[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:07.05,0:00:10.54,Default,,0000,0000,0000,,ในทศวรรษที่ 1950 กลุ่มชาวไร่ในรัฐไอดาโฮ Dialogue: 0,0:00:10.54,0:00:16.40,Default,,0000,0000,0000,,ต้องรู้สึกพิศวงเมื่อแกะของพวกเขา\Nให้กำเนิดลูกแกะพิการหน้าตาประหลาด Dialogue: 0,0:00:16.40,0:00:18.91,Default,,0000,0000,0000,,แกะตาเดียวเหล่านี้ทำให้พวกเขางงเป็นไก่ตาแตก Dialogue: 0,0:00:18.91,0:00:23.90,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาจึงเรียกนักวิทยาศาสตร์\Nจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เข้ามาตรวจสอบ Dialogue: 0,0:00:23.90,0:00:27.04,Default,,0000,0000,0000,,นักวิจัยตั้งสมมุติฐานว่าแกะที่ตั้งท้อง Dialogue: 0,0:00:27.04,0:00:31.62,Default,,0000,0000,0000,,ได้กินพืชมีพิษซึ่งเป็นสาเหตุ\Nที่ทำให้ลูกเกิดมาพิการ Dialogue: 0,0:00:31.62,0:00:35.81,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาเก็บรวบรวมพืชในท้องถิ่น\Nแล้วนำตัวอย่างไปเลี้ยงหนูทดลอง Dialogue: 0,0:00:35.81,0:00:38.48,Default,,0000,0000,0000,,แต่ไม่อาจทำให้เกิดผลซ้ำได้ Dialogue: 0,0:00:38.48,0:00:41.39,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจ\Nว่าจะเฝ้าสังเกตแกะโดยตรง Dialogue: 0,0:00:41.39,0:00:45.90,Default,,0000,0000,0000,,โดยให้นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่ง\Nอาศัยอยู่กับฝูงแกะเป็นเวลาสามปี Dialogue: 0,0:00:45.90,0:00:50.95,Default,,0000,0000,0000,,หลังจากลองผิดลองถูกมานานนับทศวรรษ\Nในที่สุดนักวิทยาศาสตร์ก็พบเจ้าตัวร้าย Dialogue: 0,0:00:50.95,0:00:53.03,Default,,0000,0000,0000,,นั่นคือต้นพลับพลึงป่า Dialogue: 0,0:00:53.03,0:00:57.30,Default,,0000,0000,0000,,ต้นพลับพลึงประกอบด้วยโมเลกุล\Nที่มีห่วงโซ่เชื่อมกันหกห่วง Dialogue: 0,0:00:57.30,0:01:01.91,Default,,0000,0000,0000,,ที่พวกเขาตั้งชื่อให้ว่าไซโคลปามีน\Nเพื่อเป็นการอ้างอิงถึงแกะตาเดียว Dialogue: 0,0:01:01.91,0:01:06.21,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาไม่ทราบแน่ชัดว่าไซโคลปามีน\Nก่อให้เกิดข้อบกพร่องได้อย่างไร Dialogue: 0,0:01:06.21,0:01:09.03,Default,,0000,0000,0000,,แต่ก็สั่งพวกเจ้าของฟาร์มให้หลีกเลี่ยง Dialogue: 0,0:01:09.03,0:01:12.39,Default,,0000,0000,0000,,ต้องใช้เวลาถึงราวสี่ทศวรรษ\Nก่อนที่ทีมนักชีววิทยา Dialogue: 0,0:01:12.39,0:01:14.61,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งนำโดยศาสตราจารย์ฟิลิป บีชี Dialogue: 0,0:01:14.61,0:01:16.76,Default,,0000,0000,0000,,จะพบกับคำตอบโดยบังเอิญ Dialogue: 0,0:01:16.76,0:01:20.70,Default,,0000,0000,0000,,ห้องปฏิบัติการของเขากำลังศึกษายีนตัวหนึ่ง\Nที่พบสิ่งในมีชีวิตหลาย ๆ ชนิด Dialogue: 0,0:01:20.70,0:01:22.64,Default,,0000,0000,0000,,นับตั้งแต่หนูไปยันมนุษย์ Dialogue: 0,0:01:22.64,0:01:25.12,Default,,0000,0000,0000,,มีชื่อว่ายีนเม่น Dialogue: 0,0:01:25.12,0:01:30.23,Default,,0000,0000,0000,,มันถูกตั้งชื่อโดยนักวิทยาศาสตร์สองคน\Nซึ่งต่อมาได้รับรางวัลโนเบลจากผลงานของพวกเขา Dialogue: 0,0:01:30.23,0:01:33.50,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งค้นพบว่าการกลายพันธุ์\Nของยีนนี้ในแมลงวันผลไม้ Dialogue: 0,0:01:33.50,0:01:37.49,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้เกิดหนามแหลมคมเหมือนกับเม่น Dialogue: 0,0:01:37.49,0:01:40.34,Default,,0000,0000,0000,,บีชีและเพื่อนร่วมงานของเขา\Nทำการดัดแปลงพันธุกรรม Dialogue: 0,0:01:40.34,0:01:43.47,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อปิดยีนเม่นในหนู Dialogue: 0,0:01:43.47,0:01:46.69,Default,,0000,0000,0000,,เรื่องนี้ส่งผลให้เกิด\Nข้อบกพร่องร้ายแรงในการพัฒนา Dialogue: 0,0:01:46.69,0:01:49.75,Default,,0000,0000,0000,,สมอง อวัยวะ และดวงตาทั้งคู่ของพวกมัน Dialogue: 0,0:01:49.75,0:01:51.77,Default,,0000,0000,0000,,หรือตาที่มีดวงเดียวนั่นแหละ Dialogue: 0,0:01:51.77,0:01:57.03,Default,,0000,0000,0000,,ต่อมาขณะที่กำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง\Nบีชีเผอิญไปเจอรูปแกะตาเดียว Dialogue: 0,0:01:57.03,0:02:01.23,Default,,0000,0000,0000,,และพบว่านั่นเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์\Nยังหาสาเหตุไม่พบมานานถึงสี่ทศวรรษ Dialogue: 0,0:02:01.23,0:02:05.11,Default,,0000,0000,0000,,ต้องมีอะไรที่อยู่ผิดที่ผิดทาง\Nซึ่งเกี่ยวข้องกับยีนเม่นแน่ ๆ Dialogue: 0,0:02:05.11,0:02:06.78,Default,,0000,0000,0000,,เราลองย้อนกลับไปดูก่อนหน้านี้สักหน่อย Dialogue: 0,0:02:06.78,0:02:12.53,Default,,0000,0000,0000,,ยีนมีชุดคำสั่งที่บอกเซลล์ว่า\Nจะให้ทำอะไรและเมื่อทำเมื่อไหร่ Dialogue: 0,0:02:12.53,0:02:16.15,Default,,0000,0000,0000,,และพวกมันส่งสารคำสั่งนั้นผ่านโปรตีน Dialogue: 0,0:02:16.15,0:02:21.69,Default,,0000,0000,0000,,ตัวยีนเม่นเองบอกเซลล์\Nให้ปล่อยโปรตีนเม่นออกมา Dialogue: 0,0:02:21.69,0:02:26.20,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเป็นการเริ่มต้นชุดสัญญาณ\Nระหว่างเซลล์อันซับซ้อน Dialogue: 0,0:02:26.20,0:02:29.21,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นวิธีการที่มันทำงาน\Nในพัฒนาการตามปกติ Dialogue: 0,0:02:29.21,0:02:32.61,Default,,0000,0000,0000,,โปรตีนเม่นจะเกาะแน่นอยู่กับ\Nโปรตีนตัวหนึ่งที่ชื่อว่า แก้ไขแล้ว Dialogue: 0,0:02:32.61,0:02:36.02,Default,,0000,0000,0000,,ที่ขัดขวาง หรือยับยั้ง หรือแก้ไขกลับไป Dialogue: 0,0:02:36.02,0:02:41.33,Default,,0000,0000,0000,,ปล่อยให้โปรตีนอีกตัวที่ชื่อว่า โปรตีนราบรื่น\Nสามารถส่งสัญญาณให้เซลล์ได้อย่างอิสระ Dialogue: 0,0:02:41.33,0:02:45.45,Default,,0000,0000,0000,,บอกพวกมันว่าจะให้ไปที่ไหน\Nและให้กลายเป็นเนื้อเยื่อชนิดใด Dialogue: 0,0:02:45.45,0:02:49.86,Default,,0000,0000,0000,,ไซโคลปามีน เอาเป็นว่า\Nอยู่ในรูปของพลับพลึงแสนอร่อย Dialogue: 0,0:02:49.86,0:02:53.77,Default,,0000,0000,0000,,ขัดจังหวะเส้นทางนี้\Nโดยเกาะกับโปรตีนราบรื่น Dialogue: 0,0:02:53.77,0:02:57.52,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นการขังโปรตีนราบรื่นไว้\Nไม่ให้มันส่งสัญญาณ Dialogue: 0,0:02:57.62,0:03:00.92,Default,,0000,0000,0000,,ที่จำเป็นในการสร้างสมองให้เป็นสองซีก Dialogue: 0,0:03:00.92,0:03:04.74,Default,,0000,0000,0000,,และสร้างนิ้วมือหรือดวงตาแยกกันต่างหากได้ Dialogue: 0,0:03:04.74,0:03:08.13,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นแม้ว่าโปรตีนเม่น\Nจะยังคงทำงานของมัน Dialogue: 0,0:03:08.13,0:03:10.35,Default,,0000,0000,0000,,ในการเปิดทางให้กับโปรตีนราบรื่น Dialogue: 0,0:03:10.35,0:03:15.52,Default,,0000,0000,0000,,ไซโคลปามีนจะขัดขวางโปรตีนราบรื่น\Nจากการส่งผ่านข้อความทางเคมีของมัน Dialogue: 0,0:03:15.52,0:03:18.21,Default,,0000,0000,0000,,นั่นคือวิทยาศาสตร์\Nที่อยู่เบื้องหลังแกะตาเดียว Dialogue: 0,0:03:18.21,0:03:20.41,Default,,0000,0000,0000,,แต่บีชีและทีมงานของเขาจับประกาย Dialogue: 0,0:03:20.41,0:03:23.50,Default,,0000,0000,0000,,ของความสัมพันธ์อีกแบบ\Nที่เป็นประโยชน์มากขึ้นมาได้ Dialogue: 0,0:03:23.50,0:03:27.12,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าการกระตุ้น\Nที่ไม่อาจควบคุมได้ของโปรตีนราบรื่นนั้น Dialogue: 0,0:03:27.12,0:03:29.88,Default,,0000,0000,0000,,สัมพันธ์กับกลุ่มอาการของมนุษย์ Dialogue: 0,0:03:29.88,0:03:36.17,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม\Nและเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งบางชนิด Dialogue: 0,0:03:36.17,0:03:37.100,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์เสนอว่า Dialogue: 0,0:03:37.100,0:03:42.47,Default,,0000,0000,0000,,ให้นำความสามารถในการเกาะติดโปรตีนราบรื่น\Nของไซโคลปามีนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด Dialogue: 0,0:03:42.47,0:03:44.45,Default,,0000,0000,0000,,ในการรักษาโรคมะเร็งเหล่านี้ Dialogue: 0,0:03:44.45,0:03:47.18,Default,,0000,0000,0000,,ตราบเท่าที่ผู้ป่วยไม่ได้ตั้งครรภ์ Dialogue: 0,0:03:47.18,0:03:50.70,Default,,0000,0000,0000,,แต่น่าเสียดายที่นักวิจัยพบว่า\Nที่สุดแล้วไซโคลปามีน Dialogue: 0,0:03:50.70,0:03:52.42,Default,,0000,0000,0000,,ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ Dialogue: 0,0:03:52.42,0:03:56.14,Default,,0000,0000,0000,,และคุณสมบัติทางเคมีของมัน\Nทำให้ยากที่จะนำมาใช้งาน Dialogue: 0,0:03:56.14,0:04:00.100,Default,,0000,0000,0000,,แต่พวกเขาค้นพบว่าโมเลกุลที่ใกล้ชิดกับมัน\Nมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ Dialogue: 0,0:04:00.100,0:04:07.71,Default,,0000,0000,0000,,และยาเหล่านี้สองตัวถูกอนุมัติในปี 2012\Nและปี 2015 ให้เป็นยารักษามะเร็งผิวหนัง Dialogue: 0,0:04:07.71,0:04:10.38,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อเกษตรกรเหล่านั้น\Nได้เห็นแกะตาเดียวเป็นครั้งแรก Dialogue: 0,0:04:10.38,0:04:14.59,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาอาจจะทึกทักเอาว่ามันเป็นแค่\Nการกลายพันธุ์ประหลาด ๆ แล้วเดินหนีไปก็ได้ Dialogue: 0,0:04:14.59,0:04:19.58,Default,,0000,0000,0000,,แทนที่จะทำเช่นนั้น การตัดสินใจตรวจสอบนั้น\Nได้ทำให้เรื่องลึกลับกลายเป็นการแพทย์ Dialogue: 0,0:04:19.58,0:04:23.43,Default,,0000,0000,0000,,และแสดงให้เห็นว่าบางครั้ง\Nมันก็มีอะไรไปมากกว่าแค่มองตากัน