1 00:00:01,023 --> 00:00:04,734 จากโจทย์ ให้เรียงลำดับจากค่าที่น้อยที่สุดไปยังค่าที่มากที่สุด 2 00:00:04,734 --> 00:00:06,666 จากค่าต่าง ๆ ที่แสดงอยู่นี้ 3 00:00:06,666 --> 00:00:09,751 เห็นได้ว่าอยู่ภายในเครื่องหมาย "ค่าสัมบูรณ์" 4 00:00:09,751 --> 00:00:11,483 ลองมาทบทวนกันเล็กน้อย 5 00:00:11,483 --> 00:00:14,240 "ค่าสัมบูรณ์" หมายถึงระยะห่างระหว่างค่านั้น ๆ กับศูนย์ 6 00:00:14,240 --> 00:00:15,850 หรือคิดอย่างง่าย ๆ ก็คือ... 7 00:00:15,850 --> 00:00:18,750 ถ้าค่านั้นเป็น "ค่าลบ" 8 00:00:18,750 --> 00:00:20,135 เมื่ออยู่ในเครื่องหมาย | | (ค่าสัมบูรณ์) ค่านั้นจะกลายเป็น "ค่าบวก" 9 00:00:20,135 --> 00:00:22,433 แต่ถ้าค่านั้นเป็นค่าบวกอยู่แล้ว ค่าสัมบูรณ์ที่ได้ก็จะเป็นค่าบวกเช่นเดิม 10 00:00:22,433 --> 00:00:24,166 เอาล่ะ... เรามาลองทำโจทย์นี้กัน 11 00:00:24,166 --> 00:00:29,384 ค่าแรก เป็นค่าสัมบูรณ์ของ 5 12 00:00:29,384 --> 00:00:32,041 5 อยู่ห่างจาก 0 เท่าใด? 13 00:00:32,041 --> 00:00:36,128 คำตอบคือ เท่ากับ 5 14 00:00:36,128 --> 00:00:37,580 ซึ่งถ้าเราวาดเส้นจำนวน 15 00:00:37,580 --> 00:00:39,190 ซึ่งถ้าเราวาดเส้นจำนวน 16 00:00:39,190 --> 00:00:41,537 เลข 0 อยู่ตรงนี้ และเลข 5 อยู่ตรงนี้ 17 00:00:41,537 --> 00:00:43,700 ระยะห่างจะเท่ากับ 5 18 00:00:43,700 --> 00:00:46,503 ดังนั้น ค่าสัมบูรณ์ของ 5 เท่ากับ "5" นั่นเอง 19 00:00:46,503 --> 00:00:50,662 ต่อไป.. 20 00:00:50,662 --> 00:00:55,566 ค่าสัมบูรณ์ของ 9-7 21 00:00:55,642 --> 00:00:58,900 ค่าสัมบูรณ์ของ 9-7 22 00:00:58,900 --> 00:01:00,583 9 ลบ 7 เท่ากับ 2 23 00:01:00,583 --> 00:01:04,468 2 ห่างจาก 0 เท่ากับ 2 หน่วย 24 00:01:04,468 --> 00:01:05,949 ดังนั้น |9-7| ก็คือค่าสัมบูรณ์ของ 2 นั่นเอง 25 00:01:05,949 --> 00:01:07,866 สรุปก็คือ ถ้าเรามีค่าที่เป็นบวกอยู่ในเครื่องหมาย | | 26 00:01:07,866 --> 00:01:09,485 คำตอบที่ได้ก็คือ ค่านั้น ๆ 27 00:01:09,485 --> 00:01:12,119 ค่าสัมบูรณ์ของ 2 ก็จะเท่ากับ 2 28 00:01:12,119 --> 00:01:18,163 ต่อไป... ค่าสัมบูรณ์ของ 5 - 15 29 00:01:18,163 --> 00:01:21,771 ต่อไป... ค่าสัมบูรณ์ของ 5 - 15 30 00:01:21,771 --> 00:01:25,302 5 - 15 เท่ากับ -10 31 00:01:25,302 --> 00:01:29,001 ค่าสัมบูรณ์ของ 5 - 15 ก็คือค่าสัมบูรณ์ของ -10 นั่นเอง 32 00:01:29,001 --> 00:01:31,400 ค่าสัมบูรณ์ของ 5 - 15 ก็คือค่าสัมบูรณ์ของ -10 นั่นเอง 33 00:01:31,400 --> 00:01:33,749 ถ้ามีค่าที่เป็นลบอยู่ภายในเครื่องหมาย | | 34 00:01:33,749 --> 00:01:36,017 ค่าสัมบูรณ์ของค่านั้น ๆ ก็คือค่าที่เป็นบวก 35 00:01:36,017 --> 00:01:37,391 ดังนั้น จะได้ว่า ค่าสัมบูรณ์ของ -10 เท่ากับ 10 36 00:01:37,391 --> 00:01:39,768 เราอาจหาค่าสัมบูรณ์ของ -10 ได้อีกวิธีหนึ่ง 37 00:01:39,768 --> 00:01:42,494 โดยใช้เส้นจำนวน 38 00:01:42,494 --> 00:01:44,246 โดยใช้เส้นจำนวน 39 00:01:44,246 --> 00:01:46,464 -10 จะอยู่ทางซ้ายของเลขศูนย์ 40 00:01:46,464 --> 00:01:49,113 -10 จะอยู่ทางซ้ายของเลขศูนย์ 41 00:01:49,113 --> 00:01:55,733 ต่อไป.... ค่าสัมบูรณ์ของ 0 42 00:01:55,733 --> 00:01:57,985 ต่อไป.... ค่าสัมบูรณ์ของ 0 43 00:01:57,985 --> 00:02:00,842 ก็เท่ากับ 0 นั่นเอง 44 00:02:00,842 --> 00:02:03,415 ก็เท่ากับ 0 นั่นเอง 45 00:02:03,415 --> 00:02:06,042 ก็เท่ากับ 0 นั่นเอง 46 00:02:06,042 --> 00:02:13,003 สุดท้าย... ค่าสัมบูรณ์ของ -3 47 00:02:13,003 --> 00:02:15,267 -3 อยู่ห่างจากเลขศูนย์ไปทางซ้าย 3 หน่วย 48 00:02:15,267 --> 00:02:17,691 หรืออีกวิธีหนึ่งคือ กำจัดเครื่องหมายลบออกไป 49 00:02:17,691 --> 00:02:20,226 ก็จะได้ค่าสัมบูรณ์ของ -3 เท่ากับ "3" นั่นเอง 50 00:02:20,226 --> 00:02:24,180 ตอนนี้ เราได้คำตอบของค่าสัมบูรณ์ทั้งหมดแล้ว 51 00:02:24,180 --> 00:02:27,200 ลองมาเรียงลำดับจากค่าน้อยที่สุดไปยังค่ามากที่สุด 52 00:02:27,200 --> 00:02:29,200 จากค่าทั้งหมดนี้ ค่าใดมีค่าน้อยที่สุด? 53 00:02:29,200 --> 00:02:31,321 จากค่าทั้งหมดนี้ ค่าใดมีค่าน้อยที่สุด? 54 00:02:31,321 --> 00:02:33,418 คำตอบคือ ค่าสัมบูรณ์ของ 0 55 00:02:33,418 --> 00:02:36,550 คำตอบคือ ค่าสัมบูรณ์ของ 0 เป็นค่าที่น้อยที่สุด 56 00:02:36,550 --> 00:02:39,635 ค่าต่อไปคือค่าใด? 57 00:02:39,635 --> 00:02:42,841 ต่อไปคือ 2 58 00:02:42,841 --> 00:02:43,770 ต่อไปคือ 2 59 00:02:43,770 --> 00:02:47,531 ซึ่งมาจาก |9 - 7| 60 00:02:47,531 --> 00:02:51,350 ซึ่งมาจาก |9 - 7| 61 00:02:51,350 --> 00:02:52,516 และต่อไปคือค่าใด? 62 00:02:52,516 --> 00:02:54,834 ที่เหลืออยู่มี 3, 5 และ 10 63 00:02:54,834 --> 00:02:59,527 ดังนั้น ค่าต่อไปคือ 3 64 00:02:59,527 --> 00:03:05,399 ซึ่งมาจากค่าสัมบูรณ์ของ -3 65 00:03:05,399 --> 00:03:08,002 และต่อไปคือ 5 66 00:03:08,002 --> 00:03:11,029 มาจากค่าสัมบูรณ์ของ 5 67 00:03:11,029 --> 00:03:13,603 สุดท้าย คือ 10 68 00:03:13,603 --> 00:03:19,800 มาจากค่าสัมบูรณ์ของ 5 - 15 69 00:03:19,800 --> 00:03:22,000 เสร็จแล้วครับ....:)