พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์เองอย่างอัศจรรย์ในชีวิตของฉัน

หลังจากอธิษฐานเสร็จ ฉันก็หลับสบายเหมือนเด็กทารก

ฉันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในคืนนั้นฉันไม่ได้กินยาแก้ปวด

พอตื่นเช้ามาอีกวัน...

ตอนนี้ ขอขจัดอาการเจ็บป่วยทั้งภายในและภายนอกออกไปในนามของพระเยซูคริสต์!

ขจัดอาการเจ็บป่วยออกไป!

ขจัดอาการเจ็บป่วยออกไปวันนี้!

ฉันชื่อยูนิส ฉันติดต่อมาจากประเทศ แอฟริกาใต้

ฉันมีอาการปวดสะโพกเรื้อรังมาประมาณสามปี

และนอกจากนี้ฉันยังมีโรคหอบหืด ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจอีก

เมื่อฉันไปหาหมอเพราะอาการปวด หมอบอกว่าฉันเป็นโรคข้อสะโพกเสื่อม

และในฐานะพยาบาล เรื่องนี้ก็ยากสำหรับฉันมาก

มันกระทบต่อฉันมากที่ทำงาน

เนื่องจากฉันเป็นพยาบาล งานของฉัน

จึงต้องยืนหรือต้องนั่งเป็นส่วนใหญ่

และด้วยความเจ็บปวดนั้น ทำให้ฉันยืนนานๆ ไม่ได้เลย

การนั่งนานๆ ก็เป็นปัญหา

และแม้แต่ที่บ้าน ฉันก็ไม่สามารถทำกิจกรรมหนักๆ ที่เคยทำได้อีกต่อไป

มันเจ็บปวดมาก

บางครั้งฉันต้องตื่นกลางดึกและนั่งลง

มิฉะนั้น ฉันต้องกินยานอนหลับ

และฉันต้องกินยาแก้ปวดจำนวนมากเพื่อที่จะได้นอนหลับ

เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อฉันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำงานเป็นพยาบาล

ความเจ็บปวดนั้นมันแทบจะทนไม่ได้ ความเจ็บปวดนั้นมันมากเกินไป

ถึงขนาดที่เมื่อฉันไปพบแพทย์

แพทย์แนะนำว่าฉันจะต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก

จากนั้นในฐานะพยาบาล ฉันจึงรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดดังกล่าวได้

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากอายุของฉัน ฉันจึงพูดว่า “ไม่ ฉันจะไม่ผ่าตัด“

ฉันเชื่อพระเจ้าในการรักษาฉัน ฉันเชื่อพระเจ้าในการสร้างปาฏิหาริย์”

เมื่อวันที่ 7 กันยายน ฉันเข้าร่วมการอธิฐานแบบโต้ตอบ

หลังจากที่ส่งคำอธิษฐานไปยัง รายการGod’s Heart TV

คำอธิษฐานของฉันเป็นเรื่องของการพลิกสถานการณ์ทางการเงินของฉัน

และเรื่องธุรกิจของลูกชายสองคนของฉัน

ฉันไม่ได้เขียนอะไรเกี่ยวกับอาการป่วยของฉันในคำอธิษฐานนั้น

แต่พระเจ้าทรงแสดงพระองค์อย่างอัศจรรย์มากในชีวิตของฉัน

เมื่อฉันเข้าร่วมการประชุม พี่คริสก็เข้ามาและอธิษฐานเพื่อพวกเรา

หลังจากอธิษฐานเสร็จ ฉันก็หลับสนิทเหมือนเด็กทารก

ฉันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในคืนนั้น ฉันไม่ได้กินยาแก้ปวด

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อฉันตื่นขึ้น – เพราะการตื่นนอนเป็นเรื่องยาก

เมื่อตื่นขึ้น ฉันต้องนั่งบนเตียงประมาณสิบนาทีก่อนจะลุกขึ้น

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นขึ้นเฉยๆ

ฉันเข้าห้องน้ำ

ตอนแรกฉันไม่สนใจ แล้วเตรียมตัวไปทำงาน

วันนั้น ฉันทำงานอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

ดังนั้นเมื่อฉันกลับถึงบ้าน ฉันจึงพูดว่า “โอเค เมื่อวานฉันไปร่วมการอธิฐานแบบโต้ตอบ

เกิดอะไรขึ้น ฉันหายดีหรือยัง?

ฉันพยายามตรวจสอบความเจ็บปวด เพราะเมื่อฉันสัมผัสตรงนี้ ฉันรู้สึกเจ็บปวด

แต่เมื่อกลับมาจากที่ทำงาน ฉันเดินอย่างสง่างาม ฉันรู้สึกมีพลังมาก

วันรุ่งขึ้น ฉันรู้สึกมีพลังมาก

ความเจ็บปวดไม่มีอีกแล้ว

จนถึงวันนี้ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว

ฉันไม่มีอาการหอบหืด โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูงเลย – จนกระทั่งวันนี้!

ฉันจึงอยากถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระองค์ทรงทำในชีวิตของฉัน

นั่นแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงรู้ดีกว่าฉัน

พระองค์ทรงประทานสิ่งที่พระองค์เห็นว่าดีที่สุดสำหรับฉัน

ฉันต้องการขอบคุณพี่คริสที่ยอมให้พระเจ้าทรงใช้เขาในการอธิษฐานเพื่อเรา

แล้วฉันก็ได้เห็นว่าระยะทางไม่ใช่สิ่งกีดขวาง

ระหว่างแอฟริกาใต้กับสหราชอาณาจักร ฉันไม่รู้ว่ากี่ไมล์ แต่คำอธิษฐานนั้น...

ฉันไม่ได้มีอาการอะไรเลย ฉันไม่ได้ล้ม ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย

แต่หลังจากคำอธิษฐาน ฉันก็แค่หลับเหมือนเด็กทารกจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

ฉันจึงขอบคุณพระเจ้าจริงๆสำหรับสิ่งที่พระองค์ทรงทำในชีวิตของฉัน

ไม่มีความเจ็บปวดอีกต่อไป!

ฉันสามารถงอตัวได้ ฉันสามารถย่อตัวได้ ฉันสามารถกระโดดได้ ไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป!

หลังจากเข้าร่วมพิธีอธิษฐานแบบโต้ตอบกับบราเดอร์คริสแล้ว

ฉันมีความสงบในใจ ความสงบของพระเจ้า ความสงบภายใน

ฉันรู้สึกถึงความสงบนั้น ฉันมีความสงบสุขในทุกสิ่ง

คำแนะนำของฉันคือ ให้เราเชื่อในพระเจ้า

เพราะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใดที่พระเจ้ารักษาไม่ได้

และเวลาของพระเจ้าคือเวลาที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับความท้าทายใดๆ ก็ตาม

พระเจ้าได้ทรงทำเพื่อฉัน

และฉันเชื่อว่าพระองค์จะทำเพื่อทุกคนที่กำลังเชื่อมต่ออยู่ในปัจจุบัน

ไม่ว่าวันนี้ใครจะเจ็บป่วยหรือต้องเผชิญอะไรก็ตาม

ขอให้เชื่อพระเจ้าว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น และคุณจะได้รับปาฏิหาริย์นั้นในพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระเยซู

ฉันรู้ว่าสิ่งที่ดีกว่านั้นยังพอ สิ่งที่ดีที่สุดกำลังมาถึง