WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:12.525 ทุก ๆ สองวินาทีจะมีใครสักคนบนโลกเป็น โรคหลอดเลือดสมอง 00:00:12.525 --> 00:00:17.878 และทุกหนึ่งในหกคนจะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ในบางช่วงชีวิต 00:00:17.878 --> 00:00:20.868 โรคหลอดเลือดสมองเกิดจาก การขาดออกซิเจนในเซลล์สมอง 00:00:20.868 --> 00:00:23.589 และเป็นหนึ่งในสาเหตุการตาย ที่พบมากที่สุด 00:00:23.589 --> 00:00:26.785 แล้วก็เป็นสาเหตุหลัก ของความพิการที่ป้องกันได้ 00:00:26.785 --> 00:00:31.449 เมื่อใครเป็นโรคหลอดเลือดสมอง แล้วได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน 00:00:31.449 --> 00:00:34.729 มักจะช่วยให้พ้นจาก ความเสียหายถาวรของสมองได้ 00:00:34.729 --> 00:00:37.588 แต่อะไรล่ะที่เป็นสาเหตุ ที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง 00:00:37.588 --> 00:00:40.849 แล้วแพทย์จะรักษาพวกเขาได้อย่างไรบ้าง NOTE Paragraph 00:00:40.849 --> 00:00:44.520 สมองเป็นส่วนประกอบเพียง 2% ของมวลร่างกาย 00:00:44.520 --> 00:00:48.958 แต่สมองต้องใช้ออกซิเจนในเลือดมากกว่า 20% 00:00:48.958 --> 00:00:52.751 ออกซิเจนเหล่านั้นเข้าสู่สมอง ผ่านระบบหลอดเลือด 00:00:52.751 --> 00:00:55.638 หลอดเลือดแดงคาโรติดจะหล่อเลี้ยง สมองส่วนหน้า 00:00:55.638 --> 00:00:58.688 และหลอดเลือดแดงเวอร์ทิบรัล จะหล่อเลี้ยงส่วนหลัง 00:00:58.688 --> 00:01:00.719 หลอดเลือดเหล่านี้จะเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน 00:01:00.719 --> 00:01:03.369 และแบ่งออกเป็นหลอดเลือดที่เล็กลง 00:01:03.369 --> 00:01:07.380 เพื่อให้เซลล์ประสาทหลายพันล้านเซลล์ ได้รับออกซิเจนตามที่ต้องการ 00:01:07.380 --> 00:01:13.349 หากการไหลเวียนของเลือดถูกขัดขวาง การส่งออกซิเจนจะชะงักและเซลล์สมองก็จะตายลง 00:01:13.349 --> 00:01:15.490 โรคนี้มีอยู่สองชนิด 00:01:15.490 --> 00:01:20.641 โรคหลอดเลือดสมองแตกซึ่งเกิดจาก หลอดเลือดแตกจนทำให้เลือดออกในสมอง 00:01:20.641 --> 00:01:23.530 แต่ชนิดที่พบมากกว่า คือแบบที่เกิดจากเส้นเลือดอุดตัน 00:01:23.530 --> 00:01:28.518 เมื่อลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือด จะทำให้การไหลเวียนเลือดหยุดชะงัก NOTE Paragraph 00:01:28.518 --> 00:01:30.690 ลิ่มเลือดนี้มาจากไหนกัน 00:01:30.690 --> 00:01:33.591 แบบที่เกิดน้อยนั้น จังหวะ การเต้นของหัวใจเปลี่ยนฉับพลัน 00:01:33.591 --> 00:01:37.900 จะทำให้หัวใจห้องบนบีบตัวผิดปกติ 00:01:37.900 --> 00:01:39.809 ทำให้การไหลเวียนเลือดช้าลง 00:01:39.809 --> 00:01:45.382 จนเกล็ดเลือด ลิ่มเลือด และไฟบริน เกาะติดกัน 00:01:45.382 --> 00:01:46.731 ลิ่มเลือดอาจถูกพัดพา 00:01:46.731 --> 00:01:50.611 ไปตามหลอดเลือดใหญ่ และเส้นเลือดรองที่เลี้ยงสมอง 00:01:50.611 --> 00:01:54.092 จนถึงจุดหนึ่ง ที่ไม่สามารถแทรกผ่านต่อไปได้ 00:01:54.092 --> 00:01:56.297 เช่นนี้เรียกว่า ภาวะอุดตันของเส้นเลือด 00:01:56.297 --> 00:02:00.665 โดยจะหยุดออกซิเจน ไม่ให้ไปหล่อเลี้ยงเซลล์ในส่วนที่เหลือ 00:02:00.665 --> 00:02:05.862 สมองไม่มีตัวรับความเจ็บปวด เราจึงไม่รู้สึกว่ามีการอุดตัน 00:02:05.862 --> 00:02:08.672 แต่การขาดออกซิเจนทำให้ การทำงานของสมองช้าลง 00:02:08.672 --> 00:02:11.802 และเกิดผลกระทบเฉียบพลันที่สังเกตได้ 00:02:11.802 --> 00:02:15.593 เช่น ถ้าส่วนที่ได้รับผลกระทบ เกี่ยวกับการพูด 00:02:15.593 --> 00:02:18.514 บุคคลนั้นอาจพูดไม่ชัด 00:02:18.514 --> 00:02:21.972 ถ้าโรคหลอดเลือดสมองกระทบกับสมอง ส่วนควบคุมการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ 00:02:21.972 --> 00:02:26.553 มันสามารถทำให้เกิดอาการอ่อนแรง ซึ่งมักเป็นกับซีกหนึ่งของร่างกาย NOTE Paragraph 00:02:26.553 --> 00:02:30.435 เมื่อเกิดอาการนี้ขึ้น ร่างกายก็จะพยายามชดเชยทันที 00:02:30.435 --> 00:02:33.405 ด้วยการเปลี่ยนการไหลเวียนของเลือด ไปยังส่วนที่ได้รับผลกระทบ 00:02:33.405 --> 00:02:35.885 แต่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด 00:02:35.885 --> 00:02:39.824 ในที่สุด เซลล์ที่ขาดออกซิเจนก็จะเริ่มตาย 00:02:39.824 --> 00:02:43.748 ทำให้สมองเสียหาย ที่อาจจะรุนแรงหรือถาวร 00:02:43.748 --> 00:02:48.390 จึงเป็นเรื่องจำเป็นต้องรีบรักษา ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 00:02:48.390 --> 00:02:51.370 การรักษาขั้นแรกคือ การให้ยาทางเส้นเลือดดำ 00:02:51.370 --> 00:02:54.205 เรียกว่า การให้ยาสลายลิ่มเลือด 00:02:54.205 --> 00:02:55.884 ซึ่งสามารถสลายลิ่มเลือด 00:02:55.884 --> 00:02:59.855 และช่วยให้เลือดไหลเวียน ในหลอดเลือดแดงได้อีกครั้ง 00:02:59.855 --> 00:03:02.015 ถ้าให้ยาภายในเวลาสองสามชั่วโมง 00:03:02.015 --> 00:03:05.415 การรักษานี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิต จากโรคหลอดเลือดสมองได้มากขึ้น 00:03:05.415 --> 00:03:08.496 และสามารถหลีกเลี่ยง ความเสียหายแบบถาวร NOTE Paragraph 00:03:08.496 --> 00:03:11.646 หากไม่สามารถให้ยาสลายลิ่มเลือด 00:03:11.646 --> 00:03:13.976 เพราะผู้ป่วยได้รับการรักษาบางอย่างอยู่ 00:03:13.976 --> 00:03:15.595 มีประวัติเลือดออกมาก 00:03:15.595 --> 00:03:18.336 หรือลิ่มเลือดนั้นใหญ่มาก 00:03:18.336 --> 00:03:23.605 แพทย์สามารถรักษาด้วยการผ่าตัด กำจัดลิ่มเลือดด้วยการใส่ขดลวด 00:03:23.605 --> 00:03:28.694 การใช้สารเรืองแสงที่ช่วยให้เห็นเส้นเลือด ภายใต้เอกซเรย์ความเข้มสูง 00:03:28.694 --> 00:03:33.146 แพทย์จะสอดหลอดที่มีลักษณะยาว บาง ยืดหยุ่นเข้าไป ซึ่งเรียกว่า หลอดสวน 00:03:33.146 --> 00:03:35.375 เข้าไปในเส้นเลือดที่ขา 00:03:35.375 --> 00:03:38.508 และค่อย ๆ ดันเข้าไปจนถึง บริเวณที่มีการอุดตัน 00:03:38.508 --> 00:03:41.377 ตัวเก็บลิ่มเลือดจะถูกสอดผ่านหลอดสวนนี้ 00:03:41.377 --> 00:03:45.867 ซึ่งจะช่วยขยายและจับลิ่มเลือด เมื่อสอดผ่านเข้าไป 00:03:45.867 --> 00:03:50.737 จากนั้น หลอดสวนก็จะดึงเอาลิ่มเลือดออกมา NOTE Paragraph 00:03:50.737 --> 00:03:53.679 การรักษาเหล่านี้จำเป็นต้อง ทำให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ 00:03:53.679 --> 00:03:55.338 เพื่อรักษาการทำงานของสมองไว้ 00:03:55.338 --> 00:03:59.588 ซึ่งหมายถึง ต้องคิดแก้ไขให้เร็ว ถ้าหากมีใครกำลังเป็นโรคหลอดเลือดสมองอยู่ 00:03:59.588 --> 00:04:01.017 แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไร 00:04:01.017 --> 00:04:03.869 นี่คือสามวิธีเร่งด่วนเพื่อทดสอบ 00:04:03.869 --> 00:04:06.558 1. ขอให้ผู้นั้นยิ้ม 00:04:06.558 --> 00:04:11.118 อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวห้อยต่ำลง สามารถบ่งชี้ได้ว่ากล้ามเนื้ออ่อนแรง 00:04:11.118 --> 00:04:13.879 2. ขอให้คนผู้นั้นลองยกแขน 00:04:13.879 --> 00:04:19.829 ถ้าแขนข้างหนึ่งอ่อนแรงห้อยกองลงไป เป็นสัญญาณหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองเช่นกัน 00:04:19.829 --> 00:04:23.919 3. ขอให้พวกเขาพูดตาม เป็นคำหรือวลีง่าย ๆ 00:04:23.919 --> 00:04:26.788 ถ้าเสียงพูดไม่ชัดหรือเสียงแปลกไป 00:04:26.788 --> 00:04:31.489 มันอาจหมายถึง สมองด้านภาษาขาดออกซิเจน 00:04:31.489 --> 00:04:37.281 การทดสอบนี้ บางทีจะเรียกว่า FAST และ T ย่อมาจากคำว่า time (เวลา) 00:04:37.281 --> 00:04:42.290 หากเราพบใครที่มีสัญญาณของอาการเหล่านี้ ให้เรียกหน่วยพยาบาลฉุกเฉินทันที 00:04:42.310 --> 00:04:45.940 ชีวิตผู้คนขึ้นอยู่กับสิ่งนี้