WEBVTT 00:00:01.725 --> 00:00:04.642 สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับ เรื่องของการจราจรติดขัด 00:00:04.642 --> 00:00:05.996 หรือที่เรียกกันว่ารถติด 00:00:05.996 --> 00:00:08.257 รถติดเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ทั่วไป 00:00:08.257 --> 00:00:11.117 ในทุก ๆ เมืองที่อยู่ในโลกนี้ 00:00:11.117 --> 00:00:13.065 ซึ่งก็น่าแปลกใจเมื่อเรามาลองคิดดูว่า 00:00:13.065 --> 00:00:16.028 เมืองเหล่านั้นจริง ๆ แล้ว ล้วนมีความแตกต่างกัน 00:00:16.028 --> 00:00:17.790 เช่นเรามีเมืองในแถบยุโรป 00:00:17.790 --> 00:00:20.782 ที่มีความหนาแน่นสูงที่ใจกลางเมือง มีการขนส่งสาธารณะที่ดี 00:00:20.782 --> 00:00:23.237 ส่วนใหญ่ไม่ได้มีถนนมากมายอะไร 00:00:23.237 --> 00:00:25.686 ในขณะเดียวกันเราก็มีเมืองในอเมริกา 00:00:25.686 --> 00:00:28.477 ที่ใช้รถส่วนตัว โอเค 00:00:28.477 --> 00:00:31.483 แทบทุกแห่ง เมืองในแบบอเมริกัน 00:00:31.483 --> 00:00:34.411 มีถนนเต็มไปหมด กระจายไปทั่วพื้นที่กว้างขวาง 00:00:34.411 --> 00:00:35.870 เกือบจะไม่มีการขนส่งสาธาณะเลย 00:00:35.870 --> 00:00:38.080 แล้วเราก็มีเมืองต่างๆที่เกิดขึ้นใหม่ 00:00:38.080 --> 00:00:39.606 ที่มีรถยนต์หลากหลายประเภท 00:00:39.606 --> 00:00:42.148 ที่มีรูปแบบการใช้ที่ดินหลากหลาย มีการพัฒนาแบบกระจายตัว 00:00:42.148 --> 00:00:44.747 แต่ก็มักมีความหนาแน่นที่ใจกลางเมือง 00:00:44.747 --> 00:00:47.149 นักวางแผนจราจรทั่วโลกได้ทดลอง 00:00:47.149 --> 00:00:50.803 ใช้มาตรการต่างๆมากมาย ไม่ว่ากับเมืองที่หนาแน่นหรือกระจายตัว 00:00:50.803 --> 00:00:53.354 ทั้งกับเมืองที่มีถนนมาก หรือที่เน้นการขนส่งสาธารณะ 00:00:53.354 --> 00:00:56.140 เมืองที่เน้นทางจักรยาน หรือที่เน้นการให้ข้อมูลข่าวสาร 00:00:56.140 --> 00:00:59.934 เมืองที่มีความแตกต่างกันมากหลาย ๆ อย่าง แต่มาตรการทั้งหมดนี้ไม่ได้ผลเลย NOTE Paragraph 00:00:59.934 --> 00:01:02.937 แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน 00:01:02.937 --> 00:01:05.288 ก็คือความพยายามที่จะตอบคำถามที่ว่า 00:01:05.288 --> 00:01:08.615 คนเราต้องทำอะไรแทนที่ จะขับรถในชั่วโมงเร่งด่วน 00:01:08.615 --> 00:01:11.727 มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการวางแผน 00:01:11.727 --> 00:01:14.929 ว่าคนอื่นๆควรทำอะไร วางแผนชีวิตให้พวกเขา NOTE Paragraph 00:01:14.929 --> 00:01:17.381 แต่การวางแผนระบบสังคมที่ซับซ้อน 00:01:17.381 --> 00:01:20.456 มันเป็นเรื่องยากที่จะทำ ให้ผมเล่าเรื่องให้คุณฟังสักเรื่องหนึ่ง 00:01:20.456 --> 00:01:23.183 ย้อนหลังไปในปี ค.ศ.1989 ปีที่กำแพงเบอร์ลินล่มสลาย 00:01:23.183 --> 00:01:25.805 นักวางแผนการพัฒนาเมือง ในลอนดอนได้รับโทรศัพท์ 00:01:25.805 --> 00:01:28.355 จากเพื่อนร่วมงานในมอสโคว์ว่า 00:01:28.355 --> 00:01:30.873 " ฮัลโหล นี่ วลาดิเมียร์พูดนะ ผมอยากรู้จังเลยว่า 00:01:30.873 --> 00:01:33.895 ใครที่ดูแลเรื่องการจัดส่ง ขนมปังในลอนดอนเหรอ " NOTE Paragraph 00:01:33.895 --> 00:01:35.548 จากนั้นนักพัฒนาเมืองก็ตอบว่า 00:01:35.548 --> 00:01:37.518 " คุณพูดว่าอะไรนะ ใครที่ดูแล ... 00:01:37.518 --> 00:01:38.789 ผมหมายความว่า ไม่มีหรอก " 00:01:38.789 --> 00:01:40.671 " โอ้ว แต่ต้องมีใครบางคนดูเรื่องนี้อยู่สิ 00:01:40.671 --> 00:01:44.327 ผมหมายถึง มันเป็นระบบที่ซับซ้อนมากเลย ใครบางคนต้องควบคุมมันอยู่แน่ ๆ เลย" NOTE Paragraph 00:01:44.327 --> 00:01:47.433 " ไม่ ไม่มีหรอก ไม่มีหรอก 00:01:47.433 --> 00:01:50.034 ผมหมายถึง โดยทั่วไปแล้ว ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ 00:01:50.034 --> 00:01:52.623 โดยทั่วไปแล้วมันจัดการของมันเอง " NOTE Paragraph 00:01:52.623 --> 00:01:55.200 มันจัดการของมันเอง 00:01:55.200 --> 00:01:58.043 นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของ ระบบทางสังคมที่ซับซ้อน 00:01:58.043 --> 00:02:00.771 ที่สามารถจะจัดการด้วยตัวเองได้ 00:02:00.771 --> 00:02:03.359 และนี่เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง 00:02:03.359 --> 00:02:06.672 เมื่อคุณพยายาม ที่จะแก้ปัญหาสังคมที่ซับซ้อน 00:02:06.672 --> 00:02:08.388 สิ่งที่เราต้องทำส่วนใหญ่ก็คือ 00:02:08.388 --> 00:02:09.979 การสร้างแรงจูงใจ 00:02:09.979 --> 00:02:11.923 คุณไม่ต้องวางแผน ในรายละเอียดปลีกย่อย 00:02:11.923 --> 00:02:14.543 แต่ผู้คนก็จะค้นหาเองว่า พวกเค้าต้องทำอะไรบ้าง 00:02:14.543 --> 00:02:16.403 จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่อย่างไร NOTE Paragraph 00:02:16.403 --> 00:02:19.894 และคราวนี้เรามาลองดูว่าเราจะใช้ความรู้นี้ 00:02:19.894 --> 00:02:21.530 เพื่อต่อกรกับปัญหารถติดได้อย่างไร NOTE Paragraph 00:02:21.530 --> 00:02:23.762 นี่คือแผนที่ของสตอกโฮล์ม บ้านเกิดของผมเอง 00:02:23.762 --> 00:02:27.403 ปัจจุบัน สตอกโฮล์มเป็นเมืองขนาดกลาง ที่มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน 00:02:27.403 --> 00:02:30.192 แต่สตอกโฮล์มมีพื้นที่ที่เป็นน้ำเต็มไปหมด 00:02:30.192 --> 00:02:33.469 นั่นหมายถึงต้องมีสะพานเยอะเลย สะพานแคบ ๆ สะพานเก่า ๆ เต็มไปหมด 00:02:33.469 --> 00:02:36.504 และนั่นหมายถึงรถติด 00:02:36.504 --> 00:02:40.144 จุดสีแดงเหล่านี้แสดงถึงบริเวณ ที่รถติดมากที่สุดของเมือง 00:02:40.144 --> 00:02:42.721 นั่นก็คือสะพานที่เชื่อมเข้าสู่ใจกลางเมือง 00:02:42.721 --> 00:02:45.247 จากนั้นมีบางคนปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า 00:02:45.247 --> 00:02:47.084 นอกจากการมีขนส่งสาธารณะที่ดีแล้ว 00:02:47.084 --> 00:02:49.685 นอกจากการใช้เงินไปกับการสร้างถนนหนทาง 00:02:49.685 --> 00:02:53.900 เรามาลองเก็บเงินสัก 1 หรือ 2 ยูโร กับคนที่ขับรถผ่านสะพานเหล่านี้ NOTE Paragraph 00:02:53.900 --> 00:02:56.824 1 หรือ 2 ยูโร จริง ๆ ไม่ใช่เงินมากมายอะไร 00:02:56.824 --> 00:02:59.481 เมื่อเทียบกับค่าจอดรถและค่าน้ำมันรถ ฯลฯ 00:02:59.481 --> 00:03:02.199 คุณอาจจะคิดไปว่าคนขับรถเหล่านั้น 00:03:02.199 --> 00:03:04.637 อาจไม่มีปฏิกิริยาอะไร กับการเก็บเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ 00:03:04.637 --> 00:03:05.937 คุณอาจจะคิดผิด 00:03:05.937 --> 00:03:09.965 1 หรือ 2 ยูโร นั้นเพียงพอที่จะทำให้รถ 20% 00:03:09.965 --> 00:03:12.349 หายไปจากท้องถนนในชั่วโมงเร่งด่วน 00:03:12.349 --> 00:03:15.900 20% ใช่ มันค่อนข้างเป็นตัวเลข ที่สูงเลยล่ะ คุณอาจคิดอย่างนั้น 00:03:15.900 --> 00:03:18.107 แต่ก็ยังเหลือปัญหาอีกตั้ง 80% ใช่หรือเปล่า 00:03:18.107 --> 00:03:19.976 เพราะว่าคุณยังมีรถบนถนนอีกตั้ง 80% 00:03:19.976 --> 00:03:23.243 นันก็ผิดอีกเหมือนกัน เพราะว่าเรื่องการจราจรนั้น 00:03:23.243 --> 00:03:25.935 เป็นปรากฏการณ์แบบไม่เชิงเส้น หมายความว่า 00:03:25.935 --> 00:03:29.076 เมื่อปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นจนไปถึงระดับหนึ่ง 00:03:29.076 --> 00:03:32.244 รถจะเริ่มติดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก 00:03:32.244 --> 00:03:34.704 แต่โชคดีที่มันก็เป็นเช่นเดียวกัน ในทิศทางตรงกันข้าม 00:03:34.704 --> 00:03:38.035 ถ้าคุณลดปริมาณจราจรลงระดับหนึ่ง เรื่องรถติด 00:03:38.035 --> 00:03:41.664 ก็จะลดลงอย่างรวดเร็วมาก มากกว่าที่คุณจะคิดเสียอีก 00:03:41.664 --> 00:03:44.555 การเก็บเงินค่าปรับทำให้จราจรติดขัด ได้ถูกนำมาใช้กับสตอกโฮล์ม 00:03:44.555 --> 00:03:49.159 เมื่อวันที่ 3 มกราคม ค.ศ.2006 และรูปแรกก็คือรูป 00:03:49.159 --> 00:03:53.142 ของเมืองสตอกโฮล์ม บนถนนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 มกราคม 00:03:53.142 --> 00:03:56.955 ณ วันแรกที่ค่าปรับถูกนำมาใช้ มันมีสภาพเป็นเช่นนี้ครับ 00:03:56.955 --> 00:03:59.875 นี่คือผลของการเอารถ 00:03:59.875 --> 00:04:01.940 20% ออกจากท้องถนน 00:04:01.940 --> 00:04:04.650 คุณทำให้รถติดน้อยลงได้อย่างมาก NOTE Paragraph 00:04:04.650 --> 00:04:08.308 แต่ เหมือนที่ผมเคยบอกว่า คนขับรถปรับตัวใช่ไหมครับ 00:04:08.308 --> 00:04:10.810 หลังจากนั้นพวกเขาจะกลับมาเพราะว่า 00:04:10.810 --> 00:04:12.758 พวกเขาคงจะชินแล้วกับการถูกปรับ 00:04:12.758 --> 00:04:16.434 ผิดอีกแล้วครับ ตอนนี้ผ่านไป 6 ปีครึ่งแล้ว 00:04:16.434 --> 00:04:18.417 ตั้งแต่ค่าปรับถูกนำมาใช้ในสตอกโฮล์ม 00:04:18.417 --> 00:04:22.406 เรายังมีปริมาณการจราจรที่ต่ำ เท่า ๆ กับตอนเริ่มแรก NOTE Paragraph 00:04:22.406 --> 00:04:24.677 แต่คุณจะเห็นว่า มันมีช่องว่างที่น่าสนใจ 00:04:24.677 --> 00:04:26.140 ในปี ค.ศ. 2007 00:04:26.140 --> 00:04:28.529 ก็คือ เรื่องค่าปรับ 00:04:28.529 --> 00:04:31.625 ที่ถูกเริ่มทดลองนำมาใช้นั้น ดังนั้นจึงเริ่มนำมาใช้ 00:04:31.625 --> 00:04:35.594 ในเดือนมกราคม และถูกยกเลิก ตอนสิ้นเดือนกรกฎาคม 00:04:35.594 --> 00:04:38.188 แต่ด้วยเสียงเรียกร้องของประชาชน ค่าปรับถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง 00:04:38.188 --> 00:04:42.388 ในปี ค.ศ. 2007 นี่เป็นโอกาสที่สุดยอด ในทางวิทยาศาสตร์จริงๆ 00:04:42.388 --> 00:04:46.525 มันเป็นการทดลองที่น่าสนุกในตอนเริ่มต้น 00:04:46.525 --> 00:04:48.306 และจริงๆแล้วเราได้ทำมันถึง 2 ครั้ง 00:04:48.306 --> 00:04:50.415 ส่วนตัวแล้ว ผมอยากจะทำมันทุก ๆ ปีเลยทีเดียว 00:04:50.415 --> 00:04:51.903 แต่พวกเขาไม่ยอมให้ผมทำอย่างนั้น 00:04:51.903 --> 00:04:54.088 อย่างไรก็ตามมันก็ยังน่าสนุก NOTE Paragraph 00:04:54.088 --> 00:04:57.473 แล้วเราก็ติดตามผล เกิดอะไรขึ้นหรือครับ 00:04:57.473 --> 00:05:01.339 นี่คือวันสุดท้ายของช่วงทดลองค่าปรับ ในวันที่ 31 กรกฎาคม 00:05:01.339 --> 00:05:03.117 ที่คุณเห็นเป็นถนนเดียวกัน แต่ตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อน 00:05:03.117 --> 00:05:04.861 และหน้าร้อนในสตอกโฮล์ม เป็นช่วงเวลาที่เยี่ยมมาก 00:05:04.861 --> 00:05:07.111 เป็นช่วงสบาย ๆ ของปี 00:05:07.111 --> 00:05:09.954 และวันแรกหลังจากยกเลิกค่าปรับ 00:05:09.954 --> 00:05:11.321 มีสภาพเป็นแบบนี้ 00:05:11.321 --> 00:05:13.984 รถทั่งหมดกลับมาอีกครั้ง และคุณต้องชื่นชม 00:05:13.984 --> 00:05:16.894 คนใช้รถยนต์ พวกเขาปรับตัวได้รวดเร็วสุด ๆ 00:05:16.894 --> 00:05:19.141 ตั้งแต่ในวันแรกที่พวกเขากลับมา 00:05:19.141 --> 00:05:24.491 และผลกระทบนี้ยังคงต่อเนื่องต่อไป ตัวเลขในปี ค.ศ.2007 เลยเป็นเช่นนี้ NOTE Paragraph 00:05:24.491 --> 00:05:26.822 ตัวเลขปริมาณจราจรเหล่านี้ น่าตื่นเต้นจริง ๆ ครับ 00:05:26.822 --> 00:05:29.473 และมันก็น่าจะหลาดใจเล็กน้อยและ เป็นประโยชน์ที่จะได้รู้ 00:05:29.473 --> 00:05:32.232 แต่ผมจะบอกว่าภาพที่น่าสนใจที่สุด 00:05:32.232 --> 00:05:36.262 ที่ผมกำลังจะให้คุณดูวันนี้นั้นไม่ใช่อันนี้ แต่เป็นอันนี้ 00:05:36.262 --> 00:05:39.593 ภาพนี้แสดงคะแนนเสียงสนับสนุนต่อ มาตรการค่าปรับจราจรติดขัดในสตอกโฮล์ม 00:05:39.593 --> 00:05:42.262 และคุณจะเห็นว่าเมื่อมาตรการได้ถูกนำมาใช้ 00:05:42.262 --> 00:05:46.579 เมื่อตอนต้นของฤดูใบไม้ผลิในปี ค.ศ.2006 ผู้คนต่อต้านอย่างรุนแรง 00:05:46.579 --> 00:05:49.607 70% ของประชากร ไม่ต้องการมาตรการนี้ 00:05:49.607 --> 00:05:51.255 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น 00:05:51.255 --> 00:05:54.716 ไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดคิด ที่ผู้คนจะยิ่งต่อต้านมากขึ้น 00:05:54.716 --> 00:05:57.869 ไม่ใช่ครับ มันเป็นไปในทางตรงกันข้าม พวกเขาเปลี่ยนใจ ถึงขนาดที่ว่า 00:05:57.869 --> 00:06:01.570 ตอนนี้เรามีเสียงสนับสนุนถึง 70% ให้คงมาตรการนี้ไว้ 00:06:01.570 --> 00:06:03.411 นั่นหมายถึง ให้ผมย้ำอีกทีว่า: 00:06:03.411 --> 00:06:06.218 70% ของประชากรในสตอกโฮล์ม 00:06:06.218 --> 00:06:10.211 ต้องการให้ตั้งราคากับบางสิ่ง ทั้งที่มันเคยเป็นของฟรีมาก่อน NOTE Paragraph 00:06:10.211 --> 00:06:13.837 โอเค ทำไมมันเป็นอย่างนั้นไปได้ล่ะ มันเป็นไปได้อย่างไร 00:06:13.837 --> 00:06:16.837 คิดอีกที ใครล่ะที่เปลี่ยน 00:06:16.837 --> 00:06:19.463 ผมหมายถึง 20% ของผู้ใช้รถที่หายไป 00:06:19.463 --> 00:06:21.408 แน่นอนว่าพวกเขาต้องไม่พอใจแน่ ๆ 00:06:21.408 --> 00:06:23.742 แล้วพวกเขาไปไหนกันล่ะ ? ถ้าเราเข้าใจสิ่งนี้ได้ 00:06:23.742 --> 00:06:27.872 บางทีเราอาจจะรู้ได้ว่าทำไมผู้คนถึงรู้สึก ยินดีกับเรื่องนี้ 00:06:27.872 --> 00:06:30.274 เราได้ทำการสำรวจขนานใหญ่ โดยใช้การสัมภาษณ์ 00:06:30.274 --> 00:06:32.109 และพยายามที่จะค้นหาว่า 00:06:32.109 --> 00:06:33.864 ใครที่เปลี่ยนและพวกเขาไปไหน 00:06:33.864 --> 00:06:38.278 และมันกลายเป็นว่าพวกเขาไม่รู้สึกตัว (เสียงหัวเราะ) 00:06:38.278 --> 00:06:43.126 ด้วยเหตุผลบางอย่าง คนขับรถ 00:06:43.126 --> 00:06:46.622 พวกเขามั่นใจว่า พวกเขาขับขี่ในเส้นทาง ที่พวกเขาเคยทำ 00:06:46.622 --> 00:06:48.878 และทำไมเป็นอย่างนั้น เพราะรูปแบบการเดินทางนั้น 00:06:48.878 --> 00:06:51.277 มีความไม่ผันแปรน้อยกว่าที่คุณคาดคิด 00:06:51.277 --> 00:06:54.108 ในแต่ละวันผู้คนตัดสินใจในสิ่งใหม่ ๆ พวกเขาเปลี่ยนแปลงเสมอ 00:06:54.108 --> 00:06:56.533 และโลกก็เปลี่ยนแปลงรอบ ๆ ตัวพวกเขา และแต่ละวัน 00:06:56.533 --> 00:06:59.786 การตัดสินใจเหล่านี้ก็เหมือนการถูกสะกิดเบาๆ 00:06:59.786 --> 00:07:01.753 ให้ขยับออกไปจากการขับรถในชั่วโมงเร่งด่วน 00:07:01.753 --> 00:07:04.337 ในแบบที่ผู้คนไม่ได้สังเกตแม้แต่น้อย 00:07:04.337 --> 00:07:06.382 พวกเขาไม่รู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำ NOTE Paragraph 00:07:06.382 --> 00:07:09.183 อีกคำถามหนึ่งก็คือ ใครเล่าที่เปลี่ยนใจ 00:07:09.183 --> 00:07:11.149 ใครละที่เปลี่ยนทัศนคติ และทำไมเป็นเช่นนั้น 00:07:11.149 --> 00:07:13.675 ดังนั้นเราจึงทำการสำรวจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะหาคำตอบ 00:07:13.675 --> 00:07:18.051 ว่าทำไมผู้คนถึงเปลี่ยนใจ และกลุ่มไหนที่เปลี่ยนใจ 00:07:18.051 --> 00:07:20.944 หลังจากการวิเคราะห์คำตอบเหล่านั้น เราพบว่า 00:07:20.944 --> 00:07:24.829 เกินครึ่งหนึ่งเชื่อว่าพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนใจ 00:07:24.829 --> 00:07:27.116 พวกเขามั่นใจจริง ๆ ว่า พวกเขา 00:07:27.116 --> 00:07:29.805 ชื่นชมมาตรการค่าปรับรถติดมาตลอด 00:07:29.805 --> 00:07:31.524 นั่นคือเรากำลังอยู่กับสถานการณ์ที่ 00:07:31.524 --> 00:07:34.517 เราได้ลดปริมาณจราจรที่ข้ามแนวเขตเมือง 00:07:34.517 --> 00:07:37.728 ได้ 20% และลดปัญหารถติดได้อย่างมากมาย 00:07:37.728 --> 00:07:41.275 และผู้คนไม่รู้สึกตัวเลย ว่าพวกเขาได้เปลี่ยนพฤติกรรม 00:07:41.275 --> 00:07:45.186 และพวกเขาเชื่อจริงๆว่า พวกเขาชื่นชอบมาตรการนี้มาโดยตลอด NOTE Paragraph 00:07:45.186 --> 00:07:48.660 นี่คือพลังของการสะกิดเบา ๆ เวลาที่เราพยายาม 00:07:48.660 --> 00:07:51.292 แก้ปัญหาสังคมที่ซับซ้อน และเมื่อคุณทำอย่างนั้น 00:07:51.292 --> 00:07:54.922 คุณไม่ต้องพยายามที่จะบอกผู้คนว่า พวกเขาจะต้องปรับตัวอย่างไร 00:07:54.922 --> 00:07:57.109 คุณแค่ต้องสะกิดพวกเขาเบา ๆ ไปในทิศทางที่ถูกต้อง 00:07:57.109 --> 00:07:58.831 และถ้าคุณทำมันได้อย่างถูกต้อง 00:07:58.831 --> 00:08:00.883 พวกเขาจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้น NOTE Paragraph 00:08:00.883 --> 00:08:03.945 และถ้าคุณทำมันได้อย่างถูกต้อง ผู้คนจะชื่นชอบมันในที่สุด 00:08:03.945 --> 00:08:07.270 ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)