1 00:00:00,446 --> 00:00:02,071 ผมเป็นนักประสาทวิทยา 2 00:00:02,071 --> 00:00:05,882 ที่มีพื้นฐานความรู้ทางด้านฟิสิกส์และการแพทย์ 3 00:00:05,882 --> 00:00:10,923 ห้องทดลองของผมที่สถาบันเทคโนโลยีสวิส ซูริค (the Swiss Federal Institute of Technology) 4 00:00:10,923 --> 00:00:14,113 เน้นศึกษาเรื่องอาการบาดเจ็บของไขสันหลัง 5 00:00:14,113 --> 00:00:16,844 ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนมากกว่า 50,000 คน 6 00:00:16,844 --> 00:00:19,534 ทั่วโลก ทุกๆปี 7 00:00:19,534 --> 00:00:23,140 ด้วยผลที่ตามมาอันไม่น่าเชื่อต่อผู้ป่วย 8 00:00:23,140 --> 00:00:25,373 ซึ่งชีวิตของพวกเขานั้น พังทลาย 9 00:00:25,373 --> 00:00:28,608 ไปในเพียงเศษเสี้ยวของวินาที 10 00:00:28,608 --> 00:00:31,666 และสำหรับผมแล้ว มนุษย์เหล็ก 11 00:00:31,666 --> 00:00:33,870 คริสโตเฟอร์ รีฟ (Christopher Reeve) 12 00:00:33,870 --> 00:00:35,960 เป็นผู้ที่สร้างกระแสความตื่นตัวได้ดีที่สุด 13 00:00:35,960 --> 00:00:38,875 ในเรื่องความเจ็บปวดของผู้ที่ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ 14 00:00:38,875 --> 00:00:42,014 และนี่ก็เป็นการเริ่มต้นการเดินทางของผม 15 00:00:42,014 --> 00:00:43,513 ในสายงานวิจัย 16 00:00:43,513 --> 00:00:46,950 ผมทำงานกับมูลนิธิคริสโตเฟอร์ แอนด์ ดานา รีฟ (the Christopher and Dana Reeve Foundation) 17 00:00:46,950 --> 00:00:51,546 ผมยังจำได้ถึงวินาทีอันเด็ดเดี่ยว 18 00:00:51,546 --> 00:00:53,497 มันเป็นเพียงแค่เย็นวันทำงานวันหนึ่ง 19 00:00:53,497 --> 00:00:55,040 ที่มูลนิธิ 20 00:00:55,040 --> 00:00:59,692 คริสกล่าวกับพวกเรา บรรดานักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญว่า 21 00:00:59,692 --> 00:01:03,285 "คุณจะต้องเน้นการปฎิบัติให้มากกว่านี้ 22 00:01:03,285 --> 00:01:05,637 เมื่อออกจากห้องทดลองไปในวันพรุ่งนี้ 23 00:01:05,637 --> 00:01:08,541 ผมอยากให้คุณแวะที่ศูนย์กายภาพบำบัด 24 00:01:08,541 --> 00:01:10,150 เพื่อที่จะดูคนที่ได้รับบาดเจ็บ 25 00:01:10,150 --> 00:01:12,175 ต่อสู้ที่จะก้าวเดิน 26 00:01:12,175 --> 00:01:14,816 พยายามทรงตัวอย่างทุลักทุเล 27 00:01:14,816 --> 00:01:16,229 และเมื่อคุณกลับบ้าน 28 00:01:16,229 --> 00:01:18,639 ลองคิดดูว่าคุณจะทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงอะไรในงานวิจัย 29 00:01:18,639 --> 00:01:22,207 ในวันถัดไป เพื่อที่จะทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้น" 30 00:01:22,207 --> 00:01:26,260 คำเหล่านี้ ทิ่มแทงใจผม 31 00:01:26,260 --> 00:01:28,651 มันก็กว่าสิบปีมาแล้ว 32 00:01:28,651 --> 00:01:31,418 นับตั้งแต่นั้น ห้องทดลองของผม 33 00:01:31,418 --> 00:01:33,381 ก็ใช้แนวทางที่เน้นปฏิบัติ เพื่อการฟื้นฟู 34 00:01:33,381 --> 00:01:35,792 หลังจากที่ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ 35 00:01:35,792 --> 00:01:37,833 และก้าวแรกของผมในทิศทางนี้ 36 00:01:37,833 --> 00:01:41,122 ก็คือการพัฒนาแบบจำลองใหม่ สำหรับอาการไขสันหลังบาดเจ็บ 37 00:01:41,122 --> 00:01:44,769 ที่จะเลียนแบบอาการบาดเจ็บหลักๆในมนุษย์ ได้ใกล้เคียงมากขึ้น 38 00:01:44,769 --> 00:01:48,141 และยังจะทำให้ควบคุมปัจจัยต่างๆ ในการทดลองได้ดีขึ้นด้วย 39 00:01:48,141 --> 00:01:50,708 ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงเฉือนไขสันหลังสองแห่ง 40 00:01:50,708 --> 00:01:52,123 โดยให้รอยเฉือนอยู่ตรงข้ามกัน 41 00:01:52,123 --> 00:01:54,268 มันทำให้การสื่อสารระหว่างสมองและไขสันหลัง 42 00:01:54,268 --> 00:01:56,850 ถูกตัดขาดจากกันโดยสิ้นเชิง 43 00:01:56,850 --> 00:01:59,560 นี่เองที่นำไปสู่การเป็นอัมพาตของช่วงขา 44 00:01:59,560 --> 00:02:01,327 อย่างสมบูรณ์และถาวร 45 00:02:01,327 --> 00:02:05,218 แต่หลังจากที่เราได้สำรวจหลังจากที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ ได้รับบาดเจ็บ 46 00:02:05,218 --> 00:02:08,168 มันมีช่องว่างระหว่างเนื้อเยื่อประสาทที่อยู่ชิดกัน 47 00:02:08,168 --> 00:02:10,871 ซึ่งมันสามารถฟื้นฟูได้ 48 00:02:10,871 --> 00:02:13,912 แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ 49 00:02:13,912 --> 00:02:17,273 ในวิธีการสุดคลาสสิก 50 00:02:17,273 --> 00:02:19,909 เต็มไปด้วยขั้นตอนการปรับเปลี่ยน 51 00:02:19,909 --> 00:02:22,819 ที่อาจส่งเสริมให้เกิดการเจริญของเส้นใยที่ได้รับบาดเจ็บ 52 00:02:22,819 --> 00:02:24,927 ให้กลับสู่สภาพเดิม 53 00:02:24,927 --> 00:02:28,678 และในขณะที่วิธีนี้เป็นวิธีหลักที่ รักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างแน่นอน 54 00:02:28,678 --> 00:02:32,193 แต่สำหรับผมแล้วมันดูยุ่งวุ่นวายเป็นที่สุด 55 00:02:32,193 --> 00:02:34,918 เพื่อที่จะเห็นผลทางการรักษาโดยเร็ว 56 00:02:34,918 --> 00:02:36,478 มันชัดเจนว่า 57 00:02:36,478 --> 00:02:40,398 ผมจะต้องคิดถึงปัญหานั้นในแบบที่ต่างออกไป 58 00:02:40,398 --> 00:02:43,506 ปราฏว่า กว่า 100 ปีของการวิจัย 59 00:02:43,506 --> 00:02:45,147 เกี่ยวกับสรีรวิทยาของไขสันหลัง 60 00:02:45,147 --> 00:02:47,472 เริ่มโดยนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล เชอร์ริงตัน (Sherrington) 61 00:02:47,472 --> 00:02:49,279 ได้แสดงให้เห็นว่า 62 00:02:49,279 --> 00:02:51,514 ไขสันหลัง ที่อยู่ใต้ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ 63 00:02:51,514 --> 00:02:54,767 มีระบบประสาทที่จำเป็นและมีประสิทธิภาพทั้งหมด 64 00:02:54,767 --> 00:02:57,087 ที่จะทำการประสานการเคลื่อนไหว 65 00:02:57,087 --> 00:03:00,046 แต่เพราะว่าการรับสัญญาณจากสมองนั้นถูกรบกวน 66 00:03:00,046 --> 00:03:03,214 พวกมันอยู่ในสถานะที่ไม่ทำงาน เหมือนกับภาวะพักตัว 67 00:03:03,214 --> 00:03:07,546 ความคิดของผมคือ เราต้องปลุกระบบเครือข่ายนี้ 68 00:03:07,546 --> 00:03:11,833 และในเวลานั้น ผมเป็นนักวิจัยหลังปริญญาเอก ในลอส แองเจลิส 69 00:03:11,833 --> 00:03:14,399 หลังจากที่ผมจบปริญญาเอกในประเทศฝรั่งเศส 70 00:03:14,399 --> 00:03:16,308 ที่ซึ่งการคิดอย่างอิสระนั้น 71 00:03:16,308 --> 00:03:19,415 ไม่ได้รับการสนับสนุนเสมอไป 72 00:03:19,415 --> 00:03:21,242 (เสียงหัวเราะ) 73 00:03:21,242 --> 00:03:24,995 ผมกลัวที่จะพูดกับเจ้านายใหม่ของผม 74 00:03:24,995 --> 00:03:27,388 แต่ตัดสินใจที่จะรวบรวมความกล้า 75 00:03:27,388 --> 00:03:30,045 ผมเคาะประตูอาจารย์ที่ปรึกษาที่แสนดี 76 00:03:30,045 --> 00:03:34,036 เรจจี้ เอ็ดเกอร์ตัน (Reggie Edgerton) เพื่อที่จะแบ่งปันความคิด 77 00:03:34,036 --> 00:03:36,286 เขาฟังผมอย่างสุขุม 78 00:03:36,286 --> 00:03:39,227 และตอบผมด้วยรอยยิ้ม 79 00:03:39,227 --> 00:03:41,270 "ทำไมไม่ลองดูล่ะ" 80 00:03:41,270 --> 00:03:43,395 และผมสาบานได้เลยว่า 81 00:03:43,395 --> 00:03:46,750 นี่ช่างเป็นวินาทีที่สำคัญยิ่งในวิชาชีพของผม 82 00:03:46,750 --> 00:03:49,185 เมื่อผมได้รู้ว่า ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ 83 00:03:49,185 --> 00:03:52,178 เชื่อในคนรุ่นเยาว์และความคิดใหม่ๆ 84 00:03:52,178 --> 00:03:53,786 และนี่ก็คือความคิดนั้น: 85 00:03:53,786 --> 00:03:56,452 ผมกำลังที่จะใช้การเปรียบเทียบแบบง่ายๆ 86 00:03:56,452 --> 00:03:58,578 เพื่อที่จะอธิบายแนวคิดซับซ้อนนี้ให้คุณฟัง 87 00:03:58,578 --> 00:04:03,344 ลองจินตนาการถึงระบบการเคลื่อนไหวว่าเป็นรถ 88 00:04:03,344 --> 00:04:05,590 เครื่องยนต์นั้นคือไขสันหลัง 89 00:04:05,590 --> 00:04:08,848 ระบบส่งกำลังขัดข้อง เครื่องยนต์จึงดับ 90 00:04:08,848 --> 00:04:11,855 แล้วเราจะทำให้เครื่องยนต์เริ่มทำงานใหม่ได้อย่างไร 91 00:04:11,855 --> 00:04:14,997 ก่อนอื่น เราต้องให้เชื้อเพลิง 92 00:04:14,997 --> 00:04:17,340 อย่างที่สอง เหยียบคันเร่ง 93 00:04:17,340 --> 00:04:19,278 และสาม บังคับรถ 94 00:04:19,278 --> 00:04:21,040 มันกลายเป็นว่า มันมีระบบเส้นประสาทที่เชื่อมจากสมอง 95 00:04:21,040 --> 00:04:23,994 ซึ่งเรารู้จักมันดี ว่ามันทำหน้าที่นี้ 96 00:04:23,994 --> 00:04:25,376 ระหว่างการเคลื่อนไหว 97 00:04:25,376 --> 00:04:28,091 ความคิดของผมคือ ป้อนสัญญาณเทียม 98 00:04:28,091 --> 00:04:29,493 ให้กับไขสันหลัง 99 00:04:29,493 --> 00:04:30,889 เพื่อแทนที่สัญญาณป้อนเข้าปกติ ที่หายไป 100 00:04:30,889 --> 00:04:35,619 ให้เสมือนว่าสมองนั้นสั่งให้มีการเดินตามปกติ 101 00:04:35,619 --> 00:04:40,058 ด้วยเหตุนี้ ผมฟัดเหวี่ยงกับงานวิจัยทางประสาทวิทยานี้ มาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา 102 00:04:40,058 --> 00:04:42,822 ตอนแรกก็เพื่อที่จะแทนที่เชื้อเพลิงที่หายไป 103 00:04:42,822 --> 00:04:44,890 ด้วยสารจำพวกยา 104 00:04:44,890 --> 00:04:48,370 ที่ตระเตรียมให้เส้นประสาทในไขสันหลังยิงสัญญาณ 105 00:04:48,370 --> 00:04:52,425 และอย่างที่สอง เพื่อที่จะเลียนแบบคันเร่ง 106 00:04:52,425 --> 00:04:53,905 ด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า 107 00:04:53,905 --> 00:04:56,074 ลองคิดถึงขั้วไฟฟ้า 108 00:04:56,074 --> 00:04:58,480 ฝังลงบนหลังของไขสันหลัง 109 00:04:58,480 --> 00:05:00,742 เพื่อที่จะส่งการกระตุ้นที่ไม่เจ็บปวด 110 00:05:00,742 --> 00:05:03,574 มันใช้เวลาหลายปี แต่ในที่สุดเราได้พัฒนา 111 00:05:03,574 --> 00:05:06,131 เส้นประสาทเทียมชนิดเคมีไฟฟ้า (electrochemical neuroprosthesis) 112 00:05:06,131 --> 00:05:07,897 ที่สามารถเปลี่ยนสัญญาณประสาท 113 00:05:07,897 --> 00:05:12,903 ในไขสันหลังจากภาวะพักตัว ให้ไปอยู่ในภาวะที่ทำงานได้ 114 00:05:12,903 --> 00:05:19,183 ทันใดนั้นเอง หนูที่เป็นอัมพาตก็ยืนได้ 115 00:05:19,183 --> 00:05:21,510 ทันทีที่สายพานเริ่มเคลื่อน 116 00:05:21,510 --> 00:05:25,316 สัตว์ทดลองก็แสดงให้เห็นถึง การเคลื่อนไหวของขาที่สัมพันธ์กัน 117 00:05:25,316 --> 00:05:27,294 โดยปราศจากสมอง 118 00:05:27,294 --> 00:05:29,284 นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า "สมองสันหลัง" 119 00:05:29,284 --> 00:05:32,406 ทำการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการรับรู้ 120 00:05:32,406 --> 00:05:34,301 ขึ้นมาจากขาที่เคลื่อนไหว 121 00:05:34,301 --> 00:05:37,996 และทำการตัดสินใจว่าจะให้กล้ามเนื้อทำงานอย่างไร 122 00:05:37,996 --> 00:05:41,386 เพื่อที่จะยืน เดิน และวิ่ง 123 00:05:41,386 --> 00:05:43,498 และแม้แต่นี่ ในขณะที่มันกำลังวิ่งอยู่ 124 00:05:43,498 --> 00:05:45,795 สามารถที่จะหยุดยืนได้ 125 00:05:45,795 --> 00:05:48,258 เมื่อสายพานหยุดเคลื่อนที่ 126 00:05:48,258 --> 00:05:49,595 นี่มันช่างน่าอัศจรรย์ 127 00:05:49,595 --> 00:05:52,982 ผมหลงใหลการเคลื่อนไหว โดยปราศจากการใช้สมองนี้ 128 00:05:52,982 --> 00:05:55,477 เข้าเสียเต็มประตู 129 00:05:55,477 --> 00:05:59,132 แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็น่าหงุดหงิด 130 00:05:59,132 --> 00:06:01,525 การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้น นอกเหนืออำนาจจิตใจอย่างสิ้นเชิง 131 00:06:01,525 --> 00:06:04,890 สัตว์ทดลองไม่มีอำนาจควบคุมขาของมันเลย 132 00:06:04,890 --> 00:06:09,010 เป็นที่ชัดเจนว่า การระบบบังคับนั้นยังหายไป 133 00:06:09,010 --> 00:06:10,902 และต่อมามันก็ชัดเจนสำหรับผม 134 00:06:10,902 --> 00:06:12,250 ว่าเราจะต้องละทิ้ง 135 00:06:12,250 --> 00:06:15,622 แบบจำลองการฟื้นฟูในแบบเดิมๆ 136 00:06:15,622 --> 00:06:17,344 เดินไปบนสายพาน 137 00:06:17,344 --> 00:06:20,564 และพัฒนาสภาวะที่จะส่งเสริม 138 00:06:20,564 --> 00:06:25,797 ให้สมองเริ่มที่จะมีอำนาจควบคุมขาได้ 139 00:06:25,797 --> 00:06:29,182 ด้วยความคิดนี้ เราพัฒนาระบบหุ่นยนต์แบบใหม่เอี่ยม 140 00:06:29,182 --> 00:06:32,412 เพื่อที่จะช่วยหนูทดลอง 141 00:06:32,412 --> 00:06:34,938 ในทุกๆทิศทาง 142 00:06:34,938 --> 00:06:37,113 จินตนาการดูสิครับ มันเจ๋งจริงๆเลย 143 00:06:37,113 --> 00:06:40,944 ลองคิดถึงหนูตัวเล็กๆ น้ำหนัก 200 กรัม 144 00:06:40,944 --> 00:06:44,645 ติดอยู่กับหุ่นแขนขาหนัก 200 กิโลกรัม 145 00:06:44,645 --> 00:06:47,217 แต่หนูทดลองไม่รู้สึกถึงหุ่นยนต์เลย 146 00:06:47,217 --> 00:06:49,289 หุ่นยนต์นั้นเหมือนไร้ตัวตน 147 00:06:49,289 --> 00:06:51,651 เหมือนกับคุณอุ้มเด็กตัวเล็กๆ 148 00:06:51,651 --> 00:06:54,015 ระหว่างก้าวแรกที่ไม่มั่นคงของเขา 149 00:06:54,015 --> 00:06:57,569 ให้ผมสรุปนะครับ หนูทดลองได้รับบาดเจ็บ 150 00:06:57,569 --> 00:07:00,014 มีไขสันหลังที่เป็นอัมพาต 151 00:07:00,014 --> 00:07:02,604 เส้นประสาทเทียมแบบไฟฟ้าเคมี 152 00:07:02,604 --> 00:07:06,811 สามารถทำระบบการเคลื่อนไหวของไขสันหลัง อยู่ในภาวะที่ทำงานได้ 153 00:07:06,811 --> 00:07:10,577 หุ่นยนต์นั้นให้สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย 154 00:07:10,577 --> 00:07:12,540 เพื่อที่จะให้หนูทดลองพยายามอย่างไรก็ได้ 155 00:07:12,540 --> 00:07:15,222 เพื่อให้ขาที่พิการทำงาน 156 00:07:15,222 --> 00:07:18,047 และสำหรับแรงผลักดัน เราใช้สิ่งที่ผมคิดว่า 157 00:07:18,047 --> 00:07:21,881 เป็นยาอันทรงพลังที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ 158 00:07:21,881 --> 00:07:24,188 ช็อกโกแลตสวิสชั้นเลิศ 159 00:07:24,188 --> 00:07:27,110 (เสียงหัวเราะ) 160 00:07:27,110 --> 00:07:31,673 อันที่จริง ผมลัพธ์นั้นมันช่างสุดแสนที่จะ 161 00:07:31,673 --> 00:07:34,308 น่าผิดหวังอย่างแรง 162 00:07:34,308 --> 00:07:37,610 นี่คือนักกายภาพบำบัดที่ดีที่สุดของผม 163 00:07:44,794 --> 00:07:47,384 ที่ไม่สามารถจะช่วยให้หนูทดลอง 164 00:07:47,384 --> 00:07:49,445 ให้เดินได้สักก้าว 165 00:07:49,445 --> 00:07:52,291 ซึ่งเจ้าหนูทดลองตัวเดียวกันนี้เอง เมื่อห้านาทีก่อน 166 00:07:52,291 --> 00:07:54,597 ยังเดินได้อย่างสวยงามบนสายพาน 167 00:07:54,597 --> 00:07:56,754 พวกเราหงุดหงิดกันมาก 168 00:07:56,754 --> 00:07:59,653 แต่รู้อะไรไหมครับ หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด 169 00:07:59,653 --> 00:08:02,129 สำหรับนักวิทยาศาสตร์ก็คือความอุตสาหะพยายาม 170 00:08:02,129 --> 00:08:05,545 พวกเรายืนหยัด พวกเราปรับเปลี่ยนแบบจำลองของเรา 171 00:08:05,545 --> 00:08:07,808 และหลังจากการฝึกไม่กี่เดือน 172 00:08:07,808 --> 00:08:11,614 หนูทดลองที่เป็นอัมพาตก็สามารถยืนได้ 173 00:08:11,614 --> 00:08:13,426 และเมื่อมันตั้งใจ 174 00:08:13,426 --> 00:08:15,758 มันก็จะเริ่มการเคลื่อนที่ซึ่งแบกรับน้ำหนักทั้งหมด 175 00:08:15,758 --> 00:08:19,008 เพื่อพาตัวมันไปยังรางวัล 176 00:08:19,008 --> 00:08:22,413 นี่เป็นการฟื้นฟูแรกที่เราได้เห็น 177 00:08:22,413 --> 00:08:24,307 จากขาที่ได้รับการควบคุมภายใต้อำนาจจิตใจ 178 00:08:24,307 --> 00:08:26,761 หลังจากถูกทดลองสร้างการบาดเจ็บของไขสันหลัง 179 00:08:26,761 --> 00:08:30,222 ซึ่งนำไปสู่อาการอัมพาตโดยสิ้นเชิงอย่างถาวร 180 00:08:30,222 --> 00:08:32,209 อันที่จริง -- 181 00:08:32,209 --> 00:08:33,929 (เสียงปรบมือ) 182 00:08:33,929 --> 00:08:38,308 ขอบคุณครับ 183 00:08:38,308 --> 00:08:41,402 ที่จริงแล้ว ไม่เพียงแต่หนูทดลองสามารถ 184 00:08:41,402 --> 00:08:44,079 เริ่มและทรงการเคลื่อนไหวบนพื้นได้ 185 00:08:44,079 --> 00:08:46,360 พวกมันยังสามารถปรับการเคลื่อนไหวของขา 186 00:08:46,360 --> 00:08:48,716 ยกตัวอย่างเช่น ต้านแรงโน้มถ่วง 187 00:08:48,716 --> 00:08:51,340 เพื่อที่จะปีนบันได 188 00:08:51,340 --> 00:08:53,290 ผมบอกได้เลยครับว่า 189 00:08:53,290 --> 00:08:56,399 นี่ช่างเป็นวินาทีน่าตื่นเต้นเหลือเกินในห้องทดลองของผม 190 00:08:56,399 --> 00:08:59,142 พวกเราทำงานกันอย่างหนักมา 10 ปี 191 00:08:59,142 --> 00:09:01,593 เพื่อที่จะมาถึงเส้นชัยนี้ 192 00:09:01,593 --> 00:09:04,144 แต่คำถามที่เหลืออยู่ก็คือ ทำไม 193 00:09:04,144 --> 00:09:05,836 ผมหมายถึง ทำไมมันถึงเกิดขึ้นได้ 194 00:09:05,836 --> 00:09:07,514 และสิ่งที่เราได้พบ 195 00:09:07,514 --> 00:09:11,190 ก็เป็นอะไรที่เราไม่ได้คาดคิดไว้เลย 196 00:09:11,190 --> 00:09:15,348 แบบจำลองการฝึกฝนที่ใหม่ถอดด้ามนี้ 197 00:09:15,348 --> 00:09:19,019 สนับสนุนให้สมองสร้างการเชื่อมต่อใหม่ 198 00:09:19,019 --> 00:09:21,921 วงจรถ่ายทอดสัญญาณ 199 00:09:21,921 --> 00:09:24,969 ที่ถ่ายทอดข้อมูลจากสมอง 200 00:09:24,969 --> 00:09:28,125 ผ่านส่วนที่บาดเจ็บและปลุกการทำงานทั้งหมด ในส่วนนอก (cortical) ของไขสันหลัง 201 00:09:28,125 --> 00:09:31,566 เพื่อควบคุมระบบการเคลื่อนไหวใต้ส่วนที่บาดเจ็บ 202 00:09:31,566 --> 00:09:34,488 และเราสามารถเห็นได้ถึงตัวอย่างหนึ่ง 203 00:09:34,488 --> 00:09:37,851 ซึ่งเราให้สีแดงคือเส้นใยประสาทที่มาจากสมอง 204 00:09:37,851 --> 00:09:41,271 สีฟ้าคือเส้นประสาทที่เชื่อม กับศูนย์ควบคุมการเคลื่อนไหว 205 00:09:41,271 --> 00:09:43,634 และกลุ่มก้อนของ 206 00:09:43,634 --> 00:09:45,985 การเชื่อมต่อแบบไซแนปส์ (synaptic) นั้นก็คือ 207 00:09:45,985 --> 00:09:49,784 การที่สมองเชื่อมต่ออีกครั้ง กับศูนย์ควบคุมการเคลื่อนไหว 208 00:09:49,784 --> 00:09:53,782 ด้วยเซลล์ประสาทถ่ายทอดสัญญาณ เพียงเซลล์เดียว 209 00:09:53,782 --> 00:09:55,713 แต่การจัดรูปแบบใหม่นี้ไม่ได้ถูกบังคับ 210 00:09:55,713 --> 00:09:56,800 อยู่แต่ในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ 211 00:09:56,800 --> 00:10:00,089 มันเกิดขึ้นทั่วไปในระบบประสาทส่วนกลาง 212 00:10:00,089 --> 00:10:02,407 รวมทั้งในก้านสมอง 213 00:10:02,407 --> 00:10:05,669 ที่ซึ่งพวกเราสังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นถึง 300 เปอร์เซ็นต์ 214 00:10:05,669 --> 00:10:09,428 ของความหนาแน่นของเส้นใยที่มาจากสมอง 215 00:10:09,428 --> 00:10:12,955 พวกเราไม่ได้มุ่งหวังที่จะซ่อมไขสันหลัง 216 00:10:12,955 --> 00:10:15,552 แต่ว่า เรานั้นสามารถที่จะส่งเสริม 217 00:10:15,552 --> 00:10:17,709 การจัดรูปแบบใหม่ของปลายประสาท 218 00:10:17,709 --> 00:10:20,178 ที่ครอบคลุมบริเวณกว้างกว่าที่เราเคยเห็นมาก่อน 219 00:10:20,178 --> 00:10:22,439 ในระบบประสาทส่วนกลาง ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่โตเต็มวัย 220 00:10:22,439 --> 00:10:24,984 หลังจากได้รับบาดเจ็บ 221 00:10:24,984 --> 00:10:30,053 และมันก็มีสาส์นที่สำคัญมากๆ 222 00:10:30,053 --> 00:10:34,496 ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการค้นพบนี้ 223 00:10:34,496 --> 00:10:37,718 มันคือผลงานของกลุ่มคนหนุ่มสาว 224 00:10:37,718 --> 00:10:40,110 ผู้ซึ่งเปี่ยมด้วยพรสวรรค์: 225 00:10:40,110 --> 00:10:44,568 นักกายภาพบำบัด นักประสาทวิทยา ประสาทศัลยแพทย์ 226 00:10:44,568 --> 00:10:46,767 วิศกรทุกแขนง 227 00:10:46,767 --> 00:10:48,558 ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของความสำเร็จ 228 00:10:48,558 --> 00:10:52,201 อันมิอาจเกิดขึ้นได้เลยโดยคนเพียงคนเดียว 229 00:10:52,201 --> 00:10:55,284 นี่เป็นกลุ่มวิจัยแบบบูรณาการอย่างแท้จริง 230 00:10:55,284 --> 00:10:57,472 พวกเขาทำงานอย่างใกล้ชิดกันมาก 231 00:10:57,472 --> 00:11:00,663 จนดีเอ็นเอถูกส่งผ่านไปมาระหว่างพวกเขา 232 00:11:00,663 --> 00:11:02,286 พวกเราได้ก่อกำเนิดสายพันธุ์ใหม่ 233 00:11:02,286 --> 00:11:04,527 ของแพทย์และวิศวกร 234 00:11:04,527 --> 00:11:06,971 ที่สามารถแปลงผลการค้นพบไปได้ตลอดทาง 235 00:11:06,971 --> 00:11:09,643 จากโต๊ะทดลองไปถึงเตียงคนไข้ 236 00:11:09,643 --> 00:11:11,649 และผมล่ะ 237 00:11:11,649 --> 00:11:16,196 ผมก็เป็นแค่เพียงวาทยากร ผู้กำกับวงซิมโฟนีอันงามวิจิตรนี้ 238 00:11:16,196 --> 00:11:22,999 ถึงตรงนี้ ผมมั่นใจว่าคุณทุกคนคงจะสงสัยใช่ไหมล่ะครับ 239 00:11:22,999 --> 00:11:26,763 ว่านี่จะช่วยคนบาดเจ็บได้จริงๆ หรือ 240 00:11:26,763 --> 00:11:30,655 ผมก็เหมือนกันครับ ผมก็ครุ่นคิดทุกวัน 241 00:11:30,655 --> 00:11:34,068 ความจริงก็คือ เรายังรู้ไม่มากพอ 242 00:11:34,068 --> 00:11:38,292 แน่นอนล่ะ นี่ไม่ใช่การรักษาอาการบาดเจ็บของไขสันหลัง 243 00:11:38,292 --> 00:11:41,026 แต่ผมเริ่มที่จะเชื่อแล้วว่า นี่มันอาจนำ 244 00:11:41,026 --> 00:11:43,593 ไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาการฟื้นฟู 245 00:11:43,593 --> 00:11:46,780 และคุณภาพชีวิตของผู้คน 246 00:11:46,780 --> 00:11:49,269 ผมอยากให้ทุกท่าน 247 00:11:49,269 --> 00:11:52,896 ใช้เวลาสักนิดและฝันไปกับผม 248 00:11:52,896 --> 00:11:58,791 จินตนาการถึงคนที่เป็นทุกข์จากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง 249 00:11:58,791 --> 00:12:01,946 หลังจากไม่กี่สัปดาห์หลังฟื้นฟู 250 00:12:01,946 --> 00:12:04,306 พวกเราจะฝังปั๊มฉีดยาที่ตั้งโปรแกรมไว้ 251 00:12:04,306 --> 00:12:07,339 เพื่อที่จะส่งยาที่มีการปรุงมาจำเพาะ สำหรับแต่ละบุคคล 252 00:12:07,339 --> 00:12:09,781 ไปยังไขสันหลังโดยตรง 253 00:12:09,781 --> 00:12:13,044 ในเวลาเดียวกัน พวกเราจะฝังชุดขั้วไฟฟ้า 254 00:12:13,044 --> 00:12:15,151 เป็นเหมือนผิวหนังชั้นที่สอง 255 00:12:15,151 --> 00:12:18,711 คลุมบริเวณของไขสันหลังที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของขา 256 00:12:18,711 --> 00:12:21,977 และวงจรนี้จะติดอยู่กับเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้า 257 00:12:21,977 --> 00:12:24,439 ที่จะส่งการกระตุ้นที่ได้ออกแบบไว้ 258 00:12:24,439 --> 00:12:26,625 ไปยังที่ซึ่งบุคคลนั้นต้องการ 259 00:12:26,625 --> 00:12:31,483 เส้นประสาทเทียมแบบไฟฟ้าเคมี ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคลนี้ 260 00:12:31,483 --> 00:12:34,234 จะสามารถทำให้เกิดการเคลื่อนไหว 261 00:12:34,234 --> 00:12:38,281 ระหว่างการฝึกซ้อมด้วยระบบช่วยเหลือ ที่ถูกออกแบบมาใหม่ 262 00:12:38,281 --> 00:12:41,564 และความหวังของผมก็คือ หลังจากการฝึกฝนไม่กี่เดือน 263 00:12:41,564 --> 00:12:43,727 มันอาจมีการเรียงตัวขึ้นมาใหม่อย่างเพียงพอ ของการเชื่อมต่อที่เหลืออยู่ 264 00:12:43,727 --> 00:12:47,396 ที่จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวได้โดยปราศจากหุ่นยนต์ 265 00:12:47,396 --> 00:12:51,174 บางที อาจจะปราศจากยาหรือการกระตุ้น 266 00:12:51,174 --> 00:12:53,708 ความหวังของผมก็คือ เราจะสามารถสร้าง 267 00:12:53,708 --> 00:12:55,973 ข้อจำกัดส่วนบุคคล 268 00:12:55,973 --> 00:12:58,636 ที่จะกระตุ้นสภาพการเปลี่ยนแปลงของสมอง 269 00:12:58,636 --> 00:13:00,167 และของไขสันหลัง 270 00:13:00,167 --> 00:13:02,906 และนี่มันก็เป็นแนวคิดใหม่ที่แตกต่าง 271 00:13:02,906 --> 00:13:06,199 ที่อาจปรับใช้ได้กับอาการผิดปกติอื่นๆ ของระบบประสาท 272 00:13:06,199 --> 00:13:10,737 ผมเรียกมันว่า "เส้นประสาทเทียมส่วนบุคคล" 273 00:13:10,737 --> 00:13:13,761 ที่ซึ่งเกิดการรับและกระตุ้นส่วนต่อของประสาท 274 00:13:13,761 --> 00:13:17,475 ผมฝังมันไปทั่วระบบประสาท 275 00:13:17,475 --> 00:13:20,816 ในสมอง ไขสันหลัง 276 00:13:20,816 --> 00:13:23,572 แม้แต่ในเส้นประสาทรอบนอก 277 00:13:23,572 --> 00:13:26,739 ขึ้นอยู่กับว่าจุดบกพร่องของคนไข้อยู่ที่ไหน 278 00:13:26,739 --> 00:13:31,347 แต่ไม่ได้เป็นการแทนที่หน้าที่ที่ขาดหายไป ไม่ครับ 279 00:13:31,347 --> 00:13:34,538 มันเป็นการช่วยสมองให้ช่วยตัวมันเอง 280 00:13:34,538 --> 00:13:37,178 และผมหวังว่านี่มันจะเย้ายวนจินตนาการของคุณ 281 00:13:37,178 --> 00:13:39,074 เพราะว่าผมสาบานได้เลยว่า 282 00:13:39,074 --> 00:13:42,317 มันไม่สำคัญว่าการปฏิวัตินิจะเกิดขึ้นหรือไม่ 283 00:13:42,317 --> 00:13:44,109 แต่สำคัญว่าเมื่อไร 284 00:13:44,109 --> 00:13:46,342 และจำไว้ครับว่า พวกเรานั้นเลิศเลอได้ไม่แพ้จินตนาการ 285 00:13:46,357 --> 00:13:49,942 ยิ่งใหญ่ได้มากเท่ากับความฝันของเรา 286 00:13:49,942 --> 00:13:51,934 ขอบคุณครับ 287 00:13:51,934 --> 00:13:55,934 (เสียงปรบมือ)