0:00:07.054,0:00:10.536 ในทศวรรษที่ 1950 กลุ่มชาวไร่ในรัฐไอดาโฮ 0:00:10.536,0:00:16.395 ต้องรู้สึกพิศวงเมื่อแกะของพวกเขา[br]ให้กำเนิดลูกแกะพิการหน้าตาประหลาด 0:00:16.395,0:00:18.906 แกะตาเดียวเหล่านี้ทำให้พวกเขางงเป็นไก่ตาแตก 0:00:18.906,0:00:23.898 พวกเขาจึงเรียกนักวิทยาศาสตร์[br]จากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เข้ามาตรวจสอบ 0:00:23.898,0:00:27.036 นักวิจัยตั้งสมมุติฐานว่าแกะที่ตั้งท้อง 0:00:27.036,0:00:31.621 ได้กินพืชมีพิษซึ่งเป็นสาเหตุ[br]ที่ทำให้ลูกเกิดมาพิการ 0:00:31.621,0:00:35.806 พวกเขาเก็บรวบรวมพืชในท้องถิ่น[br]แล้วนำตัวอย่างไปเลี้ยงหนูทดลอง 0:00:35.806,0:00:38.477 แต่ไม่อาจทำให้เกิดผลซ้ำได้ 0:00:38.477,0:00:41.391 ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจ[br]ว่าจะเฝ้าสังเกตแกะโดยตรง 0:00:41.391,0:00:45.902 โดยให้นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่ง[br]อาศัยอยู่กับฝูงแกะเป็นเวลาสามปี 0:00:45.902,0:00:50.949 หลังจากลองผิดลองถูกมานานนับทศวรรษ[br]ในที่สุดนักวิทยาศาสตร์ก็พบเจ้าตัวร้าย 0:00:50.949,0:00:53.032 นั่นคือต้นพลับพลึงป่า 0:00:53.032,0:00:57.297 ต้นพลับพลึงประกอบด้วยโมเลกุล[br]ที่มีห่วงโซ่เชื่อมกันหกห่วง 0:00:57.297,0:01:01.907 ที่พวกเขาตั้งชื่อให้ว่าไซโคลปามีน[br]เพื่อเป็นการอ้างอิงถึงแกะตาเดียว 0:01:01.907,0:01:06.207 พวกเขาไม่ทราบแน่ชัดว่าไซโคลปามีน[br]ก่อให้เกิดข้อบกพร่องได้อย่างไร 0:01:06.207,0:01:09.029 แต่ก็สั่งพวกเจ้าของฟาร์มให้หลีกเลี่ยง 0:01:09.029,0:01:12.389 ต้องใช้เวลาถึงราวสี่ทศวรรษ[br]ก่อนที่ทีมนักชีววิทยา 0:01:12.389,0:01:14.614 ซึ่งนำโดยศาสตราจารย์ฟิลิป บีชี 0:01:14.614,0:01:16.760 จะพบกับคำตอบโดยบังเอิญ 0:01:16.760,0:01:20.699 ห้องปฏิบัติการของเขากำลังศึกษายีนตัวหนึ่ง[br]ที่พบสิ่งในมีชีวิตหลาย ๆ ชนิด 0:01:20.699,0:01:22.642 นับตั้งแต่หนูไปยันมนุษย์ 0:01:22.642,0:01:25.118 มีชื่อว่ายีนเม่น 0:01:25.118,0:01:30.229 มันถูกตั้งชื่อโดยนักวิทยาศาสตร์สองคน[br]ซึ่งต่อมาได้รับรางวัลโนเบลจากผลงานของพวกเขา 0:01:30.229,0:01:33.497 ซึ่งค้นพบว่าการกลายพันธุ์[br]ของยีนนี้ในแมลงวันผลไม้ 0:01:33.497,0:01:37.490 ทำให้เกิดหนามแหลมคมเหมือนกับเม่น 0:01:37.490,0:01:40.344 บีชีและเพื่อนร่วมงานของเขา[br]ทำการดัดแปลงพันธุกรรม 0:01:40.344,0:01:43.470 เพื่อปิดยีนเม่นในหนู 0:01:43.470,0:01:46.690 เรื่องนี้ส่งผลให้เกิด[br]ข้อบกพร่องร้ายแรงในการพัฒนา 0:01:46.690,0:01:49.750 สมอง อวัยวะ และดวงตาทั้งคู่ของพวกมัน 0:01:49.750,0:01:51.770 หรือตาที่มีดวงเดียวนั่นแหละ 0:01:51.770,0:01:57.030 ต่อมาขณะที่กำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง[br]บีชีเผอิญไปเจอรูปแกะตาเดียว 0:01:57.030,0:02:01.230 และพบว่านั่นเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์[br]ยังหาสาเหตุไม่พบมานานถึงสี่ทศวรรษ 0:02:01.230,0:02:05.110 ต้องมีอะไรที่อยู่ผิดที่ผิดทาง[br]ซึ่งเกี่ยวข้องกับยีนเม่นแน่ ๆ 0:02:05.110,0:02:06.781 เราลองย้อนกลับไปดูก่อนหน้านี้สักหน่อย 0:02:06.781,0:02:12.530 ยีนมีชุดคำสั่งที่บอกเซลล์ว่า[br]จะให้ทำอะไรและเมื่อทำเมื่อไหร่ 0:02:12.530,0:02:16.150 และพวกมันส่งสารคำสั่งนั้นผ่านโปรตีน 0:02:16.150,0:02:21.692 ตัวยีนเม่นเองบอกเซลล์[br]ให้ปล่อยโปรตีนเม่นออกมา 0:02:21.692,0:02:26.201 ซึ่งเป็นการเริ่มต้นชุดสัญญาณ[br]ระหว่างเซลล์อันซับซ้อน 0:02:26.201,0:02:29.211 นี่เป็นวิธีการที่มันทำงาน[br]ในพัฒนาการตามปกติ 0:02:29.211,0:02:32.612 โปรตีนเม่นจะเกาะแน่นอยู่กับ[br]โปรตีนตัวหนึ่งที่ชื่อว่า แก้ไขแล้ว 0:02:32.612,0:02:36.023 ที่ขัดขวาง หรือยับยั้ง หรือแก้ไขกลับไป 0:02:36.023,0:02:41.333 ปล่อยให้โปรตีนอีกตัวที่ชื่อว่า โปรตีนราบรื่น[br]สามารถส่งสัญญาณให้เซลล์ได้อย่างอิสระ 0:02:41.333,0:02:45.453 บอกพวกมันว่าจะให้ไปที่ไหน[br]และให้กลายเป็นเนื้อเยื่อชนิดใด 0:02:45.453,0:02:49.863 ไซโคลปามีน เอาเป็นว่า[br]อยู่ในรูปของพลับพลึงแสนอร่อย 0:02:49.863,0:02:53.772 ขัดจังหวะเส้นทางนี้[br]โดยเกาะกับโปรตีนราบรื่น 0:02:53.772,0:02:57.522 นั่นเป็นการขังโปรตีนราบรื่นไว้[br]ไม่ให้มันส่งสัญญาณ 0:02:57.622,0:03:00.923 ที่จำเป็นในการสร้างสมองให้เป็นสองซีก 0:03:00.923,0:03:04.744 และสร้างนิ้วมือหรือดวงตาแยกกันต่างหากได้ 0:03:04.744,0:03:08.133 ดังนั้นแม้ว่าโปรตีนเม่น[br]จะยังคงทำงานของมัน 0:03:08.133,0:03:10.352 ในการเปิดทางให้กับโปรตีนราบรื่น 0:03:10.352,0:03:15.517 ไซโคลปามีนจะขัดขวางโปรตีนราบรื่น[br]จากการส่งผ่านข้อความทางเคมีของมัน 0:03:15.517,0:03:18.213 นั่นคือวิทยาศาสตร์[br]ที่อยู่เบื้องหลังแกะตาเดียว 0:03:18.213,0:03:20.414 แต่บีชีและทีมงานของเขาจับประกาย 0:03:20.414,0:03:23.495 ของความสัมพันธ์อีกแบบ[br]ที่เป็นประโยชน์มากขึ้นมาได้ 0:03:23.495,0:03:27.124 พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าการกระตุ้น[br]ที่ไม่อาจควบคุมได้ของโปรตีนราบรื่นนั้น 0:03:27.124,0:03:29.875 สัมพันธ์กับกลุ่มอาการของมนุษย์ 0:03:29.875,0:03:36.174 ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม[br]และเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งบางชนิด 0:03:36.174,0:03:37.996 นักวิทยาศาสตร์เสนอว่า 0:03:37.996,0:03:42.473 ให้นำความสามารถในการเกาะติดโปรตีนราบรื่น[br]ของไซโคลปามีนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 0:03:42.473,0:03:44.454 ในการรักษาโรคมะเร็งเหล่านี้ 0:03:44.454,0:03:47.176 ตราบเท่าที่ผู้ป่วยไม่ได้ตั้งครรภ์ 0:03:47.176,0:03:50.695 แต่น่าเสียดายที่นักวิจัยพบว่า[br]ที่สุดแล้วไซโคลปามีน 0:03:50.695,0:03:52.424 ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ 0:03:52.424,0:03:56.145 และคุณสมบัติทางเคมีของมัน[br]ทำให้ยากที่จะนำมาใช้งาน 0:03:56.145,0:04:00.996 แต่พวกเขาค้นพบว่าโมเลกุลที่ใกล้ชิดกับมัน[br]มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ 0:04:00.996,0:04:07.707 และยาเหล่านี้สองตัวถูกอนุมัติในปี 2012[br]และปี 2015 ให้เป็นยารักษามะเร็งผิวหนัง 0:04:07.707,0:04:10.385 เมื่อเกษตรกรเหล่านั้น[br]ได้เห็นแกะตาเดียวเป็นครั้งแรก 0:04:10.385,0:04:14.586 พวกเขาอาจจะทึกทักเอาว่ามันเป็นแค่[br]การกลายพันธุ์ประหลาด ๆ แล้วเดินหนีไปก็ได้ 0:04:14.586,0:04:19.577 แทนที่จะทำเช่นนั้น การตัดสินใจตรวจสอบนั้น[br]ได้ทำให้เรื่องลึกลับกลายเป็นการแพทย์ 0:04:19.577,0:04:23.426 และแสดงให้เห็นว่าบางครั้ง[br]มันก็มีอะไรไปมากกว่าแค่มองตากัน