WEBVTT 00:00:00.610 --> 00:00:04.100 ลองทำโจทย์อีกข้อจากเรื่องการกระจายตัว 00:00:04.100 --> 00:00:10.120 แบบปกติในหนังสือสถิติ AP ของ ck12.org 00:00:10.120 --> 00:00:11.770 และผมใช้อันนี้เพราะมันฟรี และ 00:00:11.770 --> 00:00:13.990 เป็นหนังสือที่ดีทีเดียว 00:00:13.990 --> 00:00:16.475 ปัญหาคือว่า, ผมว่า, เป็นแบบฝึกหัดที่ดีสำหรับเรา 00:00:16.475 --> 00:00:19.070 ลองดูกัน, ข้อ 3 00:00:19.070 --> 00:00:20.390 คุณสามารถไปที่เว็บไซต์ และผมว่า 00:00:20.390 --> 00:00:21.690 คุณสามารถดาวน์โหลดหนังสือได้ 00:00:21.690 --> 00:00:26.180 สมมุติว่าค่าเฉลี่ยน้ำหนักของเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ ในอเมริกา 00:00:26.180 --> 00:00:28.920 กระจายตัวแบบปกติ -- หรือกระจายตัว 00:00:28.920 --> 00:00:32.330 แบบปกติด้วยค่าเฉลี่ยประมาณ 9.5 กรัม 00:00:32.330 --> 00:00:33.820 มันน่าจะเป็นกิโลกรัมนะ 00:00:33.820 --> 00:00:35.930 ผมมีลูกชายอายุ 10 เดือน และเขาหนัก 20 ปอนด์ 00:00:35.930 --> 00:00:39.570 ซึ่งประมาณ 9 กิโลกรัม ไม่ใช่ 9.5 กรัม 00:00:39.570 --> 00:00:41.040 9.5 กรัมนี่ไม่ใช่แล้ว 00:00:41.040 --> 00:00:43.900 นี่น่าจะเป็นน้ำหนักหนูหรืออะไรสักอย่าง 00:00:43.900 --> 00:00:44.940 นี่ต้องเป็นกิโลกรัม 00:00:44.940 --> 00:00:47.350 แต่ช่างเถอะ, มันคือประมาณ 9.5 กิโลกรัม 00:00:47.350 --> 00:00:51.050 โดยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานมีค่าประมาณ 1.1 กรัม 00:00:51.050 --> 00:00:56.400 แล้วค่าเฉลี่ยเท่ากับ 9.5 กิโลกรัม ผมว่านะ และ 00:00:56.400 --> 00:01:01.130 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.1 กรัม 00:01:01.130 --> 00:01:04.840 ถ้าไม่ใช่เครื่องคิดเลข -- นี่เป็นคำใบ้ที่น่าสนใจ -- 00:01:04.840 --> 00:01:08.950 จงประมาณจำนวนของเด็กหญิงอายุ 1 ขวบในอเมริกาเป็นเปอร์เซ็นต์ 00:01:08.950 --> 00:01:09.995 ที่ตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้ 00:01:09.995 --> 00:01:12.910 เวลาเขาบอกว่า ให้กะค่าโดยไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข นั่นเป็น 00:01:12.910 --> 00:01:15.250 คำใบ้ หรือวิธีการที่บอกเราให้ใช้ 00:01:15.250 --> 00:01:16.350 กฏเชิงประจักษ์ (empirical rule) 00:01:20.040 --> 00:01:27.480 กฎเชิงประจักษ์บางครั้งเรียกว่ากฎ 68-95-99.7 00:01:27.480 --> 00:01:29.960 และถ้าคุณจำนี่เป็นชื่อกฎ 00:01:29.960 --> 00:01:31.500 คุณก็ต้องจำกฎได้ 00:01:31.500 --> 00:01:33.520 สิ่งที่มันบอกเราว่าคือว่า ถ้าเรามีการกระจายตัวแบบปกติ -- 00:01:33.520 --> 00:01:35.800 ผมจะทบทวนตรงนี้ก่อนที่เราจะไป 00:01:35.800 --> 00:01:36.750 ยังปัญหานี้ 00:01:36.750 --> 00:01:38.750 ถ้าเรามีการกระจายตัวแบบปกติ -- ขอผมเขียน 00:01:38.750 --> 00:01:40.480 การกระจายตัวแบบปกตินะ 00:01:40.480 --> 00:01:42.900 มันจะเป็นแบบนั้น 00:01:42.900 --> 00:01:44.240 นั่นคือการกระจายตัวแบบปกติ 00:01:44.240 --> 00:01:45.940 ผมไม่ได้วาดแบบโดยสมบูรณ์แบบ แต่คุณคงเข้าใจ 00:01:45.940 --> 00:01:47.560 มันควรสมมาตร 00:01:47.560 --> 00:01:49.980 นี่คือค่าเฉลี่ยของเราตรงนี้ 00:01:49.980 --> 00:01:50.840 นั่นคือค่าเฉลี่ยของเรา 00:01:50.840 --> 00:01:54.810 ถ้าเราอยู่เหนือค่าเฉลี่่ย 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ 00:01:54.810 --> 00:02:00.350 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1 หน่วยส่วนเบี่ยงบนมาตรฐาน, นี่ก็คือ ค่าเฉลี่ย บวก 1 00:02:00.350 --> 00:02:01.780 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:02:01.780 --> 00:02:05.730 นี่คือค่าเฉลี่ยนเรา ลบ 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:02:05.730 --> 00:02:08.710 ความน่าจะเป็นที่จะได้ผล ถ้าเรายุ่งกับการกระจายตัว 00:02:08.710 --> 00:02:12.080 แบบปกติโดยสมบูรณ์, ค่านั้นอยู่ระหว่าง ค่าเฉลี่ยลบ 00:02:12.080 --> 00:02:14.640 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าเฉลี่ยบวก 1 ส่วนเบี่ยงเบน 00:02:14.640 --> 00:02:19.320 มาตรฐาน -- นั่นก็คือพื้นที่นี้ -- มันจะเป็น, 00:02:19.320 --> 00:02:23.040 คุณคงเดาได้, คือ 68% 00:02:23.040 --> 00:02:26.430 มีโอกาส 68% ที่คุณจะได้ค่าอยู่ภายใน 1 ส่วนเบี่ยงเบน 00:02:26.430 --> 00:02:27.750 มาตรฐานวัดจากค่าเฉลี่ย 00:02:27.750 --> 00:02:30.140 ไม่ว่าจะอยู่เหนือหรือใต้หรือระหว่าง 00:02:30.140 --> 00:02:31.450 หนึ่งช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:02:31.450 --> 00:02:34.500 ทีนี้, ถ้าเราพูดถึง 2 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐานรอบ 00:02:34.500 --> 00:02:37.170 ค่าเฉลี่ย -- ถ้าเราลองไปอีก 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, เราลงไป 00:02:37.170 --> 00:02:39.570 ยังอีก 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในทิศนั้นและ 00:02:39.570 --> 00:02:41.780 เหนือค่าเฉลี่ยไปอีก 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน -- และเราถาม 00:02:41.780 --> 00:02:43.190 ตัวเองว่าความน่าจะเป็นในการพบ 00:02:43.190 --> 00:02:47.360 ค่าอยู่ระหว่างสองช่วงนั้น, มัน 00:02:47.360 --> 00:02:50.740 ก็คือ, คุณคงเดาได้ว่า, คือ 95% 00:02:50.740 --> 00:02:53.060 แลนั่นรวมพื้นที่ตรงกลางนี้ด้วย 00:02:53.060 --> 00:02:56.510 68% นี้คือส่วนหนึ่งของ 95% นี้ 00:02:56.510 --> 00:02:58.140 ผมว่าคุณคงรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ 00:02:58.140 --> 00:03:01.360 ถ้าคุณไปที่ 3 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐานใต้ค่าเฉลี่ย และ 00:03:01.360 --> 00:03:06.820 เหนือค่าเฉลี่ย, นั่นคือกฎเชิงประจักษ์หรือกฎ 68-95-99.7 00:03:06.820 --> 00:03:15.740 มันบอกเราว่ามีโอกาส 99.7% ที่ได้จะผลจาก 00:03:15.740 --> 00:03:19.120 กระจายตัวแบบปกติที่อยู่ในช่วง 3 เท่าของค่าเบี่ยงเบน 00:03:19.120 --> 00:03:20.110 มาตรฐานวัดจากค่าเฉลี่ย 00:03:20.110 --> 00:03:23.230 คือมากกว่า ค่าเฉลี่ยลบ 3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:03:23.230 --> 00:03:26.030 และน้อยกว่า ค่าเฉลี่ยบวก 3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:03:26.030 --> 00:03:27.870 นั่นคือสิ่งที่กฎเชิงประจักษ์บอกเรา 00:03:27.870 --> 00:03:30.960 ทีนี้ลองดูว่าเราจะใช้กับปัญหานี้ได้หรือไม่ 00:03:30.960 --> 00:03:33.140 เขาบอกค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมาให้เรา 00:03:33.140 --> 00:03:34.550 ขอผมวาดมันนะ 00:03:34.550 --> 00:03:38.550 ขอผมวาดแกนก่อนให้ดีที่สุด 00:03:38.550 --> 00:03:39.600 นั่นคือแกนของผม 00:03:39.600 --> 00:03:41.410 ขอผมวาดเส้นโค้งระฆัง 00:03:45.920 --> 00:03:49.090 นั่นคือเส้นโค้งระฆังที่ดีที่สุด ที่คุณคาดว่า 00:03:49.090 --> 00:03:50.920 จะได้จากคนวาดมือเปล่าแล้ว 00:03:50.920 --> 00:03:54.140 ค่าเฉลี่ยตรงนี้คือ 9 -- และนี่ควรสมมาตร 00:03:54.140 --> 00:03:55.710 ความสูงนี่ควรเท่ากับความสูงตรงนี้ 00:03:55.710 --> 00:03:57.600 ผมว่าคุณคงเข้าใจ 00:03:57.600 --> 00:03:59.260 ผมไม่ใช่คอมพิวเตอร์ 00:03:59.260 --> 00:04:02.390 9.5 คือค่าเฉลี่ย 00:04:02.390 --> 00:04:03.370 ผมจะไม่เขียนหน่วยนะ 00:04:03.370 --> 00:04:04.580 มันเป็นกิโลกรัมหมด 00:04:04.580 --> 00:04:11.330 1 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเหนือค่าเฉลี่ย เราก็บวก 1.1 เข้าไป 00:04:11.330 --> 00:04:14.220 เพราะเขาบอกเราว่าค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานคือ 1.1 00:04:14.220 --> 00:04:16.820 มันจะเป็น 10.6 00:04:16.820 --> 00:04:19.620 ถ้าเราไป -- ขอผมวาดเส้นประเล็กๆ ตรงนี้นะ -- 1 00:04:19.620 --> 00:04:25.990 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐานใต้ค่าเฉลี่ย เราก็ลบ 1.1 00:04:25.990 --> 00:04:34.110 จาก 9.5 แล้วมันจะเป็น 8.4 00:04:34.110 --> 00:04:37.620 ถ้าเราไปยัง 2 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐานเหนือค่าเฉลี่ย 00:04:37.620 --> 00:04:40.400 เราก็บวกค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานไปอีกทีตรงนี้ 00:04:40.400 --> 00:04:40.610 จริงไหม? 00:04:40.610 --> 00:04:41.890 เราไปอีก 1 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน, 2 00:04:41.890 --> 00:04:42.700 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:04:42.700 --> 00:04:44.435 นั่นพาเรามาที่ 11.7 00:04:44.435 --> 00:04:47.040 และถ้าเราไปที่ 3 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:04:47.040 --> 00:04:48.910 เราก็บวก 1.1 อีกที 00:04:48.910 --> 00:04:50.720 นั่นพาเรามาที่ 12.8 00:04:50.720 --> 00:04:53.820 ทำแบบเดียวกันอีกด้านหนึ่ง, 1 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:04:53.820 --> 00:04:55.380 ใต้ค่าเฉลี่ยคือ 8.4 00:04:55.380 --> 00:04:58.480 2 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐานใต้ค่าเฉลี่ย -- ลบ 1.1 00:04:58.480 --> 00:05:00.910 อีกที -- กลายเป็น 7.3 00:05:00.910 --> 00:05:03.380 แล้ว 3 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐานใต้ค่าเฉลี่ย -- 00:05:03.380 --> 00:05:07.280 เราก็เขียนไว้ตรงนี้ -- มันคือ 6.2 กิโลกรัม 00:05:07.280 --> 00:05:08.860 นั่นก็คือการตั้งโจทย์ตรงนี้ 00:05:08.860 --> 00:05:12.070 แล้วความน่าจะเป็นที่เราพบเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ 00:05:12.070 --> 00:05:17.730 ในอเมริกา ที่หนักน้อยกว่า 8.4 กิโลกรัม 00:05:17.730 --> 00:05:19.330 หรือบางทีผมควรใช้คำว่ามวลน้อยกว่า 00:05:19.330 --> 00:05:21.640 8.4 กิโลกรัม 00:05:21.640 --> 00:05:25.150 ถ้าเราดูตรงนี้, ความน่าจะเป็นที่จะพบเด็ก 00:05:25.150 --> 00:05:28.070 หรือเด็กผู้หญิงอายุ 1 ขวบ ที่มีมวลหรือน้ำหนัก 00:05:28.070 --> 00:05:30.920 น้อยกว่า 8.4 นั่นคือพื้นที่ 00:05:30.920 --> 00:05:31.610 ตรงนี้ 00:05:31.610 --> 00:05:35.070 ผมบอกว่า มวล เพราะกิโลกรัมคือหน่วยของมวล 00:05:35.070 --> 00:05:36.940 หลายคนใช้มันกับน้ำหนักเช่นกัน 00:05:36.940 --> 00:05:38.470 นั่นก็คือพื้นที่นั่นตรงนั้น 00:05:38.470 --> 00:05:40.950 แล้วเราจะหาพื้นที่ใต้เส้นโค้งนี้ 00:05:40.950 --> 00:05:43.900 โดยใช้กฎเชิงประจักษ์ได้อย่างไร? 00:05:43.900 --> 00:05:47.280 ทีนี้, เรารู้ว่าพื้นที่นี้คืออะไร 00:05:47.280 --> 00:05:52.370 เรารู้ว่าพื้นที่ระหว่างลบ 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:05:52.370 --> 00:05:54.500 กับบวก 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็นเท่าไหร่ 00:05:54.500 --> 00:05:55.920 เรารู้ว่ามันคือ 68% 00:05:58.430 --> 00:06:01.720 และถ้ามันคือ 68% นั่นหมายความว่า 00:06:01.720 --> 00:06:04.360 ส่วนที่ไม่ได้อยู่ตรงกลางคือ 32% 00:06:04.360 --> 00:06:07.200 เพราะพื้นทีใต้การกระจายตัวแบบปกติทั้งหมด 00:06:07.200 --> 00:06:11.380 คือ 100 หรือ 100% หรือ 1, ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณคิด 00:06:11.380 --> 00:06:14.490 เพราะคุณไม่มีทาง -- ความเป็นไปได้ทั้งหมด 00:06:14.490 --> 00:06:17.880 รวมกันได้แค่ 1 เท่านั้น 00:06:17.880 --> 00:06:21.480 คุณไม่มีทางได้มากกว่า 100% ตรงนี้ 00:06:21.480 --> 00:06:27.270 ดังนั้นถ้าคุณรวมขานี้กับขานี้ -- แล้วนี่บวกค่านั้น 00:06:27.270 --> 00:06:29.490 จะเท่ากับส่วนที่เลหือ 00:06:29.490 --> 00:06:32.590 งั้น 100 ลบ 68 นั่นคือ 32 00:06:32.590 --> 00:06:33.920 32% 00:06:33.920 --> 00:06:37.820 32% คือถ้าคุณบวกขาซ้ายนี่กับ 00:06:37.820 --> 00:06:39.240 ขาขวานี่ตรงนี้ 00:06:39.240 --> 00:06:41.120 และนี่คือการกระจายตัวแบบปกติโดยสมบูรณ์ 00:06:41.120 --> 00:06:42.535 เขาบอกเราว่ามันกระจายตัวแบบปกติ 00:06:42.535 --> 00:06:44.780 มันจะสมมาตรพอดี 00:06:44.780 --> 00:06:48.730 แล้วถ้าด้านนี่ กับด้านนั้นรวมกันได้ 32 แต่ทั้งคู่ 00:06:48.730 --> 00:06:51.820 สมมาตร, หมายความว่าพวกมันมีพื้นที่เท่ากันเป๊ะ, แล้ว 00:06:51.820 --> 00:06:56.490 ด้านนี่ตรงนี้ -- ผมจะใช้สีชมพูนะ -- ด้านนี่ตรงนี้ -- 00:06:56.490 --> 00:07:00.020 มันออกมาเป็นสีม่วงมากกว่า -- จะเป็น 16% 00:07:00.020 --> 00:07:02.700 แล้วด้านนี่ตรงนี้จะเป็น 16% 00:07:02.700 --> 00:07:05.900 ดังนั้นความน่าจะเป็นที่ได้ผลมากกว่า 1 ส่วนเบี่ยงเบน 00:07:05.900 --> 00:07:08.280 มาตรฐานเหนือค่เาฉลี่ย -- นั่นคือด้านขวามือนี่ 00:07:08.280 --> 00:07:09.760 , จะเป็น 16% 00:07:09.760 --> 00:07:13.040 หรือความน่าจะเป็นที่ได้ผลน้อยกว่า 1 ส่วนเบี่ยงเบน 00:07:13.040 --> 00:07:17.050 มาตรฐานใต้ค่าเฉลี่ย, นั่นคือตรงนี้, 16% 00:07:17.050 --> 00:07:19.060 แล้วเขาอยากรู้ความน่าจะเป็นที่ได้ 00:07:19.060 --> 00:07:23.140 เด็กอายุ 1 ปีหนักน้อยว่า 8.4 กิโลกรัม 00:07:23.140 --> 00:07:27.970 น้อยกว่า 8.4 กิโลกรัม คือพื้นที่นี่ตรงนี้ 00:07:27.970 --> 00:07:29.500 และนั่นคือ 16% 00:07:29.500 --> 00:07:33.270 มันก็คือ 16% จากข้อ a 00:07:33.270 --> 00:07:38.280 ลองดูข้อ b กัน: ระหว่าง 7.9 กับ 11.7 จุด 7 กิโลกรัม 00:07:38.280 --> 00:07:41.130 ระหว่าง 7.3 -- นั่นคือตรงนั้น 00:07:41.130 --> 00:07:47.120 มันคือ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานใต้ค่าเฉลี่ย -- และ 11.7, หนึ่ง, 00:07:47.120 --> 00:07:49.100 สองส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเหนือค่าเฉลี่ย 00:07:49.100 --> 00:07:51.260 มันก็เหมือนถามเราว่า ความน่าจะเป็นที่ได้ผล 00:07:51.260 --> 00:07:54.340 อยู่ระหว่าง 2 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐานวัดจาก 00:07:54.340 --> 00:07:55.230 ค่เาฉลี่ยเป็นเท่าไหร่, จริงไหม? 00:07:55.230 --> 00:07:57.040 นี่คือค่าเฉลี่ยตรงนี้ 00:07:57.040 --> 00:08:00.250 นี่คืออยู่ใต้ 2 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:08:00.250 --> 00:08:02.630 นี่คืออยู่เหนือ 2 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:08:02.630 --> 00:08:04.130 ทีนี้ มันก็ตรงไปตรงมา 00:08:04.130 --> 00:08:07.490 กฎเชิงประจักษ์บอกเราว่า ระหว่าง 2 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:08:07.490 --> 00:08:13.950 คุณมีโอกาส 95% ที่จะได้ผลอยู่ภายใน 00:08:13.950 --> 00:08:15.140 2 ช่วงเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:08:15.140 --> 00:08:17.740 กฎเชิงประจักษ์ให้คำตอบเราได้เลย 00:08:17.740 --> 00:08:21.440 แล้วสุดท้าย, ข้อ c: ความน่าจะเป็นที่ได้ 00:08:21.440 --> 00:08:25.510 เด็กผู้หญิงอเมริกัน 1 ขวบ หนักกว่า 12.8 กิลโลกรัม 00:08:25.510 --> 00:08:28.310 12.8 กิโลกรัม คือมากกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ 00:08:28.310 --> 00:08:29.770 3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:08:29.770 --> 00:08:34.100 เราอยากรู้ว่าความน่าจะเป็นที่จะได้ผล 00:08:34.100 --> 00:08:36.250 เหนือค่าเฉลี่ยอยู่ 3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:08:36.250 --> 00:08:42.170 นั่นก็คือพื้นที่นี่ตรงนี้ ที่ผมวาดด้วยสีส้ม 00:08:42.170 --> 00:08:44.310 บางทีผมควรใช้สีอื่น เพื่อให้มัน 00:08:44.310 --> 00:08:45.280 ต่างกันหน่อย 00:08:45.280 --> 00:08:48.575 มันเป็นหางยาวมากตรงนี้, เป็นพื้นที่เล็กๆ นี่ 00:08:48.575 --> 00:08:51.020 แล้วความน่าจะเป็นนั้นเป็นเท่าไหร่? 00:08:51.020 --> 00:08:53.420 ลองกลับมาดูที่กฎเชิงประจักษ์ของเรา 00:08:53.420 --> 00:08:56.230 เรารู้ว่า ความน่าจะเป็น -- เรารู้พื้นที่นี้ 00:08:56.230 --> 00:08:59.740 เรารู้พื้นที่ระวห่าง ลบ 3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน กับ 00:08:59.740 --> 00:09:01.960 บวก 3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:09:01.960 --> 00:09:04.090 เรารู้ค่านี้ - เนื่องจากนี่คือส่วนสุดท้าย ข้อสุดท้าย 00:09:04.090 --> 00:09:08.200 ผมสามารถระบายสีทั้งหมดนี่ได้ -- เรารู้ว่าพื้นที่นี่ตรงนี้ 00:09:08.200 --> 00:09:14.300 ระหว่างลบ 3 กับ บวก 3, นี่คือ 99.7% 00:09:14.300 --> 00:09:16.830 ผลส่วนใหญ่อยู่ตรงนี้ 00:09:16.830 --> 00:09:17.940 ผมหมายความว่า, เกือบทั้งหมดเลย 00:09:17.940 --> 00:09:20.320 แล้วเราเหลืออะไรไว้ให้หางสองอันบ้าง? 00:09:20.320 --> 00:09:21.220 จำไว้, มันมีหาง 2 อัน 00:09:21.220 --> 00:09:22.330 นี่คืออันหนึ่ง 00:09:22.330 --> 00:09:24.630 แล้วคุณได้ผลที่น้อยกว่า ค่าเฉลี่ยลบ 3 00:09:24.630 --> 00:09:25.730 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:09:25.730 --> 00:09:27.480 หางนี่ตรงนี้ 00:09:27.480 --> 00:09:32.160 นั่นบอกเราว่านี่, น้อยกว่าค่าเฉลี่ยลบ 3 00:09:32.160 --> 00:09:35.280 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และมากกว่า ค่าเฉลี่ยบวก 00:09:35.280 --> 00:09:39.150 3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน รวมกันต้องเท่ากับที่เหลือ 00:09:39.150 --> 00:09:46.530 ทีนี้ที่เหลือ, มันเหลืออยู่แค่ 0.3% 00:09:46.530 --> 00:09:48.250 แล้วสองอันนี้ต้องสมมาตร 00:09:48.250 --> 00:09:49.620 พวกมันจะต้องเท่ากัน 00:09:49.620 --> 00:09:54.880 ดังนั้นเจ้านี่ตรงนี้ ต้องเป็นครึ่งหนึ่งของอันนี้ หรือ 0.15% และ 00:09:54.880 --> 00:09:59.160 เจ้านี่ตรงนี้ต้องเป็น 0.15% 00:09:59.160 --> 00:10:03.650 ดังนั้นความน่าจะเป็นที่ได้เด็กหญิงอายุ 1 ขวบในอเมริกา 00:10:03.650 --> 00:10:07.250 ที่หนักกว่า 12.8 เปอร์เซ็นต์ ถ้าคุณสมมุติว่า 00:10:07.250 --> 00:10:10.490 การกระจายตัวแบบปกติโดยสมบูรณ์คือพื้นที่ใต้โค้งนี้ 00:10:10.490 --> 00:10:13.040 พื้นที่ใต้โค้งที่มากกว่าค่าเฉลี่ยบวก 3 ส่วน 00:10:13.040 --> 00:10:14.250 เบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:10:14.250 --> 00:10:21.760 มันคือ 0.15% 00:10:21.760 --> 00:10:24.410 เอาล่ะ, หวังว่าคุณคงได้ประโยชน์ไปนะ