รู้กันไหมคะว่าในเวอร์ชันนิทานกริมส์ เรื่องซินเดอเรลล่าไม่มีรองเท้าแก้วค่ะ สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ เนื่องจากช่วงนี้นะคะ เชื่อว่าแทบทุกคนน่าจะอยู่บ้านกันใช่ไหมคะ เพื่อหยุดการแพร่กระจายของ COVID-19 จะบอกว่ามันเกิดเหตุการณ์นึงขึ้นค่ะ นั่นก็คือ หลายๆคนนะคะไม่มีอะไรดูค่ะก็เลย ย้อนกลับไปดูคลิปเก่าๆๆๆๆๆ และเก่ามากๆในช่อง Point of View นะคะ และแน่นอนค่ะว่าในสมัยนั้นเนี่ย เมื่อประมาณน้านแสนนานมาแล้วนะคะ คลิปมันก็แบบ เอ่อ...อาจจะไม่ค่อยแซ่บเท่าที่ควรค่ะ ดังนั้นหลายคนก็คอมเมนต์มาว่า เอ่อ ช่วยเอาคลิปนั้นคลิปนี้กลับมาทำใหม่หน่อย ดังนั้นนะคะวันนี้วิวก็เลยหยิบเอาเรื่องนึงที่วิวทำ ในสมัยทำช่องแรกๆเนี่ยกลับมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ เรื่องนั้นก็คือเรื่องซินเดอเรลล่านั่นเองนะคะ ซึ่งในวันนี้ ซินเดอเรลล่าเวอร์ชันที่วิวจะนำมาเล่าให้ทุกคนฟังเนี่ย เป็นเวอร์ชันของพี่น้องกริมส์นะคะ ซึ่งจะแตกต่างจากอีกเวอร์ชันนึง ซึ่งเป็นของชาลส์ แปร์โรลต์ อะไรต่างๆค่ะ อย่างไรก็ตามบอกเลยว่า เวอร์ชันนี้แซ่บแน่นอนค่ะ และที่สำคัญ นิทานกริมส์เวอร์ชันนี้ ไม่มีรองเท้าแก้วนะคะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่า แล้วไม่มีรองเท้าแก้วแล้วมันเป็นยังไงค่ะ ดังนั้นพร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ เรื่องราวของซินเดอเรลล่าเวอร์ชันนิทานกริมส์นะคะ เริ่มต้นขึ้นที่ผู้หญิงคนนึงค่ะ แน่นอนว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ตัวละครหลักค่ะ และเปิดเรื่องมาปุ๊บ นางก็ตายเลยนะคะ เรียกได้ว่าแทบจะไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามนางไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้นค่ะ เพราะว่าก่อนตายนะคะเราได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ เป็นเมียของผู้ชายคนนึงที่ค่อนข้างจะมีฐานะแหละ และที่สำคัญนะคะนางมีลูกสาวอยู่คนนึงค่ะ ในจังหวะนั้นเองตอนที่นางรู้ตัวว่านางกำลังจะตายนะคะ นางก็มีการเรียกลูกสาวตัวเองเข้ามาหาค่ะ เพื่อที่จะสั่งเสียนะประมาณว่า ลูกรักของแม่ ตอนนี้แม่รู้ตัวว่าแม่ไม่ไหวแล้ว อย่างไรก็ตาม แม่เชื่อว่าลูกจะยังอยู่ได้ด้วยตัวเองนะ แต่ขอให้ลูกยึดมั่นไว้อยู่สองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือขอให้ลูกยึดมั่นในความดี และอย่างที่สอง ขอให้ลูกยึดมั่นในความเชื่อ ถ้าลูกมีความดีและความเชื่อ ลูกจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองแน่นอน พอพูดจบนะคะ มือของนางก็ตกลงค่ะ นางก็ตายคาที่ไปตรงนั้นเลยนะคะ ทำให้ลูกสาวของนางนะคะ เสียใจมากค่ะ ก็ได้แต่ร้องห่มร้องไห้ทำอะไรไม่ได้นะคะ และนางก็ไปที่หลุมศพของแม่ที่อยู่หลังบ้านทุกวันค่ะ ร้องไห้ เรียกได้ว่า ร้องไห้จนน้ำตาชุ่มโชกไปทั่วเลยนะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ เวลาก็ต้องผ่านพ้นไปนะคะ จากวันที่ผู้หญิงคนนี้ตายค่ะก็เข้าสู่หน้าหนาว จากหน้าหนาวก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ และภายในฤดูใบไม้ผลิปีนั้นเองนะคะ พ่อของเด็กสาวคนนี้ก็พาสิ่งนึงกลับมาบ้านค่ะ นั่นก็คือเมียคนใหม่นั่นเองนะคะ แหม่ะ เมียเก่าตายไปยังไม่ครบปีเลยนะ พาเมียใหม่มาแล้วค่ะ และที่สำคัญนะคะ เมียใหม่นี่ไม่ได้มาเฉยๆนะ แต่ว่านางมาพร้อมกับลูกสาวทั้งหมดสองคนค่ะ ซึ่งลูกสาวสองคนนี้ก็เป็นลูกสาวที่หน้าตาดีมากๆนะคะ แต่อย่างไรก็ตาม นางดันเป็นคนที่ จิตใจโหดร้าย โหดเหี้ยม แล้วก็ใจดำมากๆค่ะ ดังนั้นเมื่อเข้ามาอยู่รวมกันในบ้านเดียวกันนะ แน่นอนว่าพ่อก็จะต้องเอาใจเมียใหม่ค่ะ แล้วก็เอาใจลูกๆใหม่ๆของตัวเองด้วย พวกนี้ก็เลยเหมือนได้ใจค่ะ ก็จิกหัวใช้คุณนางเอกของเราเนี่ย ที่เรากำลังจะรู้ว่าชื่ออะไรเนี่ยนะคะ อย่างหนักหน่วงเลยค่ะ เรียกได้ว่าเหมือนแบบนางร้ายในละครอะ ประมาณว่า หน็อยแน่ะ แก คนที่ไม่ทำงานน่ะไม่ควรจะมีอะไรกินหรอกนะ คนที่ไร้ประโยชน์อย่างแกอะ จะมีข้าวกินไปทำไม ดังนั้นแกไม่ควรใส่ชุดสวยๆแบบนี้หรอก แกควรจะไปทำงานแลกอาหารนะ ว่าแล้วนะคะก็มีการยึดชุดสวยๆของนางไป เอาชุดเก่าๆปอนๆของคนรับใช้ให้ใส่ มีการยึดเพชรนิลจินดา ยึดนู่นยึดนี่ ยึดทุกอย่างไปหมดเลยค่ะ สุดท้ายนะคะ นางเอกของเราก็เลยไม่เหลืออะไรเลยนะคะ ได้แต่ทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของตัวเองค่ะ และที่สำคัญนะคะ นางไม่เหลือแม้กระทั่งที่นอนค่ะ ดังนั้นทุกวันเนี่ยนะคะ หลังจากที่นางทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดวันเนี่ย นางก็จะต้องไปนอนที่หน้าเตาผิงในบ้านนะคะ เพราะว่าเมืองนอกอากาศมันหนาว นึกออกปะ ถ้าไปนอนในที่ที่มันไม่มีเตาผิง ไม่มีเตาอะไรให้อุ่นให้ความร้อนเนี่ย อาจจะตายได้นะคะ ดังนั้นนางก็ได้แต่ไปนอนหน้าเตาไฟทุกวัน ทุกวัน ทุกวันค่ะ จนกระทั่งเนื้อตัวของนางเนี่ย สกปรกมอมแมมตลอดเวลานะ เต็มไปด้วยขี้เถ้า ทุกคนก็เลยเรียกนางว่า ซินเดอเรลล่า และนี่ก็คือซินเดอเรลล่า ตัวเอกของเรานั่นเองค่ะ ซินเดอเรลล่าก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาเรื่อยๆนะคะ วันๆก็ทำงานบ้านอะไรต่างๆ แต่ว่าสิ่งนึงนะคะที่นางไม่เคยสูญเสียไปเลยก็คือ ความดีแล้วก็ความเชื่อที่แม่ของนางฝากเอาไว้ค่ะ ปรากฏว่าวันนึงค่ะ พ่อของนางจำเป็นจะต้องเดินทางไปทำธุระต่างเมืองนะคะ แน่นอนว่าไปต่างเมืองก็จะต้องมีของฝากใช่ไหมคะ ดังนั้นพ่อค่ะก็ถามลูกๆทั้งสามว่า เอาละลูกๆ มีใครอยากได้อะไรเป็นของฝากบ้าง ซึ่งพี่สาวคนแรกนะคะก็บอกว่า โอ้ หนูอยากได้เพชรนิลจินดาค่ะพ่อ ขอแบบว่าเครื่องประดับเยอะๆ เยอะๆแบบเยอะๆมากๆนะคะ เอาแบบแพงๆ เข้าใจไหม ซึ่งพ่อก็บอกว่า โอเคเลยลูก ว่าแต่ลูกคนที่สองอยากได้อะไรล่ะ ซึ่งลูกคนที่สองนะคะก็บอกพ่อว่า งั้นหนูขอเสื้อผ้าค่ะ เอาแบบแฟชั่น ไฮแฟชั่นที่สุดที่หาได้ในยุคสมัยนั้น เอาแบบแพงๆ ไฮโซๆ เลยนะคะพ่อ พราด้า ชาแนล แอร์เมส อะไรมาให้ครบค่ะ ซึ่งพ่อนะคะก็บอกว่า โอเค ลูกจะได้ตามนั้น อะ ว่าแต่เธอล่ะซินเดอเรลล่า อยากได้อะไร นะ เอาจริงๆซินเดอเรลล่านี่ลูกแท้ๆคนเดียวเลยนะ อีกสองคนนี่ลูกแบบลูกเลี้ยงนะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ ซินเดอเรลล่าก็เงยหน้ามองพ่อนะคะ แล้วก็บอกว่า พ่อคะ พ่อขา หนูไม่ได้อยากได้อะไรเลย สิ่งเดียวที่หนูอยากได้นะคะก็คือ ตอนที่พ่อนั่งรถเนี่ยกลับมาบ้านนะคะ ถ้าสมมติว่ามีกิ่งไม้อะไรเนี่ยมาชนหมวกพ่อ แล้วทำให้หมวกพ่อตกลงไปเนี่ยเป็นกิ่งแรก หนูขอกิ่งนั้นแหละค่ะ ได้ไหมคะพ่อ ซึ่งพ่อก็แบบเอ้อๆๆ ก็ได้ๆ นะคะแล้วพ่อก็ ออกไปค้าขายต่างเมืองค่ะ แน่นอนนะคะ ระหว่างที่ไปต่างเมือง พ่อก็ซื้อเพชรนิลจินดา ซื้อของแบรนด์เนมต่างๆ กลับมาให้ลูกสาวทั้งสองคนค่ะโดยที่ ลืมซินเดอเรลล่าไปเลยนะคะ อย่างไรก็ตาม ขณะที่พ่อกำลังเดินทางกลับบ้านค่ะ ก็มีกิ่งไม้กิ่งนึงนะคะ มาชนหมวกพ่อจริงๆ แล้วก็ทำให้หมวกตกลงไป พ่อก็เลยรู้สึกว่าเอ้อ จริงๆซินเดอเรลล่าก็ฝากสิ่งนี้ไว้นี่ ดังนั้นพ่อก็เลยจัดการหักกิ่งไม้กิ่งนั้นนะคะ แล้วก็เอากลับบ้านมาให้ซินเดอเรลล่าค่ะ เมื่อมาถึงบ้านนะคะ ซินเดอเรลล่าก็เลยเอากิ่งไม้กิ่งนี้ ไปไว้ที่หลุมศพของแม่ค่ะ แล้วก็ไปนั่งร้องไห้ให้กับแม่เหมือนกับทุกวันนะคะ ซึ่งนางเนี่ยร้องไห้เยอะมาก ร้องไห้หนักมาก ร้องไห้จนถึงขั้น น้ำตาเนี่ยชุ่มโชกไปทั่วหลุมศพของแม่ค่ะ และแน่นอนนะคะ น้ำตาอันท่วมท้นของนางเนี่ย ก็ไปโดนกิ่งไม้ค่ะ ทำให้กิ่งไม้นั้นเกิดรากงอกขึ้นมาอย่างอัศจรรย์นะคะ แล้วก็ค่อยๆงอกเป็นต้น งอกเป็นต้นมาเรื่อยๆค่ะ ซินเดอเรลล่าก็ไป รดน้ำต้นไม้ทุกวันด้วยน้ำตาของหล่อนนะคะ แน่นอนค่ะว่าหลังจากซินเดอเรลล่าเนี่ย ปลูกต้นไม้มาซักระยะเวลานึง มันก็จะต้องออกดอกออกผลนะคะ แต่ว่าดอกผลของต้นไม้ต้นนี้ ไม่ใช่ดอกผลธรรมดาค่ะ เพราะว่าอยู่ดีๆต้นไม้ต้นนี้ ก็มีนกพิราบทั้งหมดสองตัวมาอาศัยอยู่นะคะ และความพิเศษของนกพิราบสองตัวนี้ก็คือ ไม่ว่าซินเดอเรลล่าขอร้องอะไร นกพิราบสองตัวนี้ก็จะทำให้ ความฝันของเธอสำเร็จได้ในที่สุดค่ะ ดังนั้นเหมือนแบบอยู่ดีๆก็มี ตะเกียงจินนี่ขึ้นมาในบ้านซะอย่างนั้นเลยนะ อย่างไรก็ดี ด้วยความฉลาดของซินเดอเรลล่า หรือด้วยความอะไรก็ไม่รู้นะ นางก็ไม่เคยใช้อะ แทนที่จะใช้แบบพี่นกจ๋า ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้แล้ว พาฉันออกไปอะไรอย่างนี้ ก็ไม่เคยใช้นะคะ ดังนั้นซินเดอเรลล่าก็เลยจำเป็นจะต้อง อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ จนกระทั่งวันนึงค่ะ เกิดเรื่องราวขึ้นก็คือ พี่สาวทั้งสองของนางเนี่ย อยู่ดีๆก็กรี๊ดบ้านแตกนะคะประมาณว่า ซินเดอเรลล่าอยู่ไหน มานี่เดี๋ยวนี้นะ มาช่วยฉันเดี๋ยวนี้ รีบหวีผมให้ฉันเร็ว รีบแต่งหน้า แต่งผม แต่งทุกอย่างให้ฉันเร็ว จับฉันใส่ชุดสวยๆเร็ว ซึ่งซินเดอเรลล่าก็แบบ เกิดอะไรขึ้นคะคุณพี่ คุณพี่จะให้ดิฉัน แต่งตัวคุณพี่สวยขนาดนั้นเพราะอะไร ซึ่งทำให้ซินเดอเรลล่าได้รู้นะคะว่า ตอนนี้มันเกิดอีเวนต์ใหญ่มากขึ้นในเมืองค่ะ เป็นอีเวนต์ยาวถึงสามวันด้วยกันนะคะ อีเวนต์นั้นคืออีเวนต์ที่พระราชาเนี่ย จัดงานขึ้นมาค่ะ เป็นงานเลี้ยงเต้นรำ เพื่อที่จะให้เจ้าชายของเมืองเนี่ยนะคะ ได้เจอกับสาวๆทุกคนในเมืองค่ะ เผื่อว่าเจ้าชายจะเลือกใครสักคน เป็นเจ้าสาวของเจ้าชายนะคะ ดังนั้นพี่สาวทั้งสองคนเนี่ยหมายมั่นปั้นมือมากๆว่า ฉันจะต้องได้เข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ และฉันจะต้องจับเจ้าชายได้แน่ๆนะคะ ซินเดอเรลล่าได้ยินแบบนั้นค่ะก็รู้สึกว่า เฮ้ย ฉันก็อยากไปงานเลี้ยงเหมือนกันน่ะ ก็เลยไปขอแม่เลี้ยงนะคะ ประมาณว่า คุณแม่ขา หนูเป็นคนดี ทำงานทุกอย่างมาตลอดแล้ว หนูขอไปงานเลี้ยงด้วยได้ไหมคะ ซึ่งแน่นอนนะคะแม่เลี้ยงก็จะต้องบอกว่า ไม่ได้ซินเดอเรลล่า จะบ้าเหรอ เธอไม่มีชุด เธอไม่มีอะไรทั้งสิ้น เธอเป็นแค่เด็กสกปรกที่อยู่หน้าเตาผิงเท่านั้นแหละ เธอไป เธอก็จะทำให้พวกเราอับอายขายขี้หน้า ที่จะต้องมาเดินกับเธอ ไม่ได้ซินเดอเรลล่า อย่างไรก็ตามนะคะ ความอยากปาร์ตี้ของซินเดอเรลล่าเนี่ย มีมากกว่านั้นค่ะ ดังนั้นนางก็เลยมีความแบบ ไปขอร้องแม่เลี้ยงรัวๆๆๆนะคะ สุดท้ายแม่เลี้ยงค่ะก็เลยเดินถือจานถั่วมาใบนึงนะคะ แล้วก็เดินไปที่หน้าเตาผิงค่ะ เทถั่วทั้งจานเนี่ยนะคะลงไปในขี้เถ้าค่ะ พรึ่บ แล้วก็บอกว่า อะ ซินเดอเรลล่า ตอนนี้ถั่วกับขี้เถ้านี่มันปนกันเละไปหมดแล้ว ฉันให้เวลาเธอทั้งหมดสองชั่วโมง ถ้าเธอสามารถเก็บเม็ดถั่วออกมาจากขี้เถ้าได้นะ แยกเม็ดที่เป็นเม็ดดีๆ สามารถเอาไปใช้กิน เอาไปใช้เพาะปลูกได้ กับเม็ดที่เละๆออกจากกันได้ด้วยนะ ภายในเวลาแค่สองชั่วโมงเท่านั้น ฉันจะยอมให้เธอไปงานกับพวกเราก็ได้นะ ซึ่งซินเดอเรลล่านะคะได้ยินอย่างนั้นก็ ตกใจค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยไปที่หลุมศพของแม่นะคะ แล้วก็ร้องไห้ค่ะประมาณว่า ฮือๆๆๆ ฉันจะทำยังไงดี และแน่นอนค่ะเมื่อซินเดอเรลล่าไปร้องไห้ และร้องขอเนี่ยนะคะ นกพิราบสองตัวที่ อาศัยอยู่ในต้นไม้ของแม่เนี่ย ก็จะต้องบินออกมานะคะแล้วก็มาช่วยซินเดอเรลล่าค่ะ นกทั้งสองตัวนะคะก็บินพั่บๆๆๆ ไปที่หน้าเตาผิงนะคะ แล้วก็ทำการจิกๆๆๆๆ แยกเม็ดถั่วให้ซินเดอเรลล่าค่ะ แน่นอนด้วยความเป็นนกและ ด้วยความเก่งกาจของนกนะคะ งานทั้งหมดที่แม่เลี้ยงสั่งไว้ว่า ให้เสร็จภายในสองชั่วโมงเนี่ย ก็เสร็จในเวลาไม่ถึงชั่วโมงดีด้วยซ้ำค่ะ ทำให้ซินเดอเรลล่าดีใจมาก แล้วก็รีบวิ่งไปรายงานแม่เลี้ยงนะคะ ปรากฏว่าพอไปรายงานให้แม่เลี้ยงฟังนะคะ แม่เลี้ยงแบบ ฮะ ซินเดอเรลล่า ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะทำได้ แต่ไม่ ต่อให้เธอแยกถั่วได้ตามคำพูดของฉันเอง ฉันก็ไม่ให้เธอไปงานเลี้ยงกับพวกเราหรอก เพราะว่า มันน่าหัวเราะเยาะจะตาย คนจะต้องหัวเราะเยอะพวกเราแน่ๆเลย ที่มีเด็กสกปรกแบบเธอมาเดินกับพวกเรานะคะ ดังนั้นซินเดอเรลล่าก็เสียใจค่ะแต่ก็ ขอร้องต่อไปนะคะประมาณว่า คุณแม่ขา แต่หนูทำงานเสร็จแล้วจริงๆนะคะ ให้หนูไปเที่ยวด้วยเถอะ ได้โปรด พลีสๆๆๆๆ นะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ แม่เลี้ยงก็ยังไม่ยอมนะคะ แม่เลี้ยงก็เลยหยิบจานถั่วออกมาอีกทั้งหมดสองจานนะคะ แล้วก็เทลงไปในขี้เถ้าอีกรอบนึง พรึ่บ แล้วก็บอกว่าซินเดอเรลล่า เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวที่เราจะต้องออกเดินทางแล้ว ถ้าในหนึ่งชั่วโมงนี้ เธอสามารถแยกเม็ดถั่วออกมาจากขี้เถ้าได้นะ ฉันจะยอมให้เธอไปเที่ยวกับเราก็ได้ แน่นอนนะคะว่าซินเดอเรลล่าก็จะต้องใช้มุกเดิมค่ะ ก็คือเดินไปที่ต้นไม้ที่มีนกสองตัวอยู่นะคะ แล้วก็ร้องห่มร้องไห้ให้นกมาช่วยค่ะ นกนะคะได้ยินแบบนั้นก็รีบบินมาค่ะ แล้วก็จิกๆๆๆๆๆๆๆ จิกเม็ดถั่วนะคะจนกระทั่ง แยกทุกอย่างได้สำเร็จอย่างรวดเร็วค่ะ ซินเดอเรลล่าก็รีบกลับไปรายงานแม่เลี้ยงนะคะ แต่แม่เลี้ยงก็ยังพูดคำเดิมค่ะประมาณว่า ไม่อะ ทำไมฉันจะต้องมาให้คนหัวเราะเยาะฉัน เพราะพาเธอไปงานด้วย ไม่มีทาง ฉันไปละ บาย ว่าแล้วนะคะ ทั้งครอบครัวก็สะบัดก้นค่ะ แล้วก็ออกไปงานเลี้ยง ทิ้งให้ซินเดอเรลล่าเนี่ยอยู่บ้านคนเดียวนะคะ ซินเดอเรลล่าก็เลยทำอะไรไม่ได้ค่ะ ได้แต่ไปร้องไห้กับเหล่านกเหมือนเดิมนะคะประมาณว่า พี่นก น้องอยากเที่ยวจังเลย ทำยังไงดี ฮือๆ เสียใจนะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ ด้วยความมหัศจรรย์ของนิทาน fairy tale นะคะ นกพิราบทั้งสองตัวค่ะอยู่ดีๆก็เลย ไปคาบเอาชุดที่ทำจากเงินแล้วก็ผ้าไหมนะคะมา แล้วก็โยนให้ซินเดอเรลล่าค่ะ พรึ่บ ประมาณว่าอยากไปงานก็ไปสิจ๊ะ ดังนั้นค่ะ ซินเดอเรลล่าได้รับชุดที่สวยงามมากๆมาชุดนึง ก็รีบแต่งตัวเองนะคะ ล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด หลังจากแต่งตัวด้วยความเร็วแสงนะคะ ซินเดอเรลล่าก็รีบเดินทางไปจนถึงงานเลี้ยงเต้นรำค่ะ และแน่นอนเรื่องราวก็คล้ายๆกับในนิทานเลยนะคะ ในงานเลี้ยงเต้นรำเนี่ย เจ้าชายก็ไม่เห็นใครเลยค่ะนอกจากซินเดอเรลล่านะคะ ผู้เป็นหญิงสาวผู้สวยงามนะคะ ซึ่งหลายๆคนเนี่ยเข้าใจไปเองว่า นี่น่าจะเป็นเจ้าหญิงจากต่างเมืองแน่ๆเลย เพราะว่าหน้าตาดูสวยมากแล้วก็ ชุดเนี่ยหรูหราไฮโซจนแบบโอ้โห เรียกได้ว่าฟาดทั้งงานว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ ซินเดอเรลล่านะคะก็เต้นรำกับเจ้าชายทั้งคืนค่ะจนกระทั่ง ถึงเวลาที่ซินเดอเรลล่ารู้สึกว่า เฮ้ย ฉันควรจะกลับบ้านได้แล้ว ก็เลยขอตัวกลับบ้านจากเจ้าชายนะคะ ซึ่งเจ้าชายเนี่ยก็บอกว่า เดี๋ยวไปส่ง เพราะว่าเจ้าชายนี่อยากรู้นะคะว่า หญิงสาวผู้สวยงามคนนี้ ซึ่งก็ไม่ยอมถามชื่อเนี่ย มาจากบ้านไหนค่ะ ซินเดอเรลล่านะคะก็ปล่อยให้เจ้าชายมาส่งค่ะ จนกระทั่งมาถึงใกล้ๆบ้านของตัวเอง เจ๊แกก็กระโดดหนีเข้าไปในพุ่มไม้แห่งนึงนะคะ ซึ่งพุ่มไม้แห่งนั้นเนี่ยมีประมาณว่าบ้านนกหรือว่ารังนกอยู่ ประมาณนี้นะ แล้วเจ๊แกนะคะก็กระโดดทะลุออกไปด้านหลังพุ่มไม้ค่ะ รีบไปเปลี่ยนชุดกลับไปชุดเดิมนะคะแล้วก็ โยนชุดของตัวเองเนี่ยทิ้งไปค่ะ ปล่อยให้นกพิราบเนี่ยนะคะ คาบเอาชุดเนี่ยไปเก็บให้ค่ะ ซินเดอเรลล่านี่ก็กลับไปนั่งอยู่ริมเตาผิงเหมือนเดิมนะคะ ฝั่งเจ้าชายค่ะ อยู่ดีๆซินเดอเรลล่าหายตัวไป ก็แบบเฮ้ย หายไปไหนอะ ผู้หญิงคนนี้หายไปไหน จนกระทั่งพ่อของซินเดอเรลล่าโผล่มานะคะ เจ้าชายก็บอกว่า เห็นผู้หญิงคนนึงหายไปแถวนี้ไหม รู้จักเขาหรือเปล่า เขาเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย เขาหายไปในพุ่มไม้แห่งนี้ ตรงประมาณรังนกแห่งนี้นี่แหละ ซึ่งพ่อของซินเดอเรลล่านะคะก็แอบคิดนิดนึงว่า เอ๊ะ หรือจะเป็นซินเดอเรลล่า แต่เป็นไปไม่ได้หรอก ว่าแล้วนะคะทั้งคู่ก็พยายามตามหาผู้หญิงคนนั้นกันค่ะ ด้วยการเอาขวานมานะคะ แล้วก็จัดการพังรังนกอันนั้นทิ้งไปเลยนะ กะว่าแหวกรังนกออกมามันจะต้องมีผู้หญิงอยู่ข้างในแน่ๆ แต่ว่าก็ไม่มีนะคะ ทำให้เจ้าชายเนี่ยเสียใจมากแล้วก็ เดินทางกลับวังไปค่ะ วันที่สองนะคะ งานเลี้ยงก็ยังดำเนินไปเหมือนเดิม แน่นอนว่าแม่เลี้ยงใจร้ายและเหล่าพี่สาวเนี่ยนะคะ ก็จะต้องเดินทางไปที่งานเลี้ยงเหมือนเดิม ทิ้งให้ซินเดอเรลล่าอยู่บ้านคนเดียวค่ะ ซินเดอเรลล่าก็เลยไปร้องห่มร้องไห้ กับพี่นกพิราบทั้งสองเหมือนเดิมนะคะ และพี่นกพิราบทั้งสองก็ ให้ชุดชุดใหม่ซินเดอเรลล่ามาค่ะ ซึ่งสวยกว่าชุดที่แล้วอีกหลายเท่าเลยทีเดียวนะคะ เจ๊แกก็รีบเปลี่ยนชุดด้วยความเร็วแสงค่ะ แล้วก็เดินทางไปที่งานเลี้ยงนะคะ ที่งานเลี้ยงเนี่ย เจ้าชายรอซินเดอเรลล่าอยู่แล้วค่ะ เรียกได้ว่าปฏิเสธหมดเลยนะ ไม่ยอมเต้นรำกับใครทั้งสิ้น จนกว่าซินเดอเรลล่าจะมาค่ะ ทั้งคู่ก็เต้นรำกันทั้งคืนนะคะ เต้นๆๆๆ จนกระทั่งในที่สุดซินเดอเรลล่าก็บอกว่า ขอตัวกลับบ้านนะคะ เจ้าชายก็มาส่งเหมือนเดิม แต่ปรากฏว่ามาถึงเนี่ย ซินเดอเรลล่าก็กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ต้นนึงค่ะ และเจ้าชายก็พยายามตามหาซินเดอเรลล่าอีกนะคะ พ่อของซินเดอเรลล่าก็โผล่มาอีกรอบนึงค่ะ เจ้าชายก็ถามพ่อเหมือนเดิมว่า ผู้หญิงคนเมื่อวานน่ะกลับมาตรงนี้อีกแล้วนะ เรามาช่วยกันตามหากันเถอะ แต่ว่าหายังไงก็หาไม่เจอนะคะ สุดท้ายทั้งคู่ก็เอาขวานมาค่ะแล้วก็ ฟันต้นไม้ต้นนั้นทิ้งไปนะคะ อย่างไรก็ตามก็ไม่เจอซินเดอเรลล่าบนต้นไม้นั้นนะคะ เพราะว่าจริงๆแล้วเจ๊แกเป็นแชมป์กระโดดสูงนะคะ เพราะว่าซินเดอเรลล่าไม่ได้กระโดดขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ค่ะ ซินเดอเรลล่ากระโดดนะคะแล้วก็ทะลุพุ่มไม้ค่ะ โผล่ไปข้างหลัง แล้วก็จัดการเปลี่ยนชงเปลี่ยนชุดนะคะ แล้วก็ให้นกเนี่ยเอาชุดไปเก็บให้เหมือนเดิมค่ะ เสร็จแล้วตัวเองก็ไปนั่งอยู่ที่ริมเตาไฟเหมือนเดิมนะคะ และแน่นอนว่าเจ้าชายเนี่ยก็ถึงขั้นเข้ามาในบ้านเลยนะรอบนี้ แล้วก็แบบหาไม่เจอ ยังไงก็หาไม่เจอค่ะ ต่อให้เห็นตัวซินเดอเรลล่าแล้วก็จำไม่ได้นะคะ ทำให้เจ้าชายจำเป็นจะต้องกลับวังไปค่ะ และแล้วนะคะงานเลี้ยงก็ดำเนินมาจนถึงวันที่สามค่ะ ซินเดอเรลล่าก็ปลอมตัวนะคะไปที่งานเลี้ยงเหมือนเดิม โดยที่คราวนี้เป็นชุดครั้งที่สวยที่สุดที่เรียกได้ว่า สวยมาก หรูหรามาก จนกระทั่งฟาดคนทั้งงานแบบตายเรียบค่ะ และเจ้าชายก็มาเต้นรำกับซินเดอเรลล่าทั้งคืนเหมือนเดิมนะคะ แต่รอบนี้พอซินเดอเรลล่าเนี่ยขอตัวกลับบ้าน เจ้าชายไม่ได้ปล่อยกลับไปเหมือนเดิมค่ะ เพราะว่าคราวนี้เจ้าชายวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วนะคะว่า ที่บันไดของวังเนี่ยไม่ได้ปล่อยให้เป็นบันไดธรรมดาค่ะ แต่ว่าเจ้าชายเนี่ยเอาพวกยางไม้ เอาพวกกาวอะไรเหนียวๆเนี่ยไปทาไว้นะคะ ดังนั้นตอนที่ซินเดอเรลล่าเนี่ยเดินลงบันไดมาค่ะ ทำให้รองเท้าของซินเดอเรลล่าเนี่ยนะคะ หลุดติดอยู่ที่บันไดค่ะ ว่าแล้วซินเดอเรลล่าก็กลับบ้านไป ทำให้เจ้าชายเนี่ยไม่สามารถตามซินเดอเรลล่าได้นะคะ อย่างไรก็ตาม เจ้าชายเนี่ย ก้มลงไปดูที่รองเท้าที่ซินเดอเรลล่าวางทิ้งไว้ค่ะ ปรากฏว่านะคะ เมื่อเจ้าชายหยิบรองเท้าคู่นั้นขึ้นมาดูค่ะ รองเท้าคู่นั้นเนี่ยมีความพิเศษที่ไม่เหมือนรองเท้าคู่อื่นนะคะ แต่มันไม่ใช่รองเท้าแก้วค่ะทุกคน เพราะว่าอย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกนะคะว่า ในเวอร์ชันพี่น้องกริมส์เนี่ย ไม่มีรองเท้าแก้วค่ะ เพราะว่ารองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าที่ทำจาก ทองคำนะคะทุกคน ซึ่งเดาว่าตอนนี้น่องของซินเดอเรลล่าน่าจะปูดไปแล้วนะ เพราะว่ารองเท้าทองคำนี่ก็น่าจะหนักพอสมควรนะคะ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นรองเท้าทองคำค่ะ และเป็นรองเท้าทองคำที่มีขนาดเล็กเป็นพิเศษนะคะ ดังนั้นเจ้าชายก็เลยใช้พุทธิปัญญาที่ตัวเองมีอยู่ค่ะ ครุ่นคิดว่า อื้อหือ ถ้าสมมติว่าเท้าเล็กขนาดนี้แล้วเป็นทองคำเนี่ยนะ มันจะต้องเป็นคนที่เท้าพิเศษมากๆแน่ๆเลย มันถึงจะใส่รองเท้าคู่นี้ได้พอดี ดังนั้นเจ้าชายนะคะก็เลยขี่ม้าไปที่บ้านของซินเดอเรลล่าค่ะ ซึ่งไปมาสองคืนแล้วนะ ไปถึงก็ไปหาผู้ชายคนเดิม ซึ่งก็คือพ่อของซินเดอเรลล่านั่นเองแล้วก็บอกว่า อะ บ้านนี้มีลูกสาวกี่คน เรียกออกมาให้หมด ผู้หญิงทุกคนในบ้านนี้ ออกมาให้หมด ถ้าผู้หญิงคนไหนใส่รองเท้าคู่นี้ได้ คนนั้นนั่นแหละก็คือเจ้าสาวของฉันนะคะ ดังนั้นค่ะ แม่เลี้ยงใจร้ายก็เลยเริ่มจาก ให้ลูกสาวคนโตของตัวเองเนี่ยลองรองเท้าก่อนนะคะ แต่ด้วยความที่ผู้หญิงสมัยโบราณมันจะต้องมี ความแบบกระโปรงสุ่มอะไรอย่างนี้แล้วก็ การให้เห็นเท้านี่มันอาจจะดูแบบ อืม ไม่สุภาพเท่าไหร่ ดังนั้นก็เลยมีการเข้าไปลองรองเท้ากันในห้องค่ะ ประมาณว่าแค่ใส่ออกมาให้ดูก็พอแล้ว ไม่ต้องไปใส่ให้เห็นน่ะนะ ดังนั้นนะคะลูกสาวคนแรกก็เข้าไปกับแม่ค่ะ พยายามจะยัดเท้าตัวเองลงไปในรองเท้านะคะ อย่างไรก็ดีค่ะ แม้ว่าลูกสาวคนโตเท้าจะเล็กแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ยัดไม่เข้านะคะเพราะว่า นิ้วโป้งเท้าของเธอเนี่ยมันใหญ่เกินไปค่ะ คนแม่ก็พยายามยัดๆๆ ยัดยังไงก็ยัดไม่เข้า ก็เลยพูดว่า ลูกๆ แม่คิดว่านะ ถ้าลูกได้แต่งงานกับเจ้าชายเนี่ย แล้วลูกได้เป็นพระราชินีขึ้นมาเมื่อไหร่เนี่ยนะ นิ้วโป้งมันก็ไม่สำคัญหรอกลูก เพราะว่าลูกน่าจะไม่ต้องเดินไปไหนแล้ว น่าจะต้องมีคนประคองลูกไปประคองลูกมา ตัดทิ้งเถอะลูก ว่าแล้วนะคะแม่ก็หยิบมีดให้กับลูกตัวเองค่ะ ลูกก็รับมีดมาแล้วก็แบบ นิ้วโป้งไม่สำคัญจริงใช่ไหมแม่ ได้ ฉัวะ ว่าแล้วนะคะลูกก็ตัดนิ้วโป้งเท้าตัวเองทิ้งไปค่ะ แล้วก็เอาเท้าพิการของตัวเองเนี่ยนะคะ ยัดเข้าไปในรองเท้าค่ะ แล้วก็ออกมาโชว์ตัวให้กับเจ้าชายเห็นว่า ทาดา ฉันใส่ได้แล้วเห็นไหมจ๊ะ อย่างไรก็ตามนะคะ ตอนที่เจ้าชายขี่ม้า ผ่านหลุมศพของแม่ซินเดอเรลล่าเนี่ย นกนะคะก็ส่งเสียงร้องลงมาค่ะ เป็นเพลงนะประมาณว่าแบบ เลือดชุ่มโชกที่เท้า นิ้วโป้งเท้าหรือจะไม่สำคัญ ดูสิ เท้าของเจ้าสาวท่านชุ่มโชกไปด้วยเลือด นี่ไม่ใช่เจ้าสาวของท่านหรอก ประมาณนี้นะคะ เจ้าชายได้ยินอย่างนั้นก็เลยก้มลงไปมองที่เท้าค่ะ แล้วก็พบว่า โอ้โห เลือดท่วมรองเท้าจริงๆด้วย คือเลือดมันเริ่มซึมออกมาแล้วอะนะ ดังนั้นเจ้าชายนะคะก็เลยรีบพาพี่สาวคนโตค่ะ กลับไปคืนแล้วก็บอกว่า นี่ไม่ใช่เจ้าสาวของฉัน ไปหาผู้หญิงคนอื่นที่ใส่รองเท้าได้พอดีมา น้องสาวคนรองนะคะก็เลยลองบ้างค่ะ เข้าไปในห้องแล้วก็ ทั้งที่เลือดยังชุ่มๆรองเท้าคู่เดิมอยู่อะนะ ก็ลองรองเท้านะคะ แต่ว่านางสามารถยัดนิ้วทุกนิ้วเข้าไปในรองเท้าได้ค่ะ ปัญหาก็คือส้นเท้าของนางเนี่ย มันใหญ่เกินไปนะคะ ดังนั้นแม่ก็เหมือนเดิมเลยก็บอกว่า ลูก ถ้าลูกเป็นพระราชินีแล้วนะ ส้นเท้าไม่สำคัญ ตัดเลยลูก ตัดให้ขาดเลยฉับๆๆ นะคะ ว่าแล้วแม่ก็ส่งมีดให้ค่ะ ลูกสาวคนรองก็กลั้นใจนะ แล้วก็จัดการตัดส้นเท้าตัวเองทิ้งค่ะ ฉัวะ นะคะ เรียกได้ว่าเลือดสาดกระจายเลยทีเดียว เสร็จแล้วลูกสาวคนรองก็ใส่ถุงเท้าเข้าไปนะคะ แล้วก็ใส่รองเท้าได้พอดีเป๊ะ ออกมารายงานตัวให้กับเจ้าชายค่ะ เจ้าชายเห็นแบบนั้นนะคะก็เลยพาลูกสาวคนรองค่ะ ขึ้นม้านะคะแล้วก็ตั้งใจจะขี่ออกไปเหมือนเดิมเป๊ะเลย แต่ว่าระหว่างที่ขี่ผ่านแก๊งนกพิราบนะคะ แก๊งนกพิราบก็ร้องเพลงเหมือนเดิมประมาณว่า เห็นเลือดที่ไหลเป็นทางนั่นไหม มันชุ่มออกมานอกถุงเท้าหมดแล้ว คิดว่านี่เจ้าสาวของท่านเหรอ เจ้าสาวของท่านไม่มีส้นเท้าเหรอจ๊ะ นี่ไม่ใช่เจ้าสาวของท่านหรอก ประมาณนี้นะคะ เจ้าชายก็เลยก้มลงมองที่เท้าค่ะแล้วก็พบว่า อื้อหือ ถุงเท้าสีขาวเนี่ย เลือดเปื้อนปื้ดขึ้นมาขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่แน่ๆเลย เจ้าชายก็เลยได้แต่พาพี่สาวคนรองกลับไปคืนค่ะ เมื่อพาพี่สาวกลับมาส่งแล้วนะคะ เจ้าชายก็พยายามจะคาดคั้นต่อค่ะประมาณว่า เฮ้ย บ้านนี้มีผู้หญิงคนไหนอีก พาออกมาให้หมด ฉันไม่เชื่อว่าเจ้าสาวของฉันไม่ได้อยู่ที่บ้านนี้ อย่างไรก็ตามนะคะ แม่เลี้ยงก็พยายามจะบอกว่า ไม่มี บ้านเราไม่มีแล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนเหลืออยู่แล้วนะ ก็เหลือแค่คนใช้ที่มันนั่งอยู่หน้าเตาไฟสกปรกคนเดียว ไม่น่าใช่หรอก ไม่มีทาง อย่างไรก็ตามค่ะ เจ้าชายปักใจไปแล้วนะคะ ก็เลยบอกว่า ต่อให้เป็นคนใช้ก็พาออกมา ฉันจะให้เขาลองรองเท้าคู่นี้ ดังนั้นนะคะ แม่เลี้ยงก็จำใจจะต้อง ให้ซินเดอเรลล่าออกมาค่ะ ซึ่งซินเดอเรลล่าเนี่ยนะคะก็ไปล้างหน้าล้างตาค่ะ แล้วก็เดินออกมา ทันทีที่เจ้าชายเห็นหน้าซินเดอเรลล่านะคะก็จำได้ค่ะว่า เอ้า นี่มันสาวสวยที่ฉันเต้นรำมาด้วยถึงสามคืนนี่หน่า ซึ่งเอาจริงๆจะเอารองเท้ามาทำไม มองหน้าตั้งแต่แรกก็น่าจะรู้แล้วนะ อย่างไรก็ตาม ช่างมันค่ะ แล้วซินเดอเรลล่าก็มาลองรองเท้าให้เจ้าชายเห็นนะคะ แน่นอนว่าใส่ได้พอดีเป๊ะเลย โดยที่เราจะไม่พูดถึงความจริงที่ว่า รองเท้าที่ซินเดอเรลล่าใส่อยู่นี่เป็นรองเท้า ที่ชุ่มเลือดของพี่สาวสองคนอยู่นะ ดังนั้นช่างมันค่ะ พอเห็นว่าซินเดอเรลล่าลองรองเท้าได้ หน้าตาก็ใช่ ทุกอย่างใช่ เจ้าชายก็เลยพาซินเดอเรลล่าขึ้นม้า กลับปราสาทไปเพื่อที่จะไปแต่งงาน แล้วก็ให้ซินเดอเรลล่าเป็นเจ้าสาวของเขาค่ะ ซึ่งเมื่อตอนที่ขี่รถผ่านนกไปนะคะ นกก็ร้องเพลงประมาณว่า เห็นไหม ซินเดอเรลล่าใส่รองเท้าได้พอดี นิ้วก็ครบ ส้นเท้าก็ครบ เลือดก็ไม่มี นี่แหละคือเจ้าสาวของท่าน ว่าแล้วนกทั้งสองตัวนะคะก็บินมาเกาะ ไหล่ซ้ายกับไหล่ขวาของซินเดอเรลล่าค่ะ และทั้งหมดก็กลับไปที่ปราสาทนะคะ ตัดภาพไปที่วันแต่งงานของซินเดอเรลล่าค่ะ พี่สาวทั้งสองเนี่ย ซึ่งตอนนี้ก็พิการแล้วนะ เท้าก็ไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่ ก็พยายามจะมาหาประโยชน์จากซินเดอเรลล่านะคะ โดยการมาเป็นเหมือนแบบเพื่อนเจ้าสาวว่าอย่างนั้นเถอะ เดินประกบซ้ายประกบขวาซินเดอเรลล่า ตอนที่เดินเข้าโบสถ์นะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ คนชั่วก็ต้องได้รับผลของคนชั่วนะ ดังนั้นพี่สาวคนนึงเดินด้านซ้าย พี่สาวคนนึงเดินด้านขวาเนี่ย เดินๆไปนะคะ นกที่เกาะอยู่ที่ไหล่ของซินเดอเรลล่าเนี่ย ก็จิกตาของพี่สาวทั้งสองคนนะคะ นกที่อยู่ตรงนี้ก็จิกตาที่อยู่ใกล้ตรงนี้ นกที่อยู่ตรงนี้ก็จิกตาที่อยู่ใกล้ตรงนี้นะคะ และพี่สาวก็ไม่เข็ดนะคะ พอเดินไป จิกไปแล้วรอบนึงเนี่ย เดินกลับเขาก็สลับข้างกันใช่ไหม พอสลับข้างกัน นกก็จิกตาอีกข้างนึงที่เหลือค่ะ ทำให้พี่สาวทั้งสองคนเนี่ยกลายเป็นคนพิการในที่สุด ส่วนซินเดอเรลล่านะคะก็ใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าชาย อย่างมีความสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาค่ะ เป็นอันจบเรื่องราวของซินเดอเรลล่าที่ ออกจะโหดร้ายแล้วก็ชุ่มโชกไปด้วยเลือดนิดนึงนะคะ เอาเป็นว่าถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืม กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ เอาจริงๆนี่เป็นนิทานซินเดอเรลล่า เวอร์ชันนิทานกริมส์นะคะ แม้ว่าเราจะคุ้นกับชื่อนิทานกริมส์มากกว่า แต่ว่าเนื้อหาข้างในเนี่ย เราน่าจะไปคุ้นกับอีกเวอร์ชันนึงมากกว่าก็คือ เวอร์ชันของชาลส์ แปร์โรลต์นั่นเอง ถ้าเกิดมีโอกาสวันหลัง เดี๋ยวจะหามาเล่าให้ฟังนะคะ แต่ว่ามันก็ไม่แซ่บเท่ากริมส์หรอก ในเวอร์ชันนั้นนะ เพราะว่ามันเบสิกไปนะ อย่างไรก็ตาม ช่างมันละกันค่า เอาเป็นว่าใครอยากฟังนิทานเรื่องอะไร เวอร์ชันของใครอีก ก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้นะคะ วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ