1 00:00:00,000 --> 00:00:00,430 - 2 00:00:00,430 --> 00:00:04,050 ผมถูกร้องขอให้หาอนุพันธ์โดยอ้อมของสมการ 3 00:00:04,050 --> 00:00:10,390 แทนเจนต์ของ x ส่วน y เท่ากับ x บวก y 4 00:00:10,390 --> 00:00:14,150 ผมได้ทำวิดีโอเรื่องอนุพันธ์โดยอ้อมไปหลายอันแล้ว 5 00:00:14,150 --> 00:00:17,440 แต่นี่ดูจะเป็นที่มาความเจ็บปวดแหล่งใหญ่ที่สุด 6 00:00:17,440 --> 00:00:18,720 อันนึงสำหรับนักเรียนแคลคูลัสปีแรก 7 00:00:18,720 --> 00:00:21,040 งั้นผมว่าผมจะทำอย่างน้อยอีกตัวอย่างนึง 8 00:00:21,040 --> 00:00:22,860 มันไม่ผิดที่จะเห็นให้มากเท่าที่จะทำได้ 9 00:00:22,860 --> 00:00:24,290 งั้นลองทำอันนี้กัน 10 00:00:24,290 --> 00:00:26,680 ในการหาอนุพันธ์โดยอ้อมของอันนี้ เราก็แค่ใช้ 11 00:00:26,680 --> 00:00:29,363 โอเปอเรเตอร์อนุพันธ์เทียบกับ x ทั้งสองข้าง 12 00:00:29,363 --> 00:00:29,970 ของสมการ 13 00:00:29,970 --> 00:00:33,290 อนุพันธ์ของนี่เทียบกับ x-- อนุพันธ์ 14 00:00:33,290 --> 00:00:35,420 ทางซ้ายมือเทียบกับ x ก็เหมือนกับ 15 00:00:35,420 --> 00:00:40,580 อนุพันธ์ของทางขวามือเทียบกับ x 16 00:00:40,580 --> 00:00:42,790 ทางขวานี่จะตรงไปตรงมา แต่ 17 00:00:42,790 --> 00:00:44,770 ทางซ้ายจะมีกลเม็ดหน่อย 18 00:00:44,770 --> 00:00:47,380 งั้นลองทำด้านข้างตรงนี้ 19 00:00:47,380 --> 00:00:52,020 ขอผมเขียนทางซ้ายมือต่างออกไปหน่อย 20 00:00:52,020 --> 00:00:52,990 ผมจะทำมันด้วยอีกสีนึง 21 00:00:52,990 --> 00:01:00,410 ขอผมบอกว่า a เท่ากับแทนเจนต์ของ b 22 00:01:00,410 --> 00:01:09,380 และขอผมเรียก b เท่ากับ x ส่วน y 23 00:01:09,380 --> 00:01:11,620 แล้ว a แน่นอนว่าเหมือนกัน 24 00:01:11,620 --> 00:01:14,860 ผมหมายถึง หากผมแทนค่า b กลับลงในนี่ a ก้อน 25 00:01:14,860 --> 00:01:18,090 นี้ทั้งหมดผมสามารถเขียนมันใหม่แค่ a 26 00:01:18,090 --> 00:01:20,930 งั้นหากเราหาอนุพันธ์ของ a เทียบกับ 27 00:01:20,930 --> 00:01:23,740 x นั่นสิ่งที่เราอยากทำตรงนี้ 28 00:01:23,740 --> 00:01:26,570 ขอผมหาอนุพันธ์ของทั้งสองข้างของอันนี้ 29 00:01:26,570 --> 00:01:36,500 นี่จะเท่ากับอนุพันธ์ของ a เทียบกับ x เท่ากับ 30 00:01:36,500 --> 00:01:38,610 อนุพันธ์ของ x เทียบกับ x 31 00:01:38,610 --> 00:01:41,210 นั่นก็ตรงไปตรงมา มันคือ 1 32 00:01:41,210 --> 00:01:44,390 บวกอนุพันธ์ของ y เทียบกับ x 33 00:01:44,390 --> 00:01:45,430 งั้นขอผมเขียนมันอย่างนี้นะ 34 00:01:45,430 --> 00:01:48,820 ผมจะเขียนโอเปอเรเตอร์ของอนุพันธ์ อนุพันธ์ 35 00:01:48,820 --> 00:01:53,770 ของ y เทียบกับ x 36 00:01:53,770 --> 00:01:54,350 นั่นคือสิ่งที่เราทำทั้งหมด 37 00:01:54,350 --> 00:01:56,520 เราแค่ใช้โอเปอเรเตอร์อนุพันธ์กับ y และเราไม่ 38 00:01:56,520 --> 00:01:58,650 รู้ว่านี่มันคืออะไร เรากำลังจะแก้หามัน 39 00:01:58,650 --> 00:02:01,180 แต่แน่นอน ผมไม่อาจปล่อยอันนี้ไว้อย่างนี้ อนุพันธ์ 40 00:02:01,180 --> 00:02:02,360 ของ a เทียบกับ x 41 00:02:02,360 --> 00:02:04,610 เราแค่แก้หา a และ a ก็แค่อันนี้ 42 00:02:04,610 --> 00:02:05,930 ตรงนี้ จริงไหม? 43 00:02:05,930 --> 00:02:09,450 a คือแทนเจนต์ของ b และ b ก็แค่ y ส่วน x 44 00:02:09,450 --> 00:02:11,730 สาเหตุที่ผมเขียนมันอย่างนี้ เพราะผมอยากแสดง 45 00:02:11,730 --> 00:02:14,870 ให้คุณเห็นว่า ตอนคุณหาอนุพันธ์ของอันนี้ มันก็ 46 00:02:14,870 --> 00:02:16,500 แค่มาจากกฏลูกโซ่ 47 00:02:16,500 --> 00:02:18,840 มันไม่ใช่มนตร์หมอผีที่คุณไม่ 48 00:02:18,840 --> 00:02:20,090 เคยเรียนมาก่อน 49 00:02:20,090 --> 00:02:22,200 ดังนั้นอนุพันธ์ -- ขอผมเขียนกฏลูกโซ่ 50 00:02:22,200 --> 00:02:23,990 ลงไปตรงนี้นะ 51 00:02:23,990 --> 00:02:30,930 อนุพันธ์ของ a เทียบกับ x เท่ากับ 52 00:02:30,930 --> 00:02:35,280 อนุพันธ์ของ a เทียบกับ b คูณ อนุพันธ์ของ 53 00:02:35,280 --> 00:02:37,580 b เทียบกับ x 54 00:02:37,580 --> 00:02:39,720 นั่นก็แค่กฏลูกโซ่ และมันจำง่ายมาก 55 00:02:39,720 --> 00:02:43,040 เพราะ db ตัดกัน แล้วก็เหลือแค่ 56 00:02:43,040 --> 00:02:45,800 อนุพันธ์ของ a เทียบกับ x หากคุณทำเหมือนว่า 57 00:02:45,800 --> 00:02:47,470 มันเป็นเศษส่วนธรรมดา 58 00:02:47,470 --> 00:02:50,275 แล้วอนุพันธ์ของ a เทียบกับ b คืออะไร? 59 00:02:50,275 --> 00:02:55,020 - 60 00:02:55,020 --> 00:03:01,570 นั่นก็แค่ 1 ส่วนโคไซน์กำลังสองของ b 61 00:03:01,570 --> 00:03:03,570 และหากคุณจำไม่ได้ มันก็ไม่ได้ยากนัก 62 00:03:03,570 --> 00:03:07,400 ที่จะพิสูจน์ด้วยตัวเอง หากคุณเขียนมันเป็น ไซน์ 63 00:03:07,400 --> 00:03:10,670 ของ b ส่วนโคไซน์ของ b แต่นี่เป็นหนึ่งในอนุพันธ์ของฟังก์ชัน 64 00:03:10,670 --> 00:03:12,130 ตรีโกณมิติที่คนส่วนใหญ่เลือกจำ 65 00:03:12,130 --> 00:03:14,230 ผมว่าผมได้ทำวิดีโอพิสูจน์มันไปแล้ว 66 00:03:14,230 --> 00:03:16,840 และหนังสือบางเล่ม ยังเขียนนี่เป็นเซกแคนต์กำลังสองของ b แต่เรา 67 00:03:16,840 --> 00:03:19,070 รู้ว่าเซกแคนต์กำลังสอง ก็เหมือนกับ 1 ส่วน 68 00:03:19,070 --> 00:03:20,340 โคไซน์กำลังสองนั่นเอง 69 00:03:20,340 --> 00:03:25,320 ผมชอบเขียนมันในรูปของฟังก์ชันตรีโกณฯ พื้นฐาน 70 00:03:25,320 --> 00:03:27,360 หรืออัตราส่วนตรีโกณฯ แทนที่จะเป็นพวกเซกแกนต์ 71 00:03:27,360 --> 00:03:28,490 หรือโคเซกแคนต์ 72 00:03:28,490 --> 00:03:31,090 แล้วอนุพันธ์ของ b เทียบกับ x คืออะไร? 73 00:03:31,090 --> 00:03:37,030 - 74 00:03:37,030 --> 00:03:38,260 นี่ก็น่าสนใจทีเดียว 75 00:03:38,260 --> 00:03:39,710 ขอผมเขียน b ใหม่นะ 76 00:03:39,710 --> 00:03:45,730 ขอผมเขียน b เท่ากับ x คูณ y กำลังลบ 1 77 00:03:45,730 --> 00:03:48,520 แล้วอนุพันธ์ของ b เทียบกับ x เราสามารถ 78 00:03:48,520 --> 00:03:50,470 ใช้กฏลูกโซ่ได้หน่อยตรงนี้ 79 00:03:50,470 --> 00:03:53,680 เราอาจบอกว่า -- ขอผมเขียนนี่นะ -- อนุพันธ์ของ b 80 00:03:53,680 --> 00:03:57,530 เทียบกับ x เท่ากับ อนุพันธ์ของ x คูณ 81 00:03:57,530 --> 00:03:58,790 y กำลังลบ 1 82 00:03:58,790 --> 00:04:01,300 แล้วอนุพันธ์ของ x คือ 1 83 00:04:01,300 --> 00:04:07,360 คูณ y กำลังลบ 1 บวก อนุพันธ์ของ y -- งั้น 84 00:04:07,360 --> 00:04:08,030 ขอผมเขียนแบบนี้นะ 85 00:04:08,030 --> 00:04:12,320 บวกอนุพันธ์เทียบกับ x ของ y 86 00:04:12,320 --> 00:04:17,930 กำลังลบ 1 คูณเทอมแรก คูณ x 87 00:04:17,930 --> 00:04:20,470 งั้นสิ่งนี้ตรงนี้ และแน่นอนผมยังไม่ได้ 88 00:04:20,470 --> 00:04:21,190 จัดรูปมันเลย 89 00:04:21,190 --> 00:04:22,890 ผมยังต้องหาว่าสิ่งนี้คืออะไรตรงนี้ 90 00:04:22,890 --> 00:04:25,010 แต่ผมจะจัดรูปการใช้กฏผลคูณตรงนี้ 91 00:04:25,010 --> 00:04:27,990 อนุพันธ์ของเทอมแรก อนุพันธ์ของ x คือ 1 92 00:04:27,990 --> 00:04:30,380 คูณ เทอมที่สอง บวก อนุพันธ์ของเทอมที่สอง 93 00:04:30,380 --> 00:04:31,310 คูณเทอมแรก 94 00:04:31,310 --> 00:04:32,700 นั่นคือที่ผมทำไป 95 00:04:32,700 --> 00:04:35,170 งั้นอนุพันธ์ของ b เทียบกับ x ก็แค่ 96 00:04:35,170 --> 00:04:36,560 สิ่งนี้ตรงนี้ 97 00:04:36,560 --> 00:04:42,290 ดังนั้นมันเท่ากับ -- ขอผมเขียนด้วยสีเหลืองนะ -- งั้นมันก็คูณ -- 98 00:04:42,290 --> 00:04:43,520 โอ้ ผมจะใช้สีฟ้าเพราะผมเขียนไปแล้ว 99 00:04:43,520 --> 00:04:47,290 นี่คือสีฟ้า อนุพันธ์ของ b เทียบกับ x คือ y กำลัง 100 00:04:47,290 --> 00:04:52,580 ลบ 1 หรือ 1 ส่วน y บวก อนุพันธ์เทียบกับ 101 00:04:52,580 --> 00:04:59,590 x ของ 1 ส่วน y คูณ x 102 00:04:59,590 --> 00:05:01,180 งั้นขอผมเขียนมันลงตรงนี้นะ 103 00:05:01,180 --> 00:05:04,330 เราเพิ่งหาได้ หรือเราเกือบหาได้ 104 00:05:04,330 --> 00:05:07,400 แล้วว่า อนุพันธ์ของ a เทียบกับ x คืออะไร และเรา 105 00:05:07,400 --> 00:05:08,450 สามารถโยนนั่นลงไป 106 00:05:08,450 --> 00:05:09,230 และเรายังไม่เสร็จ 107 00:05:09,230 --> 00:05:12,280 อนุพันธ์ของ 1 ส่วน y เทียบกับ x คืออะไร? 108 00:05:12,280 --> 00:05:14,990 เราต้องใช้กฏลูกโซ่อีกรอบ 109 00:05:14,990 --> 00:05:17,520 - 110 00:05:17,520 --> 00:05:18,830 และผมอยากทำให้กระจ่างตรงนี้ 111 00:05:18,830 --> 00:05:21,570 ผมรู้ว่ามันอาจดูอืดอาดที่ผมทำตรงนี้ 112 00:05:21,570 --> 00:05:24,020 แต่ผมว่ามันช่วยให้เข้าใจมากขึ้น 113 00:05:24,020 --> 00:05:28,390 ขอผมกำหนด c เท่ากับ 1 ส่วน y 114 00:05:28,390 --> 00:05:32,550 งั้นอนุพันธ์ของ c เทียบกับ x แค่ใช้กฏ 115 00:05:32,550 --> 00:05:35,580 ลูกโซ่ จะเท่ากับอนุพันธ์ของ c เทียบกับ 116 00:05:35,580 --> 00:05:40,090 y คูณอนุพันธ์ของ y เทียบกับ x 117 00:05:40,090 --> 00:05:43,140 แล้วอนุพันธ์ของ c เทียบกับ y เป็นเท่าไหร่? 118 00:05:43,140 --> 00:05:44,930 ทีนี้ นี่ก็เหมือนกับ -- ผมสามารถเขียนนี่ใหม่ 119 00:05:44,930 --> 00:05:46,350 ว่า y กำลังลบ 1 120 00:05:46,350 --> 00:05:51,160 ดังนั้นมันคือ ลบ y ยกกำลังลบ 2 121 00:05:51,160 --> 00:05:52,910 นั่นคือสิ่งที่อยู่ตรงนี้ 122 00:05:52,910 --> 00:05:55,740 สิ่งนี้คืออันนั้นตรงนั้น 123 00:05:55,740 --> 00:05:57,220 แต่ผมไม่รู้ว่าอนุพันธ์ของ y เทียบ 124 00:05:57,220 --> 00:05:58,020 กับ x คืออะไร 125 00:05:58,020 --> 00:05:59,690 นั่นคือสิ่งที่เราพยายามแก้หา 126 00:05:59,690 --> 00:06:02,390 งั้นนั่นก็คูณด้วยอนุพันธ์ของ y 127 00:06:02,390 --> 00:06:03,540 เทียบกับ x 128 00:06:03,540 --> 00:06:05,340 นั่นก็มาจากกฏลูกโซ่ 129 00:06:05,340 --> 00:06:11,400 งั้นสิ่งนี้ตรงนี้ นี่คืออนุพันธ์ของสิ่งนี้ 130 00:06:11,400 --> 00:06:13,830 เทียบกับ x ซึ่งเหมือนกับอนุพันธ์ 131 00:06:13,830 --> 00:06:15,770 ของ c เทียบกับ x 132 00:06:15,770 --> 00:06:19,210 ดังนั้นเราก็เขียนที่ว่างเล็ก ๆ ตรงนี้ ผมสามารถ 133 00:06:19,210 --> 00:06:25,240 เขียนที่ว่างตรงนี้ใหม่ เป็น ลบ y กำลังลบ 2 dy 134 00:06:25,240 --> 00:06:28,910 dx แล้วก็ แน่นอน มันมี คูณ x ด้วย 135 00:06:28,910 --> 00:06:33,910 แล้วก็เรามี บวก 1 ส่วน y และทั้งหมดนั่นคูณ 136 00:06:33,910 --> 00:06:38,050 1 ส่วนโคไซน์กำลังสอง b 137 00:06:38,050 --> 00:06:40,660 และตอนนี้เราได้จัดรูปมันดีขึ้นหน่อยแล้ว 138 00:06:40,660 --> 00:06:42,840 ผมหวังว่าการอธิบายกฏลูกโซ่ไม่ทำให้คุณงงนะ 139 00:06:42,840 --> 00:06:45,020 เพราะผมอยากให้คุณเข้าใจโจทย์อนุพันธ์ 140 00:06:45,020 --> 00:06:48,320 โดยอ้อมพวกนี้ทั้งหมด dy dx พวกนี้ 141 00:06:48,320 --> 00:06:50,570 ไม่ต้อง มันไม่ใช่กฏที่คุณต้องจำเลย 142 00:06:50,570 --> 00:06:52,890 มันจากกฏลูกโซ่โดยธรรมชาติอยู่แล้ว 143 00:06:52,890 --> 00:06:56,930 ดังนั้นเราแก้ da dx นั่นเท่ากับพจน์ 144 00:06:56,930 --> 00:06:59,230 นี้ตรงนี้ 145 00:06:59,230 --> 00:07:07,130 ขอผมเขียนมันหน่อย มันเท่ากับ 1 ส่วนโคไซน์กำลังสองของ b 146 00:07:07,130 --> 00:07:07,880 แล้ว b คืออะไร? 147 00:07:07,880 --> 00:07:10,640 ผมเขียนมันเป็น cos x ส่วน y 148 00:07:10,640 --> 00:07:16,920 โคไซน์กำลังสองของ x ส่วน y คูณก้อนทั้งหมดนั่น 149 00:07:16,920 --> 00:07:19,840 ส่วนอันนี้ คูณพวกเลอะเทอะนี่ทั้งหมด 150 00:07:19,840 --> 00:07:25,670 1 ส่วน y บวก หรือบางทีผมควรบอกว่า ลบ ลบ -- หาก 151 00:07:25,670 --> 00:07:32,486 ผมจัดรูปเจ้านี่ นี่ก็คือ x ส่วน y กำลังสอง คูณ dy dx 152 00:07:32,486 --> 00:07:36,660 - 153 00:07:36,660 --> 00:07:39,000 แล้วนั่นเท่ากับทางขวามือนี่ 154 00:07:39,000 --> 00:07:48,490 มันเท่ากับ 1 บวก dy dx 155 00:07:48,490 --> 00:07:51,420 และทั้งหมดที่เราต้องทำ คือแก้หา dy dx 156 00:07:51,420 --> 00:07:53,990 ขอผมทวนวิธีที่เราไปนะ 157 00:07:53,990 --> 00:07:56,300 ผมใช้กฏลูกโซ่ในทุกขั้น แต่ 158 00:07:56,300 --> 00:07:58,170 เมื่อคุณชินแล้ว คุณก็ทำตรง 159 00:07:58,170 --> 00:07:59,360 ลงมาได้เลย 160 00:07:59,360 --> 00:08:01,380 วิธีที่คุณควรคิดคือว่า -- ทางขวามือ 161 00:08:01,380 --> 00:08:02,033 ผมว่าคุณคงเข้าใจแล้ว 162 00:08:02,033 --> 00:08:04,380 อนุพันธ์ของ x คือ 1 อนุพันธ์ของ y 163 00:08:04,380 --> 00:08:06,560 เทียบกับ x นั่นก็แค่ dy dx 164 00:08:06,560 --> 00:08:09,010 แต่ทางซ้ายมือ คุณหาอนุพันธ์ของ 165 00:08:09,010 --> 00:08:11,630 ทั้งก้อนนั้นเทียบกับ x ส่วน y 166 00:08:11,630 --> 00:08:14,100 ดังนั้น นั่นก็แค่อนุพันธ์ของแทนเจนต์ เท่ากับ 1 ส่วน 167 00:08:14,100 --> 00:08:15,020 โคไซน์กำลังสอง 168 00:08:15,020 --> 00:08:18,620 งั้นมันคือ 1 ส่วน โคไซน์กำลังสอง ของ x ส่วน y แล้วคุณก็คูณ 169 00:08:18,620 --> 00:08:23,530 มันด้วยอนุพันธ์ของ x ส่วน y เทียบกับ x 170 00:08:23,530 --> 00:08:26,770 และอนุพันธ์ของ x ส่วน y เทียบกับ x ก็คือ 171 00:08:26,770 --> 00:08:28,970 อนุพันธ์ของ -- และมันกลายเป็นซับซ้อน นั่นคือสาเหตุที่ดี 172 00:08:28,970 --> 00:08:31,590 ในการทำข้าง ๆ ตรงนี้ -- แต่นั่นก็คืออนุพันธ์ 173 00:08:31,590 --> 00:08:34,150 ของ x ซึ่งก็คือ 1 คูณ 1 ส่วน y 174 00:08:34,150 --> 00:08:39,680 ซึ่งก็คือเทอมนั้น บวก อนุพันธ์ของ 1 ส่วน y เทียบ 175 00:08:39,680 --> 00:08:44,200 กับ x ซึ่งก็คือ ลบ 1 ส่วน y กำลังสอง dy dx 176 00:08:44,200 --> 00:08:46,620 มาจากกฏลูกโซ่ คูณ dx 177 00:08:46,620 --> 00:08:48,140 นั่นคือสาเหตุที่ดีที่เราทำข้าง ๆ จะได้ 178 00:08:48,140 --> 00:08:49,360 ไม่ทำอะไรพลาด 179 00:08:49,360 --> 00:08:51,410 แต่เมื่อคุณชินแล้ว คุณสามารถทำมันได้ในหัว 180 00:08:51,410 --> 00:08:53,980 และแน่นอน นั่นเท่ากับทางขวามือ 181 00:08:53,980 --> 00:08:56,520 จากนี้ไป มันก็แค่เลขคณิตแท้ ๆ 182 00:08:56,520 --> 00:08:59,140 แค่แก้หา dy dx ของเรา 183 00:08:59,140 --> 00:09:01,490 ดังนั้นที่แรกที่ควรเริ่มคือ การคูณทั้งสองข้างของ 184 00:09:01,490 --> 00:09:04,910 สมการนี้ด้วย โคไซน์กำลังสองของ x ส่วน y 185 00:09:04,910 --> 00:09:07,420 และแน่นอน นั่นจะกลายเป็น 1 ทางด้านนี้ 186 00:09:07,420 --> 00:09:14,970 และด้านซ้ายจะเป็น 1 ส่วน y ลบ x ส่วน y กำลังสอง 187 00:09:14,970 --> 00:09:23,690 dy dx เท่ากับ -- ผมต้องคูณทั้งสองของ 188 00:09:23,690 --> 00:09:26,730 สมการด้วยตัวส่วนนี่ตรงนี้ -- เท่ากับ 189 00:09:26,730 --> 00:09:32,530 โคไซน์กำลังสองของ x ส่วน y บวก โคไซน์กำลังสองของ 190 00:09:32,530 --> 00:09:35,190 x ส่วน y dy dx 191 00:09:35,190 --> 00:09:39,420 - 192 00:09:39,420 --> 00:09:40,190 ทีนี้เราทำอะไรได้ 193 00:09:40,190 --> 00:09:44,210 เราสามารถลบโคไซน์กำลังสอง ของ x ส่วน y จากทั้ง 194 00:09:44,210 --> 00:09:52,110 สองข้างของสมการ และเราได้ 1 ส่วน y ลบ โคไซน์ 195 00:09:52,110 --> 00:09:53,710 กำลังสองของ x ส่วน y 196 00:09:53,710 --> 00:09:55,780 ทั้งหมดที่ผมทำคือ ผมหักอันนี้จากทั้งสองข้าง 197 00:09:55,780 --> 00:09:57,590 ของสมการ ที่สุดแล้วผมก็ย้ายมันไป 198 00:09:57,590 --> 00:09:59,040 ทางด้านซ้ายมือ 199 00:09:59,040 --> 00:10:01,040 ที่ผมพยายามทำคือผมพยายามแยก 200 00:10:01,040 --> 00:10:04,810 เทอมที่ไม่มี dy dx จากเทอมที่มี dy dx 201 00:10:04,810 --> 00:10:06,750 ผมอยากย้ายพวกเทอม dy dx มา 202 00:10:06,750 --> 00:10:07,950 ไว้ทางขวามือ 203 00:10:07,950 --> 00:10:11,550 งั้นขอผมเพิ่ม x ส่วน y กำลังสอง dy dx ทั้งสองข้าง 204 00:10:11,550 --> 00:10:17,260 แล้วนั่นเท่ากับ x ส่วน y -- ขอผมเขียนมันด้วย 205 00:10:17,260 --> 00:10:21,070 สีที่ผมเขียนมันแต่แรก 206 00:10:21,070 --> 00:10:21,470 สีต่างกันนิดหน่อย 207 00:10:21,470 --> 00:10:27,110 แล้วนั่นคือ x ส่วน y กำลังสอง -- ผมจะเขียน dy dx ด้วยสีส้ม 208 00:10:27,110 --> 00:10:34,120 dy dx แล้วคุณก็มีเทอมนี้ บวกโคไซน์กำลังสอง 209 00:10:34,120 --> 00:10:36,880 ของ x ส่วน y dy dx 210 00:10:36,880 --> 00:10:40,950 - 211 00:10:40,950 --> 00:10:43,000 ผมว่าเราถึงปลายทางแล้ว 212 00:10:43,000 --> 00:10:46,410 ลองดึง dy dx ออกมาจากทางขวามือ 213 00:10:46,410 --> 00:10:56,770 นี่เท่ากับ dy dx คูณ x ส่วน y กำลังสอง บวก 214 00:10:56,770 --> 00:11:01,220 โคไซน์กำลังสองของ x ส่วน y 215 00:11:01,220 --> 00:11:04,180 และนั่นเท่ากับสิ่งนี้ตรงนี้ มันเท่ากับ 216 00:11:04,180 --> 00:11:09,250 1 ส่วน y ลบ โคไซน์กำลังสองของ x ส่วน y 217 00:11:09,250 --> 00:11:12,240 ทีนี้เพื่อแก้หา dy dx เราแค่ต้องหารทั้งสองข้าง 218 00:11:12,240 --> 00:11:15,450 ของสมการนี้ด้วยเทอมนี้ตรงนี้ 219 00:11:15,450 --> 00:11:16,900 แล้วเราจะได้อะไร? 220 00:11:16,900 --> 00:11:21,970 เราได้ หากผมหารทั้งสองข้างด้วยนั่น เราได้ 1 ส่วน y 221 00:11:21,970 --> 00:11:27,210 ลบโคไซน์กำลังสองของ x ส่วน y หารด้วยก้อน 222 00:11:27,210 --> 00:11:28,720 นี้ทั้งหมดตรงนี้ 223 00:11:28,720 --> 00:11:36,190 x ส่วน y กำลังสอง บวก โคไซน์กำลังสองของ x ส่วน y 224 00:11:36,190 --> 00:11:42,150 เท่ากับ dy dx 225 00:11:42,150 --> 00:11:43,370 แล้วเราก็เสร็จแล้ว 226 00:11:43,370 --> 00:11:46,460 เราแค่ใช้กฏลูกโซ่สองสามครั้ง แล้วเราก็สามารถ 227 00:11:46,460 --> 00:11:50,600 หาอนุพันธ์โดยอ้อมของ แทนเจนต์ของ y ส่วน x 228 00:11:50,600 --> 00:11:51,600 เท่ากับ x บวก y 229 00:11:51,600 --> 00:11:55,980 ส่วนที่ยากคือการเริ่มขั้นนี้ตรงนี้ 230 00:11:55,980 --> 00:11:59,470 หลังจากขั้นนี้ไป มันก็แค่เลขคณิตล้วน ๆ ในการแก้ 231 00:11:59,470 --> 00:12:04,730 หา dy dyx แล้วคุณก็ได้คำตอบตรงนี้ 232 00:12:04,730 --> 00:12:07,380 เอาล่ะ หวังว่าคุณคงเห็นประโยชน์มันนะ