MED Cram
ครับ ขอต้อนรับสู่การบรรยายอีกหัวข้อหนึ่งของ MED Cram
เราจะมาพูดถึงอาการไอเรื้อรัง
ซึ่งจะใช้นิยามสำหรับใครก็ตามที่มีอาการไอต่อเนื่องมาแล้วอย่างน้อย 8 สัปดาห์
โดยทั่วไป สิ่งแรกที่คุณควรทำเมื่อพบอาการนี้ คือ คุณต้องทำการเอ็กซ์เรย์ทรวงอก เพื่อตรวจคัดกรองเรื่องการติดเชื้อ
มันจะเป็นปัญหาใหญ่มาก ถ้าคุณมีคนไข้ที่ติดเชื้อ ดังนั้นให้คุณสงสัยเลยว่ามีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับวัณโรค
ถ้าคุณสงสัยว่ามันอาจเกี่ยวกับปอดบวม ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่คุณต้องให้แพทย์เพื่อตรวจคัดกรองโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม สมมุติว่าผลการเอ็กซ์เรย์ทรวงอกเป็นปกติ สิ่งที่คุณต้องคัดกรองเพิ่มเติมเพื่อมั่นใจอีกอย่างหนึ่งคือ คนไข้ไม่ได้กำลังกินยาลดความดันโลหิตสูงที่อยู่ในกลุ่ม ACE inhibitor
ซึ่งยาเหล่านี้มักจะมีชื่อลงท้ายด้วยคำว่า "pril" เช่น แค็ปโตพริล ไลไซโนพริล อินาลาพริล รามิพริล เป็นต้น
ซึ่งยาในกลุ่ม ACE Inhibitor เหล่านี้สามารถก่อให้เกิดอาการไอได้โดยเกิดจากการเพิ่มขี้นของสารแบรดีไคนิน
ดังนั้น หากใครมีอาการไอเรื้อรังจนคุณต้องพยายามทำการทดสอบเพื่อหาสาเหตุ
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ต้องมั่นใจว่าคุณได้ทำการเอ็กซเรย์ทรวงอกเพื่อตรวจคัดกรองปัญหาการติดเชื้อ หลังจากนั้นก็ให้พิจารณาว่ายาที่พวกเค้ากำลังรับประทานอยู่นั้นไม่ใช่ยาในกลุ่ม ACE Inhibitor
ผมบอกได้เลยว่าประมาณร้อยละ 30 ของคนไข้ที่กินยากลุ่ม ACE Inhibitor จะมีอาการไอแห้งเรื้อรัง เอาล่ะ เมื่อคุณคัดกรองเรื่องพวกนี้ออกไปแล้ว ความเป็นไปได้อย่างอื่นคืออะไร
มาพูดถึงความเป็นไปได้กันดีกว่า มันมีความเป็นไปได้อยู่ 3 อย่าง ที่ผมมักจะมองหาเมื่อคนไข้มีอาการไอเรื้อรัง และสิ่งแรกที่ผมมักจะทำคือเริ่มจากเรื่องที่กล่าวไปเมื่อกี๊ ถ้าคุณต้องทำ
เอาล่ะ ถ้าคุณรู้ว่าคนไข้ติดเชื้อ ดูที่รูปเล็กๆ นี่นะ นี่คือหัว จมูก และปากนะ
คุณรู้แล้วว่าช่องโพรงนาสิกจะต่ำลงไปทางนี้ จากนั้นจะเจอลิ้น
ถ้าคนไข้มีอาการอักเสบจากภูมิแพ้เกิดขึ้นที่บริเวณนี้ จะมีการสร้างน้ำมูกจำนวนมาก และน้ำมูกเหล่านี้จะหลั่งออกมารวมกันจนเหนียวข้นและไหลลงไปที่คอส่วนหลัง
ซึ่งต่อมาจะเกิดกลไกที่ต้องกำจัดออกจากคอ ซึ่งเราเรียกว่าเสมหะไหลลงคอ หรือการอักเสบจากภูมิแพ้
เข้าใจนะ เสมหะไหลลงคอจากการอักเสบจากภูมิแพ้ แล้วอาการของมันคืออะไร มันก็คือการกำจัดเสมหะออกจากลำคอบ่อยไงล่ะ
ถ้าคุณมองไปที่คอส่วนหลัง จะเห็นว่าปุ่มเกิดขึ้นลักษณะคล้ายปุ่มหิน เรียกว่า Cobblestone
ซึ่งจะเกิดขึ้นเวลาที่คุณคันเปลือกตาหรือเกิดภูมิแพ้ คัดเปลือกตาเช่นกัน นึ่กออกนะ
ทีนี้ลองนึกถึงเวลาที่มีเสมหะไหลลงคือ หรืออาการอักเสบจากภูมิแพ้สิ
ผมพูดได้เลยว่าคนไข้ทุกคนที่มีอาการไอเรื้อรังนอกเหนือจากที่เราได้ตัดประเด็นการติดเชื้อไปแล้วนั้น
จะมีคนไข้อยู่ประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ที่ไอเรื้อรังจากสาเหตุนี้
ดังนั้น ถ้าคราวหน้ามีคนไข้มาด้วยเรื่องอาการไอเรื้อรังให้คิดถึงเรื่องนี้ด้วย
ว่ามันค่อนข้างจะเป็นไปได้ที่เราจะเจอคนไข้ที่มีเสมหะไหลลงคอ
แล้วการรักษาสำหรับอาการนี้คืออะไร? คุณต้องพยายามหาสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้
แต่สำหรับการรักษานั้น โดยทั่วไปก็จะใช้ยาสเตียรอยด์พ่นช่องจมูก ทันนะ?
คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อยาเนโซเน็กซ์ , Flonase, Astelin หรือ Astepro
ยาเหล่านี้ล้วนเป็นยาสเตียรอยด์พ่นช่องจมูก หรือลดอาการภูมิแพ้ทั้งนั้น ทันนะ?
อีกอย่างหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าเป็นการอักเสบจากภูมิแพ้คือมันมีอาการแค่อย่างเดียว
ดังนั้น อาจมีอะไรอย่างอื่นที่คุณสามารถใช้ได้ในการวินิจฉัยอาการไอเรื้อรัง
แต่ถ้าอาการมันเหมือนกับที่กล่าวมา ก็ดีเลย เอาล่ะ
ทีนี้มาต่อที่ความเป็นไปได้อย่างต่อไป จะมีอยู่ประมาณ 9% แต่แทนที่จะเกิดจากอวัยวะส่วนบนไปยังส่วนล่าง มันกลับเกิดจากอวัยวะส่วนล่างขึ้นสู่ส่วนบนแทน
คุณมีหลอดลม แต่ที่ติดอยู่กับหลอดลม จริงๆ คือติดอยู่หลังหลอดลมเลยคือหลอดอาหาร ซึ่งต่อไปยังกระเพาะ
แต่ถ้ามีอะไรไปขวางอยู่ในนั้น คุณจะมีอาการที่เรียกว่าโรคที่มีอาการซึ่งเกิดจากการไหลย้อนกลับของกรด หรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นไปในหลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ
บางครั้งมันเวลามันเกิด จะทำให้ระคายเคืองหลอดลม และเป็นสาเหตุของโรคที่เรียกว่าโรคกรดไหลย้อน (เกิร์ด)
แล้วเราจะดูได้ยังไงว่ามีกรดไหลย้อนเกิดหรือหรือเปล่า โรคกรดไหลย้อนจะมักจะเกิดและสัมพันธ์กับการไอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดกับคนอายุน้อย คุณยังไม่ต้องรีบแก่นะ
โดยทั่วไป สิ่งที่คุณจะพบคือรู้สึกเหมือนมีรสเปรี้ยวของกรดในตอนเช้า ลองลุกตัวสิ คุณจะรู้สึกดีขึ้นนิดนึง ทราบแล้วนะ 1. คือรู้สึกเหมือนมีรสรสเปรี้ยวของกรดในตอนเช้า
อ่า แน่นอนคุณต้องมีอาการของโรคกรดไหลย้อน นั่นก็คืออาการแสบร้อนกลางอก
อืม.. บางทีคุณอาจมีการถูกทำลายจากกรดเกิดขึ้นที่ด้านหลังของคอ หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ช่องปากของคุณอาจมีรอยแดง
หรือเมื่อเวลาส่องคออย่างที่แพทย์หูคอจมูกทำ จะเห็นว่ามันเป็นยังไง
แล้วอะไรคือวิธีการรักษาล่ะ? คุณสามารถใช้ยายับยั้งการหลั่งกรดกลุ่ม Proton Pump Inhibitor ได้
คุณสามารถไปซื้อที่ร้านขายยาได้ มันชื่อว่า Prilosec หรือจะใช้ยา Protonix Pantoprazole ก็ได้เช่นกัน เพราะยาในกลุ่มยับยั้งการหลั่งของกรดในกลุ่ม Proton Pump Inhibitor ก็มีอยู่หลายตัว
แต่อีกหลายวิธีที่ทำให้คุณยกหัวให้สูงขึ้นจากนอนได้ เช่น การใช้อิฐสองก้อนหนุนขาหัวเตียง ใบหน้าคุณก็จะยกสูงได้
ทางเลือกในการรักษาอีกอย่างหนึ่งคือหนุนเบาะสามเหลี่ยม (wedge) วัตถุประสงค์ในการใส่อุปกรณ์นี้ก็เพื่อรักษาสภาพศีรษะให้ยกสูงจากที่นอน ดังนั้น สิ่งผิดปกติจะไม่สามารถไหลย้อนขึ้นมาได้ และทำให้หลอดลมอยู่ในแนวดิ่ง
อีกอย่างที่ทำได้คืองดทานอาหารก่อนเอนนอน 3 ชั่วโมง และที่กระเพาะอาหารก็มีกล้ามเนื้อหูรูดอยู่
มีอยู่สองสามสิ่งที่เรารู้ว่าจะทำให้กล้ามเนื้อเปิดออก ซึ่งคุณต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด
สิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน คือ แอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารรสจัด และช็อคโกแล็ต
เอาล่ะ ถ้าดูแล้วว่ามันเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่คุณต้องพยายามไม่ทำ
ความเป็นไปได้อย่างสุดท้ายเป็นเรื่องที่พบบ่อย คือประมาณ 39% แล้วเหมือนจะเป็นกลุ่มหลักนั่นคือ โรคหอบหืด
คนไข้ไม่ได้มีเสียงฟืดฟาด พวกเขาแค่ไอ หรือบางทีรายอาจมีเสียงฟืดฟาดได้ บางรายก็ไม่มีแต่มีแค่อาการไอ ซึ่งก็อาจเป็นอาการของโรคหอบหืด อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
แล้วคนไข้กลุ่มนี้เป็นอย่างไร คนไข้จะมีอาการของโรคหอบหืดแต่แทนที่จะมีฟืดฟาดพวกเขาจะมีอาการไอแทน
ดังนั้นจึงต้องมีวิธีลดอาการ บางทีคนไข้อาจต้องลดใช้หมอนที่มีขนสัตว์ หรือลดการใช้สื่งอำนวยความสะดวกที่ทำจากขนสัตว์
นอกจากนี้ยังต้องงดหรือลดการให้มีสัตว์เลี้ยงในห้องนอน หรือลดสิ่งที่ก่อภูมิแพ้
ที่จริงแล้วคุณจะยังไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นอะไรจนกว่าจะได้ทำการตรวจสมรรถภาพปอด
เรามาดูการบรรยายของ MED CRAM เรื่องการทดสอบสมรรถภาพปอดเพื่อให้เข้าใจว่าโรคหอบหืดเป็นอย่างไร
นี่คือเวลาที่คนไข้หายใจเข้า
คนจะเห็นว่าคนไข้เป็นอย่างไร ถ้าคนไข้อาการแย่ลง คุณก็จะรู้ได้ว่าคนไข้
แล้วคนไข้ก็อาการดีขึ้น
ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็จะทราบว่าการทดสอบได้ผลบวก ซึ่งหมายถึงคนไข้เป็นโรคหอบหืดอย่างที่คุณคิด
นั่นคืออย่างเดียวกับการรักษาโรคหอบหืด
และคุณจะเห็นอาการคาบเกี่ยวกันระหว่างกลุ่มโรคเหล่านี้ ดังนั้น คุณต้องให้การรักษาที่ต่างกันไปในแต่ละกลุ่มโรค
ดังนั้น ครั้งต่อไปเมื่อมีคนไข้มาด้วยอาการไอเรื้อรัง ให้นึกถึงอาการไอที่สัมพันธ์กับโรคหอบหืดอย่างหนึ่ง
โรคกรดไหลย้อนอย่างหนึ่ง และโรคภูมิแพ้อีกอย่างหนึ่ง
ขอบคุณมากครับ
ดนตรีบรรเลง