมตีมา
ในที่สุดก็โนพระรามเอาลูกศรยิง
ปิ้ว สอยร่วงลงมาตายอยู่ที่พื้นค่ะ
เหล่าบริวารที่เหลืออยู่เนี่ย พอเห็นนายตัวเองตายก็ตกใจไง
แล้วก็วิ่ง แท่ดๆๆๆ
กลับไปนะคะ
กลับไปไม่กลับไปเปล่า ศึกนี้ยังไม่จบค่ะ เพราะนางกากนาสูร
มีลูกอยู่อีก 2 ตนด้วยกัน ชื่อว่าสวาหุกับมารีศ
เหล่าบริวารก็วิ่งแท่ดๆ ไป ไปหาลูกของนางกากนาสูรค่ะ
ไปถึงก็รีบฟ้องเลยบอกว่า
แย่แล้วพระมาดารออกไปทำภารกิจเนี่ยนะ
ไปถึงโดนเด็กมนุษย์แบบตัวกะเปี้ยกเดียว
ยิงตายไปเรียบร้อยแล้ว
จะเป็นคนหรือเป็นยักษ์อะนะ อยู่ดีๆ มีคนวิ่งมาบอกว่า
แม่โดนยิงตาย แน่นอนว่าโกรธนะคะ
สวาหุกับมารีศก็เลย
จัดทัพนะคะ แล้วก็ยกออกไปที่อาศรมพระฤาษีตอนนั้นเลย
โดยที่ไม่ได้คิดเลยนะว่าจริงๆ แม่ตัวเองเป็นคนผิด
ไปหาเรื่องเขาก่อนน่ะนะ
ไปถึงก็ไปอาละวาดกับพระรามเหมือนเดิม
สเต็ปเดิมเหมือนแม่เป๊ะ รบกันไปรบกันมา พระรามก็
ฆ่าบริวารทิ้งจนหมดก็เหลือตัวแม่ทัพสู้กันใช่ไหม
สู้ไปสู้มา พระรามเนี่ยสู้กับสวาหุ
ส่วนพระลักษมณ์สู้กับมารีศ
สู้ไปสู้มานะคะ พระรามก็ยิงลูกศรไป ปิ้ว
ปักอกสวาหุตกลงมาตาย
ฝั่งมารีศเนี่ย เห็นพี่ตายเงยหน้าขึ้นไปมองพระราม
ตกใจมาก เพราะว่าภาพที่เห็นคือ
พระรามไม่ใช่คนเหมือนเดิมแต่เห็นภาพเงาซ้อน
ว่าแบบพระรามเนี่ยมี 4 มือ ก็แบบ
อุ้ย นี่มันพระนารายณ์อวตาร แย่แล้วนี่ฉันสู้กับใครอยู่นะคะ
ดังนั้นมารีศที่กำลังสู้กับพระลักษณ์อยู่ก็เลยได้จังหวะโอกาสค่ะ
หนีหายกลับเมืองไปเลยเรียบร้อย
และแล้วโลกของเหล่าพระฤาษีก็ปลอดภัยนะคะ ต้องขอบคุณพระรามและพระลักษมณ์ที่ช่วยปราบเหล่าร้ายให้สูญสิ้นไปค่ะ
ประโยคเมื่อกี้คุ้นๆ เนาะ เอาเถอะช่างมัน
ไม่มีใครรู้แล้วกันเนาะว่าเอามาจากไหน
จ๊ะ
แต่เอาเป็นว่า
เรื่องราวของภารกิจแรกของพระรามนะคะ
ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ค่ะ
อาทิตย์หน้านะคะ เรามาดูตอนต่อไปกันว่า
การออกมาทำภารกิจครั้งนี้ของพระราม
จะทำให้พระรามได้อะไรกลับไปค่ะ
แต่ตอนนี้นะคะทุกคนอย่าเพิ่งปิดคลิปค่ะ เพราะเดี๋ยวตอนจบเราจะมาเมาท์มอยกันเช่นเคยค่ะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้แล้วเห็นด้วยกับวิวว่า
เรื่องราวที่มีสาระมันก็สนุกไปพร้อมกันได้ อย่าลืม
กด like เป็นกำลังใจให้วิว
แล้วก็กด share เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ บ๊าย บาย
สวัสดีค่ะ
จริงๆ พระรามนี่มีโอกาสเป็นเด็กสปอยล์สูงมากเลยนะ
ลองนึกสภาพดิ แค่เด็กผู้ชายปกติ
เกิดมาเป็นลูกคนเดียวก็มีโอกาสที่จะ
พ่อแม่ตามใจสุดขีดจนแบบว่าสปอยล์เละ
กลายเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเองสูงมากๆ แล้วนะ
แล้วเคสเนี่ย
คือเป็น perfect combination ของความสปอยล์อะ
1 เป็นลูกชายคนโต
เป็นคนที่พ่อคาดหวังว่าจะเป็นทายาท
เป็นเจ้าชาย
และที่สำคัญ เกิดมาปุ๊บ ทุกคนก็บอกว่า
อ่า สวัสดีจ้าพระราม หนูเป็นพระนารายณ์อวตารนะ
นี่หนูเป็นเทพเจ้าลงมาเกิด
เป็นเทพเจ้าลงมาเกิด คิดดูดิ อู้วหู้ว รับรองสปอยล์แน่ๆ
ฟังยังงี้คิดยังไงกันบ้างค่ะ คิดว่าพระรามจะโตขึ้นมาแบบ
เป็นคนมีความรับผิดชอบ ฉันเป็นพระราม ฉันเป็นพระนารายณ์ ฉันจะต้องลงมาปราบยักษ์ปกป้องโลกใบนี้
หรือว่าคิดว่าโตมาแล้วจะสปอยล์หรือคิดว่าจะโตมาเป็นเด็กธรรมดา หรือว่าคิดยังไง
ลอง comment มาคุยกันด้านล่างนะคะ
แล้วก็อันนี้ไม่ได้เจตนาจะลบหลู่อะไร เป็นความคิดสนุกๆ
ในสมองของวิวเองที่แบบว่า
ถ้าเรื่องราวนี้เกิดขึ้นจริง มันจะเป็นยังไงน๊า
ทำนองนี้ค่ะ สำหรับคลิปนี้ลาไปก่อนแล้วนะคะ บ๊าย บาย
สวัสดีค่ะ