ฉันชื่อเทแกน ไคลน์ ฉันเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Edge & Node ทีมที่อยู่เบื้องหลัง The Graph และด้วย The Graph Google ทำเว็บไซต์ The Graph ทำบล็อกเชน และการจัดระเบียบข้อมูล ฉันชื่อซินเทีย ฮาส และฉันเป็น ผู้อำนวยการมูลนิธิโลกของผู้หญิง โลกของผู้หญิง เป็นการรวมตัวของผู้หญิง 10,000 คน ท่ามกลางภูมิหลังที่แตกต่างกัน ความหลากหลายของสีผิว เชื้อชาติ และเราเป็นชุมชนที่ชนะเลิศ การรวมเป็นหนึ่งและความหลากหลายพื้นที่ web3 ฉันชื่อ ชาลี ลี ฉันเป็นผู้สร้าง Litecoin หนึ่งในสกุลเงินทางเลือกสำหรับบิทคอยน์ ฉันเคยได้เล่นกับ ฐานรหัสบิทคอยน์ และตัดสินใจ เพื่อสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง และมันก็เป็นโครงการเสริมที่สนุก และมันก็ถูกปล่อยออกไป เมื่อคุณซื้อของด้วยบัตรเครดิต เมื่อร้านของคุณติดป้ายว่าออร์แกนิก เมื่อคุณเห็นตัวตนที่ยืนยันแล้ว บนโซเชียลมีเดียหรือเมื่อคุณให้คะแนน สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ คุณรู้ได้อย่างไร ว่าเงินถูกโอนไปแล้ว ว่าอาหารนั้นเป็นออร์แกนิกจริงๆ ว่าคนนั้นมีตัวตนจริงๆ หรือว่าคะแนนของคุณถูกนับไปหรือยัง? สุดท้ายคุณต้องเชื่อบันทึกที่จัดการ โดยธนาคาร บริษัท และรัฐบาล แต่วันนี้หลายคนอาจสงสัยว่า หากพวกเขาไว้ใจบริษัทต่างๆ, รัฐบาล หรือการรวมศูนย์อำนาจในรูปแบบใดก็ตาม ด้วยข้อมูลที่ผิดเพิ่มขึ้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถสร้างระบบ ที่ไว้ใจได้โดยไม่ขึ้นกับส่วนกลาง? จะเป็นอย่างไรหากเราสามารถติดตามสิ่งต่างๆ เช่นเงินหรือทรัพย์สินในหนทางที่ ทุกคนสามารถตรวจสอบข้อมูลได้โดยไม่มี บริษัทหรือรัฐบาลมาเกี่ยวข้อง? มันเป็นไปได้ในวันนี้ โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าบล็อกเชน บล็อกเชนเป็นวิธีการใหม่ ของการจัดเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ ด้วยบล็อกเชน ข้อมูลสามารถกระจายอำนาจและกระจายตัวได้ ไม่มีใครเป็นเจ้าของบล็อกเชน แต่ทุกคนสามารถใช้ได้ และตรวจสอบข้อมูลของพวกเขาในนั้นได้ เทคโนโลยีนี้เป็นนวัตกรรมที่ อยู่เบื้องหลังสกุลเงินดิจิทัลเช่นบิทคอยน์ มีการใช้งานที่เป็นไปได้ในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเราจะพูดถึงในวิดีโอถัดไป แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่าปัญหา ความไว้ใจได้รับการแก้ไขแล้วในอดีต ตั้งแต่ ยุคแรกเริ่มของสังคมมนุษย์ เราได้คิดค้นวิธีต่างๆ ของการสร้างความไว้วางใจด้วยการ ติดตามข้อมูลและการทำธุรกรรม เช่นใครเป็นเจ้าของฟาร์มนี้? ฉันติดหนี้ค่านมคุณเท่าไหร่? กฎหมายของที่ดินคืออะไร? มนุษย์เริ่มใช้เปลือกหอยหรือหินที่มีค่า เพื่อติดตามธุรกรรม และสิ่งเหล่านี้กลายเป็น สกุลเงินรูปแบบแรก ขณะที่เราเปลี่ยนแปลงจากชนเผ่า สู่หมู่บ้าน สู่เมือง เราจำเป็นต้องติดตามทรัพย์สิน และมีกฎหมาย สิ่งนี้นำไปสู่การประดิษฐ์ตัวเลข และการเขียนในยุคแรก ไม่น่าเชื่อเหรอ? เราไม่ได้ประดิษฐ์ตัวเลขเพื่อวิชาคณิตศาสตร์ เราไม่ได้ประดิษฐ์ตัวอักษร เพื่อเขียนหนังสือ เราคิดค้นพวกมันเพื่อติดตามที่ดิน ทำปศุสัตว์ ติดตามหนี้และภาษี และแน่นอนว่าเรามาไกลมาก จากตอนนั้น เงินมีวิวัฒนาการมาจากเปลือกหอย สู่เหรียญ ธนบัตร ไปจนถึงข้อมูลดิจิทัล การเขียนมีวิวัฒนาการมาจากการใช่เม็ดดิน วาดลงบนกระดาษ สู่รูปแบบดิจิทัล พร้อมกับการประดิษฐ์ตัวเขียนและตัวเลข เรายังได้คิดค้น วิธีใหม่ในการสร้างความไว้วางใจ เพราะวิธีการเก็บรักษาบันทึกทั้งหมดนี้ ยังคงขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ นั่นคือเหตุผลที่ กฎหมายของแผ่นดินถูกบัญญัติไว้บนหิน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเปลี่ยนมันได้ แต่คุณจะ ไว้วางใจได้อย่างไร แม้จะถูกเขียนไว้บนหินก็ตาม ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีเม็ดดินเหนียว ที่บอกว่าคุณเป็นเจ้าของวัว 100 ตัว แต่เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคุณไม่ได้สร้างตัวเลขนั้นขึ้นมาเอง? นั่นเป็นเหตุผลที่เราคิดค้น ตราประทับที่เชื่อถือได้ และลายเซ็น และด้วยสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ เราอนุญาตและให้ความไว้วางใจของเรา ในกลุ่มคนจำนวนจำกัด องค์กร หรือรัฐบาล ด้วยอำนาจพิเศษในการตรวจสอบบันทึกของเรา และนั่นคือสิ่งเดียวที่ไม่เคย เปลี่ยนแปลงมาหลายพันปี และเทคโนโลยีใหม่ๆ ระบบเหล่านี้จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อ เราเชื่อมั่นในองค์กร และหน่วยงานที่ตรวจสอบบันทึก และสิ่งนี้นำเรากลับไปที่บล็อกเชน บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีแรก ที่ทำให้เราสามารถบันทึกข้อมูลได้ โดยไม่จำเป็นต้อง ไว้วางใจอำนาจส่วนกลาง เป็นวิธีดิจิทัล เพื่อจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูล ซึ่งฝังอยู่ในหิน โดยไม่ต้องใช้หิน หรือในซีลหรือธนาคารหรือรัฐบาล ข้อมูลในบล็อกเชนจะถูกบันทึก บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบกระจายตัว ตราบใดที่คอมพิวเตอร์เหล่านี้ ได้รับการจัดการโดยอิสระ ตามทฤษฎีแล้ว ไม่มีบุคคลหรือองค์กรใด สามารถทำลายเครือข่ายหรือฉ้อโกงเครือข่ายได้ มันเหมือน รูปแบบการเขียน ที่ไม่สามารถปลอมแปลงหรือทำลายได้ ทำให้เกิดความไว้วางใจในรูปแบบใหม่ การใช้งานครั้งแรกคือบิทคอยน์ บิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัล ที่ติดตามธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย และเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องไว้วางใจ ในธนาคารหรือรัฐบาลใดๆ แต่นั่นเป็นเพียงตัวอย่างเดียวเท่านั้น เราอาจใช้บล็อกเชน เพื่อติดตามความเป็นเจ้าของ ของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างสัญญา เพื่อรับรองความถูกต้องของเอกสาร และเพื่อตรวจสอบ เอกสารที่ถูกสร้างขึ้นในวันที่กำหนด ตอนนี้เป็นไปได้ในทางทฤษฎี เพื่อทำสิ่งเหล่านี้และสิ่งอื่นๆ มากมาย โดยไม่ขึ้นกับระบบแบบเดิมๆ ของความไว้วางใจ เทคโนโลยีบล็อกเชน ยังมีหนทางอีกยาวไกล ในการเติมเต็มศักยภาพ และอนาคตของมัน เป็นหัวข้อถกเถียงกันเป็นประจำ บางคนเชื่อว่านี่คืออนาคต ด้วยศักยภาพ ในประชาธิปไตยว่าใครมีอำนาจ ในสังคมมนุษย์ บางคนคิดว่าเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ โดยไม่มีจุดประสงค์อื่น ในส่วนที่เหลือของวิดีโอชุดนี้ จะดูว่าเทคโนโลยีนี้ทำงานอย่างไร จากนั้นเราจะสำรวจ มุมมองที่แตกต่างกัน