1 00:00:00,222 --> 00:00:01,506 เราคิดถึงผู้นำที่ยิ่งใหญ่ 2 00:00:01,530 --> 00:00:04,446 แบบกัปตันที่ไม่หวั่นไหว ผู้นำพาเราไปข้างหน้า 3 00:00:04,470 --> 00:00:06,336 ผ่านความท้าทายและความซับซ้อน 4 00:00:06,360 --> 00:00:08,786 ผู้นำที่มั่นใจไม่หวั่นไหว 5 00:00:08,810 --> 00:00:11,201 ผู้ที่มีพร้อมด้วยข้อมูลและประสบการณ์ 6 00:00:11,225 --> 00:00:14,908 ได้รับการยกย่องเชิดชู ทั้งในแวดวงธุรกิจและการเมือง 7 00:00:14,932 --> 00:00:17,138 แต่บางครั้ง และโดยเฉพาะขณะนี้ 8 00:00:17,162 --> 00:00:20,289 ภาวะวิกฤติคืบคลานเข้ามา ซึ่งทั้งแปลกใหม่และเร่งด่วน 9 00:00:20,313 --> 00:00:22,607 ซึ่งมันเปลี่ยนทุกอย่าง ที่เราคิดว่าเรารู้ 10 00:00:22,631 --> 00:00:24,857 [วิถีที่เราทำงาน] 11 00:00:25,088 --> 00:00:27,138 [เกิดขึ้นได้ ด้วยการสนับสนุนจาก Dropbox] 12 00:00:27,159 --> 00:00:28,518 สิ่งหนึ่งเรารู้แน่นอนคือ 13 00:00:28,542 --> 00:00:30,327 การเปลี่ยนแปลงอีกมากมาย กำลังจะเกิดขึ้น 14 00:00:30,351 --> 00:00:32,516 ในโลกที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ 15 00:00:32,540 --> 00:00:34,628 การลุกฮือทางการเมืองที่หนึ่ง 16 00:00:34,652 --> 00:00:37,716 คลิปไวรัล สึนามิที่เกิดขึ้นไกลออกไป 17 00:00:37,740 --> 00:00:42,033 หรือเชื้อไวรัสขนาดเล็ก สามารถส่งผลกระทบไปทั่วโลก 18 00:00:42,057 --> 00:00:43,827 การเปลี่ยนแปลงสร้างความตื่นกลัว 19 00:00:43,851 --> 00:00:46,374 และท่ามกลางความตื่นกลัวนั้น ผู้คนมองหาความมั่นคง 20 00:00:46,398 --> 00:00:47,797 ซึ่งทำให้ผู้นำโอนเอน 21 00:00:47,821 --> 00:00:53,299 ไปใช้จุดแข็ง ความมั่นใจ และความแน่วแน่แบบเดิม ๆ 22 00:00:53,323 --> 00:00:54,481 แต่มันไม่ได้ผล 23 00:00:54,505 --> 00:00:56,530 เราจะต้องพลิกดูคู่มือภาวะผู้นำกันสักหน่อย 24 00:00:56,554 --> 00:00:58,998 อย่างแรก ภาวะผู้นำแบบนี้ต้องอาศัย 25 00:00:59,022 --> 00:01:02,657 การสื่อสารด้วยความโปร่งใส และการสื่อสารบ่อย ๆ 26 00:01:02,681 --> 00:01:05,703 แล้วผู้นำจะนำได้อย่างไร ในเมื่อความแน่นอนมีน้อยมาก 27 00:01:05,727 --> 00:01:07,339 และความชัดเจนที่บางเบา 28 00:01:07,363 --> 00:01:11,315 ไม่ว่าคุณจะเป็นซีอีโอ นายกรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับกลาง 29 00:01:11,339 --> 00:01:12,870 หรือแม้กระทั่งครูใหญ่ของโรงเรียน 30 00:01:12,894 --> 00:01:15,866 การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง หมายถึงคุณจะต้องยกระดับความถ่อมตน 31 00:01:15,890 --> 00:01:17,376 เมื่อสิ่งที่คุณรู้มันจำกัด 32 00:01:17,400 --> 00:01:20,335 การแสร้งว่าคุณรู้ ไม่ช่วยอะไรเลย 33 00:01:20,359 --> 00:01:24,041 ท่ามกล่างการเปลี่ยนแปลง ผู้นำต้องแบ่งปันสิ่งที่รู้ 34 00:01:24,065 --> 00:01:25,946 และยอมรับว่าอะไรที่ไม่รู้ 35 00:01:25,970 --> 00:01:30,431 ความซื่อสัตย์แบบนี้ ช่วยสร้างความปลอดภัยทางจิตวิทยามากขึ้น 36 00:01:30,455 --> 00:01:31,638 ไม่ใช่น้อยลง 37 00:01:31,662 --> 00:01:35,543 ยกตัวอย่างเช่น เมื่อโรคระบาด ทำลายอุตสาหกรรมสายการบิน 38 00:01:35,567 --> 00:01:36,725 เพียงข้ามคืน 39 00:01:36,749 --> 00:01:38,971 เอ็ด บาสเตียน ซีอีโอของเดลตาแอร์ไลน์ 40 00:01:38,995 --> 00:01:41,311 สื่อสารกับพนักงานมากขึ้น 41 00:01:41,335 --> 00:01:43,186 แม้ว่าสถานการณ์ จะมีความชัดเจนน้อยมาก 42 00:01:43,210 --> 00:01:46,813 เกี่ยวกับหนทางข้างหน้า ที่มีผลลัพธ์ที่เลวร้ายมาก ๆ 43 00:01:46,837 --> 00:01:48,241 ณ จุด ๆ หนึ่งในปี 2020 44 00:01:48,265 --> 00:01:50,931 เกิดเสียหายมากกว่า ร้อยล้านดอลลาร์ต่อวัน 45 00:01:50,955 --> 00:01:52,930 มันอาจจะง่ายกว่ามากสำหรับบาสเตียน 46 00:01:52,954 --> 00:01:56,058 ที่จะรอข้อมูลที่มากกว่านี้ ก่อนจะลงมือทำอะไร 47 00:01:56,082 --> 00:01:58,201 แต่ผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ในช่วงการเปลี่ยนแปลง 48 00:01:58,225 --> 00:01:59,846 ไม่หลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืด 49 00:01:59,870 --> 00:02:01,522 ความจริงแล้ว เหมือนที่บาสเตียนกล่าว 50 00:02:01,546 --> 00:02:03,887 มันสำคัญมากที่จะสื่อสาร 51 00:02:03,911 --> 00:02:06,665 เมื่อคุณไม่มีคำตอบมากกว่าที่คุณมี 52 00:02:06,689 --> 00:02:10,760 อย่างที่สอง ลงมืออย่างเร่งด่วน แม้จะมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน 53 00:02:10,784 --> 00:02:12,785 การยอมรับว่าคุณไม่มีคำตอบ 54 00:02:12,809 --> 00:02:15,158 ไม่ได้หมายความว่าคุณนิ่งเฉยไม่ทำอะไร 55 00:02:15,182 --> 00:02:18,016 แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่จะรู้สึกต้องการข้อมูลเพิ่ม 56 00:02:18,040 --> 00:02:21,618 แต่การลงมืออย่างรวดเร็วมักจะเป็นทางเดียว ที่จะได้ข้อมูลมากขึ้น 57 00:02:21,642 --> 00:02:25,188 ที่แย่กว่า คือการไม่ลงมือทำ จะทำให้คนรู้สึกเคว้งคว้างและไม่ปลอดภัย 58 00:02:25,212 --> 00:02:27,979 เมื่อจาซินดา อาร์เดน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ 59 00:02:28,003 --> 00:02:31,069 ประกาศมาตรการ 4 ระดับ ตั้งแต่ช่วงแรก 60 00:02:31,093 --> 00:02:32,672 ของวิกฤตโควิด-19 61 00:02:32,696 --> 00:02:35,617 เธอไม่มีข้อมูลที่จะใช้ระบุ ว่าต้องเป็นระดับไหน 62 00:02:35,641 --> 00:02:39,501 แม้ว่าจะไม่มีคำตอบ เธอไม่รีรอที่จะสื่อสาร 63 00:02:39,525 --> 00:02:41,204 กับประชาชนถึงความเสี่ยง 64 00:02:41,228 --> 00:02:43,421 ในตอนแรกเธอออกมาตรการระดับสอง 65 00:02:43,445 --> 00:02:47,478 และเปลี่ยนเป็นระดับสี่สองวันถัดมา เมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น 66 00:02:47,502 --> 00:02:50,089 นั่นทำให้มีการปิดประเทศ 67 00:02:50,113 --> 00:02:52,854 และนั่นรักษาชีวิตไว้นับไม่ถ้วน อย่างไม่ต้องสงสัย 68 00:02:52,878 --> 00:02:55,819 หลังจากนั้น เมื่อการติดเชื้อเริ่มลดลง 69 00:02:55,843 --> 00:02:57,740 เธอจึงตัดสินใจเรื่องอื่น ๆ 70 00:02:57,764 --> 00:02:59,826 ที่สอดรับกับข้อมูลใหม่ ๆ 71 00:02:59,850 --> 00:03:03,186 อย่างที่สาม ผู้นำจะต้องยึดมั่น ในเจตจำนงและค่านิยม 72 00:03:03,210 --> 00:03:05,654 แม้ว่าเป้าหมาย และสถานการณ์จะเปลี่ยน 73 00:03:05,678 --> 00:03:07,440 ค่านิยมจะเป็นเหมือนแสงสว่างนำทาง 74 00:03:07,464 --> 00:03:09,427 เมื่อทุกอย่างจะไม่แน่นอน 75 00:03:09,451 --> 00:03:11,316 ถ้าคุณใส่ใจเรื่องประสบการณ์ของลูกค้า 76 00:03:11,340 --> 00:03:13,841 อย่ามองข้ามมันไป ในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลง 77 00:03:13,865 --> 00:03:16,480 ถ้าค่านิยมหลักคือสุขภาพและความปลอดภัย 78 00:03:16,504 --> 00:03:19,465 ก็ควรยึดมันเป็นจุดศูนย์กลาง ของการตัดสินใจทุกอย่าง 79 00:03:19,489 --> 00:03:22,322 การทำแบบนี้ต้องอาศัยความซื่อสัตย์มาก ๆ 80 00:03:22,346 --> 00:03:23,987 ว่าค่านิยมของคุณคืออะไร 81 00:03:24,011 --> 00:03:26,879 ด้วยแนวทางนี้ ความแน่วแน่ของคุณจะแสดงถึง 82 00:03:26,903 --> 00:03:29,534 ค่านิยมของคุณ ไม่ใช่แผนการของคุณ 83 00:03:29,558 --> 00:03:32,616 เจตจำนงของนายกรัฐมนตรีอาร์เดน ชัดเจนมาโดยตลอด 84 00:03:32,640 --> 00:03:34,189 นั่นคือการปกป้องชีวิตของมนุษย์ 85 00:03:34,213 --> 00:03:37,967 แม้ว่าเป้าหมายระยะสั้นจะเปลี่ยน จากการป้องกันโรค 86 00:03:37,991 --> 00:03:39,610 เป็นการเตรียมระบบสาธารณสุข 87 00:03:39,634 --> 00:03:42,038 และการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง 88 00:03:42,062 --> 00:03:44,583 ท้ายที่สุด จงมอบอำนาจการตัดสินใจ 89 00:03:44,607 --> 00:03:47,164 สัญชาติญาณของเรา จะอยากยึดติด 90 00:03:47,188 --> 00:03:50,368 ที่จะใช้อำนาจควบคุมในช่วงเวลาคับขัน แต่มันกลับส่งผลร้าย 91 00:03:50,392 --> 00:03:53,426 วิธีที่จะแสดงภาวะผู้นำ ที่มีประสิทธิภาพที่สุดทางหนึ่ง 92 00:03:53,450 --> 00:03:54,943 ซึ่งอาจจะขัดกับความรู้สึก 93 00:03:54,967 --> 00:03:57,442 คือการมอบอำนาจในการตัดสินใจ ไปให้คนรอบข้าง 94 00:03:57,466 --> 00:03:59,793 การทำแบบนี้ต้องอาศัยการขอความช่วยเหลือ 95 00:03:59,817 --> 00:04:02,127 และการแสดงออกที่ชัดเจน ว่าคุณทำมันคนเดียวไม่ได้ 96 00:04:02,151 --> 00:04:04,206 สิ่งนี้จะกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม 97 00:04:04,230 --> 00:04:06,094 ในขณะที่ช่วยให้คนอื่น ได้รับรู้ถึงความหมาย 98 00:04:06,118 --> 00:04:08,095 ในภาวะวิกฤติ ไม่มีอะไรแย่ไปกว่า 99 00:04:08,119 --> 00:04:10,816 ความรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่คุณจะช่วยได้ 100 00:04:10,840 --> 00:04:14,158 เราทำตามผู้นำแบบใหม่นี้ ในช่วงการเปลี่ยนแปลง 101 00:04:14,182 --> 00:04:15,976 เพราะเรามั่นใจ 102 00:04:16,000 --> 00:04:19,331 ไม่ใช่ในแผนที่แต่มั่นใจในเข็มทิศ 103 00:04:19,355 --> 00:04:21,831 เราเชื่อว่าพวกเขาเลือกทางที่ถูกต้อง 104 00:04:21,855 --> 00:04:23,807 ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ 105 00:04:23,831 --> 00:04:25,760 และพวกเขาจะปรับวิธีการไปเรื่อย ๆ 106 00:04:25,784 --> 00:04:28,339 เหนือสิ่งอื่นใด เราไว้ใจพวกเขา 107 00:04:28,363 --> 00:04:32,374 และเราต้องการจะช่วยพวกเขา มองหาและกำหนด 108 00:04:32,398 --> 00:04:33,658 เส้นทางสู่อนาคต