WEBVTT

00:00:00.000 --> 00:00:03.000
หลายคนเชื่อว่าการขับขี่เป็นเรื่อง

00:00:03.000 --> 00:00:05.000
เฉพาะของคนที่มองเห็นได้เท่านั้น

00:00:05.000 --> 00:00:08.000
สำหรับผู้พิการทางสายตาที่จะขับขี่อย่างอิสระและปลอดภัยนั้น

00:00:08.000 --> 00:00:11.000
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จนกระทั่งทุกวันนี้

00:00:11.000 --> 00:00:13.000
สวัสดีครับ ผมชื่อ เดนนิส ฮอง

00:00:13.000 --> 00:00:15.000
และพวกเราจะนำความอิสระเสรีมาสู่คนตาบอด

00:00:15.000 --> 00:00:18.000
โดยสร้างยานพาหนะสำหรับผู้พิการทางสายตา

NOTE Paragraph

00:00:18.000 --> 00:00:21.000
ก่อนที่ผมจะพูดเกี่ยวกับรถสำหรับคนตาบอดนี้

00:00:21.000 --> 00:00:23.000
ขอผมเล่าย่อๆเกี่ยวกับผลงานอีกชิ้นหนึ่งที่ผมได้ทำ

00:00:23.000 --> 00:00:25.000
ที่เรียกว่า DARPA Urban Challenge

00:00:25.000 --> 00:00:27.000
มันเป็นการสร้างรถหุ่นยนต์

00:00:27.000 --> 00:00:29.000
ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้

00:00:29.000 --> 00:00:31.000
คุณแค่กดปุ่มเริ่ม ไม่มีใครแตะต้องอะไรทั้งนั้น

00:00:31.000 --> 00:00:34.000
แล้วมันก็จะเคลื่อนไปจนถึงจุดหมายอัตโนมัติ

00:00:34.000 --> 00:00:37.000
ในปี 2007 (พ.ศ.2550) ทีมของเราชนะรางวัลกว่าครึ่งล้านดอลล่าร์

00:00:37.000 --> 00:00:39.000
โดยพวกเราได้อันดับ 3 ในการแข่งขัน

00:00:39.000 --> 00:00:41.000
จากการแข่งขันนั้น

00:00:41.000 --> 00:00:43.000
สมาพันธ์ผู้พิการทางสายตาแห่งชาติ (National Federation of the Blind: NFB)

00:00:43.000 --> 00:00:45.000
กำหนดโจทย์ให้คณะกรรมการวิจัย

00:00:45.000 --> 00:00:47.000
หาคนที่จะพัฒนารถ

00:00:47.000 --> 00:00:49.000
สำหรับผู้พิการทางสายตาได้ขับอย่างอิสระและปลอดภัย

00:00:49.000 --> 00:00:51.000
พวกเราเลยตัดสินใจลองดู

00:00:51.000 --> 00:00:53.000
เพราะพวกเราคิดว่า เฮ้ มันจะไปยากอะไร

00:00:53.000 --> 00:00:55.000
รถขับเครื่องอัตโนมัติ เรายังทำมาแล้วเลย

00:00:55.000 --> 00:00:57.000
พวกเราแค่จับผู้พิการทางสายตามานั่งและก็เสร็จแล้วจริงไหม?

00:00:57.000 --> 00:00:59.000
(เสียงหัวเราะ)

00:00:59.000 --> 00:01:01.000
ซึ่งพวกเราผิดถนัดเลย

00:01:01.000 --> 00:01:03.000
สิ่งที่ NFB ต้องการ

00:01:03.000 --> 00:01:06.000
ไม่ใช่ยานพาหนะที่พาผู้พิการทางสายตาไปรอบๆ

00:01:06.000 --> 00:01:09.000
แต่เป็นยานพาหนะที่ผู้พิการทางสายตาสามารถตัดสินใจและขับเองได้

00:01:09.000 --> 00:01:11.000
ดังนั้นพวกเราเลยต้องโยนตำราทิ้งหมด

00:01:11.000 --> 00:01:13.000
แล้วเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น

NOTE Paragraph

00:01:13.000 --> 00:01:15.000
เพื่อทดสอบไอเดียบ้าบิ่นนี้

00:01:15.000 --> 00:01:17.000
เราได้พัฒนารถต้นแบบคันเล็กนี้

00:01:17.000 --> 00:01:19.000
เพื่อทดสอบความเป็นไปได้

00:01:19.000 --> 00:01:21.000
และในฤดูร้อนปี 2009 (พ.ศ.2552)

00:01:21.000 --> 00:01:24.000
พวกเราได้เชิญผู้พิการทางสายตาวัยหนุ่มสาวมากมายจากทั่วประเทศ

00:01:24.000 --> 00:01:26.000
ให้พวกเขาได้ทดลองดู

00:01:26.000 --> 00:01:28.000
มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ

00:01:28.000 --> 00:01:30.000
แต่ปัญหาของรถแบบนี้คือ

00:01:30.000 --> 00:01:33.000
มันถูกออกแบบมาเพื่อขับในสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาให้ควบคุมได้เท่านั้น

00:01:33.000 --> 00:01:35.000
เช่นในลานจอดรถแบบปิด

00:01:35.000 --> 00:01:37.000
หรือที่ซึ่งกำหนดโดยกรวยจราจรสีแดง

NOTE Paragraph

00:01:37.000 --> 00:01:39.000
หลังจากประสบความสำเร็จ

00:01:39.000 --> 00:01:41.000
พวกเราตัดสินใจที่จะพัฒนาไปอีกก้าว

00:01:41.000 --> 00:01:44.000
โดยลองทำกับรถจริงๆ ขับบนถนนจริงดู

00:01:44.000 --> 00:01:46.000
เรามาดูกันว่ามันทำงานอย่างไร

00:01:46.000 --> 00:01:48.000
มันออกจะซับซ้อนหน่อยนะครับ

00:01:48.000 --> 00:01:51.000
แต่ผมจะพยายามอธิบาย แบบง่ายๆแล้วกันครับ

00:01:51.000 --> 00:01:53.000
การทำงานแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน

00:01:53.000 --> 00:01:55.000
คือ การรับรู้ การคำนวณ

00:01:55.000 --> 00:01:57.000
และระบบอินเตอร์เฟซที่ไม่ใช้ภาพ

00:01:57.000 --> 00:01:59.000
แน่นอนว่าคนขับมองไม่เห็น

00:01:59.000 --> 00:02:01.000
ดังนั้นระบบจำเป็นต้องรับรู้สภาพแวดล้อม

00:02:01.000 --> 00:02:03.000
และให้ข้อมูลต่างๆกับคนขับ

00:02:03.000 --> 00:02:06.000
ดังนั้นเราจึงใช้หน่วยวัดเริ่มต้น

00:02:06.000 --> 00:02:08.000
เพื่อวัดความเร่ง อัตราเร่งเชิงมุม

00:02:08.000 --> 00:02:10.000
เหมือนกับหูของมนุษย์ หูชั้นใน

00:02:10.000 --> 00:02:12.000
และเชื่อมข้อมูลเหล่านั้นกับ GPS

00:02:12.000 --> 00:02:15.000
เพื่อหาค่าประมาณของตำแหน่งรถ

00:02:15.000 --> 00:02:18.000
แล้วก็มีกล้องอีก 2 ตัวเพื่อจับภาพช่องทางบนถนน

00:02:18.000 --> 00:02:20.000
นอกจากนั้นก็มีเลเซอร์ค้นหาอีก3ตัว

00:02:20.000 --> 00:02:23.000
ซึ่งเลเซอร์ทำหน้าที่เป็นตัวสแกนรอบๆหาสิ่งกีดขวาง

00:02:23.000 --> 00:02:25.000
ต่างๆทั้งด้านหน้า ด้านหลัง

00:02:25.000 --> 00:02:28.000
รวมทั้งอุปสรรคต่างๆบนท้องถนน

00:02:28.000 --> 00:02:30.000
และรอบๆรถด้วย

NOTE Paragraph

00:02:30.000 --> 00:02:33.000
แล้วข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ จะถูกป้อนใส่คอมพิวเตอร์

00:02:33.000 --> 00:02:35.000
แล้วคอมพิวเตอร์ก็จะทำหน้าที่ 2 ประการ

00:02:35.000 --> 00:02:38.000
สิ่งเรกคือ แปลข้อมูลเหล่านี้

00:02:38.000 --> 00:02:40.000
เพื่อที่จะเข้าใจสภาพแวดล้อม

00:02:40.000 --> 00:02:43.000
นี่เป็นทางวิ่งของถนน นั่นเป็นอุปสรรคกีดขวาง

00:02:43.000 --> 00:02:45.000
และนำเสนอข้อมูลสู่ผู้ขับขี่

00:02:45.000 --> 00:02:47.000
ระบบยังฉลาดพอที่จะ

00:02:47.000 --> 00:02:49.000
เลือกทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับรถด้วย

00:02:49.000 --> 00:02:51.000
ดังนั้นเราจึงสามารถใส่ข้อแนะนำ

00:02:51.000 --> 00:02:53.000
เกี่ยวกับวิธีการควบคุมรถได้ด้วย

00:02:53.000 --> 00:02:55.000
แต่ปัญหามีอยู่ว่า: เราจะอธิบาย

00:02:55.000 --> 00:02:57.000
ข้อมูลเหล่าและข้อแนะนำเหล่านี้

00:02:57.000 --> 00:02:59.000
ให้กับคนที่มองไม่เห็นได้

00:02:59.000 --> 00:03:02.000
เร็วพอและถูกต้องที่สุดได้อย่างไร

00:03:02.000 --> 00:03:04.000
ด้วยเหตุผลนี้ พวกเราจึงพัฒนาเทคโนโลยี

00:03:04.000 --> 00:03:07.000
สำหรับผู้พิการทางสายตาหลายด้าน

00:03:07.000 --> 00:03:09.000
โดยเริ่มจากระบบส่งเสียง 3 มิติ

00:03:09.000 --> 00:03:11.000
เสื้อกั๊กระบบสั่น

00:03:11.000 --> 00:03:14.000
การเปลี่ยนวงล้อด้วยคำสั่งเสียง ด้วยการใช้แถบติดขา

00:03:14.000 --> 00:03:16.000
หรือแม้แต่รองเท้ารับแรงกดของเท้า

00:03:16.000 --> 00:03:18.000
แต่วันนี้ผมจะพูดถึง

00:03:18.000 --> 00:03:20.000
ระบบอินเตอร์เฟซสำหรับคนพิการทางสายตา 3 ระบบ

NOTE Paragraph

00:03:20.000 --> 00:03:23.000
ระบบแรกเรียกว่า DriveGrip

00:03:23.000 --> 00:03:25.000
นี่เป็นถุงมือ

00:03:25.000 --> 00:03:27.000
ที่มีระบบสั่นอยู่ที่บริเวณข้อมือ

00:03:27.000 --> 00:03:30.000
เพื่อที่คุณจะรับรู้ได้ถึงคำแนะนำว่าจะหัน

00:03:30.000 --> 00:03:32.000
ไปทางทิศใดและเมื่อไหร่

00:03:32.000 --> 00:03:34.000
อุปกรณ์อีกอันเรียกว่า SpeedStrip

00:03:34.000 --> 00:03:37.000
นี่เป็นเก้าอี้ ความจริงแล้วมันเป็นเก้าอี้นวดครับ

00:03:37.000 --> 00:03:41.000
พวกเราจัดการต่อระบบใหม่ให้ระบบสั่นเปลี่ยนไป

00:03:41.000 --> 00:03:44.000
เพื่อให้มันทำหน้าที่บอกความเร็ว

00:03:44.000 --> 00:03:47.000
และแนะนำเกี่ยวกับการใช้น้ำมันกับการใช้เบรคด้วย

00:03:47.000 --> 00:03:49.000
โดยตรงนี้ คุณจะเห็นว่า

00:03:49.000 --> 00:03:51.000
คอมพิวเตอร์เข้าใจสภาพแวดล้อมได้อย่างไร

00:03:51.000 --> 00:03:53.000
และเพราะคุณไม่สามารถเห็นการสั่นสะเทือน

00:03:53.000 --> 00:03:56.000
พวกเราเลยใส่หลอดแอลอีดี (LED) สีแดงให้คนขับ เพื่อที่คนขับจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

00:03:56.000 --> 00:03:58.000
นี่เป็นข้อมูลการรับรู้

00:03:58.000 --> 00:04:01.000
แล้วข้อมูลส่วนนี้จะโอนถ่ายไปยังอุปกรณ์อื่นๆเพื่อเข้าไปสู่คอมพิวเตอร์

NOTE Paragraph

00:04:01.000 --> 00:04:03.000
ดังนั้นอุปกรณ์สองอย่างนี้ DriveGrip และ SpeedStrip

00:04:03.000 --> 00:04:05.000
มีประสิทธิผลสูงมาก

00:04:05.000 --> 00:04:07.000
แต่ปัญหาคือ

00:04:07.000 --> 00:04:09.000
มันเป็นระบบแบบกำหนดคำสั่ง

00:04:09.000 --> 00:04:11.000
ซึ่งมันก็ไม่อิสระจริงไหมครับ

00:04:11.000 --> 00:04:13.000
คอมพิวเตอร์บอกคุณว่าคุณจะขับอย่างไร

00:04:13.000 --> 00:04:15.000
ไปซ้าย ไปขวา เร่งความเร็ว หรือหยุด

00:04:15.000 --> 00:04:17.000
เราเรียกปัญหานี้ว่า ปัญหาของการเป็นผู้ขับตัวสำรอง

00:04:17.000 --> 00:04:20.000
พวกเราจึงพยายามเบนตัวออกจากระบบคำสั่งเหล่านี้

00:04:20.000 --> 00:04:22.000
แล้วมุ่งไปที่

00:04:22.000 --> 00:04:24.000
ระบบการให้ข้อมูลมากขึ้น

00:04:24.000 --> 00:04:26.000
ตัวอย่างที่ดีสำหรับระบบอินเตอร์เฟซข้อมูลสำหรับผู้พิการทางสายตา

00:04:26.000 --> 00:04:28.000
คือ AirPix

00:04:28.000 --> 00:04:30.000
ลองคิดเสียว่ามันเป็นจอภาพสำหรับคนตาบอด

00:04:30.000 --> 00:04:32.000
ที่เป็นเหมือนสมุดบันทึกที่เจาะรูไว้มากมาย

00:04:32.000 --> 00:04:34.000
และลมก็ผ่านรูนั้นเข้ามา

00:04:34.000 --> 00:04:36.000
แล้วมันก็สามารถวาดเป็นภาพได้

00:04:36.000 --> 00:04:38.000
ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะสายตาพิการ คุณเอามือวางบนนั้น

00:04:38.000 --> 00:04:40.000
แล้วก็จะเห็นช่องทางบนถนนและสิ่งกีดขวางได้

00:04:40.000 --> 00:04:43.000
จริงๆแล้ว คุณสามารถปรับเปลี่ยนความถี่ของลมที่พ่นออกมา

00:04:43.000 --> 00:04:45.000
และก็อาจจะอุณหภูมิด้วย

00:04:45.000 --> 00:04:48.000
ซึ่งนี้เป็นระบบอินเตอร์เฟซหลายมิติ

00:04:48.000 --> 00:04:51.000
ที่คุณสามารถเห็นกล้องทางซ้าย ทางขวาของรถ

00:04:51.000 --> 00:04:54.000
และได้รู้ว่าคอมพิวเตอร์แปลงและส่งข้อมูลไปยัง AirPix ได้อย่างไร

00:04:54.000 --> 00:04:56.000
ด้วยสิ่งนี้ พวกเรากำลังแสดงภาพจำลอง

00:04:56.000 --> 00:04:59.000
ผู้พิการทางสายตาขับรถโดยใช้ AirPix

00:04:59.000 --> 00:05:02.000
การแสดงภาพจำลองนี้ยังมีประโยชน์ในการฝึกผู้พิการทางสายตาขับรถ

00:05:02.000 --> 00:05:04.000
และยังเป็นการทดสอบอย่างเร็วให้กับ

00:05:04.000 --> 00:05:06.000
ระบบอินเตอร์เฟซผู้พิการทางสายตาหลายประเภทด้วยเช่นกัน

00:05:06.000 --> 00:05:08.000
นี่เป็นการทำงานโดยพพื้นฐานของอุปกรณ์

NOTE Paragraph

00:05:08.000 --> 00:05:10.000
เมื่อเดือนที่แล้ว

00:05:10.000 --> 00:05:12.000
วันที่ 29 มกราคม

00:05:12.000 --> 00:05:14.000
เราได้เปิดตัวรถคันนี้ครั้งแรกต่อสาธารณชน

00:05:14.000 --> 00:05:17.000
ที่สนามแข่งรถชื่อดัง Daytona International Speedway

00:05:17.000 --> 00:05:19.000
ในงานแข่งขัน Rolex 24

00:05:19.000 --> 00:05:22.000
ที่พวกเราได้รับเรื่องประหลาดใจด้วย มาดูกันครับ

NOTE Paragraph

00:05:22.000 --> 00:05:32.000
(เสียงดนตรี)

NOTE Paragraph

00:05:32.000 --> 00:05:36.000
(วิดีโอ) ผู้ประกาศ: วันนี้เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์(เสียงพร่า)

00:05:36.000 --> 00:05:40.000
ตอนนี้เขาขับถึงอัฒจรรย์แล้วครับ ตามด้วย Federistas

NOTE Paragraph

00:05:40.000 --> 00:05:46.000
(เสียงเชียร์)

NOTE Paragraph

00:05:46.000 --> 00:05:49.000
(เสียงแตร)

NOTE Paragraph

00:05:49.000 --> 00:05:51.000
นั่นไงครับอัฒจรรย์

00:05:51.000 --> 00:05:55.000
และเขา(เสียงพร่า)ขับตามรถแวนข้างหน้าเขามาแล้วครับ

00:05:55.000 --> 00:05:57.000
มาแล้วครับ กล่องใบแรก

00:05:57.000 --> 00:06:00.000
มาดูกันครับว่ามาร์คจะหลบได้ไหม

00:06:00.000 --> 00:06:03.000
เขาทำได้ครับ เขาเบียงผ่านออกทางขวา

00:06:05.000 --> 00:06:08.000
กล่องใบที่สามมาแล้วครับ ตามด้วยใบที่สี่

00:06:08.000 --> 00:06:11.000
และเขาขับผ่านทั้งสองกล่องได้อย่างสวยงามครับ

00:06:11.000 --> 00:06:13.000
เขาไล่รถแวนเข้ามาแล้วครับ

00:06:13.000 --> 00:06:16.000
ขับผ่านไปแล้วครับ

00:06:17.000 --> 00:06:19.000
นี่คือความฉลาด

00:06:19.000 --> 00:06:23.000
ของระบบไดนามิกนี้เลย

00:06:24.000 --> 00:06:27.000
เขากำลังเข้าสู่เส้นชัยแล้วครับ

00:06:27.000 --> 00:06:32.000
โดยผ่านแผงกั้นอย่างสวยงาม

NOTE Paragraph

00:06:32.000 --> 00:06:35.000
(เสียงแตร)

NOTE Paragraph

00:06:35.000 --> 00:06:38.000
(เสียงปรบมือ)

NOTE Paragraph

00:06:41.000 --> 00:06:43.000
เดนนิส ฮอง: ผมดีใจไปกับคุณอย่างมากเลยครับ

00:06:43.000 --> 00:06:45.000
มาร์คจะขับไปส่งผมที่โรงแรม

NOTE Paragraph

00:06:45.000 --> 00:06:47.000
มาร์ก ริโคโบโน: แน่นอนครับ

NOTE Paragraph

00:06:50.000 --> 00:06:59.000
(เสียงปรบมือ)

NOTE Paragraph

00:06:59.000 --> 00:07:01.000
เดนนิส: ตั้งแต่เราเริ่มงานนี้

00:07:01.000 --> 00:07:04.000
พวกเราได้รับจดหมาย อีเมลล์ โทรศัพท์มากมาย

00:07:04.000 --> 00:07:06.000
จากคนทั่วโลก

00:07:06.000 --> 00:07:09.000
มีทั้งจดหมายขอบคุณ แต่บางครั้งก็มีจดหมายขำๆเหมือนกัน อย่างเช่นฉบับนี้:

00:07:09.000 --> 00:07:13.000
"ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมมีอักษรเบรลล์อยู่บนตู้ ATM ที่ตั้งไว้บริการผู้ขับขี่"

00:07:13.000 --> 00:07:15.000
(เสียงหัวเราะ)

00:07:15.000 --> 00:07:17.000
แต่บางครั้ง

00:07:17.000 --> 00:07:19.000
(เสียงหัวเราะ)

00:07:19.000 --> 00:07:21.000
แต่บางครั้งผมก็ได้รับ

00:07:21.000 --> 00:07:23.000
ผมไม่อยากเรียกว่าเมลล์ว่าร้าย

00:07:23.000 --> 00:07:25.000
แต่น่าจะเป็นข้อท้วงติงมากกว่า

00:07:25.000 --> 00:07:27.000
"ดร.ฮอง คุณบ้าไปแล้ว

00:07:27.000 --> 00:07:29.000
พยายามให้คนตาบอดอยู่บนถนนเนี่ยนะ

00:07:29.000 --> 00:07:31.000
คุณเสียสติไปแล้วแน่ๆ"

00:07:31.000 --> 00:07:33.000
แต่รถนี้เป็นแค่แบบจำลอง

00:07:33.000 --> 00:07:35.000
และมันจะไม่ออกสู่ท้องถนนแน่

00:07:35.000 --> 00:07:37.000
จนกว่าจะถูกทดสอบว่าปลอดภัย หรือปลอดภัยกว่ารถทั่วไปแล้วเท่านั้น

00:07:37.000 --> 00:07:40.000
และผมเชื่อจริงๆว่ามันจะต้องเป็นไปได้

NOTE Paragraph

00:07:40.000 --> 00:07:42.000
แต่ยังมีข้อกังขาว่าสังคม

00:07:42.000 --> 00:07:44.000
จะยอมรับไอเดียนี้ได้หรือไม่

00:07:44.000 --> 00:07:46.000
แล้วพวกเราจะรับมือกับประกันอย่างไร

00:07:46.000 --> 00:07:48.000
แล้วเราจะออกใบขับขี่ให้ได้อย่างไร

00:07:48.000 --> 00:07:51.000
ยังมีอีกหลายอย่าง นอกเหนือจากความท้าทายทางเทคโนโลยี

00:07:51.000 --> 00:07:54.000
ที่พวกเราต้องขบคิดกันก่อนที่เรื่องนี้จะเป็นจริง

00:07:54.000 --> 00:07:56.000
แน่นอนว่าจุดมุ่งหมายของโปรเจคนี้

00:07:56.000 --> 00:07:58.000
คือพัฒนารถให้ผู้พิการทางสายตา

00:07:58.000 --> 00:08:00.000
แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ

00:08:00.000 --> 00:08:03.000
เทคโนโลยีมูลค่ามหาศาล

00:08:03.000 --> 00:08:05.000
ที่ได้จากโปรเจคนี้ต่างหาก

00:08:05.000 --> 00:08:07.000
เซนเซอร์เหล่านี้สามารถมองเห็นในที่มืด

00:08:07.000 --> 00:08:09.000
หมอกควัน และฝนได้

00:08:09.000 --> 00:08:11.000
ประกอบกับระบบอินเตอร์เฟซแบบใหม่

00:08:11.000 --> 00:08:13.000
พวกเราสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้

00:08:13.000 --> 00:08:15.000
ปรับใช้ได้กับรถของคนสายตาปกติ

00:08:15.000 --> 00:08:18.000
หรือกับผู้พิการทางสายตา หรือกับเครื่องใช้ในบ้าน

00:08:18.000 --> 00:08:20.000
ใช้สำหรับการศึกษา หรือที่ทำงาน

00:08:20.000 --> 00:08:23.000
ลองคิดดูซิครับ ในห้องเรียนที่ครูเขียนกระดานดำ

00:08:23.000 --> 00:08:26.000
และนักเรียนที่สายตาพิการสามารถเห็นและอ่านได้ว่าครูเขียนอะไร

00:08:26.000 --> 00:08:28.000
โดยใช้ระบบอินเตอร์เฟซที่ไม่ใช้ภาพนี้

00:08:28.000 --> 00:08:31.000
มีค่าอันประมาณมิได้ครับ

00:08:31.000 --> 00:08:34.000
ดังนั้นวันนี้ สิ่งที่ผมได้นำเสนอไป มันแค่การเริ่มต้นเท่านั้นครับ

NOTE Paragraph

00:08:34.000 --> 00:08:36.000
ขอบคุณมากครับ

NOTE Paragraph

00:08:36.000 --> 00:08:47.000
(เสียงปรบมือ)