WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:03.000 ดิฉันคิดไว้ค่ะว่าจะอธิบายสักหน่อยว่าธรรมชาติสร้างวัสดุออกมาได้ยังไง 00:00:03.000 --> 00:00:05.000 ดิฉันเอาเปลือกหอยเป๋าฮื้อติดตัวมาด้วย 00:00:05.000 --> 00:00:08.000 เปลือกเป๋าฮื้อชิ้นนี้เป็นวัสดุคอมโพสิตชีวภาพ (biocomposite) 00:00:08.000 --> 00:00:11.000 ที่มวลร้อยละ 98 คือ หินปูน (calcium carbonate) 00:00:11.000 --> 00:00:13.000 และมวลอีกร้อยละ 2 เป็นโปรตีน 00:00:13.000 --> 00:00:15.000 แต่กระนั้น มันแข็งแรงทนทานกว่า 3,000 เท่า 00:00:15.000 --> 00:00:17.000 ของคู่คล้ายในทางธรณีวิทยาของมัน (หินปูน) 00:00:17.000 --> 00:00:20.000 และหลายๆคนอาจจะใช้โครงสร้างอย่างเปลือกเป๋าฮื้อนี้ 00:00:20.000 --> 00:00:22.000 แทนชอล์กได้ 00:00:22.000 --> 00:00:24.000 ดิฉันรู้สึกทึ่งกับวิธีการที่ธรรมชาติสรรสร้างวัสดุขึ้นมา 00:00:24.000 --> 00:00:26.000 และมีลำดับขั้นตอนหลายลำดับ 00:00:26.000 --> 00:00:28.000 ในการที่ธรรมชาติสามารถทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม 00:00:28.000 --> 00:00:30.000 ส่วนหนึ่งก็คือวัสดุพวกนี้ 00:00:30.000 --> 00:00:32.000 มีโครงสร้างที่มองเห็นด้วยตาเปล่า (macroscopic) 00:00:32.000 --> 00:00:34.000 แต่สร้างขึ้นมาในระดับนาโน 00:00:34.000 --> 00:00:36.000 วัสดุพวกนี้ถือกำเนิดขึ้นมาในระดับนาโน 00:00:36.000 --> 00:00:39.000 และมันใช้โปรตีนซึ่งถูกป้อนรหัสไว้ในระดับพันธุกรรม 00:00:39.000 --> 00:00:42.000 ที่ทำให้มันสร้างโครงสร้างที่เยี่ยมยอดเป็นอย่างยิ่งแบบนี้ได้ NOTE Paragraph 00:00:42.000 --> 00:00:44.000 ดังนั้น มีสิ่งที่ดิฉันคิดว่าน่าทึ่งเอามากๆ 00:00:44.000 --> 00:00:47.000 ก็คือ จะเป็นยังไงนะถ้าหากว่าเราสามารถให้กำเนิดชีวิต 00:00:47.000 --> 00:00:49.000 กับพวกโครงสร้างที่ปราศจากชีวิต 00:00:49.000 --> 00:00:51.000 อย่างพวกแบตเตอรี่และเซลล์แสงอาทิตย์ได้? 00:00:51.000 --> 00:00:53.000 จะเป็นยังไงกันถ้ามันมีขีดความสามารถ 00:00:53.000 --> 00:00:55.000 อย่างที่เปลือกเป๋าฮื้อมี 00:00:55.000 --> 00:00:57.000 ในขอบข่ายของความสามารถ 00:00:57.000 --> 00:00:59.000 ในการสร้างโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมเป็นที่สุด 00:00:59.000 --> 00:01:01.000 ที่ความดันและอุณหภูมิห้อง 00:01:01.000 --> 00:01:03.000 โดยใช้สารเคมีที่ไม่เป็นพิษ 00:01:03.000 --> 00:01:06.000 และสร้างวัสดุที่ไม่เป็นพิษกลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม? 00:01:06.000 --> 00:01:09.000 ฉะนั้น นั่นก็คือวิสัยทัศน์ที่ดิฉันได้มองภาพไว้ค่ะ 00:01:09.000 --> 00:01:11.000 และถ้าเช่นนั้นแล้ว จะเป็นยังไงถ้าเราสามารถสร้างแบตเตอรี่ขึ้นมาได้ในจานเพาะเชื้อ? 00:01:11.000 --> 00:01:14.000 หรือ จะเป็นยังไงนะถ้าเราสามารถใส่ข้อมูลพันธุกรรมเข้าไปในแบตเตอรี่ 00:01:14.000 --> 00:01:16.000 เพื่อให้มันทำงานได้ดียิ่งๆขึ้นไป 00:01:16.000 --> 00:01:18.000 ตามเวลาที่ผ่านไป 00:01:18.000 --> 00:01:20.000 และก็เป็นแบบนั้นได้แบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย? NOTE Paragraph 00:01:20.000 --> 00:01:23.000 ถ้างั้น กลับไปที่เปลือกเป๋าฮื้อนี้ก่อน 00:01:23.000 --> 00:01:25.000 นอกจากจะมีโครงสร้างนาโน 00:01:25.000 --> 00:01:27.000 ซึ่งเป็นอย่างหนึ่งหละที่น่าทึ่ง 00:01:27.000 --> 00:01:29.000 เมื่อหอยเป๋าฮื้อตัวผู้กับตัวเมียมาอยู่ด้วยกัน 00:01:29.000 --> 00:01:31.000 มันส่งผ่านข้อมูลพันธุกรรม 00:01:31.000 --> 00:01:34.000 ที่บอกว่า "นี่คือวิธีสร้างวัสดุที่ยอดเยี่ยม 00:01:34.000 --> 00:01:36.000 นี่คือวิธีที่จะทำได้ในความดันและอุณหภูมิห้อง 00:01:36.000 --> 00:01:38.000 โดยใช้วัสดุที่ไม่มีพิษ" 00:01:38.000 --> 00:01:41.000 เหมือนกับตัวไดอะตอม (diatom) ซึ่งนำเสนอไว้ตรงนี้ มีโครงสร้างของแก้ว 00:01:41.000 --> 00:01:43.000 ทุกๆครั้งที่ไดอะตอมแบ่งตัว 00:01:43.000 --> 00:01:45.000 พวกมันใส่ข้อมูลพันธุกรรมที่บอกว่า 00:01:45.000 --> 00:01:47.000 "นี่เป็นวิธีทำแก้วในมหาสมุทร 00:01:47.000 --> 00:01:49.000 ที่เป็นโครงสร้างนาโนสมบูรณ์แบบ 00:01:49.000 --> 00:01:51.000 และเธอก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน ครั้งแล้วครั้งเล่า" 00:01:51.000 --> 00:01:53.000 แล้วจะเป็นยังไงถ้าหากว่าเราสามารถทำเหมือนๆกันนี้ได้ 00:01:53.000 --> 00:01:55.000 กับเซลล์แสงอาทิตย์หรือแบตเตอรี่? 00:01:55.000 --> 00:01:58.000 ดิฉันชอบพูดว่าวัสดุชีวภาพชิ้นโปรดของดิฉันคือลูกวัย 4 ขวบของดิฉันค่ะ NOTE Paragraph 00:01:58.000 --> 00:02:01.000 แต่ใครก็ตามที่เคยมีหรือเคยรู้เกี่ยวกับเด็กเล็กๆ 00:02:01.000 --> 00:02:04.000 จะรู้ว่าพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อ 00:02:04.000 --> 00:02:06.000 และงั้นถ้าเราอยากจะโน้มน้าวพวกเขา 00:02:06.000 --> 00:02:08.000 ให้ทำอะไรที่พวกเขาไม่อยากทำ ช่างเป็นเรื่องยากเย็นเหลือเกินค่ะ 00:02:08.000 --> 00:02:11.000 เพราะฉะนั้น เมื่อเราคิดไปถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคต 00:02:11.000 --> 00:02:13.000 เราจึงต้องคิดไปถึงการใช้แบคทีเรียกับไวรัส 00:02:13.000 --> 00:02:15.000 สิ่งมีชีวิตพื้นๆธรรมดาๆ 00:02:15.000 --> 00:02:17.000 แล้วเราจะโน้มน้าวให้มันทำงานกับเครื่องมือใหม่ๆได้ยังไง 00:02:17.000 --> 00:02:19.000 ที่จะทำให้มันสามารถสร้างโครงสร้าง 00:02:19.000 --> 00:02:21.000 ที่จะมีความสำคัญกับดิฉัน? NOTE Paragraph 00:02:21.000 --> 00:02:23.000 อีกอย่าง เราคิดไปถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคต 00:02:23.000 --> 00:02:25.000 เราเริ่มต้นกันด้วยการอุบัติขึ้นของโลก 00:02:25.000 --> 00:02:27.000 พื้นๆนะคะ ใช้เวลาเป็นพันล้านปีกว่าที่จะ 00:02:27.000 --> 00:02:29.000 มีสิ่งมีชีวิตก่อกำเนิดขึ้นมาในโลก 00:02:29.000 --> 00:02:31.000 และในเวลาอันสั้นๆ พวกมันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ 00:02:31.000 --> 00:02:34.000 สิ่งมีชีวิตพวกนี้แบ่งตัวได้ ใช้การสังเคราะห์แสง 00:02:34.000 --> 00:02:36.000 เป็นวิธีให้ได้มาซึ่งแหล่งพลังงาน 00:02:36.000 --> 00:02:38.000 แต่มาเมื่อราว 500 ล้านปีก่อนนี่เอง 00:02:38.000 --> 00:02:40.000 ซึ่งอยู่ช่วงเวลาของยุคแคมเบรียน (Cambrian) 00:02:40.000 --> 00:02:43.000 ที่สิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรเริ่มสร้างวัสดุที่มีความแข็ง 00:02:43.000 --> 00:02:46.000 ก่อนหน้านั้น พวกมันนุ่มนิ่มเป็นปุยเบา 00:02:46.000 --> 00:02:48.000 และในช่วงเวลานั้นนั่นเอง 00:02:48.000 --> 00:02:50.000 ที่มีปริมาณแคลเซียมกับเหล็ก 00:02:50.000 --> 00:02:52.000 และซิลิคอนเพิ่มมากขึ้นในสิ่งแวดล้อม 00:02:52.000 --> 00:02:55.000 และสิ่งมีชีวิตเรียนรู้วิธีสร้างวัสดุที่มีความแข็ง 00:02:55.000 --> 00:02:57.000 แล้วนั่นก็เป็นสิ่งที่ดิฉันอยากจะทำให้ได้ 00:02:57.000 --> 00:02:59.000 ซึ่งก็คือการโน้มน้าวให้ชีววิทยา 00:02:59.000 --> 00:03:01.000 มาทำงานร่วมกับตารางธาตุทั้งหมดที่เหลือค่ะ NOTE Paragraph 00:03:01.000 --> 00:03:03.000 ตอนนี้ถ้าเราลองมาดูที่ชีววิทยา 00:03:03.000 --> 00:03:05.000 มีโครงสร้างที่คล้ายดีเอ็นเอกับสารภูมิต้านทาน (antibody) 00:03:05.000 --> 00:03:07.000 และโปรตีนกับไรโบโซมที่เราได้ยินกันมา 00:03:07.000 --> 00:03:09.000 ที่ต่างก็เป็นโครงสร้างระดับนาโนกันอยู่แล้ว 00:03:09.000 --> 00:03:11.000 ดังนั้นธรรมชาติได้ให้ 00:03:11.000 --> 00:03:13.000 โครงสร้างที่ยอดเยี่ยมจริงแท้มากับเราแล้วในระดับนาโน 00:03:13.000 --> 00:03:15.000 แล้วจะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถควบคุมมันได้ 00:03:15.000 --> 00:03:17.000 และสามารถโน้มน้าวให้มันอย่าได้กลายเป็นภูมิต้านทาน 00:03:17.000 --> 00:03:19.000 ที่ทำให้เกิดอะไรแบบเดียวกับเชื้อเอชไอวี? 00:03:19.000 --> 00:03:21.000 แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถโน้มน้าวให้มัน 00:03:21.000 --> 00:03:23.000 มาสร้างเซลล์แสงอาทิตย์ให้เราได้? 00:03:23.000 --> 00:03:25.000 งั้นนี่เป็นตัวอย่างบางส่วนนะคะ เป็นเปลือกหอยจากธรรมชาติ NOTE Paragraph 00:03:25.000 --> 00:03:27.000 ที่จัดเป็นวัสดุทางชีววิทยาที่มาจากธรรมชาติ 00:03:27.000 --> 00:03:29.000 เปลือกเป๋าฮื้อนี่ -- และถ้าเราหักมันให้แตกออก 00:03:29.000 --> 00:03:31.000 เราก็จะเห็นความจริงว่ามันเป็นโครงสร้างระดับนาโน 00:03:31.000 --> 00:03:34.000 มีพวกไดอะตอมที่ประกอบด้วยซิลิคอนไดออกไซด์ (SiO2) 00:03:34.000 --> 00:03:36.000 และพวกมันเป็น "แบคทีเรียแม่เหล็ก" (magnetotactic bacteria) 00:03:36.000 --> 00:03:39.000 ที่สร้างแม่เหล็กขนาดเล็กเรียงตัวแถวเดี่ยวเพื่อใช้สำหรับนำทาง 00:03:39.000 --> 00:03:41.000 สิ่งมีชีวิตพวกนี้มีสิ่งที่เหมือนกัน 00:03:41.000 --> 00:03:43.000 ก็คือวัสดุพวกนี้เป็นโครงสร้างในระดับนาโน 00:03:43.000 --> 00:03:45.000 และพวกมันมีลำดับพันธุกรรม 00:03:45.000 --> 00:03:47.000 ที่มีรหัสสำหรับสร้างลำดับโปรตีน 00:03:47.000 --> 00:03:49.000 ที่เป็นพิมพ์เขียวให้พวกมัน 00:03:49.000 --> 00:03:51.000 สามารถสร้างโครงสร้างพวกนี้ที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง 00:03:51.000 --> 00:03:53.000 ตอนนี้ กลับมาที่เปลือกเป๋าฮื้อกันก่อน 00:03:53.000 --> 00:03:56.000 เป๋าฮื้อสร้างเปลือกด้วยการมีโปรตีน 00:03:56.000 --> 00:03:58.000 โปรตีนมีประจุลบสูงมาก 00:03:58.000 --> 00:04:00.000 และมันสามารถถึงเอาแคลเซียมมาจากสิ่งแวดล้อม 00:04:00.000 --> 00:04:03.000 มาเรียงเป็นชั้นแคลเซียมและต่อด้วยคาร์บอเนต เป็นแคลเซียมกับคาร์บอเนต (หินปูน) 00:04:03.000 --> 00:04:06.000 เป็นลำดับสารเคมีของกรดอะมิโน 00:04:06.000 --> 00:04:08.000 ที่บอกว่า "นี่เป็นวิธีสร้างโครงสร้าง 00:04:08.000 --> 00:04:10.000 นี่คือลำดับพันธุกรรม นี่คือลำดับโปรตีน 00:04:10.000 --> 00:04:12.000 ที่จะใช้ในการสร้าง" 00:04:12.000 --> 00:04:15.000 และดังนั้น แนวคิดที่น่าสนใจก็คือ จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถเอาวัสดุอะไรก็ได้ที่เราอยากได้ 00:04:15.000 --> 00:04:17.000 หรือธาตุใดก็ได้ในตารางธาตุ 00:04:17.000 --> 00:04:20.000 แล้วหาลำดับพันธุกรรมที่สมนัยกัน 00:04:20.000 --> 00:04:22.000 แล้วป้อนรหัสเพื่อสร้างลำดับโปรตีนที่สมนัยกัน 00:04:22.000 --> 00:04:25.000 ที่จะสร้างโครงสร้าง แต่ไม่ใช่สร้างเปลือกเป๋าฮื้อนะคะ 00:04:25.000 --> 00:04:27.000 แต่สร้างอะไรบางอย่างที่ ด้วยวิถีธรรมชาติ 00:04:27.000 --> 00:04:30.000 ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้ทำแบบนั้นมาก่อน NOTE Paragraph 00:04:30.000 --> 00:04:32.000 และนี่ก็คือตารางธาตุ 00:04:32.000 --> 00:04:34.000 ดิฉันรักตารางธาตุจับจิตจับใจค่ะ 00:04:34.000 --> 00:04:37.000 ทุกๆปี สำหรับนักศึกษาชั้นปี 1 ที่เข้ามาเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตต์ (MIT) 00:04:37.000 --> 00:04:39.000 ดิฉันจะทำตารางธาตุที่เขียนว่า 00:04:39.000 --> 00:04:42.000 "ยินดีต้อนรับสู่ MIT ตอนนี้เธอจะมีธาตุแท้ๆของตัวเอง" 00:04:42.000 --> 00:04:45.000 ถ้ากลับด้านก็จะเป็นกรดอะมิโน 00:04:45.000 --> 00:04:47.000 พร้อมกับความเป็นกรดด่างที่ต่างก็มีประจุแตกต่างกัน 00:04:47.000 --> 00:04:50.000 และดิฉันก็จะแจกจ่ายไปยังนักศึกษาเป็นพันๆ 00:04:50.000 --> 00:04:52.000 ดิฉันรู้ค่ะว่ามันเขียนว่า MIT และที่นี่คือ สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (Caltech) 00:04:52.000 --> 00:04:54.000 แต่ดิฉันทำเกินมาสองสามอันถ้าใครอยากได้ 00:04:54.000 --> 00:04:56.000 และดิฉันก็โชคดีมากเหลือเกิน 00:04:56.000 --> 00:04:58.000 ที่ปีนี้ ท่านประธานาธิบดีโอบามา มาเยี่ยมชมห้องทดลองของดิฉันด้วย 00:04:58.000 --> 00:05:00.000 ในช่วงที่ท่านมาเยี่ยมชม MIT 00:05:00.000 --> 00:05:02.000 และดิฉันก็อยากจะมอบตารางธาตุให้แก่ท่านมากๆเลย 00:05:02.000 --> 00:05:04.000 ดิฉันก็เลยไม่หลับไม่นอนทั้งคืนและบอกกับสามีว่า 00:05:04.000 --> 00:05:07.000 "ฉันจะเอาตารางธาตุนี้ไปให้ท่านประธานาธิบดีโอบามาได้ยังไง? 00:05:07.000 --> 00:05:09.000 แล้วจะทำไงล่ะถ้าท่านบอกว่า 'อ๋อ ผมมีอันนึงแล้วหละ' 00:05:09.000 --> 00:05:11.000 หรือไม่ก็ 'ผมท่องจำได้หมดแล้ว' ?" 00:05:11.000 --> 00:05:13.000 พอเขามาเยี่ยมห้องทดลองของดิฉัน 00:05:13.000 --> 00:05:15.000 แล้วสำรวจไปทั่วห้อง -- เป็นการเยี่ยมชมที่เยี่ยมมากค่ะ 00:05:15.000 --> 00:05:17.000 แล้วต่อมาหลังจากนั้น ดิฉันก็ว่า 00:05:17.000 --> 00:05:19.000 "ท่านคะ ดิฉันมีความประสงค์จะมอบตารางธาตุนี่แด่ท่านค่ะ 00:05:19.000 --> 00:05:23.000 ในกรณีว่าท่านเกิดเผชิญปัญหาและจำเป็นต้องคำนวณน้ำหนักโมเลกุล" 00:05:23.000 --> 00:05:25.000 และดิฉันคิดว่าน้ำหนักโมเลกุลฟังดูวิชาการน้อยกว่า 00:05:25.000 --> 00:05:27.000 ค่ามวลโมล (molar mass) มากอยู่ 00:05:27.000 --> 00:05:29.000 แล้วท่านก็มองดูตารางธาตุ 00:05:29.000 --> 00:05:31.000 และบอกว่า "ขอบคุณครับ 00:05:31.000 --> 00:05:33.000 "ผมจะใส่ตารางธาตุในตารางเวลาของผมเป็นพักๆนะครับ" 00:05:33.000 --> 00:05:35.000 (เสียงหัวเราะ) 00:05:35.000 --> 00:05:39.000 (เสียงปรบมือ) 00:05:39.000 --> 00:05:42.000 และต่อมาในช่วงที่ท่านบรรยายเรื่องพลังงานสะอาด 00:05:42.000 --> 00:05:44.000 ท่านก็หยิบมันขึ้นมาแล้วกล่าวว่า 00:05:44.000 --> 00:05:46.000 "และผู้คนที่ MIT นี่พวกเขาแจกจ่ายตารางธาตุกันครับ" NOTE Paragraph 00:05:46.000 --> 00:05:49.000 เอาหละค่ะ จริงๆแล้วสิ่งที่ดิฉันไม่ได้บอกคุณ 00:05:49.000 --> 00:05:52.000 ก็คือ ราว 500 ล้านปีก่อน สิ่งมีชีวิตได้เริ่มสร้างวัสดุ 00:05:52.000 --> 00:05:54.000 แต่ใช้เวลาอีกราว 50 ล้านปีกว่าจะทำได้ดี 00:05:54.000 --> 00:05:56.000 แล้วก็ใช้เวลาอีกราว 50 ล้านปี 00:05:56.000 --> 00:05:58.000 ในการเรียนรู้ที่จะสร้างเปลือกเป๋าฮื้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ 00:05:58.000 --> 00:06:00.000 และนั่นก็จะยากมากเลยที่จะชวนนักศึกษา ป.โท-เอก มาร่วมงานด้วย 00:06:00.000 --> 00:06:03.000 "อาจารย์มีโครงการสุดยอดมาก -- ใช้เวลา 50 ล้านปีนะ" 00:06:03.000 --> 00:06:05.000 และดังนั้น เราจึงต้องพัฒนาวิธีการ 00:06:05.000 --> 00:06:07.000 ที่จะพยายามเร่งกระบวนการให้เร็วมากขึ้น 00:06:07.000 --> 00:06:09.000 เพราะงั้น เราจึงใช้ไวรัสที่เป็นไวรัสไม่มีพิษ 00:06:09.000 --> 00:06:11.000 ชื่อว่า ไวรัสทำลายแบคทีเรีย เอ็มสิบสาม (M13 bacteriophage) 00:06:11.000 --> 00:06:13.000 งานของมันก็คือแพร่เชื้อใส่แบคทีเรีย 00:06:13.000 --> 00:06:15.000 มันมีโครงสร้างพันธุกรรมที่พื้นๆมาก 00:06:15.000 --> 00:06:17.000 ที่เราสามารถเข้าไปตัดออกแล้วใส่ 00:06:17.000 --> 00:06:19.000 ลำดับพันธุกรรมเพิ่มให้มัน 00:06:19.000 --> 00:06:21.000 การทำแบบนั้นทำให้ไวรัส 00:06:21.000 --> 00:06:24.000 สามารถแสดงลำดับโปรตีนออกมาแบบสุ่ม NOTE Paragraph 00:06:24.000 --> 00:06:26.000 และนั่นเป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่ง่ายมากๆค่ะ 00:06:26.000 --> 00:06:28.000 และเราก็อาจทำแบบนี้ได้เป็นพันล้านครั้ง 00:06:28.000 --> 00:06:30.000 ดังนั้น เราเข้าไปตกแต่งดีเอ็นเอให้ไวรัสเป็นพันล้าน 00:06:30.000 --> 00:06:32.000 ซึ่งมันมีสารพันธุกรรมเหมือนๆกัน 00:06:32.000 --> 00:06:34.000 แต่ต่างกันตรงที่แต่ละตัวจะใช้รหัสพันธุกรรมจาก 00:06:34.000 --> 00:06:36.000 ลำดับพันธุกรรมอันเดียว 00:06:36.000 --> 00:06:38.000 ที่จะป้อนรหัสสร้างลำดับโปรตีนอันหนึ่ง 00:06:38.000 --> 00:06:40.000 ถ้าเราเอาไวรัสทั้งพันล้าน 00:06:40.000 --> 00:06:42.000 แล้วใส่เข้าไปในของเหลวขนาดหนึ่งหยด 00:06:42.000 --> 00:06:45.000 เราก็สามารถบังคับให้มันทำปฏิกิริยากับอะไรก็ตามจากตารางธาตุที่เราต้องการ 00:06:45.000 --> 00:06:47.000 และด้วยกระบวนการคัดเลือกทางวิวัฒนาการ 00:06:47.000 --> 00:06:50.000 เราสามารถดึงเอามาเพียงแค่ตัวเดียวในพันล้านตัว ตัวที่ทำในสิ่งที่เราอยากให้ทำ 00:06:50.000 --> 00:06:52.000 เช่นทำแบตเตอรี่ หรือทำเซลล์แสงอาทิตย์ NOTE Paragraph 00:06:52.000 --> 00:06:55.000 โดยพื้นฐานแล้ว ไวรัสไม่สามารถแบ่งตัวได้ มันจำเป็นต้องอาศัยสิ่งมีชีวิตอื่น 00:06:55.000 --> 00:06:57.000 พอเราเจอตัวที่ "ใช่" จากพันล้านตัวนั่นแล้ว 00:06:57.000 --> 00:06:59.000 เราก็ใส่มันเข้าไปให้แพร่เชื้อในแบคทีเรีย 00:06:59.000 --> 00:07:01.000 แล้วเราก็จะได้ไวรัสออกมาเป็นล้านๆ เป็นพันล้าน 00:07:01.000 --> 00:07:03.000 ที่มีลำดับพันธุกรรมแบบนั้น 00:07:03.000 --> 00:07:05.000 อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความสวยงามของชีววิทยา 00:07:05.000 --> 00:07:07.000 ก็คือ ชีววิทยาทำให้คุณมีโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมเป็นที่สุด 00:07:07.000 --> 00:07:09.000 ในขนาดที่สามารถนำใช้ได้ดี 00:07:09.000 --> 00:07:11.000 ไวรัสพวกนี้ตัวยาวผอมเพรียว 00:07:11.000 --> 00:07:13.000 และเราสามารถทำให้มันแสดงออกถึงความสามารถ 00:07:13.000 --> 00:07:15.000 ในการสร้างอะไรอย่าง สารกึ่งตัวนำ (semiconductor) 00:07:15.000 --> 00:07:17.000 หรือ วัสดุสำหรับแบตเตอรี่ NOTE Paragraph 00:07:17.000 --> 00:07:20.000 นี่เป็นแบตเตอรี่กำลังสูงที่เราสร้างขึ้นมาในห้องทดลอง 00:07:20.000 --> 00:07:23.000 เราสร้างไวรัสที่ไปจับเอาท่อนาโนคาร์บอน (carbon nanotube) 00:07:23.000 --> 00:07:25.000 ส่วนหนึ่งของไวรัสไปจับเอาท่อนาโนคาร์บอน 00:07:25.000 --> 00:07:27.000 อีกส่วนมีลำดับพันธุกรรม 00:07:27.000 --> 00:07:30.000 ที่สามารถสร้างวัสดุที่เป็นขั้วไฟฟ้าสำหรับแบตเตอรี่ 00:07:30.000 --> 00:07:33.000 แล้วถัดมามันก็เชื่อมต่อตัวมันเองเข้ากับตัวเก็บกระแสไฟฟ้า 00:07:33.000 --> 00:07:35.000 เพราะฉะนั้น ด้วยกระบวนการคัดเลือกทางวิวัฒนาการ 00:07:35.000 --> 00:07:38.000 เราเปลี่ยนไวรัสที่สร้างแบตเตอรี่คุณภาพแย่ 00:07:38.000 --> 00:07:40.000 ไปเป็นไวรัสที่สร้างแบตเตอรี่คุณภาพดี 00:07:40.000 --> 00:07:43.000 ไปเป็นไวรัสที่สร้างแบตเตอรี่กำลังสูงกว่าแบตเตอรี่ที่เราเคยมีมา 00:07:43.000 --> 00:07:46.000 แล้วทั้งหมดนี้ก็ทำในอุณหภูมิห้อง แล้วก็ทำกันที่บนโต๊ะนี่แหละค่ะ 00:07:46.000 --> 00:07:49.000 แล้วแบตเตอรี่นั่นก็เดินทางไปทำเนียบขาวในงานแถลงข่าว 00:07:49.000 --> 00:07:51.000 ดิฉันพกติดตัวมาที่นี่ด้วยนะ 00:07:51.000 --> 00:07:54.000 คุณจะเห็นว่ามันอยู่ในกล่องนี้ค่ะ -- กำลังจ่ายไฟให้หลอดแอลอีดี (LED) 00:07:54.000 --> 00:07:56.000 คราวนี้ถ้าเราสามารถทำให้มันใหญ่ขึ้น 00:07:56.000 --> 00:07:58.000 เราก็จะสามารถใช้มัน 00:07:58.000 --> 00:08:00.000 ขับเคลื่อนรถพรีอุส (Toyota Prius) ให้เราได้ 00:08:00.000 --> 00:08:03.000 ซึ่งเป็นความฝันของดิฉันค่ะ ความฝันที่จะขับรถที่ขับเคลื่อนด้วยไวรัส NOTE Paragraph 00:08:04.000 --> 00:08:06.000 แต่จริงๆแล้ว 00:08:06.000 --> 00:08:09.000 เราสามารถดึงไวรัสตัวนึงออกมาจากพันล้านตัว 00:08:09.000 --> 00:08:11.000 แล้วทำให้มันเพิ่มจำนวนขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า 00:08:11.000 --> 00:08:13.000 จริงๆแล้ว เราเพิ่มจำนวนครั้งเดียวในห้องทดลอง 00:08:13.000 --> 00:08:15.000 จากนั้นเราก็ทำให้มันประกอบชิ้นส่วนด้วยตัวเอง 00:08:15.000 --> 00:08:17.000 ให้เป็นโครงสร้างอย่างเช่นแบตเตอรี่ 00:08:17.000 --> 00:08:19.000 เราทำแบบนี้ได้ด้วยการเร่งปฏิกิริยาเคมี (catalysis) ได้ด้วย 00:08:19.000 --> 00:08:21.000 นี่เป็นตัวอย่าง 00:08:21.000 --> 00:08:23.000 ของการแยกโมเลกุลน้ำด้วยการเร่งปฏิกิริยาเคมีด้วยแสง 00:08:23.000 --> 00:08:25.000 และสิ่งที่พวกเราสามารถทำกันมาได้ 00:08:25.000 --> 00:08:28.000 ก็คือสร้างไวรัสที่ไปจับเอาโมเลกุลที่ดูดสีย้อม 00:08:28.000 --> 00:08:30.000 แล้วเอามาเรียงไว้ที่พื้นผิวหน้าของมัน 00:08:30.000 --> 00:08:32.000 ให้ทำหน้าที่เป็นเหมือนเสาอากาศ 00:08:32.000 --> 00:08:34.000 แล้วเราก็ส่งผ่านพลังงานข้ามไวรัสได้ 00:08:34.000 --> 00:08:36.000 จากนั้นเราก็ใส่ยีนส์ตัวที่สองเข้าไป 00:08:36.000 --> 00:08:38.000 ให้สร้างวัสดุอนินทรีย์ 00:08:38.000 --> 00:08:40.000 ที่จะใช้ในการแยกโมเลกุลน้ำ 00:08:40.000 --> 00:08:42.000 ให้เป็นออกซิเจนกับไฮโดรเจน 00:08:42.000 --> 00:08:44.000 ที่สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสะอาดได้ 00:08:44.000 --> 00:08:46.000 และดิฉันเอาตัวอย่างมากับดิฉันด้วยในวันนี้ 00:08:46.000 --> 00:08:48.000 นักศึกษาของดิฉันสัญญากับดิฉันไว้ว่ามันจะทำงานได้แน่ 00:08:48.000 --> 00:08:50.000 นี่เป็นสายไฟระดับนาโนที่ไวรัสประกอบขึ้นมา 00:08:50.000 --> 00:08:53.000 พอเราฉายไฟลงไป เราจะเห็นว่ามันปล่อยฟองออกมา 00:08:53.000 --> 00:08:56.000 ในกรณีนี้ เราจะเห็นฟองออกซิเจนลอยออกมา 00:08:57.000 --> 00:09:00.000 และจริงๆแล้วก็ควบคุมด้วยยีนส์ 00:09:00.000 --> 00:09:03.000 เราสามารถควบคุมวัสดุพร้อมกันหลายชนิดเพื่อยกระดับสมรรถนะของอุปกรณ์ NOTE Paragraph 00:09:03.000 --> 00:09:05.000 ตัวอย่างสุดท้ายเป็นเซลล์แสงอาทิตย์ 00:09:05.000 --> 00:09:07.000 เราใช้เทคนิคนี้กับเซลล์แสงอาทิตย์ได้เช่นกัน 00:09:07.000 --> 00:09:09.000 กลุ่มวิจัยของดิฉันสามารถสร้างไวรัส 00:09:09.000 --> 00:09:11.000 ที่ไปจับเอาท่อนาโนคาร์บอน 00:09:11.000 --> 00:09:15.000 แล้วมาสร้างไทเทเนียมไดออกไซด์รอบๆตัวมัน 00:09:15.000 --> 00:09:19.000 เพื่อใช้เป็นวิธีดึงอิเล็กตรอนเข้าหาตัวอุปกรณ์ 00:09:19.000 --> 00:09:21.000 แล้วเราได้ค้นพบว่า ด้วยพันธุวิศกรรม 00:09:21.000 --> 00:09:23.000 เราสามารถจะเพิ่ม 00:09:23.000 --> 00:09:26.000 ประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์พวกนี้ 00:09:26.000 --> 00:09:28.000 ได้สูงเป็นประวัติการณ์ 00:09:28.000 --> 00:09:31.000 สำหรับระบบประเภทที่สนองตอบกับสีย้อม 00:09:31.000 --> 00:09:33.000 และดิฉันก็ติดมาด้วยอันนึง 00:09:33.000 --> 00:09:36.000 ที่คุณๆสามารถมาลองเล่นดูได้ ข้างนอกหลังจบบรรยายค่ะ 00:09:36.000 --> 00:09:38.000 ดังนั้น นี่ก็คือเซลล์แสงอาทิตย์ที่อาศัยไวรัส 00:09:38.000 --> 00:09:40.000 ด้วยวิวัฒนาการและการคัดเลือก 00:09:40.000 --> 00:09:43.000 เราพัฒนาประสิทธิภาพเซลล์แสงอาิทิตย์จากประสิทธิภาพร้อยละ 8 00:09:43.000 --> 00:09:46.000 ไปเป็นร้อยละ 11 NOTE Paragraph 00:09:46.000 --> 00:09:48.000 ฉะนั้น ดิฉันหวังค่ะว่าดิฉันจะโน้มน้าวให้คุณเชื่อ 00:09:48.000 --> 00:09:51.000 ได้ว่ามีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ 00:09:51.000 --> 00:09:53.000 เกี่ยวกับว่าธรรมชาติสร้างวัสดุต่างๆมาได้อย่างไร 00:09:53.000 --> 00:09:55.000 แล้วนำมาพัฒนาประยุกต์ใช้ 00:09:55.000 --> 00:09:57.000 ดูว่าเราจะทำได้หรือไม่ที่จะสามารถ 00:09:57.000 --> 00:09:59.000 ผลักดัน หรือฉกฉวยเอาวิธีการที่ธรรมชาติสร้างวัสดุต่างๆ 00:09:59.000 --> 00:10:02.000 มาสร้างเป็นอะไรที่ธรรมชาติเองไม่แม้แต่จะวาดฝันไว้ว่าสามารถทำขึ้นมาได้จริง NOTE Paragraph 00:10:02.000 --> 00:10:04.000 ขอบคุณค่ะ