WEBVTT 00:00:00.200 --> 00:00:02.480 ช่วงโควิดแบบนี้หลายๆคนกลายเป็นแดนเซอร์ 00:00:02.480 --> 00:00:03.720 แต่รู้ไหมคะว่าในอดีต 00:00:03.920 --> 00:00:05.780 เคยมีโรคระบาดที่ทำให้คน 00:00:05.780 --> 00:00:06.940 แดนซ์ไม่หยุดค่ะ 00:00:07.260 --> 00:00:09.100 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 00:00:09.100 --> 00:00:11.040 เชื่อว่าช่วง COVID-19 แบบนี้นะคะ 00:00:11.040 --> 00:00:13.400 นอกจากวิถีชีวิตต่างๆของเราจะเปลี่ยนไป 00:00:13.560 --> 00:00:14.660 จะต้องใส่หน้ากาก 00:00:14.660 --> 00:00:17.040 จะต้องมี Social Distance อะไรต่างๆแล้วเนี่ย 00:00:17.300 --> 00:00:19.520 หลายๆคนยังค้นพบสิ่งนึงเพิ่มเติมค่ะ 00:00:19.660 --> 00:00:20.460 นั่นก็คือ 00:00:20.460 --> 00:00:22.820 ค้นพบความเป็นแดนเซอร์ในตัวเองนะคะ 00:00:22.820 --> 00:00:25.340 คือเอาจริงๆตอนนี้ทุกวันไถผ่าน Facebook 00:00:25.340 --> 00:00:26.620 ไถผ่าน Twitter เนี่ย 00:00:26.880 --> 00:00:27.980 เพื่อนๆของวิวหลายๆคน 00:00:27.980 --> 00:00:29.640 กลายเป็นแดนเซอร์กันไปหมดแล้วค่ะ 00:00:29.820 --> 00:00:31.320 เชื่อว่าหลายๆคนที่ดูอยู่ตอนนี้ 00:00:31.320 --> 00:00:33.000 ก็น่าจะกลายเป็นแดนเซอร์ไปด้วยนะคะ 00:00:33.000 --> 00:00:36.180 อยู่ดีๆก็ออกมาอัดคลิปวิดีโอตัวเองเต้นต่างๆมากมาย 00:00:36.440 --> 00:00:38.220 แต่รู้กันไหมคะว่าในอดีตเนี่ย 00:00:38.360 --> 00:00:39.960 เคยมีบันทึกทางประวัติศาสตร์ค่ะ 00:00:39.960 --> 00:00:41.360 เล่าถึงเหตุการณ์นึงที่ 00:00:41.580 --> 00:00:43.760 แปลกมากๆเลยนะ เป็นเหตุการณ์ที่ 00:00:43.960 --> 00:00:46.000 เกิดโรคระบาดโรคนึงขึ้นนะคะ 00:00:46.000 --> 00:00:48.380 และผลของโรคนี้ก็คือการที่ 00:00:48.380 --> 00:00:50.700 ชาวเมืองออกมาแดนซ์กันไม่หยุดค่ะ 00:00:50.940 --> 00:00:53.880 เรียกได้ว่าแดนซ์กันจนตายคาฟลอร์เลยทีเดียวนะคะทุกคน 00:00:54.240 --> 00:00:55.800 หลายๆคนอาจจะคิดว่าไม่จริงนะคะ 00:00:55.800 --> 00:00:56.580 ไม่ต้องห่วงค่ะ 00:00:56.580 --> 00:00:59.360 วันนี้วิวหาข้อมูลมาเล่าให้ทุกคนฟังเรียบร้อยแล้วนะคะ 00:00:59.360 --> 00:01:01.620 สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง 00:01:01.620 --> 00:01:03.360 สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ 00:01:03.360 --> 00:01:05.400 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 00:01:09.480 --> 00:01:10.620 ก่อนที่จะเล่าเนี่ยนะคะ 00:01:10.620 --> 00:01:12.700 ขอออกตัวก่อนค่ะว่าเรื่องที่วิวจะนำมาเล่าเนี่ย 00:01:12.700 --> 00:01:14.080 วิวไม่ได้มั่วขึ้นมานะคะทุกคน 00:01:14.300 --> 00:01:16.860 มันเป็นบันทึกเหตุการณ์จริงๆทางประวัติศาสตร์นะ 00:01:16.860 --> 00:01:19.740 ดังนั้นถ้าสมมติว่าใครอยากไปหาอ่านเพิ่มเติมอะไรต่างๆ 00:01:19.920 --> 00:01:21.600 วิวลงอ้างอิงไว้ให้ด้านล่างแล้วค่ะ 00:01:21.600 --> 00:01:22.760 สามารถไปดูได้นะ 00:01:22.980 --> 00:01:24.880 อะ เรามาเข้าเรื่องของเราดีกว่าค่ะ 00:01:25.040 --> 00:01:27.320 ต้องบอกว่าโรคที่ทำให้คนแดนซ์ไม่หยุดเนี่ย 00:01:27.320 --> 00:01:29.880 เป็นเหตุการณ์นึงทางประวัติศาสตร์นะคะที่เกิดขึ้นจริง 00:01:30.100 --> 00:01:31.940 หลายๆคนเขาจะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า 00:01:31.940 --> 00:01:33.060 Dancing Plague ค่ะ 00:01:33.060 --> 00:01:35.240 ก็คือ Plague นี่คือโรคระบาดใช่ไหมคะ 00:01:35.240 --> 00:01:36.320 Dancing ก็คือการเต้น 00:01:36.320 --> 00:01:38.680 ก็คือโรคระบาดที่ทำให้คนเต้นไม่หยุดค่ะ 00:01:38.840 --> 00:01:41.000 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุดเนี่ยนะคะเกิดขึ้น 00:01:41.000 --> 00:01:44.660 เมื่อปีค.ศ. 1518 ค่ะ ที่ฝรั่งเศสนะคะ 00:01:44.840 --> 00:01:46.720 หรือว่าในสมัยนั้นเนี่ยก็ 00:01:46.720 --> 00:01:49.340 ยังนับเป็นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์อยู่นะ 00:01:49.340 --> 00:01:51.380 เพราะว่าเป็นช่วงต้นๆของสมัย Renaissance 00:01:51.380 --> 00:01:52.900 ปลายๆยุคกลางค่ะ 00:01:52.900 --> 00:01:54.620 ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนั้นเนี่ยก็คือ 00:01:54.620 --> 00:01:56.960 การที่ชาวเมืองหลายต่อหลายคนเนี่ยนะคะ 00:01:56.960 --> 00:01:58.835 ออกมาแดนซ์กันตามท้องถนนค่ะ 00:01:58.840 --> 00:02:01.160 เรียกได้ว่าเต้นกันจนตายคาฟลอร์เลยค่ะ 00:02:01.160 --> 00:02:03.400 หลายๆคนก็หัวใจวาย heart attack บ้าง 00:02:03.400 --> 00:02:06.420 บางคนก็ stroke นะคะ เส้นเลือดในสมองแตกก็มี 00:02:06.640 --> 00:02:09.200 หรือว่าบางคนก็อ่อนเพลียจนตายไปเลยทีเดียวค่ะ 00:02:09.200 --> 00:02:11.720 เรียกได้ว่าหลายๆคนฟังตอนแรกอาจจะรู้สึกว่า 00:02:11.720 --> 00:02:14.140 เอ๊ย Dancing Plague ทุกคนก็แค่ออกมาแดนซ์ด้วยกัน 00:02:14.140 --> 00:02:15.060 น่าจะสนุกๆ 00:02:15.200 --> 00:02:17.140 จริงๆแล้วเหตุการณ์นี้ไม่ได้สนุกเลยนะคะ 00:02:17.140 --> 00:02:20.260 แล้วก็ทำให้คนตายไปค่อนข้างมากพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ 00:02:20.260 --> 00:02:22.520 ซึ่งถามว่าเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นได้ยังไงนะคะ 00:02:22.520 --> 00:02:24.140 ต้องบอกว่ามันเริ่มขึ้นในวันนึง 00:02:24.140 --> 00:02:27.000 ในเดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 1518 นี่ล่ะค่ะ 00:02:27.260 --> 00:02:29.035 มีผู้หญิงคนนึงนะคะชื่อว่า 00:02:29.040 --> 00:02:30.700 Frau Troffea ค่ะ 00:02:30.700 --> 00:02:32.600 Frau นี่เหมือนกับคำว่านางอะนะ 00:02:32.600 --> 00:02:33.940 นาง Troffea ว่าอย่างนั้นเถอะ 00:02:34.120 --> 00:02:36.740 ผู้หญิงคนนี้ค่ะอยู่ดีๆก็เดินออกมาจากบ้านนะคะ 00:02:36.740 --> 00:02:39.660 เดินลงไปบนถนนค่ะ แล้วก็เริ่มค่อยๆแดนซ์นะคะ 00:02:39.960 --> 00:02:42.180 เรียกได้ว่าค่อยๆขยับตัวไปมา 00:02:42.180 --> 00:02:44.580 บิดองบิดเอว หมุนตัวนู่นนี่นั่น 00:02:44.580 --> 00:02:47.100 เรียกได้ว่าอยู่ดีๆก็ออกสเต็ปมาซะอย่างนั้นน่ะค่ะ 00:02:47.100 --> 00:02:49.360 แบบทั้งๆที่ไม่มีเพลงไม่มีอะไรเลยนะคะ 00:02:49.560 --> 00:02:51.820 แล้วเจ๊แกก็ไปแดนซ์อยู่กลางถนนเรื่อยๆนะคะ 00:02:51.820 --> 00:02:54.000 แดนซ์ แดนซ์ แดนซ์ แดนซ์อยู่ในความเงียบค่ะ 00:02:54.280 --> 00:02:55.880 ซึ่งไม่มีเพลงไม่มีอะไรทั้งสิ้น 00:02:55.880 --> 00:02:57.340 แต่ก็ยังแดนซ์ต่อไปนะคะ 00:02:57.340 --> 00:02:59.200 เรียกได้ว่าแดนซ์จนตัวเองเนี่ยเหนื่อย 00:02:59.200 --> 00:03:00.180 พอเหนื่อยก็คือ 00:03:00.340 --> 00:03:01.880 เป็นลมล้มพับลงไป 00:03:01.880 --> 00:03:02.780 โอ๊ะ หมดแรง 00:03:02.780 --> 00:03:04.960 แต่พอมีแรงเมื่อไหร่ เจ๊แกก็ลุกขึ้นมา 00:03:04.960 --> 00:03:06.480 แล้วก็แดนซ์ต่อไปค่ะ 00:03:06.480 --> 00:03:08.780 ซึ่งถามว่าเจ๊แกแดนซ์อยู่นานแค่ไหนนะคะ 00:03:08.780 --> 00:03:11.940 ต้องบอกว่าเจ๊แกแดนซ์อยู่นานถึงประมาณ 00:03:12.200 --> 00:03:13.840 1 สัปดาห์เลยทีเดียวค่ะ 00:03:14.100 --> 00:03:16.240 และแน่นอนนะคะ เหล่าชาวเมืองเนี่ยก็ไม่ได้ปล่อย 00:03:16.240 --> 00:03:17.680 ให้เจ๊แกแดนซ์อยู่คนเดียวค่ะ 00:03:17.880 --> 00:03:20.320 หลังจากที่เจ๊แกเนี่ยเริ่มแดนซ์คนแรกนะคะ 00:03:20.480 --> 00:03:23.280 ผ่านไปไม่นานค่ะ ก็มีคนอีกประมาณ 3 คนเนี่ย 00:03:23.420 --> 00:03:24.700 ออกมาแดนซ์เป็นเพื่อนนะคะ 00:03:24.700 --> 00:03:27.100 ทุกคนก็มาเต้นร่วมกัน ตอนนี้มี 4 คนแล้วใช่ไหม 00:03:27.340 --> 00:03:29.560 หลังจากนั้นนะคะ พอมีคน 4 คนเต้นแล้วเนี่ย 00:03:29.560 --> 00:03:31.120 เวลาก็ค่อยๆผ่านไปค่ะ 00:03:31.440 --> 00:03:33.540 จนกระทั่งครบ 1 อาทิตย์นะคะ 00:03:33.540 --> 00:03:35.200 เหล่าชาวเมืองเนี่ยก็พากัน 00:03:35.200 --> 00:03:37.020 ค่อยๆทยอยออกมา ทยอยออกมา 00:03:37.220 --> 00:03:38.980 แดนซ์กันแบบนี้กลางถนนนะคะ 00:03:38.980 --> 00:03:42.520 จนกระทั่งมีคนประมาณ 30 คนเต้นอยู่กลางถนนค่ะ 00:03:42.520 --> 00:03:43.880 เรียกได้ว่าก็เต้นกันอย่างนี้ 00:03:43.880 --> 00:03:45.320 เต้น เป็นลม เต้น เป็นลม 00:03:45.320 --> 00:03:47.500 ฟื้นขึ้นมาเต้นต่อ เต้นต่อ อ้าว เป็นลม 00:03:47.500 --> 00:03:50.220 เสร็จก็ลงไปนอน ลงไปนอนเสร็จก็ขึ้นมาเต้นต่อนะคะ 00:03:50.540 --> 00:03:52.060 ถามว่าเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว 00:03:52.060 --> 00:03:53.960 ผู้ปกครองเมืองจะต้องรู้สึกยังไง 00:03:54.160 --> 00:03:55.920 ผู้ปกครองเมืองนะคะก็รู้สึกว่า 00:03:55.920 --> 00:03:57.300 เฮ้ย เรื่องนี้มันไม่ปกติละ 00:03:57.300 --> 00:03:59.080 จะห้ามจะอะไรก็ไม่หยุดกันซักที 00:03:59.080 --> 00:04:00.500 เอ๊ะ แล้วก็ไม่มีสาเหตุอะไร 00:04:00.500 --> 00:04:03.180 เพราะว่าดูแล้วเขาก็ไม่ได้ enjoy กับการเต้นขนาดนั้น 00:04:03.180 --> 00:04:05.160 เพราะว่าเต้นแล้วเป็นลม เต้นแล้วเป็นอะไรนะคะ 00:04:05.160 --> 00:04:08.280 ดังนั้นค่ะผู้ปกครองก็พยายามหาวิธีแก้นะคะ 00:04:08.460 --> 00:04:10.900 แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยนั้นน่ะ 00:04:10.900 --> 00:04:12.720 มันยังไม่ได้ก้าวหน้าอะไรมาก 00:04:12.820 --> 00:04:14.520 หมอสมัยนั้นนะคะก็พยายามจะ 00:04:14.520 --> 00:04:17.820 วินิจฉัยโรคไปตามความรู้ของตัวเองต่างๆนานานะ 00:04:17.820 --> 00:04:19.900 ซึ่งก็ไม่ได้มีความรู้ขนาดนั้น 00:04:19.900 --> 00:04:21.140 ก็เดาไปเรื่อยค่ะ 00:04:21.340 --> 00:04:23.980 เอาง่ายๆ จำตอนที่วิวเล่าเรื่อง Black Death ได้ไหม 00:04:23.980 --> 00:04:25.320 ว่าหมอเดาว่าอะไรแบบ 00:04:25.320 --> 00:04:29.260 อากาศไม่ดีจะต้องเอาตัวไปแช่ในน้ำส้มสายชูอะไรอย่างนี้ 00:04:29.420 --> 00:04:31.800 คือมันก็มีความมั่วระดับนึงอยู่แล้ว นึกออกป้ะ 00:04:32.100 --> 00:04:34.380 ดังนั้นนะคะ หมอในยุคนั้นค่ะเขาเดาว่า 00:04:34.580 --> 00:04:36.420 โอ๊ย เหตุการณ์นี้นะมันจะต้องเกิดจาก 00:04:36.420 --> 00:04:38.380 สาเหตุว่าเลือดมันจะต้องร้อนแน่ๆ 00:04:38.380 --> 00:04:40.520 ไม่ได้หมายถึงเลือดร้อนแบบจะไปต่อยชาวบ้านนะ 00:04:40.520 --> 00:04:42.500 แต่หมายถึงว่าแบบความร้อนในเลือด 00:04:42.500 --> 00:04:44.020 มันจะต้องมากเกินไปอะไรอย่างนี้ 00:04:44.020 --> 00:04:46.340 ทำให้จะต้องมีการขับความร้อนออก 00:04:46.340 --> 00:04:47.320 ผ่านการเต้น 00:04:47.540 --> 00:04:49.160 อะ นี่คือสิ่งที่หมอวินิจฉัย 00:04:49.320 --> 00:04:50.740 ดังนั้นเมื่อเลือดร้อน 00:04:50.740 --> 00:04:52.900 จะต้องเต้นเพื่อเอาความร้อนออก 00:04:53.000 --> 00:04:54.280 วิธีแก้ไขก็คือ 00:04:54.460 --> 00:04:56.160 หนามยอกเอาหนามบ่งค่ะ 00:04:56.160 --> 00:04:58.080 อะ อยากเต้นใช่ไหม เต้นไปให้พอ 00:04:58.080 --> 00:05:00.000 เรียกได้ว่าให้เต้นให้แรงที่สุด 00:05:00.000 --> 00:05:01.940 เลือดมันจะได้หายร้อนเร็วๆนะคะ 00:05:02.180 --> 00:05:04.040 ดังนั้นสภาเมืองค่ะก็บอกว่า 00:05:04.040 --> 00:05:06.020 โอเค อยากให้ชาวเมืองเต้นใช่ไหม 00:05:06.060 --> 00:05:07.400 สภาเมืองจัดให้ค่ะ 00:05:07.500 --> 00:05:09.200 สภาเมืองก็เลยเปิด Guildhall นะคะ 00:05:09.200 --> 00:05:11.560 หมายถึงแบบเปิดศาลาว่าการเมืองประมาณนั้นน่ะ 00:05:11.560 --> 00:05:14.720 แล้วก็เอาเวทีมาตั้ง ไปจ้างวงดนตรีมานะคะบอกว่า 00:05:14.720 --> 00:05:16.760 อะ พวกเธอแดนซ์เงียบๆมา 1 อาทิตย์แล้วนะ 00:05:16.760 --> 00:05:17.840 ฉันทนไม่ได้ละ 00:05:17.840 --> 00:05:20.260 อะ เอาวงดนตรีไป มิวสิกมา 00:05:21.060 --> 00:05:23.320 น่ะ เพลงค่อยแดนซ์ขึ้นหน่อยนะคะ 00:05:23.320 --> 00:05:25.740 เมื่อกี้มันดูเงียบไป ดูไม่แดนซ์เลยใช่ไหม 00:05:25.740 --> 00:05:28.940 ตอนนี้มีอะไรแล้ว มีเวที มีวงดนตรีเล่นเพลงแล้วใช่ไหม 00:05:29.180 --> 00:05:30.600 สภาเมืองยังคิดไม่จบค่ะ 00:05:30.600 --> 00:05:33.680 สภาเมืองก็ยังเป็นห่วงชาวเมืองอีกนะคะประมาณว่า 00:05:34.040 --> 00:05:36.340 เฮ้ย หลายๆคนมันออกมาเต้นน่ะ ท่ามันไม่ได้เรื่องเลย 00:05:36.340 --> 00:05:37.480 มันคิดท่าเองไม่ได้ 00:05:37.580 --> 00:05:38.340 เหมือนใน Tiktok อะ 00:05:38.340 --> 00:05:40.120 ดูบางคนดิ คิดท่าเองไม่ได้เรื่อง 00:05:40.120 --> 00:05:43.120 มันจะต้องไปเต้นตาม template มีคนเต้นนำ เต้นตาม 00:05:43.120 --> 00:05:44.760 อ้า อย่างนี้ท่ามันจะได้สวย 00:05:44.760 --> 00:05:46.280 เหมือนที่แบบเต้นๆกันใช่ไหม 00:05:46.280 --> 00:05:47.880 ดังนั้นค่ะสภาเมืองก็บอก 00:05:48.100 --> 00:05:50.240 โอเค งั้นเอาอย่างนี้ จ้างแดนเซอร์ 00:05:50.680 --> 00:05:53.340 ไป นักเต้นมืออาชีพ โคโยต้งโคโยตี้มาให้พร้อม 00:05:53.340 --> 00:05:55.800 อะโกก้ง อะโกโก้ เอามาเรียงกันให้หมด 00:05:55.800 --> 00:05:57.060 เรียงกันให้เต็มเวที 00:05:57.060 --> 00:05:58.260 บิ๊วมันเข้าไป 00:05:58.260 --> 00:06:00.460 เพลงก็เปิด แดนเซอร์ก็เต้นนำ 00:06:00.460 --> 00:06:01.840 คนก็เต้มตามนะคะ 00:06:01.840 --> 00:06:04.080 เรียกได้ว่าเหมือนปิดเมืองเหมือนจัดปาร์ตี้สงกรานต์อะ 00:06:04.080 --> 00:06:06.000 แต่ไม่ได้จัดวันเดียวหรือ 3 วัน 00:06:06.020 --> 00:06:08.900 จัดกันยาวๆไปเลยจนกว่าทุกคนจะหยุดเต้นนะคะ 00:06:09.000 --> 00:06:11.380 ซึ่งถามว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดอะไรขึ้น 00:06:11.540 --> 00:06:13.220 ตอนแรกเต้นเงียบๆก็จะแย่แล้ว 00:06:13.220 --> 00:06:16.520 นี่มีเพลงมีอะไรมาดึ๊งดึ่งดึ๊งดึ่งอะไรกันอีกเต็มไปหมดนะคะ 00:06:16.520 --> 00:06:18.840 ดังนั้นคนทั้งเมืองก็ออกมาแดนซ์กันแบบ 00:06:18.940 --> 00:06:20.380 แดนซ์กระจุยกระจายค่ะ 00:06:20.520 --> 00:06:22.160 หลังจากนั้นนะคะ ไม่นานเลยค่ะ 00:06:22.160 --> 00:06:24.240 ชัดเลยว่าหมอวินิจฉัยผิด เพราะว่า 00:06:24.560 --> 00:06:27.260 เหล่าคนที่แค่เต้นแล้วเป็นลม เต้นแล้วเป็นลมเนี่ยนะคะ 00:06:27.420 --> 00:06:28.800 ก็เริ่มออกอาการค่ะ 00:06:28.800 --> 00:06:31.120 บางคนก็แบบเต้นๆๆ โอ๊ะ หัวใจวาย 00:06:31.120 --> 00:06:32.320 แล้วก็ลงไปตายนะคะ 00:06:32.500 --> 00:06:33.720 หรือบางคนก็แบบโอ๊ะ 00:06:34.080 --> 00:06:36.020 เส้นเลือดในสมองแตก ตายดีกว่า 00:06:36.020 --> 00:06:37.500 บางคนก็แบบอ่อนเพลียแล้วก็ 00:06:37.640 --> 00:06:38.700 ล้มลงไปนะคะ 00:06:38.700 --> 00:06:40.720 เรียกได้ว่าเต้นแล้วก็ร่วงกันไป 00:06:40.720 --> 00:06:42.780 เต้นร่วง เต้นร่วงค่ะ แต่ถามว่า 00:06:42.960 --> 00:06:44.480 การเต้นเหล่านี้ยังหยุดไหม 00:06:44.480 --> 00:06:46.860 ต้องบอกว่าสิ่งนี้ทำอะไรชาวเมืองไม่ได้นะคะ 00:06:46.860 --> 00:06:48.780 พวกชาวเมืองนี่ฟลอร์กระจุยกันจริงๆ 00:06:49.020 --> 00:06:50.840 เพราะว่าใครตายก็ตายไปค่ะ 00:06:50.840 --> 00:06:53.060 ส่วนคนที่เต้นก็เต้นต่อนะคะ เรียกได้ว่า 00:06:53.320 --> 00:06:54.720 เต้นกันต่อไปเรื่อยๆค่ะ 00:06:54.720 --> 00:06:57.500 ซึ่งเขาบอกว่าเหตุการณ์ตอนที่ผู้หญิงคนแรกออกมาเต้นเนี่ย 00:06:57.680 --> 00:07:00.040 มันเริ่มต้นเมื่อตอนเดือนกรกฎาคมใช่ไหม 00:07:00.280 --> 00:07:02.960 พอถึงเดือนสิงหาคมค่ะ หนึ่งเดือนผ่านไปเนี่ย 00:07:03.180 --> 00:07:05.880 ตอนนี้มีคนออกมาเต้นร่วมกันนะคะประมาณ 00:07:06.100 --> 00:07:07.800 400 คนเลยทีเดียว 00:07:07.800 --> 00:07:09.920 เรียกได้ว่าเหมือนแบบปาร์ตี้ขนาดใหญ่เลยนะคะ 00:07:09.920 --> 00:07:11.320 ใหญ่กว่านี้ก็คือจัดคอนเสิร์ต 00:07:11.320 --> 00:07:12.980 อิมแพคอารีน่าอะไรอย่างนี้แล้วนะ 00:07:12.980 --> 00:07:14.100 คนก็แดนซ์กันไปค่ะ 00:07:14.100 --> 00:07:16.420 ก็แดนซ์ตาย แดนซ์ตาย อย่างนี้กันไปเรื่อยๆนะคะ 00:07:16.420 --> 00:07:18.840 จนกระทั่งเวลาผ่านไปทั้งหมด 2 เดือนนะคะ 00:07:18.840 --> 00:07:20.360 ถึงเดือนกันยายนเนี่ย 00:07:20.360 --> 00:07:23.860 อยู่ดีๆเหตุการณ์การเต้นมันก็หยุดลงซะอย่างนั้นเลย 00:07:26.140 --> 00:07:28.820 ซึ่งตามตำนานเนี่ย เขาก็เล่าลือกันต่อมานะคะ 00:07:28.820 --> 00:07:31.955 ว่าสาเหตุที่การเต้นหยุดลงเนี่ย เพราะว่าสภาเมืองตัดสินใจ 00:07:31.960 --> 00:07:33.920 กลับค่ะ กลับตัวนะคะ ประมาณว่า 00:07:33.920 --> 00:07:35.340 เฮ้ย ฉันไปบิ๊วมันไม่ได้ละ 00:07:35.340 --> 00:07:37.340 ถ้าฉันไปบิ๊วมันเนี่ย มันจะเต้นต่อไปเรื่อยๆ 00:07:37.560 --> 00:07:38.700 ดังนั้นต้องเบรก 00:07:38.700 --> 00:07:40.240 ตอนนี้จิตใจร้อนรุ่ม 00:07:40.240 --> 00:07:42.060 ต้องทำให้อารมณ์เย็นลง 00:07:42.060 --> 00:07:43.680 ด้วยการไล่มันขึ้นเขาไปให้หมด 00:07:43.680 --> 00:07:45.060 อะ ทุกคนขึ้นไปยอดเขา 00:07:45.060 --> 00:07:47.160 บนเขามีวัดนะ มีโบสถ์อะไรต่างๆ 00:07:47.420 --> 00:07:49.640 ไป ไปสารภาพบ่ง สารภาพบาป 00:07:49.640 --> 00:07:52.320 นั่งสมาธิ สวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้า 00:07:52.480 --> 00:07:54.220 เอาให้พอ เอาให้จิตใจสงบ 00:07:54.520 --> 00:07:57.880 ก็ไม่รู้ว่าบังเอิญสิ่งนี้ไป trigger ชาวเมืองรึเปล่านะคะ 00:07:57.880 --> 00:08:01.275 ทำให้ชาวเมืองค่อยๆหยุดเต้นกันไปทีละคนสองคนสามคน 00:08:01.440 --> 00:08:04.540 หรือว่าบังเอิญ Dancing Plague เนี่ยมันจบลงพอดีนะคะ 00:08:04.540 --> 00:08:06.720 ทำให้ชาวเมืองเนี่ยหยุดเต้นกันค่ะ 00:08:06.720 --> 00:08:08.720 ดังนั้นเหตุการณ์ Dancing Plague ในครั้งนั้นนะคะ 00:08:08.720 --> 00:08:10.300 ก็เลยจบลงแบบงงๆ 00:08:10.300 --> 00:08:12.880 เหมือนกับตอนที่มันเริ่มแบบงงๆ คือไม่มีใครรู้ว่า 00:08:13.120 --> 00:08:15.040 เกิดขึ้นยังไงแล้วก็จบลงยังไงนะคะ 00:08:15.040 --> 00:08:17.140 เป็นเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นมา 00:08:17.140 --> 00:08:18.820 แล้วก็จบลงภายใน 2 เดือน 00:08:18.820 --> 00:08:19.900 ซะอย่างนั้นเลย 00:08:20.000 --> 00:08:22.300 แต่หลายคนนะคะฟังแบบนี้ก็อาจจะรู้สึกว่า 00:08:22.300 --> 00:08:23.780 เฮ้ย มันไม่เกิดขึ้นจริงรึเปล่า 00:08:23.780 --> 00:08:25.460 มันมั่วรึเปล่า อะไรยังไงนะคะ 00:08:25.500 --> 00:08:27.800 ต้องบอกว่ามันมีเอกสารทางประวัติศาสตร์นะคะ 00:08:27.800 --> 00:08:29.480 ในศตวรรษที่ 16 เนี่ยที่ 00:08:29.600 --> 00:08:32.500 บันทึกเรื่องราวนี้ไว้อย่างค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียวค่ะ 00:08:32.500 --> 00:08:35.940 ดังนั้นนี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์นะคะและ 00:08:36.220 --> 00:08:37.840 ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวค่ะ 00:08:37.840 --> 00:08:40.780 แต่ว่าตลอดตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ถึงศตวรรษที่ 16 เนี่ย 00:08:40.920 --> 00:08:43.500 เกิดเหตุการณ์นี้หลายต่อหลายครั้งมากๆในยุโรปค่ะ 00:08:43.500 --> 00:08:45.140 ไม่ว่าจะเป็นที่สวิตเซอร์แลนด์ 00:08:45.540 --> 00:08:46.800 ที่ฮอลแลนด์ 00:08:46.800 --> 00:08:48.960 หรือว่าที่เยอรมนีเองก็ตามนะคะ 00:08:48.960 --> 00:08:52.520 ก็ล้วนแต่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาเช่นเดียวกันค่ะ 00:08:52.720 --> 00:08:55.360 ทีนี้นักประวัติศาสตร์ในสมัยปัจจุบันก็พยายาม 00:08:55.360 --> 00:08:56.620 จะสันนิษฐานกันนะคะว่า 00:08:56.840 --> 00:08:59.340 เอ๊ะ เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไงอะไรต่างๆ 00:08:59.340 --> 00:09:01.340 มันเป็นที่อาการทางร่างกาย 00:09:01.340 --> 00:09:03.960 หรืออาการทางสมอง หรือมันเป็นอะไรนะคะ 00:09:04.220 --> 00:09:07.060 ซึ่งเขาก็สันนิษฐานออกมาได้ทั้งหมด 4 ข้อด้วยกันค่ะ 00:09:07.060 --> 00:09:08.660 เดี๋ยวเรามาฟังกันไปทีละข้อเลยเนอะ 00:09:08.660 --> 00:09:10.300 ข้อแรกค่ะ เขาบอกว่า 00:09:10.320 --> 00:09:12.640 มันมีนักบุญอยู่คนนึงนะคะในศาสนาคริสต์ 00:09:12.640 --> 00:09:14.240 ที่ชาวบ้านในสมัยนั้นน่ะ 00:09:14.480 --> 00:09:17.400 ค่อนข้างจะเชื่อกันว่าสามารถสาปคนได้ค่ะและ 00:09:17.700 --> 00:09:20.040 เขาไม่ได้สาปธรรมดา เขาจะสาปแบบปิ้ว 00:09:20.380 --> 00:09:21.920 ขอให้แกจงเต้นไม่หยุด 00:09:22.300 --> 00:09:24.240 ประมาณนี้ ก็เป็นคำสาปที่แปลกดี 00:09:24.240 --> 00:09:26.320 เหมือนกับเป็นเทพเจ้าเท้าไฟอะไรอย่างนี้รึเปล่า 00:09:26.780 --> 00:09:28.115 อะ ไม่เกี่ยวนะคะ กลับมา 00:09:28.360 --> 00:09:30.620 ทีนี้พอมันมีความเชื่อเรื่องนักบุญคนนี้นะคะ 00:09:30.620 --> 00:09:32.100 ที่สามารถสาปคนได้เนี่ย 00:09:32.520 --> 00:09:34.600 บังเอิญว่าช่วงในปีค.ศ. 1518 เนี่ยนะคะ 00:09:34.600 --> 00:09:36.040 เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น 00:09:36.320 --> 00:09:37.480 ในฝรั่งเศสค่ะ 00:09:37.480 --> 00:09:40.260 ก็คือตอนนั้นเนี่ยเป็นตอนที่ฝรั่งเศสแห้งแล้งมากๆ 00:09:40.260 --> 00:09:42.800 โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นนะคะ 00:09:42.940 --> 00:09:44.960 แล้วก็มีความอดอยาก มีอะไรต่างๆ 00:09:44.960 --> 00:09:46.340 ประชาชนเครียดค่ะ 00:09:46.340 --> 00:09:48.855 เรียกได้ว่าเครียดแบบเครียดมากๆ สติจะแตกอยู่แล้วนะ 00:09:48.860 --> 00:09:50.220 พร้อมสติแตกทุกเมื่อ 00:09:50.540 --> 00:09:53.080 เมื่อมันมีความเชื่อเรื่องแบบนักบุญที่สามารถ 00:09:53.340 --> 00:09:55.280 สาปให้คนเต้นได้เนี่ยขึ้นมา 00:09:55.660 --> 00:09:57.720 มันก็เลยทำให้คนแรกเนี่ยเหมือนกับว่า 00:09:57.940 --> 00:10:00.660 สติหลุดอะ แล้วเข้าใจไปเองว่าตัวเองโดนนักบุญสาป 00:10:00.660 --> 00:10:03.135 ก็เลยออกมาแดนซ์กลางถนนซะอย่างนั้นเลยนะคะ 00:10:03.380 --> 00:10:05.420 ส่วนหลังจากนั้นเนี่ย ชาวบ้านคนอื่นๆ 00:10:05.420 --> 00:10:06.840 พอเห็นผู้หญิงคนนี้แดนซ์ไม่หยุด 00:10:07.060 --> 00:10:08.420 ก็เลยไปได้คอนเซ็ปต์มาว่า 00:10:08.420 --> 00:10:11.000 เฮ้ย มันจะต้องมีนักบุญมาสาปให้แดนซ์ไม่หยุดแน่ๆเลย 00:10:11.120 --> 00:10:12.280 ฉันโดนรึเปล่า ฉันโดนรึเปล่า 00:10:12.280 --> 00:10:13.880 ฉันก็สติจะหลุดแล้วเหมือนกัน 00:10:13.880 --> 00:10:15.860 ฉันก็เลยออกมาเต้นด้วยซะอย่างนั้น 00:10:15.860 --> 00:10:17.700 ทำให้ทั้งเมืองเนี่ยออกมาเต้นกันไปหมด 00:10:17.700 --> 00:10:19.580 ด้วยความเครียด ความแพนิก แล้วก็ 00:10:19.820 --> 00:10:21.960 ความเหมือนแบบหลอนไปเองว่าฉันโดนสาป 00:10:21.960 --> 00:10:24.480 ประมาณนั้นค่ะ ถือว่าเป็นอาการทางจิตอย่างนึงนะ 00:10:24.700 --> 00:10:26.160 ส่วนอย่างที่สองเนี่ยนะคะ เขาเชื่อกันว่า 00:10:26.160 --> 00:10:28.440 อาจจะเกิดจากความเชื่ออะไรบางอย่างในช่วงนั้นค่ะ 00:10:28.440 --> 00:10:30.120 อารมณ์เหมือนกับคล้ายๆประเทศไทยอะ 00:10:30.380 --> 00:10:33.560 ที่อยู่ดีๆก็มีน้ำผุดขึ้นมากลางหมู่บ้านแล้วก็มีคนบอกว่า 00:10:33.760 --> 00:10:36.640 น้ำนี่เป็นน้ำวิเศษ ใครกินแล้วจะหายจากโรคทุกอย่าง 00:10:36.840 --> 00:10:37.820 อารมณ์นั้นเลย 00:10:37.820 --> 00:10:39.380 มันก็เป็นอุปทานหมู่ต่อไปเรื่อยๆ 00:10:39.380 --> 00:10:41.820 คนแรกมากินแล้วก็บอกว่าอุ๊ย หายทุกอย่างเลย 00:10:41.820 --> 00:10:43.320 คนที่สองก็เลยมากินตาม 00:10:43.320 --> 00:10:44.900 แล้วทั้งหมู่บ้านก็เลยไปรุมกินกัน 00:10:44.900 --> 00:10:47.300 ทั้งๆที่นั่นคือน้ำส้วมแตกอะไรอย่างนี้นะคะ 00:10:47.520 --> 00:10:50.040 เช่นเดียวกันนะคะ เป็นไปได้ว่าในฝรั่งเศสตอนนั้นเนี่ย 00:10:50.040 --> 00:10:52.720 อาจจะเกิดความเชื่อลัทธิอะไรใหม่ๆขึ้นมา 00:10:52.720 --> 00:10:53.660 มีใครมาบอกว่า 00:10:53.885 --> 00:10:57.220 การออกมาแดนซ์เนี่ยจะทำให้พระเจ้าโปรดหรือว่าอะไรต่างๆ 00:10:57.220 --> 00:10:59.140 ทำให้ความอดอยากทำให้อะไรหายไป 00:10:59.380 --> 00:11:01.340 ทำให้ชาวเมืองเนี่ยอุปทานหมู่นะคะ 00:11:01.340 --> 00:11:02.775 แล้วก็พากันออกมาแดนซ์ 00:11:02.780 --> 00:11:05.140 เพื่อบูชาพระเจ้า บูชาเทพเจ้าต่างๆ 00:11:05.140 --> 00:11:06.340 แล้วก็เลยเป็นสาเหตุที่แบบ 00:11:06.620 --> 00:11:08.480 ต่อให้ล้มลงไปก็จะต้องฮึดขึ้นมา 00:11:08.480 --> 00:11:10.820 เพื่อบูชาเทพเจ้าต่อแล้วก็แดนซ์ต่อค่ะ 00:11:11.180 --> 00:11:13.000 ส่วนสาเหตุที่สามนะคะเขาเชื่อว่า 00:11:13.000 --> 00:11:15.420 อาจจะเกิดจากการกินอาหารค่ะ ประมาณว่า 00:11:15.700 --> 00:11:18.100 อาจจะไปกินโดนเห็ดพิษหรืออะไรต่างๆ 00:11:18.100 --> 00:11:20.840 ที่เป็นเห็ดเมาหรือว่ายาเสพติดโดยที่ไม่รู้ตัว 00:11:20.840 --> 00:11:23.500 เหมือนกับว่าไปเก็บพืชผักธัญญาหารอะไรมากิน 00:11:23.500 --> 00:11:24.480 แล้วแบบไม่รู้อะ 00:11:24.620 --> 00:11:26.400 พอกินเข้าไปมันก็เลยหลอนนะคะ 00:11:26.400 --> 00:11:27.340 แล้วก็เลยออกมาเต้นกัน 00:11:27.340 --> 00:11:29.060 เหมือนแบบเมาเห็ดเมาว่าอย่างนั้นเถอะ 00:11:29.380 --> 00:11:30.640 ส่วนเหตุการณ์ที่สี่เนี่ย 00:11:30.640 --> 00:11:32.480 ก็ค่อนข้างจะ make sense มากนิดนึง 00:11:32.480 --> 00:11:35.180 คือเขาบอกว่าชาวฝรั่งเศสช่วงนั้นน่ะ กินขนมปังใช่ไหม 00:11:35.180 --> 00:11:36.980 แล้วมันก็จะมีขนมปังจากแป้งหลายชนิด 00:11:37.280 --> 00:11:40.120 ชาวเมืองเนี่ยอาจจะไปกินโดนขนมปังจากแป้ง Rye 00:11:40.120 --> 00:11:41.980 ซึ่งมันมักจะมีเชื้อราค่ะ 00:11:41.980 --> 00:11:43.520 และเชื้อราที่อยู่ในแป้ง Rye เนี่ย 00:11:43.760 --> 00:11:46.000 เป็นเชื้อราที่ส่งผลต่อสมองนะคะ 00:11:46.000 --> 00:11:48.600 คือถ้ากินเข้าไปแล้วสมองจะมีปัญหาอะไรต่างๆ 00:11:48.880 --> 00:11:50.960 ทำให้เกิดภาพหลอนแล้วก็เลยทำให้ 00:11:51.160 --> 00:11:53.380 ชาวเมืองเนี่ยหลอนแล้วก็ออกมาเต้นกันนะคะ 00:11:53.380 --> 00:11:54.640 ซึ่งเชื้อราในแป้ง Rye เนี่ย 00:11:54.640 --> 00:11:56.260 ต้องบอกว่าส่งผลต่อสมองจริงๆนะ 00:11:56.260 --> 00:11:58.175 เพราะว่าปัจจุบันเราก็เอาเชื้อราตัวนี้ 00:11:58.400 --> 00:11:59.980 มาทำเป็นยาไมเกรนนั่นเอง 00:11:59.980 --> 00:12:02.180 ดังนั้นชัดเจนมากว่ามันส่งผลต่อสมองนะคะ 00:12:02.180 --> 00:12:03.340 ก็เอาจริงๆแล้วเนี่ย 00:12:03.340 --> 00:12:05.220 สมัยปัจจุบันเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่า 00:12:05.400 --> 00:12:07.640 สาเหตุไหนคือสาเหตุจริงๆกันแน่ เพราะว่า 00:12:07.640 --> 00:12:09.020 หมอปัจจุบันก็ไม่สามารถ 00:12:09.020 --> 00:12:10.700 ไปตรวจสอบเหตุการณ์ในอดีตได้ 00:12:10.700 --> 00:12:13.720 คือเราก็ไม่ได้มีซากศพใครที่แบบติดโรคนี้หรืออะไร 00:12:13.720 --> 00:12:15.940 ที่จะสามารถมาผ่าพิสูจน์อะไรต่างๆได้ 00:12:16.180 --> 00:12:19.800 ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นปริศนาต่อไปเรื่อยๆนะคะ 00:12:19.940 --> 00:12:21.800 แต่อย่างไรก็ดีค่ะ ต้องบอกว่าเรื่องนี้ 00:12:21.800 --> 00:12:24.820 มันก็มีคนเอามาบันทึกไว้ในรูปแบบต่างๆมากมาย 00:12:24.820 --> 00:12:26.380 อย่างที่วิวบอกเนี่ยมันก็มีบันทึก 00:12:26.380 --> 00:12:27.840 อยู่ในประวัติศาสตร์แล้วใช่ไหม 00:12:28.020 --> 00:12:28.860 เท่านั้นยังไม่พอ 00:12:28.860 --> 00:12:30.600 มันยังเป็นแรงบันดาลใจของวรรณกรรม 00:12:30.600 --> 00:12:32.080 อะไรหลายๆเรื่องด้วยนะคะ 00:12:32.080 --> 00:12:33.480 ยกตัวอย่างเช่นเรื่องนึงเนี่ย 00:12:33.480 --> 00:12:35.260 ที่ส่วนตัววิวอ่านมาแล้วก็เจอ 00:12:35.260 --> 00:12:37.180 แล้วคิดว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แน่ๆ 00:12:37.300 --> 00:12:38.780 ขอย้ำอีกรอบว่าเป็นการคิดเอง 00:12:38.780 --> 00:12:40.560 แต่คิดว่าเกี่ยวแน่ๆเพราะมันชัดมาก 00:12:40.560 --> 00:12:42.680 ก็คือเรื่องแมรี่ ป๊อปปินส์นั่นเองนะคะ 00:12:42.680 --> 00:12:45.140 ถ้าใครเคยอ่านแมรี่ ป๊อปปินส์เล่มเต็มเนี่ยจะเห็นว่า 00:12:45.420 --> 00:12:47.220 มันมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับ 00:12:47.220 --> 00:12:49.180 แม่วัวที่แดนซ์ไม่หยุดนะคะใน 00:12:49.380 --> 00:12:52.920 บทที่เจนหรือว่าเด็กผู้หญิงตัวเอกของเรื่องเนี่ยนะ 00:12:53.140 --> 00:12:54.500 ป่วยนอนอยู่บนเตียงค่ะ 00:12:54.500 --> 00:12:56.140 แล้วก็ไมเคิลซึ่งเป็นน้องของเจนเนี่ย 00:12:56.140 --> 00:12:58.460 ก็เล่าให้เจนฟังว่านอกหน้าต่างมีวัวตัวนึง 00:12:58.460 --> 00:13:00.255 มาเดิน นี่มาเดินทำอะไรอยู่ที่ 00:13:00.260 --> 00:13:01.640 ถนนหน้าบ้านเรานะ 00:13:01.760 --> 00:13:03.100 ทำให้แมรี่ ป๊อปปินส์เนี่ย 00:13:03.105 --> 00:13:04.880 เล่าเรื่องราวของวัวตัวนี้ให้ฟังค่ะ 00:13:04.880 --> 00:13:06.055 ก็เป็นแม่วัวที่ 00:13:06.220 --> 00:13:08.660 บังเอิญอยู่ในทุ่งแดนดิไลออนของตัวเอง 00:13:08.660 --> 00:13:10.520 แล้วอยู่ดีๆวันนึงเนี่ย ก็มีดวงดาว 00:13:10.820 --> 00:13:12.340 หล่นลงมาปักอยู่ที่เขา 00:13:12.340 --> 00:13:14.620 ทำให้แม่วัวตัวนี้แดนซ์ไม่หยุดนะคะ 00:13:14.620 --> 00:13:16.000 เต้นไม่หยุด เต้นจนเหนื่อยแบบ 00:13:16.140 --> 00:13:17.040 จะเป็นจะตาย 00:13:17.305 --> 00:13:19.200 สุดท้ายก็เลยต้องไปให้พระราชาช่วย 00:13:19.200 --> 00:13:20.920 เพื่อที่จะดึงดาวดวงนี้ออกไป 00:13:20.920 --> 00:13:23.565 แต่ว่าพระราชาก็ไม่สามารถช่วยดึงได้นะคะ 00:13:23.565 --> 00:13:26.120 ในที่สุดพระราชาก็คิดวิธีออกค่ะว่า 00:13:26.120 --> 00:13:27.800 ให้แม่วัวเนี่ยกระโดดให้สูงที่สุด 00:13:28.060 --> 00:13:29.180 กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า 00:13:29.180 --> 00:13:31.260 ดาวจะได้กลับไปติดบนท้องฟ้าอีกรอบนึง 00:13:31.260 --> 00:13:33.080 แม่วัวก็เลยกระโดดนะคะ แล้วดาวก็ 00:13:33.300 --> 00:13:34.900 กลับไปติดที่ท้องฟ้าจริงๆ 00:13:34.900 --> 00:13:37.840 ทำให้แม่วัวกลับสู่สภาพปกติของตัวเองนะคะแล้วก็ 00:13:37.980 --> 00:13:40.000 กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบอีกครั้งนึง 00:13:40.120 --> 00:13:42.420 อย่างไรก็ตามนะคะ แม่วัวในเรื่องเนี่ยติดใจ 00:13:42.420 --> 00:13:44.640 คือชีวิตที่ผ่านมาทั้งชีวิต ตัวเองเป็น 00:13:44.640 --> 00:13:47.080 แม่วัวที่สุภาพ เป็นแม่วัวที่เรียบร้อย 00:13:47.080 --> 00:13:48.740 แม่วัวที่อยู่ในกรอบประเพณี 00:13:48.960 --> 00:13:50.480 ไม่เคยได้ออกมาปลดปล่อยเลย 00:13:50.480 --> 00:13:52.020 ตั้งแต่ที่มีดาวติดหัวเนี่ย 00:13:52.140 --> 00:13:54.020 ก็รู้สึกว่าตัวเองได้ปลดปล่อย ได้สนุก 00:13:54.020 --> 00:13:55.040 ก็เลยออกเดินทาง 00:13:55.040 --> 00:13:57.240 ตามหาดาวดวงนั้นอีกรอบนึงนะคะ 00:13:57.240 --> 00:13:59.760 เป็นเหมือนกับว่าแม่วัวนี่เข้าร่วมโครงการ 00:13:59.940 --> 00:14:02.820 เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวซะอย่างนั้นเลยนะจ๊ะ 00:14:02.820 --> 00:14:06.000 นี่ก็เป็นเรื่องราวที่น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ 00:14:06.000 --> 00:14:07.620 Dancing Plague ในครั้งนั้นค่ะ 00:14:07.740 --> 00:14:09.740 เป็นไงบ้างเรื่องราวนี้สนุกสนานกันไหม 00:14:09.740 --> 00:14:12.180 ก็เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์สนุกๆอีกข้อนึงนะคะ 00:14:12.300 --> 00:14:14.380 สำหรับใครที่อยากฟังเรื่องราวแบบนี้อีกก็สามารถ 00:14:14.380 --> 00:14:16.940 คอมเมนต์มาได้ด้านล่างนะคะว่าอยากฟังเรื่องอะไรค่ะ 00:14:17.080 --> 00:14:19.020 ส่วนใครที่ชื่นชอบคลิปนี้นะคะก็อย่าลืม 00:14:19.020 --> 00:14:20.260 กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ 00:14:20.260 --> 00:14:21.880 กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ 00:14:22.140 --> 00:14:23.820 สำหรับตอนนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน 00:14:23.820 --> 00:14:24.560 บ๊ายบาย 00:14:24.860 --> 00:14:25.780 สวัสดีค่ะ 00:14:26.040 --> 00:14:28.620 เอาจริงก็นับเป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายอยู่นะคะ 00:14:28.620 --> 00:14:31.660 กับการเต้นจนแบบตาย เต้นจนตาย เต้นจนตาย 00:14:31.660 --> 00:14:32.800 ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ย 00:14:32.980 --> 00:14:35.920 ในโลกใบนี้ยังมีเหตุการณ์แปลกๆที่เราไม่คิดว่า 00:14:36.140 --> 00:14:38.680 เฮ้ย มันเกิดขึ้นจริงเนี่ย อีกเต็มไปหมดเลยนะคะ 00:14:38.680 --> 00:14:40.000 ถ้าเดี๋ยวมีโอกาสจะลอง 00:14:40.000 --> 00:14:41.480 หยิบขึ้นมาเล่าให้ฟังกันค่ะ 00:14:41.480 --> 00:14:43.415 แต่สำหรับวันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน 00:14:43.660 --> 00:14:44.500 บ๊ายบาย 00:14:44.500 --> 00:14:45.480 สวัสดีค่ะ 00:14:49.920 --> 00:14:51.820 คิดว่าจะเห็นวิวเต้นกันใช่ไหม 00:14:51.820 --> 00:14:52.865 ไม่มีทางค่ะ 00:14:52.865 --> 00:14:54.735 ไม่มีทาง เสียใจด้วยนะจ๊ะ