0:00:00.942,0:00:03.770 โอ้วันเก่าๆ สมัยมหาลัย 0:00:03.770,0:00:07.673 บุคคลิกผสมระหว่างนักคณิตศาสตร์บริสุทธิ์[br]ระดับปริญญาเอก 0:00:07.673,0:00:10.144 กับแชมป์โต้วาทีระดับโลก 0:00:10.144,0:00:15.397 และอย่างที่ผมชอบพูด "หวัดดีสาวๆ โอ...เย..." 0:00:15.397,0:00:17.389 ไม่มีใครจะเซ็กซี่ไปกว่าตัวผมเอง 0:00:17.389,0:00:18.853 ในสมัยมหาลัยแล้วนะจะบอกให้ 0:00:18.853,0:00:23.239 มันน่าตื่นเต้นสำหรับผู้ประกาศข่าวเช้าทางวิทยุ [br]ผู้ต่ำต้อยอย่างผม 0:00:23.239,0:00:25.570 จากซิดนีย์ ออสเตรเลีย [br]ที่ได้มาอยู่บนเวที TED แห่งนี้ 0:00:25.570,0:00:27.733 บนอีกฟากของโลก ตรงตามตัวอักษรเลย 0:00:27.733,0:00:29.366 และผมอยากบอกพวกคุณว่า [br]เรื่องเล่าต่างๆ ที่คุณเคยได้ยิน 0:00:29.366,0:00:31.011 เกี่ยวกับคนออสเตรเลียนั้น เป็นเรื่องจริง 0:00:31.011,0:00:33.433 ตั้งแต่แบเบาะ พวกเราแสดงถึง 0:00:33.433,0:00:35.944 อัจริยะภาพด้านกีฬา 0:00:35.944,0:00:40.289 ในสนามรบ เราคือนักรบผู้กล้าหาญและทรงเกียรติ 0:00:40.289,0:00:40.946 ที่คุณเคยได้ยินมานั้นจริง 0:00:40.946,0:00:44.770 คนออสเตรเลียไม่รังเกียจการดื่มเล็กๆ น้อยๆ 0:00:44.770,0:00:48.520 บางครั้ง จนมันเลยเถิด [br]ไปสู่สถานการณ์ทางสังคมที่น่าอับอาย (เสียงหัวเราะ) 0:00:48.520,0:00:54.707 นี่คือปาร์ตี้วันคริสต์มาสที่ที่ทำงานพ่อผม [br]ธันวาคม 1973 0:00:54.707,0:00:56.629 ผมเกือบห้าขวบแล้ว ตอนนั้น 0:00:56.629,0:00:59.009 วันนั้นผมสนุกมากกว่าเป็นซานตาคลอสเสียอีก 0:00:59.009,0:01:02.889 แต่ที่ผมมายืนต่อหน้าพวกคุณในวันนี้ 0:01:02.889,0:01:04.335 ไม่ใช่ในฐานะพิธีกรวิทยุช่วงเช้า 0:01:04.335,0:01:08.241 ไม่ใช่ในฐานะนักแสดงตลก [br]แต่ในฐานะคนหนึ่ง ที่เคย 0:01:08.241,0:01:11.421 ที่เป็น และจะเป็นนักคณิตศาสตร์ไปตลอดกาล 0:01:11.421,0:01:13.615 และใครก็ตามที่เคยถูกแมงตัวเลขขบเข้า 0:01:13.615,0:01:17.375 จะรู้ว่ามันกัดเร็วและฝังลึกทีเดียว 0:01:17.375,0:01:20.312 ผมระลึกย้อนไปถึงเมื่อผมอยู่ ป.2 0:01:20.312,0:01:22.335 ในโรงเรียนรัฐอันสวยงามแห่งหนึ่ง 0:01:22.335,0:01:26.090 ชื่อว่า โบโรเนีย พาร์ค ในชานเมืองซิดนีย์ 0:01:26.090,0:01:28.151 ขณะใกล้พักเที่ยง คุณครูของเรา 0:01:28.151,0:01:29.879 คุณครูรัสเซลล์ กล่าวกับชั้นเรียนว่า 0:01:29.879,0:01:32.344 "นี่ เด็ก ป.2 พวกเธออยากทำอะไรหลังพักเที่ยง" 0:01:32.344,0:01:34.613 ครูว่างนะ" 0:01:34.613,0:01:37.760 มันเป็นแบบฝึกหัดหนึ่งในโรงเรียนแบบประชาธิปไตย 0:01:37.760,0:01:42.382 ผมเชียร์เรื่องประชาธิปไตยในโรงเรียนเต็มที่ [br]แต่เราเพิ่ง 7 ขวบในตอนนั้น 0:01:42.382,0:01:44.124 ดังนั้น บางข้อเสนอที่เราเสนอไป 0:01:44.124,0:01:46.688 ว่าเราอยากทำอะไรหลังพักเที่ยง[br]จึงค่อนข้างเป็นไปได้ยาก 0:01:46.688,0:01:48.962 หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง [br]บางคนเสนอความคิดปัญญาอ่อนสุดๆ 0:01:48.962,0:01:51.107 และคุณครูรัสเซลล์ก็ปรามพวกเขา[br]ด้วยคำพังเพยอย่างนุ่มนวลว่า 0:01:51.107,0:01:52.704 "นั่นคงไม่ดีหรอก 0:01:52.704,0:01:56.695 นั่นมันเหมือนกับ[br]พยายามเอาหมุดสี่เหลี่ยมยัดเข้ารูกลมๆ น่ะสิ" 0:01:56.695,0:01:58.962 ตอนนั้น ผมก็ไม่ได้พยายามจะทำตัวให้ดูฉลาด 0:01:58.962,0:01:59.797 ไม่ได้อยากจะตลก 0:01:59.797,0:02:02.012 ผมแค่ยกมือขึ้นอย่างสุภาพ 0:02:02.012,0:02:03.995 และเมื่อคุณครูรัสเซลล์อนุญาตให้ผมพูด [br]ผมลุกขึ้นพูด 0:02:03.995,0:02:06.631 ต่อหน้าเพื่อนๆ ป.2 ทั้งชั้น และผมกล่าวว่า 0:02:06.631,0:02:10.194 "แต่ครูครับ 0:02:10.194,0:02:13.990 ถ้าเส้นทแยงมุมของสี่เหลี่ยมจตุรัส 0:02:13.990,0:02:18.201 น้อยกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของรูกลม 0:02:18.201,0:02:21.086 หมุดสี่เหลี่ยมจะผ่านเข้ารูกลมได้อย่างดายเลยนะครับ 0:02:21.086,0:02:24.104 (เสียงหัวเราะ) 0:02:24.104,0:02:28.375 "คงเหมือนกับโยนขนมปังปิ้งเข้าห่วงบาสเกตบอล [br]ไม่ใช่เหรอครับ?" 0:02:28.375,0:02:30.018 และความเงียบสงัดน่าอึดอัดก็เกิดขึ้นชั่วครู่หนึ่ง 0:02:30.018,0:02:31.216 จากเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ในห้อง 0:02:31.216,0:02:33.319 จนกระทั่ง เพื่อนผมคนหนึ่งที่นั่งข้างๆ ผม 0:02:33.319,0:02:35.771 เป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กเท่ห์ในห้อง สตีเฟน เอียงตัวมา 0:02:35.771,0:02:38.114 แล้วตบกระโหลกผมอย่างแรง 0:02:38.114,0:02:39.198 (เสียงหัวเราะ) 0:02:39.198,0:02:41.699 ตอนนั้น สตีเฟนพูดกับผมว่า "เฮ๊ย อดัม 0:02:41.699,0:02:46.248 แกกำลังถึงจุดหักเหของชีวิตนะเพื่อน 0:02:46.248,0:02:48.525 แกจะนั่งกับพวกเราตรงนี้ ต่อไปก็ได้ 0:02:48.525,0:02:50.195 แต่ถ้าแกขืนพูดอะไรแบบเมื่อตะกี้อีกล่ะก็[br]แกย้ายไปนั่ง 0:02:50.195,0:02:53.975 กับพวกโน้นเลยไป" 0:02:53.975,0:02:55.577 ผมใคร่ครวญอยู่ประมาณหนึ่งนาโนวินาที 0:02:55.577,0:02:59.353 ผมคิดแวบหนึ่งถึงแผนการชีวิตของผม 0:02:59.353,0:03:03.181 และผมเลือกวิ่งไปตามเส้นทางที่เขียนว่า "บ้าตำรา" 0:03:03.181,0:03:08.608 เร็วที่สุดเท่าที่ขาอ้วนๆ ของเด็กที่เป็นหอบหืดอย่างผม[br]จะพาไปได้ 0:03:08.623,0:03:12.336 ผมตกหลุมรักคณิตศาสตร์ตั้งแต่จำความได้ 0:03:12.351,0:03:15.209 ผมอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังว่า [br]คณิตศาสตร์นั้นเป็นสิ่งสวยงาม 0:03:15.209,0:03:17.193 มันคือธรรมชาติ มันอยู่ทุกหนแห่ง 0:03:17.193,0:03:20.498 ตัวเลขคือโน้ตดนตรี 0:03:20.498,0:03:24.720 ซึ่งใช้เขียนบทบรรเลงแห่งจักรวาล 0:03:24.720,0:03:27.003 เดการ์ต (Descartes) ผู้ยิ่งใหญ่กล่าวไว้คล้ายๆ กันว่า 0:03:27.003,0:03:29.713 จักรวาล "ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาแห่งคณิตศาสตร์" 0:03:29.713,0:03:33.937 และวันนี้ ผมอยากแสดงให้คุณเห็น[br]หนึ่งในโน้ตดนตรีเหล่านั้น 0:03:33.937,0:03:38.329 ตัวเลขตัวหนึ่ง ที่ช่างสวยงาม และมหึมา 0:03:38.329,0:03:40.902 เสียจนผมคิดว่ามันต้องทำให้คุณตะลึง 0:03:40.902,0:03:43.649 วันนี้ เราจะมาคุยกันเรื่องจำนวนเฉพาะ 0:03:43.649,0:03:47.615 พวกคุณส่วนใหญ่ ผมมั่นใจ[br]ว่าคงจำได้ว่า 6 ไม่ใช่จำนวนเฉพาะ 0:03:47.615,0:03:49.931 เพราะมันคือ 2 x 3 0:03:49.931,0:03:53.545 เจ็ด เป็นจำนวนเฉพาะ เพื่อมันคือ 1 x 7 0:03:53.545,0:03:56.148 แต่เราไม่สามารถแตกมันออกเป็นเลขที่เล็กกว่า 0:03:56.148,0:03:58.131 หรือที่เราเรียกมันว่า ตัวคูณ 0:03:58.131,0:04:00.621 ทีนี้ มีสองสามข้อที่คุณคงอยากรู้เกี่ยวกับจำนวนเฉพาะ 0:04:00.621,0:04:02.632 เลขหนึ่ง ไม่ใช่จำนวนเฉพาะ 0:04:02.632,0:04:05.172 พิสูจน์นั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเอาโชว์ในงานปาร์ตี้ 0:04:05.172,0:04:08.076 แต่มันคงสนุกแค่สำหรับบางปาร์ตี้นะครับ 0:04:08.076,0:04:11.066 (เสียงหัวเราะ) 0:04:11.066,0:04:14.728 อีกสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับจำนวนเฉพาะคือ [br]มันไม่มีจำนวนเฉพาะตัวสุดท้ายที่มากที่สุด 0:04:14.728,0:04:16.140 มันมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา 0:04:16.140,0:04:17.979 เรารู้ว่าปริมาณของจำนวนเฉพาะนั้นเป็นอนันต์ 0:04:17.979,0:04:19.929 เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ผู้ปราดเปรื่อง ยูคลิด 0:04:19.929,0:04:23.161 เมื่อหลายพันปีที่แล้ว เขาพิสูจน์ให้เราเห็น 0:04:23.161,0:04:24.858 แต่เรื่องที่สาม เกี่ยวกับจำนวนเฉพาะ 0:04:24.858,0:04:26.368 นักคณิตศาสตร์นั้นสงสัยตลอดมา 0:04:26.368,0:04:28.630 ว่า ณ เวลาหนึ่งๆ 0:04:28.630,0:04:31.433 จำนวนเฉพาะที่มากที่สุดที่เรารู้คือเลขอะไร? 0:04:31.433,0:04:35.741 วันนี้ เราจะตามล่าจำนวนเฉพาะมหึมาตัวนั้น 0:04:35.741,0:04:38.888 อย่าเพิ่งกลัวครับ 0:04:38.888,0:04:41.889 ทุกอย่างที่คุณต้องรู้ จากวิชาคณิตศาสตร์ทั้งหมด 0:04:41.889,0:04:46.374 ที่คุณเคยเรียนรู้, คืนอาจารย์ไปแล้ว, [br]พยายามอัดเข้าหัว, ลืมไปแล้ว 0:04:46.374,0:04:48.107 หรือไม่เคยเข้าใจตั้งแต่แรก 0:04:48.107,0:04:50.492 สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้คือ: 0:04:50.492,0:04:54.739 ถ้าผมบอกว่า 2^5 0:04:54.739,0:04:57.586 ผมหมายถึงเลข 2 ตัวน้อยๆ 5 ตัว วางเรียงกัน 0:04:57.586,0:04:58.881 แล้วคูณทุกตัวเข้าด้วยกัน 0:04:58.881,0:05:02.097 2 x 2 x 2 x 2 x 2 0:05:02.097,0:05:05.501 ดังนั้น 2 ^ 5 คือ 2 x 2 = 4 0:05:05.501,0:05:07.681 8, 16, 32 0:05:07.681,0:05:11.195 ถ้าคุณเข้าใจ คุณตามผมทันตลอดทางแน่นอน [br]โอเคไหมครับ? 0:05:11.195,0:05:13.167 ดังนั้น 2 ^ 5 0:05:13.167,0:05:14.879 เลขสอง 5 ตัวคูณเข้าด้วยกัน 0:05:14.879,0:05:19.142 (2 ^ 5) -1 = 31 0:05:19.142,0:05:22.453 31 เป็นจำนวนเฉพาะ และเลข 5 ซึ่งเป็นเลขยกำลัง 0:05:22.453,0:05:24.998 ก็เป็นจำนวนเฉพาะด้วยเช่นกัน 0:05:24.998,0:05:28.502 และเลขจำนวนเฉพาะขนาดยักษ์ ที่เราค้นพบนั้น 0:05:28.502,0:05:29.738 จำนวนมากมายได้มาจากรูปแบบนั้น 0:05:29.738,0:05:33.017 สองยกกำลังด้วยจำนวนเฉพาะ ลบออกหนึ่ง 0:05:33.017,0:05:35.434 ผมคงไม่ลงรายละเอียดลึกว่าทำไม 0:05:35.434,0:05:38.185 ขืนผมทำอย่างนั้น [br]คุณคงต้องดูกันจนเลือดตากระเด็นแน่ๆ 0:05:38.185,0:05:42.396 เอาเป็นว่า ตัวเลขที่อยู่ในรูปนั้น 0:05:42.396,0:05:45.859 จะสามารถนำไปทดสอบได้ง่ายๆ [br]ว่าเป็นจำนวนเฉพาะหรือไม่ 0:05:45.859,0:05:49.459 เลขคี่ที่สุ่มขึ้นมานั้น ทดสอบยากกว่ามาก 0:05:49.459,0:05:51.380 เมื่อเราเริ่มตามล่าจำนวนเฉพาะขนาดยักษ์ 0:05:51.380,0:05:53.219 เรารู้ว่ามันไม่ใช่เพียง 0:05:53.219,0:05:55.960 แค่การเอาเลขจำนวนเฉพาะมายกกำลัง 0:05:55.960,0:05:58.557 (2 ^ 11) -1 = 2,047 0:05:58.557,0:06:01.925 ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่ามันคือ 23 x 89 0:06:01.925,0:06:04.051 (เสียงหัวเราะ) 0:06:04.051,0:06:07.291 แต่ (2 ^ 13) - 1, (2 ^ 17) - 1 0:06:07.291,0:06:10.648 (2 ^ 19) -1 ทั้งหมดนี้คือจำนวนเฉพาะ 0:06:10.648,0:06:13.517 หลังจากจุดนั้น มันหายากขึ้นมาก 0:06:13.517,0:06:15.647 และสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับการค้นหา[br]เลขจำนวนเฉพาะขนาดยักษ์ 0:06:15.647,0:06:18.786 ที่ผมชื่นชอบมาก นั่นคือ นักคณิตศาสตร์เก่งๆ ชั้นครู 0:06:18.786,0:06:21.303 ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ก็ร่วมในการค้นหานี้ 0:06:21.303,0:06:24.040 นี่คือนักวิทยาศาสตร์ชาวสวิสซ์ผู้ยิ่งใหญ่ [br]ลีโอนาร์ด ออยเลอร์ (Leonhard Euler) 0:06:24.040,0:06:26.501 ในปีช่วงปี 1700-1800 นักคณิตศาสตร์อื่นๆ กล่าวว่า 0:06:26.501,0:06:29.533 เขาเป็นเจ้าเหนือหัวของพวกเราทั้งหมด 0:06:29.533,0:06:32.721 เขาเป็นที่เคารพมากจนกระทั่ง [br]ภาพของเขาได้อยู่บนสกุลเงินยูโร 0:06:32.721,0:06:35.366 ในสมัยที่นั่นถือเป็นการให้เกียรตินะครับ 0:06:35.366,0:06:40.346 (เสียงหัวเราะ) 0:06:40.346,0:06:43.429 ออยเลอร์ค้นพบ[br]สิ่งที่ถือเป็นจำนวนเฉพาะที่มากที่สุดในเวลานั้น 0:06:43.429,0:06:45.216 (2 ^ 31) -1 0:06:45.216,0:06:47.564 มันมากกว่า 2,000 ล้าน 0:06:47.564,0:06:49.599 เขาพิสูจน์ว่ามันเป็นจำนวนเฉพาะด้วยเพียง 0:06:49.599,0:06:53.387 แค่ปากกาขนนก หมึก กระดาษ และมันสมองของเขา 0:06:53.387,0:06:54.341 คุณคิดว่ามันใหญ่แล้วใช่ไหม 0:06:54.341,0:06:57.618 เรารู้ว่า (2 ^ 127) - 1 0:06:57.618,0:06:59.212 เป็นจำนวนเฉพาะ 0:06:59.212,0:07:00.856 มันคือความทารุณโดยแท้ 0:07:00.856,0:07:04.861 ดูนี่ครับ เลข 39 หลัก 0:07:04.861,0:07:08.224 ถูกพิสูจน์ว่าเป็นจำนวนเฉพาะในปี 1876 0:07:08.224,0:07:10.288 โดยนักคณิตศาสตร์ชื่อลูคัส 0:07:10.288,0:07:12.224 สุดยอดเลย พี่ลูฯ 0:07:12.224,0:07:13.969 (เสียงหัวเราะ) 0:07:13.969,0:07:16.363 แต่หนึ่งในความยิ่งใหญ่[br]ของการค้นหาจำนวนเฉพาะขนาดยักษ์นั้น 0:07:16.363,0:07:17.560 ไม่ใช่แค่เพียงการหาจำนวนเฉพาะที่ว่า 0:07:17.560,0:07:21.811 บางครั้งการพิสูจน์ว่าเลขอีกตัวไม่ใช่จำนวนเฉพาะ [br]ก็น่าตื่นเต้นพอๆ กัน 0:07:21.811,0:07:27.593 และก็ลูคัสอีกเช่นกัน ในปี 1876 [br]แสดงให้เราเห็นว่า (2 ^ 67) -1 0:07:27.593,0:07:30.269 ซึ่งเป็นเลขยาว 21 หลัก นั้นไม่ใช่จำนวนเฉพาะ 0:07:30.269,0:07:32.698 แต่เขาไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวคูณ 0:07:32.698,0:07:34.483 เรารู้ว่ามันเหมือนกับเลข 6 0:07:34.483,0:07:36.904 แต่ไม่รู้ส่วนที่เป็น 2 x 3 ที่เอามาคูณกันแล้ว 0:07:36.904,0:07:38.154 จะได้เลขมหึมาตัวนั้น 0:07:38.154,0:07:40.195 เราไม่รู้จนกระทั่งต่อมาอีก 40 ปี 0:07:40.195,0:07:43.117 จนถึงยุคของ แฟรงค์ เนลสัน โคล 0:07:43.117,0:07:45.495 และที่งานชุมนุมของนักคณิตศาสตร์อเมริกันผู้สูงส่ง 0:07:45.495,0:07:49.291 เข้าเดินไปที่กระดานดำ หยิบชอล์กขึ้นมา 0:07:49.291,0:07:52.056 แล้วเริ่มเขียนเลขยกกำลังของสอง 0:07:52.056,0:07:55.177 สอง, สี่, แปด, 16 -- 0:07:55.177,0:07:56.833 มาครับ ช่วยผมหน่อย คุณรู้ว่าต่อไปจะเป็นอะไร 0:07:56.833,0:08:00.699 32, 64, 128, 256, 0:08:00.699,0:08:05.355 512, 1,024, 2,048 0:08:05.355,0:08:07.907 นี่ผมคงอยู่ในสวรรค์แห่งพวกบ้าตำรา [br]เราจะหยุดไว้ตรงนี้สักครู่ 0:08:07.907,0:08:10.677 แฟรงค์ เนลสัน โคล ไม่ได้หยุดแค่นั้น 0:08:10.677,0:08:12.340 เขาไปต่อเรื่อยๆ 0:08:12.340,0:08:16.009 และคำนวณ 2 ยกกำลัง 67 0:08:16.009,0:08:18.501 เขาลบออกหนึ่ง แล้วเขียนเลขนั้นบนกระดาน 0:08:18.501,0:08:22.842 เสียงซุบซิบแห่งความตื้นเต้นเริ่มดังขึ้นในห้อง 0:08:22.842,0:08:25.104 มันยิ่งน่าตื่นเต้น เมื่อเขาเขียน 0:08:25.104,0:08:29.503 เลขจำนวนเฉพาะขนาดยักษ์สองตัวนี้ ในรูปการคูณกัน 0:08:29.509,0:08:33.416 และในเวลาชั่วโมงที่เหลือของปาถกฐาของเขา 0:08:33.416,0:08:38.049 แฟรงค์ เนลสัน โคล คูณมันออกมา 0:08:38.049,0:08:40.223 เขาค้นพบตัวคูณร่วมที่เป็นจำนวนเฉพาะ 0:08:40.223,0:08:42.633 ของ (2 ^ 67) - 1 0:08:42.633,0:08:45.135 ทั้งห้องแทบคลั่ง 0:08:45.135,0:08:46.955 (เสียงหัวเราะ) 0:08:46.955,0:08:48.997 ขณะที่ แฟรงค์ เนลสัน โคล นั่งลง 0:08:48.997,0:08:52.344 หลังจากเสร็จสิ้นปาถกฐา[br]หนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์ของคณิตศาสตร์ 0:08:52.344,0:08:55.153 ที่ไม่ต้องพูดเลย 0:08:55.153,0:08:57.840 เขายอมรับในภายหลังว่า มันไม่ยากเลย 0:08:57.840,0:09:00.490 มันแค่อาศัยสมาธิ และการอุทิศตนอย่างสูง 0:09:00.490,0:09:02.490 โดยการประมาณของเขา เขาใช้เวลาไปทั้งหมด 0:09:02.490,0:09:06.461 "สามปีของวันอาทิตย์" 0:09:06.461,0:09:08.799 แต่หลังจากนั้น ในสาขาของคณิตศาสตร์ 0:09:08.799,0:09:11.914 เช่นเดียวกับอีกหลากหลายสาขา[br]ที่เราได้ฟังใน TED ครั้งนี้ 0:09:11.914,0:09:16.257 ก็มาถึงยุคแห่งคอมพิวเตอร์ [br]แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็บรรเจิด 0:09:16.257,0:09:18.694 เหล่านี้คือจำนวนเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดที่เรารู้ 0:09:18.694,0:09:22.101 ในแต่ละทศวรรษ [br]แต่ละตัวทำให้เลขตัวก่อนหน้านั้นจิ๊บจ๊อยไปเลย 0:09:22.101,0:09:25.301 ในขณะที่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท [br]และพลังในการคำนวณของเรา 0:09:25.301,0:09:27.213 ก็สูงขึ้นเรื่อยๆ 0:09:27.230,0:09:30.295 นี่คือจำนวนเฉพาะที่มากที่สุดที่เรารู้ในปี 1996 0:09:30.295,0:09:32.315 เป็นปีที่แสนอาลัยของผม 0:09:32.315,0:09:34.250 มันเป็นปีที่ผมจบมหาลัย 0:09:34.250,0:09:36.875 ผมเลือกไม่ถูกระหว่างคณิตศาสตร์ [br]หรือสื่อสารมวลชน 0:09:36.875,0:09:39.330 มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก ผมรักชีวิตมหาลัย 0:09:39.330,0:09:43.203 ปริญญาด้านศิลปศาสตร์ของผม [br]คือเก้าปีครึ่งที่ผมมีความสุขที่สุด 0:09:43.203,0:09:45.786 (เสียงหัวเราะ) 0:09:45.786,0:09:49.413 แต่ผมก็ได้ตระหนักถึงความสามารถของผม 0:09:49.413,0:09:52.930 ง่ายๆ คือ ในห้องที่เต็มไปด้วยคนทั่วๆ ไป 0:09:52.930,0:09:54.805 ผมคืออัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ 0:09:54.805,0:09:56.882 แต่ในห้องที่เต็มไปด้วยเด็กปริญญาเอกด้านคณิตศาสตร์ 0:09:56.882,0:10:00.611 ผมจะกลายเป็นไอ้ทึ่มไปเลย 0:10:00.611,0:10:02.358 ทักษะของผมไม่ใช่ด้านคณิตศาสตร์ 0:10:02.358,0:10:06.250 หากแต่อยู่ในการเล่าเรื่องของคณิตศาสตร์ 0:10:06.250,0:10:08.436 ในขณะนั้น ที่ผมเพิ่งจบมหาลัย 0:10:08.436,0:10:10.572 เลขเหล่านั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ 0:10:10.572,0:10:12.338 เลขแต่ละตัวใหญ่กว่าตัวก่อนหน้ามัน 0:10:12.338,0:10:17.231 แล้วชายคนนี้ก็เข้ามา ดร.เคอร์ติส คูเปอร์ 0:10:17.231,0:10:20.590 ผู้ซึ่งเมื่อสองสามปีก่อน[br]ครองสถิติเลขจำนวนเฉพาะที่ใหญ่ที่สุด 0:10:20.590,0:10:23.895 แล้วก็ต้องเห็นสถิตินั้นถูกชิง[br]โดยมหาลัยคู่แข่งต่อหน้าต่อตา 0:10:23.895,0:10:28.072 แต่จากนั้นเคอร์ติส คูเปอร์ก็ชิงมันคืนมา 0:10:28.072,0:10:33.399 ไม่ใช่ปีก่อน ไม่ใช่เดือนก่อน แต่เป็นไม่กี่วันก่อนหน้านี้ 0:10:33.399,0:10:35.043 ในช่วงเวลาอันน่าอัศจรรย์ใจกับความบังเอิญนี้ 0:10:35.043,0:10:39.195 ผมต้องส่งไสลด์ชุดใหม่ให้ TED 0:10:39.195,0:10:41.205 เพื่อแสดงให้คุณเห็นสิ่งที่เขาได้ทำ 0:10:41.205,0:10:43.855 ผมยังจำได้ -- (เสียงปรบมือ) -- 0:10:43.855,0:10:45.358 ผมยังจำได้ถึงตอนที่มันเกิดขึ้น 0:10:45.358,0:10:46.806 ผมกำลังดำเนินรายการวิทยุยามเช้าของผม 0:10:46.806,0:10:48.178 ผมเหลือบไปเห็นใน ทวิตเตอร์ [br]มันมีข้อความหนึ่งขึ้นว่า: 0:10:48.178,0:10:50.483 "อดัม [br]คุณเห็นเลขจำนวนเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดตัวใหม่หรือยัง" 0:10:50.483,0:10:51.897 ผมถึงกับตัวสั่น 0:10:51.897,0:10:53.637 (เสียงหัวเราะ) 0:10:53.637,0:10:56.719 รีบติดต่อเหล่าสาวๆ ผู้ผลิตรายการวิทยุของผม [br]ที่อยู่อีกห้องหนึ่ง 0:10:56.719,0:10:59.170 และพูดว่า "สาวๆ เตรียมที่พาดหัวข่าวเลย" 0:10:59.170,0:11:00.630 วันนี้เราไม่คุยเรื่องการเมือง 0:11:00.630,0:11:02.587 เราไม่คุยเรื่องกีฬา 0:11:02.587,0:11:04.917 เขาเจอจำนวนเฉพาะยักษ์ อีกตัวหนึ่งแล้ว" 0:11:04.917,0:11:06.429 พวกสาวๆ ได้แต่ส่ายหัว 0:11:06.429,0:11:08.666 ซบหน้าลงบนฝ่ามือ แล้วปล่อยให้ผมพร่ำต่อไป 0:11:08.666,0:11:11.242 นั่นเป็นเพราะ เคอรติส คูเปอร์ที่เรารู้จัก 0:11:11.242,0:11:13.571 เลขจำนวนเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดที่เรารู้จัก 0:11:13.571,0:11:21.581 คือ 2 ^ 57,885,161 0:11:21.581,0:11:24.384 อย่าลืมลบหนึ่งด้วยนะ 0:11:24.384,0:11:31.608 ตัวเลขนี้ยาวถึงเกือบ 17.5 ล้านหลัก 0:11:31.608,0:11:35.034 ถ้าคุณพิมพ์มันในคอมพิวเตอร์[br]แล้วบันทึกมันเป็นไฟล์ข้อความ 0:11:35.034,0:11:37.829 มันจะกินที่ 22 เมกะไบต์ 0:11:37.829,0:11:39.873 สำหรับพวกคุณที่บ้าตำราน้อยหน่อย 0:11:39.873,0:11:42.010 นึกถึงนิยาย แฮรี พอตเตอร์ นะครับ 0:11:42.010,0:11:44.360 นี่คือ แฮรี พอตเตอร์ เล่มแรก 0:11:44.360,0:11:46.062 นี่คือ แฮรี พอตเตอร์ ทั้งเจ็ดเล่ม 0:11:46.062,0:11:48.424 คือ เธอ [J K Rowling] [br]ชอบยืดเยื้อเกินไปหน่อยตอนท้ายๆ เรื่องน่ะครับ 0:11:48.424,0:11:51.943 (เสียงหัวเราะ) 0:11:51.943,0:11:54.255 ถ้าเขียนเป็นหนังสือ เลขตัวนี้จะเทียบเท่ากับ 0:11:54.255,0:11:58.730 ความยาวของนิยายแฮรี พอตเตอร์ หนึ่งชุดครึ่ง 0:11:58.730,0:12:04.269 นี่คือสไลด์แสดง 1,000 หลักแรก[br]ของจำนวนเฉพาะตัวนี้ 0:12:04.269,0:12:07.390 ถ้า TED เริ่มตอน 11 โมงเช้าวันอังาร 0:12:07.390,0:12:11.958 ผมคงเดินลง แล้วปล่อยให้สไลด์เลื่อนเองหน้าละวินาที 0:12:11.958,0:12:17.328 จะต้องใช้เวลาถึงห้าชั่วโมง[br]เพื่อแสดงเลขตัวนั้นให้คุณดู 0:12:17.328,0:12:20.294 ผมอยากทำแบบนั้นมาก แต่โน้มน้าวโบโน่ไม่ได้ 0:12:20.294,0:12:22.897 เลยลงเอยแบบนี้ 0:12:22.897,0:12:27.317 เลขตัวนี้ยาวถึง 17,500 สไลด์ 0:12:27.317,0:12:31.440 และเรามั่นใจว่ามันเป็นจำนวนเฉพาะ 0:12:31.440,0:12:34.814 เช่นเดียวกับที่เรามั่นใจว่า 7 เป็นจำนวนเฉพาะ 0:12:34.814,0:12:40.500 มันทำให้ผม [br]แทบจะเต็มไปด้วยอารมณ์ทางเพศเลยครับ 0:12:40.500,0:12:42.683 ผมโกหกนะครับ ที่บอกว่า "แทบจะ" น่ะ 0:12:42.683,0:12:45.245 (เสียงหัวเราะ) 0:12:45.245,0:12:46.896 ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่: 0:12:46.896,0:12:51.875 อดัม พวกเราดีใจที่เห็นคุณมีความสุขนะ 0:12:51.875,0:12:54.373 แต่ทำไมเราต้องสนใจด้วย? 0:12:54.373,0:12:57.083 ให้ผมให้เหตุผลคุณสัก 3 ข้อ[br]ทำไมสิ่งนี้จึงช่างสวยงามนัก 0:12:57.083,0:13:00.634 ข้อแรก ดังที่กล่าวไปแล้ว การที่จะถามคอมพิวเตอร์ 0:13:00.634,0:13:03.713 ว่า "นี่เป็นเลขจำนวนเฉพาะหรือเปล่า?" [br]การที่จะพิมพ์มันลงไปในรูปแบบย่อ 0:13:03.713,0:13:07.915 แล้วต่อด้วยอีกหกบรรทัดของโปรแกรม [br]ที่จะทดสอบมันว่าเป็นจำนวนเฉพาะ 0:13:07.915,0:13:10.236 มันเป็นคำถามที่ง่ายเหลือเชื่อ 0:13:10.236,0:13:13.249 มันมีคำตอบว่า ใช่/ไม่ใช่ อย่างชัดเจน 0:13:13.249,0:13:15.806 มันแค่ต้องใช้โคตรของความถึก 0:13:15.806,0:13:17.975 จำนวนเฉพาะตัวใหญ่ๆ คือวิธีอันยอดเยี่ยม 0:13:17.975,0:13:20.608 ที่จะทดสอบความเร็วและความแม่นยำ[br]ของหน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์ 0:13:20.608,0:13:23.409 ข้อที่สอง ขณะที่เคอร์ติส คูเปอร์ [br]กำลังตามล่าจำนวนเฉพาะยักษ์อยู่นั้น 0:13:23.409,0:13:25.334 เขาไม่ใช่คนเดียวที่กำลังตามล่า 0:13:25.334,0:13:26.519 เครื่องโน้ตบุ๊คที่บ้านผมก็กำลังตรวจสอบ 0:13:26.519,0:13:28.794 เลขผู้ท้าชิงอีก 4 ตัวเช่นกัน 0:13:28.794,0:13:32.450 เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายคอมพิวเตอร์กระจายทั่วโลก 0:13:32.450,0:13:33.705 เพื่อตามล่าเลขยักษ์เหล่านี้ 0:13:33.705,0:13:35.634 การค้นพบจำนวนเฉพาะตัวนั้น มันคล้ายกับ 0:13:35.634,0:13:38.836 งานของกลุ่มคนที่วิจัยเพื่อถอดรหัสลำดับ RNA 0:13:38.836,0:13:41.908 คล้ายกับการวิเคราะห์ข้อมูลจาก SETI [br]และโครงการดาราศาสตร์อื่นๆ 0:13:41.908,0:13:45.150 เรามีชีวิตอยู่ในช่วงที่การค้นพบอันยิ่งใหญ่ 0:13:45.150,0:13:47.669 ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องวิจัย [br]หรือห้องโถงของสถาบันศึกษา 0:13:47.669,0:13:48.995 ในเป็นในคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป, เดสก์ทอป, 0:13:50.321,0:13:51.649 ในอุ้งมือของผู้คน 0:13:51.649,0:13:55.062 ผู้เพียงแค่มีส่วนช่วยในการค้นหา 0:13:55.062,0:13:57.391 แต่สำหรับผม มันมหัศจรรย์เพราะมันคืออุปมา 0:13:57.391,0:13:59.328 สำหรับช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ 0:13:59.328,0:14:04.172 ที่ซึ่งจิตใจของมนุษย์และเครื่องจักรมีชัยชนะร่วมกัน 0:14:04.172,0:14:06.531 เราได้ฟังหลากเรื่องราวเกี่ยวกับหุ่นยต์ใน TED ครั้งนี้ 0:14:06.531,0:14:08.141 เราได้ฟังหลากเรื่องราวว่ามันทำอะไรได้ [br]หรือทำอะไรไม่ได้ 0:14:08.141,0:14:10.663 จริงอยู่ คุณสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมทางมือถือ 0:14:10.663,0:14:14.558 ที่จะเอาชนะปรมาจารย์หมากรุกได้ 0:14:14.558,0:14:16.022 คุณคิดว่านั่นเจ๋งแล้วใช่ไหม 0:14:16.022,0:14:18.588 เครื่องจักรที่ทำได้อย่างนี้ต่างหาก ถึงเรียกว่าเจ๋ง 0:14:18.588,0:14:20.774 นี่คือ คิวบ์สตอร์มเมอร์ 2 0:14:20.774,0:14:24.595 มันสามารถแก้ลูกบาศก์รูบิค ที่ถูกบิดแบบสุ่มๆ 0:14:24.595,0:14:27.161 โดยใช้พลังของสมาร์ทโฟน 0:14:27.161,0:14:34.354 มันสามารถตรวจสอบลูกบาศก์ และแก้ลูกบาศก์ 0:14:34.354,0:14:37.053 ได้ใน 5 วินาที 0:14:37.053,0:14:40.934 (เสียงปรบมือ) 0:14:40.934,0:14:44.999 บางคนกลัวมัน แต่มันทำให้ผมตื่นเต้น 0:14:44.999,0:14:48.230 เราโชคดีแค่ไหนที่มีชีวิตอยู่ในยุคนี้ 0:14:48.230,0:14:51.523 ยุคที่จิตใจและเครื่องจักรสามารถทำงานร่วมกัน 0:14:51.523,0:14:53.795 ผมเคยถูกถามในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว 0:14:53.795,0:14:56.783 ในฐานะนักแสดงตกอับในออสเตรเลีย 0:14:56.783,0:14:58.788 "อะไรคือไฮไลท์สำหรับคุณในปี 2012" 0:14:58.788,0:15:00.250 ผู้คนต่างหวังให้ผมพูดเกี่ยวกับ 0:15:00.250,0:15:02.918 ทีมฟุตบอลซิดนีย์ สวอนส์ ที่ผมชื่นชอบ 0:15:02.918,0:15:05.926 ฟุตบอลออสเตรเลียนั้น เป็นกีฬาพื้นเมืองอันสวยงาม 0:15:05.926,0:15:08.060 มันเทียบได้กับศึกซุปเปอร์โบวล์เลย 0:15:08.060,0:15:11.051 ผมไปเชียร์ด้วย มันเป็นวันที่น่าตื่นเต้น 0:15:11.051,0:15:13.165 แต่นั้นไม่ใช่ไฮไลท์ปี 2012 ของผม 0:15:13.165,0:15:15.128 ผู้คนคิดว่าคงจะเป็นบทสัมภาษณ์จากรายการของผม 0:15:15.128,0:15:17.196 คงสัมภาษณ์นักการเมือง หรือการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ 0:15:17.196,0:15:19.251 คงเป็นหนังสือที่ผมอ่าน ศิลปะต่างๆ ไม่ใช่เลย 0:15:19.251,0:15:21.415 คงจะเป็นบางสิ่งที่ลูกสาวที่น่ารักทั้งสองของผมทำ 0:15:21.415,0:15:24.994 ก็ไม่ใช่อีก [br]ไฮไลท์ปี 2012 ของผมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย 0:15:24.994,0:15:28.626 คือการค้นพบ ฮิกซ์ โบซอน 0:15:28.626,0:15:31.302 ขอเสียงปรบมือให้กับอนุภาคพื้นฐาน 0:15:31.302,0:15:34.307 ที่ให้มวลแก่อนุภาคอื่นๆ ที่เหลือครับ 0:15:34.307,0:15:35.803 (เสียงปรบมือ) 0:15:35.803,0:15:38.616 และที่มันช่างสวยงามเกี่ยวกับการค้นพบครั้งนี้ 0:15:38.616,0:15:40.852 คือ 50 ปีที่แล้ว ปีเตอร์ ฮิกส์ และทีมของเขา 0:15:40.852,0:15:43.262 ใคร่ครวญปัญหาที่ลึกสุดหยั่งถึง: 0:15:43.262,0:15:47.902 ทำไมสิ่งที่สร้างเป็นตัวเราขึ้นมาไม่มีมวล? 0:15:47.902,0:15:52.361 ผมมีมวลแน่ๆ แต่มันมาจากไหน? 0:15:52.361,0:15:54.175 เขาตั้งสมมติฐานว่า 0:15:54.175,0:15:57.845 มีสนามที่เล็กเป็นอนันต์ 0:15:57.845,0:15:59.963 แผ่ขยายไปทั่วจักรวาล 0:15:59.963,0:16:02.048 และในขณะที่อนุภาคอื่นๆ วิ่งผ่านอนุภาคเหล่านั้น 0:16:02.048,0:16:04.440 และเกิดปฏิสัมพันธ์กัน [br]และนั่นทำให้พวกมันได้มาซึ่งมวล 0:16:04.440,0:16:06.897 นักวิทยาศาสตร์อื่นๆ บอกว่า 0:16:06.897,0:16:08.506 "ความคิดยอดไปเลย ฮิกซ์ 0:16:08.506,0:16:10.192 แต่ไม่รู้ว่าจะหาทางพิสูจน์มันได้ยังไง 0:16:10.192,0:16:12.300 มันเกินความสามารถเรานะ" 0:16:12.300,0:16:14.797 และภายใน 50 ปี 0:16:14.797,0:16:20.681 ในช่วงชีวิตเขา โดยเขานั่งอยู่ในกลุ่มผู้ฟัง 0:16:20.681,0:16:24.313 เราได้ออกแบบเครื่องจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 0:16:24.313,0:16:27.379 เพื่อพิสูจน์แนวคิดอันเหลือเชื่อนี้ 0:16:27.379,0:16:31.342 อันเกิดขึ้นมาจากเพียงในสมองมนุษย์ 0:16:31.342,0:16:33.874 นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นเกี่ยวกับจำนวนเฉพาะ 0:16:33.874,0:16:35.960 เราคิดว่ามันคงมีอยู่จริง 0:16:35.960,0:16:38.380 เราออกค้นหา และเจอมัน 0:16:38.380,0:16:42.280 นี่คือจิตวิญญาณแห่งมนุษย์ 0:16:42.280,0:16:45.954 นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นเรา 0:16:45.954,0:16:47.923 หรือหากกล่าวอย่างที่ เดการ์ต เคยพูดไว้ 0:16:47.923,0:16:49.636 เพราะเราคิด 0:16:49.636,0:16:52.049 เราจึงเป็นมีอยู่ 0:16:52.049,0:16:53.440 ขอบคุณครับ 0:16:53.440,0:16:59.041 (เสียงปรบมือ)