0:00:06.531,0:00:07.691 ในทศวรรษ 1920 0:00:07.715,0:00:10.184 นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันนาม เดวิด ฮิลเบิร์ต 0:00:10.208,0:00:12.437 ได้สร้างการทดลองด้วยความคิดอันโด่งดังขึ้น 0:00:12.461,0:00:14.191 เพื่อแสดงให้เห็นว่า ยากแค่ไหน 0:00:14.215,0:00:17.665 ที่เราจะทำความเข้าใจ[br]แนวคิดเกี่ยวกับค่าอนันต์ 0:00:18.353,0:00:21.659 ลองจินตนาการว่ามีโรงแรม[br]ที่มีจำนวนห้องเป็นอนันต์ 0:00:21.683,0:00:23.988 มีผู้จัดการกะกลางคืน ผู้ขยันขันแข็ง 0:00:24.528,0:00:27.523 คืนหนึ่ง โรงแรมอนันต์เต็มเสียแล้ว 0:00:27.547,0:00:31.003 ถูกจองไว้ทุกห้อง โดยแขกจำนวนเป็นอนันต์ 0:00:31.027,0:00:34.161 แต่แล้วมีชายผู้หนึ่งแวะเข้ามาขอพัก 0:00:34.185,0:00:35.444 แทนที่จะปฏิเสธแขกรายนี้ไป 0:00:35.468,0:00:37.907 ผู้จัดการตัดสินใจหาห้องให้เขา 0:00:37.931,0:00:38.947 ทำยังไงล่ะ? 0:00:38.971,0:00:41.635 ง่ายมาก ผู้จัดการขอให้แขกห้อง 1 0:00:41.659,0:00:43.711 ย้ายไปพักห้อง 2 0:00:43.735,0:00:46.056 แขกห้อง 2 ย้ายไปห้อง 3 0:00:46.080,0:00:47.288 เช่นนี้ทุกห้อง 0:00:47.449,0:00:49.838 แขกทุกคนย้ายจากห้องหมายเลข "n" 0:00:49.862,0:00:52.179 ไปยังห้องหมายเลข "n+1" 0:00:52.721,0:00:54.812 เนื่องจากมีห้องอยู่เป็นอนันต์ 0:00:54.836,0:00:57.169 จึงมีห้องใหม่ให้กับแขกที่พักอยู่เดิมทุกราย 0:00:57.413,0:00:59.760 ห้องหมายเลข 1 จึงว่าง ให้ลูกค้าใหม่เข้าพัก 0:00:59.784,0:01:01.070 สามารถใช้วิธีการนี้ซ้ำ 0:01:01.094,0:01:03.811 เมื่อมีแขกใหม่มาเพิ่มในจำนวนจำกัด[br]จะกี่คนก็ได้ 0:01:03.971,0:01:07.529 สมมติถ้ามีรถทัวร์หอบนักท่องเที่ยวมา 40 คน 0:01:07.553,0:01:09.642 แขกที่พักอยู่เดิมก็แค่ย้าย 0:01:09.666,0:01:10.980 จากห้องหมายเลข "n" 0:01:11.004,0:01:13.638 ไปยังห้องหมายเลข "n+40" 0:01:13.662,0:01:16.200 40 ห้องแรกก็จะว่าง พร้อมให้เข้าพัก 0:01:17.157,0:01:19.171 แต่ถ้ามีรถทัวร์ใหญ่เป็นอนันต์ 0:01:19.195,0:01:21.744 พร้อมด้วยผู้โดยสารจำนวนอนันต์นับได้ 0:01:21.768,0:01:23.673 เข้ามาถามหาห้องพักล่ะ 0:01:23.697,0:01:25.686 ความเป็นอนันต์นับได้ เป็นประเด็นสำคัญ 0:01:26.164,0:01:28.530 รถทัวร์อนันต์ พร้อมผู้โดยสารจำนวนอนันต์ 0:01:28.554,0:01:30.518 ทำให้ผู้จัดการโรงแรมถึงกับอึ้งไปในตอนแรก 0:01:30.542,0:01:32.010 แต่ผู้จัดการก็คิดออก 0:01:32.034,0:01:33.349 ว่าจะรับแขกใหม่ได้อย่างไร 0:01:33.373,0:01:36.391 เขาขอให้แขกห้อง 1 ย้ายไปห้อง 2 0:01:36.415,0:01:38.527 และให้แขกห้อง 2 0:01:38.551,0:01:40.435 ย้ายไปห้อง 4 0:01:40.459,0:01:42.809 แขกห้อง 3 ย้ายไปห้อง 6 0:01:42.833,0:01:44.105 เช่นนี้ทุกห้อง 0:01:44.129,0:01:47.313 แขกปัจจุบันแต่ละคน ย้ายจากห้อง "n" 0:01:47.337,0:01:49.029 ไปยังห้องหมายเลข "2n" 0:01:50.807,0:01:54.060 ห้องเลขคู่ จำนวนอนันต์ จึงถูกจับจองหมด 0:01:54.084,0:01:55.929 ซึ่งก็จะทำให้ห้องเลขคี่ทั้งหมด 0:01:55.953,0:01:58.867 จำนวนมากมายเป็นอนันต์ว่างลง 0:01:58.891,0:02:02.506 ให้แขกจากรถทัวร์อนันต์ได้เข้าพัก 0:02:03.242,0:02:06.875 ทุกคนมีความสุข[br]ธุรกิจโรงแรมก็คึกคักยิ่งขึ้นไปอีก 0:02:06.899,0:02:10.416 แต่ที่จริงแล้วยอดรายได้เท่ากันเป๊ะทุกคืน 0:02:10.440,0:02:12.923 มีเงินเข้าธนาคารจำนวนอนันต์ดอลล่าร์ทุกคืน 0:02:14.076,0:02:16.355 คนกล่าวขวัญถึงโรงแรมอันน่าเหลือเชื่อนี้ 0:02:16.379,0:02:18.544 ผู้คนแห่กันมาพักจากทั่วสารทิศ 0:02:18.568,0:02:20.842 คืนหนึ่ง เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น 0:02:20.866,0:02:23.407 ผู้จัดการมองออกไปข้างนอก 0:02:23.431,0:02:27.517 เห็นแถวรถทัวร์ใหญ่อนันต์ เข้ามาอนันต์คัน 0:02:27.541,0:02:30.185 แต่ละคัน มีผู้โดยสารจำนวนอนันต์นับได้ 0:02:30.255,0:02:31.386 เขาจะทำอย่างไรดีล่ะ? 0:02:31.410,0:02:34.207 ถ้าหาห้องให้แขกไม่ได้ ก็จะเสียลูกค้า 0:02:34.231,0:02:35.958 เสียรายได้เป็นปริมาณอนันต์ 0:02:35.982,0:02:37.955 และผู้จัดการก็จะตกงานด้วย 0:02:37.979,0:02:41.790 โชคดีที่เขานึกขึ้นได้ว่า[br]ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล 0:02:41.814,0:02:44.726 ยูคลิดได้พิสูจน์ว่า จำนวนเฉพาะ 0:02:44.750,0:02:46.634 มีปริมาณเป็นอนันต์ 0:02:47.372,0:02:49.660 เพื่อจะทำในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ 0:02:49.684,0:02:52.285 โดยหาเตียงจำนวนอนันต์[br]ให้นักท่องเที่ยวที่เหนื่อยล้า 0:02:52.309,0:02:54.291 จำนวนเป็นอนันต์ จากรถทัวร์อนันต์คัน 0:02:54.315,0:02:57.182 ผู้จัดการขอให้ผู้พักเดิมแต่ละคน 0:02:57.206,0:02:59.042 ย้ายไปห้องหมายเลข 2 (จำนวนเฉพาะตัวแรก) 0:02:59.066,0:03:01.867 ยกกำลังด้วยเลขห้องเดิม 0:03:01.891,0:03:04.535 เช่น ผู้ที่เดิมพักอยู่ห้องหมายเลข 7 0:03:04.559,0:03:07.541 ก็ย้ายไปห้อง 2 ยกกำลัง 7 0:03:07.565,0:03:09.261 หรือห้องหมายเลข 128 นั่นเอง 0:03:10.236,0:03:13.757 แล้วผู้จัดการก็ให้คนจากรถทัวร์อนันต์คันแรก 0:03:13.781,0:03:15.806 เข้าพักในห้องที่มีหมายเลขเท่ากับ 0:03:15.830,0:03:18.291 จำนวนเฉพาะถัดไป คือ 3 0:03:18.315,0:03:21.728 ยกกำลังด้วยเลขเบาะนั่งของรถทัวร์ 0:03:21.752,0:03:25.259 เช่น คนที่นั่งเบาะหมายเลข 7 ของรถคันแรก 0:03:25.283,0:03:28.360 ก็เข้าพักห้องหมายเลข 3 ยกกำลัง 7 0:03:28.384,0:03:31.610 หรือห้อง 2,187 นั่นเอง 0:03:31.634,0:03:34.069 ทำเช่นนี้จนครบทุกคน ที่มากับรถคันแรก 0:03:34.093,0:03:35.741 สำหรับผู้โดยสารรถทัวร์คันที่สอง 0:03:35.765,0:03:39.410 ก็ให้เข้าพักห้องจำนวนเฉพาะถัดไป คือ 5 0:03:39.434,0:03:41.493 คันถัดไป ก็ใช้เลข 7 เป็นฐานยกกำลัง 0:03:41.517,0:03:42.921 คันถัด ๆ ไป ก็จะเข้าพักห้อง 0:03:42.945,0:03:44.746 กำลังของ 11 กำลังของ 13 0:03:44.770,0:03:46.799 กำลังของ 17 ไปเรื่อย ๆ 0:03:47.370,0:03:48.729 เนื่องจากเลขเหล่านี้แต่ละตัว 0:03:48.753,0:03:50.968 มีแค่ 1 และ เลขจำนวนเฉพาะแต่ละตัว 0:03:50.992,0:03:53.213 ยกกำลังด้วยจำนวนนับ เป็นตัวประกอบ 0:03:53.237,0:03:55.386 จึงไม่มีเลขห้องที่ซ้ำซ้อนกัน 0:03:55.410,0:03:58.482 ผู้โดยสารจากรถทุกคัน แยกย้ายกันเข้าห้อง 0:03:59.034,0:04:00.846 ตามกลวิธีจัดห้องพักที่ไม่เหมือนใคร 0:04:00.870,0:04:03.486 โดยอิงจากจำนวนเฉพาะที่ไม่ซ้ำกัน 0:04:03.510,0:04:05.701 ด้วยวิธีนี้ ผู้จัดการก็สามารถหาที่พัก 0:04:05.725,0:04:07.846 ให้กับแขกทุกคน จากรถทุกคัน 0:04:07.870,0:04:11.064 ถึงแม้วิธีนี้จะทำให้มีหลายห้องไม่มีคนพัก 0:04:11.088,0:04:12.356 อย่างเช่น ห้องหมายเลข 6 0:04:12.380,0:04:15.095 เพราะ 6 ไม่ใช่เลขยกกำลัง[br]ของจำนวนเฉพาะ 0:04:15.119,0:04:17.512 แต่โชคยังดีที่เจ้านายของเขา[br]ไม่ค่อยเก่งเลขเท่าไหร่ 0:04:17.536,0:04:18.875 อาชีพของเขาจึงยังมั่นคงอยู่ 0:04:19.507,0:04:22.007 ผู้จัดการสามารถใช้กลยุทธ์ดังกล่าวได้ 0:04:22.031,0:04:26.624 เพราะถึงแม้ว่าการจัดการโรงแรมอนันต์[br]จะยุ่งยากซับซ้อนสุด ๆ 0:04:26.648,0:04:29.957 แต่ก็เป็นการจัดการกับค่าอนันต์[br]ในระดับที่ต่ำที่สุด 0:04:29.981,0:04:33.513 หลัก ๆ คือความเป็นอนันต์นับได้[br]ของจำนวนนับ 0:04:33.537,0:04:36.594 1 2 3 4 เรื่อยไป 0:04:36.618,0:04:40.513 จอร์จ แคนเทอร์ เรียกระดับความเป็นอนันต์[br]นี้ว่า อาเลพ-ซีโร่ aleph-zero 0:04:40.945,0:04:43.042 เราใช้จำนวนนับกับหมายเลขห้อง 0:04:43.066,0:04:45.188 รวมถึงเลขเบาะที่นั่งบนรถทัวร์ 0:04:45.913,0:04:48.252 หากเราจัดการกับ[br]ความเป็นอนันต์ระดับสูงกว่านี้ 0:04:48.276,0:04:49.848 อย่างกรณีของจำนวนจริง 0:04:49.872,0:04:52.844 กลยุทธ์ดังกล่าวก็จะใช้ไม่ได้ 0:04:52.868,0:04:56.405 เพราะไม่มีวิธีที่เป็นระบบระเบียบ[br]ที่จะนับเลขให้ครอบคลุมทุกตัว 0:04:57.002,0:04:58.803 โรงแรมอนันต์เลขจำนวนจริง 0:04:58.827,0:05:00.905 มีห้องเลขติดลบ อยู่ชั้นใต้ดิน 0:05:00.929,0:05:02.364 ห้องเลขเศษส่วน 0:05:02.388,0:05:04.484 คนที่อยู่ห้อง 1/2 จึงเฝ้าสงสัยว่า 0:05:04.508,0:05:07.181 ได้ห้องเล็กกว่าคนที่ห้องหมายเลข 1 รึเปล่า 0:05:07.205,0:05:10.308 ห้องเลขรากที่สอง เช่น ห้องรูทสอง 0:05:10.332,0:05:11.438 และห้องค่าพาย 0:05:11.462,0:05:14.325 ซึ่งผู้เข้าพักหวังจะได้ของหวานฟรี 0:05:14.349,0:05:17.374 จะมีผู้จัดการที่เชื่อมั่นในตัวเองคนไหน[br]อยากจะมาทำงานให้ 0:05:17.398,0:05:19.005 ต่อให้เงินเดือนเป็นอนันต์ก็ตามที 0:05:19.029,0:05:20.918 แต่จากโรงแรมอนันต์ของฮิลเบิร์ต 0:05:20.942,0:05:22.420 ซึ่งไม่เคยมีห้องว่าง 0:05:22.444,0:05:24.004 และมีห้องให้ผู้มาใหม่ได้เสมอ 0:05:24.028,0:05:26.926 สถานการณ์ที่ผู้จัดการคนขยัน 0:05:26.950,0:05:28.760 แถมดูจะชอบต้อนรับแขกเกินไปสักหน่อย 0:05:28.784,0:05:31.490 เป็นสิ่งที่เตือนให้เรารู้ว่า ยากแค่ไหน 0:05:31.514,0:05:33.905 ที่กรอบความคิดที่ค่อนข้างจำกัดของเรา 0:05:33.929,0:05:36.767 จะเข้าใจแนวคิดอันมโหฬารอย่างค่าอนันต์ได้ 0:05:37.132,0:05:39.083 ไม่แน่คุณอาจช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ 0:05:39.107,0:05:40.403 หลังจากหลับเติมอิ่มสักคืน 0:05:40.427,0:05:42.276 แต่พูดตรง ๆ เราอาจจะต้องให้คุณ 0:05:42.300,0:05:44.701 ย้ายห้องตอนตีสองก็เป็นได้