WEBVTT 00:00:00.827 --> 00:00:03.938 เมื่อไม่นานมานี้ ฉันได้ไปเที่ยวในไฮแลนด์ บนเกาะนิวกินี 00:00:03.938 --> 00:00:06.406 และได้พูดคุยกับชายคนหนึ่งที่มีภรรยาสามคน 00:00:06.905 --> 00:00:09.994 ฉันถามเขาว่า "คุณอยากจะมีภรรยากี่คน" 00:00:10.340 --> 00:00:11.748 เขาเงียบไปพักใหญ่ 00:00:11.748 --> 00:00:12.987 ฉันคิดกับตัวเองว่า 00:00:12.987 --> 00:00:14.562 นี่เขาจะตอบว่า 5 คนหรือเปล่า 00:00:14.562 --> 00:00:16.019 หรือว่า 10 คน 00:00:16.023 --> 00:00:17.885 หรือว่า 25 คน 00:00:17.909 --> 00:00:19.071 เขาโน้มตัวมาหาฉัน 00:00:19.095 --> 00:00:20.605 และกระซิบว่า "ไม่อยากมีเลยสักคน" NOTE Paragraph 00:00:20.629 --> 00:00:22.809 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:00:23.514 --> 00:00:27.883 86 เปอร์เซ็นของสังคมมนุษย์ ยอมให้ผู้ชายมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งคน 00:00:27.883 --> 00:00:29.058 มีภรรยาหลายคนพร้อมกัน 00:00:29.058 --> 00:00:31.141 แต่กลุ่มคนส่วนมากของวัฒนธรรมเหล่านี้ 00:00:31.141 --> 00:00:35.503 มีเพียงห้าถึงสิบเปอร์เซ็นของผู้ชายเท่านั้น ที่มีภรรยาหลายคน 00:00:35.503 --> 00:00:37.874 การมีคู่ครองหลายคน สร้างความเจ็บปวดได้เหมือนปวดฟัน 00:00:37.874 --> 00:00:40.978 ในความเป็นจริงแล้ว ภรรยาทั้งหลายจะทะเลาะกัน 00:00:40.978 --> 00:00:43.995 บางครั้งถึงกับกลั่นแกล้งลูกของอีกฝ่าย 00:00:44.455 --> 00:00:47.100 และคุณก็จำเป็นต้องมีวัว มีแพะ 00:00:47.100 --> 00:00:49.089 มีเงิน และมีที่ดินจำนวนมากมาย 00:00:49.089 --> 00:00:50.655 ในการที่จะสร้างฮาเร็มขึ้นมา NOTE Paragraph 00:00:51.017 --> 00:00:53.376 มนุษย์เราเป็นสปีชีส์ที่มีการจับคู่ 00:00:53.376 --> 00:00:56.938 97 เปอร์เซ็นของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไม่มีการจับคู่กันเพื่อเลี้ยงลูกของตน 00:00:56.938 --> 00:00:58.790 แต่มนุษย์เราทำเช่นนั้น 00:00:58.790 --> 00:01:00.964 ฉันไม่ได้กำลังบอกว่าพวกเรา 00:01:00.964 --> 00:01:04.125 ไม่จำเป็นต้องว่ามีความซื่อสัตย์ ต่อคู่ครองของตนเองเสมอไป 00:01:04.125 --> 00:01:06.877 ฉันพบเห็นพฤติกรรมนอกใจใน 42 วัฒนธรรม 00:01:06.877 --> 00:01:09.382 ฉันเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว มันเป็นเหตุผลทางพันธุศาสตร์ 00:01:09.386 --> 00:01:11.254 และระบบวงจรสมอง 00:01:11.258 --> 00:01:13.225 สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นปกติทั่วโลก 00:01:13.225 --> 00:01:15.182 แต่พวกเรานั้นถูกสร้างมาให้รัก NOTE Paragraph 00:01:15.716 --> 00:01:19.032 เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงความรักไปอย่างไร 00:01:19.515 --> 00:01:21.987 ฉันจะบอกว่าแทบไม่เปลี่ยนเลย 00:01:22.744 --> 00:01:24.098 ฉันศึกษาเรื่องสมอง 00:01:24.102 --> 00:01:27.816 ฉันและเพื่อนร่วมงาน ได้สแกนสมองของคนกว่าร้อยคน 00:01:27.816 --> 00:01:30.847 ประกอบด้วยคนที่กำลัง ตกหลุมรักอย่างมีความสุข 00:01:30.847 --> 00:01:32.938 คนที่เพิ่งถูกปฏิเสธความรัก 00:01:32.942 --> 00:01:34.829 และคนที่ตกหลุมรักมาอย่างยาวนาน 00:01:34.829 --> 00:01:38.046 และมันเป็นไปได้นะคะ ที่จะตกหลุมรักเป็นเวลายาวนาน 00:01:38.543 --> 00:01:40.423 และฉันสนับสนุนความคิดที่ว่า 00:01:40.423 --> 00:01:43.498 เราวิวัฒนาการระบบประสาทสามระบบ ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน 00:01:43.502 --> 00:01:45.353 เพื่อจับคู่และเจริญพันธุ์ 00:01:45.353 --> 00:01:46.519 แรงขับทางเพศ 00:01:46.519 --> 00:01:48.495 ความรู้สึกรักหวานซึ้งอย่างแรงกล้า 00:01:48.499 --> 00:01:52.249 และความรู้สึกยึดติดหยั่งรากลึก กับคู่ครองที่ครองคู่กันมานาน 00:01:52.249 --> 00:01:54.725 และด้วยการทำงานร่วมกันของ ระบบประสาททั้งสามระบบ 00:01:54.729 --> 00:01:57.221 ร่วมกับส่วนอื่น ๆ ของสมอง 00:01:57.221 --> 00:02:02.387 ก่อให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ ความรักอย่างลึกซึ้ง และการสร้างครอบครัว NOTE Paragraph 00:02:02.391 --> 00:02:04.798 แต่พวกมันอยู่ต่ำกว่าสมองชั้นนอกมาก 00:02:04.798 --> 00:02:09.023 ต่ำลงไปกว่าระบบลิมบิค ที่ทำให้เรารู้สึกถึงอารมณ์ 00:02:09.023 --> 00:02:10.354 สร้างอารมณ์ความรู้สึกของเรา 00:02:10.354 --> 00:02:15.199 ระบบประสาทเหล่านี้วางตัวอยู่ ในส่วนดั้งเดิมของสมองเชื่อมต่อกับพลังงาน 00:02:15.203 --> 00:02:20.443 การเพ่งความคิด ความปรารถนา แรงบันดาลใจ ความต้องการ และแรงขับ 00:02:20.443 --> 00:02:21.620 ในกรณีนี้ 00:02:21.620 --> 00:02:24.205 เป็นแรงขับที่จะให้ได้มาซึ่งรางวัล อันยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต 00:02:24.205 --> 00:02:25.663 นั่นคือ คู่สืบพันธุ์ 00:02:25.663 --> 00:02:30.210 โดยมีวิวัฒนาการมากว่า 4.4 ล้านปี ตั้งแต่ยุคแรกของบรรพบุรุษ 00:02:30.214 --> 00:02:35.010 และมันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าคุณจะปัดหน้าจอแอปทินเดอร์ไปซ้ายหรือขวา NOTE Paragraph 00:02:35.010 --> 00:02:36.267 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:02:36.271 --> 00:02:38.737 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:02:38.741 --> 00:02:43.370 เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนวิธีที่เราใช้จีบกัน อย่างไม่ต้องสงสัย 00:02:43.370 --> 00:02:45.318 อีเมล ส่งข้อความ 00:02:45.318 --> 00:02:47.317 สัญลักษณ์อิโมจิเพื่อสื่ออารมณ์ 00:02:47.317 --> 00:02:48.585 ข้อความหรือรูปภาพติดเรท 00:02:48.585 --> 00:02:51.055 การกดไลค์รูป การถ่ายเซลฟี 00:02:51.055 --> 00:02:55.207 พวกเรากำลังมองเห็นกฎเกณฑ์ และข้อห้ามใหม่ ๆ สำหรับการจีบกัน 00:02:55.936 --> 00:02:57.917 แต่คุณคิดว่า 00:02:57.917 --> 00:03:01.091 สิ่งเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงความรัก อย่างมากมายจริง ๆ น่ะหรือ 00:03:01.730 --> 00:03:04.094 ลองคิดถึงสมัยปลายทศวรรษที่ 40 สิ 00:03:04.098 --> 00:03:06.679 ตอนที่รถยนต์เป็นที่นิยมมาก 00:03:06.683 --> 00:03:09.003 ทันใดนั้นพวกเราก็มีห้องนอนที่เขย่าไปมาได้ NOTE Paragraph 00:03:09.003 --> 00:03:10.785 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:03:10.785 --> 00:03:15.053 หรือว่าการเกิดขึ้นของยาคุมกำเนิด 00:03:15.491 --> 00:03:20.772 ที่ช่วยปลดปล่อยผู้หญิงจากภัยคุกคาม ของการตั้งครรภ์และความย่อยยับทางสังคม 00:03:20.772 --> 00:03:25.236 ในที่สุดผู้หญิงก็สามารถแสดงออกถึง ความต้องการทางเพศจากสัญชาตญาณดิบได้ NOTE Paragraph 00:03:25.724 --> 00:03:28.735 แม้กระทั่งเว็บไซต์หาคู่ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรัก 00:03:28.735 --> 00:03:31.297 ฉันเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ของเว็บ Match.com 00:03:31.297 --> 00:03:33.011 มาเป็นระยะเวลา 11 ปีแล้ว 00:03:33.011 --> 00:03:35.055 ฉันเฝ้าบอกพวกเขา และพวกเขาก็เห็นด้วย 00:03:35.059 --> 00:03:36.612 ว่าเว็บเหล่านี้ไม่ใช่เว็บหาคู่ 00:03:36.612 --> 00:03:38.655 แต่เป็นเพียงเว็บแนะนำตัว 00:03:39.017 --> 00:03:41.264 เมื่อคุณนั่งลงในบาร์ 00:03:41.264 --> 00:03:42.872 ในร้านกาแฟ 00:03:42.872 --> 00:03:44.268 บนม้านั่งในสวนสาธารณะ 00:03:44.272 --> 00:03:49.281 สมองดึกดำบรรพ์ของคุณเริ่มปฏิบัติการ เหมือนแมวหลับที่ถูกปลุกให้ตื่น 00:03:49.281 --> 00:03:50.604 และคุณก็เริ่มยิ้ม 00:03:50.604 --> 00:03:51.786 และหัวเราะ 00:03:51.786 --> 00:03:53.002 และตั้งใจฟัง 00:03:53.002 --> 00:03:57.905 และทำสิ่งต่าง ๆ ที่บรรพบุรุษของเราทำ เฉกเช่นเมื่อหนึ่งแสนปีที่แล้ว 00:03:58.424 --> 00:04:00.351 เราสามารถมอบผู้คนมากมายให้กับคุณ 00:04:00.351 --> 00:04:01.960 เหมือนเช่นที่เว็บไซต์หาคู่ทำ 00:04:01.960 --> 00:04:05.897 แต่อัลกอริทีมที่แท้จริงคือ สมองของมนุษย์ต่างหาก 00:04:05.897 --> 00:04:08.499 เทคโนโลยีไม่ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ NOTE Paragraph 00:04:09.041 --> 00:04:13.679 เทคโนโลยีไม่ได้เปลี่ยนคนที่คุณเลือกที่จะรัก 00:04:13.679 --> 00:04:16.389 ฉันศึกษาชีววิทยาด้านบุคลิกภาพ 00:04:16.389 --> 00:04:17.641 และฉันเชื่อ 00:04:17.645 --> 00:04:21.932 ว่าเราค่อย ๆ พัฒนาวิธีการคิด และพฤติกรรมอย่างกว้าง ๆ 4 แบบ 00:04:21.932 --> 00:04:23.796 ที่เชื่อมโยงกับระบบโดพามีน, เซโรโทนิน, 00:04:23.796 --> 00:04:26.004 เทสโทสเตอโรน และ เอสโทรเจน 00:04:26.358 --> 00:04:30.495 ดังนั้น ฉันจึงได้สร้างแบบสอบถาม ที่พัฒนาจากวิทยาศาสตร์ด้านสมอง 00:04:30.495 --> 00:04:33.661 เพื่อวัดระดับที่คนแสดงคุณสมบัติ 00:04:33.661 --> 00:04:35.449 กลุ่มของคุณสมบัติ 00:04:35.449 --> 00:04:38.487 ที่เชื่อมโยงกับแต่ละระบบสมองทั้งสี่ชนิดนี้ 00:04:38.829 --> 00:04:43.691 จากนั้นฉันได้ใส่แบบสอบถามนี้ ลงในเว็บหาคู่ต่าง ๆ 00:04:43.691 --> 00:04:45.363 ใน 40 ประเทศ 00:04:45.969 --> 00:04:49.853 ขณะนี้มีคนตอบแบบสอบถามนี้แล้ว มากกว่า 14 ล้านคน 00:04:49.853 --> 00:04:53.808 และฉันก็ได้เห็นว่า ตามธรรมชาติแล้ว คนแบบไหนจะดึงดูดกัน NOTE Paragraph 00:04:54.462 --> 00:04:55.973 ฉันพบว่า 00:04:55.977 --> 00:04:58.560 คนที่มีการแสดงออก ของระบบโดพามีนอย่างชัดเจน 00:04:58.560 --> 00:05:01.725 มีแนวโน้มที่จะขี้สงสัย สร้างสรรค์ ตอบสนองทันที มีพลังงาน 00:05:01.729 --> 00:05:05.194 ซึ่งฉันอยากจะคิดว่า มีผู้คนมากมายในห้องนี้มีลักษณะเช่นนี้ 00:05:05.194 --> 00:05:07.146 จะดึงดูดคนที่มีลักษณะเหมือนกับตนเอง 00:05:07.146 --> 00:05:10.553 คนที่ขี้สงสัยและมีความคิดสร้างสรรค์ ต้องการผู้คนแบบเดียวกับตน 00:05:10.553 --> 00:05:13.221 คนที่มีการแสดงออก ของระบบเซโรโทนินอย่างชัดเจน 00:05:13.225 --> 00:05:16.124 มีแนวโน้มที่เป็นพวกจะอนุรักษ์นิยม และปฏิบัติตามกฎ 00:05:16.128 --> 00:05:18.026 เคารพผู้ที่มีอำนาจมากกว่า 00:05:18.030 --> 00:05:21.430 การเลื่อมใสในศาสนา ก็แสดงออกในระบบเซโรเทนิน 00:05:21.430 --> 00:05:24.791 และคนที่เป็นอนุรักษ์นิยม ก็เลือกที่จะไปกับคนที่เป็นอนุรักษ์นิยม 00:05:24.791 --> 00:05:27.479 กรณีนี้ คนที่เหมือนกันจะดึงดูดดัน 00:05:27.479 --> 00:05:29.705 ในกรณีที่เหลืออีก 2 กรณีนั้น คนที่ต่างกันดึงดูดกัน 00:05:29.705 --> 00:05:32.046 คนที่มีการแสดงออก ของระบบเทสโทสเตอโรนอย่างชัดเจน 00:05:32.046 --> 00:05:35.993 มีแนวโน้มที่จะช่างวิเคราะห์ คิดเป็นระบบ ตรงไปตรงมา ตัดสินใจได้เด็ดขาด 00:05:35.993 --> 00:05:37.479 พวกเขาจะเลือกคนที่ตรงข้ามกับตน 00:05:37.479 --> 00:05:39.756 พวกเขามองหาคนที่มีระดับเอสโตรเจนสูง 00:05:39.756 --> 00:05:42.032 คนที่มีทักษะทางด้านภาษาดี 00:05:42.032 --> 00:05:43.298 มีทักษะกับคนที่ดี 00:05:43.298 --> 00:05:44.780 มีความคิดริเริ่ม 00:05:44.780 --> 00:05:48.123 คนที่ชอบดูแลคนอื่น และแสดงออกทางอารมณ์อย่างชัดเจน 00:05:48.519 --> 00:05:51.091 เรามีรูปแบบทางธรรมชาติของการเลือกคู่ 00:05:51.468 --> 00:05:56.524 เทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง คนที่เราเลือกที่จะรัก NOTE Paragraph 00:05:57.488 --> 00:06:00.041 แต่เทคโนโลยีกำลัง สร้างแนวโน้มใหม่อย่างหนึ่ง 00:06:00.055 --> 00:06:01.801 ที่ฉันพบว่าสำคัญเป็นอย่างยิ่ง 00:06:02.151 --> 00:06:05.839 มันเกี่ยวข้องกับแนวคิด เรื่องความย้อนแย้งของการมีทางเลือก 00:06:06.372 --> 00:06:07.820 เป็นเวลาหลายล้านปีมาแล้ว 00:06:07.820 --> 00:06:10.117 เราอาศัยเป็นกลุ่มขนาดเล็ก ล่าสัตว์ เก็บของป่า 00:06:10.121 --> 00:06:12.651 พวกคุณไม่ได้มีโอกาสที่จะต้องเลือก 00:06:12.651 --> 00:06:15.801 หนึ่งคนจากตัวเลือกหนึ่งพันคน เหมือนในเว็บหาคู่ 00:06:16.261 --> 00:06:18.302 จริง ๆ แล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันได้ทำการศึกษา 00:06:18.302 --> 00:06:21.481 และคิดว่าในสมองของเรานั้น มีจุดที่ค่อนข้างอ่อนหวาน 00:06:21.481 --> 00:06:25.456 ฉ้นไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่จากการอ่านข้อมูลจำนวนมาก 00:06:25.456 --> 00:06:30.641 คนเราจะจัดการกับตัวเลือก 5-9 คนได้ แต่หากมากกว่านั้น 00:06:30.641 --> 00:06:33.875 คุณจะเกิดอาการที่ศัพท์วิชาการเรียกว่า "ภาระเกินของกระบวนการรับรู้" 00:06:33.875 --> 00:06:35.716 และคุณจะไม่เลือกใครเลย NOTE Paragraph 00:06:36.175 --> 00:06:39.315 ดังนั้น ฉันจึงคิดว่า การเกิดภาระเกินทางการรับรู้นี้ 00:06:39.315 --> 00:06:42.650 จะนำไปสู่การสร้างรูปแบบการจีบกันแบบใหม่ 00:06:42.650 --> 00:06:44.625 ที่ฉันเรียกว่า "รักอย่างช้า ๆ" 00:06:45.219 --> 00:06:48.766 ฉันได้แนวคิดนี้ ในระหว่างที่ทำงานกับ Match.com 00:06:49.400 --> 00:06:51.045 ทุก ๆ ปีตลอด 6 ปีที่ผ่านมา 00:06:51.045 --> 00:06:53.792 เราทำการศึกษาที่เรียกว่า "คนโสดในอเมริกา" 00:06:53.792 --> 00:06:55.604 เราไม่ได้สำรวจความคิดเห็น เฉพาะคนที่ใช้เว็บไซต์ Match.com 00:06:55.604 --> 00:06:57.614 เราสำรวจความคิดเห็น ของประชาชนชาวอเมริกา 00:06:57.628 --> 00:07:00.601 โดยใช้คนอย่างน้อยห้าพันคน 00:07:00.601 --> 00:07:04.522 เป็นกลุ่มตัวอย่างของชาวอเมริกัน ที่อยู่ในสำมะโนประชากรของอเมริกา NOTE Paragraph 00:07:04.522 --> 00:07:07.438 ในขณะนี้เราได้ข้อมูล จากผู้คนมากกว่าสามหมื่นคน 00:07:07.438 --> 00:07:09.929 และทุก ๆ ปี 00:07:09.929 --> 00:07:12.485 ฉันมองเห็นรูปแบบที่เหมือนเดิมบางอย่าง 00:07:12.489 --> 00:07:15.282 ทุก ๆ ปีที่ฉันตั้งคำถาม 00:07:15.282 --> 00:07:18.059 พบว่ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นของคน ที่มีความสัมพันธ์แบบคู่นอนคืนเดียว 00:07:18.059 --> 00:07:20.750 ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นปีที่แล้ว แต่ช่วงใดช่วงหนึ่งในชีวิต 00:07:20.750 --> 00:07:23.063 50 เปอร์เซ็นเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง กับเพื่อนแต่ไม่ผูกพัน 00:07:23.067 --> 00:07:24.694 อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต 00:07:24.698 --> 00:07:28.280 และมากกว่า 50 เปอร์เซ็น ใช้ชีวิตคู่อย่างยาวนาน 00:07:28.280 --> 00:07:29.740 ก่อนที่จะแต่งงานกัน 00:07:29.740 --> 00:07:31.956 เนื่องจากคนอเมริกาคิดว่านี่เป็นเรื่องที่เสี่ยง 00:07:31.956 --> 00:07:34.909 ฉันสงสัยมานานแล้ว 00:07:34.909 --> 00:07:36.825 รูปแบบดังกล่าวมีความชัดเจนเกินไป 00:07:36.825 --> 00:07:39.557 มันต้องอธิบายได้ด้วยทฤษฎีของดาร์วิน 00:07:39.557 --> 00:07:41.907 ไม่ใช่ว่าผู้คนมากมายกำลังเป็นบ้า NOTE Paragraph 00:07:41.907 --> 00:07:45.845 และฉันก็พบคำอธิบายทางสถิติ ที่น่าเชื่อถือโดยบังเอิญ 00:07:46.267 --> 00:07:48.866 จากบทความทางวิชาการที่น่าสนใจฉบับนึง 00:07:48.870 --> 00:07:53.887 ฉันพบว่า 67 เปอร์เซ็นต์ ของคนโสดชาวอเมริกา 00:07:53.887 --> 00:07:56.341 ที่ใช้ชีวิตคู่กับใครสักคนอย่างยาวนาน 00:07:56.345 --> 00:08:00.436 แต่ไม่ยอมแต่งงาน เป็นเพราะพวกเขากลัวการหย่าร้าง 00:08:00.436 --> 00:08:02.316 พวกเขากลัวผลลัพธ์ทางสังคม 00:08:02.316 --> 00:08:03.889 ทางกฎหมาย ทางอารมณ์ 00:08:03.903 --> 00:08:06.766 ทางเศรษฐกิจ ของการหย่าร้าง 00:08:06.766 --> 00:08:10.548 ดังนั้น ฉันไม่คิดว่า เหตุผลคือการกลัวความเสี่ยง 00:08:10.548 --> 00:08:12.264 แต่คิดว่ามันคือความหวาดระแวง 00:08:12.791 --> 00:08:17.813 ทุกวันนี้ คนโสดต่างอยากรู้ ทุก ๆ รายละเอียดเกี่ยวกับคนที่คบหา 00:08:17.817 --> 00:08:19.460 ก่อนจะแต่งงานกัน 00:08:19.460 --> 00:08:21.413 คุณเรียนรู้มากมายบนเตียง 00:08:21.413 --> 00:08:23.955 ไม่เพียงแต่ว่าวิธีการร่วมรักของเขา 00:08:23.959 --> 00:08:25.333 แต่เรียนรู้ด้วยว่าคน ๆ นั้น จิตใจดีหรือไม่ 00:08:25.333 --> 00:08:26.715 เขารู้จักรับฟังไหม 00:08:26.719 --> 00:08:27.895 และสำหรับคนรุ่นฉัน 00:08:27.895 --> 00:08:29.707 เรียนรู้ด้วยว่าเขามีอารมณ์ขันหรือไม่ NOTE Paragraph 00:08:29.707 --> 00:08:31.140 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:08:31.144 --> 00:08:34.618 และในยุคที่เราต่างมีทางเลือกเกินพอ 00:08:35.075 --> 00:08:38.321 แถมยังไม่ต้องกังวลว่าจะท้องหรือจะติดโรค 00:08:38.321 --> 00:08:42.063 และไม่มีต้องละอาย เรื่องมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน 00:08:42.063 --> 00:08:45.791 ฉันคิดว่าผู้คนจึงใช้เวลาในการศึกษากัน NOTE Paragraph 00:08:46.408 --> 00:08:48.053 จริง ๆ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือ 00:08:48.053 --> 00:08:51.888 เรากำลังมองเห็น ขั้นแรกก่อนจะเริ่มผูกมัด 00:08:51.888 --> 00:08:53.704 ก่อนจะขมวดปมให้แน่นต่อไป 00:08:54.034 --> 00:08:56.754 ในสมัยก่อน การแต่งงาน เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ 00:08:56.754 --> 00:08:58.453 ในตอนนี้ ถือเป็นจุดสุดท้าย 00:08:59.413 --> 00:09:01.137 แต่สมองของคนนั้น... NOTE Paragraph 00:09:01.137 --> 00:09:03.186 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:09:03.186 --> 00:09:04.988 สมองมักจะชนะเสมอ 00:09:04.988 --> 00:09:06.917 ในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ 00:09:06.917 --> 00:09:10.449 86 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกา แต่งงานตอนอายุ 49 ปี 00:09:10.449 --> 00:09:13.999 กระทั่งในวัฒนธรรมทั่วโลก ที่การแต่งงานไม่เกิดขึ้นบ่อย ๆ 00:09:13.999 --> 00:09:17.328 ก็เริ่มยอมรับการอยู่ร่วมกันนาน ๆ ก่อนแต่งงานมากขึ้น NOTE Paragraph 00:09:17.328 --> 00:09:19.187 ดั้งนั้นฉันจึงคิดว่า 00:09:19.187 --> 00:09:23.748 ในช่วงขั้นแรกก่อนจะเริ่มผูกมัดนี้ 00:09:23.748 --> 00:09:26.981 ถ้าคุณสามารถยกเลิกความสัมพันธ์ ที่แย่ ๆ ก่อนแต่งงานได้ 00:09:26.985 --> 00:09:29.452 บางทีเราอาจจะเห็นคู่แต่งงาน ที่มีความสุขมากขึ้นก็ได้ 00:09:29.838 --> 00:09:34.697 ฉันจึงทำการศึกษาคู่แต่งงาน 1,100 คู่ในอเมริกา 00:09:34.697 --> 00:09:36.448 แน่นอนไม่ใช่พวกที่อยู่ใน Match.com 00:09:36.448 --> 00:09:38.598 ฉันถามคำถามพวกเขามากมาย 00:09:38.598 --> 00:09:40.119 แต่หนึ่งสิ่งที่ถามคือ 00:09:40.119 --> 00:09:44.705 คุณจะแต่งงานอีกครั้ง กับคนที่คุณแต่งอยู่ตอนนี้ไหม 00:09:44.705 --> 00:09:47.620 81 เปอร์เซ็นต์ตอบว่า แต่ง NOTE Paragraph 00:09:48.613 --> 00:09:55.076 ความจริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ของชีวิตรักและครอบครัวสมัยใหม่ 00:09:55.076 --> 00:09:56.516 ไม่ใช่เทคโนโลยี 00:09:57.070 --> 00:09:58.564 ไม่ใช่กระทั่งการรักอย่างช้า ๆ 00:09:59.047 --> 00:10:01.982 แต่คือการที่ผู้หญิงได้เข้าสู่ตลาดแรงงาน 00:10:01.982 --> 00:10:03.445 ในวัฒนธรรมทั่วโลก 00:10:03.767 --> 00:10:04.996 เป็นเวลากว่าหลายล้านปี 00:10:05.000 --> 00:10:07.984 บรรพบุรุษของเราอาศัยในสังคมขนาดเล็ก ล่าสัตว์และเก็บอาหาร 00:10:07.984 --> 00:10:10.903 ผู้หญิงทำงานด้วยการเก็บเกี่ยวพืชผล 00:10:10.903 --> 00:10:14.437 และนำอาหารกลับบ้าน สำหรับ 60-80 เปอร์เซ็นต์ของมื้อเย็น 00:10:14.437 --> 00:10:17.144 ครอบครัวต้องการผู้มีรายได้ทั้งสองคน 00:10:17.144 --> 00:10:21.135 และผู้หญิงได้รับการยอมรับ ด้านเศรษฐกิจ สังคม 00:10:21.139 --> 00:10:24.274 และมีอำนาจทางเพศเท่าเทียมเพศชาย NOTE Paragraph 00:10:24.278 --> 00:10:27.394 การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เมื่อหนึ่งหมื่นปีที่แล้ว 00:10:27.394 --> 00:10:29.637 เป็นจุดเริ่มต้นของการทำกสิกรรม 00:10:29.637 --> 00:10:32.862 ซึ่งทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างตั้งมั่น 00:10:32.862 --> 00:10:34.464 ที่จะแต่งงานกับคนที่เหมาะสม 00:10:34.478 --> 00:10:35.912 ทั้งด้านพื้นความหลัง 00:10:35.912 --> 00:10:37.239 ด้านศาสนา 00:10:37.239 --> 00:10:40.807 และมีเครือญาติและการเชื่อมโยง ทางสัมคมการเมืองที่ตรงกัน 00:10:40.811 --> 00:10:42.409 งานของผู้ชายมีความสำคัญมากขึ้น 00:10:42.409 --> 00:10:45.186 พวกเขาต้องเคลื่อนหิน ตัดต้นไม้ ไถพรวนดิน 00:10:45.190 --> 00:10:48.128 นำสินค้าไปขายที่ตลาดและกลับบ้าน 00:10:48.128 --> 00:10:49.666 ด้วยเงินตอบแทนที่เท่าเทียมกัน NOTE Paragraph 00:10:49.666 --> 00:10:51.242 ในช่วงนั้น 00:10:51.246 --> 00:10:54.237 เรามองเห็นจุดเริ่มต้นของความเชื่อ 00:10:54.237 --> 00:10:56.433 เรื่องการรักษาพรหมจรรย์ก่อนแต่งงาน 00:10:56.433 --> 00:10:59.410 การคลุมถุงชนที่เข้มงวด 00:10:59.410 --> 00:11:01.961 เห็นความเชื่อว่าผู้ชายเป็นผู้นำครอบครัว 00:11:01.961 --> 00:11:04.224 และที่ของผู้หญิงคือบ้าน 00:11:04.224 --> 00:11:05.401 ที่สำคัญที่สุดคือ 00:11:05.401 --> 00:11:08.526 การรักษาเกียรติของสามี ตราบจนตายจากกัน 00:11:08.526 --> 00:11:10.308 สิ่งเหล่านี้ได้สูญหายไปหมดแล้ว 00:11:10.312 --> 00:11:12.845 อาจยังมีอยู่ในหลายที่ แต่อีกในหลายที่ 00:11:12.845 --> 00:11:14.287 ก็ไม่มีอีกแล้ว NOTE Paragraph 00:11:14.287 --> 00:11:17.740 ตอนนี้เราอยู่ในช่วง การปฏิวัติด้านการแต่งงาน 00:11:17.744 --> 00:11:22.463 เราค่อย ๆ ปล่อยวัฒนธรรมของสังคมกสิกรรม เมื่อหนึ่งหมื่นปีที่แล้วให้สูญหายไป 00:11:22.463 --> 00:11:28.113 และมุ่งไปสู่ความเสมอภาค ของความสัมพันธ์ระหว่างเพศ 00:11:28.113 --> 00:11:32.968 เหมือนอย่างที่บรรพบุรุษ สมัยดึกดำบรรพ์ของเราทำ NOTE Paragraph 00:11:33.562 --> 00:11:35.248 ฉันไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดีเกินไป 00:11:35.248 --> 00:11:37.049 ยังมีเรื่องน่าเศร้าอีกมาก 00:11:37.053 --> 00:11:38.813 ฉันศึกษาเรื่องการหย่าร้าง ใน 80 วัฒนธรรม 00:11:38.813 --> 00:11:40.973 อย่างที่กล่าวมาแล้ว ฉันศึกษาเรื่องการนอกใจ 00:11:40.973 --> 00:11:42.773 มันมีกองปัญหาขนาดใหญ่ 00:11:42.773 --> 00:11:46.029 ดังที่กวี วิลเลี่ยม บัทเลอร์ ยีทส์ ได้กล่าวไว้ว่า 00:11:46.029 --> 00:11:48.524 "ความรักคือความคดโกง" 00:11:49.131 --> 00:11:51.921 ฉันจะเพิ่มอีกว่า "ไม่มีใครรอดออกมาอย่างมีชีวิตสักคน" NOTE Paragraph 00:11:51.925 --> 00:11:53.040 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:11:53.044 --> 00:11:54.531 เราทุกคนต่างมีปัญหา 00:11:54.925 --> 00:11:58.523 แต่ฉันว่าบทกลอนของ แรนดอลล์ จาร์เรลล์ กล่าวสรุปได้ดีที่สุด 00:11:58.523 --> 00:12:03.536 ว่า "ในชีวิตครอบครัวที่มืดมนและเป็นทุกข์ 00:12:03.536 --> 00:12:08.094 คนที่เยี่ยมที่สุดอาจล้มเหลว และคนที่ต่ำต้อยที่สุดกลับชนะ" NOTE Paragraph 00:12:08.779 --> 00:12:10.660 ฉันจะทิ้งท้ายไว้ดังนี้ 00:12:10.660 --> 00:12:13.402 ความรักและความผูกพันจะชนะ 00:12:13.402 --> 00:12:15.969 เทคโนโลยีไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้ 00:12:15.969 --> 00:12:17.831 และฉันจะสรุป โดยกล่าวว่า 00:12:17.831 --> 00:12:23.091 การจะเข้าใจในความสัมพันธ์ใด ๆ ต้องคำนึงถึง 00:12:23.091 --> 00:12:27.350 หนึ่งในพฤติกรรมที่ทรงพลังของมนุษย์ คือ 00:12:27.350 --> 00:12:28.598 ความกระหาย 00:12:29.217 --> 00:12:30.382 ความสามารถในการปรับตัว 00:12:30.789 --> 00:12:33.789 และแรงขับเคลื่อนเพื่อไขว่คว้าความรัก NOTE Paragraph 00:12:33.789 --> 00:12:34.971 ขอบคุณค่ะ NOTE Paragraph 00:12:34.975 --> 00:12:38.017 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:12:39.915 --> 00:12:42.296 เคลลี่ สเตทเซล: ขอบคุณมากค่ะ เฮเลน 00:12:42.300 --> 00:12:44.623 อย่างที่รู้ เรามีผู้พูดอีกท่านที่นี่ 00:12:44.623 --> 00:12:46.197 ที่ทำงานในสาขาเดียวกับคุณ 00:12:46.197 --> 00:12:48.642 เธอศึกษาด้วยวิธีที่แตกต่างกัน 00:12:48.642 --> 00:12:53.319 เอสเธอร์ เพเรล เป็นนักจิตวิทยาที่ทำงานกับคู่แต่งงาน 00:12:53.749 --> 00:12:55.036 คุณศึกษาด้วยการเก็บข้อมูล 00:12:55.036 --> 00:12:57.550 เอสเธอร์ศึกษาจาก สิ่งที่คู่สมรสเล่าให้เธอฟัง 00:12:57.550 --> 00:12:59.612 เมื่อพวกเขามาขอคำปรึกษาจากเธอ 00:12:59.612 --> 00:13:01.350 เชิญเธอขึ้นมาบนเวทีเลยค่ะ 00:13:01.350 --> 00:13:02.535 เอสเธอร์ NOTE Paragraph 00:13:02.535 --> 00:13:05.696 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:13:10.249 --> 00:13:11.479 เอสเธอร์คะ 00:13:11.479 --> 00:13:13.775 เมื่อคุณฟังสิ่งที่ เฮเลน พูดมา 00:13:13.775 --> 00:13:15.015 มีส่วนไหนบ้างไหม 00:13:15.015 --> 00:13:17.786 ที่สอดคล้องกับงานของคุณ 00:13:17.786 --> 00:13:19.421 หรือคุณอยากจะให้ความเห็นเพิ่มเติม NOTE Paragraph 00:13:20.062 --> 00:13:23.635 เอสเธอร์ เพเรล: น่าสนใจค่ะ เพราะว่าในทางหนึ่งแล้ว 00:13:23.635 --> 00:13:27.494 ความต้องการรักเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป 00:13:27.965 --> 00:13:29.863 แต่วิธีที่เรารัก 00:13:29.863 --> 00:13:31.477 ความหมายของความรัก ในมุมมองของแต่ละคน 00:13:31.477 --> 00:13:33.816 วิธีการดำเนินความสัมพันธ์ ฉันคิดว่า 00:13:33.816 --> 00:13:35.867 ได้เปลี่ยนแปลงไป NOTE Paragraph 00:13:35.867 --> 00:13:38.801 เราเคยถูกสร้างจากรูปแบบ 00:13:38.801 --> 00:13:42.294 ซึ่งถูกควบคุมด้วยหน้าที่ และความรับผิดชอบเป็นหลัก 00:13:42.298 --> 00:13:44.699 ความต้องการการรวมกลุ่มและการยอมรับ 00:13:44.699 --> 00:13:45.919 แต่ตอนนี้ เราเปลี่ยนไป 00:13:45.923 --> 00:13:50.257 สู่รูปแบบของการมีทางเลือกอิสระ และเชื่อในสิทธิของบุคคล 00:13:50.257 --> 00:13:53.367 การเติมเต็มและหาความสุขให้ตัวเอง 00:13:53.367 --> 00:13:55.711 และสิ่งแรกที่ฉันคิดถึงคือ 00:13:55.711 --> 00:13:57.483 ความต้องการไม่เคยเปลี่ยนไป 00:13:57.483 --> 00:14:01.315 เพียงแต่วิธีที่เราควบคุมความสัมพันธ์เหล่านี้ 00:14:01.315 --> 00:14:02.637 ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก NOTE Paragraph 00:14:02.637 --> 00:14:04.507 การมีทางเลือกที่มากเกินไป 00:14:06.682 --> 00:14:08.993 ทำให้เราเพลิดเพลินกับสิ่งใหม่ ๆ 00:14:08.993 --> 00:14:10.599 และความสนุกสนาน 00:14:10.599 --> 00:14:13.354 จากการมีตัวเลือกมากมาย 00:14:13.354 --> 00:14:14.719 ในขณะเดียวกัน 00:14:14.719 --> 00:14:17.177 เมื่อคุณพูดถึงภาระเกินของกระบวนการรับรู้ 00:14:17.177 --> 00:14:20.655 ฉันเห็นผู้คนมากมาย 00:14:22.391 --> 00:14:26.481 ที่กลัวความไม่แน่นอน และมีความสงสัยในตัวเอง 00:14:26.481 --> 00:14:29.054 อันเนื่องมาจากทางเลือกที่มากมายนี้ 00:14:29.054 --> 00:14:31.337 ไปสู่สิ่งที่เรีกว่า "โฟโม" 00:14:31.337 --> 00:14:33.013 ซึ่งขับเคลื่อนเรา 00:14:33.013 --> 00:14:36.358 โฟโมคือความกลัว ที่จะพลาดโอกาสหรือสูญเสีย 00:14:36.362 --> 00:14:39.324 เช่น "ฉันจะรู้ได้อย่างไร 00:14:39.324 --> 00:14:40.536 ว่าได้พบคนที่ใช่แล้ว" NOTE Paragraph 00:14:40.540 --> 00:14:44.243 ด้วยเหตุนี้ เราจึงสร้างสิ่งที่ฉันเรียกว่า "ความคลุมเครืออย่างมั่นคง" 00:14:44.600 --> 00:14:48.305 ความคลุมเครืออย่างมั่นคงเกิดขึ้น เมื่อคุณกลัวเกินไปที่จะอยู่คนเดียว 00:14:48.305 --> 00:14:52.338 แต่ก็ไม่เต็มใจ ที่จะสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใคร 00:14:52.338 --> 00:14:57.676 เป็นวิธีการยื้อเวลาแห่งความไม่แน่นอน ของการมีความสัมพันธ์ 00:14:57.676 --> 00:15:00.307 ทั้งยังยื้อเวลาของความไม่แน่นอน ในการเลิกกันด้วย 00:15:00.307 --> 00:15:03.319 ด้วยเหตุนี้ บนอินเตอร์เน็ต เราจะพบความสัมพันธ์สามรูปแบบ 00:15:03.323 --> 00:15:05.658 รูปแบบแรก เรียกว่า การโรยน้ำตาลไอซิงและการเคี่ยว 00:15:05.658 --> 00:15:08.547 ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม 00:15:08.547 --> 00:15:11.048 ของการครอบครองรูปแบบหนึ่ง 00:15:11.048 --> 00:15:14.866 เป็นการย้ำถึงธรรมชาติ ของความสัมพันธ์ที่ไม่มีนิยาม 00:15:14.866 --> 00:15:18.987 แต่ในขณะเดียวกัน ก็มอบความมั่นคงให้คุณพอสมควร 00:15:18.987 --> 00:15:21.778 และยังมอบอิสระอย่างเพียงพอ ด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่มีนิยาม NOTE Paragraph 00:15:21.778 --> 00:15:23.644 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:15:24.070 --> 00:15:25.224 ใช่ไหมคะ NOTE Paragraph 00:15:25.224 --> 00:15:26.806 และ มาถึงรูปแบบที่เรียกว่า ผี 00:15:26.806 --> 00:15:28.782 รูปแบบผี คือ 00:15:28.782 --> 00:15:33.336 การที่คุณทำตัวหายไปเลย 00:15:33.336 --> 00:15:37.145 และไม่ต้องจัดการกับความเจ็บปวด ที่สร้างให้กับอีกฝ่าย 00:15:37.145 --> 00:15:39.767 คุณทำมันราวกับมันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเห็น แม้กระทั่งตัวคุณเอง NOTE Paragraph 00:15:39.767 --> 00:15:40.988 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:15:40.998 --> 00:15:42.170 ใช่ไหม NOTE Paragraph 00:15:42.170 --> 00:15:46.931 ดั้งนั้น ตอนที่กำลังฟังคุณพูด ฉันก็คิดว่า 00:15:46.931 --> 00:15:52.118 คำศัพท์สามารถสร้างสรรค์ความจริงได้อย่างไร 00:15:52.118 --> 00:15:53.677 และในขณะเดียวกัน 00:15:53.677 --> 00:15:55.405 นี่คือคำถามที่ฉันอยากจะถามคุณ 00:15:55.405 --> 00:15:58.369 คุณคิดว่าเมื่อบริบทแวดล้อมเปลี่ยนไป 00:15:58.369 --> 00:16:02.013 ธรรมชาติของความรัก จะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ NOTE Paragraph 00:16:02.013 --> 00:16:06.125 คุณศึกษาสมอง ฉันศึกษาความสัมพันธ์ของคนและเรื่องราว 00:16:06.125 --> 00:16:10.171 ฉันคิดว่ามันเกี่ยวกับทุกอย่างที่คุณพูดมา 00:16:10.691 --> 00:16:14.593 แต่ฉันไม่รู้ว่าบริบทแวดล้อม ต้องเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด 00:16:15.451 --> 00:16:17.965 หรือว่า ณ จุดหนึ่ง จึงเริ่มมีเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น 00:16:17.965 --> 00:16:20.612 ถ้าความหมายเปลี่ยนแปลงไป มันจะเปลี่ยนความต้องการไปด้วย 00:16:20.612 --> 00:16:23.105 หรือความต้องการนั้น ไม่เปลี่ยนไปตามบริบททั้งหมด NOTE Paragraph 00:16:23.797 --> 00:16:25.201 เฮเลน: ว้าว! อืม NOTE Paragraph 00:16:25.201 --> 00:16:27.672 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:16:27.676 --> 00:16:30.865 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:16:30.865 --> 00:16:33.863 ฉันได้สามคำถามใช่ไหมคะ 00:16:34.736 --> 00:16:36.536 ก่อนอื่น คำถามแรกของคุณ 00:16:36.536 --> 00:16:40.163 แน่นอนว่าพวกเราเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้เราต้องการใครสักคนมารัก 00:16:40.163 --> 00:16:43.012 และในหลายพันปีที่ผ่านมา เราต้องแต่งงานกับคนที่ใช่ 00:16:43.012 --> 00:16:45.343 ใช่ในด้านพื้นเพและเครือข่ายที่มี 00:16:45.343 --> 00:16:48.692 และความจริงแล้วในการศึกษา ผู้คนห้าพันคนทุก ๆ ปี 00:16:48.692 --> 00:16:50.868 ฉันถามพวกเขาว่า "คุณกำลังมองหาอะไร" 00:16:50.872 --> 00:16:53.644 และทุก ๆ ปี มี 97 เปอร์เซ็นตอบว่า NOTE Paragraph 00:16:53.644 --> 00:16:54.828 เอสเธอร์: ความยืนยาว NOTE Paragraph 00:16:54.828 --> 00:16:56.062 เฮเลน: ไม่ใช่ค่ะ 00:16:56.062 --> 00:16:59.409 โดยพื้นฐาน คือ มากกว่า 97 เปอร์เซ็นของคน 00:16:59.409 --> 00:17:01.530 ต้องการคนที่เคารพ และให้เกียรติตนเอง 00:17:01.534 --> 00:17:03.836 คนที่เชื่อใจและไว้ใจได้ 00:17:03.836 --> 00:17:05.516 คนที่ทำให้หัวเราะได้ 00:17:05.516 --> 00:17:07.412 คนที่มีเวลาให้กับพวกเขามากพอ 00:17:07.412 --> 00:17:11.433 และ คนที่ทำให้รู้สึกดึงดูดทางกาย 00:17:11.433 --> 00:17:12.740 สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเปลี่ยน 00:17:12.740 --> 00:17:15.958 และ ยังมีอีกสองส่วน NOTE Paragraph 00:17:15.962 --> 00:17:17.562 เอสเธอร์: แต่ว่าสำหรับฉันแล้ว 00:17:17.566 --> 00:17:19.830 นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนเคยพูดถึงนะ NOTE Paragraph 00:17:19.830 --> 00:17:21.090 เฮเลน: ถูกต้องที่สุดค่ะ NOTE Paragraph 00:17:21.104 --> 00:17:24.397 เอสเธอร์: พวกเขาบอกว่า ต้องการใครสักคนที่อยู่เคียงข้างกัน 00:17:24.397 --> 00:17:25.702 สนับสนุนด้านการเงิน มีลูก 00:17:25.702 --> 00:17:28.332 เราก้าวจากเศรษฐกิจที่เน้นการผลิต มาสู่เศรษฐกิจที่เน้นการบริการ NOTE Paragraph 00:17:28.332 --> 00:17:29.355 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:17:29.355 --> 00:17:32.370 เราทำอย่างนี้ในวัฒนธรรมที่กว้างใหญ่ขึ้น และทำผ่านการแต่งงาน NOTE Paragraph 00:17:32.370 --> 00:17:33.932 เฮเลน: ใช่ค่ะ ไม่ต้องสงสัยเลย 00:17:33.932 --> 00:17:37.866 แต่มันน่าสนใจนะที่คน Gen Y (Millennium) อยากจะเป็นพ่อแม่ที่ดี 00:17:37.866 --> 00:17:42.010 ในขณะที่คนยุคก่อนนั้น อยากจะมีชีวิตแต่งงานที่ดี 00:17:42.010 --> 00:17:44.272 โดยไม่จดจ่อกับการเป็นพ่อแม่ที่ดีมากนัก 00:17:44.276 --> 00:17:46.373 คุณมองเห็นความแตกต่างเล็ก ๆ นี้ได้ NOTE Paragraph 00:17:46.373 --> 00:17:48.943 มีองค์ประกอบพื้นฐาน ของบุคลิกภาพสองประการ 00:17:48.943 --> 00:17:52.542 นั่นคือ วัฒนธรรม ทุกสิ่งที่ทำและเชื่อในขณะที่เติบโตมา 00:17:52.542 --> 00:17:53.975 และนิสัยใจคอของคุณ 00:17:53.975 --> 00:17:56.816 ซึ่งสิ่งที่ฉันได้อ้างถึงก่อนหน้านี้ คือ นิสัยใจคอของคุณ 00:17:56.816 --> 00:18:00.158 นิสัยเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา 00:18:00.158 --> 00:18:01.499 และตามความเชื่อ NOTE Paragraph 00:18:01.891 --> 00:18:05.022 และในแง่ของการมีทางเลือกที่มากเกินไป 00:18:05.022 --> 00:18:07.453 มันสร้างความยุ่งยากอย่างไม่ต้องสงสัย 00:18:07.453 --> 00:18:10.341 เมื่อล้านปีที่แล้ว คุณอาจพบเด็กหนุ่มที่แสนอ่อนหวาน 00:18:10.341 --> 00:18:12.090 ที่แอ่งน้ำอีกด้านหนึ่ง 00:18:12.090 --> 00:18:13.275 และคุณก็มุ่งไปหาเลย NOTE Paragraph 00:18:13.275 --> 00:18:14.456 เอสเธอร์: ใช่ แต่คุณ NOTE Paragraph 00:18:14.460 --> 00:18:16.191 เฮเลน: ฉันอยากจะกล่าวเพิ่มอีกอย่าง 00:18:16.191 --> 00:18:18.868 สิ่งสำคัญของสังคมล่าสัตว์ และเก็บอาหารคือ 00:18:18.872 --> 00:18:22.444 ผู้คนมีแนวโน้มที่จะมีคู่เพียงสองหรือสามคน ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา 00:18:22.444 --> 00:18:23.666 พวกเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ 00:18:23.666 --> 00:18:25.352 แต่ฉันก็ไม่ได้บอกว่าพวกเราซื่อสัตย์ 00:18:25.356 --> 00:18:29.346 สิ่งสำคัญคือ เรามีทางเลือกเสมอ 00:18:29.346 --> 00:18:30.749 มนุษย์เป็นแบบนั้น 00:18:30.749 --> 00:18:34.055 ความจริงแล้ว สมองถูกสร้างมาให้เกิดความสมดุล 00:18:34.055 --> 00:18:35.230 เพื่อพยายามและตัดสินใจ 00:18:35.230 --> 00:18:37.668 ฉันจะมาหรือจะอยู่ ฉันจะไปหรือจะอยู่ 00:18:37.668 --> 00:18:39.260 ที่นี่มีโอกาสอะไรบ้าง 00:18:39.260 --> 00:18:40.602 ฉันจะจัดการสิ่งนี้อย่างไร 00:18:40.606 --> 00:18:43.587 และฉันคิดว่าเรากำลังเห็นการเผยตัว ของสิ่งนี้ในตอนนี้แล้ว NOTE Paragraph 00:18:44.052 --> 00:18:45.639 เคลลี่: ขอบคุณพวกคุณทั้งสองมาก 00:18:45.639 --> 00:18:48.899 ฉันคิดว่าคุณกำลังจะมีคู่เดท ในมื้อเย็นนี้นับล้านคู่เลยล่ะ NOTE Paragraph 00:18:48.899 --> 00:18:50.892 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:18:50.892 --> 00:18:52.113 ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ