WEBVTT 00:00:02.060 --> 00:00:05.170 ในวิดีโอนี้, เราจะพูดถึงสิ่งที่อาจเรียกได้ว่า 00:00:05.170 --> 00:00:10.040 เป็นหลักการสำคัญที่สุดในวิชาสถิติทั้งหมด 00:00:10.040 --> 00:00:13.570 ถ้าคุณดูในทุกสาขาทางวิทยาศาสตร์ คุณอาจ 00:00:13.570 --> 00:00:15.760 บอกได้ว่า มันคือหลักการที่สำคัญที่สุด 00:00:15.760 --> 00:00:19.000 ผมมักบอกคนอื่นว่า มันน่าเศร้าที่เขาไม่ได้พูดถึง 00:00:19.000 --> 00:00:21.560 เรื่องนี้หลักสูตรหลัก 00:00:21.560 --> 00:00:23.900 ทุกคนควรรู้จักมัน เพราะมันเกี่ยวข้องกับ 00:00:23.900 --> 00:00:27.590 ทุกแง่มุมในชีวิต มันคือการกระจายตัวแบบปกติ 00:00:27.590 --> 00:00:31.000 หรือการกระจายตัวแบบเกาส์ หรือโค้งระฆัง 00:00:31.000 --> 00:00:35.270 และเพื่อเป็นการแนะนำให้คุณรู้จักมัน, 00:00:35.270 --> 00:00:39.970 บทนำนี้อาจดูแปลกหน่อย แต่เมื่อเรา 00:00:39.970 --> 00:00:41.880 ผ่านวิดีโอนี้ไป หวังว่าคุณจะได้สัญชาตญาณ 00:00:41.880 --> 00:00:45.040 ว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไร 00:00:45.040 --> 00:00:47.740 การกระจายตัวแบบเกาส์ หรือการกระจายตัวแบบปกติ 00:00:47.740 --> 00:00:50.250 สองคำนี้หมายถึงของอย่างเดียวกัน 00:00:50.250 --> 00:00:52.930 ที่จริงแล้วเกาส์ เป็นคนที่ตั้งมันขึ้นมา 00:00:52.930 --> 00:00:56.200 ผมว่าเขากำลังศึกษาปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ 00:00:56.200 --> 00:00:57.190 ตอนที่เขาคิดขึ้น 00:00:57.190 --> 00:00:59.740 มันก็คือฟังก์ชันความหนาแน่นของความน่าจะเป็น อย่างที่เราเรียน 00:00:59.740 --> 00:01:00.990 การกระจายตัวแบบปัวซอง 00:01:00.990 --> 00:01:02.080 มันเป็นแบบนั้น 00:01:02.080 --> 00:01:05.370 ให้คุณลองดู มันจะเป็นแบบนี้ 00:01:05.370 --> 00:01:08.760 ความน่าจะเป็นที่จะได้ x, มันคือชุด 00:01:08.760 --> 00:01:12.150 ฟังก์ชันการกระจายตัวของความน่าจะเป็น 00:01:12.150 --> 00:01:14.520 เช่นเดียวกับการกระจายตัวแบบทวินาม กับ 00:01:14.520 --> 00:01:18.740 การกระจายตัวแบบปัวซอง, มันขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์ต่างๆ 00:01:18.740 --> 00:01:20.930 นี่คือแบบที่คุณมักเห็นในหนังสือเรียนแบบดั้งเดิม 00:01:20.930 --> 00:01:23.340 หลายเล่ม และถ้าเรามีเวลา, ผมอยาก 00:01:23.340 --> 00:01:25.580 ใช้พีชคณิตจัดรูป ให้มันดูตรงกับสัญชาตญาณ 00:01:25.580 --> 00:01:26.540 ว่ามันเป็นอย่างไรอีกที 00:01:26.540 --> 00:01:29.140 หรือบางทีเราอาจได้แนวคิด 00:01:29.140 --> 00:01:30.140 ว่ามันมาจากไหน 00:01:30.140 --> 00:01:32.070 ผมจะไม่พิสูจน์มันในวิดีโอนี้, มันเกิน 00:01:32.070 --> 00:01:32.860 ขอบเขตมากไปหน่อย 00:01:32.860 --> 00:01:35.130 แม้ว่า, ผมอยากทำมัน และมันมีคณิตศาสตร์ 00:01:35.130 --> 00:01:38.570 เนี๊ยบมากที่อาจโผล่ขึ้นมา 00:01:38.570 --> 00:01:40.610 ถ้าคุณชอบคณิตศาสตร์ มันมีบางอย่างที่เรียกว่า 00:01:40.610 --> 00:01:42.650 สูตรของสเตอร์ลิง คุณอาจลองค้นหาในวิกิพีเดีย, 00:01:42.650 --> 00:01:43.770 มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก 00:01:43.770 --> 00:01:47.940 มันประมาณแฟคทอเรียล 00:01:47.940 --> 00:01:48.890 ให้เป็นฟังก์ชันต่อเนื่อง 00:01:48.890 --> 00:01:50.100 แต่ผมจะไม่พูดถึงมันตอนนี้ 00:01:53.160 --> 00:01:56.890 การกระจายตัวแบบปกติ คือ 1 ส่วน -- นี่คือวิธี 00:01:56.890 --> 00:01:59.890 ที่เขาเขียนโดยทั่วไป -- ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน คูณ 00:01:59.890 --> 00:02:08.230 สแควร์รูทของ 2 ไพ คูณ e กำลัง ลบ 1/2 00:02:08.230 --> 00:02:11.860 ทีนี้, ผมชอบเขียนมันแบบนี้, มันจำง่ายกว่า, 00:02:11.860 --> 00:02:17.470 คูณค่าอะไรก็ตามที่คุณจะหา ลบ ค่าเฉลี่ยของ 00:02:17.470 --> 00:02:21.210 การกระจายตัว หารด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของ 00:02:21.210 --> 00:02:24.950 การกระจายตัวกำลังสอง 00:02:24.950 --> 00:02:26.840 แล้วถ้าคุณคิดดู, มันเป็นสิ่งที่ดี 00:02:26.840 --> 00:02:28.280 ที่น่าลองสังเกตตรรงนี้ 00:02:28.280 --> 00:02:30.970 นี่คือระยะที่ผมห่างจากค่าเฉลี่ย และเราหารมัน 00:02:30.970 --> 00:02:33.220 ด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของการกระจายตัว 00:02:33.220 --> 00:02:35.480 นี่คือการดูกระจายตัวแบบปกติที่ผมได้พลอต 00:02:35.480 --> 00:02:38.500 เส้นสีม่วงตรงนี้ คือการกระจายตัวแบบปกติ 00:02:38.500 --> 00:02:40.830 ตอนแรก แบบฝึกหัดนี้ -- ผมรู้ว่าผมโดดไปโดดมามาก 00:02:40.830 --> 00:02:44.440 ไปหน่อย -- ผมอยากแสดงให้คุณเห็นว่าการกระจายตัวแบบปกติ 00:02:44.440 --> 00:02:49.110 เป็นการประมาณการกระจายตัวแบบทวินามที่ดี และในทางกลับกันด้วย 00:02:49.110 --> 00:02:52.420 ถ้าคุณสุ่มค่าจากการกระจายตัวแบบทวินามมากพอ และ 00:02:52.420 --> 00:02:54.970 เราจะพูดถึงเรื่องนั้นในไม่ช้า 00:02:54.970 --> 00:02:56.680 สัญชาตญาณของเทอมนี่ตรงนี้ ผมว่า 00:02:56.680 --> 00:03:00.530 มันน่าสนใจ เพราะเรากำลังบอกว่า ระยะที่เราห่างไป 00:03:00.530 --> 00:03:03.310 จากค่าเฉลี่ยนั้น เราจับมันหารด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:03:03.310 --> 00:03:07.700 ดังนั้นเทอมนี่ตรงนี้ คือจำนวนส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:03:07.700 --> 00:03:09.560 ที่เราห่างจากค่าเฉลี่ย 00:03:09.560 --> 00:03:12.130 นี่เรียกว่าคะแนน z มาตรฐาน 00:03:12.130 --> 00:03:15.570 สิ่งหนึ่งที่ผมพบในวิชาสถิติ คือมันมีนิยาม 00:03:15.570 --> 00:03:17.970 มากมาย และมันมีชื่อสวยหรูมาก, 00:03:17.970 --> 00:03:19.780 อย่างคะแนน z มาตรฐาน 00:03:19.780 --> 00:03:25.340 แต่หลักการเบื้องหลังนั้นตรงไปตรงมา 00:03:25.340 --> 00:03:29.545 สมมุติว่าผมมีการกระจายตัวความน่าจะเป็น และผมได้ค่า x 00:03:29.545 --> 00:03:32.380 ตรงนั้น และมันห่างจากค่าเฉลี่ย 3 ครึ่งเท่าของค่าเบี่ยงบน 00:03:32.380 --> 00:03:35.200 มาตรฐาน, แล้วคะแนน z มาตรฐาน 00:03:35.200 --> 00:03:36.490 คือ 3 ครึ่ง 00:03:36.490 --> 00:03:39.220 เอาล่ะ, กลับไปที่จุดประสงค์ของวิดีโอนี้ต่อ 00:03:39.220 --> 00:03:42.890 นั่นก็คือการกระจายตัวแบบปกติ, นั่นคือ 00:03:42.890 --> 00:03:44.930 หน้าตาของฟังก์ชันความหนาแน่นของความน่าจะเป็น สำหรับ 00:03:44.930 --> 00:03:46.350 การกระจายตัวแบบปตกิ 00:03:46.350 --> 00:03:49.370 แล้วมันมาจากไหน? 00:03:49.370 --> 00:03:51.100 ตอนท้ายวิดีโอนี้ อย่างน้อยคุณควรรู้สึก 00:03:51.100 --> 00:03:54.770 เข้าใจว่า นี่คือการประมาณกระจายตัวแบบทวินามที่ดี 00:03:54.770 --> 00:03:58.020 ถ้าคุณสุ่มตัวอย่างมามากพอ 00:03:58.020 --> 00:04:00.760 และนั่นคือสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับการการะจายตัวแบบปกติ 00:04:00.760 --> 00:04:03.940 คือว่า ถ้าคุณหาผลบวก -- ผมจะทำวิดีโออีกอันเกี่ยวกับ 00:04:03.940 --> 00:04:07.990 ทฤษฏีบทแนวโน้มสู่ศูนย์กลาง -- แต่ถ้าคุณหาผลบวก 00:04:07.990 --> 00:04:12.110 ของการสุ่มอิสระเข้าหาอนันต์, การกระจายตัว 00:04:12.110 --> 00:04:14.370 ของผลบวก, แม้ว่ากระจายตัวของการสุ่ม 00:04:14.370 --> 00:04:17.500 แต่ละตัวอาจไม่ใช่แบบปกติ แต่การกระจายตัว 00:04:17.500 --> 00:04:20.860 ของผลบวกของการสุ่มเหล่านั้นทั้งหมด จะเข้าหาการกระจายตัว 00:04:20.860 --> 00:04:21.490 แบบปกติ 00:04:21.490 --> 00:04:22.890 ผมจะพูดถึงมันอีกทีหลัง 00:04:22.890 --> 00:04:27.260 แต่นั่นคือสาเหตุที่มันเป็นการกระจายตัวที่ดี มันอยู่ใน 00:04:27.260 --> 00:04:28.750 ปรากฏการณ์ต่างๆ มากมาย 00:04:28.750 --> 00:04:31.490 ถ้าคุณสร้างแบบจำลองรูปแบบสภาพอากาศ หรือ 00:04:31.490 --> 00:04:34.790 ปฎิกิริยาของยา และเราจะพูดถึงอีกว่าเมื่อไหร่มันถึงใช้ได้ 00:04:34.790 --> 00:04:36.480 และเมื่อไหร่มันถึงใช้ไม่ได้ 00:04:36.480 --> 00:04:39.270 อยางเช่น บางครั้งบางคนสมมุติว่ามีการกระจายตัว 00:04:39.270 --> 00:04:42.190 แบบปกติในเรื่องการเงิน และเราเห็นแล้วว่ามีวิกฤตการเงิน 00:04:42.190 --> 00:04:44.120 เกิดขึ้น ซึ่งทำให้หลายอย่างพังไป 00:04:44.120 --> 00:04:45.860 เอาล่ะ, ลองทำกลับมาที่ตรงนี้ 00:04:45.860 --> 00:04:47.080 นี่คือตารางคำนวณตรงนี้ 00:04:47.080 --> 00:04:51.640 ผมทำฉากหลังเป็นสีดำ และคุณสามารถดาวน์โหลดมันได้ที่ 00:04:51.640 --> 00:05:01.810 khanacademy.org/downloads ที่จริง, ถ้าคุณเข้าไป, 00:05:01.810 --> 00:05:03.380 คุณจะเห็นสิ่งที่ดาวน์โหลดได้ทั้งหมด 00:05:03.380 --> 00:05:05.050 ผมยังไม่ได้ใส่มันไว้, ผมจะใส่ลงไปหลังจากที่ผม 00:05:05.050 --> 00:05:06.230 บันทึกวิดีโอเสร็จแล้ว downloads/normal 00:05:06.230 --> 00:05:06.470 distribution.xls 00:05:18.500 --> 00:05:21.640 ถ้าคุณเข้าไปที่ khanacademy.org/download/ 00:05:21.640 --> 00:05:23.100 คุณจะเห็นทุกอย่างตรงนี้ แล้วคุณจะเห็น 00:05:23.100 --> 00:05:23.880 ตารางคำนวณนี้ 00:05:23.880 --> 00:05:26.950 ผมแนะนำให้คุณลองเล่น หรือบางทีลองสร้างตารางคำนวณ 00:05:26.950 --> 00:05:28.660 ที่คุณทดลองเล่นกับมันได้ 00:05:28.660 --> 00:05:32.610 แล้วตารางคำนวณนี้ สิ่งที่เราทำคือ เราเล่นเกม หรือ 00:05:32.610 --> 00:05:35.540 สมมุติว่าผมนั่งอยู่บนถนน, แล้วผมโยนเหรียญ, ผมโยนเหรียญ 00:05:35.540 --> 00:05:37.240 ที่เที่ยงตรงโดยสมบูรณ์ 00:05:37.240 --> 00:05:44.560 ถ้าผมได้หัว, นี่คือหัว, ผมเดินถอยหลัง, หรือ 00:05:44.560 --> 00:05:45.970 สมมุติว่าผมเดินไปทางซ้าย 00:05:45.970 --> 00:05:50.990 แล้วถ้าผมได้ก้อย, ผมก้าวไปทางขวาหนึ่งก้าว 00:05:50.990 --> 00:05:53.940 โดยทั่วไป ผมจะมี -- นี่คือเหรียญที่เที่ยงตรง 00:05:53.940 --> 00:05:56.280 มาก -- ผมมีโอกาส 50 เปอร์เซ็นต์ที่จะ 00:05:56.280 --> 00:05:58.520 ไปทางซ้าย และผมมีโอกาส 50 เปอร์เซ็นต์ที่จะ 00:05:58.520 --> 00:05:59.630 ไปทางขวา 00:05:59.630 --> 00:06:03.000 แล้วสัญชาตญาณตรงนี้คือว่า ถ้าผมบอกคุณว่า โยนเหรียญ 00:06:03.000 --> 00:06:06.630 ทั้งหมด 100 ครั้ง แล้วคุณ 00:06:06.630 --> 00:06:07.540 ไปทางซ้ายทางขวา 00:06:07.540 --> 00:06:10.360 ถ้าคุณได้หัวมากๆ, คุณอาจไป 00:06:10.360 --> 00:06:13.100 ทางซ้ายมาก 00:06:13.100 --> 00:06:16.280 ถ้าคุณได้ก้อยมากๆ, คุณอาจไปทางขวามากๆ 00:06:16.280 --> 00:06:20.740 เรารู้แล้วว่า โอกาสที่จะได้ก้อยบ่อยๆ หรือ 00:06:20.740 --> 00:06:24.670 ก้อยมากกว่าหัวมากๆ นั้นต่ำกว่า 00:06:24.670 --> 00:06:28.690 การได้หัวก้อยเท่ากัน หรือพอๆ กัน 00:06:28.690 --> 00:06:36.590 ตรงนี้ สิ่งที่ผมทำ -- ขอผมเลื่อนลงหน่อยนะ 00:06:36.590 --> 00:06:48.980 ผมไม่อยากเสียทั้งหมดไป -- คือผมมี 00:06:48.980 --> 00:06:50.950 ข้อสมมุติตรงนี้ และผมแนะนำให้คุณลองใส่ 00:06:50.950 --> 00:06:52.320 และเปลี่ยนมันอย่างที่คุณต้องการ 00:06:52.320 --> 00:06:55.290 นี่คือจำนวนก้าวที่ผมเดิน 00:06:55.290 --> 00:06:58.980 นี่คือค่าเฉลี่ยของก้าวทางซ้าย และที่ผมทำคือ ผม 00:06:58.980 --> 00:07:01.260 หาความน่าจะเป็น และเราหาค่าเฉลี่ยของ 00:07:01.260 --> 00:07:02.510 การกระจายตัวแบบทวินาม 00:07:02.510 --> 00:07:06.510 ค่าเฉลี่ยของการกระจายตัวแบบทวินาม ก็คือ 00:07:06.510 --> 00:07:09.400 ความน่าจะเป็นที่ก้าวทางซ้าย คูณจำนวนการทดลอง 00:07:09.400 --> 00:07:11.140 ทั้งหมด 00:07:11.140 --> 00:07:13.830 นั่นจึงเท่ากับ 5, นั่นคือที่มาของเลขนั้น 00:07:13.830 --> 00:07:17.150 แล้วความแปรปรวน -- ผมไม่แน่ใจว่าผมได้พูดถึงมันหรือยัง 00:07:17.150 --> 00:07:19.160 และผมต้องพิสูจน์ให้คุณดู ผมจะทำวิดีโออีกอัน 00:07:19.160 --> 00:07:22.500 เรื่องความแปรปรวนของการกระจายตัวแบบทวินาม 00:07:22.500 --> 00:07:27.300 -- แต่นี่จะเท่ากับจำนวนการทดลอง 00:07:27.300 --> 00:07:32.630 10 คูณความน่าจะเป็นที่ไปทางซ้าย 00:07:32.630 --> 00:07:36.150 หรือการทดลองที่สำเร็จ -- ผมกำหนดให้การไปทางซ้าย เป็น 00:07:36.150 --> 00:07:40.640 การทดลองที่สำเร็จ, มันอาจเป็นขวาก็ได้ -- คูณความน่าจะเป็น 00:07:40.640 --> 00:07:44.490 ของ 1 ลบการทดลองที่สำเร็จ หรือการทดลองที่ไม่สำเร็จ 00:07:44.490 --> 00:07:46.370 ในกรณีนี้ มันมีโอกาสเท่ากัน และนั่นคือ 00:07:46.370 --> 00:07:48.550 ที่มาของ 2..5 00:07:48.550 --> 00:07:49.510 และทั้งหมดนั่นอยู่บนตารางคำนวณ 00:07:49.510 --> 00:07:52.380 ถ้าคุณคลิกที่ช่อง แล้วดูสูตร 00:07:52.380 --> 00:07:53.400 ที่ผมใช้ 00:07:53.400 --> 00:07:54.880 แม้ว่าบางครั้ง เวลาคุณเห็นในเอกเซล มัน 00:07:54.880 --> 00:07:55.640 มันดูน่าสับสนหน่อย 00:07:55.640 --> 00:07:57.360 และนี่ก็แค่สแควร์รูทของเลขนั้น 00:07:57.360 --> 00:07:59.120 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานก็แค่ 00:07:59.120 --> 00:08:00.540 สแควร์รูทของความแปรปรวน 00:08:00.540 --> 00:08:04.460 นั่นก็แค่สแควร์รูทของ 2.5 00:08:04.460 --> 00:08:08.630 แล้วถ้าคุณดูตรงนี้, มันบอกว่า, โอเค, 00:08:08.630 --> 00:08:10.510 ความน่าจะเป็นที่ผมเดิน 0 ก้าวเป็นเท่าไหร่? 00:08:10.510 --> 00:08:14.170 ถ้าผมเดินทั้งหมด 10 ก้าว -- เพื่อให้เข้าใจ 00:08:14.170 --> 00:08:17.970 ตารางคำนวณนี้ -- ความน่าจะเป็นที่ 00:08:17.970 --> 00:08:20.360 ผมได้ไปทางซ้าย 0 ก้าวเป็นเท่าไหร่? 00:08:20.360 --> 00:08:23.020 ขอผมบอกให้ชัดอีกที, ถ้าผมเดินไปทางซ้าย 0 ก้าว, นั่นหมายความว่า 00:08:23.020 --> 00:08:25.110 ผมต้องเดินไปทางขวา 10 ก้าว 00:08:25.110 --> 00:08:27.440 แล้วผมก็คำนวณความน่าจะเป็นนี่ -- ผมควร 00:08:27.440 --> 00:08:31.650 ลากเส้นตรงนี้หน่อย -- ผมคำนวณนี่โดยใช้ 00:08:31.650 --> 00:08:33.920 การกระจายตัวแบบทวินาม 00:08:33.920 --> 00:08:34.860 แล้วผมจะทำอย่างไร? 00:08:41.410 --> 00:08:44.810 ขอผมเปลี่ยนสีหน่อยนะ เพื่อให้ 00:08:44.810 --> 00:08:46.500 มันน่าสนใจขึ้น 00:08:46.500 --> 00:08:48.170 พวกนี้สีม่วงหรือเปล่า? 00:08:48.170 --> 00:08:51.230 ผมจะใช้สีฟ้าแล้วกัน 00:08:51.230 --> 00:08:53.700 สีฟ้า (blue) สำหรับทวินาม (binomial) 00:08:53.700 --> 00:08:58.600 แล้วผมมีอะไรตรงนี้ มีทั้งหมดกี่ก้าว? 00:08:58.600 --> 00:09:00.420 มันมีทั้งหมด 10 ก้าว 00:09:00.420 --> 00:09:04.410 ได้ 10 แฟคทอเรียล, นั่นคือจำนวนการทดลองที่ผมทำ 00:09:04.410 --> 00:09:08.820 ในนั้น ผมได้ 0 ให้ไปทางซ้าย 00:09:08.820 --> 00:09:14.390 งั้น 10 แฟคทอเรียล หารด้วย 10 ลบ 0 แฟคทอเรียล 00:09:14.390 --> 00:09:15.580 นี่คือ 10 เลือก 0 00:09:15.580 --> 00:09:19.790 ผมเลือกไปทางซ้าย 0 ก้าว จากจำนวนก้าว 10 ก้าว 00:09:19.790 --> 00:09:23.900 ที่ผมเดิน คูณความน่าจะเป็นของการก้าวทางซ้าย 0 ก้าว, มันคือ 00:09:23.900 --> 00:09:28.110 ความน่าจะเป็นของการไปทางซ้าย, ผมทำ 0 ครั้ง คูณความน่าจะเป็น 00:09:28.110 --> 00:09:31.550 ของการไปทางขวา, และผมทำอย่างนั้น 10 ครั้ง 00:09:31.550 --> 00:09:35.050 นั่นคือที่มาของเลขนี้, .001 นี่ 00:09:35.050 --> 00:09:37.700 นั่นคือสิ่งที่การกระจายตัวแบบทวินามบอกเรา 00:09:37.700 --> 00:09:44.530 แล้วอันนี้ก็เหมือนกัน, 10 แฟคทอเรียล ส่วน 1 แฟคทอเรียล 00:09:44.530 --> 00:09:47.070 ส่วน 10 ลบ 1 แฟคทอเรียล 00:09:47.070 --> 00:09:47.820 นั่นคือวิธีที่ผมได้แต่ละค่ามา 00:09:47.820 --> 00:09:50.650 เหมือนเดิม, ถ้าคุณคลิกที่ช่อง คุณจะ 00:09:50.650 --> 00:09:51.960 เห็นคำอธิบาย 00:09:51.960 --> 00:09:53.020 เราทำมาหลายครั้งแล้ว 00:09:53.020 --> 00:09:54.490 นี่ก็แค่การคำนวณทวินาม 00:09:54.490 --> 00:09:59.080 แล้วตรงนี้, หลังจากเส้นนี่ตรงนี้, คุณ 00:09:59.080 --> 00:10:00.520 ก็ละมันไว้ได้ 00:10:00.520 --> 00:10:02.930 ผมทำอย่างนั้น ผมจะได้ทำหลายๆ กรณี 00:10:02.930 --> 00:10:09.490 ตัวอย่างเช่น, ถ้าผมไปที่ตารางคำนวณ, แทนที่จะ 00:10:09.490 --> 00:10:17.580 ทำ 10 ผมอยากทำ 20 ก้้าว, ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป 00:10:17.580 --> 00:10:23.410 และนั่นคือสาเหตุที่ข้างล่าง หลังจากที่คุณทำถึงจุหนึ่ง 00:10:23.410 --> 00:10:26.130 ทุกอย่างก็ซ้ำเดิม 00:10:26.130 --> 00:10:28.000 ผมจะปล่อยให้คุณคิดว่าทำไมผมถึงว่าอย่างนั้น 00:10:28.000 --> 00:10:30.200 บางทีผมควรทำตารางคำนวณที่สะอาดกว่านี้ 00:10:30.200 --> 00:10:33.490 แต่มันไม่มีผลกับการพลอตแบบกระจายที่ผมทำอยู่ดี 00:10:33.490 --> 00:10:38.170 แล้วพลอตนี้สีฟ้า, คุณอาจไม่เห็นมัน เพราะสีม่วง 00:10:38.170 --> 00:10:39.590 เกือบทับมัน 00:10:39.590 --> 00:10:43.560 ที่จริง ขอผมทำให้มันเล็กหน่อย คุณจะได้เห็น 00:10:43.560 --> 00:10:48.080 สมมติว่าผมเลือก 6 ก้าว 00:10:48.080 --> 00:10:51.200 มันยังเห็นความแตกต่างระหว่างสองอันนี้ได้ยากอยู่ดี 00:10:51.200 --> 00:10:54.590 เหมือนเดิม ประเด็นตรงนี้คือ การเห็นว่า 00:10:54.590 --> 00:10:56.570 การกระจายตัวแบบปกติ เป็นการประมาณที่ดี 00:10:56.570 --> 00:10:58.730 แต่มันใกล้กันมาก จนถึงไม่เห็น 00:10:58.730 --> 00:10:59.430 ความแตกต่างตรงนี้ 00:10:59.430 --> 00:11:01.705 ถ้าคุณเลือก 4 ก้าว, โอเค, ผมว่าคุณเห็นได้แล้วตอนนี้ 00:11:04.710 --> 00:11:06.460 ขอผมเลือกหน้าจอขึ้นมา 00:11:10.320 --> 00:11:12.830 เส้นโค้งสีฟ้าอยู่แถวนี้ 00:11:12.830 --> 00:11:14.910 นี่คือทวินาม 00:11:14.910 --> 00:11:16.910 มันมีจุดอยู่บ้างตรงนี้, คุณมี 00:11:16.910 --> 00:11:18.560 จุดขึ้นไปตรงนี้ 00:11:18.560 --> 00:11:21.890 นี่คือถ้าคุณไปทางซ้าย 0 ก้าว, ซ้าย 1 ก้าว, ซ้าย 2 ก้าว, 00:11:21.890 --> 00:11:23.330 ซ้าย 3 ก้าว, ซ้าย 4 ก้าว 00:11:23.330 --> 00:11:25.750 แล้วผมพลอตมัน แล้วผมบอกว่า ความน่าจะเป็นเมื่อใช้ 00:11:25.750 --> 00:11:27.840 การกระจายตัวแบบทวินาทเป็นเท่าไหร่? 00:11:27.840 --> 00:11:29.710 และนี่คือตำแหน่งสุดท้ายของผม, จริงไหม? 00:11:29.710 --> 00:11:33.460 ถ้าผมเดินไปทางซ้าย 0 ก้าว และผมเดินไปทางขวา 4 ก้าว 00:11:33.460 --> 00:11:36.090 ตำแหน่งสุดท้ายของผมคือ 4, นั่นคือ 00:11:36.090 --> 00:11:37.950 กรณีตรงนี้ 00:11:37.950 --> 00:11:40.220 ขอผมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเหมือนเดิมนะ, มันเห็นง่ายกว่า 00:11:44.490 --> 00:11:49.730 ถ้าผมก้าวไปทางซ้าย 4 ก้าว, ผมก็เดินไปทางขวา 0 ก้าว 00:11:49.730 --> 00:11:52.780 และตำแหน่งสุดท้ายของผม จะอยู่ที่ ลบ 4 00:11:52.780 --> 00:11:54.030 มันจอยู่ตรงนี้ 00:11:54.030 --> 00:11:58.980 ถ้าผมเดินซ้ายขวาเท่านั้น, นั่นคือกรณีนี้, 00:11:58.980 --> 00:12:00.500 ผมอยู่ตรงกลาง 00:12:00.500 --> 00:12:02.840 ผมอยู่ตรงกลางตรงนี้ 00:12:02.840 --> 00:12:05.360 ผมเดิน 2 ก้าวไปทางขวา แล้วผมเดิน 2 ก้าวไปทางซ้าย 00:12:05.360 --> 00:12:07.630 เหมือนกัน,ผมเดินไปทางซ้าย 2 ก้าว แล้วผม 00:12:07.630 --> 00:12:09.760 เดินไปทางขวา 2 ก้าว และสุดท้ายผมอยู่ตรงนี้ 00:12:09.760 --> 00:12:12.720 หวังว่าคุณคงพอเข้าใจนะ 00:12:12.720 --> 00:12:13.790 โทรศัพท์ผมดังล่ะ 00:12:13.790 --> 00:12:17.060 ผมจะไม่สนใจเพราะการกระจายตัวแบบปกติ 00:12:17.060 --> 00:12:17.990 มันสำคัญมาก 00:12:17.990 --> 00:12:21.050 ที่จริง, ลูกชายผมอายุ 9 สัปดาห์ กำลังดูอยู่ นี่จึงเป็น 00:12:21.050 --> 00:12:23.200 ครั้งแรกที่ผมมีผู้ชมสด 00:12:23.200 --> 00:12:27.300 เขาอาจซึมซับการกระจายตัวแบบปกติอยู่ก็ได้ 00:12:27.300 --> 00:12:30.650 แล้วเส้นสีฟ้าตรงนี้ -- ผมจะลากมัน บางที 00:12:30.650 --> 00:12:35.470 ใช้สีเหลือง คุณจะได้มองเห็น -- มันคือพลอตของ 00:12:35.470 --> 00:12:36.500 กระจายตัวแบบทวินาม 00:12:36.500 --> 00:12:40.620 ผมลากเส้นต่อกัน แต่คุณเห็นว่าการกระจายตัวแบบทวินาม 00:12:40.620 --> 00:12:42.520 มันจะเป็นแบบนี้มากกว่า 00:12:42.520 --> 00:12:47.310 นี่คือความน่าจะเป็นที่ได้ ลบ 4 00:12:47.310 --> 00:12:51.770 นี่คือความน่าจะเป็นที่ได้ ลบ 2 00:12:51.770 --> 00:12:55.390 นี่ตรงนี้ คือความน่าจะเป็น 00:12:55.390 --> 00:12:57.240 ที่สุดท้ายอยู่กับที่ 00:12:57.240 --> 00:13:06.030 แล้วที่คือความน่าจะเป็นที่ไปทางขวา 2 และ 00:13:06.030 --> 00:13:09.510 นี่คือความน่าจะเป็นที่ไปทางขวา 4 หน่วย 00:13:09.510 --> 00:13:11.670 นี่คือการกระจายตัวแบบทวินาม, ผมแค่พลอต 00:13:11.670 --> 00:13:13.860 จุดพวกนี่ตรงนี้ 00:13:13.860 --> 00:13:14.490 นี่คือ 0.375 00:13:14.490 --> 00:13:16.520 นี่คือ 0.375 00:13:16.520 --> 00:13:18.000 นั่นคือความสูงของอันนั้น 00:13:18.000 --> 00:13:21.320 ทีนี้ สิ่งที่ผมอยากแสดงให้คุณดูคือว่า การกระจายตัว 00:13:21.320 --> 00:13:24.530 แบบปกติ นั้นประมาณการกระจายตัวแบบทวินาม 00:13:24.530 --> 00:13:29.550 แล้วนี่ตรงนี้, ผมอยากถามว่า การกระจายตัวแบบปตกิ 00:13:29.550 --> 00:13:34.880 บอกผมได้หรือไม่ว่า ความน่าจะเป็นที่สุดท้าย 00:13:34.880 --> 00:13:38.180 ไปทางซ้าย 0 ก้าวเป็นเท่าไหร่? 00:13:38.180 --> 00:13:42.260 นี่เป็นเรื่องซับซ้อนหน่อย 00:13:42.260 --> 00:13:44.970 การกระจายตัวแบบทวินาม เป็นการกระจายตัวของความน่าจะเป็น 00:13:44.970 --> 00:13:45.500 แบบไม่ต่อเนื่อง 00:13:45.500 --> 00:13:48.100 คุณดูที่แผนภูมิตรงนี้ หรือดูตรงนี้ แล้วบอกว่า, 00:13:48.100 --> 00:13:56.280 ความน่าจะเป็นที่ไปทางซ้าย 1 ก้าว และขวา 00:13:56.280 --> 00:13:58.160 3 ก้าว ซึ่งพาผมมาตรงนี้เป็นเท่าไหร่? 00:13:58.160 --> 00:14:00.530 ทีนี้ คุณดูที่แผนภาพนี่แล้วคุณบอกว่า, โอ้, 00:14:00.530 --> 00:14:02.300 มันพาผมมาตรงนี้ 00:14:02.300 --> 00:14:05.100 ผมก็อ่านความน่าจะเป็นนั่น, มันคือ 0.25 00:14:05.100 --> 00:14:07.400 แล้วผมบอกว่า, ผมมีโอกาส 25 เปอร์เซ็นต์ที่ 00:14:07.400 --> 00:14:12.010 จะอยู่ทางขวา 2 ก้าว 00:14:12.010 --> 00:14:14.090 มันมีโอกาส 25 เปอร์เซ็นต์ 00:14:14.090 --> 00:14:17.400 ฟังก์ชันการกระจายตัวปกติ เป็นการกระจายตัวของความน่าจะเป็น 00:14:17.400 --> 00:14:20.180 แบบปกติ มันจึงเป็นเส้นโค้งต่อเนื่อง 00:14:20.180 --> 00:14:22.130 มันเป็นแบบนั้น, มันเป็นเส้นโค้งรูประฆังที่ไป 00:14:22.130 --> 00:14:26.400 จนถึงอนันต์และลู่เข้าหา 0 ทั้งสองข้าง 00:14:26.400 --> 00:14:28.090 มันออกมาเป็นแบบนั้น 00:14:28.090 --> 00:14:30.040 นี่คือการกระจายตัวของความน่าจะเป็นแบบต่อเนื่อง 00:14:30.040 --> 00:14:31.800 คุณไม่สามารถะอาจุดจุดหนึ่งมา แล้วบอกว่า, 00:14:31.800 --> 00:14:35.250 ความน่าจะเป็นที่ผมได้ 2 ฟุตทางขวาเป็นเท่าไหร่? 00:14:35.250 --> 00:14:37.080 เพราะถ้าคุณบอกว่า มันคือความน่าจะเป็น 00:14:37.080 --> 00:14:39.580 ที่ได้ค่านั้นพอดี -- คุณควรดูวิดีโอเรื่องฟังก์ชัน 00:14:39.580 --> 00:14:42.170 ความหนาแน่นของความน่าจะเป็นสักหน่อย -- แต่ 00:14:42.170 --> 00:14:45.270 ความน่าจะเป็นที่ได้ 2 ฟุตทางขวาพอดี, พอดี, ผมหมายความว่า 00:14:45.270 --> 00:14:48.500 ผมพูดถึงในระดับอะตอม, เข้าใกล้ 0 00:14:48.500 --> 00:14:51.430 คุณต้องระบุช่วงรอบค่านี้ 00:14:51.430 --> 00:14:56.900 สิ่งที่ผมจะสมมุติ คืออยู่ในช่วงครึ่งฟุต 00:14:56.900 --> 00:14:58.330 ในทั้งสองด้าน 00:14:58.330 --> 00:14:58.690 จริงไหม? 00:14:58.690 --> 00:15:00.380 ถ้าเราใช้หน่วยเป็นฟุต 00:15:00.380 --> 00:15:03.840 ในการหาค่าออกมา สิ่งที่ผมทำตรงนี้ คือ ผมหาค่า 00:15:03.840 --> 00:15:07.280 ฟังก์ชันความหนาแน่นของความน่าจะเป็นตรงนี้ 00:15:07.280 --> 00:15:09.600 ผมจะแสดงให้คุณดูว่าผมหามันได้อย่างไร 00:15:09.600 --> 00:15:12.450 แล้วผมคูณมันด้วย 1 00:15:12.450 --> 00:15:14.580 นั่นให้พื้นที่ออกมา 00:15:14.580 --> 00:15:17.620 แล้วผมใช้มันประะมาณหาพื้นที่นี้ 00:15:17.620 --> 00:15:19.580 ถ้าคุณอยากระบุให้ชัด 00:15:19.580 --> 00:15:23.000 สิ่งที่คุณทำคือ คุณหาอินทิกรัลของเส้นโค้งนี่ระหว่าง 00:15:23.000 --> 00:15:26.750 จุดนี้กับจุดนี้ จะเป็นการประมาณที่ดีกว่า 00:15:26.750 --> 00:15:27.970 เราจะทำต่อไปในอนาคต 00:15:27.970 --> 00:15:30.080 แต่ตอนนี้ ผมอยากให้คุณได้สัญชาตญาณ 00:15:30.080 --> 00:15:32.470 ว่าการกระจายตัวแบบทวินาม จะเข้าหาการกระจายตัว 00:15:32.470 --> 00:15:33.380 แบบปกติจริงๆ 00:15:33.380 --> 00:15:36.290 แล้วผมจะได้เลขนี่ตรงนี้อย่างไร? 00:15:36.290 --> 00:15:44.880 ผมก็บอกว่า, ความน่าจะเป็นที่ผมไปทางซ้าย 00:15:44.880 --> 00:15:53.260 1 ก้าว -- ผมเรียกก้าวซ้ายว่า ผลที่สำเร็จ -- ได้ 1 คืออะไร? 00:15:53.260 --> 00:15:59.080 และมันเท่ากับ 1 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:15:59.080 --> 00:16:02.450 เมื่อผมใช้ก้าว 4 ก้าว ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานคือ 1 00:16:02.450 --> 00:16:03.780 ได้ 1 ส่วน 1 00:16:03.780 --> 00:16:04.950 ที่จริงขอผมเปลี่ยนนี่หน่อย 00:16:08.330 --> 00:16:09.946 ขอผมเปลี่ยนมันเป็นเลขที่เยอะหน่อย 00:16:13.840 --> 00:16:15.645 เราจะกลับไปที่ตัวอย่าง ตอนผมใช้ 10 00:16:19.100 --> 00:16:20.552 ถ้านี่อยู่ที่ 10 00:16:20.552 --> 00:16:22.560 ขอผมกลับไปใช้เครื่องมือวาดรูปนะ 00:16:28.910 --> 00:16:30.980 ขอผมคำนวณนี่ก่อน 00:16:30.980 --> 00:16:34.660 ที่จริง, ขอผมทำคิดก่อนดีกว่า 00:16:34.660 --> 00:16:37.160 ความน่าจะเป็นที่ผมไปทางซ้าย 2 ก้าวเป็นเท่าไหร่? 00:16:37.160 --> 00:16:39.845 ถ้าผมไปทางซ้าย 2 ก้าว ผมเดินไปจากทั้งหมด 10 ก้าว ผม 00:16:39.845 --> 00:16:42.800 ก็ต้องไปทางขวา 8 ก้าว และนั่นพาผมมาทางขวา 6 ก้าว 00:16:42.800 --> 00:16:46.090 นั่นคือจุดนี่ตรงนี้ 00:16:46.090 --> 00:16:47.170 แล้วความน่าจะเป็นคืออะไร? 00:16:47.170 --> 00:16:49.070 ผมจะหานี่ โดยใช้ฟังก์ชันความหนาแน่นของ 00:16:49.070 --> 00:16:50.270 ความน่าจะเป็นได้อย่างไร? 00:16:50.270 --> 00:16:51.150 ผมจะหาความสูงนี้ได้อย่างไร? 00:16:51.150 --> 00:16:56.150 ทีนี้ ผมบอว่าความน่าจะเป็นในการเดินไป 2 ก้าว -- นั่นคือ 00:16:56.150 --> 00:16:58.130 วิธีที่ผมหามัน, ถ้าคุณคลิดที่ช่องนั่น 00:16:58.130 --> 00:17:04.150 คุณจะเห็นว่า -- มันเท่ากับ 1 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:17:04.150 --> 00:17:11.360 1.581 -- แล้วผมก็อ้างถึงช่องนี้ -- 00:17:11.360 --> 00:17:12.694 คูณสแควร์รูทของ 2 ไพ 00:17:15.490 --> 00:17:18.885 ผมมักนึกถึงแนวคิดเรื่อง e กำลัง i ไพ 00:17:18.885 --> 00:17:19.940 เท่ากับลบ 1 อะไรพวกนั้น 00:17:19.940 --> 00:17:21.090 แต่มันมีสิ่งที่น่าสนใจอีก 00:17:21.090 --> 00:17:25.530 คือว่า ทันใดนั้น เมื่อเราทำการทดลองสุ่มหลายๆ ครั้ง 00:17:25.530 --> 00:17:28.740 เราได้สูตรที่มี e กับ ไพ อยู่ในสแควร์รูท แต่เหมือนเดิม 00:17:28.740 --> 00:17:30.310 เลขสองตัวนี้ปรากฏขึ้นอีกแล้ว 00:17:30.310 --> 00:17:33.290 มันบอกถึงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับระเบียบ (order) ของจักรวาล 00:17:33.290 --> 00:17:34.120 ใช้ตัว o ใหญ่ด้วย 00:17:34.120 --> 00:17:42.610 ลองดูกันต่อ, คูณ e กำลังลบ 1/2 คูณ x 00:17:42.610 --> 00:17:46.310 ที่นี้ x คือสิ่งที่เรากำลังจะหา, สำเร็จ 2 ครั้ง 00:17:46.310 --> 00:17:54.780 คือไปทางซ้าย 2 ก้าว, ได้เป็น 2 ลบค่าเฉลี่ย 00:17:54.780 --> 00:18:01.000 ค่าเฉลี่ยเป็น 5, 2 ลบ 5 หารด้วยค่าเบี่ยงเบน 00:18:01.000 --> 00:18:10.160 มาตรฐาน, หารด้วย 1.581, ทั้งหมดนั่นกำลังสอง 00:18:10.160 --> 00:18:12.170 นั่นคือที่มาของการคำนวณ 00:18:14.820 --> 00:18:18.590 ผมบอกคุณไปในอันสุดท้ายนี่ตรงนี้ ว่าบอก 00:18:18.590 --> 00:18:22.640 ค่านี่ตรงนี้ 00:18:22.640 --> 00:18:25.310 ถ้าผมอยากรู้ความน่าจะเป็นเป๊ะๆ 00:18:25.310 --> 00:18:26.960 มันคือพื้นที่ของอันนี้ 00:18:26.960 --> 00:18:29.010 แลถ้าคุณคิดเป็นเส้น มันจะเป็น 0 00:18:32.550 --> 00:18:36.010 จำไว้, ในกรณีนี้ คุณใช้ได้ 2 ฟุต เพราะเรา 00:18:36.010 --> 00:18:37.770 กำลังพูดถึงจำนวนก้าวพอดี 00:18:37.770 --> 00:18:39.890 แต่การกระจายตัวแบบต่อเนื่อง มันคือ 00:18:39.890 --> 00:18:44.280 ฟังก์ชันความหนาแน่นของความน่าจะเป็นแบบต่อเนื่อง แล้วมันบอกเราได้หรือไม่ว่า 00:18:44.280 --> 00:18:48.720 ความน่าจะเป็นที่ห่างออกไป 2.183 ฟุตพอดีเป็นเท่าไหร่? 00:18:48.720 --> 00:18:51.900 แน่นอนมันเกิดขึ้นได้ ถ้าเรา 00:18:51.900 --> 00:18:53.330 ก้าวไปทีละเศษเสี้ยวทุกครั้ง 00:18:53.330 --> 00:18:54.420 แต่นั่นคือวิธีที่เราใช้ 00:18:54.420 --> 00:18:56.100 มันเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มก้าวเป็น 00:18:56.100 --> 00:18:56.940 จำนวนอนันต์ 00:18:56.940 --> 00:18:59.310 มันสามารถประมาณการกระจายตัวแบบไม่ต่อเนื่องได้ 00:18:59.310 --> 00:19:01.470 และวิธีที่ผมใช้ประมาณคือ, ผมบอกว่า, โอ้, ความน่าจะเป็น 00:19:01.470 --> 00:19:03.150 ที่จะอยู่ในช่วงหนึ่งฟุตของค่านั้นเป็นเท่าไหร่ 00:19:03.150 --> 00:19:05.400 ผมก็คูณความสูงนี่, ซึ่ง 00:19:05.400 --> 00:19:08.920 คือสิ่งที่ผมคำนวณไว้, คูณ 1 00:19:08.920 --> 00:19:13.380 งั้นสมมุติว่านี่มีฐานเป็น 1, ในการคำนวณพื้นที่ 00:19:13.380 --> 00:19:15.110 ที่ผมใช้ประมาณ 00:19:15.110 --> 00:19:19.220 คุณก็คูณมันด้วย 1, และนั่นคือสิ่งที่คุณได้ตรงนี้ 00:19:19.220 --> 00:19:20.240 และผมอยากแสดงให้คุณเห็น 00:19:20.240 --> 00:19:26.050 แค่การสุ่ม 10 ครั้ง, เส้นโค้ง, การกระจายตัวแบบปกตินี่ 00:19:26.050 --> 00:19:28.550 ตรงนี้ คือสีม่วง และการกระจายตัวแบบทวินาม 00:19:28.550 --> 00:19:29.140 เป็นสีฟ้า 00:19:29.140 --> 00:19:31.070 พวกมันเกือบซ้อนกัน 00:19:35.610 --> 00:19:39.860 เมื่อคุณใช้จำนวกน้าวมากขึ้น พวกมันก็เกือบทับกัน 00:19:39.860 --> 00:19:41.320 พอดี และผมแนะนำให้คุณลองเล่น 00:19:41.320 --> 00:19:42.700 โดยใช้ตารางคำนวณดู 00:19:42.700 --> 00:19:46.170 ที่จริง, ขอผมแสดงให้คุณดูดีกว่ามันเข้าหากันจริงๆ 00:19:46.170 --> 00:19:48.540 มันมีแผ่นงานเรื่อง การลู่เข้าในตารางคำนวณนี้เช่นกัน ถ้า 00:19:48.540 --> 00:19:52.180 คุณคิดแท็บข้างล่างเรื่อง การลู่เข้า 00:19:52.180 --> 00:19:54.450 นี่มันเหมือนกัน แต่ผมอยากแสดงให้คุณเห็นว่า 00:19:54.450 --> 00:19:58.940 เกิดอะไรขึ้นตรงจุดที่กำหนด 00:19:58.940 --> 00:20:02.550 ขอผมอธิบายตารางคำนวณนี่ให้คุณฟังนะ 00:20:02.550 --> 00:20:04.040 นี่คือความน่าจะเป็นที่จะไป 00:20:04.040 --> 00:20:06.570 ทางซ้าย, จริงไหม? 00:20:06.570 --> 00:20:09.060 นี่ก็แค่บอกว่า, ผมตรีงจุดจุดหนึ่งที่ 00:20:09.060 --> 00:20:11.330 บอกความน่าจะเป็น -- และคุณเปลี่ยนนี่ได้ -- ตำแหน่ง 00:20:11.330 --> 00:20:13.120 สุดท้ายเป็น 10 00:20:13.120 --> 00:20:18.720 นี่ก็บอกคุณว่าถ้าผมเดิน 10 ก้าว, 00:20:18.720 --> 00:20:21.330 ตำแหน่งสุดท้ายเป็น 10 ทางขวา, ผมต้องเดินไปทางขวา 10 ก้าว 00:20:21.330 --> 00:20:22.820 และทางซ้าย 0 ก้าว 00:20:22.820 --> 00:20:26.230 มันมีที่ผิดตรงนี้, มันตรวจเป็น moves ไม่ใช่ movest 00:20:26.230 --> 00:20:31.770 ถ้าผมเดิน 20 ก้าว แล้วสุดท้ายอยู่ที่ 10 ก้าวไปทางขวา ผมต้องเดิน 00:20:31.770 --> 00:20:34.580 ไปทางขวา 15 ก้าวและไปทางซ้าย 5 ก้าว 00:20:34.580 --> 00:20:37.780 เช่นเดียวกัน, ถ้าผมเดินทั้งหมด 80 ก้าว, ถ้าผมคิดว่าโยนเหรียญ 00:20:37.780 --> 00:20:41.580 80 ครั้งแล้วเดินไปซ้ายหรือเข้า, ในการให้ได้ 10 ก้าวทางขวา 00:20:41.580 --> 00:20:46.430 ผมต้องเดิน 45 ก้าวไปทางขวา และ 35 ก้าวไปทางซ้าย 00:20:46.430 --> 00:20:48.920 ไม่ว่าจะใช้ลำดับอย่างไร มันก็จะได้ 10 ก้าวไปทางขวา 00:20:48.920 --> 00:20:52.920 แล้วสิ่งที่ผมอยากหาคือว่า, เมื่อผมเริ่มคิดจำนวน 00:20:52.920 --> 00:20:58.650 ก้าวรวม -- ตรงนี้ ผมให้มันมากที่สุดที่ 170 -- ถ้าผมเริ่ม 00:20:58.650 --> 00:21:01.350 โยนเหรียญเป็นอนันต์ครั้ง, ผม 00:21:01.350 --> 00:21:03.340 อยากหาความน่าจะเป็นที่ผมได้ตำแหน่งสุดท้าย 00:21:03.340 --> 00:21:05.080 เป็น 10 ทางขวา 00:21:05.080 --> 00:21:08.880 และผมอยากแสดงให้คุณเห็นว่า เมื่อคุณใช้ก้าวมากขึ้น มากขึ้น 00:21:08.880 --> 00:21:11.730 การกระจายตัวแบบทวินาม ก็ยิ่งประมาณค่า 00:21:11.730 --> 00:21:15.260 การกระจายตัวแบบทวินามได้ดีขึ้น ดีขึ้น 00:21:15.260 --> 00:21:18.510 แล้วตรงนี้, มันคำนวณความน่าจะเป็นแบบทวินาม, 00:21:18.510 --> 00:21:21.040 ตามที่วิธีที่เราทำมาก่อน และคุณดูที่ช่องนี้ 00:21:21.040 --> 00:21:21.770 เพื่อหาค่าได้ 00:21:24.510 --> 00:21:26.170 ผมใช้การเดินไปทางซ้ายคือ ครั้งที่สำเร็จ 00:21:30.120 --> 00:21:32.920 นี่ก็คือ 10 เลือก 0 และเรารู้ว่ามันคืออะไร 00:21:32.920 --> 00:21:36.840 มันคือ 10 แฟคทอเรียล ส่วน 0 แฟคทอเรียล ส่วน 10 ลบ 0 00:21:36.840 --> 00:21:43.210 แฟคทอเรียล คูณ 0.5 กำลัง 0 คูณ 0.5 กำลัง 10 00:21:43.210 --> 00:21:44.980 นั่นคือที่มาของเลขนี้ 00:21:44.980 --> 00:21:52.540 ถ้าผมไปที่ตรงนี้ อันนี้คำนวณไว้แล้ว 00:21:52.540 --> 00:21:53.720 ที่จริงขอผมเขียนมันออกมาดีกว่า เพราะผมว่า 00:21:53.720 --> 00:21:54.290 มันน่าสนใจ 00:21:54.290 --> 00:21:54.867 ผมมีการเดินทั้งหมด 60 ก้าว, มันจึงได้ 60 แฟคทอเรียล 00:21:54.867 --> 00:22:02.990 ส่วน, ผมต้องไปทางซ้าย 25 ก้าว, ได้ 25 แฟคทอเรียล 00:22:02.990 --> 00:22:09.510 แล้วผมก็ได้ 60 ลบ 25 แฟคทอเรียล คูณความน่าจะเป็น 00:22:09.510 --> 00:22:12.510 ที่จะไปทางซ้าย ผมมี 25 ตัว, คูณความน่าจะเป็น 00:22:12.510 --> 00:22:17.860 ที่ไปทางขวา และผมมี 35 อัน 00:22:17.860 --> 00:22:21.490 นั่นก็คือสิ่งที่การกระจายตัวของความน่าจะเป็นแบบทวินาม 00:22:21.490 --> 00:22:23.390 บอกเรา 00:22:23.390 --> 00:22:25.220 แล้วมันก็หา ค่าเฉลี่ยและความแปรปรวนของ 00:22:25.220 --> 00:22:27.340 แต่ละกรณี แล้วคุณก็ดูที่สูตรได้ 00:22:27.340 --> 00:22:30.050 แต่ค่าเฉลี่ย ก็แค่ความน่าจะเป็นที่ก้าวไปทางซ้าย 00:22:30.050 --> 00:22:32.880 คูณจำนวนครั้งที่ก้าวทั้งหมด 00:22:32.880 --> 00:22:36.250 ความแปรปรวนคือความน่าจะเป็นที่จะไปทางซ้าย คูณความน่าจะเป็น 00:22:36.250 --> 00:22:38.160 ที่จะไปทางขวา คูณจำนวนก้าวทั้งหมด 00:22:38.160 --> 00:22:40.670 แล้วความน่าจะเป็นแบบปกติ, เหมือนเดิม, ผม 00:22:40.670 --> 00:22:43.810 แค่ใช้การกระจายตัวแบบปกติ 00:22:43.810 --> 00:22:45.310 ผมประมาณมันเหมือนเดิม 00:22:49.340 --> 00:22:51.620 และเอกเซลมีฟังก์ชันการกระจายแบบปกติ แต่ผม 00:22:51.620 --> 00:22:53.750 อยากพิมพ์สูตรลงไป เพราะผมอยากให้คุณเห็นว่า 00:22:53.750 --> 00:22:57.890 มันมีอะไรอยู่ในฟังก์ชัน 00:22:57.890 --> 00:22:58.910 ที่เอกเซลใช้ 00:22:58.910 --> 00:23:04.770 แล้วผมก็อบกว่า ความน่าจะเป็นที่ผมไปทางซ้าย 25 ก้าวเป็นเท่าไหร่? 00:23:04.770 --> 00:23:06.830 ไม่ใช่สิ, 45 ก้าวทางซ้าย 00:23:06.830 --> 00:23:14.690 ผมก็บอกว่าความน่าจะเป็นที่ไปทางซ้าย 45 ก้าว เท่ากับ 1 00:23:14.690 --> 00:23:17.340 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:23:17.340 --> 00:23:20.430 นั่นคือกรณีที่ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานคือ 00:23:20.430 --> 00:23:21.720 สแควร์รูทของ 25 00:23:21.720 --> 00:23:32.910 มันก็คือ 5 คูณ 2 ไพ คูณ e กำลังลบ 1/2 คูณ 45 ลบ 00:23:32.910 --> 00:23:37.790 ค่าเฉลี่ย, ลบ 50 ส่วน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ซึ่งเรา 00:23:37.790 --> 00:23:41.010 หาได้แล้วว่าคือ 5, กำลังสอง 00:23:41.010 --> 00:23:45.060 นั่นจึงบอกเราถึงค่าที่การกระจายแบบปกติบอกเรา 00:23:45.060 --> 00:23:48.100 ในกรณีนี้ ที่มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 00:23:48.100 --> 00:23:51.020 กับค่าเฉลี่ยเป็นแบบนี้ แล้วผมคูณมันด้วย 1 -- คุณไม่เห็น 00:23:51.020 --> 00:23:53.280 มันในสูตร, ผมไม่ต้องเขียนคูณ 1 ก็ได้ -- 00:23:53.280 --> 00:23:55.020 เพื่อหาพื้นที่ใต้เส้นโค้ง 00:23:55.020 --> 00:23:57.380 เพราะจำไว้ มันคือฟังก์ชันการกระจายตัว 00:23:57.380 --> 00:23:58.480 แบบต่อเนื่อง 00:23:58.480 --> 00:24:01.840 เจ้านี่ตรงนี้ให้ค่าเรา แต่เวลาหาความน่าจะเป็น 00:24:01.840 --> 00:24:03.590 ที่อยู่ภายในหนึ่งฟุต ผม 00:24:03.590 --> 00:24:05.210 ต้องคูณมันด้วย 1 00:24:05.210 --> 00:24:06.340 ผมแค่ประมาณเฉยๆ 00:24:06.340 --> 00:24:08.320 ผมควรหาอินทิกรัลจากตรงนี้ ถึงตรงนี้ 00:24:08.320 --> 00:24:11.900 แต่สี่เหลี่ยมเล็กๆ นี่คือว่าประมาณได้ดีทีเดียว 00:24:11.900 --> 00:24:16.860 ในแผนภูมินี้ ผมแสดงให้คุณเห็นว่า เมื่อจำนวนก้าวทั้งหมด 00:24:16.860 --> 00:24:20.560 มากขึ้น มากขึ้น ความแตกต่างระหว่างสิ่ง 00:24:20.560 --> 00:24:24.330 ที่การกระจายความน่าจะเป็นแบบปกติบอกเรา กับ 00:24:24.330 --> 00:24:27.060 การกระจายความน่าจะเป็นแบบทวินามบอกเรา นั้นน้อยลง 00:24:27.060 --> 00:24:30.930 น้อยลง ในแง่ของความน่าจะเป็นที่คุณ 00:24:30.930 --> 00:24:32.100 อยู่ทางขวา 10 ก้าวในที่สุด 00:24:32.100 --> 00:24:35.040 และคุณสามารถเปลี่ยนตัวเลขนี้ได้ 00:24:35.040 --> 00:24:37.230 ขอผมเปลี่ยนมันให้คุณดูนะ 00:24:37.230 --> 00:24:38.370 คุณก็บอกว่า ความน่าจะเป็นที่อยู่ 00:24:38.370 --> 00:24:43.670 ทางขวา 15 ก้าวเป็นเท่าไหร่? 00:25:02.680 --> 00:25:04.280 ผมว่ามีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นกับค่า 00:25:04.280 --> 00:25:06.180 คลาดเคลื่อนแบบ floating point เพราะเวลาคุณใช้แฟคทอเรียลที่มีค่ามาก 00:25:06.180 --> 00:25:08.770 ผมว่ามีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้น 00:25:18.530 --> 00:25:20.600 คุณอาจต้องไปให้ไกลกว่านี้ 00:25:20.600 --> 00:25:23.820 สำหรับ 10 คุณเห็นได้ชัดเจนว่ามันลู่เข้า และผมพยายาม 00:25:23.820 --> 00:25:26.043 หาว่าทำไมผมถึงได้รูปแบบฟันเลื่อยแปลกๆ นี่ 00:25:31.910 --> 00:25:35.110 บางทีตอนผมถ่ายรูป อาจจมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้น 00:25:35.110 --> 00:25:37.570 ประเด็นของอันนี้ คือแสดงให้คุณเห็นว่า ถ้าคุณ 00:25:37.570 --> 00:25:40.770 อยากหาความน่าจะเป็นที่ได้อยู่ทางขวา 10 ก้าว, 00:25:40.770 --> 00:25:44.840 เมื่อคุณโยนเหรียญมากขึ้น มากขึ้น 00:25:44.840 --> 00:25:49.840 การกระจายตัวแบบปกติ ก็ยิ่งประมาณการกระจาย 00:25:49.840 --> 00:25:51.730 แบบทวินามได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ 00:25:51.730 --> 00:25:54.220 เมื่อคุณเข้าหาอนันต์, พวกมันก็จะเข้าหา 00:25:54.220 --> 00:25:55.120 กันพอดี 00:25:55.120 --> 00:25:57.560 เอาล่ะ, แค่นี้แหละสำหรับวิดีโอนี้ 00:25:57.560 --> 00:25:59.290 ผมจะทำวิดีโออื่นๆ เกี่ยวกับการกระจายตัว 00:25:59.290 --> 00:26:02.027 แบบปกติอีก เพราะมันเป็นหลักการที่สำคัญมาก 00:26:02.027 --> 00:26:02.380 แล้วพบกันครับ