1 00:00:00,200 --> 00:00:02,480 ช่วงโควิดแบบนี้หลายๆคนกลายเป็นแดนเซอร์ 2 00:00:02,480 --> 00:00:03,720 แต่รู้ไหมคะว่าในอดีต 3 00:00:03,920 --> 00:00:05,780 เคยมีโรคระบาดที่ทำให้คน 4 00:00:05,780 --> 00:00:06,940 แดนซ์ไม่หยุดค่ะ 5 00:00:07,260 --> 00:00:09,100 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 6 00:00:09,100 --> 00:00:11,040 เชื่อว่าช่วง COVID-19 แบบนี้นะคะ 7 00:00:11,040 --> 00:00:13,400 นอกจากวิถีชีวิตต่างๆของเราจะเปลี่ยนไป 8 00:00:13,560 --> 00:00:14,660 จะต้องใส่หน้ากาก 9 00:00:14,660 --> 00:00:17,040 จะต้องมี Social Distance อะไรต่างๆแล้วเนี่ย 10 00:00:17,300 --> 00:00:19,520 หลายๆคนยังค้นพบสิ่งนึงเพิ่มเติมค่ะ 11 00:00:19,660 --> 00:00:20,460 นั่นก็คือ 12 00:00:20,460 --> 00:00:22,820 ค้นพบความเป็นแดนเซอร์ในตัวเองนะคะ 13 00:00:22,820 --> 00:00:25,340 คือเอาจริงๆตอนนี้ทุกวันไถผ่าน Facebook 14 00:00:25,340 --> 00:00:26,620 ไถผ่าน Twitter เนี่ย 15 00:00:26,880 --> 00:00:27,980 เพื่อนๆของวิวหลายๆคน 16 00:00:27,980 --> 00:00:29,640 กลายเป็นแดนเซอร์กันไปหมดแล้วค่ะ 17 00:00:29,820 --> 00:00:31,320 เชื่อว่าหลายๆคนที่ดูอยู่ตอนนี้ 18 00:00:31,320 --> 00:00:33,000 ก็น่าจะกลายเป็นแดนเซอร์ไปด้วยนะคะ 19 00:00:33,000 --> 00:00:36,180 อยู่ดีๆก็ออกมาอัดคลิปวิดีโอตัวเองเต้นต่างๆมากมาย 20 00:00:36,440 --> 00:00:38,220 แต่รู้กันไหมคะว่าในอดีตเนี่ย 21 00:00:38,360 --> 00:00:39,960 เคยมีบันทึกทางประวัติศาสตร์ค่ะ 22 00:00:39,960 --> 00:00:41,360 เล่าถึงเหตุการณ์นึงที่ 23 00:00:41,580 --> 00:00:43,760 แปลกมากๆเลยนะ เป็นเหตุการณ์ที่ 24 00:00:43,960 --> 00:00:46,000 เกิดโรคระบาดโรคนึงขึ้นนะคะ 25 00:00:46,000 --> 00:00:48,380 และผลของโรคนี้ก็คือการที่ 26 00:00:48,380 --> 00:00:50,700 ชาวเมืองออกมาแดนซ์กันไม่หยุดค่ะ 27 00:00:50,940 --> 00:00:53,880 เรียกได้ว่าแดนซ์กันจนตายคาฟลอร์เลยทีเดียวนะคะทุกคน 28 00:00:54,240 --> 00:00:55,800 หลายๆคนอาจจะคิดว่าไม่จริงนะคะ 29 00:00:55,800 --> 00:00:56,580 ไม่ต้องห่วงค่ะ 30 00:00:56,580 --> 00:00:59,360 วันนี้วิวหาข้อมูลมาเล่าให้ทุกคนฟังเรียบร้อยแล้วนะคะ 31 00:00:59,360 --> 00:01:01,620 สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง 32 00:01:01,620 --> 00:01:03,360 สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ 33 00:01:03,360 --> 00:01:05,400 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 34 00:01:09,480 --> 00:01:10,620 ก่อนที่จะเล่าเนี่ยนะคะ 35 00:01:10,620 --> 00:01:12,700 ขอออกตัวก่อนค่ะว่าเรื่องที่วิวจะนำมาเล่าเนี่ย 36 00:01:12,700 --> 00:01:14,080 วิวไม่ได้มั่วขึ้นมานะคะทุกคน 37 00:01:14,300 --> 00:01:16,860 มันเป็นบันทึกเหตุการณ์จริงๆทางประวัติศาสตร์นะ 38 00:01:16,860 --> 00:01:19,740 ดังนั้นถ้าสมมติว่าใครอยากไปหาอ่านเพิ่มเติมอะไรต่างๆ 39 00:01:19,920 --> 00:01:21,600 วิวลงอ้างอิงไว้ให้ด้านล่างแล้วค่ะ 40 00:01:21,600 --> 00:01:22,760 สามารถไปดูได้นะ 41 00:01:22,980 --> 00:01:24,880 อะ เรามาเข้าเรื่องของเราดีกว่าค่ะ 42 00:01:25,040 --> 00:01:27,320 ต้องบอกว่าโรคที่ทำให้คนแดนซ์ไม่หยุดเนี่ย 43 00:01:27,320 --> 00:01:29,880 เป็นเหตุการณ์นึงทางประวัติศาสตร์นะคะที่เกิดขึ้นจริง 44 00:01:30,100 --> 00:01:31,940 หลายๆคนเขาจะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า 45 00:01:31,940 --> 00:01:33,060 Dancing Plague ค่ะ 46 00:01:33,060 --> 00:01:35,240 ก็คือ Plague นี่คือโรคระบาดใช่ไหมคะ 47 00:01:35,240 --> 00:01:36,320 Dancing ก็คือการเต้น 48 00:01:36,320 --> 00:01:38,680 ก็คือโรคระบาดที่ทำให้คนเต้นไม่หยุดค่ะ 49 00:01:38,840 --> 00:01:41,000 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุดเนี่ยนะคะเกิดขึ้น 50 00:01:41,000 --> 00:01:44,660 เมื่อปีค.ศ. 1518 ค่ะ ที่ฝรั่งเศสนะคะ 51 00:01:44,840 --> 00:01:46,720 หรือว่าในสมัยนั้นเนี่ยก็ 52 00:01:46,720 --> 00:01:49,340 ยังนับเป็นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์อยู่นะ 53 00:01:49,340 --> 00:01:51,380 เพราะว่าเป็นช่วงต้นๆของสมัย Renaissance 54 00:01:51,380 --> 00:01:52,900 ปลายๆยุคกลางค่ะ 55 00:01:52,900 --> 00:01:54,620 ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนั้นเนี่ยก็คือ 56 00:01:54,620 --> 00:01:56,960 การที่ชาวเมืองหลายต่อหลายคนเนี่ยนะคะ 57 00:01:56,960 --> 00:01:58,835 ออกมาแดนซ์กันตามท้องถนนค่ะ 58 00:01:58,840 --> 00:02:01,160 เรียกได้ว่าเต้นกันจนตายคาฟลอร์เลยค่ะ 59 00:02:01,160 --> 00:02:03,400 หลายๆคนก็หัวใจวาย heart attack บ้าง 60 00:02:03,400 --> 00:02:06,420 บางคนก็ stroke นะคะ เส้นเลือดในสมองแตกก็มี 61 00:02:06,640 --> 00:02:09,200 หรือว่าบางคนก็อ่อนเพลียจนตายไปเลยทีเดียวค่ะ 62 00:02:09,200 --> 00:02:11,720 เรียกได้ว่าหลายๆคนฟังตอนแรกอาจจะรู้สึกว่า 63 00:02:11,720 --> 00:02:14,140 เอ๊ย Dancing Plague ทุกคนก็แค่ออกมาแดนซ์ด้วยกัน 64 00:02:14,140 --> 00:02:15,060 น่าจะสนุกๆ 65 00:02:15,200 --> 00:02:17,140 จริงๆแล้วเหตุการณ์นี้ไม่ได้สนุกเลยนะคะ 66 00:02:17,140 --> 00:02:20,260 แล้วก็ทำให้คนตายไปค่อนข้างมากพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ 67 00:02:20,260 --> 00:02:22,520 ซึ่งถามว่าเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นได้ยังไงนะคะ 68 00:02:22,520 --> 00:02:24,140 ต้องบอกว่ามันเริ่มขึ้นในวันนึง 69 00:02:24,140 --> 00:02:27,000 ในเดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 1518 นี่ล่ะค่ะ 70 00:02:27,260 --> 00:02:29,035 มีผู้หญิงคนนึงนะคะชื่อว่า 71 00:02:29,040 --> 00:02:30,700 Frau Troffea ค่ะ 72 00:02:30,700 --> 00:02:32,600 Frau นี่เหมือนกับคำว่านางอะนะ 73 00:02:32,600 --> 00:02:33,940 นาง Troffea ว่าอย่างนั้นเถอะ 74 00:02:34,120 --> 00:02:36,740 ผู้หญิงคนนี้ค่ะอยู่ดีๆก็เดินออกมาจากบ้านนะคะ 75 00:02:36,740 --> 00:02:39,660 เดินลงไปบนถนนค่ะ แล้วก็เริ่มค่อยๆแดนซ์นะคะ 76 00:02:39,960 --> 00:02:42,180 เรียกได้ว่าค่อยๆขยับตัวไปมา 77 00:02:42,180 --> 00:02:44,580 บิดองบิดเอว หมุนตัวนู่นนี่นั่น 78 00:02:44,580 --> 00:02:47,100 เรียกได้ว่าอยู่ดีๆก็ออกสเต็ปมาซะอย่างนั้นน่ะค่ะ 79 00:02:47,100 --> 00:02:49,360 แบบทั้งๆที่ไม่มีเพลงไม่มีอะไรเลยนะคะ 80 00:02:49,560 --> 00:02:51,820 แล้วเจ๊แกก็ไปแดนซ์อยู่กลางถนนเรื่อยๆนะคะ 81 00:02:51,820 --> 00:02:54,000 แดนซ์ แดนซ์ แดนซ์ แดนซ์อยู่ในความเงียบค่ะ 82 00:02:54,280 --> 00:02:55,880 ซึ่งไม่มีเพลงไม่มีอะไรทั้งสิ้น 83 00:02:55,880 --> 00:02:57,340 แต่ก็ยังแดนซ์ต่อไปนะคะ 84 00:02:57,340 --> 00:02:59,200 เรียกได้ว่าแดนซ์จนตัวเองเนี่ยเหนื่อย 85 00:02:59,200 --> 00:03:00,180 พอเหนื่อยก็คือ 86 00:03:00,340 --> 00:03:01,880 เป็นลมล้มพับลงไป 87 00:03:01,880 --> 00:03:02,780 โอ๊ะ หมดแรง 88 00:03:02,780 --> 00:03:04,960 แต่พอมีแรงเมื่อไหร่ เจ๊แกก็ลุกขึ้นมา 89 00:03:04,960 --> 00:03:06,480 แล้วก็แดนซ์ต่อไปค่ะ 90 00:03:06,480 --> 00:03:08,780 ซึ่งถามว่าเจ๊แกแดนซ์อยู่นานแค่ไหนนะคะ 91 00:03:08,780 --> 00:03:11,940 ต้องบอกว่าเจ๊แกแดนซ์อยู่นานถึงประมาณ 92 00:03:12,200 --> 00:03:13,840 1 สัปดาห์เลยทีเดียวค่ะ 93 00:03:14,100 --> 00:03:16,240 และแน่นอนนะคะ เหล่าชาวเมืองเนี่ยก็ไม่ได้ปล่อย 94 00:03:16,240 --> 00:03:17,680 ให้เจ๊แกแดนซ์อยู่คนเดียวค่ะ 95 00:03:17,880 --> 00:03:20,320 หลังจากที่เจ๊แกเนี่ยเริ่มแดนซ์คนแรกนะคะ 96 00:03:20,480 --> 00:03:23,280 ผ่านไปไม่นานค่ะ ก็มีคนอีกประมาณ 3 คนเนี่ย 97 00:03:23,420 --> 00:03:24,700 ออกมาแดนซ์เป็นเพื่อนนะคะ 98 00:03:24,700 --> 00:03:27,100 ทุกคนก็มาเต้นร่วมกัน ตอนนี้มี 4 คนแล้วใช่ไหม 99 00:03:27,340 --> 00:03:29,560 หลังจากนั้นนะคะ พอมีคน 4 คนเต้นแล้วเนี่ย 100 00:03:29,560 --> 00:03:31,120 เวลาก็ค่อยๆผ่านไปค่ะ 101 00:03:31,440 --> 00:03:33,540 จนกระทั่งครบ 1 อาทิตย์นะคะ 102 00:03:33,540 --> 00:03:35,200 เหล่าชาวเมืองเนี่ยก็พากัน 103 00:03:35,200 --> 00:03:37,020 ค่อยๆทยอยออกมา ทยอยออกมา 104 00:03:37,220 --> 00:03:38,980 แดนซ์กันแบบนี้กลางถนนนะคะ 105 00:03:38,980 --> 00:03:42,520 จนกระทั่งมีคนประมาณ 30 คนเต้นอยู่กลางถนนค่ะ 106 00:03:42,520 --> 00:03:43,880 เรียกได้ว่าก็เต้นกันอย่างนี้ 107 00:03:43,880 --> 00:03:45,320 เต้น เป็นลม เต้น เป็นลม 108 00:03:45,320 --> 00:03:47,500 ฟื้นขึ้นมาเต้นต่อ เต้นต่อ อ้าว เป็นลม 109 00:03:47,500 --> 00:03:50,220 เสร็จก็ลงไปนอน ลงไปนอนเสร็จก็ขึ้นมาเต้นต่อนะคะ 110 00:03:50,540 --> 00:03:52,060 ถามว่าเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว 111 00:03:52,060 --> 00:03:53,960 ผู้ปกครองเมืองจะต้องรู้สึกยังไง 112 00:03:54,160 --> 00:03:55,920 ผู้ปกครองเมืองนะคะก็รู้สึกว่า 113 00:03:55,920 --> 00:03:57,300 เฮ้ย เรื่องนี้มันไม่ปกติละ 114 00:03:57,300 --> 00:03:59,080 จะห้ามจะอะไรก็ไม่หยุดกันซักที 115 00:03:59,080 --> 00:04:00,500 เอ๊ะ แล้วก็ไม่มีสาเหตุอะไร 116 00:04:00,500 --> 00:04:03,180 เพราะว่าดูแล้วเขาก็ไม่ได้ enjoy กับการเต้นขนาดนั้น 117 00:04:03,180 --> 00:04:05,160 เพราะว่าเต้นแล้วเป็นลม เต้นแล้วเป็นอะไรนะคะ 118 00:04:05,160 --> 00:04:08,280 ดังนั้นค่ะผู้ปกครองก็พยายามหาวิธีแก้นะคะ 119 00:04:08,460 --> 00:04:10,900 แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยนั้นน่ะ 120 00:04:10,900 --> 00:04:12,720 มันยังไม่ได้ก้าวหน้าอะไรมาก 121 00:04:12,820 --> 00:04:14,520 หมอสมัยนั้นนะคะก็พยายามจะ 122 00:04:14,520 --> 00:04:17,820 วินิจฉัยโรคไปตามความรู้ของตัวเองต่างๆนานานะ 123 00:04:17,820 --> 00:04:19,900 ซึ่งก็ไม่ได้มีความรู้ขนาดนั้น 124 00:04:19,900 --> 00:04:21,140 ก็เดาไปเรื่อยค่ะ 125 00:04:21,340 --> 00:04:23,980 เอาง่ายๆ จำตอนที่วิวเล่าเรื่อง Black Death ได้ไหม 126 00:04:23,980 --> 00:04:25,320 ว่าหมอเดาว่าอะไรแบบ 127 00:04:25,320 --> 00:04:29,260 อากาศไม่ดีจะต้องเอาตัวไปแช่ในน้ำส้มสายชูอะไรอย่างนี้ 128 00:04:29,420 --> 00:04:31,800 คือมันก็มีความมั่วระดับนึงอยู่แล้ว นึกออกป้ะ 129 00:04:32,100 --> 00:04:34,380 ดังนั้นนะคะ หมอในยุคนั้นค่ะเขาเดาว่า 130 00:04:34,580 --> 00:04:36,420 โอ๊ย เหตุการณ์นี้นะมันจะต้องเกิดจาก 131 00:04:36,420 --> 00:04:38,380 สาเหตุว่าเลือดมันจะต้องร้อนแน่ๆ 132 00:04:38,380 --> 00:04:40,520 ไม่ได้หมายถึงเลือดร้อนแบบจะไปต่อยชาวบ้านนะ 133 00:04:40,520 --> 00:04:42,500 แต่หมายถึงว่าแบบความร้อนในเลือด 134 00:04:42,500 --> 00:04:44,020 มันจะต้องมากเกินไปอะไรอย่างนี้ 135 00:04:44,020 --> 00:04:46,340 ทำให้จะต้องมีการขับความร้อนออก 136 00:04:46,340 --> 00:04:47,320 ผ่านการเต้น 137 00:04:47,540 --> 00:04:49,160 อะ นี่คือสิ่งที่หมอวินิจฉัย 138 00:04:49,320 --> 00:04:50,740 ดังนั้นเมื่อเลือดร้อน 139 00:04:50,740 --> 00:04:52,900 จะต้องเต้นเพื่อเอาความร้อนออก 140 00:04:53,000 --> 00:04:54,280 วิธีแก้ไขก็คือ 141 00:04:54,460 --> 00:04:56,160 หนามยอกเอาหนามบ่งค่ะ 142 00:04:56,160 --> 00:04:58,080 อะ อยากเต้นใช่ไหม เต้นไปให้พอ 143 00:04:58,080 --> 00:05:00,000 เรียกได้ว่าให้เต้นให้แรงที่สุด 144 00:05:00,000 --> 00:05:01,940 เลือดมันจะได้หายร้อนเร็วๆนะคะ 145 00:05:02,180 --> 00:05:04,040 ดังนั้นสภาเมืองค่ะก็บอกว่า 146 00:05:04,040 --> 00:05:06,020 โอเค อยากให้ชาวเมืองเต้นใช่ไหม 147 00:05:06,060 --> 00:05:07,400 สภาเมืองจัดให้ค่ะ 148 00:05:07,500 --> 00:05:09,200 สภาเมืองก็เลยเปิด Guildhall นะคะ 149 00:05:09,200 --> 00:05:11,560 หมายถึงแบบเปิดศาลาว่าการเมืองประมาณนั้นน่ะ 150 00:05:11,560 --> 00:05:14,720 แล้วก็เอาเวทีมาตั้ง ไปจ้างวงดนตรีมานะคะบอกว่า 151 00:05:14,720 --> 00:05:16,760 อะ พวกเธอแดนซ์เงียบๆมา 1 อาทิตย์แล้วนะ 152 00:05:16,760 --> 00:05:17,840 ฉันทนไม่ได้ละ 153 00:05:17,840 --> 00:05:20,260 อะ เอาวงดนตรีไป มิวสิกมา 154 00:05:21,060 --> 00:05:23,320 น่ะ เพลงค่อยแดนซ์ขึ้นหน่อยนะคะ 155 00:05:23,320 --> 00:05:25,740 เมื่อกี้มันดูเงียบไป ดูไม่แดนซ์เลยใช่ไหม 156 00:05:25,740 --> 00:05:28,940 ตอนนี้มีอะไรแล้ว มีเวที มีวงดนตรีเล่นเพลงแล้วใช่ไหม 157 00:05:29,180 --> 00:05:30,600 สภาเมืองยังคิดไม่จบค่ะ 158 00:05:30,600 --> 00:05:33,680 สภาเมืองก็ยังเป็นห่วงชาวเมืองอีกนะคะประมาณว่า 159 00:05:34,040 --> 00:05:36,340 เฮ้ย หลายๆคนมันออกมาเต้นน่ะ ท่ามันไม่ได้เรื่องเลย 160 00:05:36,340 --> 00:05:37,480 มันคิดท่าเองไม่ได้ 161 00:05:37,580 --> 00:05:38,340 เหมือนใน Tiktok อะ 162 00:05:38,340 --> 00:05:40,120 ดูบางคนดิ คิดท่าเองไม่ได้เรื่อง 163 00:05:40,120 --> 00:05:43,120 มันจะต้องไปเต้นตาม template มีคนเต้นนำ เต้นตาม 164 00:05:43,120 --> 00:05:44,760 อ้า อย่างนี้ท่ามันจะได้สวย 165 00:05:44,760 --> 00:05:46,280 เหมือนที่แบบเต้นๆกันใช่ไหม 166 00:05:46,280 --> 00:05:47,880 ดังนั้นค่ะสภาเมืองก็บอก 167 00:05:48,100 --> 00:05:50,240 โอเค งั้นเอาอย่างนี้ จ้างแดนเซอร์ 168 00:05:50,680 --> 00:05:53,340 ไป นักเต้นมืออาชีพ โคโยต้งโคโยตี้มาให้พร้อม 169 00:05:53,340 --> 00:05:55,800 อะโกก้ง อะโกโก้ เอามาเรียงกันให้หมด 170 00:05:55,800 --> 00:05:57,060 เรียงกันให้เต็มเวที 171 00:05:57,060 --> 00:05:58,260 บิ๊วมันเข้าไป 172 00:05:58,260 --> 00:06:00,460 เพลงก็เปิด แดนเซอร์ก็เต้นนำ 173 00:06:00,460 --> 00:06:01,840 คนก็เต้มตามนะคะ 174 00:06:01,840 --> 00:06:04,080 เรียกได้ว่าเหมือนปิดเมืองเหมือนจัดปาร์ตี้สงกรานต์อะ 175 00:06:04,080 --> 00:06:06,000 แต่ไม่ได้จัดวันเดียวหรือ 3 วัน 176 00:06:06,020 --> 00:06:08,900 จัดกันยาวๆไปเลยจนกว่าทุกคนจะหยุดเต้นนะคะ 177 00:06:09,000 --> 00:06:11,380 ซึ่งถามว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดอะไรขึ้น 178 00:06:11,540 --> 00:06:13,220 ตอนแรกเต้นเงียบๆก็จะแย่แล้ว 179 00:06:13,220 --> 00:06:16,520 นี่มีเพลงมีอะไรมาดึ๊งดึ่งดึ๊งดึ่งอะไรกันอีกเต็มไปหมดนะคะ 180 00:06:16,520 --> 00:06:18,840 ดังนั้นคนทั้งเมืองก็ออกมาแดนซ์กันแบบ 181 00:06:18,940 --> 00:06:20,380 แดนซ์กระจุยกระจายค่ะ 182 00:06:20,520 --> 00:06:22,160 หลังจากนั้นนะคะ ไม่นานเลยค่ะ 183 00:06:22,160 --> 00:06:24,240 ชัดเลยว่าหมอวินิจฉัยผิด เพราะว่า 184 00:06:24,560 --> 00:06:27,260 เหล่าคนที่แค่เต้นแล้วเป็นลม เต้นแล้วเป็นลมเนี่ยนะคะ 185 00:06:27,420 --> 00:06:28,800 ก็เริ่มออกอาการค่ะ 186 00:06:28,800 --> 00:06:31,120 บางคนก็แบบเต้นๆๆ โอ๊ะ หัวใจวาย 187 00:06:31,120 --> 00:06:32,320 แล้วก็ลงไปตายนะคะ 188 00:06:32,500 --> 00:06:33,720 หรือบางคนก็แบบโอ๊ะ 189 00:06:34,080 --> 00:06:36,020 เส้นเลือดในสมองแตก ตายดีกว่า 190 00:06:36,020 --> 00:06:37,500 บางคนก็แบบอ่อนเพลียแล้วก็ 191 00:06:37,640 --> 00:06:38,700 ล้มลงไปนะคะ 192 00:06:38,700 --> 00:06:40,720 เรียกได้ว่าเต้นแล้วก็ร่วงกันไป 193 00:06:40,720 --> 00:06:42,780 เต้นร่วง เต้นร่วงค่ะ แต่ถามว่า 194 00:06:42,960 --> 00:06:44,480 การเต้นเหล่านี้ยังหยุดไหม 195 00:06:44,480 --> 00:06:46,860 ต้องบอกว่าสิ่งนี้ทำอะไรชาวเมืองไม่ได้นะคะ 196 00:06:46,860 --> 00:06:48,780 พวกชาวเมืองนี่ฟลอร์กระจุยกันจริงๆ 197 00:06:49,020 --> 00:06:50,840 เพราะว่าใครตายก็ตายไปค่ะ 198 00:06:50,840 --> 00:06:53,060 ส่วนคนที่เต้นก็เต้นต่อนะคะ เรียกได้ว่า 199 00:06:53,320 --> 00:06:54,720 เต้นกันต่อไปเรื่อยๆค่ะ 200 00:06:54,720 --> 00:06:57,500 ซึ่งเขาบอกว่าเหตุการณ์ตอนที่ผู้หญิงคนแรกออกมาเต้นเนี่ย 201 00:06:57,680 --> 00:07:00,040 มันเริ่มต้นเมื่อตอนเดือนกรกฎาคมใช่ไหม 202 00:07:00,280 --> 00:07:02,960 พอถึงเดือนสิงหาคมค่ะ หนึ่งเดือนผ่านไปเนี่ย 203 00:07:03,180 --> 00:07:05,880 ตอนนี้มีคนออกมาเต้นร่วมกันนะคะประมาณ 204 00:07:06,100 --> 00:07:07,800 400 คนเลยทีเดียว 205 00:07:07,800 --> 00:07:09,920 เรียกได้ว่าเหมือนแบบปาร์ตี้ขนาดใหญ่เลยนะคะ 206 00:07:09,920 --> 00:07:11,320 ใหญ่กว่านี้ก็คือจัดคอนเสิร์ต 207 00:07:11,320 --> 00:07:12,980 อิมแพคอารีน่าอะไรอย่างนี้แล้วนะ 208 00:07:12,980 --> 00:07:14,100 คนก็แดนซ์กันไปค่ะ 209 00:07:14,100 --> 00:07:16,420 ก็แดนซ์ตาย แดนซ์ตาย อย่างนี้กันไปเรื่อยๆนะคะ 210 00:07:16,420 --> 00:07:18,840 จนกระทั่งเวลาผ่านไปทั้งหมด 2 เดือนนะคะ 211 00:07:18,840 --> 00:07:20,360 ถึงเดือนกันยายนเนี่ย 212 00:07:20,360 --> 00:07:23,860 อยู่ดีๆเหตุการณ์การเต้นมันก็หยุดลงซะอย่างนั้นเลย 213 00:07:26,140 --> 00:07:28,820 ซึ่งตามตำนานเนี่ย เขาก็เล่าลือกันต่อมานะคะ 214 00:07:28,820 --> 00:07:31,955 ว่าสาเหตุที่การเต้นหยุดลงเนี่ย เพราะว่าสภาเมืองตัดสินใจ 215 00:07:31,960 --> 00:07:33,920 กลับค่ะ กลับตัวนะคะ ประมาณว่า 216 00:07:33,920 --> 00:07:35,340 เฮ้ย ฉันไปบิ๊วมันไม่ได้ละ 217 00:07:35,340 --> 00:07:37,340 ถ้าฉันไปบิ๊วมันเนี่ย มันจะเต้นต่อไปเรื่อยๆ 218 00:07:37,560 --> 00:07:38,700 ดังนั้นต้องเบรก 219 00:07:38,700 --> 00:07:40,240 ตอนนี้จิตใจร้อนรุ่ม 220 00:07:40,240 --> 00:07:42,060 ต้องทำให้อารมณ์เย็นลง 221 00:07:42,060 --> 00:07:43,680 ด้วยการไล่มันขึ้นเขาไปให้หมด 222 00:07:43,680 --> 00:07:45,060 อะ ทุกคนขึ้นไปยอดเขา 223 00:07:45,060 --> 00:07:47,160 บนเขามีวัดนะ มีโบสถ์อะไรต่างๆ 224 00:07:47,420 --> 00:07:49,640 ไป ไปสารภาพบ่ง สารภาพบาป 225 00:07:49,640 --> 00:07:52,320 นั่งสมาธิ สวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้า 226 00:07:52,480 --> 00:07:54,220 เอาให้พอ เอาให้จิตใจสงบ 227 00:07:54,520 --> 00:07:57,880 ก็ไม่รู้ว่าบังเอิญสิ่งนี้ไป trigger ชาวเมืองรึเปล่านะคะ 228 00:07:57,880 --> 00:08:01,275 ทำให้ชาวเมืองค่อยๆหยุดเต้นกันไปทีละคนสองคนสามคน 229 00:08:01,440 --> 00:08:04,540 หรือว่าบังเอิญ Dancing Plague เนี่ยมันจบลงพอดีนะคะ 230 00:08:04,540 --> 00:08:06,720 ทำให้ชาวเมืองเนี่ยหยุดเต้นกันค่ะ 231 00:08:06,720 --> 00:08:08,720 ดังนั้นเหตุการณ์ Dancing Plague ในครั้งนั้นนะคะ 232 00:08:08,720 --> 00:08:10,300 ก็เลยจบลงแบบงงๆ 233 00:08:10,300 --> 00:08:12,880 เหมือนกับตอนที่มันเริ่มแบบงงๆ คือไม่มีใครรู้ว่า 234 00:08:13,120 --> 00:08:15,040 เกิดขึ้นยังไงแล้วก็จบลงยังไงนะคะ 235 00:08:15,040 --> 00:08:17,140 เป็นเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นมา 236 00:08:17,140 --> 00:08:18,820 แล้วก็จบลงภายใน 2 เดือน 237 00:08:18,820 --> 00:08:19,900 ซะอย่างนั้นเลย 238 00:08:20,000 --> 00:08:22,300 แต่หลายคนนะคะฟังแบบนี้ก็อาจจะรู้สึกว่า 239 00:08:22,300 --> 00:08:23,780 เฮ้ย มันไม่เกิดขึ้นจริงรึเปล่า 240 00:08:23,780 --> 00:08:25,460 มันมั่วรึเปล่า อะไรยังไงนะคะ 241 00:08:25,500 --> 00:08:27,800 ต้องบอกว่ามันมีเอกสารทางประวัติศาสตร์นะคะ 242 00:08:27,800 --> 00:08:29,480 ในศตวรรษที่ 16 เนี่ยที่ 243 00:08:29,600 --> 00:08:32,500 บันทึกเรื่องราวนี้ไว้อย่างค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียวค่ะ 244 00:08:32,500 --> 00:08:35,940 ดังนั้นนี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์นะคะและ 245 00:08:36,220 --> 00:08:37,840 ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวค่ะ 246 00:08:37,840 --> 00:08:40,780 แต่ว่าตลอดตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ถึงศตวรรษที่ 16 เนี่ย 247 00:08:40,920 --> 00:08:43,500 เกิดเหตุการณ์นี้หลายต่อหลายครั้งมากๆในยุโรปค่ะ 248 00:08:43,500 --> 00:08:45,140 ไม่ว่าจะเป็นที่สวิตเซอร์แลนด์ 249 00:08:45,540 --> 00:08:46,800 ที่ฮอลแลนด์ 250 00:08:46,800 --> 00:08:48,960 หรือว่าที่เยอรมนีเองก็ตามนะคะ 251 00:08:48,960 --> 00:08:52,520 ก็ล้วนแต่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาเช่นเดียวกันค่ะ 252 00:08:52,720 --> 00:08:55,360 ทีนี้นักประวัติศาสตร์ในสมัยปัจจุบันก็พยายาม 253 00:08:55,360 --> 00:08:56,620 จะสันนิษฐานกันนะคะว่า 254 00:08:56,840 --> 00:08:59,340 เอ๊ะ เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไงอะไรต่างๆ 255 00:08:59,340 --> 00:09:01,340 มันเป็นที่อาการทางร่างกาย 256 00:09:01,340 --> 00:09:03,960 หรืออาการทางสมอง หรือมันเป็นอะไรนะคะ 257 00:09:04,220 --> 00:09:07,060 ซึ่งเขาก็สันนิษฐานออกมาได้ทั้งหมด 4 ข้อด้วยกันค่ะ 258 00:09:07,060 --> 00:09:08,660 เดี๋ยวเรามาฟังกันไปทีละข้อเลยเนอะ 259 00:09:08,660 --> 00:09:10,300 ข้อแรกค่ะ เขาบอกว่า 260 00:09:10,320 --> 00:09:12,640 มันมีนักบุญอยู่คนนึงนะคะในศาสนาคริสต์ 261 00:09:12,640 --> 00:09:14,240 ที่ชาวบ้านในสมัยนั้นน่ะ 262 00:09:14,480 --> 00:09:17,400 ค่อนข้างจะเชื่อกันว่าสามารถสาปคนได้ค่ะและ 263 00:09:17,700 --> 00:09:20,040 เขาไม่ได้สาปธรรมดา เขาจะสาปแบบปิ้ว 264 00:09:20,380 --> 00:09:21,920 ขอให้แกจงเต้นไม่หยุด 265 00:09:22,300 --> 00:09:24,240 ประมาณนี้ ก็เป็นคำสาปที่แปลกดี 266 00:09:24,240 --> 00:09:26,320 เหมือนกับเป็นเทพเจ้าเท้าไฟอะไรอย่างนี้รึเปล่า 267 00:09:26,780 --> 00:09:28,115 อะ ไม่เกี่ยวนะคะ กลับมา 268 00:09:28,360 --> 00:09:30,620 ทีนี้พอมันมีความเชื่อเรื่องนักบุญคนนี้นะคะ 269 00:09:30,620 --> 00:09:32,100 ที่สามารถสาปคนได้เนี่ย 270 00:09:32,520 --> 00:09:34,600 บังเอิญว่าช่วงในปีค.ศ. 1518 เนี่ยนะคะ 271 00:09:34,600 --> 00:09:36,040 เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น 272 00:09:36,320 --> 00:09:37,480 ในฝรั่งเศสค่ะ 273 00:09:37,480 --> 00:09:40,260 ก็คือตอนนั้นเนี่ยเป็นตอนที่ฝรั่งเศสแห้งแล้งมากๆ 274 00:09:40,260 --> 00:09:42,800 โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นนะคะ 275 00:09:42,940 --> 00:09:44,960 แล้วก็มีความอดอยาก มีอะไรต่างๆ 276 00:09:44,960 --> 00:09:46,340 ประชาชนเครียดค่ะ 277 00:09:46,340 --> 00:09:48,855 เรียกได้ว่าเครียดแบบเครียดมากๆ สติจะแตกอยู่แล้วนะ 278 00:09:48,860 --> 00:09:50,220 พร้อมสติแตกทุกเมื่อ 279 00:09:50,540 --> 00:09:53,080 เมื่อมันมีความเชื่อเรื่องแบบนักบุญที่สามารถ 280 00:09:53,340 --> 00:09:55,280 สาปให้คนเต้นได้เนี่ยขึ้นมา 281 00:09:55,660 --> 00:09:57,720 มันก็เลยทำให้คนแรกเนี่ยเหมือนกับว่า 282 00:09:57,940 --> 00:10:00,660 สติหลุดอะ แล้วเข้าใจไปเองว่าตัวเองโดนนักบุญสาป 283 00:10:00,660 --> 00:10:03,135 ก็เลยออกมาแดนซ์กลางถนนซะอย่างนั้นเลยนะคะ 284 00:10:03,380 --> 00:10:05,420 ส่วนหลังจากนั้นเนี่ย ชาวบ้านคนอื่นๆ 285 00:10:05,420 --> 00:10:06,840 พอเห็นผู้หญิงคนนี้แดนซ์ไม่หยุด 286 00:10:07,060 --> 00:10:08,420 ก็เลยไปได้คอนเซ็ปต์มาว่า 287 00:10:08,420 --> 00:10:11,000 เฮ้ย มันจะต้องมีนักบุญมาสาปให้แดนซ์ไม่หยุดแน่ๆเลย 288 00:10:11,120 --> 00:10:12,280 ฉันโดนรึเปล่า ฉันโดนรึเปล่า 289 00:10:12,280 --> 00:10:13,880 ฉันก็สติจะหลุดแล้วเหมือนกัน 290 00:10:13,880 --> 00:10:15,860 ฉันก็เลยออกมาเต้นด้วยซะอย่างนั้น 291 00:10:15,860 --> 00:10:17,700 ทำให้ทั้งเมืองเนี่ยออกมาเต้นกันไปหมด 292 00:10:17,700 --> 00:10:19,580 ด้วยความเครียด ความแพนิก แล้วก็ 293 00:10:19,820 --> 00:10:21,960 ความเหมือนแบบหลอนไปเองว่าฉันโดนสาป 294 00:10:21,960 --> 00:10:24,480 ประมาณนั้นค่ะ ถือว่าเป็นอาการทางจิตอย่างนึงนะ 295 00:10:24,700 --> 00:10:26,160 ส่วนอย่างที่สองเนี่ยนะคะ เขาเชื่อกันว่า 296 00:10:26,160 --> 00:10:28,440 อาจจะเกิดจากความเชื่ออะไรบางอย่างในช่วงนั้นค่ะ 297 00:10:28,440 --> 00:10:30,120 อารมณ์เหมือนกับคล้ายๆประเทศไทยอะ 298 00:10:30,380 --> 00:10:33,560 ที่อยู่ดีๆก็มีน้ำผุดขึ้นมากลางหมู่บ้านแล้วก็มีคนบอกว่า 299 00:10:33,760 --> 00:10:36,640 น้ำนี่เป็นน้ำวิเศษ ใครกินแล้วจะหายจากโรคทุกอย่าง 300 00:10:36,840 --> 00:10:37,820 อารมณ์นั้นเลย 301 00:10:37,820 --> 00:10:39,380 มันก็เป็นอุปทานหมู่ต่อไปเรื่อยๆ 302 00:10:39,380 --> 00:10:41,820 คนแรกมากินแล้วก็บอกว่าอุ๊ย หายทุกอย่างเลย 303 00:10:41,820 --> 00:10:43,320 คนที่สองก็เลยมากินตาม 304 00:10:43,320 --> 00:10:44,900 แล้วทั้งหมู่บ้านก็เลยไปรุมกินกัน 305 00:10:44,900 --> 00:10:47,300 ทั้งๆที่นั่นคือน้ำส้วมแตกอะไรอย่างนี้นะคะ 306 00:10:47,520 --> 00:10:50,040 เช่นเดียวกันนะคะ เป็นไปได้ว่าในฝรั่งเศสตอนนั้นเนี่ย 307 00:10:50,040 --> 00:10:52,720 อาจจะเกิดความเชื่อลัทธิอะไรใหม่ๆขึ้นมา 308 00:10:52,720 --> 00:10:53,660 มีใครมาบอกว่า 309 00:10:53,885 --> 00:10:57,220 การออกมาแดนซ์เนี่ยจะทำให้พระเจ้าโปรดหรือว่าอะไรต่างๆ 310 00:10:57,220 --> 00:10:59,140 ทำให้ความอดอยากทำให้อะไรหายไป 311 00:10:59,380 --> 00:11:01,340 ทำให้ชาวเมืองเนี่ยอุปทานหมู่นะคะ 312 00:11:01,340 --> 00:11:02,775 แล้วก็พากันออกมาแดนซ์ 313 00:11:02,780 --> 00:11:05,140 เพื่อบูชาพระเจ้า บูชาเทพเจ้าต่างๆ 314 00:11:05,140 --> 00:11:06,340 แล้วก็เลยเป็นสาเหตุที่แบบ 315 00:11:06,620 --> 00:11:08,480 ต่อให้ล้มลงไปก็จะต้องฮึดขึ้นมา 316 00:11:08,480 --> 00:11:10,820 เพื่อบูชาเทพเจ้าต่อแล้วก็แดนซ์ต่อค่ะ 317 00:11:11,180 --> 00:11:13,000 ส่วนสาเหตุที่สามนะคะเขาเชื่อว่า 318 00:11:13,000 --> 00:11:15,420 อาจจะเกิดจากการกินอาหารค่ะ ประมาณว่า 319 00:11:15,700 --> 00:11:18,100 อาจจะไปกินโดนเห็ดพิษหรืออะไรต่างๆ 320 00:11:18,100 --> 00:11:20,840 ที่เป็นเห็ดเมาหรือว่ายาเสพติดโดยที่ไม่รู้ตัว 321 00:11:20,840 --> 00:11:23,500 เหมือนกับว่าไปเก็บพืชผักธัญญาหารอะไรมากิน 322 00:11:23,500 --> 00:11:24,480 แล้วแบบไม่รู้อะ 323 00:11:24,620 --> 00:11:26,400 พอกินเข้าไปมันก็เลยหลอนนะคะ 324 00:11:26,400 --> 00:11:27,340 แล้วก็เลยออกมาเต้นกัน 325 00:11:27,340 --> 00:11:29,060 เหมือนแบบเมาเห็ดเมาว่าอย่างนั้นเถอะ 326 00:11:29,380 --> 00:11:30,640 ส่วนเหตุการณ์ที่สี่เนี่ย 327 00:11:30,640 --> 00:11:32,480 ก็ค่อนข้างจะ make sense มากนิดนึง 328 00:11:32,480 --> 00:11:35,180 คือเขาบอกว่าชาวฝรั่งเศสช่วงนั้นน่ะ กินขนมปังใช่ไหม 329 00:11:35,180 --> 00:11:36,980 แล้วมันก็จะมีขนมปังจากแป้งหลายชนิด 330 00:11:37,280 --> 00:11:40,120 ชาวเมืองเนี่ยอาจจะไปกินโดนขนมปังจากแป้ง Rye 331 00:11:40,120 --> 00:11:41,980 ซึ่งมันมักจะมีเชื้อราค่ะ 332 00:11:41,980 --> 00:11:43,520 และเชื้อราที่อยู่ในแป้ง Rye เนี่ย 333 00:11:43,760 --> 00:11:46,000 เป็นเชื้อราที่ส่งผลต่อสมองนะคะ 334 00:11:46,000 --> 00:11:48,600 คือถ้ากินเข้าไปแล้วสมองจะมีปัญหาอะไรต่างๆ 335 00:11:48,880 --> 00:11:50,960 ทำให้เกิดภาพหลอนแล้วก็เลยทำให้ 336 00:11:51,160 --> 00:11:53,380 ชาวเมืองเนี่ยหลอนแล้วก็ออกมาเต้นกันนะคะ 337 00:11:53,380 --> 00:11:54,640 ซึ่งเชื้อราในแป้ง Rye เนี่ย 338 00:11:54,640 --> 00:11:56,260 ต้องบอกว่าส่งผลต่อสมองจริงๆนะ 339 00:11:56,260 --> 00:11:58,175 เพราะว่าปัจจุบันเราก็เอาเชื้อราตัวนี้ 340 00:11:58,400 --> 00:11:59,980 มาทำเป็นยาไมเกรนนั่นเอง 341 00:11:59,980 --> 00:12:02,180 ดังนั้นชัดเจนมากว่ามันส่งผลต่อสมองนะคะ 342 00:12:02,180 --> 00:12:03,340 ก็เอาจริงๆแล้วเนี่ย 343 00:12:03,340 --> 00:12:05,220 สมัยปัจจุบันเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่า 344 00:12:05,400 --> 00:12:07,640 สาเหตุไหนคือสาเหตุจริงๆกันแน่ เพราะว่า 345 00:12:07,640 --> 00:12:09,020 หมอปัจจุบันก็ไม่สามารถ 346 00:12:09,020 --> 00:12:10,700 ไปตรวจสอบเหตุการณ์ในอดีตได้ 347 00:12:10,700 --> 00:12:13,720 คือเราก็ไม่ได้มีซากศพใครที่แบบติดโรคนี้หรืออะไร 348 00:12:13,720 --> 00:12:15,940 ที่จะสามารถมาผ่าพิสูจน์อะไรต่างๆได้ 349 00:12:16,180 --> 00:12:19,800 ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นปริศนาต่อไปเรื่อยๆนะคะ 350 00:12:19,940 --> 00:12:21,800 แต่อย่างไรก็ดีค่ะ ต้องบอกว่าเรื่องนี้ 351 00:12:21,800 --> 00:12:24,820 มันก็มีคนเอามาบันทึกไว้ในรูปแบบต่างๆมากมาย 352 00:12:24,820 --> 00:12:26,380 อย่างที่วิวบอกเนี่ยมันก็มีบันทึก 353 00:12:26,380 --> 00:12:27,840 อยู่ในประวัติศาสตร์แล้วใช่ไหม 354 00:12:28,020 --> 00:12:28,860 เท่านั้นยังไม่พอ 355 00:12:28,860 --> 00:12:30,600 มันยังเป็นแรงบันดาลใจของวรรณกรรม 356 00:12:30,600 --> 00:12:32,080 อะไรหลายๆเรื่องด้วยนะคะ 357 00:12:32,080 --> 00:12:33,480 ยกตัวอย่างเช่นเรื่องนึงเนี่ย 358 00:12:33,480 --> 00:12:35,260 ที่ส่วนตัววิวอ่านมาแล้วก็เจอ 359 00:12:35,260 --> 00:12:37,180 แล้วคิดว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แน่ๆ 360 00:12:37,300 --> 00:12:38,780 ขอย้ำอีกรอบว่าเป็นการคิดเอง 361 00:12:38,780 --> 00:12:40,560 แต่คิดว่าเกี่ยวแน่ๆเพราะมันชัดมาก 362 00:12:40,560 --> 00:12:42,680 ก็คือเรื่องแมรี่ ป๊อปปินส์นั่นเองนะคะ 363 00:12:42,680 --> 00:12:45,140 ถ้าใครเคยอ่านแมรี่ ป๊อปปินส์เล่มเต็มเนี่ยจะเห็นว่า 364 00:12:45,420 --> 00:12:47,220 มันมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับ 365 00:12:47,220 --> 00:12:49,180 แม่วัวที่แดนซ์ไม่หยุดนะคะใน 366 00:12:49,380 --> 00:12:52,920 บทที่เจนหรือว่าเด็กผู้หญิงตัวเอกของเรื่องเนี่ยนะ 367 00:12:53,140 --> 00:12:54,500 ป่วยนอนอยู่บนเตียงค่ะ 368 00:12:54,500 --> 00:12:56,140 แล้วก็ไมเคิลซึ่งเป็นน้องของเจนเนี่ย 369 00:12:56,140 --> 00:12:58,460 ก็เล่าให้เจนฟังว่านอกหน้าต่างมีวัวตัวนึง 370 00:12:58,460 --> 00:13:00,255 มาเดิน นี่มาเดินทำอะไรอยู่ที่ 371 00:13:00,260 --> 00:13:01,640 ถนนหน้าบ้านเรานะ 372 00:13:01,760 --> 00:13:03,100 ทำให้แมรี่ ป๊อปปินส์เนี่ย 373 00:13:03,105 --> 00:13:04,880 เล่าเรื่องราวของวัวตัวนี้ให้ฟังค่ะ 374 00:13:04,880 --> 00:13:06,055 ก็เป็นแม่วัวที่ 375 00:13:06,220 --> 00:13:08,660 บังเอิญอยู่ในทุ่งแดนดิไลออนของตัวเอง 376 00:13:08,660 --> 00:13:10,520 แล้วอยู่ดีๆวันนึงเนี่ย ก็มีดวงดาว 377 00:13:10,820 --> 00:13:12,340 หล่นลงมาปักอยู่ที่เขา 378 00:13:12,340 --> 00:13:14,620 ทำให้แม่วัวตัวนี้แดนซ์ไม่หยุดนะคะ 379 00:13:14,620 --> 00:13:16,000 เต้นไม่หยุด เต้นจนเหนื่อยแบบ 380 00:13:16,140 --> 00:13:17,040 จะเป็นจะตาย 381 00:13:17,305 --> 00:13:19,200 สุดท้ายก็เลยต้องไปให้พระราชาช่วย 382 00:13:19,200 --> 00:13:20,920 เพื่อที่จะดึงดาวดวงนี้ออกไป 383 00:13:20,920 --> 00:13:23,565 แต่ว่าพระราชาก็ไม่สามารถช่วยดึงได้นะคะ 384 00:13:23,565 --> 00:13:26,120 ในที่สุดพระราชาก็คิดวิธีออกค่ะว่า 385 00:13:26,120 --> 00:13:27,800 ให้แม่วัวเนี่ยกระโดดให้สูงที่สุด 386 00:13:28,060 --> 00:13:29,180 กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า 387 00:13:29,180 --> 00:13:31,260 ดาวจะได้กลับไปติดบนท้องฟ้าอีกรอบนึง 388 00:13:31,260 --> 00:13:33,080 แม่วัวก็เลยกระโดดนะคะ แล้วดาวก็ 389 00:13:33,300 --> 00:13:34,900 กลับไปติดที่ท้องฟ้าจริงๆ 390 00:13:34,900 --> 00:13:37,840 ทำให้แม่วัวกลับสู่สภาพปกติของตัวเองนะคะแล้วก็ 391 00:13:37,980 --> 00:13:40,000 กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบอีกครั้งนึง 392 00:13:40,120 --> 00:13:42,420 อย่างไรก็ตามนะคะ แม่วัวในเรื่องเนี่ยติดใจ 393 00:13:42,420 --> 00:13:44,640 คือชีวิตที่ผ่านมาทั้งชีวิต ตัวเองเป็น 394 00:13:44,640 --> 00:13:47,080 แม่วัวที่สุภาพ เป็นแม่วัวที่เรียบร้อย 395 00:13:47,080 --> 00:13:48,740 แม่วัวที่อยู่ในกรอบประเพณี 396 00:13:48,960 --> 00:13:50,480 ไม่เคยได้ออกมาปลดปล่อยเลย 397 00:13:50,480 --> 00:13:52,020 ตั้งแต่ที่มีดาวติดหัวเนี่ย 398 00:13:52,140 --> 00:13:54,020 ก็รู้สึกว่าตัวเองได้ปลดปล่อย ได้สนุก 399 00:13:54,020 --> 00:13:55,040 ก็เลยออกเดินทาง 400 00:13:55,040 --> 00:13:57,240 ตามหาดาวดวงนั้นอีกรอบนึงนะคะ 401 00:13:57,240 --> 00:13:59,760 เป็นเหมือนกับว่าแม่วัวนี่เข้าร่วมโครงการ 402 00:13:59,940 --> 00:14:02,820 เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวซะอย่างนั้นเลยนะจ๊ะ 403 00:14:02,820 --> 00:14:06,000 นี่ก็เป็นเรื่องราวที่น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ 404 00:14:06,000 --> 00:14:07,620 Dancing Plague ในครั้งนั้นค่ะ 405 00:14:07,740 --> 00:14:09,740 เป็นไงบ้างเรื่องราวนี้สนุกสนานกันไหม 406 00:14:09,740 --> 00:14:12,180 ก็เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์สนุกๆอีกข้อนึงนะคะ 407 00:14:12,300 --> 00:14:14,380 สำหรับใครที่อยากฟังเรื่องราวแบบนี้อีกก็สามารถ 408 00:14:14,380 --> 00:14:16,940 คอมเมนต์มาได้ด้านล่างนะคะว่าอยากฟังเรื่องอะไรค่ะ 409 00:14:17,080 --> 00:14:19,020 ส่วนใครที่ชื่นชอบคลิปนี้นะคะก็อย่าลืม 410 00:14:19,020 --> 00:14:20,260 กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ 411 00:14:20,260 --> 00:14:21,880 กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ 412 00:14:22,140 --> 00:14:23,820 สำหรับตอนนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน 413 00:14:23,820 --> 00:14:24,560 บ๊ายบาย 414 00:14:24,860 --> 00:14:25,780 สวัสดีค่ะ 415 00:14:26,040 --> 00:14:28,620 เอาจริงก็นับเป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายอยู่นะคะ 416 00:14:28,620 --> 00:14:31,660 กับการเต้นจนแบบตาย เต้นจนตาย เต้นจนตาย 417 00:14:31,660 --> 00:14:32,800 ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ย 418 00:14:32,980 --> 00:14:35,920 ในโลกใบนี้ยังมีเหตุการณ์แปลกๆที่เราไม่คิดว่า 419 00:14:36,140 --> 00:14:38,680 เฮ้ย มันเกิดขึ้นจริงเนี่ย อีกเต็มไปหมดเลยนะคะ 420 00:14:38,680 --> 00:14:40,000 ถ้าเดี๋ยวมีโอกาสจะลอง 421 00:14:40,000 --> 00:14:41,480 หยิบขึ้นมาเล่าให้ฟังกันค่ะ 422 00:14:41,480 --> 00:14:43,415 แต่สำหรับวันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน 423 00:14:43,660 --> 00:14:44,500 บ๊ายบาย 424 00:14:44,500 --> 00:14:45,480 สวัสดีค่ะ 425 00:14:49,920 --> 00:14:51,820 คิดว่าจะเห็นวิวเต้นกันใช่ไหม 426 00:14:51,820 --> 00:14:52,865 ไม่มีทางค่ะ 427 00:14:52,865 --> 00:14:54,735 ไม่มีทาง เสียใจด้วยนะจ๊ะ