1 00:00:00,040 --> 00:00:02,880 เคยสงสัยกันไหมคะว่า แป๊บนึงเนี่ยนานขนาดไหน 2 00:00:03,400 --> 00:00:05,360 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 3 00:00:05,360 --> 00:00:08,120 กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะในรายการ วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด ค่ะ 4 00:00:08,120 --> 00:00:11,100 รายการที่วิวจะหยิบเอาคำถามที่น่าสนใจนะคะ 5 00:00:11,100 --> 00:00:15,320 ที่คนถามเข้ามาผ่าน #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด มาตอบให้ทุกคนฟังค่ะ 6 00:00:15,320 --> 00:00:16,780 ซึ่งคำถามของเราในวันนี้นะคะ 7 00:00:16,780 --> 00:00:20,080 ต้องบอกว่ามาในช่องทางที่ค่อนข้างจะพิเศษนิดนึงค่ะ 8 00:00:20,080 --> 00:00:22,060 คือเขาไม่ได้พิมพ์มาในช่องคอมเมนต์ 9 00:00:22,060 --> 00:00:23,980 หรือว่าส่งมาเป็นข้อความอะไรนะคะ 10 00:00:24,200 --> 00:00:26,380 แต่เขาต่อมาเป็นสายตรงเลยค่ะ 11 00:00:26,500 --> 00:00:28,660 เดี๋ยวเราไปฟังคำถามพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า 12 00:00:28,840 --> 00:00:31,400 เคยสงสัยกันไหมครับว่าเวลาแป๊บนึงเนี่ย 13 00:00:31,600 --> 00:00:32,700 มันนานแค่ไหน 14 00:00:35,700 --> 00:00:36,760 สวัสดีครับ บอส กีรติครับ 15 00:00:36,760 --> 00:00:38,660 ตั้งแต่เราเกิดมา คนก็จะแบบ 16 00:00:38,660 --> 00:00:40,100 แป๊บนึงนะ เดี๋ยวเจอกัน 17 00:00:40,340 --> 00:00:41,260 แป๊บนึง เดี๋ยวโทรกลับ 18 00:00:41,480 --> 00:00:42,620 แป๊บนึง เดี๋ยวลงไป 19 00:00:42,620 --> 00:00:43,820 แป๊บนึง เดี๋ยวเอาของไปให้ 20 00:00:43,820 --> 00:00:44,880 แป๊บนึง เดี๋ยวกินข้าว 21 00:00:44,880 --> 00:00:46,400 แป๊บนึง 22 00:00:46,400 --> 00:00:48,100 เราก็เลยอดสงสัยไม่ได้ 23 00:00:48,100 --> 00:00:50,060 เพราะว่าทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้ 24 00:00:50,060 --> 00:00:51,860 เวลามันไม่ค่อยจะเท่ากัน 25 00:00:51,860 --> 00:00:54,920 แป๊บนึงของบางคนก็สั้น แป๊บนึงของบางคนก็ยาว 26 00:00:55,180 --> 00:00:56,520 ก็เลยต้องมาถามเนี่ยครับว่า 27 00:00:56,880 --> 00:01:01,000 วิวเอ๋ยบอกข้าเถิดว่าแป๊บนึงเนี่ย มันยาวแค่ไหนอะครับ 28 00:01:01,000 --> 00:01:02,040 แหม่ะ เป็นไงบ้าง 29 00:01:02,040 --> 00:01:04,220 สมกับเป็นคนที่ขี้สงสัยมากจริง ๆ นะคะ 30 00:01:04,220 --> 00:01:07,460 คำถามที่ส่งมานี่ อื้ม ตอบยากพอสมควรเลย 31 00:01:07,460 --> 00:01:08,960 แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะว่า 32 00:01:09,140 --> 00:01:10,720 ก่อนที่วิวจะเริ่มอัดวิดีโอนี้ 33 00:01:10,720 --> 00:01:14,020 วิวไปหาข้อมูลมาเพื่อจะตอบคำถามนี้แล้วโดยเฉพาะค่ะ 34 00:01:14,160 --> 00:01:15,820 ซึ่งต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ 35 00:01:15,820 --> 00:01:17,960 สำหรับใครที่อ่านคำถามนี้แล้ว 36 00:01:18,100 --> 00:01:19,560 ตั้งใจจะมาหาคำตอบค่ะ 37 00:01:19,560 --> 00:01:21,260 คำตอบมันอาจจะไม่ใช่แบบที่ 38 00:01:21,500 --> 00:01:22,880 ทุกคนต้องการนะคะ 39 00:01:22,880 --> 00:01:25,440 อย่างไรก็ตามค่ะ พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง 40 00:01:25,440 --> 00:01:27,100 สนุกแล้วก็ได้สาระรึยังคะ 41 00:01:27,300 --> 00:01:29,120 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 42 00:01:33,240 --> 00:01:35,780 อะ ได้เวลาที่เราจะมาตอบคำถามกันแล้วค่ะ 43 00:01:35,880 --> 00:01:38,760 แต่ก่อนอื่น ขออนุญาตนอกเรื่องซักเล็กน้อยนะคะ 44 00:01:38,980 --> 00:01:42,740 หลายคนชอบถามวิวค่ะว่าเวลาที่วิวได้คำถามอะไรแบบนี้มาเนี่ย 45 00:01:42,940 --> 00:01:44,560 วิวไปหาคำตอบยังไงนะคะ 46 00:01:44,560 --> 00:01:48,080 ดังนั้นคลิปนี้ขออนุญาตค่อย ๆ เล่าให้ฟังซักเล็กน้อยแล้วกันค่ะ 47 00:01:48,080 --> 00:01:49,580 ตอนที่วิวได้โจทย์มาเนี่ยว่า 48 00:01:49,680 --> 00:01:52,180 เอ๊ะ คำว่าแป๊บนึงเนี่ย มันนานแค่ไหนนะคะ 49 00:01:52,180 --> 00:01:55,360 แน่นอนค่ะว่าโจทย์นี้มันคือการนิยามศัพท์ใช่ไหมว่า 50 00:01:55,480 --> 00:01:58,500 เออ แป๊บนึงมันแปลว่าอะไร มันหมายความว่ายังไง 51 00:01:58,760 --> 00:02:00,600 พอเราพูดถึงการนิยามศัพท์ค่ะ 52 00:02:00,780 --> 00:02:02,700 แหล่งแรกที่วิวจะไปหาข้อมูลเนี่ย 53 00:02:02,700 --> 00:02:03,720 แน่นอนว่าก็ต้องเป็น 54 00:02:03,720 --> 00:02:06,560 พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานใช่ไหมคะ 55 00:02:06,560 --> 00:02:09,540 สิ่งที่จะให้ความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ 56 00:02:09,540 --> 00:02:11,220 ในภาษาไทยได้ดีที่สุดค่ะ 57 00:02:11,220 --> 00:02:12,560 ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า 58 00:02:12,560 --> 00:02:15,580 หลายคนจะไปเปิดพจนานุกรมตามวิวแต่ว่า 59 00:02:15,740 --> 00:02:17,560 อาจจะหาคำว่าแป๊บไม่เจอค่ะ 60 00:02:17,800 --> 00:02:19,020 รู้ไหมคะว่าเพราะอะไร 61 00:02:19,400 --> 00:02:22,480 เพราะว่าหลาย ๆ คนเนี่ยชอบสะกดคำว่าแป๊บผิดค่ะ 62 00:02:22,480 --> 00:02:24,200 คำว่าแป๊บนะคะสะกดแบบนี้ 63 00:02:24,700 --> 00:02:27,800 สระแอ ป. ปลา ไม้ตรี แล้วก็ บ.ใบไม้ นะคะ 64 00:02:27,900 --> 00:02:29,080 อ่านว่า แป๊บ ค่ะ 65 00:02:29,340 --> 00:02:32,820 ซึ่งคำว่าแป๊บตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานเนี่ย 66 00:02:32,820 --> 00:02:35,840 ให้ความหมายไว้ถึง 3 ความหมายด้วยกันนะคะ 67 00:02:36,040 --> 00:02:38,480 ความหมายแรกก็คือช่วงระยะเวลาแป๊บนึง 68 00:02:38,480 --> 00:02:40,300 เหมือนที่เรากำลังจะคุยกันนี่แหละ 69 00:02:40,300 --> 00:02:41,620 ส่วนความหมายที่สองเนี่ย 70 00:02:41,620 --> 00:02:44,560 คำว่าแป๊บคำนี้ หมายถึง ท่อแป๊บ ด้วยนะคะ 71 00:02:44,560 --> 00:02:46,080 สะกดเหมือนกันเป๊ะเลย 72 00:02:46,360 --> 00:02:48,180 และความหมายที่สามก็คือ 73 00:02:48,400 --> 00:02:51,940 กระดุมแป๊บค่ะ คือกระดุมที่เป็นสองอันแล้วประกบติดกัน 74 00:02:51,940 --> 00:02:53,780 กดแล้วมีเสียงดังแป๊บนะคะ 75 00:02:53,900 --> 00:02:56,220 อันนั้นก็เรียกว่ากระดุมแป๊บเหมือนกันค่ะ 76 00:02:56,220 --> 00:02:59,500 ส่วนคำใกล้เคียงที่คนมักจะสะกดผิดนะคะก็คือ 77 00:02:59,500 --> 00:03:01,900 สระแอ ป. ปลา แล้วก็ บ. ใบไม้ ค่ะ 78 00:03:02,040 --> 00:03:04,980 คำนี้ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานเนี่ย 79 00:03:05,120 --> 00:03:07,120 ให้ความหมายไว้เป็นความหมายอื่นนะคะ 80 00:03:07,120 --> 00:03:10,240 ก็คือคำนี้มันอ่านว่า แปบ ค่ะ ไม่ใช่ แป๊บ นะคะ 81 00:03:10,340 --> 00:03:12,860 ดังนั้นก็คือชื่อขนมถั่วแปบนะคะ 82 00:03:12,860 --> 00:03:15,300 หรืออีกความหมายนึงก็คือเป็นชื่อปลานะคะ 83 00:03:15,520 --> 00:03:17,920 และความหมายสุดท้ายค่ะ ก็คือความหมายที่ 84 00:03:18,100 --> 00:03:21,020 มันหมายถึงลักษณะที่มันแบน ประมาณนั้นค่ะ 85 00:03:21,220 --> 00:03:24,300 ส่วนถ้าใครสะกดคำว่าแป๊บแบบอื่นนอกเหนือจากนี้นะ 86 00:03:24,300 --> 00:03:26,440 ก็...เป็นคำที่ไม่มีความหมายนะคะ 87 00:03:26,440 --> 00:03:28,900 ดังนั้นคำว่าแป๊บที่ถูกต้องจะต้องสะกดว่า 88 00:03:28,900 --> 00:03:31,675 สระแอ ป. ปลา ไม้ตรี แล้วก็ บ. ใบไม้ ค่ะ 89 00:03:31,680 --> 00:03:33,940 ทีนี้ช่วงระยะเวลาแป๊บนึงเนี่ย 90 00:03:34,100 --> 00:03:35,460 เมื่อกี้เราเห็นไปแล้วใช่ไหมว่า 91 00:03:35,460 --> 00:03:37,640 ตามพจนานุกรมให้ความหมายว่ายังไง 92 00:03:37,800 --> 00:03:40,620 คือเขาให้ความหมายแค่ว่า ชั่วเวลานิดเดียว 93 00:03:40,620 --> 00:03:44,340 ดังนั้นมันไม่ได้ระบุเลยว่าช่วงเวลานิดเดียวของแป๊บนึงเนี่ย 94 00:03:44,340 --> 00:03:46,420 มันสั้น มันยาว มันอะไรยังไง 95 00:03:46,420 --> 00:03:47,720 เทียบเคียงกับอะไรนะคะ 96 00:03:47,720 --> 00:03:51,380 จะแตกต่างจากการให้ความหมายเวลาอื่น ๆ ของไทย เช่น 97 00:03:51,660 --> 00:03:53,940 ชั่วพริบตาเดียว อันนี้ชัดเจนว่า 98 00:03:54,080 --> 00:03:56,380 ก็ชั่วกะพริบตาทีเดียวนะคะ 99 00:03:56,620 --> 00:04:00,680 หรือว่าชั่วลัดนิ้วมือเดียว ก็คือชั่วเวลาที่ดีดนิ้ว 100 00:04:01,260 --> 00:04:02,180 แค่นี้นะคะ 101 00:04:02,180 --> 00:04:04,040 ทีนี้ก็เลยต้องบอกว่า เอาจริง ๆ นะคะ 102 00:04:04,040 --> 00:04:05,940 สารภาพตรงนี้เลยว่าถ้าถามว่า 103 00:04:05,940 --> 00:04:08,960 แป๊บนึงเนี่ยนานแค่ไหน บอกเลยว่าตอบไม่ได้ค่ะ 104 00:04:09,200 --> 00:04:12,275 แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ ก่อนที่หลายคนจะกดปิดวิดีโอ 105 00:04:12,480 --> 00:04:15,020 ต้องบอกว่าภาษาไทยของเราเนี่ยตอบไม่ได้ค่ะ 106 00:04:15,020 --> 00:04:18,140 แต่ถ้าเราลองไปเทียบเคียงกับภาษาอื่น ๆ 107 00:04:18,140 --> 00:04:21,240 เราอาจจะได้ความรู้อื่น ๆ ที่น่าสนใจนะคะ 108 00:04:21,245 --> 00:04:23,200 ดังนั้นวิวก็เลยค้นต่อค่ะว่า 109 00:04:23,200 --> 00:04:24,640 เออ จริง ๆ คำว่า แป๊บ เนี่ย 110 00:04:24,640 --> 00:04:26,360 ถ้าเราแปลเป็นภาษาอังกฤษนะ 111 00:04:26,360 --> 00:04:28,540 มันน่าจะตรงกับคำศัพท์ไหนมากที่สุด 112 00:04:28,700 --> 00:04:30,580 คิดไปคิดมาค่ะก็คิดได้ว่า 113 00:04:30,700 --> 00:04:32,800 เออ มันน่าจะตรงกับคำนี้ที่สุดแหละ 114 00:04:33,080 --> 00:04:34,560 คำคำนั้นก็คือคำว่า 115 00:04:34,715 --> 00:04:35,980 a moment นะคะ 116 00:04:35,980 --> 00:04:36,740 เคยได้ยินไหม 117 00:04:36,880 --> 00:04:39,320 wait a moment แปลว่า รอแป๊บนึง 118 00:04:39,420 --> 00:04:40,940 ใกล้เคียงใช่ไหมคะ 119 00:04:41,220 --> 00:04:43,700 ทีนี้คำว่า แป๊บ เนี่ยอาจจะตอบไม่ได้ค่ะ 120 00:04:43,700 --> 00:04:45,740 ว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานแค่ไหน 121 00:04:46,020 --> 00:04:48,540 แต่คำนึงที่ตอบได้แน่ ๆ นะคะก็คือ 122 00:04:48,760 --> 00:04:49,820 a moment ค่ะ 123 00:04:49,820 --> 00:04:53,400 เพราะว่าเรารู้นะคะว่า a moment เนี่ยยาวนานแค่ไหนค่ะ 124 00:04:53,520 --> 00:04:55,420 คือต้องบอกว่าในขณะที่วิวกำลัง 125 00:04:55,420 --> 00:04:57,860 หาข้อมูลเรื่องแป๊บนึงยาวแค่ไหนเนี่ยนะคะ 126 00:04:58,040 --> 00:04:59,700 วิวก็ไปเจอบทความนึงค่ะ 127 00:04:59,700 --> 00:05:01,120 เป็นบทความภาษาอังกฤษนะคะ 128 00:05:01,380 --> 00:05:02,960 ที่เขามาวิเคราะห์กันว่า 129 00:05:03,100 --> 00:05:05,100 a moment เนี่ยยาวแค่ไหนค่ะ 130 00:05:05,280 --> 00:05:08,200 ดังนั้นนะคะ เรามาฟังความเห็นของฝรั่งกันดีกว่าว่า 131 00:05:08,380 --> 00:05:10,620 a moment ของเขา หรือว่าแป๊บนึงของเขาเนี่ย 132 00:05:10,800 --> 00:05:12,360 มันยาวนานแค่ไหนค่ะ 133 00:05:12,580 --> 00:05:14,340 จากการค้นหาข้อมูลของวิวค่ะ 134 00:05:14,340 --> 00:05:16,600 ต้องบอกว่าถึงวิวจะบอกมาตลอดเลยนะว่า 135 00:05:16,600 --> 00:05:17,880 a moment แปลว่าแป๊บนึง 136 00:05:17,880 --> 00:05:20,540 แบบ เอ๊ย wait a moment แปลว่าเท่าไหร่ก็ไม่รู้ 137 00:05:20,680 --> 00:05:22,900 แต่จริง ๆ แล้วนะคะ สมัยก่อนค่ะ 138 00:05:23,080 --> 00:05:26,640 คำว่า a moment ไม่ได้หมายถึงช่วงเวลาที่วัดไม่ได้นะคะ 139 00:05:26,760 --> 00:05:28,180 แต่ว่าคำว่า moment เนี่ยนะคะ 140 00:05:28,180 --> 00:05:30,980 มันเป็นหน่วยวัดเวลาในยุคกลางของยุโรปค่ะ 141 00:05:31,180 --> 00:05:33,240 คือเราสามารถระบุได้ชัดเจนเลยว่า 142 00:05:33,240 --> 00:05:35,220 moment นึงมันยาวประมาณเท่านี้แหละ 143 00:05:35,580 --> 00:05:37,300 เพราะว่ามันเป็นหน่วยวัดเวลานะคะ 144 00:05:37,560 --> 00:05:39,180 ก่อนที่ชาวตะวันตกเนี่ยนะคะ 145 00:05:39,180 --> 00:05:41,840 เขาจะหันมานับเวลาแบบ minute แบบปัจจุบันค่ะ 146 00:05:41,840 --> 00:05:44,560 คือแบ่ง 1 ชั่วโมงเป็น 60 นาทีนะคะ 147 00:05:44,800 --> 00:05:47,620 สมัยก่อนเขามีการแบ่งเป็น moment มาก่อนค่ะ 148 00:05:47,640 --> 00:05:49,260 ถามว่าเพราะอะไร ก็ต้องบอกว่า 149 00:05:49,260 --> 00:05:52,420 เพราะว่าเวลาเนี่ยมันเป็นสิ่งที่มนุษย์กำหนดขึ้น ถูกต้องไหมคะ 150 00:05:52,600 --> 00:05:55,715 คือถ้าเราลองมาสมมติกันดูนะคะว่าถ้าเราไม่มีนาฬิกา 151 00:05:55,940 --> 00:05:58,000 เราไม่สามารถดูนาฬิกาได้เลยเนี่ย 152 00:05:58,160 --> 00:06:00,840 เราจะรู้ไหมว่าตอนนี้มันผ่านไปแล้ว 1 นาที 153 00:06:00,840 --> 00:06:02,580 ตอนนี้มันผ่านไปแล้ว 1 ชั่วโมง 154 00:06:02,700 --> 00:06:05,480 หรือถ้าสมมติว่าวิวลบทิ้งไปเลยว่า 155 00:06:05,480 --> 00:06:07,540 ยังไม่เคยมีใครแบ่งเวลาให้เราว่า 156 00:06:07,740 --> 00:06:09,420 1 ชั่วโมงคือระยะเวลาเท่านี้ 157 00:06:09,420 --> 00:06:11,040 1 นาทีคือระยะเวลาเท่านี้ 158 00:06:11,040 --> 00:06:13,980 เราก็ไม่มีอะไรในท้องฟงท้องฟ้าอะไรต่าง ๆ 159 00:06:13,980 --> 00:06:16,740 ที่เราจะสามารถมาวัดกันได้เลยใช่ไหมคะว่า 160 00:06:16,860 --> 00:06:19,800 เออนี่ เวลามันผ่านไปแล้วเป็นระยะเวลาเท่านี้เท่านั้น 161 00:06:20,080 --> 00:06:23,780 ดังนั้นค่ะ คนสมัยโบราณเขาก็เลยต้องมีการพยายามคิดวิธี 162 00:06:23,780 --> 00:06:25,880 ที่จะแบ่งเวลากันออกมานะคะ 163 00:06:25,880 --> 00:06:28,680 ซึ่งหลายแบบเนี่ยมันก็อาจจะตรงกันในหลากหลายชาติ 164 00:06:28,680 --> 00:06:30,720 เพราะว่ามันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 165 00:06:30,720 --> 00:06:32,660 เช่น เขาสามารถดูได้ว่า 166 00:06:32,800 --> 00:06:36,440 อ๋อ วันนึงก็คือเมื่อตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตก 167 00:06:36,440 --> 00:06:38,540 จนพระอาทิตย์กลับมาขึ้นอีกรอบนึง 168 00:06:38,540 --> 00:06:40,200 นี่ก็คือ 1 วันกับ 1 คืน 169 00:06:40,480 --> 00:06:43,440 คือ 1 วันกับ 1 คืนของทั่วโลกมันก็จะเป็นเวลาที่ 170 00:06:43,640 --> 00:06:45,900 ระยะเวลาใกล้เคียงกัน ถูกต้องไหมคะ 171 00:06:46,080 --> 00:06:46,700 ทีนี้ 172 00:06:46,980 --> 00:06:48,240 เขาก็อาจจะแบ่งได้ว่า 173 00:06:48,240 --> 00:06:51,660 อ๋อ งั้นเวลากลางวันก็คือพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก 174 00:06:51,840 --> 00:06:53,960 อะ เราแบ่งระยะเวลากลางวันเนี่ย 175 00:06:53,960 --> 00:06:55,340 เป็นครึ่งนึงของกลางวัน 176 00:06:55,460 --> 00:06:58,140 ก็ต้องเป็นตอนที่พระอาทิตย์อยู่บนหัวเราพอดี 177 00:06:58,320 --> 00:07:00,000 อะ ก็แบ่งเป็น 6 ชั่วโมงและ 178 00:07:00,160 --> 00:07:02,420 ทีนี้ เอ๊ ระหว่างครึ่งนึงของ 6 ชั่วโมง 179 00:07:02,580 --> 00:07:04,620 แบ่งครึ่งไปอีกที พระอาทิตย์อยู่เฉียง ๆ 180 00:07:04,860 --> 00:07:05,900 ก็เป็น 3 ชั่วโมง 181 00:07:05,900 --> 00:07:07,760 อะไรแบบนี้มันอาจจะเท่ากันค่ะ 182 00:07:07,760 --> 00:07:11,340 แต่ในหน่วยเวลาที่มันเล็กมาก ๆ ในระดับนาทีเนี่ยนะคะ 183 00:07:11,340 --> 00:07:12,660 ต้องบอกว่าสมัยก่อนเนี่ย 184 00:07:12,660 --> 00:07:15,020 แต่ละชาติก็แบ่งกันกระจัดกระจายไปหมด 185 00:07:15,020 --> 00:07:17,360 คนนั้นแบ่งแบบนี้ คนนี้แบ่งแบบนั้นนะคะ 186 00:07:17,360 --> 00:07:19,560 ยกตัวอย่างง่าย ๆ ภาษาไทยของเราเนี่ย 187 00:07:19,560 --> 00:07:23,275 สมัยก่อนเราก็ไม่ได้แบ่ง 1 ชั่วโมงเป็น 60 นาที ถูกต้องไหม 188 00:07:23,520 --> 00:07:25,920 สมัยก่อนค่ะ เขาแบ่ง 1 ชั่วโมงเป็นทั้งหมด 189 00:07:26,180 --> 00:07:27,660 10 บาทด้วยกันนะคะ 190 00:07:27,820 --> 00:07:30,280 อันนี้เป็นหน่วยนับเวลาแบบไทยโบราณนะคะ 191 00:07:30,280 --> 00:07:33,660 แบบที่ถ้าสมมติว่าใครเคยไปอ่านงานเก่า ๆ 192 00:07:33,660 --> 00:07:35,080 อาจจะได้เห็นที่เขาบอกว่า 193 00:07:35,260 --> 00:07:37,540 เอ๊ะ 1 ชั่วโมง เศษสังขยา 5 บาท 194 00:07:37,540 --> 00:07:39,660 ก็แปลว่า 1 ชั่วโมงมี 10 บาท 195 00:07:39,820 --> 00:07:42,180 5 บาทก็คือครึ่งชั่วโมงนะคะ 196 00:07:42,180 --> 00:07:44,860 ดังนั้น 1 ชั่วโมง เศษสังขยา 5 บาทก็คือ 197 00:07:45,280 --> 00:07:47,040 1 ชั่วโมงครึ่งนั่นเองค่ะ 198 00:07:47,280 --> 00:07:49,520 อันนี้ก็เป็นหน่วยวัดเวลาแบบไทยนะคะ 199 00:07:49,700 --> 00:07:51,660 เช่นเดียวกันเลยค่ะ ชาวตะวันตกเนี่ย 200 00:07:51,660 --> 00:07:54,240 เขาก็มีการแบ่งเวลาของเขาเหมือนกันนะคะ 201 00:07:54,360 --> 00:07:55,500 ซึ่งของไทยโบราณเนี่ย 202 00:07:55,500 --> 00:07:57,500 เขาอาจจะมีวิธีการวัดอะไรของเขา 203 00:07:57,500 --> 00:08:00,980 ด้วยการเอากะลามาเจาะรูเป็นนาฬิกาน้ำอะไรต่าง ๆ 204 00:08:01,200 --> 00:08:04,480 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากจีน อะไรก็ว่ากันไปนะคะ 205 00:08:04,480 --> 00:08:06,180 เราไม่ได้มาพูดถึงในที่นี้ 206 00:08:06,240 --> 00:08:08,580 แต่ถามว่ากลับมาที่ moment ของเราเนี่ย 207 00:08:08,860 --> 00:08:12,400 ชาวตะวันตกเขาวัดเวลากันยังไงนะคะ ในสมัยโบราณ 208 00:08:12,620 --> 00:08:16,180 ก็ต้องบอกว่าตอนนั้นยังไม่ได้มีนาฬิกาแบบปัจจุบันนี้ค่ะ 209 00:08:16,180 --> 00:08:17,740 ที่เป็นนาฬิกา mechanic นะคะ 210 00:08:17,740 --> 00:08:19,700 ที่มันเดินเครื่องด้วยอะไรต่าง ๆ 211 00:08:19,700 --> 00:08:22,040 ให้มันเดินติ๊ก ๆ ๆ ตรงเวลานะคะ 212 00:08:22,220 --> 00:08:24,920 สมัยก่อนค่ะ เขาวัดเวลากันโดยใช้ 213 00:08:25,120 --> 00:08:26,720 นาฬิกาแดดนะคะ 214 00:08:26,720 --> 00:08:30,200 ทีนี้พอใช้นาฬิกาแดดเนี่ย ก็โอเค เราน่าจะรู้กันดีว่า 215 00:08:30,200 --> 00:08:33,740 นาฬิกาแดดเขาก็แบ่งเวลากลางวันเป็น 12 ชั่วโมงนี่แหละค่ะ 216 00:08:33,760 --> 00:08:35,320 แต่ในแต่ละชั่วโมงเนี่ยนะคะ 217 00:08:35,320 --> 00:08:39,360 นาฬิกาแดดเขาไม่ได้แบ่งเหมือนกับนาฬิกาแบบปัจจุบันนี้ค่ะ 218 00:08:39,580 --> 00:08:41,760 ซึ่งหน่วยวัดที่ใช้นาฬิกาแดดแบบนี้นะคะ 219 00:08:41,760 --> 00:08:43,980 ต้องบอกว่าค่อนข้างจะเก่าแก่มาก ๆ เลย 220 00:08:43,980 --> 00:08:46,600 คือวิวเนี่ยไม่รู้หรอกค่ะว่าเขาเริ่มต้นเมื่อไหร่นะคะ 221 00:08:46,820 --> 00:08:49,960 แต่จากหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่เขาค้นพบกันเนี่ยว่า 222 00:08:50,120 --> 00:08:51,940 มีการใช้นาฬิกาแดดแบบนี้ 223 00:08:51,940 --> 00:08:54,180 แล้วมีการแบ่งชั่วโมงเป็น moment เนี่ยนะ 224 00:08:54,180 --> 00:08:57,380 มันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 8 ค่ะ 225 00:08:57,580 --> 00:09:00,075 แล้วก็ใช้กันมายาวจนถึง 226 00:09:00,080 --> 00:09:02,280 คริสต์ศตวรรษที่ 13 เลยทีเดียวนะคะ 227 00:09:02,280 --> 00:09:05,440 จนกระทั่งการคิดค้นนาฬิกาแบบปัจจุบันนี้เกิดขึ้นค่ะ 228 00:09:05,560 --> 00:09:08,180 การนับเวลาด้วยนาฬิกาแดดเนี่ยมันถึงจะค่อย ๆ 229 00:09:08,180 --> 00:09:09,920 หายจากไปนะคะ 230 00:09:10,280 --> 00:09:12,220 ทีนี้ถามว่าเขาแบ่งกันยังไงนะคะ 231 00:09:12,220 --> 00:09:15,900 ก็ต้องบอกว่าเขาก็แบ่งคล้าย ๆ กับปัจจุบันนี้นี่ล่ะค่ะ 232 00:09:15,920 --> 00:09:18,920 คือในเวลากลางวันเนี่ยก็แบ่งออกเป็น 12 ชั่วโมงเนอะ 233 00:09:19,180 --> 00:09:21,660 เวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนไปต่าง ๆ เนี่ย 234 00:09:21,960 --> 00:09:26,320 นาฬิกาแดดมันก็ค่อย ๆ ไป แบ่งเป็น 12 ช่องค่ะ 235 00:09:26,580 --> 00:09:28,640 แต่ทีนี้นะคะ แทนที่ใน 1 ชั่วโมงเนี่ย 236 00:09:28,640 --> 00:09:30,260 เขาจะแบ่งเป็น 60 นาที 237 00:09:30,480 --> 00:09:31,920 เขากลับแบ่งเป็นทั้งหมด 238 00:09:32,260 --> 00:09:34,020 40 moments ด้วยกันค่ะ 239 00:09:34,120 --> 00:09:35,940 ดังนั้นนะคะ ลองบวกลบคูณหาร 240 00:09:35,940 --> 00:09:38,140 เทียบบัญญัติไตรยางศ์อะไรต่าง ๆ ออกมา 241 00:09:38,480 --> 00:09:41,420 เทียบอัตราส่วนอะไรด้วยความรู้ทางคณิตศาสตร์นะคะ 242 00:09:41,700 --> 00:09:42,640 คิดง่าย ๆ ค่ะ 243 00:09:42,740 --> 00:09:44,820 1 ชั่วโมง เท่ากับ 40 moments 244 00:09:45,060 --> 00:09:47,240 1 ชั่วโมง เท่ากับ 60 นาที 245 00:09:47,400 --> 00:09:49,420 60 นาที เท่ากับ 40 moments 246 00:09:49,700 --> 00:09:52,220 ดังนั้น 1 moment ก็เลยเท่ากับประมาณ 247 00:09:52,460 --> 00:09:54,380 1 นาทีครึ่งหรือว่า 248 00:09:54,620 --> 00:09:56,840 90 วินาทีนั่นเองค่ะ 249 00:09:57,080 --> 00:09:59,460 ดังนั้นถามว่าเราเรียนรู้อะไรจากอันนี้ 250 00:09:59,640 --> 00:10:00,900 เราก็เรียนรู้ว่า 251 00:10:01,100 --> 00:10:04,020 a moment ในภาษาอังกฤษเนี่ยนะคะ ก็คือเท่ากับ 252 00:10:04,280 --> 00:10:06,240 90 วินาทีนั่นเองค่ะ 253 00:10:06,440 --> 00:10:09,840 ดังนั้นนะคะ ถ้าสมมติว่าวิวจะสรุปแบบแถ ๆ นิดนึงเนี่ยก็ 254 00:10:09,840 --> 00:10:11,980 a moment เท่ากับ 90 วินาที 255 00:10:11,980 --> 00:10:13,660 a moment แปลว่า แป๊บนึง 256 00:10:13,660 --> 00:10:15,780 ดังนั้นแป๊บนึงที่ถูกต้องที่สุด 257 00:10:15,980 --> 00:10:17,440 อาจจะเป็นระยะเวลา 258 00:10:17,620 --> 00:10:19,800 90 วินาทีนั่นเองค่ะ 259 00:10:19,800 --> 00:10:22,120 อย่างไรก็ตามนะคะ อันนี้มันเป็นการแปลแบบ 260 00:10:22,120 --> 00:10:23,840 แถนิดนึงของวิวนะ เพราะว่า 261 00:10:24,040 --> 00:10:25,820 เราไม่มีคำตอบให้แน่ ๆ หรอกค่ะว่า 262 00:10:25,820 --> 00:10:27,400 แป๊บนึงคือระยะเวลาเท่าไหร่ 263 00:10:27,400 --> 00:10:30,420 เพราะว่าคนไทยเราไม่ได้คิดลึกอะไรกันขนาดนั้น 264 00:10:30,420 --> 00:10:33,100 แป๊บนึงก็คือแป๊บเดียว ประมาณนั้นนะคะ 265 00:10:33,300 --> 00:10:36,540 ขึ้นอยู่กับว่าใครจะแป๊บนึงสั้น แป๊บนึงยาว 266 00:10:36,540 --> 00:10:39,360 ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนคิดเห็นยังไงค่ะ 267 00:10:39,640 --> 00:10:43,860 แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ถ้าสมมติว่าใครที่ฟังแล้วยังรู้สึกไม่สะใจนะคะ 268 00:10:44,080 --> 00:10:46,620 ต้องบอกว่าในบทความที่วิวไปอ่านมาเนี่ย 269 00:10:46,820 --> 00:10:49,880 เขาไม่ได้แปล a moment แค่เป็น 90 วินาที 270 00:10:49,880 --> 00:10:51,420 แบบที่วิวเพิ่งเล่าไปค่ะ 271 00:10:51,620 --> 00:10:55,420 แต่จริง ๆ แล้วเขาแปลออกเป็นถึง 9 แบบด้วยกันนะคะว่า 272 00:10:55,600 --> 00:10:57,700 เขามีการวิเคราะห์อะไรต่าง ๆ ว่า 273 00:10:57,820 --> 00:10:59,700 เออ a moment อาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้ 274 00:10:59,700 --> 00:11:01,860 อาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้ อาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้ 275 00:11:02,140 --> 00:11:03,520 เพราะว่าเขามองว่า 276 00:11:03,700 --> 00:11:06,520 โอเค a moment เนี่ยมันเป็น 90 วินาทีแน่ ๆ แหละ 277 00:11:06,700 --> 00:11:08,600 แต่คำศัพท์คำนึงเนี่ยนะคะ 278 00:11:08,760 --> 00:11:11,980 ผ่านระยะเวลามานาน บางทีความหมายมันก็เปลี่ยนค่ะ 279 00:11:12,200 --> 00:11:13,900 เช่นเดียวกับคำว่า a moment เนี่ย 280 00:11:13,900 --> 00:11:16,600 มันเป็นการนับเวลาแบบสมัยยุคกลางใช่ไหม 281 00:11:16,860 --> 00:11:18,600 ดังนั้นในสมัยปัจจุบัน 282 00:11:18,600 --> 00:11:22,120 a moment มันอาจจะไม่ได้แปลเหมือนกับสมัยยุคกลางแล้ว 283 00:11:22,320 --> 00:11:24,820 เขาก็เลยวิเคราะห์ออกมาอีกทั้งหมด 8 แบบนะคะ 284 00:11:24,820 --> 00:11:27,180 ด้วยทฤษฎีในรูปแบบต่าง ๆ 285 00:11:27,180 --> 00:11:30,380 ไม่ว่าจะเป็น a moment คือช่วงระยะเวลานึงที่เราฝัน 286 00:11:30,640 --> 00:11:35,080 a moment คือช่วงระยะเวลาที่ความคิดส่งไปถึงสมองเรา 287 00:11:35,220 --> 00:11:38,080 a moment คือโอ๊ย เยอะแยะอีกมากมายเลยค่ะ 288 00:11:38,300 --> 00:11:41,260 ดังนั้นถ้าสมมติว่าใครสนใจอ่านเพิ่มเติมนะคะก็ 289 00:11:41,500 --> 00:11:44,480 วิวลง link ไว้ให้ใน description box ข้างล่างแล้วนะคะ 290 00:11:44,480 --> 00:11:46,640 เป็นอ้างอิงเหมือนกับทุกคลิปเลย 291 00:11:46,640 --> 00:11:48,760 สามารถไปหาอ่านกันเพิ่มเติมได้ค่ะ 292 00:11:49,000 --> 00:11:50,460 แต่วันนี้วิวขออนุญาต 293 00:11:50,460 --> 00:11:52,980 หยุดความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไว้ที่ 294 00:11:53,100 --> 00:11:56,920 a moment เท่ากับ 90 วินาทีตามแบบยุคกลางค่ะ 295 00:11:56,920 --> 00:11:58,600 หวังว่าจะตอบคำถามของทุกคน 296 00:11:58,600 --> 00:12:02,075 และตอบคำถามของคุณบอส กีรติให้หายสงสัยได้นะคะ 297 00:12:02,080 --> 00:12:04,080 ส่วนใครที่เชื่อหรือไม่เชื่อยังไง 298 00:12:04,080 --> 00:12:06,140 คิดว่าแป๊บนึงคือระยะเวลาเท่าไหร่ 299 00:12:06,140 --> 00:12:08,820 สามารถคอมเมนต์มาคุยกันด้านล่างได้นะคะ 300 00:12:08,980 --> 00:12:12,540 หรือจะฝากคำถามอื่น ๆ ไว้เพื่อให้วิวตอบในคลิปถัด ๆ ไป 301 00:12:12,620 --> 00:12:14,520 สำหรับวันนี้ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ 302 00:12:14,520 --> 00:12:16,420 อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ 303 00:12:16,420 --> 00:12:18,260 กดแชร์เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ 304 00:12:18,520 --> 00:12:20,100 แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ 305 00:12:20,100 --> 00:12:20,940 บ๊ายบาย 306 00:12:21,280 --> 00:12:22,040 สวัสดีค่ะ 307 00:12:22,160 --> 00:12:23,220 เป็นไงบ้างคะทุกคน 308 00:12:23,220 --> 00:12:25,840 รู้สึกว่าตัวเองโดน clickbait รึเปล่าหรือว่าอะไรยังไง 309 00:12:26,060 --> 00:12:28,040 แต่เอาเป็นว่าจริง ๆ เรื่อง moment เนี่ย 310 00:12:28,040 --> 00:12:30,180 มันก็เป็นอะไรที่วิวอยากเล่าให้ทุกคนฟัง 311 00:12:30,180 --> 00:12:31,420 มาค่อนข้างจะนานแล้วค่ะ 312 00:12:31,420 --> 00:12:33,540 แต่ว่าหาโอกาสไม่ได้นะคะ 313 00:12:33,720 --> 00:12:36,560 ประจวบเหมาะกับได้คำถามจากคุณบอส กีรติมา 314 00:12:36,560 --> 00:12:38,340 ตรงกับที่วิวอยากเล่าพอดีเลย 315 00:12:38,340 --> 00:12:41,000 ก็เลยอ่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ หยิบคำถามนี้ขึ้นมา 316 00:12:41,220 --> 00:12:42,940 ตอบให้ทุกคนฟังแล้วกันค่ะ 317 00:12:43,100 --> 00:12:45,300 เอาเป็นว่าวันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน 318 00:12:45,300 --> 00:12:46,140 บ๊ายบาย 319 00:12:46,400 --> 00:12:47,400 สวัสดีค่ะ