1 00:00:00,000 --> 00:00:03,000 หลายคนเชื่อว่าการขับขี่เป็นเรื่อง 2 00:00:03,000 --> 00:00:05,000 เฉพาะของคนที่มองเห็นได้เท่านั้น 3 00:00:05,000 --> 00:00:08,000 สำหรับผู้พิการทางสายตาที่จะขับขี่อย่างอิสระและปลอดภัยนั้น 4 00:00:08,000 --> 00:00:11,000 เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จนกระทั่งทุกวันนี้ 5 00:00:11,000 --> 00:00:13,000 สวัสดีครับ ผมชื่อ เดนนิส ฮอง 6 00:00:13,000 --> 00:00:15,000 และพวกเราจะนำความอิสระเสรีมาสู่คนตาบอด 7 00:00:15,000 --> 00:00:18,000 โดยสร้างยานพาหนะสำหรับผู้พิการทางสายตา 8 00:00:18,000 --> 00:00:21,000 ก่อนที่ผมจะพูดเกี่ยวกับรถสำหรับคนตาบอดนี้ 9 00:00:21,000 --> 00:00:23,000 ขอผมเล่าย่อๆเกี่ยวกับผลงานอีกชิ้นหนึ่งที่ผมได้ทำ 10 00:00:23,000 --> 00:00:25,000 ที่เรียกว่า DARPA Urban Challenge 11 00:00:25,000 --> 00:00:27,000 มันเป็นการสร้างรถหุ่นยนต์ 12 00:00:27,000 --> 00:00:29,000 ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ 13 00:00:29,000 --> 00:00:31,000 คุณแค่กดปุ่มเริ่ม ไม่มีใครแตะต้องอะไรทั้งนั้น 14 00:00:31,000 --> 00:00:34,000 แล้วมันก็จะเคลื่อนไปจนถึงจุดหมายอัตโนมัติ 15 00:00:34,000 --> 00:00:37,000 ในปี 2007 (พ.ศ.2550) ทีมของเราชนะรางวัลกว่าครึ่งล้านดอลล่าร์ 16 00:00:37,000 --> 00:00:39,000 โดยพวกเราได้อันดับ 3 ในการแข่งขัน 17 00:00:39,000 --> 00:00:41,000 จากการแข่งขันนั้น 18 00:00:41,000 --> 00:00:43,000 สมาพันธ์ผู้พิการทางสายตาแห่งชาติ (National Federation of the Blind: NFB) 19 00:00:43,000 --> 00:00:45,000 กำหนดโจทย์ให้คณะกรรมการวิจัย 20 00:00:45,000 --> 00:00:47,000 หาคนที่จะพัฒนารถ 21 00:00:47,000 --> 00:00:49,000 สำหรับผู้พิการทางสายตาได้ขับอย่างอิสระและปลอดภัย 22 00:00:49,000 --> 00:00:51,000 พวกเราเลยตัดสินใจลองดู 23 00:00:51,000 --> 00:00:53,000 เพราะพวกเราคิดว่า เฮ้ มันจะไปยากอะไร 24 00:00:53,000 --> 00:00:55,000 รถขับเครื่องอัตโนมัติ เรายังทำมาแล้วเลย 25 00:00:55,000 --> 00:00:57,000 พวกเราแค่จับผู้พิการทางสายตามานั่งและก็เสร็จแล้วจริงไหม? 26 00:00:57,000 --> 00:00:59,000 (เสียงหัวเราะ) 27 00:00:59,000 --> 00:01:01,000 ซึ่งพวกเราผิดถนัดเลย 28 00:01:01,000 --> 00:01:03,000 สิ่งที่ NFB ต้องการ 29 00:01:03,000 --> 00:01:06,000 ไม่ใช่ยานพาหนะที่พาผู้พิการทางสายตาไปรอบๆ 30 00:01:06,000 --> 00:01:09,000 แต่เป็นยานพาหนะที่ผู้พิการทางสายตาสามารถตัดสินใจและขับเองได้ 31 00:01:09,000 --> 00:01:11,000 ดังนั้นพวกเราเลยต้องโยนตำราทิ้งหมด 32 00:01:11,000 --> 00:01:13,000 แล้วเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น 33 00:01:13,000 --> 00:01:15,000 เพื่อทดสอบไอเดียบ้าบิ่นนี้ 34 00:01:15,000 --> 00:01:17,000 เราได้พัฒนารถต้นแบบคันเล็กนี้ 35 00:01:17,000 --> 00:01:19,000 เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ 36 00:01:19,000 --> 00:01:21,000 และในฤดูร้อนปี 2009 (พ.ศ.2552) 37 00:01:21,000 --> 00:01:24,000 พวกเราได้เชิญผู้พิการทางสายตาวัยหนุ่มสาวมากมายจากทั่วประเทศ 38 00:01:24,000 --> 00:01:26,000 ให้พวกเขาได้ทดลองดู 39 00:01:26,000 --> 00:01:28,000 มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ 40 00:01:28,000 --> 00:01:30,000 แต่ปัญหาของรถแบบนี้คือ 41 00:01:30,000 --> 00:01:33,000 มันถูกออกแบบมาเพื่อขับในสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาให้ควบคุมได้เท่านั้น 42 00:01:33,000 --> 00:01:35,000 เช่นในลานจอดรถแบบปิด 43 00:01:35,000 --> 00:01:37,000 หรือที่ซึ่งกำหนดโดยกรวยจราจรสีแดง 44 00:01:37,000 --> 00:01:39,000 หลังจากประสบความสำเร็จ 45 00:01:39,000 --> 00:01:41,000 พวกเราตัดสินใจที่จะพัฒนาไปอีกก้าว 46 00:01:41,000 --> 00:01:44,000 โดยลองทำกับรถจริงๆ ขับบนถนนจริงดู 47 00:01:44,000 --> 00:01:46,000 เรามาดูกันว่ามันทำงานอย่างไร 48 00:01:46,000 --> 00:01:48,000 มันออกจะซับซ้อนหน่อยนะครับ 49 00:01:48,000 --> 00:01:51,000 แต่ผมจะพยายามอธิบาย แบบง่ายๆแล้วกันครับ 50 00:01:51,000 --> 00:01:53,000 การทำงานแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน 51 00:01:53,000 --> 00:01:55,000 คือ การรับรู้ การคำนวณ 52 00:01:55,000 --> 00:01:57,000 และระบบอินเตอร์เฟซที่ไม่ใช้ภาพ 53 00:01:57,000 --> 00:01:59,000 แน่นอนว่าคนขับมองไม่เห็น 54 00:01:59,000 --> 00:02:01,000 ดังนั้นระบบจำเป็นต้องรับรู้สภาพแวดล้อม 55 00:02:01,000 --> 00:02:03,000 และให้ข้อมูลต่างๆกับคนขับ 56 00:02:03,000 --> 00:02:06,000 ดังนั้นเราจึงใช้หน่วยวัดเริ่มต้น 57 00:02:06,000 --> 00:02:08,000 เพื่อวัดความเร่ง อัตราเร่งเชิงมุม 58 00:02:08,000 --> 00:02:10,000 เหมือนกับหูของมนุษย์ หูชั้นใน 59 00:02:10,000 --> 00:02:12,000 และเชื่อมข้อมูลเหล่านั้นกับ GPS 60 00:02:12,000 --> 00:02:15,000 เพื่อหาค่าประมาณของตำแหน่งรถ 61 00:02:15,000 --> 00:02:18,000 แล้วก็มีกล้องอีก 2 ตัวเพื่อจับภาพช่องทางบนถนน 62 00:02:18,000 --> 00:02:20,000 นอกจากนั้นก็มีเลเซอร์ค้นหาอีก3ตัว 63 00:02:20,000 --> 00:02:23,000 ซึ่งเลเซอร์ทำหน้าที่เป็นตัวสแกนรอบๆหาสิ่งกีดขวาง 64 00:02:23,000 --> 00:02:25,000 ต่างๆทั้งด้านหน้า ด้านหลัง 65 00:02:25,000 --> 00:02:28,000 รวมทั้งอุปสรรคต่างๆบนท้องถนน 66 00:02:28,000 --> 00:02:30,000 และรอบๆรถด้วย 67 00:02:30,000 --> 00:02:33,000 แล้วข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ จะถูกป้อนใส่คอมพิวเตอร์ 68 00:02:33,000 --> 00:02:35,000 แล้วคอมพิวเตอร์ก็จะทำหน้าที่ 2 ประการ 69 00:02:35,000 --> 00:02:38,000 สิ่งเรกคือ แปลข้อมูลเหล่านี้ 70 00:02:38,000 --> 00:02:40,000 เพื่อที่จะเข้าใจสภาพแวดล้อม 71 00:02:40,000 --> 00:02:43,000 นี่เป็นทางวิ่งของถนน นั่นเป็นอุปสรรคกีดขวาง 72 00:02:43,000 --> 00:02:45,000 และนำเสนอข้อมูลสู่ผู้ขับขี่ 73 00:02:45,000 --> 00:02:47,000 ระบบยังฉลาดพอที่จะ 74 00:02:47,000 --> 00:02:49,000 เลือกทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับรถด้วย 75 00:02:49,000 --> 00:02:51,000 ดังนั้นเราจึงสามารถใส่ข้อแนะนำ 76 00:02:51,000 --> 00:02:53,000 เกี่ยวกับวิธีการควบคุมรถได้ด้วย 77 00:02:53,000 --> 00:02:55,000 แต่ปัญหามีอยู่ว่า: เราจะอธิบาย 78 00:02:55,000 --> 00:02:57,000 ข้อมูลเหล่าและข้อแนะนำเหล่านี้ 79 00:02:57,000 --> 00:02:59,000 ให้กับคนที่มองไม่เห็นได้ 80 00:02:59,000 --> 00:03:02,000 เร็วพอและถูกต้องที่สุดได้อย่างไร 81 00:03:02,000 --> 00:03:04,000 ด้วยเหตุผลนี้ พวกเราจึงพัฒนาเทคโนโลยี 82 00:03:04,000 --> 00:03:07,000 สำหรับผู้พิการทางสายตาหลายด้าน 83 00:03:07,000 --> 00:03:09,000 โดยเริ่มจากระบบส่งเสียง 3 มิติ 84 00:03:09,000 --> 00:03:11,000 เสื้อกั๊กระบบสั่น 85 00:03:11,000 --> 00:03:14,000 การเปลี่ยนวงล้อด้วยคำสั่งเสียง ด้วยการใช้แถบติดขา 86 00:03:14,000 --> 00:03:16,000 หรือแม้แต่รองเท้ารับแรงกดของเท้า 87 00:03:16,000 --> 00:03:18,000 แต่วันนี้ผมจะพูดถึง 88 00:03:18,000 --> 00:03:20,000 ระบบอินเตอร์เฟซสำหรับคนพิการทางสายตา 3 ระบบ 89 00:03:20,000 --> 00:03:23,000 ระบบแรกเรียกว่า DriveGrip 90 00:03:23,000 --> 00:03:25,000 นี่เป็นถุงมือ 91 00:03:25,000 --> 00:03:27,000 ที่มีระบบสั่นอยู่ที่บริเวณข้อมือ 92 00:03:27,000 --> 00:03:30,000 เพื่อที่คุณจะรับรู้ได้ถึงคำแนะนำว่าจะหัน 93 00:03:30,000 --> 00:03:32,000 ไปทางทิศใดและเมื่อไหร่ 94 00:03:32,000 --> 00:03:34,000 อุปกรณ์อีกอันเรียกว่า SpeedStrip 95 00:03:34,000 --> 00:03:37,000 นี่เป็นเก้าอี้ ความจริงแล้วมันเป็นเก้าอี้นวดครับ 96 00:03:37,000 --> 00:03:41,000 พวกเราจัดการต่อระบบใหม่ให้ระบบสั่นเปลี่ยนไป 97 00:03:41,000 --> 00:03:44,000 เพื่อให้มันทำหน้าที่บอกความเร็ว 98 00:03:44,000 --> 00:03:47,000 และแนะนำเกี่ยวกับการใช้น้ำมันกับการใช้เบรคด้วย 99 00:03:47,000 --> 00:03:49,000 โดยตรงนี้ คุณจะเห็นว่า 100 00:03:49,000 --> 00:03:51,000 คอมพิวเตอร์เข้าใจสภาพแวดล้อมได้อย่างไร 101 00:03:51,000 --> 00:03:53,000 และเพราะคุณไม่สามารถเห็นการสั่นสะเทือน 102 00:03:53,000 --> 00:03:56,000 พวกเราเลยใส่หลอดแอลอีดี (LED) สีแดงให้คนขับ เพื่อที่คนขับจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 103 00:03:56,000 --> 00:03:58,000 นี่เป็นข้อมูลการรับรู้ 104 00:03:58,000 --> 00:04:01,000 แล้วข้อมูลส่วนนี้จะโอนถ่ายไปยังอุปกรณ์อื่นๆเพื่อเข้าไปสู่คอมพิวเตอร์ 105 00:04:01,000 --> 00:04:03,000 ดังนั้นอุปกรณ์สองอย่างนี้ DriveGrip และ SpeedStrip 106 00:04:03,000 --> 00:04:05,000 มีประสิทธิผลสูงมาก 107 00:04:05,000 --> 00:04:07,000 แต่ปัญหาคือ 108 00:04:07,000 --> 00:04:09,000 มันเป็นระบบแบบกำหนดคำสั่ง 109 00:04:09,000 --> 00:04:11,000 ซึ่งมันก็ไม่อิสระจริงไหมครับ 110 00:04:11,000 --> 00:04:13,000 คอมพิวเตอร์บอกคุณว่าคุณจะขับอย่างไร 111 00:04:13,000 --> 00:04:15,000 ไปซ้าย ไปขวา เร่งความเร็ว หรือหยุด 112 00:04:15,000 --> 00:04:17,000 เราเรียกปัญหานี้ว่า ปัญหาของการเป็นผู้ขับตัวสำรอง 113 00:04:17,000 --> 00:04:20,000 พวกเราจึงพยายามเบนตัวออกจากระบบคำสั่งเหล่านี้ 114 00:04:20,000 --> 00:04:22,000 แล้วมุ่งไปที่ 115 00:04:22,000 --> 00:04:24,000 ระบบการให้ข้อมูลมากขึ้น 116 00:04:24,000 --> 00:04:26,000 ตัวอย่างที่ดีสำหรับระบบอินเตอร์เฟซข้อมูลสำหรับผู้พิการทางสายตา 117 00:04:26,000 --> 00:04:28,000 คือ AirPix 118 00:04:28,000 --> 00:04:30,000 ลองคิดเสียว่ามันเป็นจอภาพสำหรับคนตาบอด 119 00:04:30,000 --> 00:04:32,000 ที่เป็นเหมือนสมุดบันทึกที่เจาะรูไว้มากมาย 120 00:04:32,000 --> 00:04:34,000 และลมก็ผ่านรูนั้นเข้ามา 121 00:04:34,000 --> 00:04:36,000 แล้วมันก็สามารถวาดเป็นภาพได้ 122 00:04:36,000 --> 00:04:38,000 ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะสายตาพิการ คุณเอามือวางบนนั้น 123 00:04:38,000 --> 00:04:40,000 แล้วก็จะเห็นช่องทางบนถนนและสิ่งกีดขวางได้ 124 00:04:40,000 --> 00:04:43,000 จริงๆแล้ว คุณสามารถปรับเปลี่ยนความถี่ของลมที่พ่นออกมา 125 00:04:43,000 --> 00:04:45,000 และก็อาจจะอุณหภูมิด้วย 126 00:04:45,000 --> 00:04:48,000 ซึ่งนี้เป็นระบบอินเตอร์เฟซหลายมิติ 127 00:04:48,000 --> 00:04:51,000 ที่คุณสามารถเห็นกล้องทางซ้าย ทางขวาของรถ 128 00:04:51,000 --> 00:04:54,000 และได้รู้ว่าคอมพิวเตอร์แปลงและส่งข้อมูลไปยัง AirPix ได้อย่างไร 129 00:04:54,000 --> 00:04:56,000 ด้วยสิ่งนี้ พวกเรากำลังแสดงภาพจำลอง 130 00:04:56,000 --> 00:04:59,000 ผู้พิการทางสายตาขับรถโดยใช้ AirPix 131 00:04:59,000 --> 00:05:02,000 การแสดงภาพจำลองนี้ยังมีประโยชน์ในการฝึกผู้พิการทางสายตาขับรถ 132 00:05:02,000 --> 00:05:04,000 และยังเป็นการทดสอบอย่างเร็วให้กับ 133 00:05:04,000 --> 00:05:06,000 ระบบอินเตอร์เฟซผู้พิการทางสายตาหลายประเภทด้วยเช่นกัน 134 00:05:06,000 --> 00:05:08,000 นี่เป็นการทำงานโดยพพื้นฐานของอุปกรณ์ 135 00:05:08,000 --> 00:05:10,000 เมื่อเดือนที่แล้ว 136 00:05:10,000 --> 00:05:12,000 วันที่ 29 มกราคม 137 00:05:12,000 --> 00:05:14,000 เราได้เปิดตัวรถคันนี้ครั้งแรกต่อสาธารณชน 138 00:05:14,000 --> 00:05:17,000 ที่สนามแข่งรถชื่อดัง Daytona International Speedway 139 00:05:17,000 --> 00:05:19,000 ในงานแข่งขัน Rolex 24 140 00:05:19,000 --> 00:05:22,000 ที่พวกเราได้รับเรื่องประหลาดใจด้วย มาดูกันครับ 141 00:05:22,000 --> 00:05:32,000 (เสียงดนตรี) 142 00:05:32,000 --> 00:05:36,000 (วิดีโอ) ผู้ประกาศ: วันนี้เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์(เสียงพร่า) 143 00:05:36,000 --> 00:05:40,000 ตอนนี้เขาขับถึงอัฒจรรย์แล้วครับ ตามด้วย Federistas 144 00:05:40,000 --> 00:05:46,000 (เสียงเชียร์) 145 00:05:46,000 --> 00:05:49,000 (เสียงแตร) 146 00:05:49,000 --> 00:05:51,000 นั่นไงครับอัฒจรรย์ 147 00:05:51,000 --> 00:05:55,000 และเขา(เสียงพร่า)ขับตามรถแวนข้างหน้าเขามาแล้วครับ 148 00:05:55,000 --> 00:05:57,000 มาแล้วครับ กล่องใบแรก 149 00:05:57,000 --> 00:06:00,000 มาดูกันครับว่ามาร์คจะหลบได้ไหม 150 00:06:00,000 --> 00:06:03,000 เขาทำได้ครับ เขาเบียงผ่านออกทางขวา 151 00:06:05,000 --> 00:06:08,000 กล่องใบที่สามมาแล้วครับ ตามด้วยใบที่สี่ 152 00:06:08,000 --> 00:06:11,000 และเขาขับผ่านทั้งสองกล่องได้อย่างสวยงามครับ 153 00:06:11,000 --> 00:06:13,000 เขาไล่รถแวนเข้ามาแล้วครับ 154 00:06:13,000 --> 00:06:16,000 ขับผ่านไปแล้วครับ 155 00:06:17,000 --> 00:06:19,000 นี่คือความฉลาด 156 00:06:19,000 --> 00:06:23,000 ของระบบไดนามิกนี้เลย 157 00:06:24,000 --> 00:06:27,000 เขากำลังเข้าสู่เส้นชัยแล้วครับ 158 00:06:27,000 --> 00:06:32,000 โดยผ่านแผงกั้นอย่างสวยงาม 159 00:06:32,000 --> 00:06:35,000 (เสียงแตร) 160 00:06:35,000 --> 00:06:38,000 (เสียงปรบมือ) 161 00:06:41,000 --> 00:06:43,000 เดนนิส ฮอง: ผมดีใจไปกับคุณอย่างมากเลยครับ 162 00:06:43,000 --> 00:06:45,000 มาร์คจะขับไปส่งผมที่โรงแรม 163 00:06:45,000 --> 00:06:47,000 มาร์ก ริโคโบโน: แน่นอนครับ 164 00:06:50,000 --> 00:06:59,000 (เสียงปรบมือ) 165 00:06:59,000 --> 00:07:01,000 เดนนิส: ตั้งแต่เราเริ่มงานนี้ 166 00:07:01,000 --> 00:07:04,000 พวกเราได้รับจดหมาย อีเมลล์ โทรศัพท์มากมาย 167 00:07:04,000 --> 00:07:06,000 จากคนทั่วโลก 168 00:07:06,000 --> 00:07:09,000 มีทั้งจดหมายขอบคุณ แต่บางครั้งก็มีจดหมายขำๆเหมือนกัน อย่างเช่นฉบับนี้: 169 00:07:09,000 --> 00:07:13,000 "ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมมีอักษรเบรลล์อยู่บนตู้ ATM ที่ตั้งไว้บริการผู้ขับขี่" 170 00:07:13,000 --> 00:07:15,000 (เสียงหัวเราะ) 171 00:07:15,000 --> 00:07:17,000 แต่บางครั้ง 172 00:07:17,000 --> 00:07:19,000 (เสียงหัวเราะ) 173 00:07:19,000 --> 00:07:21,000 แต่บางครั้งผมก็ได้รับ 174 00:07:21,000 --> 00:07:23,000 ผมไม่อยากเรียกว่าเมลล์ว่าร้าย 175 00:07:23,000 --> 00:07:25,000 แต่น่าจะเป็นข้อท้วงติงมากกว่า 176 00:07:25,000 --> 00:07:27,000 "ดร.ฮอง คุณบ้าไปแล้ว 177 00:07:27,000 --> 00:07:29,000 พยายามให้คนตาบอดอยู่บนถนนเนี่ยนะ 178 00:07:29,000 --> 00:07:31,000 คุณเสียสติไปแล้วแน่ๆ" 179 00:07:31,000 --> 00:07:33,000 แต่รถนี้เป็นแค่แบบจำลอง 180 00:07:33,000 --> 00:07:35,000 และมันจะไม่ออกสู่ท้องถนนแน่ 181 00:07:35,000 --> 00:07:37,000 จนกว่าจะถูกทดสอบว่าปลอดภัย หรือปลอดภัยกว่ารถทั่วไปแล้วเท่านั้น 182 00:07:37,000 --> 00:07:40,000 และผมเชื่อจริงๆว่ามันจะต้องเป็นไปได้ 183 00:07:40,000 --> 00:07:42,000 แต่ยังมีข้อกังขาว่าสังคม 184 00:07:42,000 --> 00:07:44,000 จะยอมรับไอเดียนี้ได้หรือไม่ 185 00:07:44,000 --> 00:07:46,000 แล้วพวกเราจะรับมือกับประกันอย่างไร 186 00:07:46,000 --> 00:07:48,000 แล้วเราจะออกใบขับขี่ให้ได้อย่างไร 187 00:07:48,000 --> 00:07:51,000 ยังมีอีกหลายอย่าง นอกเหนือจากความท้าทายทางเทคโนโลยี 188 00:07:51,000 --> 00:07:54,000 ที่พวกเราต้องขบคิดกันก่อนที่เรื่องนี้จะเป็นจริง 189 00:07:54,000 --> 00:07:56,000 แน่นอนว่าจุดมุ่งหมายของโปรเจคนี้ 190 00:07:56,000 --> 00:07:58,000 คือพัฒนารถให้ผู้พิการทางสายตา 191 00:07:58,000 --> 00:08:00,000 แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ 192 00:08:00,000 --> 00:08:03,000 เทคโนโลยีมูลค่ามหาศาล 193 00:08:03,000 --> 00:08:05,000 ที่ได้จากโปรเจคนี้ต่างหาก 194 00:08:05,000 --> 00:08:07,000 เซนเซอร์เหล่านี้สามารถมองเห็นในที่มืด 195 00:08:07,000 --> 00:08:09,000 หมอกควัน และฝนได้ 196 00:08:09,000 --> 00:08:11,000 ประกอบกับระบบอินเตอร์เฟซแบบใหม่ 197 00:08:11,000 --> 00:08:13,000 พวกเราสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ 198 00:08:13,000 --> 00:08:15,000 ปรับใช้ได้กับรถของคนสายตาปกติ 199 00:08:15,000 --> 00:08:18,000 หรือกับผู้พิการทางสายตา หรือกับเครื่องใช้ในบ้าน 200 00:08:18,000 --> 00:08:20,000 ใช้สำหรับการศึกษา หรือที่ทำงาน 201 00:08:20,000 --> 00:08:23,000 ลองคิดดูซิครับ ในห้องเรียนที่ครูเขียนกระดานดำ 202 00:08:23,000 --> 00:08:26,000 และนักเรียนที่สายตาพิการสามารถเห็นและอ่านได้ว่าครูเขียนอะไร 203 00:08:26,000 --> 00:08:28,000 โดยใช้ระบบอินเตอร์เฟซที่ไม่ใช้ภาพนี้ 204 00:08:28,000 --> 00:08:31,000 มีค่าอันประมาณมิได้ครับ 205 00:08:31,000 --> 00:08:34,000 ดังนั้นวันนี้ สิ่งที่ผมได้นำเสนอไป มันแค่การเริ่มต้นเท่านั้นครับ 206 00:08:34,000 --> 00:08:36,000 ขอบคุณมากครับ 207 00:08:36,000 --> 00:08:47,000 (เสียงปรบมือ)