1 00:00:00,303 --> 00:00:04,810 สมมุติว่า คุณก็เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างใดอย่างหนึ่ง 2 00:00:04,810 --> 00:00:08,267 อาจจะ้เป็นภาพยนตร์ อาจจะเป็นดนตรีบางประเภท 3 00:00:08,267 --> 00:00:10,918 และคุณสำรวจพบว่า มีเว็บไซด์ที่ดำเนินการ 4 00:00:10,918 --> 00:00:14,025 นอกประเทศสหรัฐอเมริกาและ เว็บดังกล่าวเอาผลงานของคุณไป 5 00:00:14,041 --> 00:00:20,000 เหมือนเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายลิขสิทธิ์ของสหรัฐอเมริกา 6 00:00:20,000 --> 00:00:28,933 ดังนั้นเว็บดังกล่าวก็จะถูกตั้งคำถาม มันเหมือนกับว่าเว็บนั้นทำอะไรบางอย่างที่ผิดกฎหมาย อย่างน้อยตามมาตรฐานของอเมริกา 7 00:00:28,933 --> 00:00:30,867 ปัญหาคือ คุณทำอะไรเว็บดังกล่าวไม่ได้ 8 00:00:30,867 --> 00:00:34,200 เพราะมันกระทำนอกเหนืออำนาจของกฎหมายสหรัญอเมริกา 9 00:00:34,200 --> 00:00:37,800 คุณสามารถไปที่สภา หรือถึงแม้ว่ารัฐบาลสหรัฐต้องการจัดการปัญหาดังกล่าว 10 00:00:37,800 --> 00:00:42,267 แต่มันก็ทำไม่ได้ เพราะมันอยู่นอกเขตอำนาจกฎหมายสหรัฐอเมริกานั่นแหละ 11 00:00:42,267 --> 00:00:45,800 ดังนั้น หลักการของ SOPA ซึ่งมีวิธีจัดการเนื้อร้ายดังกล่าวในขั้นต้น 12 00:00:45,800 --> 00:00:49,600 นั่นคือ ให้เครื่องมือบางอย่างที่จะหยุดยั้งเว็บดังกล่าว 13 00:00:49,600 --> 00:00:52,667 แต่ปัญหาดังกล่าวมันเป็นปัญหาใหญ่ 14 00:00:52,667 --> 00:00:56,667 ดังนั้นจึงให้เครื่องมือไปจัดการที่มากกว่าการหยุดยั้งการกระทำที่ผิดกฎหมาย 15 00:00:56,667 --> 00:01:00,867 กฎหมายนี้อนุญาตในการจัดการที่มากกว่าเดิม เหมือนดั่งยุทธการล่าแม่มด 16 00:01:00,867 --> 00:01:04,867 กล่าวคือ ใครก็ตามที่เข้าข่ายจะกระทำผิดในเรื่องลิขสิทธิ์นี้ 17 00:01:07,867 --> 00:01:10,200 เราจะเขียนมันนะครับ SOPA ย่อมาจาก 18 00:01:10,200 --> 00:01:12,533 Stop Online Piracy Act -