WEBVTT 00:00:06.485 --> 00:00:07.508 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 00:00:07.508 --> 00:00:13.316 รายการนี้นำเสนอโดย มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เยี่ยมชมเราได้ที่ standford.edu 00:00:15.055 --> 00:00:21.534 (เสียงปรบมือ) 00:00:21.534 --> 00:00:22.842 ขอบคุณครับ 00:00:24.964 --> 00:00:26.818 (สตีฟ จ๊อบส์ - ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอ็ปเปิล และ พิกซ่าร์อนิเมชั่น) 00:00:27.034 --> 00:00:32.130 ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาอยู่ที่นี่กับคุณ ในวันรับปริญญา ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 00:00:32.130 --> 00:00:35.381 (เสียงร้องชื่นชม) 00:00:35.689 --> 00:00:45.574 ผมขอบอกความจริงอย่างหนึ่ง ผมไม่เคยเรียนจบวิทยาลัย และงานในวันนี้ เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงการจบวิทยาลัยจริงๆ ที่สุดแล้วของผม 00:00:46.098 --> 00:00:47.686 (เสียงหัวเราะ) 00:00:47.948 --> 00:00:54.267 วันนี้ ผมอยากจะเล่าเรื่องราว 3 เรื่องจากชีวิตของผม มีเท่านี้เอง ไม่มากมาย แค่ 3 เรื่อง 00:00:55.481 --> 00:00:59.036 เรื่องแรกเกี่ยวกับการเชื่อมต่อจุด 00:01:00.712 --> 00:01:08.197 ผมเลิกเรียนที่ วิทยาลัยรีด หลังจากเรียนไปแค่หกเดือน แต่ก็ยังแวะเวียนเข้าไปบ้างอยู่ประมาณสิบแปดเดือน ก่อนที่จะลาออกอย่างเป็นทางการ 00:01:09.095 --> 00:01:10.834 ทำไมผมถึงลาออก? 00:01:12.180 --> 00:01:13.949 เรื่องนี้เริ่มมาตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเกิด 00:01:15.101 --> 00:01:21.273 แม่แท้ๆ ของผมตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่น เป็นนักศึกษา ยังไม่ได้แต่งงาน ท่านตัดสินใจที่จะยกผมให้คนอื่นไปอุปการะ 00:01:22.095 --> 00:01:25.988 ท่านมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าผมควรจะได้เป็นลูกบุญธรรมของคนที่เรียนจบวิทยาลัย 00:01:25.988 --> 00:01:30.666 ดังนั้น ชีวิตผมถูกวางแผนไว้ตั้งแต่แรกว่า เมื่อผมเกิด ทนายความและภรรยาจะเป็นผู้รับอุปการะผม 00:01:31.581 --> 00:01:36.542 แต่เมื่อผมเกิด ครอบครัวทนายความเกิดเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย พวกเขากลับต้องการเด็กผู้หญิง 00:01:37.653 --> 00:01:42.346 ดังนั้น พ่อแม่ของผม ซึ่งอยู่ในรายชื่อผู้รับอุปการะในลำดับต่อๆ มา ก็ได้รับโทรศัพท์กลางดึกจากแม่แท้ๆ ของผม 00:01:43.190 --> 00:01:49.204 แม่แท้ๆ ผมถามว่า "เราก็มีเด็กทารกคนนึงเป็นผู้ชาย พวกคุณอยากอุปการะเขาไหม?" พวกเขา จึงตอบว่า "แน่นอน" 00:01:50.627 --> 00:01:58.247 แต่แล้วแม่แท้ ๆ ของผมมารู้ภายหลังว่า แม่บุญธรรมผม ไม่ได้จบวิทยาลัย และและพ่อบุญธรรมผมก็ไม่ได้จบแม้แต่ชั้นมัธยม 00:01:58.775 --> 00:02:02.116 แม่แท้ๆ ของผมจึงปฎิเสธที่จะให้พวกเขาอุปการะผม 00:02:03.275 --> 00:02:11.678 แต่อีกไม่กี่เดือนต่อมา แม่แท้ๆ ของผมก็ยินยอม เพราะพ่อแม่ผมสัญญาว่าจะส่งผมไปเรียนวิทยาลัย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตผม 00:02:13.649 --> 00:02:21.452 และอีก 17 ปี ต่อมา ผมได้ไปวิทยาลัย แต่ด้วยความไร้เดียงสา ผมเลือกวิทยาลัยที่ค่าเรียนแพงเกือบจะเท่าสแตนฟอร์ด 00:02:22.207 --> 00:02:26.584 เงินเก็บทั้งหมดของพ่อแม่ผม ซึ่งเป็นชนชั้นแรงงาน หมดไปกับค่าเล่าเรียน 00:02:27.303 --> 00:02:30.175 หกเดือนผ่านไป ผมไม่เห็นคุณค่าของการเรียนที่นีเลย 00:02:30.458 --> 00:02:35.932 ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไรกับชีวิต ไม่รู้ว่าวิทยาลัยจะช่วยผมให้รู้ได้ยังไง 00:02:36.582 --> 00:02:40.850 และที่นี่ ผมได้ใช้เงินทั้งหมดที่พ่อแม่ผมเก็บมาทั้งชีวิต 00:02:42.323 --> 00:02:46.790 ผมจึงตัดสินใจลาออก และเชื่อว่ามันน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ใช้ได้ 00:02:47.408 --> 00:02:52.249 ณ ตอนนั้น ผมก็รู้สึกกลัว แต่เมื่อมองย้อนไป มันกลับเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของผม 00:02:52.937 --> 00:02:53.991 (เสียงหัวเราะ) 00:02:54.068 --> 00:02:59.071 ณ นาทีที่ผมหยุดเรียน ผมก็ไม่ต้องเรียนวิชาบังคับที่ผมไม่สนใจ 00:02:59.501 --> 00:03:03.504 และสามารถเข้าเรียนวิชาที่น่าสนใจกว่า 00:03:04.580 --> 00:03:13.822 เรื่องราวมันไม่สวยงามเท่าไร ผมไม่มีห้องในหอพัก ต้องนอนบนพื้นห้องเพื่อน เอาขวดโค้กไปแลกเงิน 5 เซนต์ เพื่อซื้อข้าวกิน 00:03:14.397 --> 00:03:21.312 และผมต้องเดิน 7 ไมล์ข้ามไปอีกฝากของเมืองทุกๆ วันอาทิตย์ เพื่อไปกินอาหารดีๆ สักมื้อที่วัดฮาเร กฤษณะ 00:03:21.716 --> 00:03:23.210 ผมรักชีวิตช่วงนี้ของผม 00:03:23.580 --> 00:03:29.722 และสิ่งที่ผมบังเอิญได้พบเจอส่วนใหญ่ ซึ่งเกิดจากความสงสัยและสัญชาตญาณ กลับกลายเป็นสิ่งล้ำค่าในภายหลัง 00:03:29.876 --> 00:03:31.354 ผมมีตัวอย่างอยู่เรื่องหนึ่ง 00:03:32.759 --> 00:03:37.683 ในตอนนั้น รีดคอลเลจเปิดสอนวิชาการออกแบบตัวอักษร ซึ่งอาจจะเป็นหลักสูตรที่ดีที่สุดของประเทศ 00:03:37.992 --> 00:03:44.635 ทั่วทั้งเขตมหาวิทยาลัย โปสเตอร์ทุกใบ ป้ายบนลิ้นชักทุกอัน เขียนด้วยตัวหนังสือที่สร้างจากลายมือที่สวยงาม 00:03:45.024 --> 00:03:52.489 เนื่องจากผมได้ลาออก ไม่ต้องเรียนวิชาปกติ ผมจึงตัดสินใจเรียนวิชานี้ 00:03:52.692 --> 00:03:59.285 ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวอักษรแบบ Serif และ Sans-serif ได้เรียนรู้เกี่ยวกับช่องไฟเมื่อต้องผสมตัวอักษรต่างๆ เข้าด้วยกัน 00:03:59.582 --> 00:04:02.355 ได้เรียนรู้การทำให้งานพิมพ์ออกมายอดเยี่ยม 00:04:02.899 --> 00:04:11.026 มันช่วงสวยงาม น่าจดจำ และมีความเป็นศิลปะอย่างชัดเจน ซึ่งไม่สามารถบรรยายในเชิงวิทยาศาสตร์ และผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมจริงๆ 00:04:11.730 --> 00:04:16.231 เรื่องที่เพิ่งเล่าไปนี้ ฟังดูไม่น่าจะใช้อะไรได้จริงในชีวิตผม 00:04:17.005 --> 00:04:22.911 แต่แล้ว 10 ปีต่อมา เมื่อเรากำลังออกแบบคอมพิวเตอร์แมคอินทอช เครื่องแรก เรื่องนี้ก็วนกลับมา 00:04:23.050 --> 00:04:28.612 เรานำมันทั้งหมดเข้าไปไว้ในแมค มันจึงกลายเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่มีการแสดงตัวอักษรได้อย่างสวยงาม 00:04:29.077 --> 00:04:32.364 ถ้าผมไม่ได้เรียนวิชานั้นที่วิทยาลัย 00:04:32.486 --> 00:04:36.549 เครื่องแมคก็คงจะไม่มีตัวอักษรหลายรูปแบบและไม่มีการวางช่องไฟที่ได้สัดส่วนอย่างเช่นที่มันเป็น 00:04:36.962 --> 00:04:42.231 และเนื่องจากวินโดว์เลียนแบบแมค เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลก็จะไม่มีระบบตัวอักษรที่สวยงามแบบนี้เช่นกัน 00:04:42.468 --> 00:04:49.387 (เสียงหัวเราะและปรบมือ) 00:04:49.572 --> 00:04:53.668 ถ้าผมไม่ได้ลาออก ผมก็จะไม่ได้เรียนวิชานั้น 00:04:53.729 --> 00:04:57.601 และคอมพิวเตอร์ทั่วโลกก็จะไม่มีระบบแสดงตัวอักษรที่ยอดเยี่ยมอย่างที่เป็นในตอนนี้ 00:04:57.923 --> 00:05:02.194 จริงอยู่ที่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมองไปข้างหน้า แล้วสามารถคิดเชื่อมต่อจุดต่างๆ ตั้งแต่สมัยยังเรียนวิทยาลัย 00:05:02.484 --> 00:05:06.349 แต่เมื่อเรามองย้อนกลับไปในอดีตสัก 10 ปีก่อน มันกลับชัดเจนเหลือเกิน 00:05:06.595 --> 00:05:12.104 ผมจึงอยากจะย้ำว่า คุณไม่สามารถเชื่อมต่อจุดด้วยการมองไปในอนาคต แต่เชื่อมต่อได้โดยการมองย้อนกลับไป 00:05:12.374 --> 00:05:16.162 และเมื่อคุณรู้เช่นนี้ คุณก็จะเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง จุดต่างๆ เหล่้านี้จะสามารถเชื่อมกันได้ในอนาคต 00:05:16.365 --> 00:05:21.131 คุณต้องเชื่อในอะไรสักอย่าง เสียงในใจ พรหมลิขิต ชีวิต กรรม อะไรก็ตามแต่ 00:05:21.374 --> 00:05:27.284 เพราะความเชื่อว่าจุดต่างๆ จะเวียนมาเชื่อมกันได้ จะสร้างความมั่นใจให้คุณกล้าเดินตามจิตใจที่แท้จริงของคุณ 00:05:27.468 --> 00:05:32.111 แม้ว่ามันจะต้องพาคุณออกนอกเส้นทางที่คุ้นเคย และะเผชิญความแตกต่างขนานใหญ่ 00:05:37.972 --> 00:05:42.253 เรื่องที่สองของผมเกี่ยวกับความรักและการสูญเสีย 00:05:43.408 --> 00:05:47.535 ผมโชคดี ผมค้นพบสิ่งที่ผมรักตั้งแต่อายุยังน้อย 00:05:47.977 --> 00:05:51.156 วอซ (Steve Wozniak) กับผมเริ่มบริษัทแอ๊ปเปิลในโรงรถของพ่อแม่ผมตอนผมอายุ20 00:05:51.367 --> 00:05:59.303 เราทำงานหนัก และเมื่อ10 ปีผ่านไป แอ็ปเปิลเติบโตจากคนสองคนในโรงรถ กลายเป็นธุรกิจ 2 พันล้านเหรีญซึ่งมีพนักงานกว่า 4,000 คน 00:05:59.608 --> 00:06:04.777 ตอนนั้นเราเพิ่งเสนอผลงานที่เยี่ยมที่สุดของเรา แมคอินทอช แค่หนึ่งปีก่อนหน้า และผมก็เพิ่งจะอายุ 30 00:06:05.937 --> 00:06:07.168 และแล้ว ผมก็โดนไล่ออก 00:06:08.545 --> 00:06:11.115 ทำไมผมถึงโดนไล่ออกจากบริษัทที่ผมก่อตั้ง? 00:06:11.913 --> 00:06:18.038 ก็นั่นหละ เมื่อแอ็ปเปิลเติบโต พวกเราก็จ้างคนที่เราคิดว่ามีพรสวรรค์ที่จะบริหารบริษัทร่วมกับผม 00:06:18.254 --> 00:06:20.527 ซึ่งช่วงปีแรกๆ มันก็เป็นไปด้วยดี 00:06:20.681 --> 00:06:25.095 แต่เมื่อวิสัยทัศน์ของเราเริ่มต่างกัน ในที่สุดเราก็แตกแยก 00:06:25.258 --> 00:06:28.229 เมื่อผมถูกไล่ออก คณะกรรมการยืนอยู่ข้างเขา 00:06:28.447 --> 00:06:32.351 ผมจึงถูกไล่ออกตอนอายุ 30 แถมเป็นที่รู้กันทั่วไปซะด้วย 00:06:32.827 --> 00:06:37.441 สิ่งที่เป็นความตั้งใจในชีวิตวัยผู้ใหญ่ของผม ได้จากไปซะแล้ว มันเป็นความเสียหายที่ยิ่งใหญ่ 00:06:37.857 --> 00:06:40.057 ผมสับสนกับชีวิตอยู่เป็นเดือนๆ 00:06:40.645 --> 00:06:46.997 ผมรู้สึกว่าผมทำให้ผู้ร่วมลงทุนในแอ็ปเปิลรุ่นเก่าๆ ผิดหวัง เหมือนผมทิ้งไม้ผลัดเมื่อมันกำลังถูกส่งผ่านมา 00:06:47.589 --> 00:06:53.238 ผมพบกับ เดวิด แพคคาร์ด และ บ๊อบ นอยส์ และพยายามที่จะขอโทษที่ผมทำพลาดไม่เป็นท่า 00:06:53.796 --> 00:06:57.664 ผมล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในสายตาผู้คน ผมเคยแม้แต่คิดหนีไปให้พ้นจาก (ซิลิคอน) วาเลย์ 00:06:57.977 --> 00:07:03.285 แต่บางอย่างค่อยๆ พาผมกลับขึ้นมา ... ผมยังรักในสิ่งที่ผมทำ 00:07:04.316 --> 00:07:10.651 เหตุการณ์ที่แอ็ปเปิลไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนไป ถึงผมจะถูกไล่ออก แต่ผมก็ยังรักในสิ่งที่ทำอยู่เช่นเดิม 00:07:11.647 --> 00:07:13.309 และผมก็ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่ 00:07:14.345 --> 00:07:20.374 ตอนนั้นผมยังไม่รู้ตัว แต่มันกลายเป็นว่า การโดนไล่ออกจากแอ็ปเปิลเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับผม 00:07:20.482 --> 00:07:27.122 ความสำคัญตนที่เกิดจากความสำเร็จในอดีต ถูกทดแทนด้วยความถ่อมตนของการเริ่มต้นใหม่ ที่ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง 00:07:27.611 --> 00:07:30.442 มันให้อิสระผมในการเข้าสู่ช่วงที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดช่วงนึงของชีวิต 00:07:30.887 --> 00:07:35.481 ช่วง 5 ปีหลังจากนั้น ผมเิริ่มบริษัทใหม่ ชื่อว่า เน็กซ์ (NeXT) และอีกบริษัทชื่อ พิกซ่าร์ (Pixar) 00:07:35.802 --> 00:07:38.633 และตกหลุมรักผู้หญิงที่น่าทึ่งคนนึง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นภรรยาของผม 00:07:38.931 --> 00:07:47.529 พิกซ่าร์ได้สร้างภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องแรกของโลกคือ ทอย สเตอรี่ และตอนนี้มันเป็นอนิเมชั่นสตูดิโอที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก 00:07:47.804 --> 00:07:49.443 (เสียงปรบมือและโห่ร้องยินดี) 00:07:49.443 --> 00:07:54.585 และในที่สุด แอ็ปเปิลก็ซื้อเน็กส์ และผมก็ได้กลับมายังแอ็ปเปิล 00:07:54.764 --> 00:07:58.841 เทคโนโลยีที่เราพัฒนาขึ้นที่เน็กส์ ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของแอ็ปเปิลในยุคใหม่นี้ 00:07:59.261 --> 00:08:02.508 และลอรีน (ภรรยาจ๊อบส์) กับผมก็มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข 00:08:03.317 --> 00:08:07.131 ผมเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้คงจะไม่เกิดขึ้น ถ้าผมไม่ถูกไล่ออกจากแอ๊ปเปิล 00:08:07.573 --> 00:08:11.147 มันเป็นยาขมรสแย่ แต่ผมคิดว่าคนป่วยต้องการมัน 00:08:11.740 --> 00:08:15.742 บางครั้งชีวิตก็ฟาดหัวคุณด้วยก้อนอิฐ 00:08:15.971 --> 00:08:21.314 อย่าสิ้นศรัทธา ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งทำให้ผมเดินหน้าต่อได้ ก็คือการที่ผมรักในสิ่งที่ทำ 00:08:21.761 --> 00:08:26.982 คุณต้องค้นหาว่าคุณรักอะไร ทั้งกับตัวงานและกับคนรอบๆ ข้าง 00:08:27.639 --> 00:08:34.280 งานที่คุณทำจะกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิต ซึ่งหนทางเดียวที่คุณจะพอใจกับงานนั้นได้ คือทำสิ่งทีุ่คุณเชื่อมั่นว่า มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ 00:08:34.510 --> 00:08:38.331 และหนทางเดียวที่จะสร้างสรรงานที่ยอดเยี่ยมได้ ก็คือรักในสิ่งที่คุณทำ 00:08:38.567 --> 00:08:42.651 ถ้าคุณยังไม่เจอมัน ให้ค้นหาไปเรื่อยๆ อย่าหยุด 00:08:43.067 --> 00:08:46.503 เหมือนกับเรื่องต่างๆ ที่จะรับรู้ได้ด้วยใจ คุณจะรู้ตัวเองเมื่อคุณเจอมัน 00:08:46.694 --> 00:08:51.513 และ เหมือนกับความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ มันจะก้าวหน้าพัฒนายิ่งขึ้นไปตามกาลเวลา 00:08:51.631 --> 00:08:54.280 ดังนั้น จงค้นหามัน อย่าหยุด 00:08:57.469 --> 00:09:04.165 (เสียงปรบมือ) 00:09:04.658 --> 00:09:07.612 เรื่องที่สามของผมเกี่ยวกับความตาย 00:09:08.730 --> 00:09:12.062 ตอนผมอายุ 17 ผมได้อ่านคำกล่าวหนึ่ง 00:09:12.532 --> 00:09:17.716 "ถ้าคุณใช้ชีวิตในแต่ละวันเหมือนเป็นวันสุดท้าย วันหนึ่งมันก็จะมาถึง" 00:09:18.030 --> 00:09:19.750 (เสียงหัวเราะ) 00:09:20.350 --> 00:09:27.501 มันเป็นแรงบันดาลใจของผมตั้งแต่นั้นมา ตลอด 33 ปี ผมมองกระจกทุกเช้าแล้วถามตัวเองว่า 00:09:27.647 --> 00:09:33.201 "ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต ผมยังอยากทำ สิ่งที่กำลังจะทำในวันนี้หรือเปล่า" 00:09:33.383 --> 00:09:38.989 และเมื่อไรที่คำตอบคือ "ไม่" ติดๆ กันหลายวัน ผมรู้ว่าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างเสียที 00:09:39.905 --> 00:09:46.643 การระลึกได้ว่าผมจะต้องตายในเร็ววันนี้ กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญสุดที่ช่วยให้ผมเลือกทางเดินที่สำคัญในชีวิต 00:09:47.254 --> 00:09:54.097 เพราะว่าเกือบทุกสิ่งทุกอย่าง ... ความคาดหวังจากคนอื่นๆ ความภาคภูมิใจ ความกลัวต่อความอับอายหรือความล้มเหลว 00:09:54.097 --> 00:09:59.842 จะกลายเป็นเรื่องไร้สาระเมื่อต้องเผชิญกับความตาย เหลือไว้แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ เท่านั้น 00:09:59.949 --> 00:10:07.279 การระลึกได้ว่าคุณกำลังจะตาย เป็นทางที่ดีที่สุด ในการเลิกหลงคิดว่าคุณยังมีอะไรที่ต้องเสีย 00:10:07.462 --> 00:10:12.389 คุณมาตัวเปล่าอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุอะไรที่จะไม่ทำตามหัวใจตัวเอง 00:10:13.118 --> 00:10:16.660 ประมาณปีก่อน ผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง 00:10:17.559 --> 00:10:22.533 ผมเข้าเครื่องตรวจตอน 7:30น. และผลออกมาชัดเจนว่าผมมีเนื้อร้ายที่ตับอ่อน 00:10:22.746 --> 00:10:25.038 ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตับอ่อนคืออะไร 00:10:25.514 --> 00:10:34.658 หมอบอกว่าเนื้อร้ายที่ผมเป็นนี้ ค่อนข้างแน่นอนว่ารักษาไม่ได้ ผมไม่น่าจะอยู่ได้นานกว่าสามถึงหกเดือน 00:10:34.927 --> 00:10:42.652 หมอแนะนำให้ผมกลับบ้าน ไปจัดการเรื่องส่วนตัวต่างๆ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าให้เตรียมตัวตาย 00:10:42.944 --> 00:10:50.659 มันแปลว่าคุณควรบอกลูกในทุกๆ อย่าง ในเวลาไม่กี่เดือนที่เหลือ จากที่เคยคิดว่าคุณยังมีเวลาอีกเป็นสิบๆ ปี 00:10:51.149 --> 00:10:56.482 มันแปลว่า คุณต้องจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อที่ครอบครัวของคุณจะได้เผชิญความตายของคุณอย่างไม่ลำบากมากนัก 00:10:56.810 --> 00:10:58.642 มันแปลว่า คุณควรบอกลา 00:11:00.514 --> 00:11:02.940 ผมจมอยู่กับผลตรวจนั้นทั้งวัน 00:11:03.389 --> 00:11:10.265 เย็นวันนั้นผมได้ทำไบออพซี่ ซึ่งคือการหย่อนกล้องลงไปทางลำคอ ผ่านกระเพาะอาหาร ลงไปที่ลำไส้ของผม 00:11:10.452 --> 00:11:14.069 ใส่เข็มเข้าไปในตับอ่อนของผม และเก็บเซลล์ออกมาจากเนื้องอก 00:11:14.587 --> 00:11:22.526 ผมรู้สึกอ่อนล้า แต่ภรรยาของผมที่อยู่ตรงนั้นด้วย บอกผมว่า ตอนที่หมอดูเซลล์ผ่านกล้องจุลทรรศน์ หมอกลับส่งเสียงอุทานออกมา 00:11:22.721 --> 00:11:27.711 เพราะปรากฎว่า มันเป็นมะเร็งตับอ่อนชนิดหายาก ซึ่งรักษาได้ด้วยการผ่าตัด 00:11:28.214 --> 00:11:31.835 ผมเข้ารับการผ่าตัด และผมรู้สึกขอบคุณมาก ตอนนี้ผมกลับเป็นปกติแล้ว 00:11:32.057 --> 00:11:39.699 (เสียงปรบมือ) 00:11:40.142 --> 00:11:45.621 นี่เป็นประสบการณ์ใกล้เคียงความตายมากที่สุด และผมหวังว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นไปอีกนาน 00:11:45.960 --> 00:11:53.539 เมื่อผ่านเรื่องราวเหล่านี้มา ผมสามารถบอกคุณได้อย่างมั่นใจว่า ความตายเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ มันเป็นแนวคิดที่ล้ำลึกมาก 00:11:54.797 --> 00:12:00.852 ไม่มีใครอยากตาย แม้แต่คนที่อยากขึ้นสวรรค์ก็ไม่อยากรีบตายเพื่อไปสวรรค์ 00:12:01.324 --> 00:12:07.074 แต่กระนั้น ความตายก็เป็นปลายทางที่ทุกคนต้องเผชิญเหมือนๆ กัน ไม่มีใครหนีพ้น 00:12:07.351 --> 00:12:13.946 ความตายจึงเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดในชีวิตคนเรา 00:12:14.116 --> 00:12:18.353 มันเปลี่ยนแปลงชีวิต มันพาคนรุ่นเก่าๆ ให้จากไป และสร้างหนทางให้คนรุ่นใหม่ 00:12:18.910 --> 00:12:27.124 ตอนนี้ คนรุ่นใหม่คือพวกคุณ แต่อีกไม่นานจากนั้น คุณก็จะค่อยๆ กลายเป็นคนรุ่นเก่า และจากไปในทีุ่สุด 00:12:27.463 --> 00:12:30.697 ขออภัยที่มันออกจะฟังเกินจริง แต่มันจริงแท้แน่นอน 00:12:31.777 --> 00:12:36.719 คุณมีเวลาจำกัด ... ดังนั้น อย่าให้มันเสียเปล่าด้วยการชีวิตในหนทางของคนอื่น 00:12:37.099 --> 00:12:41.787 อย่าติดอยู่ในหลักการเดิมๆ ซึ่งหมายถึงการใช้ชีวิตอยู่กับตะกอนความคิดของคนอื่น 00:12:42.272 --> 00:12:46.125 อย่าให้เสียงของคนอื่นรบกวนเสียงข้างในตัวคุณ 00:12:46.333 --> 00:12:50.250 และที่สำคัญสุด จงมีความกล้าหาญในการทำตาม หัวใจ และ สัญชาตญาณของคุณ 00:12:50.763 --> 00:12:54.518 ทั้งสองสิ่งนี้ อาจจะรู้อยู่แล้ว ว่าจริงๆ แล้วคุณต้องการอะไร 00:12:54.896 --> 00:12:57.539 ส่วนเรื่องอื่นๆ ... ไม่สำคัญ 00:12:59.280 --> 00:13:08.542 (ปรบมือ) 00:13:08.773 --> 00:13:17.200 เมื่อผมยังเด็ก มีนิตยสารฉบับหนึ่งชื่อว่า เดอะโฮลเอิร์ทแคตตาล็อก มันเป็นเหมือนคัมภีร์ไบเบิ้ลของคนรุ่นผม 00:13:17.302 --> 00:13:24.767 นิตยสารนี้จัดทำโดยคนคุ้นเคยของเรา สจ๊วต แบรนด์ เขาอยู่ไม่ไกลจากเมนโลพาร์ค และเขาสร้างสรรนิตยสารนี้ด้วยบทกวี 00:13:25.231 --> 00:13:33.542 เรื่องนี้เกิดช่วงปลายยุค 60 ก่อนที่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และการเรียงพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ดังนั้นนิตยสารทั้งเล่มสร้างขึ้นมาจากเครื่องพิมพ์ดีด กรรไกร และกล้องโพลารอยด์ 00:13:33.765 --> 00:13:44.032 มันเหมือนเป็นกูเกิลในรูปแบบกระดาษ 35 ปีก่อนที่จะมีกูเกิลจริงๆ .. มันสมบูรณ์แบบ ครบคันด้วยเครื่องมือและคำอธิบายที่ยอดเยี่ยม 00:13:44.550 --> 00:13:47.915 สจ๊วตและทีมของเขาพิมพ์นิตยสารนี้ออกมาหลายเล่ม 00:13:48.202 --> 00:13:52.173 แต่มันก็มาถึงเล่มสุดท้ายจนได้ 00:13:52.496 --> 00:13:56.349 มันคือช่วงกลางยุค 1970 ซึ่งผมอายุพอๆ กับพวกคุณตอนนี้ 00:13:57.529 --> 00:14:07.291 ที่ปกหลังของนิตยสารฉบับสุดท้ายนี้ เป็นภาพยามเช้าของถนนชนบท คุณสามารถจินตนาการถึงการโบกรถขอร่วมทางไปด้วย หากคุณสวมวิญญาณนักผจญภัยสักหน่อย 00:14:07.912 --> 00:14:15.784 ใต้ภาพนั้นมีคำว่า: "จงหิว จงโง่เขลา" มันเป็นข้อความส่งท้ายการปิดตัวนิตยสาร 00:14:16.275 --> 00:14:22.072 จงหิว จงโง่เขลา ผมบอกกับตัวเองเช่นนั้นมาตลอด 00:14:22.758 --> 00:14:27.763 ตอนนี้ พวกคุณกำลังเรียนจบเพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ ผมขออวยพรสิ่งนั้นให้คุณ 00:14:28.012 --> 00:14:30.602 จงหิว จงโง่เขลา 00:14:30.905 --> 00:14:32.382 ขอบคุณทุกๆ คนครับ 00:14:32.591 --> 00:14:49.110 (เสียงปรบมือ) 00:14:54.314 --> 00:14:56.841 [มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด - www.stanford.edu] 00:14:56.918 --> 00:15:00.210 ลิขสิทธิ์ โดย มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 00:15:00.357 --> 00:15:03.147 โปรดเยี่ยมชมเราที่ standord.edu