WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:03.000 โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ 00:00:03.000 --> 00:00:06.000 เริ่มชีวิตของมัน 00:00:06.000 --> 00:00:08.000 ในเหมืองพื้นบ้าน 00:00:08.000 --> 00:00:10.000 ทางภาคตะวันออกของประเทศคองโก 00:00:10.000 --> 00:00:12.000 แร่ถูกขุดด้วยแก๊งติดอาวุธ 00:00:12.000 --> 00:00:14.000 ที่ใช้เด็กเป็นทาส 00:00:14.000 --> 00:00:16.000 เป็นแร่ที่คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ 00:00:16.000 --> 00:00:18.000 เรียกว่า "แร่เลือด" 00:00:18.000 --> 00:00:20.000 ต่อมามันเดินทางมาอยู่ในชิ้นส่วนประกอบ 00:00:20.000 --> 00:00:22.000 และลงเอยในโรงงานแห่งหนึ่ง 00:00:22.000 --> 00:00:24.000 ในเมืองเฉินจิ้น ประเทศจีน 00:00:24.000 --> 00:00:27.000 ลูกจ้างในโรงงานนี้กว่า 12 คนฆ่าตัวตายไปแล้ว 00:00:27.000 --> 00:00:29.000 เฉพาะปีนี้ปีเดียว 00:00:29.000 --> 00:00:32.000 ชายคนหนึ่งตายหลังจากทำงานไม่หยุด 36 ชั่วโมง 00:00:33.000 --> 00:00:35.000 เราทุกคนชอบช็อกโกแลต 00:00:35.000 --> 00:00:37.000 เราซื้อมันให้ลูกๆ 00:00:37.000 --> 00:00:40.000 ร้อยละ 80 ของโกโก้ทั่วโลกมาจากโคตดิวัวร์ (Cote d'Ivoire) และกานา 00:00:40.000 --> 00:00:43.000 เก็บเกี่ยวโดยเด็กๆ 00:00:43.000 --> 00:00:45.000 โคตดิวัวร์มีปัญหาใช้เด็กเป็นทาสเยอะมาก 00:00:45.000 --> 00:00:48.000 เด็กๆ มักจะถูกส่งตัวมาจากพื้นที่อื่นที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้ง 00:00:48.000 --> 00:00:51.000 ถูกใช้ทำงานในไร่กาแฟ 00:00:51.000 --> 00:00:53.000 เฮปาริน (Heparin) น้ำยาเจือจางเลือด 00:00:53.000 --> 00:00:55.000 ผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมตัวหนึ่ง 00:00:55.000 --> 00:00:58.000 กำเนิดในร้านช่างท้องถิ่น 00:00:58.000 --> 00:01:00.000 แบบนี้ในประเทศจีน 00:01:00.000 --> 00:01:02.000 เพราะส่วนประกอบที่สำคัญ 00:01:02.000 --> 00:01:05.000 มาจากไส้หมู 00:01:05.000 --> 00:01:08.000 เพชรของคุณ - ทุกท่านคงเคยได้ยินหรือได้ดูหนังเรื่อง "เพชรเลือด (Blood Diamond)" แล้ว 00:01:08.000 --> 00:01:10.000 นี่คือเหมืองเพชรในซิมบับเว 00:01:10.000 --> 00:01:12.000 ตอนนี้ 00:01:12.000 --> 00:01:14.000 ฝ้าย - อุซเบกิสถานคือผู้ส่งออกฝ้าย 00:01:14.000 --> 00:01:16.000 อันดับสองของโลก 00:01:16.000 --> 00:01:19.000 ทุกปีเมื่อมาถึงฤดูเก็บเกี่ยวฝ้าย 00:01:19.000 --> 00:01:21.000 รัฐบาลจะปิดโรงเรียน 00:01:21.000 --> 00:01:24.000 ไล่เด็กขึ้นรถเมล์ ส่งพวกเขาไปที่ไร่ฝ้าย 00:01:24.000 --> 00:01:27.000 บังคับให้เก็บฝ้ายตลอดเวลาสามสัปดาห์ 00:01:27.000 --> 00:01:29.000 นี่คือการใช้แรงงานเด็ก 00:01:29.000 --> 00:01:31.000 ในระดับสถาบัน 00:01:32.000 --> 00:01:35.000 และผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้อาจจะจบสิ้นวงจรชีวิต 00:01:35.000 --> 00:01:37.000 ในกองขยะหน้าตาแบบนี้ในมะนิลา NOTE Paragraph 00:01:37.000 --> 00:01:40.000 เมืองเหล่านี้ ที่มาทั้งหมดนี้ 00:01:40.000 --> 00:01:42.000 สะท้อนช่องว่างของธรรมาภิบาล 00:01:42.000 --> 00:01:44.000 นี่คือคำอธิบายที่นิ่มนวลที่สุด 00:01:44.000 --> 00:01:47.000 ที่ผมคิดได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ 00:01:47.000 --> 00:01:49.000 นี่คือทะเลมืด 00:01:49.000 --> 00:01:52.000 ที่ห่วงโซ่อุปทานโลกเริ่มต้น 00:01:52.000 --> 00:01:54.000 ห่วงโซ่อุปทานโลก 00:01:54.000 --> 00:01:57.000 ที่นำส่งสินค้าหลากยี่ห้อที่เราโปรดปราน 00:01:57.000 --> 00:02:00.000 ช่องว่างธรรมาภิบาลบางช่อง 00:02:00.000 --> 00:02:03.000 บริหารจัดการโดยรัฐเถื่อน 00:02:03.000 --> 00:02:05.000 บางรัฐไม่ใช่รัฐอีกต่อไปแล้วด้วย 00:02:05.000 --> 00:02:07.000 แต่เป็นรัฐล้มเหลว 00:02:07.000 --> 00:02:09.000 บางประเทศ 00:02:09.000 --> 00:02:12.000 เป็นแค่ประเทศที่เชื่อว่าการผ่อนปรนกฏเกณฑ์หรือการไร้ซึ่งกฏเกณฑ์ใดๆ 00:02:12.000 --> 00:02:15.000 คือวิธีที่ดีที่สุดในการดึงดูดเงินลงทุน 00:02:15.000 --> 00:02:17.000 และส่งเสริมการค้า 00:02:17.000 --> 00:02:19.000 รัฐทั้งสองแบบนี้ทำให้เราเผชิญกับ 00:02:19.000 --> 00:02:22.000 ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางศีลธรรมและจริยธรรมขนาดใหญ่ 00:02:23.000 --> 00:02:25.000 ผมรู้ว่าไม่มีใครหรอกที่อยากเป็นคนสมรู้ร่วมคิด 00:02:25.000 --> 00:02:28.000 หลังจากที่รู้แล้ว 00:02:28.000 --> 00:02:30.000 ว่าเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน 00:02:30.000 --> 00:02:32.000 ในห่วงโซ่อุปทานโลก 00:02:32.000 --> 00:02:34.000 แต่ ณ ขณะนี้ 00:02:34.000 --> 00:02:37.000 บริษัทส่วนใหญ่ที่มีส่วนในห่วงโซ่อุปทานที่ว่า 00:02:37.000 --> 00:02:39.000 ไม่มีวิธีอะไรเลย 00:02:39.000 --> 00:02:41.000 ที่จะทำให้เรามั่นใจว่า 00:02:41.000 --> 00:02:43.000 ไม่มีใครต้องจำนองอนาคตของตัวเอง 00:02:43.000 --> 00:02:46.000 ไม่มีใครต้องเสียสละสิทธิของพวกเขา 00:02:46.000 --> 00:02:48.000 ในการนำส่งสินค้า 00:02:48.000 --> 00:02:50.000 ยี่ห้อต่างๆ ที่เราโปรดปราน NOTE Paragraph 00:02:51.000 --> 00:02:53.000 ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำให้คุณหดหู่ 00:02:53.000 --> 00:02:56.000 เกี่ยวกับสถานการณ์ของห่วงโซ่อุปทานโลก 00:02:56.000 --> 00:02:58.000 แต่เราต้องเผชิญหน้ากับความจริง 00:02:58.000 --> 00:03:01.000 เราต้องตระหนักว่านี่คือปัญหาร้ายแรง 00:03:01.000 --> 00:03:04.000 ปัญหาการด้อยสิทธิ 00:03:04.000 --> 00:03:06.000 นี่คือสาธารณรัฐที่เป็นอิสระ 00:03:06.000 --> 00:03:08.000 อาจเข้าข่ายรัฐล้มเหลว 00:03:08.000 --> 00:03:11.000 ไม่ใช่รัฐประชาธิปไตยแน่ๆ 00:03:12.000 --> 00:03:14.000 และตอนนี้ 00:03:14.000 --> 00:03:16.000 สาธารณรัฐห่วงโซ่อุปทานที่เป็นอิสระนี้ 00:03:16.000 --> 00:03:18.000 ไม่มีใครกำกับดูแล 00:03:18.000 --> 00:03:21.000 ในทางที่จะทำให้เรามั่นใจว่า 00:03:21.000 --> 00:03:24.000 เราจะสามารถค้าขายหรือบริโภคอย่างมีศีลธรรม 00:03:25.000 --> 00:03:27.000 โอเค เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ 00:03:27.000 --> 00:03:29.000 คุณเคยเห็นภาพยนตร์สารคดีหลายเรื่อง 00:03:29.000 --> 00:03:31.000 เกี่ยวกับโรงงานนรกในอุตสาหกรรมสิ่งทอ 00:03:31.000 --> 00:03:34.000 ทั่วโลก แม้แต่ในประเทศพัฒนาแล้ว 00:03:34.000 --> 00:03:36.000 ถ้าคุณอยากเห็นโรงงานนรกแบบคลาสสิก 00:03:36.000 --> 00:03:38.000 ก็ไปเจอผมได้ครับที่ แมดิสัน สแควร์ การ์เด้น (Madison Square Garden) 00:03:38.000 --> 00:03:41.000 ผมจะพาคุณเดินไปดูโรงงานนรกของคนจีน NOTE Paragraph 00:03:41.000 --> 00:03:44.000 ลองดูเฮปารินเป็นตัวอย่าง 00:03:44.000 --> 00:03:46.000 นี่คือผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม 00:03:46.000 --> 00:03:49.000 คุณคงคาดว่าห่วงโซ่อุปทานที่นำส่งมันไปยังโรงพยาบาล 00:03:49.000 --> 00:03:52.000 จะสะอาดเอี่ยมไร้มลทิน 00:03:53.000 --> 00:03:55.000 ปัญหาคือส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ 00:03:55.000 --> 00:03:57.000 อย่างที่ผมพูดไปแล้ว 00:03:57.000 --> 00:03:59.000 มาจากหมู 00:03:59.000 --> 00:04:02.000 ผู้ผลิตรายใหญ่ในอเมริกา 00:04:02.000 --> 00:04:04.000 ที่ทำส่วนประกอบชนิดนี้ 00:04:04.000 --> 00:04:07.000 ตัดสินใจเมื่อไม่กี่ปีก่อนว่าจะย้ายโรงงานไปที่จีน 00:04:07.000 --> 00:04:10.000 เพราะจีนเป็นประเทศที่เลี้ยงหมูมากที่สุดในโลก 00:04:10.000 --> 00:04:12.000 ตอนที่โรงงานของพวกเขาในจีน 00:04:12.000 --> 00:04:15.000 ซึ่งก็คงจะสะอาดมากๆ 00:04:15.000 --> 00:04:17.000 รับซื้อส่วนประกอบทั้งหมด 00:04:17.000 --> 00:04:19.000 มาจากโรงฆ่าสัตว์หลังบ้านของคนจีน 00:04:19.000 --> 00:04:21.000 ที่ครอบครัวเชือดหมู 00:04:21.000 --> 00:04:24.000 และสกัดเอาส่วนผสมนี้ออกมา 00:04:24.000 --> 00:04:26.000 เมื่อสองสามปีก่อน เกิดกรณีอื้อฉาว 00:04:26.000 --> 00:04:28.000 มีคนตายประมาณ 80 คนทั่วโลก 00:04:28.000 --> 00:04:30.000 จากสารปนเปื้อน 00:04:30.000 --> 00:04:33.000 ที่ซึมเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานของเฮปาริน 00:04:33.000 --> 00:04:35.000 ที่แย่กว่านั้นคือ ซัพพลายเออร์ (supplier) บางราย 00:04:35.000 --> 00:04:39.000 ตระหนักว่าพวกเขาสามารถทดแทนผลิตภัณฑ์ 00:04:39.000 --> 00:04:42.000 ด้วยตัวอื่นที่สร้างผลเหมือนกับเฮปารินในการทดสอบ 00:04:43.000 --> 00:04:46.000 ผลิตภัณฑ์ตัวแทนนี้มีราคาเพียง 9 ดอลลาร์ต่อปอนด์ (ประมาณ 600 บาท/ก.ก.) 00:04:46.000 --> 00:04:49.000 ขณะที่เฮปาริน ส่วนประกอบที่แท้จริง 00:04:49.000 --> 00:04:52.000 มีราคา 900 ดอลลาร์ต่อปอนด์ (ประมาณ 6 หมื่นบาท/ก.ก.) 00:04:52.000 --> 00:04:54.000 เรื่องนี้ไม่ต้องคิดเลย 00:04:54.000 --> 00:04:57.000 ปัญหาคือมันฆ่าคนมากกว่าเดิม NOTE Paragraph 00:04:57.000 --> 00:04:59.000 ทีนี้คุณจะถามตัวเองว่า 00:04:59.000 --> 00:05:01.000 "ทำไมองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (U.S.FDA) 00:05:01.000 --> 00:05:03.000 ถึงปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนี้?" 00:05:03.000 --> 00:05:05.000 องค์การอาหารและยาของจีน 00:05:05.000 --> 00:05:07.000 ปล่อยเรื่องอย่างนี้ได้อย่างไร?" 00:05:07.000 --> 00:05:10.000 คำตอบนั้นเรียบง่ายมาก 00:05:10.000 --> 00:05:12.000 จีนได้ระบุประเภทโรงงานที่ผลิต 00:05:12.000 --> 00:05:15.000 ว่าเป็นโรงงานเคมี ไม่ใช่โรงงานเภสัชกรรม 00:05:15.000 --> 00:05:17.000 รัฐก็เลยไม่ตรวจสอบโรงงานเหล่านี้ 00:05:17.000 --> 00:05:19.000 ส่วนองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ 00:05:19.000 --> 00:05:21.000 ก็เจอปัญหาขอบเขตการกำกับดูแล 00:05:21.000 --> 00:05:23.000 เพราะโรงงานอยู่ในจีน 00:05:23.000 --> 00:05:25.000 ที่จริง องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ สอบสวนกรณีที่เกิดนอกประเทศ 00:05:25.000 --> 00:05:28.000 ประมาณ 12 เรื่องต่อปี อาจจะถึง 20 ในปีที่ดี 00:05:28.000 --> 00:05:30.000 มีโรงงานแบบนี้ 500 แห่ง 00:05:30.000 --> 00:05:32.000 ที่ผลิตสารทดแทนเฮปาริน 00:05:32.000 --> 00:05:35.000 เฉพาะในจีนเพียงประเทศเดียว 00:05:35.000 --> 00:05:38.000 อันที่จริง ประมาณร้อยละ 80 00:05:38.000 --> 00:05:40.000 ของสารประกอบหลักในยา 00:05:40.000 --> 00:05:42.000 ตอนนี้มาจากต่างประเทศ 00:05:42.000 --> 00:05:44.000 โดยเฉพาะจีนและอินเดีย 00:05:44.000 --> 00:05:47.000 และเราก็ไม่มีระบบธรรมาภิบาล 00:05:47.000 --> 00:05:49.000 เราไม่มีระบบกำกับดูแล 00:05:49.000 --> 00:05:51.000 ที่จะทำให้มั่นใจว่า 00:05:51.000 --> 00:05:53.000 การผลิตยานั้นปลอดภัย 00:05:55.000 --> 00:05:57.000 เราไม่มีระบบที่จะมั่นใจว่า 00:05:57.000 --> 00:05:59.000 สิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีขั้นพื้นฐาน 00:05:59.000 --> 00:06:01.000 จะได้รับการคุ้มครอง NOTE Paragraph 00:06:02.000 --> 00:06:05.000 ดังนั้น ในระดับชาติ 00:06:05.000 --> 00:06:07.000 และเราก็ทำงานในประมาณ 60 ประเทศ 00:06:07.000 --> 00:06:09.000 ในระดับชาติ 00:06:09.000 --> 00:06:11.000 เราเห็นการพังทลายย่อยยับของความสามารถของรัฐบาล 00:06:11.000 --> 00:06:14.000 ที่จะกำกับดูแลการผลิต 00:06:14.000 --> 00:06:17.000 บนแผ่นดินของตัวเอง 00:06:17.000 --> 00:06:19.000 ปัญหาที่แท้จริงของห่วงโซ่อุปทานโลก 00:06:19.000 --> 00:06:21.000 ก็คือมันเป็นห่วงโซ่ข้ามชาติ 00:06:21.000 --> 00:06:23.000 รัฐบาลที่กำลังเข้าสู่ภาวะล้มเหลว 00:06:23.000 --> 00:06:25.000 ที่กำลังปล่อยปละละเลย 00:06:25.000 --> 00:06:27.000 ในระดับประเทศ 00:06:27.000 --> 00:06:29.000 ยิ่งไม่สามารถรับมือกับปัญหา 00:06:29.000 --> 00:06:32.000 ระดับนานาชาติได้ 00:06:32.000 --> 00:06:34.000 ดูจากพาดหัวข่าวก็ได้ครับ 00:06:34.000 --> 00:06:37.000 อย่างที่โคเปนเฮเกน ปีที่แล้ว 00:06:37.000 --> 00:06:39.000 รัฐบาลต่างๆ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง 00:06:39.000 --> 00:06:41.000 ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง 00:06:41.000 --> 00:06:44.000 เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายระดับสากล 00:06:44.000 --> 00:06:47.000 หรือลองดูการประชุมจี 20 (G20) เมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็ได้ 00:06:47.000 --> 00:06:50.000 ถดถอยจากพันธกรณีที่ประกาศเพียงเมื่อไม่กี่เดือนก่อน 00:06:52.000 --> 00:06:54.000 คุณจะเลือกประเด็น 00:06:54.000 --> 00:06:57.000 ความท้าทายขนาดใหญ่ระดับโลก ประเด็นไหนก็ได้ที่เราคุยกันสัปดาห์นี้ 00:06:57.000 --> 00:07:00.000 และถามตัวเองว่า ไหนล่ะภาวะผู้นำจากรัฐบาล 00:07:00.000 --> 00:07:03.000 ที่จะก้าวออกมาและประกาศวิธีแก้ไข 00:07:03.000 --> 00:07:05.000 มาตรการรับมือ 00:07:05.000 --> 00:07:08.000 กับปัญหาสากลเหล่านี้? 00:07:08.000 --> 00:07:11.000 คำตอบสั้นๆ คือ พวกเขาทำไม่ได้ พวกเขาอยู่ระดับชาติ 00:07:12.000 --> 00:07:14.000 ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งอยู่ในประเทศ 00:07:14.000 --> 00:07:16.000 พวกเขามีผลประโยชน์เฉพาะเขตแดน 00:07:16.000 --> 00:07:18.000 พวกเขาตั้งผลประโยชน์เหล่านั้นเป็นรอง 00:07:18.000 --> 00:07:21.000 เอาสินค้าสาธารณะระดับนานาชาติเป็นหลักไม่ได้ NOTE Paragraph 00:07:21.000 --> 00:07:23.000 ดังนั้น ถ้าเราจะมั่นใจได้ว่าจะมี 00:07:23.000 --> 00:07:25.000 สินค้าสาธารณะสำคัญๆ 00:07:25.000 --> 00:07:27.000 ในระดับนานาชาติ 00:07:27.000 --> 00:07:30.000 ในกรณีนี้คือ ห่วงโซ่อุปทานโลก 00:07:30.000 --> 00:07:33.000 เราก็จะต้องมองหากลไกอื่น 00:07:33.000 --> 00:07:35.000 ต้องใช้เครื่องจักรตัวอื่น 00:07:37.000 --> 00:07:40.000 โชคดีที่เรามีตัวอย่างบางกรณีแล้ว 00:07:41.000 --> 00:07:43.000 ในทศวรรษ 1990 00:07:43.000 --> 00:07:45.000 มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นหลายเรื่อง 00:07:45.000 --> 00:07:47.000 เกี่ยวกับการผลิตสินค้ามียี่ห้อในอเมริกา 00:07:47.000 --> 00:07:49.000 ประเด็นการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ 00:07:49.000 --> 00:07:52.000 การบั่นทอนสุขภาพและความปลอดภัยขั้นรุนแรง 00:07:52.000 --> 00:07:54.000 ในที่สุด ในปี 1996 (พ.ศ.2539) ประธานาธิบดีคลินตัน 00:07:54.000 --> 00:07:57.000 ก็เรียกประชุมที่ทำเนียบขาว 00:07:57.000 --> 00:08:00.000 เชิญนักอุตสาหกรรม นักสิทธิมนุษยชน เอ็นจีโอ 00:08:00.000 --> 00:08:02.000 สหภาพแรงงาน กระทรวงแรงงาน 00:08:02.000 --> 00:08:04.000 เชิญฝ่ายเหล่านี้มาอยู่ในห้อง 00:08:04.000 --> 00:08:06.000 แล้วบอกว่า "เอาล่ะ 00:08:06.000 --> 00:08:08.000 ผมไม่อยากให้โลกาภิวัตน์เป็นการวิ่งแข่งไปสู่จุดเสื่อม 00:08:08.000 --> 00:08:10.000 ผมไม่รู้ว่าจะป้องกันมันได้อย่างไร 00:08:10.000 --> 00:08:12.000 แต่อย่างน้อยผมก็จะเปิดห้องทำงานของผม 00:08:12.000 --> 00:08:14.000 ให้พวกคุณทุกคนมารวมตัวกัน 00:08:14.000 --> 00:08:17.000 หาหนทางแก้ปัญหา" 00:08:17.000 --> 00:08:19.000 คนกลุ่มนี้ก็เลยจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจแห่งทำเนียบขาวขึ้นมา 00:08:19.000 --> 00:08:22.000 ใช้เวลาประมาณสามปีถกเถียงกัน 00:08:22.000 --> 00:08:25.000 ว่าใครควรจะมีความรับผิดชอบอะไรบ้าง 00:08:25.000 --> 00:08:28.000 ในห่วงโซ่อุปทานโลก 00:08:28.000 --> 00:08:31.000 บริษัทไม่รู้สึกว่าเป็นความรับผิดชอบของพวกเขา 00:08:31.000 --> 00:08:33.000 เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงาน 00:08:33.000 --> 00:08:35.000 ไม่ได้เป็นนายจ้างของแรงงานเหล่านั้น 00:08:35.000 --> 00:08:38.000 ไม่มีความรับผิดชอบทางกฎหมาย 00:08:38.000 --> 00:08:40.000 คนที่เหลือรอบโต๊ะประชุม 00:08:40.000 --> 00:08:42.000 บอกว่า "โทษนะ พูดอย่างนั้นไม่ได้หรอก 00:08:42.000 --> 00:08:45.000 คุณมีพันธะที่จะต้องดูแล มีพันธกิจ 00:08:45.000 --> 00:08:47.000 ที่จะให้เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ 00:08:47.000 --> 00:08:50.000 จะเดินทางจากที่ไหนก็แล้วแต่ ไปยังร้านค้า 00:08:50.000 --> 00:08:53.000 ในทางที่ทำให้เราบริโภคมันได้ 00:08:53.000 --> 00:08:56.000 โดยไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของเรา 00:08:56.000 --> 00:09:00.000 หรือไม่ต้องเสียสละมโนธรรมของเรา 00:09:00.000 --> 00:09:02.000 เวลาบริโภคสินค้าตัวนั้น" 00:09:02.000 --> 00:09:05.000 พวกเขาเลยตกลงกันว่า "โอเค สิ่งที่เราจะทำ 00:09:05.000 --> 00:09:07.000 คือเราจะตกลงร่วมใช้มาตรฐานเดียวกัน 00:09:07.000 --> 00:09:09.000 ร่วมใช้จรรยาบรรณแบบเดียวกัน 00:09:09.000 --> 00:09:11.000 และประกาศใช้มันตลอดสาย 00:09:11.000 --> 00:09:13.000 ห่วงโซ่อุปทานโลกของเรา 00:09:13.000 --> 00:09:15.000 ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุม 00:09:15.000 --> 00:09:18.000 เราจะทำให้เป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญานี้" 00:09:18.000 --> 00:09:21.000 นั่นคือวาบแห่งอัจฉริยะ 00:09:21.000 --> 00:09:23.000 เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ 00:09:23.000 --> 00:09:26.000 คือการใช้พลังของพันธสัญญา 00:09:26.000 --> 00:09:28.000 พลังของภาคเอกชน 00:09:28.000 --> 00:09:30.000 ในการนำส่งสินค้าสาธารณะ NOTE Paragraph 00:09:30.000 --> 00:09:32.000 ความเป็นจริงก็คือ 00:09:32.000 --> 00:09:34.000 สัญญาจ้างที่บริษัทยี่ห้อชั้นนำข้ามชาติยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง 00:09:34.000 --> 00:09:37.000 ทำกับซัพพลายเออร์ในอินเดียหรือจีน 00:09:37.000 --> 00:09:39.000 มีพลังการหว่านล้อม 00:09:39.000 --> 00:09:41.000 สูงกว่ากฎหมายแรงงานในประเทศมาก 00:09:41.000 --> 00:09:43.000 กฏระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศ 00:09:43.000 --> 00:09:46.000 มาตรฐานสิทธิมนุษยชนในประเทศ 00:09:46.000 --> 00:09:49.000 โรงงานเหล่านี้คงไม่มีวันเจอใครไปตรวจสอบเลย 00:09:49.000 --> 00:09:52.000 และถ้ามีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ 00:09:52.000 --> 00:09:54.000 ก็จะเป็นเรื่องน่าทึ่งมากถ้าเจ้าหน้าที่ 00:09:54.000 --> 00:09:57.000 ปฏิเสธไม่รับสินบน 00:09:58.000 --> 00:10:00.000 แม้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่ 00:10:00.000 --> 00:10:03.000 รายงานว่าโรงงานเหล่านี้ละเมิดกฎระเบียบ 00:10:04.000 --> 00:10:06.000 ค่าปรับก็จะเล็กน้อยจนน่าขัน 00:10:06.000 --> 00:10:08.000 แต่ถ้าคุณถูกบอกเลิกสัญญา 00:10:08.000 --> 00:10:10.000 จากบริษัทยี่ห้อดัง 00:10:10.000 --> 00:10:12.000 มันจะเป็นความแตกต่าง 00:10:12.000 --> 00:10:15.000 ระหว่างการอยู่รอดของธุรกิจ หรือล้มละลาย 00:10:15.000 --> 00:10:17.000 นี่คือความแตกต่าง 00:10:17.000 --> 00:10:19.000 ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ 00:10:19.000 --> 00:10:21.000 ที่ผ่านมาคือเราได้ใช้ 00:10:21.000 --> 00:10:23.000 พลังและอิทธิพล 00:10:23.000 --> 00:10:26.000 ของสถาบันเพียงแห่งเดียวที่เป็นสถาบันข้ามชาติ 00:10:26.000 --> 00:10:28.000 ในห่วงโซ่อุปทานโลก 00:10:28.000 --> 00:10:31.000 นั่นคือ บริษัทข้ามชาติ 00:10:31.000 --> 00:10:33.000 ผลักดันให้พวกเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง 00:10:33.000 --> 00:10:36.000 ใช้พลังเพื่อความดี 00:10:36.000 --> 00:10:39.000 ในการนำส่งสินค้าสาธารณะสำคัญๆ NOTE Paragraph 00:10:40.000 --> 00:10:42.000 แน่นอน เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ 00:10:42.000 --> 00:10:44.000 ของบริษัทข้ามชาติ 00:10:44.000 --> 00:10:47.000 องค์กรของพวกเขาไม่ได้ถูกก่อตั้งมาทำเรื่องนี้ แต่ถูกก่อตั้งมาทำกำไร 00:10:47.000 --> 00:10:50.000 แต่พวกเขาเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพสูงมาก 00:10:50.000 --> 00:10:52.000 พวกเขามีทรัพยากร 00:10:52.000 --> 00:10:55.000 และถ้าเราสามารถเพิ่มเจตจำนง ความทุ่มเท 00:10:55.000 --> 00:10:58.000 พวกเขาก็รู้ว่าจะต้องนำส่งสินค้าอย่างไร 00:11:00.000 --> 00:11:03.000 ทีนี้ การจะบรรลุเป้านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย 00:11:03.000 --> 00:11:06.000 ห่วงโซ่อุปทานที่ผมฉายให้ดูก่อนหน้านี้ 00:11:06.000 --> 00:11:08.000 มันไม่มีอยู่จริง 00:11:08.000 --> 00:11:10.000 คุณต้องมีพื้นที่ปลอดภัย 00:11:10.000 --> 00:11:13.000 พื้นที่ที่คนจะมารวมตัวกัน 00:11:13.000 --> 00:11:15.000 นั่งลงโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกใครตัดสิน 00:11:15.000 --> 00:11:17.000 ไม่กลัวว่าใครจะกล่าวหา 00:11:17.000 --> 00:11:19.000 จะได้เผชิญกับปัญหาจริงๆ 00:11:19.000 --> 00:11:22.000 ตกลงกันว่าปัญหาคืออะไร และร่วมกันหาวิธีแก้ไข 00:11:22.000 --> 00:11:25.000 เราทำเรื่องนี้ได้ วิธีแก้ไขทางเทคนิคมีอยู่แล้ว 00:11:25.000 --> 00:11:28.000 ปัญหาอยู่ที่การขาดความไว้วางใจกัน ขาดความมั่นใจ 00:11:28.000 --> 00:11:30.000 ขาดความเป็นแนวร่วม 00:11:30.000 --> 00:11:32.000 ระหว่างเอ็นจีโอ กลุ่มรณรงค์ 00:11:32.000 --> 00:11:35.000 องค์กรภาคประชาสังคม 00:11:35.000 --> 00:11:38.000 และบริษัทข้ามชาติ 00:11:38.000 --> 00:11:41.000 ถ้าเราสามารถนำกลุ่มทั้งสองฝั่งนี้มาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย 00:11:41.000 --> 00:11:43.000 ทำให้พวกเขาทำงานร่วมกัน 00:11:43.000 --> 00:11:46.000 เราก็จะสามารถนำส่งสินค้าสาธารณะได้เลย 00:11:46.000 --> 00:11:49.000 หรือภายในเวลาไม่นาน NOTE Paragraph 00:11:49.000 --> 00:11:51.000 นี่คือข้อเสนอที่สุดโต่ง 00:11:51.000 --> 00:11:53.000 และก็บ้ามากถ้าคิดว่า 00:11:53.000 --> 00:11:56.000 ถ้าคุณเป็นเด็กสาวอายุ 15 ชาวบังกลาเทศ 00:11:56.000 --> 00:11:59.000 ออกจากหมู่บ้านในชนบท 00:11:59.000 --> 00:12:02.000 ไปทำงานในโรงงานในเมืองดาก้า 00:12:02.000 --> 00:12:05.000 และค่าแรง 22, 23, 24 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 700 บาท) 00:12:07.000 --> 00:12:10.000 โอกาสที่ดีที่สุดของคุณที่จะมีสิทธิในที่ทำงาน 00:12:10.000 --> 00:12:12.000 คือถ้าโรงงานนั้นกำลังผลิต 00:12:12.000 --> 00:12:14.000 ให้กับบริษัทยี่ห้อดัง 00:12:14.000 --> 00:12:16.000 ที่มีจรรยาบรรณเป็นลายลักษณ์อักษร 00:12:16.000 --> 00:12:19.000 และบรรจุจรรยาบรรณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างกับโรงงาน 00:12:20.000 --> 00:12:22.000 เป็นเรื่องบ้า 00:12:22.000 --> 00:12:24.000 ที่คิดว่าบริษัทข้ามชาติกำลังพิทักษ์สิทธิมนุษยชน 00:12:24.000 --> 00:12:26.000 ผมรู้ว่าคุณคงไม่เชื่อหูตัวเอง 00:12:26.000 --> 00:12:28.000 คุณจะบอกว่า "เราจะไว้ใจพวกเขาได้ยังไง?" 00:12:28.000 --> 00:12:30.000 ที่จริงเราไม่ไว้ใจครับ 00:12:30.000 --> 00:12:32.000 เราใช้กฏจากยุคควบคุมขีปนาวุธ 00:12:32.000 --> 00:12:34.000 "ไว้ใจ แต่ตรวจสอบ" 00:12:34.000 --> 00:12:36.000 เราจึงไปตรวจสอบ 00:12:36.000 --> 00:12:39.000 เราหาข้อมูลเรื่องห่วงโซ่อุปทาน จดชื่อโรงงานทั้งหมด 00:12:39.000 --> 00:12:41.000 เราสุ่มเลือกบางโรงงาน 00:12:41.000 --> 00:12:44.000 ส่งนักตรวจสอบเข้าไป โดยไม่แจ้งก่อนล่วงหน้า 00:12:44.000 --> 00:12:46.000 เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ในโรงงาน 00:12:46.000 --> 00:12:48.000 เสร็จแล้วเราก็ตีพิมพ์ผลการตรวจสอบ 00:12:48.000 --> 00:12:51.000 ความโปร่งใสคือหัวใจของเรื่องนี้ 00:12:52.000 --> 00:12:55.000 คุณอ้างได้ว่าคุณรับผิดชอบ 00:12:55.000 --> 00:12:58.000 แต่ความรับผิดชอบที่ปราศจากการตรวจสอบ 00:12:58.000 --> 00:13:00.000 มักจะใช้ไม่ได้ 00:13:00.000 --> 00:13:03.000 ดังนั้นสิ่งที่เรากำลังทำคือ ไม่เพียงแต่ชักจูงบริษัทข้ามชาติ 00:13:03.000 --> 00:13:06.000 แต่เรากำลังมอบเครื่องมือให้พวกเขานำส่งสินค้าสาธารณะ 00:13:06.000 --> 00:13:08.000 ที่เรียกว่า ความเคารพในสิทธิมนุษยชน 00:13:08.000 --> 00:13:10.000 และเราก็กำลังตรวจสอบ 00:13:10.000 --> 00:13:12.000 คุณไม่ต้องเชื่อผมนะครับ และคุณก็ไม่ควรเชื่อผมด้วย 00:13:12.000 --> 00:13:15.000 แต่ไปที่เว็บไซต์ ดูผลการตรวจสอบ 00:13:15.000 --> 00:13:17.000 และถามตัวเองว่า บริษัทนี้กำลังทำตัว 00:13:17.000 --> 00:13:20.000 ในทางที่รับผิดชอบต่อสังคมหรือเปล่า? 00:13:20.000 --> 00:13:22.000 ฉันจะซื้อผลิตภัณฑ์นี้ได้หรือไม่ 00:13:22.000 --> 00:13:25.000 โดยไม่ต้องอ่อนข้อจุดยืนทางศีลธรรม? 00:13:25.000 --> 00:13:28.000 นี่คือวิธีที่ระบบนี้ทำงาน NOTE Paragraph 00:13:30.000 --> 00:13:32.000 ผมเกลียดความคิด 00:13:32.000 --> 00:13:35.000 ที่ว่ารัฐบาลไม่ได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลก 00:13:35.000 --> 00:13:37.000 ผมเกลียดความคิด 00:13:37.000 --> 00:13:39.000 ที่ว่ารัฐบาลได้ปล่อยปละละเลย 00:13:39.000 --> 00:13:42.000 และผมก็ทำใจยอมรับไม่ได้ 00:13:42.000 --> 00:13:45.000 กับความคิดที่่ว่าเราทำให้รัฐบาลทำหน้าที่ไม่ได้ 00:13:45.000 --> 00:13:47.000 ผมทำเรื่องนี้มา 30 ปีแล้ว 00:13:47.000 --> 00:13:49.000 ตลอดเวลานั้นผมได้เห็น 00:13:49.000 --> 00:13:52.000 ความสามารถ ความทุ่มเท และเจตจำนงของรัฐบาล 00:13:52.000 --> 00:13:54.000 ที่ทำให้เรื่องนี้เสื่อมถอย 00:13:54.000 --> 00:13:57.000 และผมก็ไม่เห็นว่าพวกเขาจะทำตัวดีขึ้น 00:13:57.000 --> 00:13:59.000 ตอนนั้นเราเริ่มจากความคิด 00:13:59.000 --> 00:14:01.000 ที่ว่านี่คือมาตรการชั่วคราว 00:14:01.000 --> 00:14:04.000 แต่ตอนนี้เรากำลังคิดว่า ที่จริงแล้ว 00:14:04.000 --> 00:14:06.000 นี่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้น 00:14:06.000 --> 00:14:09.000 ของการกำกับดูแลแบบใหม่ และการรับมือ 00:14:09.000 --> 00:14:11.000 กับความท้าทายสากล 00:14:11.000 --> 00:14:14.000 คุณอาจเรียกมันว่า ธรรมาภิบาลแบบเครือข่าย เรียกว่าอะไรก็ได้ 00:14:14.000 --> 00:14:17.000 ผู้มีส่วนร่วมจากภาคเอกชน 00:14:17.000 --> 00:14:19.000 บริษัทและเอ็นจีโอทั้งหลาย 00:14:19.000 --> 00:14:21.000 จะต้องมาช่วยกันคิด 00:14:21.000 --> 00:14:23.000 เพื่อรับมือกับความท้าทายหลักๆ ที่เรากำลังจะเผชิญ 00:14:23.000 --> 00:14:25.000 แค่ดูเรื่องโรคระบาดก็ได้ 00:14:25.000 --> 00:14:28.000 โรคไข้หวัดหมู ไข้หวัดนก H1N1 00:14:28.000 --> 00:14:30.000 ดูระบบสุขภาพในหลายๆประเทศ 00:14:30.000 --> 00:14:32.000 พวกเขามีทรัพยากรพอไหม 00:14:32.000 --> 00:14:35.000 ที่จะรับมือกับโรคระบาดรุนแรง? 00:14:35.000 --> 00:14:37.000 ไม่เลย 00:14:37.000 --> 00:14:40.000 ภาคเอกชนกับเอ็นจีโอ 00:14:40.000 --> 00:14:42.000 จะมาร่วมกันแก้ไขได้หรือเปล่า? 00:14:42.000 --> 00:14:44.000 ได้แน่นอน 00:14:44.000 --> 00:14:46.000 สิ่งที่พวกเขาขาด คือพื้นที่ปลอดภัย 00:14:46.000 --> 00:14:48.000 ที่จะมาร่วมกันหาข้อตกลง 00:14:48.000 --> 00:14:50.000 และลงมือปฏิบัติ 00:14:50.000 --> 00:14:53.000 นี่คือสิ่งที่เราพยายามจะสร้าง NOTE Paragraph 00:14:54.000 --> 00:14:56.000 ผมรู้ดีว่า 00:14:56.000 --> 00:14:58.000 เรื่องนี้มักจะดูเหมือน 00:14:58.000 --> 00:15:00.000 ความรับผิดชอบที่ใหญ่โตเกินไป 00:15:00.000 --> 00:15:02.000 สำหรับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง 00:15:02.000 --> 00:15:04.000 "คุณอยากให้ผมคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 00:15:04.000 --> 00:15:06.000 ตลอดห่วงโซ่อุปทานโลกของผม 00:15:06.000 --> 00:15:09.000 ที่มีซัพพลายเออร์หลายพันเจ้า 00:15:09.000 --> 00:15:12.000 มันดูยากเกินไป อันตรายเกินไป 00:15:12.000 --> 00:15:14.000 สำหรับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง" 00:15:14.000 --> 00:15:16.000 แต่แล้วเราก็มีสมาชิก 00:15:16.000 --> 00:15:19.000 มีบริษัท 4,000 แห่งมาเป็นสมาชิกเรา 00:15:19.000 --> 00:15:21.000 บางแห่งเป็นบริษัทใหญ่ยักษ์มาก 00:15:21.000 --> 00:15:23.000 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องกีฬา 00:15:23.000 --> 00:15:26.000 พวกเขาตอบรับความท้าทายและทำสำเร็จ 00:15:26.000 --> 00:15:29.000 เรามีตัวอย่าง มีต้นแบบ 00:15:30.000 --> 00:15:32.000 และเมื่อไรก็ตามที่เราถกเถียง 00:15:32.000 --> 00:15:34.000 ปัญหาหนึ่งที่เราต้องรับมือ 00:15:34.000 --> 00:15:37.000 นั่นคือ แรงงานเด็กในไร่เมล็ดฝ้ายในอินเดีย 00:15:37.000 --> 00:15:40.000 ปีนี้เราจะติดตามสถานการณ์ในไร่เมล็ดฝ้าย 50,000 แห่งในอินเดีย 00:15:41.000 --> 00:15:43.000 เป็นตัวเลขที่ดูเยอะมาก 00:15:43.000 --> 00:15:46.000 ตัวเลขขนาดนี้ทำให้คุณอยากปิดหูไม่รับรู้ 00:15:46.000 --> 00:15:49.000 แต่เราย่อยมันลงถึงระดับความเป็นจริงพื้นฐาน NOTE Paragraph 00:15:49.000 --> 00:15:51.000 และที่จริง สิทธิมนุษยชน 00:15:51.000 --> 00:15:54.000 ก็ย่อยลงมาเหลือเพียงคำถามเดียว 00:15:54.000 --> 00:15:57.000 คือ เราจะมอบศักดิ์ศรีคืนให้แก่คนคนนี้หรือเปล่า? 00:15:57.000 --> 00:15:59.000 คนจน 00:15:59.000 --> 00:16:01.000 คนที่สิทธิมนุษยชนถูกละเมิด 00:16:01.000 --> 00:16:03.000 แก่นสารของปัญหานี้ 00:16:03.000 --> 00:16:05.000 คือการสูญเสียศักดิ์ศรี 00:16:05.000 --> 00:16:07.000 การขาดศักดิ์ศรี 00:16:07.000 --> 00:16:10.000 เรื่องนี้เริ่มจากการคืนศักดิ์ศรีให้กับผู้คน แค่นั้นเอง 00:16:10.000 --> 00:16:13.000 ผมเคยไปเยือนสลัมนอกเมืองเกอร์กาอัน (Gurgaon) 00:16:13.000 --> 00:16:15.000 ติดกับเดลี 00:16:15.000 --> 00:16:18.000 เมืองใหม่เมืองหนึ่งที่กำลังพุ่งแรง 00:16:18.000 --> 00:16:21.000 ในอินเดียตอนนี้ 00:16:21.000 --> 00:16:23.000 ผมไปคุยกับคนงาน 00:16:23.000 --> 00:16:25.000 ที่ทำงานในโรงงานสิ่งทอ 00:16:25.000 --> 00:16:28.000 ผมถามว่า พวกเขาอยากส่งสารอะไรไปถึงบริษัทยี่ห้อดัง 00:16:29.000 --> 00:16:32.000 พวกเขาไม่ได้ตอบว่าเงิน 00:16:32.000 --> 00:16:35.000 พวกเขาตอบว่า "คนที่จ้างพวกเรา 00:16:35.000 --> 00:16:38.000 ทำกับเรายังกับไม่ใช่มนุษย์ 00:16:38.000 --> 00:16:40.000 ราวกับว่าเราไม่มีตัวตน 00:16:40.000 --> 00:16:43.000 ขอให้ไปบอกพวกเขาว่า ช่วยทำกับเราเหมือนเป็นมนุษย์ด้วย" 00:16:44.000 --> 00:16:46.000 นี่คือความเข้าใจพื้นๆ ของผมเรื่องสิทธิมนุษยชน 00:16:46.000 --> 00:16:49.000 นี่คือข้อเสนอง่ายๆ ของผมต่อคุณ 00:16:49.000 --> 00:16:52.000 ข้อเสนอง่ายๆ ต่อผู้มีอำนาจตัดสินใจ 00:16:52.000 --> 00:16:54.000 ทุกคนในห้องนี้ และทุกคนนอกห้อง 00:16:54.000 --> 00:16:56.000 พวกเราสามารถตัดสินใจได้ 00:16:56.000 --> 00:16:58.000 ว่าจะมารวมตัวกัน 00:16:58.000 --> 00:17:01.000 รับมือกับปัญหา หยิบยกมันขึ้นมา 00:17:01.000 --> 00:17:03.000 ปัญหาที่รัฐบาลปล่อยมือไปแล้ว 00:17:03.000 --> 00:17:05.000 ถ้าเราไม่ทำ 00:17:05.000 --> 00:17:07.000 ก็เท่ากับว่าเราละทิ้งความหวัง 00:17:07.000 --> 00:17:10.000 ละทิ้งความเป็นมนุษย์ขั้นพื้นฐานของเรา 00:17:10.000 --> 00:17:12.000 ซึ่งผมก็รู้ว่าไม่ใช่จุดที่เราอยากยืน 00:17:12.000 --> 00:17:14.000 และเราก็ไม่จำเป็นต้องยืน 00:17:14.000 --> 00:17:16.000 ผมจึงขอวิงวอนตรงนี้ 00:17:16.000 --> 00:17:18.000 ขอเชิญให้มาร่วมกับเรา เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย 00:17:18.000 --> 00:17:20.000 และเริ่มลงมือให้เกิดผล NOTE Paragraph 00:17:20.000 --> 00:17:22.000 ขอบคุณมากครับ NOTE Paragraph 00:17:22.000 --> 00:17:25.000 (เสียงปรบมือ)