สวัสดีค่า วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ จำกันได้ไหมคะ? ตอนที่วิวพาไปรื้อกรุหนังสือเก่า หนังสือมัทนะพาธาฉบับพิมพ์ครั้งแรก ตอนนั้นวิวสัญญากับทุกคนไว้ว่า วิวเข้าไปมีส่วนร่วมกับ นิทรรศการมหาวชิราวุธบรรณาลัย ใช่ไหมคะ? ดังนั้นช่วงเวลาเนี้ย ช่องเราจะเต็มไปด้วย เรื่องราวเกี่ยวกับรัชกาลที่ 6 ค่ะ วันนี้ก็เป็นอีกคลิปนึงนะคะ ที่เกี่ยวข้องกับคลิปนั้นค่ะ คือ เห็นชุดไทยตอนนี้ไหมคะทุกคน? จำได้ไหม? ตอนที่วิวพาไปดูนิทรรศการ ตอนนั้นเนี่ย วิวได้บอกไว้ว่า เราได้มีการออกแบบคาร์แรคเตอร์ดีไซน์ เอาเจ้าหญิงในวรรณคดีของรัชกาลที่ 6 ทั้งหมด 6 นางนะคะ ออกมา redesign ใหม่ ดังนั้นวันนี้เราจะพูดถึง 1 ใน 6 นางนั่นละค่ะ ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้ดูคลิปนั้นนะคะ ยังไม่เก็ตว่านิทรรศการทั้งหมดนี้คืออะไร ก็สามารถกดไปดูได้ตรงนี้เลยนะคะ วิวใส่ไว้ให้แล้วเรียบร้อยค่ะ และที่สำคัญนะคะ อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ เพราะว่าแต่ละช่องทางเนี่ย ก็จะมีคลิปวิดีโอสนุกๆ แล้วก็ข่าวสารดีๆ จากช่อง Point of View มาให้ติดตามกันค่ะ สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟัง เรื่องราวของเจ้าหญิงองค์แรกของเราหรือยังคะ? ถ้าพร้อมกันแล้วก็ ไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็มีสาระพร้อมๆ กันเลยค่ะ ไป! พูดมาตั้งนานนะคะ ยังไม่ได้บอกทุกคนเลยว่า เจ้าหญิงองค์แรกของเราคือใคร! เจ้าหญิงองค์แรกของเราในวันนี้นะคะ ก็คือ นางอุษา นั่นเอง ซึ่งพอพูดถึงชื่อนางอุษาเนี่ย หลายคนจะงงว่าแบบ "เอ้ นางอุษาเป็นใคร? มาจากไหน? ไม่เห็นรู้จักเลย อยู่ดีๆ ก็ดึงขึ้นมาเล่า ไม่เห็นดังเลย" แต่จริงๆ แล้วนะคะ ถ้าเราพูดถึงแฟนของนางเนี่ย เชื่อว่าแทบทุกคน เคยได้ยินชื่อกันหมดเลยค่ะ แฟนของนางก็คือท้าวแสนปมนั่นเอง "อ้าว ท้าวแสนปมที่เราได้ยินกันในนิทาน ในตำนานอะไรต่างๆ เป็นพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 6 ด้วยเหรอ?" ก็ต้องบอกว่า ใช่ค่ะ จริงๆ แล้วเรื่องท้าวแสนปมเนี่ยนะคะ เป็นตำนานเก่าแก่ที่เล่าสืบทอดกันมาค่ะ ซึ่งจริงๆ ในตำนานนะคะ เล่าไว้ประมาณว่า มีกษัตริย์องค์นึง ปกครองเมืองนึงอยู่ ปรากฏว่าแพ้ศึกสงคราม ก็เลยต้องย้ายเมือง ไปตั้งที่เมืองนึงแถวเมืองกำแแพงเพชร อะ อันนี้อ้างอิงกับสถานที่จริงด้วยนะ คือมันเป็นตำนาน เขาก็ต้องพยายามทำให้จริงที่สุดใช่ไหมคะ? ตั้งอยู่ที่บริเวณเมืองกำแพงเพชร ตั้งชื่อเมืองว่าเมืองไตรตรึงษ์ บังเอิญว่ากษัตริย์องค์นี้มีลูกสาวสวยมาก และลูกสาวนี่ก็ชอบกินมะเขือสุดๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องชอบกินมะเขือน่ะนะ ซึ่งบังเอิญว่าในสวนเนี่ย ดันมีคนๆ นึงเป็นแบบ เป็นโรคแสนปมอะ เป็นแบบ ปุ่มปมทั้งตัว ว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ บังเอิญว่าเขาปลูกมะเขือนะ แล้วบังเอิญว่าไอ้มะเขือของนายแสนปมคนเนี้ย ลูกโตผิดปกติค่ะ คือสวยมาก เพราะว่าอะไร? เพราะว่าคนอื่นเนี่ย เขารดด้วยน้ำ แต่นายแสนปมอะ ชอบไปฉี่รดต้นมะเขือ พอฉี่ๆ รดๆ ไป ลูกมันก็เลยเหมือนได้ปุ๋ยอะ ลูกโตขึ้นมาปุ้มๆๆ นะคะ ดังนั้นด้วยความที่รู้กิตติศัพท์ว่า พระธิดาชอบกินมะเขือ นายแสนปมก็เลยเอาผลมะเขือเนี่ย ไปถวายพระธิดาเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งตามสเต็ปของนิทานไทยทั่วไปนะคะ พอพระธิดาเสวยมะเขือเข้าไปเนี่ย ก็จะต้องตั้งท้องค่ะ เพราะว่ามะเขือนี่ มีฉี่อยู่ข้างในอะนะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตรรกะอะไร แต่เอาเป็นว่า คนสมัยก่อนเขาคงไม่ได้นึกถึงฉี่ในฐานะฉี่อะ เขาน่าจะนึกถึงอย่างอื่นนะจ้ะ ซึ่งก็เข้าใจกันเองละกันนะว่ามันคืออะไร ประมาณนั้นค่ะ พอพระธิดาตั้งท้องเนี่ย ปรากฏว่าคลอดลูกออกมา กษัตริย์เมืองเมืองไตรตรึงษ์นะคะ ก็รู้สึกว่าแบบ อับอายขายขี้หน้ามาก ลูกท้องไม่มีพ่อ โอ้ย แย่แล้ว ฉันจะต้องหาพ่อมารับผิดชอบ ดังนั้นนะคะ กษัตริย์เมืองเมืองไตรตรึงษ์ก็เลย จัดพิธีหาคู่ให้พระธิดาค่ะ บอกว่า "อะ ทุกคนในเมือง เอาอาหารมาสิ แล้วเดี๋ยวชั้นจะตั้งสัตย์อธิษฐานนะ ถ้าใครเป็นพ่อของลูกในท้องพระธิดาเนี่ย ให้เด็กคนเนี้ย รับอาหารจากคนนั้นเท่านั้น" ซึ่งคนอื่นในเมืองนะคะ ก็เอาอาหารอะไรน่ากินๆ มาเต็มไปหมดเลย เพราะว่ากะว่าถ้าได้เมียเป็นพระธิดาเนี่ย ชั้นก็จะต้องได้เข้าไปเป็น royal family ไง! ประมาณนั้นนะคะ ปรากฏว่าพระโอรสเนี่ย ไม่สนใจอาหารในมือใครเลย กลับไปสนใจอาหารอย่างเดียวค่ะ คือก้อนข้าวเย็นๆ แบบข้าวก้นหม้ออะ ของนายแสนปมนะคะ ทำให้พระราชาเมืองไตรตรึงษ์เนี่ย โกรธมาก อับอายขายขี้หน้า แบบ "โอ้ ลูกชั้น จะเลือกแฟนทั้งที เลือกแบบนี้มาได้อย่างไร" นะคะ ดังนั้นกษัตริย์เมืองไตรตรึงษ์ก็เลย ไล่พระธิดาออกจากเมืองค่ะ พอไล่ออกไปแล้วนะคะ นายแสนปม พระธิดา แล้วก็พระโอรสที่เพิ่งเกิดใหม่เนี่ย ก็ลำบากยากแค้นอยู่ในป่า จนกระทั่งพระอินทร์รู้สึกสงสารค่ะ พระอินทร์ก็เลยเหาะลงมานะคะ แปลงร่างเป็นลิงค่ะ แล้วก็เอากลองมาให้ใบนึง แล้วก็จากไปนะคะ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมนายแสนปมถึงรู้ฟังชั่นของกลองนี้นะ คือนายแสนปมเนี่ย ก็หยิบกลองนั้นขึ้นมา แล้วก็ตี แล้วระหว่างที่ตีเนี่ยก็ขอพรไปด้วย ประมาณว่า "ขอให้ปุ่มปมของชั้นหายไปจากตัว" ปึ้งๆๆ นะคะ ปรากฏว่านายแสนปมปุ่มปมหายไปเกลี้ยงเลยค่ะ แล้วก็กลายเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลานะคะ หลังจากนั้นนายแสนปมก็เลยเหมือน get ว่ากลองใช้ยังไง ก็เลยตีต่อค่ะ ก็ตีปึ้งๆๆ แล้วก็อธิษฐานขอเมือง ขออะไรนะคะ ดังนั้นกลองก็เลยเนรมิตเมืองให้ ใหญ่โตมโหฬารค่ะ นายแสนปมกับพระธิดา แล้วก็พระโอรสเนี่ยนะคะ ก็เลยเข้าไปปกครองเมืองนะคะ ซึ่งนายแสนปมเนี่ย ก็มีการสั่งให้คนทำอู่นะคะ อู่ อู่ที่เอาไว้เลี้ยงเด็กเนี่ย ทำจากทอง ขึ้นมาให้พระโอรสอยู่ค่ะ ดังนั้นพระโอรสก็เลยได้ชื่อว่า พระเจ้าอู่ทอง นั่นเอง นี่ก็คือตำนานที่เขาเล่าสืบต่อกันมา และทั้งหมดนี้คือการเกริ่น เรากำลังจะเข้าเรื่องราวเกี่ยวกับ พระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 ต่อจากนี้ค่ะ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเนี้ย ฟังดูเผินๆ ก็เหมือนตำนาน นิทานทั่วไป แต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวค่ะ ด้วยความที่ทรงเป็นนักเรียนโบราณคดี เป็นนักเรียนวรรณคดี และอะไรต่างๆ ด้วยนะ ท่านก็มีพระราชดำริค่ะ ประมาณว่า "เอ๊ ปกติพวกตำนานอะไรพวกเนี้ย ต่อให้มันเสริมเติมแต่งอะไรที่เป็นแฟนตาซีสุดๆ เนี่ยนะ มันก็จะต้องมีเค้าโครงเรื่องเดิมอยู่บ้าง ที่เป็นเค้าโครงทางประวัติศาสตร์ คือเหมือนกับว่าจริงๆ มีเรื่องในประวัติศาสตร์นิดเดียวอะ แต่ว่าคนไปเติม effect อะไรต่างๆ มากมาย ดังนั้นนะคะ พระองค์ก็เลยจัดการสืบค้นค่ะ เพราะว่าพูดถึงพระเจ้าอู่ทอง ก็เหมือนเป็นที่มาของคนไทยด้วยส่วนนึงใช่ไหมคะ? ดังนั้นค่ะ พระองค์ก็เลยสืบค้นนั่นนี่นู่น แล้วก็ตัดสินใจเอาเรื่องราวทั้งหมดเนี่ย มาทำให้ make sense ขึ้น เอาอะไรที่มันเป็นแฟนตาซีออกไป แล้วทำให้เรื่องราวเนี่ย สามารถเกิดขึ้นได้จริงนะคะ หลังจากนั้นนะคะ พระองค์ก็พระราชนิพนธ์ออกมาเป็นบทละครรำค่ะ ซึ่งบทละครรำเนี้ย ใช้เวลาพระราชนิพนธ์แป๊บเดียวเองนะคะ แค่ประมาณแบบ 6-7 วัน แค่นั้นเอง ในขณะที่พระองค์ทรงนำเสือป่า แล้วก็ลูกเสือชาวบ้านเนี่ยนะคะ เดินทางไกลค่ะ ไปที่สุพรรณบุรี เพื่อที่จะไปสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั่นเองนะคะ ในตอนนั้นพระองค์ก็พระราชนิพนธ์ออกมาค่ะ หลังจากนั้นก็ใช้เวลาขัดเกลาอยู่ประมาณซักเดือนนึง ก็ออกมาเป็นบทละครรำเรื่องท้าวแสนปมนี่แหละ ซึ่งเนื้อเรื่องเนี่ย น่าสนใจกว่าเมื่อกี้มากค่ะ ดังนั้นนะคะ หลังจากเกริ่นมาอย่างยาวนานแล้ว เราไปฟังบทละครรำเรื่องท้าวแสนปม พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กันดีกว่าค่ะ เรื่องราวของท้าวแสนปมทั้งหมดนะคะ เริ่มต้นขึ้นที่เมืองสองเมืองค่ะ เมืองแรกนะคะ มีกษัตริย์ชื่อว่าท้าวศิริไชยค่ะ ท้ายศิริไชยนี่ มีลูกชายสุดหล่ออยู่คนนึงนะคะ ชื่อว่าชินเสนค่ะ ซึ่งไม่ไกลจากเมืองของท้าวศิริไชยเนี่ย ดันมีอีกเมืองนึง ชื่อว่าเมืองไตรตรึงษ์ค่ะ ท้าวไตรตรึงษ์เนี่ย ก็มีลูกสาวนะคะ เป็นลูกสาวสุดสวย ซึ่งลูกสาวของท้าวไตรตรึงษ์เนี่ยก็คือ นางอุษา นางเอกของเราในวันนี้นั่นเอง แน่นอนนะคะว่าหนุ่มหล่อกับสาวงาม เมืองอยู่ใกล้ๆ กันเนี่ย ก็จะต้องมีความงามล่ำลือกันไปต่างๆ นานาใช่ไหมคะ? ความงามของนางอุษาค่ะ ล่ำลือออกไปที่นู่นที่นี่ที่นั่น ชินเสนได้ยินได้ฟังนะคะ รู้สึกว่า "โอ้ นี่แหละ ผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่เหมาะกับชั้น ชั้นอยากได้นางอุษามาเป็นเมียมากเลย" ชินเสนก็เลยไปบอกพ่อนะคะ แน่นอนว่าตามธรรมเนียม ท้าวศิริไชยก็จะต้อง ส่งคนไปสู่ขอนางอุษาให้กับชินเสนค่ะ ซึ่งท้าวไตรตรึงษ์เนี่ย ดันเป็นคนที่หยิ่งนะคะ ประมาณว่า "ไม่อะ แกไม่คู่ควรกับลูกสาวชั้นหรอก ทำไมชั้นต้องยกลูกสาวให้แกด้วย? อะ ชั้นมีเงื่อนไข อยากได้ลูกสาวชั้นใช่ไหม? ได้! แต่เพื่อเป็นการแลกลูกสาวชั้นเนี่ย เมืองของท้าวศิริไชยจะต้องยอมมาเป็นเมืองขึ้นของเมืองชั้น" อู้หู ถามว่าแค่แต่งสาว ต้องไปเป็นเมืองขึ้น ใครจะยอม? นะคะ ดังนั้นค่ะ ฝั่งท้าวศิริไชยก็เลยล้มดีลทิ้งนะคะ แต่ว่าชินเสนอยากได้ไง ชินเสนอยากได้นางอุษา ก็เลยมีความสงสัยขึ้นมาค่ะ ประมาณว่า "เอ๊ นางอุษาเนี่ยมันจะสวยขนาดไหน? ทำไมถึงต้องแบบ ขนาดจะต้องยอมเป็นเมืองขึ้น เพื่อที่จะได้เป็นผัวนางเลยเหรอ?" ดังนั้นนะคะ ชินเสนก็เลยบอกท้าวศิริไชยค่ะ บอกว่า "ขออนุญาตแอบไปดูหน้านางอุษาได้ไหม?" แล้วสัญญาว่า จะไปยังไงก็ได้ไม่ให้เสียชื่อพ่อ คือไม่ให้เขารู้หรอก ว่าเราแอบไปดูนะคะ ซึ่งท้าวศิริไชยก็โอเคค่ะ ชินเสนก็เลยออกจากเมืองไปนะคะ ไปถึงก็ไปตั้งกองทัพอยู่ใกล้ๆ เมืองค่ะ แล้วก็บอกว่า "อะ ชั้นจะไปแค่คนเดียวนะ คนอื่นไม่ต้องตามมา" ว่าแล้วนะคะ ชินเสนก็จัดการปลอมตัวค่ะ ด้วยการเอาเสื้อผ้าเก่าๆ ปอนๆ มาใส่นะคะ แล้วก็หยิบพวกผงฝุ่นสีอะไรต่างๆ มาแต้มตามตัวค่ะ ทำให้เหมือนแบบว่าสกปรก ไม่อาบน้ำ แล้วก็ตามตัวเป็นปุ่มเป็นปมทั้งตัวเลย เหมือนคนเป็นโรคท้าวแสนปม ประมาณนั้นค่ะ ว่าแล้ว ชินเสนก็เข้าไปในเมืองนะคะ ตามสเต็ปพระเอกนิทานไทยเลยทุกคน คิดว่าเข้าไป จะเข้าไปในวังเลยไหม? ต้องบอกว่า ไม่ค่ะ เข้าไปก็ต้องไปอยู่ที่ สวนนั่นเอง ไปถึง ชินเสนก็ไปหาตาที่เฝ้าสวนนะคะ แล้วก็แบบ "ตาจ๋า ขออยู่ด้วยได้ไหม? ชั้นเป็นคนกำพร้า ระเหเร่ร่อนมาตรงนี้ ชั้นก็อยากมาอยู่กับตาด้วยนี่แหละ" ซึ่งในที่สุดนะคะ ตาก็ยอมค่ะ ชินเสนก็เลยอยู่ช่วยงานตาในสวน ตั้งแต่นั้นมานะคะ หลังจากนั้นไม่นานค่ะ แน่นอนว่าพระธิดาทุกเมืองชอบไปเที่ยวที่ไหน? มีที่เดียวให้ไปเที่ยวได้ ที่นั่นก็คือ ที่สวนนั่นเอง เห็นได้ชัดว่าชินเสนเนี่ยวางแผนมาอย่างดี ประมาณว่า ยังไงพระธิดาก็ต้องมาสวนนะคะ ซึ่งพระธิดาเนี่ย พอมาที่สวน ก็มาเก็บดอกม้งดอกไม้อะไรต่างๆ ตามปกติ และแน่นอนว่าก็ต้องมาเล่นน้ำด้วยนะคะ พระธิดาก็มาเล่นน้ำอยู่กับนางกำนัลค่ะ เล่นน้ำ อาบน้ำกัน ชินเสนได้ข่าวว่าพระธิดามา ไปแอบดู น่ะ ความเจอกันครั้งแรก ก็ไปแอบดูเขาอาบน้ำแล้วนะทุกคน ก็ไปแอบดูพระธิดาอาบน้ำนะคะ ก็นั่งจ้องอย่างเงี้ย "อือหืม สวย เออ สวยๆๆ" ประมาณนั้น จ้องไปจ้องมา จ้องจนพระธิดาแบบ "อินี่ใคร?! มาจ้องชั้นอาบน้ำ?!" คือปกติเนี่ย พวกไพร่เนี่ยนะคะ มีสิทธิ์ที่ไหนมานั่งมองพระธิดา เขามีแต่แบบ ต้องหลบตา ต้องหมอบ ต้องกราบ อะไรอย่างนี้ ก็เลยให้คนไปถามว่าเป็นใคร ชินเสนก็บอกไปว่า "โอ้ย ขั้นก็เป็นผู้ช่วยคนดูแลสวนนี่แหละ ไม่มีอะไรหรอก เก็บดอกไม้มาถวายพระธิดาจ้ะ" ทำนองนั้นนะคะ ซึ่งพระธิดาก็มีความแบบว่า สายตาคมมาก คือถ้าเป็นสมัยปัจจุบันนี้ น่าจะสามารถไปทำงานแบบแคสติ้งดาราได้เลยนะ คือพระธิดาอะ มองหน้าชินเสน แล้วมองเข้าไปในตานะคะ แล้วก็รู้สึกว่า "อืม! ไอ้นี่มันไม่ใช่ไพร่แน่นอน ดูสายตามันสิ ปกติเนี่ย คนเห็นชั้น กลัวจะเป็นจะตาย ตัวสั่น หมอบกราบ ไอ้นี่นอกจากจะไม่ไหว้ชั้นแล้วเนี่ย ตามันเนี่ยนะ ยังแบบ ตาคมอะ ตาเป็นประกาย มันจะต้องเป็นลูกผู้ลากมากดีปลอมตัวมาแน่เลย เผลอๆ จะต้องเป็นถึงขั้นเจ้าชายแน่ๆ เลย ดังนั้นพระธิดานะคะ ก็เลยมีความอ่อยเบาๆ ด้วยการบอกว่า "อะ เหรอจ้ะ นับถือชั้นเหรอ? งั้นชั้นชอบกินผักอะ เธอก็ช่วยเก็บพวกผลหมากรากไม้ ส่งเข้าไปให้ชั้นที่วังด้วยก็แล้วกันนะ ชั้นไปละ" ว่าแล้วนะคะ พระธิดาก็สะบัดก้น กลับวังไปค่ะ ปรากฏว่าคุณชินเสนของเรานะคะ พอได้รับมิชชั่นว่าให้ส่งผักเข้าไปในวังเนี่ย ก็เหมือนจะรู้ขึ้นมาค่ะว่า "อุ้ย สาวเล่นด้วย สาวเล่นด้วย" นะคะ ดังนั้นค่ะ ชินเสนก็เลยจัดการ เอาพวกผักต่างๆ นะคะ จัดใส่ตะกร้าไปอย่างดีค่ะ แล้วก็เอาผลมะเขือเนี่ยนะคะ ซึ่งมันผักที่แบบ ค่อนข้างจะแข็งใช่ปะ เอามาแล้วก็แกะสลักค่ะ คำกลอนลงไป เป็นเพลงยาวเพื่อจีบสาวนะคะ คิดดูว่าชินเสนต้องมีความสามารถเบอร์ไหนนะคะ คิดสภาพคนปกติเนี่ย แค่แต่งกลอนเป็นเพลงยาวก็ยากแล้ว แค่แกะสลักผักให้เป็นลายก็ยากแล้ว นี่แต่งกลอนจีบสาวยาวเหยียด แล้วก็แกะสลักลงไปบนผักด้วยนะคะ ปรากฏว่าชินเสนนะคะ ก็เอาตะกร้าเนี้ย ถวายขึ้นไปให้พระธิดาค่ะ พระธิดาก็เอาผักมาดู ประมาณว่า "อุ้ย ไหน ส่งผักมา มีอะไรบ้างนะ" รื้อๆๆ แอบซ่อนของอยู่ตรงไหนรึเปล่า จีบชั้นไหม? น่ะ นางอุษาของเราเนี่ย ก็มีความอ่อยนะคะ อ่อยตลอดเรื่องเลย บอกเลย นางก็มีความรื้อๆ โอ๊ะ ก็ไปเจอมะเขือค่ะ หยิบมาอ่าน เนอะ จีบชั้นด้วย แบบ "สวัสดีอุษา ชั้นน่ะชอบเธอมานานแล้ว" อู้หู ยิ่งมั่นใจใหญ่เลยนะคะ ว่านี่ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ คนธรรมดาที่ไหนจะมาแต่งกงแต่งกลอนได้ จะแกะสลักได้เบอร์นี้ แล้วกล้าจีบชั้นอีก นะคะ ดังนั้นอุษานะคะ ก็เลยมีความส่งเพลงยาวตอบไปค่ะ พอตอบกลับมาเท่านั้นแหละ ชินเสนแบบ "สาวเล่นด้วยๆ" ดังนั้นคืนนั้นนะคะ ชินเสนก็เลยไปที่ปราสาทของนางอุษาค่ะ ซึ่งบังเอิญว่าตอนนั้นเนี่ย นางอุษาก็กำลังเหมือนกับเปิดหน้าต่างชมจันทร์อยู่พอดี แล้วก็สิ่งที่บ่นนะคะ บอกเลยว่า อ่อยมากๆ ค่ะทุกคน เพราะว่าสิ่งที่นางอุษาบ่นก็คือ "เฮ้อ เมื่อไรชั้นจะมีแฟนกับเขาบ้างนะ เนี่ยดูซิ นางเอกเรื่องอื่นเขาก็มีเทพมาอุ้มสม อุ้มผู้ชายมาให้ถึงห้องนอน คนอย่างชั้นไม่เห็นมีบ้างเลย" ดูเขาบ่นนะคะทุกคน ปรากฏว่าพอบ่นอย่างนั้นนะคะ ชินเสนก็เลยแสดงตัวค่ะ ชินเสนที่แบบ ตอนนี้ล้างพวกสิ่งสกปรกออกไปหมดแล้ว แล้วแต่งตัวแบบเริ่ดเต็มที่นะคะ ก็แสดงตัว ประมาณว่า "เฮลโหล ชั้นเนี่ยชินเสน ชั้นน่ะชอบเธอ ชั้นก็เลยมาจีบเธอนะ ชั้นไม่ใช่ไพร่แบบที่เธอเข้าใจนะ จริงๆ ชั้นเป็นเจ้าชายนะจ้ะ จังหวะนั้นนะคะ ชินเสนก็ปีนเข้าห้องนอนนางอุษาไปแล้วเรียบร้อยค่ะ ทั้งสองคนก็มีการคุยกันต่างๆ นานานะคะ นางอุษาก็มีความแบบ "เอ้า ชอบชั้น ก็ให้คนมาขอซิ มาปีนห้องนอนชั้นได้ยังไง" นะคะ ฝั่งชินเสนก็บอกว่า "ใครว่าชั้นไม่ได้ขอ ชั้นเคยขอแล้วจย้า พ่อเธอน่ะไม่ยกให้" นางอุษานะคะ ก็มีความตอบกลับอีกนะคะ ซึ่งบทนี้เป็นบทที่เด่นมากๆ ขออนุญาตอ่านให้ฟังค่ะ เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่ามาจากเรื่องท้าวแสนปมนะคะ บทนี้เขียนว่า ในลักษณ์นั้นว่าน่าประหลาด เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า เหตุไฉนย่อท้อรอรา ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที เห็นแก้วแวววับที่จับจิต ไยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่ เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนไป่จะได้ฤา มิใช่ของในตลาดที่อาจซื้อ ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง คงชวดดวงบุปผชาติสะอาดหอม ดูแต่ภูมรินเที่ยวบินดอม จึ่งได้ออมอบกลิ่นสุมาลี เนื้อหาประมาณว่า ชอบก็จีบชั้นซิจ้ะ แหม มาแบบว่า ชอบก็ใช้ความพยายามหน่อยซิจ้ะ ชอบก็จีบเลย ชอบก็จีบเลยซิ ชูวั่บๆ อะเพลงเก่าอีก นะคะทุกคน อารมณ์ประมาณนั้น ประมาณว่า "ชอบ เธอก็ใช้ความพยายามซิ จะมาแบบว่า ปีนหงปีนห้องชั้นแบบนั้นได้ยังไง ไปทำให้มันถูกต้อง" นะคะ อย่างไรก็ตาม ชินเสนก็ปากหวานน่ะนะ คุยไปคุยมา สรุปก็... นั่นแหละค่ะ ถึงห้องนอนแล้วก็น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะนะ ปรากฏว่าหลังจากนั้นนะคะ ทั้งคู่ก็เป็นแฟน จู๋จี๋ๆ กันค่ะ อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปไม่นานนะคะ บังเอิญค่ะ พวกกองทงกองทัพที่อยู่ข้างนอกเนี่ย ส่งสารลับมาหาชินเสนนะคะ บอกว่า "พ่อเนี่ยป่วยอยู่ที่เมือง หยุดอยู่กับสาวได้แล้ว ต้องกลับไปรีบดูพ่อนะ" นึกสภาพรัชทายาทอยู่นอกเมือง พระมหากษัตริย์ป่วยก็ต้องรีบกลับนะคะ จังหวะนั้นชินเสนไม่มีจังหวะเข้าไปลานางอุษาค่ะ ดังนั้นชินเสนนะคะ ก็เลยจัดตะกร้าผักอีกหนึ่งตะกร้าค่ะ แล้วก็จัดการเขียนบอกนางอุษาไปนะ ประมาณ "พ่อป่วยจย้า เดี๋ยวกลับมานะจ้ะ" อะไรทำนองนี้ แล้วก็ถวายขึ้นไปให้นางอุษาค่ะ ส่วนตัวเองก็รีบยกทัพกลับเมืองไปดูพ่อนะคะ ตัดภาพมาที่นางอุษาค่ะ ไม่รู้ว่าชินเสนไปดูพ่อนานแค่ไหนนะคะ แต่นางอุษาท้องค่ะ และที่สำคัญ ก็ท้องจนคลอดเลยนะคะ ทีเนี้ย ท้าวไตรตรึงษ์ พ่อของนางอุษา โกรธมาก โกรธปรี๊ดเลย ประมาณว่า "ใครมาทำลูกสาวชั้นท้อง!?" ก็แน่นอนว่าก็ต้องโกรธน่ะนะ ทีนี้ปัญหาก็คือ แล้วใครเป็นพ่อ? นะคะ ดังนั้นค่ะ ท้าวไตรตรึงษ์ก็เลยจัดการสร้างพิธีขึ้นมา แล้วก็เชิญทุกคนในเมืองเนี่ยเข้ามาที่วังนะคะ โดยบอกว่าให้เอาอาหารเนี่ย มาคนละหนึ่งอย่าง เพื่อที่ว่า ถ้าสมมุติเด็กกินอาหารจากมือใครเนี่ยนะ คนนั้นแหละเป็นพ่อของเด็ก ท้าวไตรตรึงษ์นะคะ จะยกนางอุษาให้เลย บังเอิญว่าตอนนี้ชินเสนอยู่ที่เมือง พ่อก็หายป่วยแล้วแหละ แต่ยังไม่กลับมาซะที ได้ยินข่าวค่ะ รู้สึกว่า อ้าว ชั้นจะพลาดแล้วจ้า ดังนั้นนะคะ ชินเสนก็เลยต้อง รีบเดินทางมาที่เมืองไตรตรึงษ์ค่ะ มาถึงก็รีบปลอมตัวเป็นท้าวแสนปมอีกรอบนึง เพราะว่าถ้ามาเป็นชินเสน เดี๋ยวจะต้องไปเข้าเงื่อนไขยกเมืองขึ้นให้ อะไรทำนองนั้นนะ ฝั่งนางอุษาค่ะ อยู่ในงานนะคะ คนนั้นคนนี้คนโน้นก็เอาอาหาร เอาขนมนมเนยอะไรดีๆ ทั้งหลาย มาให้ลูกชายลองค่ะ แต่ลูกชายของนางอุษาเนี่ย ไม่สนใจอะไรเลย ยกเว้นอย่างเดียวค่ะ ก็คือ ปั้นข้าวเย็นๆ ของคนที่ผิวเป็นตะปุ่มตะปม เป็นคนเฝ้าสวนนะคะ ทำให้ท้าวไตรตรึงษ์ค่ะ โกรธมาก ประมาณว่าแบบ "ไอ้ลูกไม่รักดี ผู้ชายดีๆ ทั้งเมือง ไปเอาไอ้นี่ได้ยังไง" นะคะ ท้าวไตรตรึงษ์ก็เลยไล่นางอุษากับลูกค่ะ บอกว่า "นังอุษา นังลูกไม่รักดี! อุ้มลูกของแกนะ แล้วพาผัวของแก แล้วออกจากเมืองชั้นไปเลย ชั้นรับไม่ได้!" ซึ่งชินเสนนะคะ จังหวะนั้นก็เลยปลอบนางอุษา บอกว่า "ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่สร้างเมืองให้เจ้าอยู่ ไม่ต้องอยู่หรอกเมืองนี้" ซึ่งพ่อของนางอุษานะคะ บังเอิญได้ยินค่ะ ก็มีความแบบ "แกน่ะนะ จะมาสร้างเมืองให้ลูกชั้นอยู่ แหม ปลอบกันได้แบบ วาดวิมานในฟ้า" นะคะ ดังนั้นชินเสนก็เลยบอกว่า "เดี๋ยวๆ เดี๋ยวสร้างให้ดูเอามะ ไม่เชื่อนะ เอากลองมาสิ เดี๋ยวชั้นตีกลองนะ ตีกลองเมื่อไรนะ รับรองว่ามีเมืองให้อยู่แน่นอนจย้า" ฝั่งพ่อของนางอุษานะคะ ก็ยังมีความไม่เชื่ออีก ประมาณว่า "เอาสิ ตีไปให้มือแหกเลย ตีไปก็ไม่มีเมืองเกิดขึ้นหรอก" ค่ะ ชินเสนนะคะ ก็เลยจัดการเอากลองมาค่ะ แล้วก็ตีๆๆ เป็นจังหวะแบบที่ เป็นรหัสที่ตกลงไว้กับเหล่าทหารค่ะ พวกกองทัพทหารที่ซ่อนอยู่นอกเมืองนะคะ ก็เลยออกมาหมดเลยค่ะ ยกกองทัพเข้ามาในเมืองค่ะ แล้วก็มารับชินเสนกับนางอุษา กลับไปอยู่ที่เมืองของตัวเองค่ะ และที่เมืองของตัวเองนะคะ ชินเสนก็ได้มีการสั่งให้ทำอู่ สำหรับเลี้ยงทารกใช่ไหม ให้กับลูกชายของตัวเองเนี่ย ได้อยู่ ดังนั้นทารกคนนี้ก็เลยได้ชื่อว่าอู่ทองนั่นเองค่ะ นี่ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดของนางอุษานะคะ นางเอกที่มีสายตาอันเฉียบคม ไม่แพ้นางรจนาของพระสังข์เลยนะ ที่สามารถมองออกได้ว่า "โอ้โห ผู้ชายหน้าตาโหงวเฮ้งแบบนี้ จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน" ค่ะ เป็นยังไงบ้าง พระราชนิพนธ์เรื่องแรกที่วิวเล่าให้ฟัง ยาวมากเลยนะคะทุกคน อย่างไรก็ตามค่ะ ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้ อย่าลืม กดไลค์ เป็นกำลังใจให้วิว แล้วก็กดแชร์ ชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ แล้วเดี๋ยวรอดูเรื่องราวเกี่ยวกับ มหาวชิราวุธราชบรรณาลัย เรื่องอื่นๆ ที่วิวจะนำมาเล่าให้ฟังในอนาคตนะคะ สำหรับวันนี้ ลาไปก่อนค่ะทุกคน บ๊ายบาย~ สวัสดีค่ะ นี่ พี่ฮ่องเต้ มีไรจะบอก เมื่อกี้อะ วางแผนดิบดีมากว่า เอากล้อง แบกขาตั้ง แบกทุกอย่างมาในห้องนี้ กะว่าจะมานั่งเล่า แล้วก็เกาะตัวละครน่ารักๆ เกิดไรขึ้น? เมื่อกี้เข้ามา เจอวิวนั่ง ดูอยู่ เตรียมข้อมงข้อมูล "เฮ้ย พี่ฮ่องเต้ มาช่วยถ่ายหน่อย ไม่มีใครถ่ายให้" พอเดินเข้า เรา "อ่า ได้เลย เดี๋ยวขึ้นมา" พอขึ้นมาปึ้บ "อะ เริ่มถ่ายกันเลยดีกว่า" เอากล้องมา ป้าบ! อุ่ย ลืมไมค์ไหมๆ - ไมค์มีๆ - ไม่ลืม ไมค์เอามา ขาตั้งกล้องแบกมา ใหญ่มาก โห่ ไม่ลืม ขาตั้งกล้องแบบ ใหญ่ สูงเท่าตัวเลย มันลืมการ์ด ดังนั้นก็ นั่นละค่ะ นั่นคือสาเหตุที่ เราอยู่ที่นี่แล้ว แต่เราเล่าที่บ้าน โชคดีที่มือถือมันโหด จ่ะ ปะ วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน - สวัสดีค่ะ - สวัสดีครับ