WEBVTT

00:00:00.360 --> 00:00:01.779
เป็นเกียรติมากครับที่ได้มาที่นี่

00:00:01.779 --> 00:00:03.728
ณ กรุงเอดินบะระ สกอตแลนด์

00:00:03.728 --> 00:00:06.891
ถิ่นที่กำเนิดของเข็มและหลอดฉีดยา

00:00:06.891 --> 00:00:09.732
ห่างออกไปจากตรงนี้ไม่ถึงไมล์

00:00:09.732 --> 00:00:11.706
ในปี ค.ศ. 1853 ชาวสกอตคนหนึ่ง

00:00:11.706 --> 00:00:14.134
ได้จดสิทธิบัตรฉบับแรกๆ ของเขา 
สำหรับเข็มและหลอดฉีดยา

00:00:14.134 --> 00:00:16.236
ชื่อของเขาคือ อเล็กซานเดอร์ วูด

00:00:16.236 --> 00:00:19.987
และที่นั่นก็คือ ราชวิทยาลัยแพทย์แห่งกรุงเอดินบะระ

00:00:19.987 --> 00:00:22.465
นี่คือสิทธิบัตรที่ว่า

00:00:22.465 --> 00:00:25.176
สิ่งที่กระตุกความคิดผมเมื่อเห็นมันในวันนี้

00:00:25.176 --> 00:00:27.349
ก็คือ มันเกือบที่จะเหมือน

00:00:27.349 --> 00:00:29.106
กับเข็มที่เราใช้ในปัจจุบัน

00:00:29.106 --> 00:00:32.666
ถึงแม้ว่ามันมีอายุ 160 ปี

NOTE Paragraph

00:00:32.666 --> 00:00:35.161
เรามาพูดถึงเรื่องของวัคซีนกัน

00:00:35.161 --> 00:00:37.390
วัคซีนส่วนใหญ่นั้นถูกให้

00:00:37.390 --> 00:00:41.534
ผ่านเข็มและหลอดฉีดยา
เทคโนโลยีอายุ 160 ปี

00:00:41.534 --> 00:00:43.445
แล้วจะว่าไป

00:00:43.445 --> 00:00:47.096
วัคซีนก็เป็นเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จในหลายระดับ

00:00:47.096 --> 00:00:50.985
ถ้าไม่นับเรื่องน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดี

00:00:50.985 --> 00:00:55.259
วัคซีนนั้นเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่สุด

00:00:55.259 --> 00:00:57.789
ที่ได้ช่วยยืดชีวิตของเรา

00:00:57.789 --> 00:01:00.264
มันเป็นผลงานที่ยากจะหาใครต่อกรได้

NOTE Paragraph

00:01:00.264 --> 00:01:02.057
แต่ก็เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ

00:01:02.057 --> 00:01:03.902
วัคซีนมีจุดอ่อนของมัน

00:01:03.902 --> 00:01:06.538
และเข็มกับหลอดฉีดยา

00:01:06.538 --> 00:01:08.741
ก็เป็นกุญแจสำคัญของจุดอ่อนนั้น

00:01:08.741 --> 00:01:11.670
ของเทคโนโลยีเก่าๆ นี้

00:01:11.670 --> 00:01:13.969
เรามาเริ่มจากจุดที่เห็นได้ชัดก่อน

00:01:13.969 --> 00:01:17.451
พวกเราหลายๆ คนไม่ชอบเข็มและหลอดฉีดยา

00:01:17.451 --> 00:01:19.365
ผมก็ด้วยครับ

00:01:19.365 --> 00:01:22.557
แต่อย่างไรก็ดี ร้อยละ 20 ของประชากร

00:01:22.557 --> 00:01:24.833
มีพฤติกรรมที่เรียกว่า อาการกลัวเข็ม

00:01:24.833 --> 00:01:26.594
นั่นมันยิ่งกว่าไม่ชอบเข็มเสียอีก

00:01:26.594 --> 00:01:29.063
นั่นจะทำให้คนหลีกเลี่ยงการรับวัคซีน

00:01:29.063 --> 00:01:30.927
เพราะว่ากลัวเข็ม

00:01:30.927 --> 00:01:34.934
และนั้นก็เป็นปัญหาต่อการขยายการใช้วัคซีน

NOTE Paragraph

00:01:34.934 --> 00:01:37.079
ทีนี้ อีกเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกัน

00:01:37.079 --> 00:01:39.412
ก็คือ การเกิดแผลจากการใช้เข็ม

00:01:39.412 --> 00:01:41.384
และองค์การอนามัยโลกรายงานว่า

00:01:41.384 --> 00:01:45.219
มีการเสียชีวิตประมาณ 1.3 ล้านรายต่อปี

00:01:45.219 --> 00:01:47.611
ที่เกิดขึ้นเพราะการติดเชื้อ

00:01:47.611 --> 00:01:48.895
จากแผลที่เกิดจากการใช้เข็ม

00:01:48.895 --> 00:01:51.577
นี่คือ การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

NOTE Paragraph

00:01:51.577 --> 00:01:54.558
ครับ มันมีสองสิ่งที่คุณอาจเคยได้ยิน

00:01:54.558 --> 00:01:56.438
แต่เข็มและหลอดฉีดยา

00:01:56.438 --> 00:01:58.922
ยังมีข้อด้อยอีกสองอย่างที่คุณอาจไม่เคยได้ยิน

00:01:58.922 --> 00:02:00.903
อย่างแรกก็คือ มันอาจลดประสิทธิภาพ

00:02:00.903 --> 00:02:02.382
ของวัคซีนแบบใหม่

00:02:02.382 --> 00:02:04.671
ในเรื่องของการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน

00:02:04.671 --> 00:02:07.598
และอย่างที่สองก็คือ มันอาจเป็นตัวการ

00:02:07.598 --> 00:02:12.210
ของปัญหาเรื่องการขนส่งด้วยระบบแช่เย็น
ที่ผมจะเล่าให้คุณฟังเช่นกัน

NOTE Paragraph

00:02:12.210 --> 00:02:13.792
ผมจะเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับงานบางส่วน

00:02:13.792 --> 00:02:15.860
ที่ทีมของผมและผมกำลังวิจัยกันอยู่ในออสเตรเรีย

00:02:15.860 --> 00:02:17.601
ณ มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์

00:02:17.601 --> 00:02:21.998
เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมา
เพื่อที่จะต่อกรปัญหาทั้งสี่

00:02:21.998 --> 00:02:26.343
และเทคโนโลยีนั้นก็เรียกว่า นาโนแพทช์ (Nanopatch)

00:02:26.343 --> 00:02:32.817
นี่คือตัวอย่างของนาโนแพทช์

00:02:32.817 --> 00:02:34.466
เมื่อมองด้วยตาเปล่า

00:02:34.466 --> 00:02:36.650
มันเหมือนจะเป็นเพียงผืนสี่เหลี่ยม

00:02:36.650 --> 00:02:39.549
ที่เล็กว่าแสตมป์

00:02:39.549 --> 00:02:42.215
แต่ภายใต้กล้องจุลทรรศน์

00:02:42.215 --> 00:02:44.533
สิ่งที่คุณเห็นคือหนามเล็กๆ เป็นพันๆ

00:02:44.533 --> 00:02:46.754
ที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

00:02:46.754 --> 00:02:48.511
และมันก็มีปลายแหลมนั่นประมาณ 4,000 อัน

00:02:48.511 --> 00:02:51.893
บนผื่นสี่เหลี่ยมนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเข็ม

00:02:51.907 --> 00:02:54.551
และผมได้ออกแบบปลายแหลมเหล่านั้น

00:02:54.551 --> 00:02:58.601
ให้ทำหน้าที่สำคัญ 
ซึ่งก็คือทำงานร่วมกับระบบภูมิคุ้มกันของผิวหนัง

00:02:58.601 --> 00:03:00.996
นั่นเป็นหน้าที่ที่สำคัญมากๆ

00:03:00.996 --> 00:03:02.452
ที่เป็นคุณสมบัติของนาโนแพทช์

NOTE Paragraph

00:03:02.452 --> 00:03:04.699
เราสร้างนาโนแพทช์

00:03:04.699 --> 00:03:07.236
ด้วยเทคโนโลยี

00:03:07.236 --> 00:03:09.615
ที่เรียกว่า deep reactive ion etching

00:03:09.615 --> 00:03:11.659
และเทคนิคดังกล่าวก็เป็นเทคนิค

00:03:11.659 --> 00:03:13.286
ที่ได้มาจากอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์กึ่งตัวนำ

00:03:13.286 --> 00:03:15.122
ฉะนั้นมันจึงใช้ทุนต่ำ

00:03:15.122 --> 00:03:17.316
และสามารถที่จะทำออกมาได้เป็นจำนวนมาก

NOTE Paragraph

00:03:17.316 --> 00:03:22.382
ทีนี้ เราก็เคลือบวัคซีนแบบแห้ง
ไว้บนปลายแหลมของนาโนแพทช์

00:03:22.382 --> 00:03:24.201
และวางมันลงบนผิวหนัง

00:03:24.201 --> 00:03:28.757
รูปแบบการใช้ที่ง่ายที่สุด

00:03:28.757 --> 00:03:30.779
คือการใช้นิ้วของเรานี่แหละ

00:03:30.779 --> 00:03:33.399
แต่นิ้วของเราก็มีข้อจำกัด

00:03:33.399 --> 00:03:35.483
เราก็เลยมีอุปกรณ์สำหรับมัน

00:03:35.483 --> 00:03:36.970
และมันก็เป็นอุปกรณ์ง่ายๆ

00:03:36.970 --> 00:03:39.088
จะเรียกว่านิ้วพิเศษก็ได้

00:03:39.088 --> 00:03:42.128
มันเป็นอุปกรณ์ที่งานด้วยสปริง

00:03:42.128 --> 00:03:45.950
เมื่อเราวางนาโนแพทช์ลงไปบนผิวหนัง

00:03:45.950 --> 00:03:47.819
(คลิ๊ก)

00:03:47.819 --> 00:03:50.736
มีบางอย่างที่เกิดขึ้นในทันที

00:03:50.736 --> 00:03:54.783
อย่างแรก ปลายแหลมบนนาโนแพทช์

00:03:54.783 --> 00:03:56.460
ผ่านผิวหนังหนาๆ ชั้นนอกลงไป

00:03:56.460 --> 00:03:58.506
และวัคซีนก็ถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว

00:03:58.506 --> 00:04:00.854
ในเพียงไม่ถึงนาที

00:04:00.854 --> 00:04:03.420
จากนั้นเรานำสามารถเอานาโนแพทช์ออกได้

00:04:03.420 --> 00:04:05.358
และทิ้งมันไป

00:04:05.358 --> 00:04:11.244
และอันที่จริง เราสามารถที่จะนำอุปกรณ์ช่วย
กลับมาใช้ใหม่ได้

NOTE Paragraph

00:04:11.244 --> 00:04:13.980
นั่นก็คงทำให้คุณรู้จักนาโนแพทช์มากขึ้น

00:04:13.980 --> 00:04:16.556
และคุณก็คงได้เห็นจุดเด่นหลักๆ ของมันในทันที

00:04:16.556 --> 00:04:18.496
เราได้บอกว่ามันไร้เข็ม

00:04:18.496 --> 00:04:20.730
ปลายแหลมเหล่านี้ที่คุณมองไม่เห็น

00:04:20.730 --> 00:04:22.441
และแน่นอน เราสามารถที่จะหลีกเลี่ยง

00:04:22.441 --> 00:04:25.514
อาการกลัวเข็มได้ด้วย

NOTE Paragraph

00:04:25.514 --> 00:04:27.445
ตอนนี้ ถ้าเราย้อนกลับไปคิดเกี่ยวกับ

00:04:27.445 --> 00:04:30.841
จุดเด่นอีกสองข้อที่สำคัญมากๆ

00:04:30.841 --> 00:04:34.877
อย่างหนึ่งก็คือมันเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
ผ่านวิธีการให้วัคซีน

00:04:34.877 --> 00:04:38.471
และอย่างที่สองก็คือ กำจัดระบบระบบแช่เย็น

NOTE Paragraph

00:04:38.471 --> 00:04:40.843
เอาล่ะ มาเริ่มที่อย่างแรกก่อน
แนวคิดเรื่องการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน

00:04:40.843 --> 00:04:42.849
มันต้องใช้เวลาสักนิดก่อนที่จะเข้าใจ

00:04:42.849 --> 00:04:46.578
แต่ผมจะลองอธิบายแบบง่ายๆ ครับ

00:04:46.578 --> 00:04:48.428
ถ้าผมลองย้อนกลับไป และอธิบายให้คุณฟังง่ายๆ

00:04:48.428 --> 00:04:51.838
ว่าวัคซีนทำงานอย่างไร

00:04:51.838 --> 00:04:54.415
วัคซีนทำงานโดย การนำสิ่งที่เรียกว่าแอนติเจน

00:04:54.415 --> 00:04:56.518
เข้าสู่ร่างกายของเรา

00:04:56.518 --> 00:04:59.695
ซึ่งแอนติเจนนั้น คือรูปแบบของเชื้อโรคที่ไม่มีอันตราย

00:04:59.695 --> 00:05:01.715
ทีนี้ เชื้อโรคที่ไม่อันตราย เจ้าแอนติเจนนั่น

00:05:01.715 --> 00:05:05.220
หลอกร่างกายของเราให้เพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน

00:05:05.220 --> 00:05:09.288
เรียนรู้และจดจำ ว่าจะจัดการอย่างไรกับผู้บุกรุก

00:05:09.288 --> 00:05:11.656
เมื่อผู้บุกรุกตัวจริงเข้ามา

00:05:11.656 --> 00:05:13.417
ร่างกายสามารถที่จะตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน

00:05:13.417 --> 00:05:15.053
ที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

00:05:15.053 --> 00:05:16.953
และยับยั้งการเกิดโรค

00:05:16.953 --> 00:05:18.643
มันทำเช่นนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

NOTE Paragraph

00:05:18.643 --> 00:05:20.980
ทีนี้ วิธีการที่เราทำกันในปัจจุบัน
ด้วยเข็มและหลอดฉีดยา

00:05:20.980 --> 00:05:23.431
ก็คือ วัคซีนส่วนใหญ่นั้นถูกให้ด้วยวิธีนั้น

00:05:23.431 --> 00:05:25.115
โดยใช้เทคโนโลยีเก่า และเข็ม

00:05:25.115 --> 00:05:30.264
แต่มันอาจเป็นที่โต้แย้งได้ว่า
เข็มนั้นลดประสิทธิภาพของการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน

00:05:30.264 --> 00:05:33.706
มันพลาดจุดที่ภูมิคุ้มกันโปรดปรานในผิวหนัง

00:05:33.706 --> 00:05:36.702
เพื่อที่จะอธิบายแนวคิดนี้

00:05:36.702 --> 00:05:39.191
พวกเราต้องเดินทางลงไปยังผิวหนัง

00:05:39.191 --> 00:05:41.815
เริ่มจากหนึ่งในปลายแหลมพวกนั้น

00:05:41.815 --> 00:05:44.260
และการวางนาโนแพทช์ลงบนผิวหนัง

00:05:44.260 --> 00:05:46.660
และพวกเราก็เห็นข้อมูลรูปแบบนี้

00:05:46.660 --> 00:05:48.469
ทีนี้ นี่คือข้อมูลจริงๆ

00:05:48.469 --> 00:05:50.815
สิ่งที่เราเห็นคือ ปลายแหลมหนึ่ง

00:05:50.815 --> 00:05:53.271
จากนาโนแพทช์ที่วางลงบนผิวหนัง

00:05:53.271 --> 00:05:55.196
และชั้นสีต่างๆ กัน

00:05:55.196 --> 00:05:56.480
เพื่อที่จะให้คุณเข้าใจถึงขนาด

00:05:56.480 --> 00:05:58.420
ถ้าเอาเข็มมาแสดงตรงนี้ มันอาจจะดูใหญ่เกินไป

00:05:58.420 --> 00:05:59.945
มันน่าจะมีขนาดใหญ่เป็น 10 เท่า

00:05:59.945 --> 00:06:02.867
ของขนาดจอ และลึกกว่า 10 เท่าเช่นกัน

00:06:02.867 --> 00:06:05.082
มันเกินกรอบนี้

00:06:05.082 --> 00:06:08.275
คุณเห็นได้ทันทีว่าเรามีปลายแหลมเหล่านี้ในผิวหนัง

00:06:08.275 --> 00:06:11.327
ชั้นสีแดงเป็นชั้นหนาของผิวหนังชั้นนอกที่ตายแล้ว

00:06:11.327 --> 00:06:13.834
แต่ชั้นสีน้ำตาลและบานเย็น

00:06:13.841 --> 00:06:17.022
เต็มไปด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกัน

00:06:17.022 --> 00:06:18.878
ดังเช่นตัวอย่างนี้ ในชั้นสีน้ำตาล

00:06:18.878 --> 00:06:21.232
มีเซลล์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แลงเกอร์ฮานเซลล์

00:06:21.232 --> 00:06:23.445
ทุกๆ ตารางมิลลิเมตรของร่างกายของเรา

00:06:23.445 --> 00:06:26.465
เต็มไปด้วยแลงเกอร์ฮานเซลล์เหล่านั้น

00:06:26.465 --> 00:06:28.568
เซลล์ภูมิคุ้มกันเหล่านั้นและเซลล์อื่นๆ ด้วย

00:06:28.568 --> 00:06:30.363
ที่เราไม่ได้ย้อมสีให้เห็นในภาพนี้

00:06:30.363 --> 00:06:32.543
แต่คุณคงจินตนาการได้ว่า นาโนแพทช์

00:06:32.543 --> 00:06:34.280
ทะลวงเข้าไปถึงจริงๆ

00:06:34.280 --> 00:06:37.709
เราพุ่งเป้าไปยังเซลล์ที่ว่านี้เป็นพันๆ

00:06:37.709 --> 00:06:40.047
ที่อยู่บนผิวหนังช่วงแคบๆ

00:06:40.047 --> 00:06:43.328
ไม่เกินกว่าความกว้างของเส้นผม

NOTE Paragraph

00:06:43.328 --> 00:06:47.090
เรื่องที่ว่าชายผู้ประดิษฐ์สิ่งนั้น
และออกแบบมันให้ทำงานนั้น

00:06:47.090 --> 00:06:50.526
ผมคิดว่ามันน่าตื่นเต้น ทำไมน่ะหรือ

00:06:50.526 --> 00:06:52.478
จะเป็นยังไง ถ้าคุณได้กำหนดเซลล์เป้าหมาย

00:06:52.478 --> 00:06:55.281
ในโลกของวัคซีน นั่นหมายความว่าอย่างไร

00:06:55.281 --> 00:06:57.702
โลกของวัคซีนนั้นเริ่มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ

00:06:57.702 --> 00:06:59.426
มันเป็นระบบระเบียบมากขึ้น

00:06:59.426 --> 00:07:01.648
แต่อย่างไรก็ดี คุณยังไม่รู้จริงๆ หรอก

00:07:01.648 --> 00:07:03.392
ว่าวัคซีนจะใช้การได้หรือเปล่า

00:07:03.392 --> 00:07:04.731
จนกว่าคุณจะถลกแขนเสื้อขึ้น

00:07:04.731 --> 00:07:06.946
และให้วัคซีน และรอ

00:07:06.946 --> 00:07:09.648
มันเป็นเหมือนเกมส์เสี่ยงโชค แม้กระทั่งในปัจจุบัน

NOTE Paragraph

00:07:09.648 --> 00:07:12.160
ดังนั้น เราต้องเล่นเกมส์เสี่ยงดวงนั้น

00:07:12.160 --> 00:07:14.640
เรานำวัคซีนโรคหวัดมา

00:07:14.640 --> 00:07:16.256
เราเคลือบมันบนนาโนแพทช์

00:07:16.256 --> 00:07:18.727
และเราวางแผ่นนาโนแพทช์บนผิวหนัง

00:07:18.727 --> 00:07:20.460
และเราก็รอ

00:07:20.460 --> 00:07:22.288
นี่คือ ภายในสัตว์ที่มีชีวิต

00:07:22.288 --> 00:07:24.139
เรารอหนึ่งเดือน

00:07:24.139 --> 00:07:25.951
และนี่คือสิ่งที่เราค้นพบ

00:07:25.951 --> 00:07:28.276
นี่เป็นผลการทดลอง
ที่แสดงถึงการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน

00:07:28.276 --> 00:07:30.599
ที่เราได้จากนาโนแพทช์

00:07:30.599 --> 00:07:34.375
เทียบกับที่ได้จากการฉีดยาให้กับกล้ามเนื้อ
ด้วยเข็มและหลอดฉีดยา

00:07:34.375 --> 00:07:37.969
ที่แกนนอน แสดงขนาดของยาในหน่วยนาโนกรัม

00:07:37.969 --> 00:07:40.674
ที่แกนตั้ง แสดงระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน

00:07:40.674 --> 00:07:46.189
และเส้นประ บ่งบอกระดับการป้องกัน

00:07:46.189 --> 00:07:48.642
เหนือขึ้นไปจากเส้นนั้น ถือว่ามันให้การป้องกันได้

00:07:48.642 --> 00:07:51.568
แต่ถ้ามันอยู่ใต้นั้น แสดงว่ามันไม่ได้ผล

00:07:51.568 --> 00:07:54.136
ดังนั้น เส้นแดงนั้นเกือบจะอยู่ใต้เส้นประนั่น

00:07:54.136 --> 00:07:57.660
และเมื่อใช้เข็ม เรากระตุ้นจนถึงระดับการป้องกัน
ได้เพียงจุดเดียวเท่านั้น

00:07:57.660 --> 00:08:00.869
ด้วยปริมาณยาสูงถึง 6000 นาโนกรัม

00:08:00.869 --> 00:08:03.402
แต่ลองสังเกตความแตกต่างที่ชัดเจน

00:08:03.402 --> 00:08:06.466
จากเส้นสีฟ้า

00:08:06.466 --> 00:08:08.366
นั่นเป็นสิ่งที่เราได้จากการใช้นาโนแพทช์

00:08:08.366 --> 00:08:10.103
ปริมาณยาที่ใช้สำหรับนาโนแพทช์นั้น

00:08:10.103 --> 00:08:13.464
ให้ข้อมูลทางการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
ที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง

00:08:13.464 --> 00:08:15.297
นี่เป็นเหมือนโอกาสทอง

00:08:15.297 --> 00:08:17.675
อยู่ดีๆ เราก็ได้คานงัดใหม่เอี่ยม

00:08:17.675 --> 00:08:19.203
ในโลกแห่งวัคซีน

00:08:19.203 --> 00:08:20.714
เราผลักมันไปทางหนึ่ง

00:08:20.714 --> 00:08:23.305
เราก็จะใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ
และให้การป้องกันได้

00:08:23.305 --> 00:08:24.964
แต่ราคาแพง

00:08:24.964 --> 00:08:27.788
ด้วยปริมาณยาที่น้อยกว่าการใช้เข็ม 100 เท่า

00:08:27.788 --> 00:08:31.839
นั่นจะทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับวัคซีนลดจาก 10 ดอลล่าร์ 
เป็น 10 เซนต์ทันที

00:08:31.839 --> 00:08:35.019
และนั่นก็สำคัญอย่างมากต่อประเทศกำลังพัฒนา

NOTE Paragraph

00:08:35.019 --> 00:08:36.886
แต่อีกมุมมองหนึ่งสำหรับสิ่งนี้คือ

00:08:36.886 --> 00:08:39.938
เราสามารถจะนำวัคซีนซึ่งตอนนี้ยังไร้ประสิทธิภาพ

00:08:39.938 --> 00:08:41.134
แล้วทำให้มันเลยเส้นนั้นขึ้นไป

00:08:41.134 --> 00:08:43.092
และทำให้พวกมันมีคุณสมบัติในการปกป้อง

00:08:43.092 --> 00:08:45.320
และแน่ล่ะครับ ในโลกของวัคซีน

00:08:45.320 --> 00:08:46.540
นั่นมันก็สำคัญ

00:08:46.540 --> 00:08:48.038
ลองคิดดูถึงโรคร้ายทั้งสาม

00:08:48.038 --> 00:08:50.735
เอชไอวี มาลาเรีย วัณโรค

00:08:50.735 --> 00:08:53.327
พวกมันคร่าประมาณ 7 ล้านชีวิตต่อปี

00:08:53.327 --> 00:08:56.534
และไม่มีวัคซีนไหนที่ได้ผลกับพวกมัน

00:08:56.534 --> 00:08:59.066
ดังนั้น ด้วยคานงัดใหม่ที่เราได้จากนาโนแพทช์

00:08:59.066 --> 00:09:00.901
เราน่าจะช่วยให้มันเกิดขึ้นได้

00:09:00.901 --> 00:09:05.771
เราสามารถที่จะกดคานนั้นให้ช่วยยกว่าที่วัคซีนเหล่านี้
ให้พ้นเส้นกำกับ

00:09:05.771 --> 00:09:07.589
และแน่นอนครับ พวกเราได้ทำวิจัยในห้องทดลอง

00:09:07.589 --> 00:09:09.379
กับวัคซีนต่างๆ ก็เห็นผลลัพธ์คล้ายๆ กัน

00:09:09.379 --> 00:09:12.197
ได้กราฟคล้ายๆ กันนี้

00:09:12.197 --> 00:09:15.962
กับที่เราทดสอบกับวัคซีนโรคหวัด

NOTE Paragraph

00:09:15.962 --> 00:09:18.121
ผมอยากจะเปลี่ยนมาพูดถึง

00:09:18.121 --> 00:09:21.453
ข้อด้อยอีกอย่างของวัคซีนในปัจจุบัน

00:09:21.453 --> 00:09:24.873
และนั่นก็คือ ความจำเป็นของระบบให้ความเย็น

00:09:24.873 --> 00:09:27.547
อย่างชื่อของมันเลยครับ ระบบให้ความเย็น

00:09:27.547 --> 00:09:30.487
มันจำเป็นที่วัคซีนจะต้องอยู่ในสภาพที่เหมาะสม
ตั้งแต่การผลิต

00:09:30.487 --> 00:09:33.163
ตลอดไปจนถึงตอนนำไปใช้

00:09:33.163 --> 00:09:36.261
มันต้องถูกแช่เย็น

00:09:36.261 --> 00:09:39.507
ครับ นั่นเป็นอุปสรรค์ในการขนส่งที่ท้าทาย

00:09:39.507 --> 00:09:42.497
แต่เรามีวีธีการครับ

00:09:42.497 --> 00:09:47.033
นี่ค่อนข้างจะสุดโต่งทีเดียว

00:09:47.033 --> 00:09:49.516
แต่มันช่วยให้คุณจินตนาการออก

00:09:49.516 --> 00:09:51.906
โดยเฉพาะในที่ซึ่งยากแก่การเข้าถึง

00:09:51.906 --> 00:09:55.192
เครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็น

00:09:55.192 --> 00:09:56.910
ต่อการแช่เย็นวัคซีน

00:09:56.910 --> 00:10:00.724
ถ้าวัคซีนอุ่นเกินไป วัคซีนก็จะเสื่อมสภาพ

00:10:00.724 --> 00:10:02.931
แต่น่าสนใจครับ ถ้ามันเย็นเกินไป

00:10:02.931 --> 00:10:05.492
วัคซีนก็เสื่อมสภาพได้เหมือนกัน

NOTE Paragraph

00:10:05.492 --> 00:10:08.874
เอาล่ะ เดิมพันเราสูงมากครับ

00:10:08.874 --> 00:10:11.409
องค์อนามัยโลกคาดว่าในทวีปแอฟริกา

00:10:11.409 --> 00:10:14.060
ประเมินว่า กว่าครึ่งของวัคซีนที่ใช้

00:10:14.060 --> 00:10:15.913
มีประสิทธิภาพไม่สมบูรณ์

00:10:15.913 --> 00:10:18.903
เพราะว่า ในบางช่วงระบบแช่เย็นเสีย

00:10:18.903 --> 00:10:21.469
ดังนั้นมันจึงเป็นปัญหาใหญ่ 
และมันก็เกี่ยวข้องกับเข็มและหลอดฉีดยา

00:10:21.469 --> 00:10:26.702
เพราะว่ามันเป็นวัคซีนในรูปของเหลว
และเมื่อมันเป็นของเหลว มันก็ต้องแช่เย็น

NOTE Paragraph

00:10:26.702 --> 00:10:29.213
คุณสมบัติสำคัญของนาโนแพทช์ ก็คือ

00:10:29.213 --> 00:10:31.186
วัคซีนนั้นแห้ง

00:10:31.186 --> 00:10:33.975
และเมื่อมันแห้ง มันก็ไม่ต้องแช่เย็น

00:10:33.975 --> 00:10:36.387
ที่ห้องทดลองของผม เราได้แสดงให้เห็นว่า

00:10:36.387 --> 00:10:39.067
เราสามารถเก็บวัคซีนไว้ที่ 23 องศาเซลเซียส

00:10:39.067 --> 00:10:42.783
ได้นานกว่าหนึ่งปี โดยไม่เสียประสิทธิภาพเลย

00:10:42.783 --> 00:10:45.170
นั่นเป็นการพัฒนาที่สำคัญยิ่งครับ

00:10:45.170 --> 00:10:51.770
(เสียงปรบมือ)

00:10:51.770 --> 00:10:54.233
พวกเราดีใจ เหมือนกันครับ

00:10:54.233 --> 00:10:58.529
ที่เราได้พิสูจน์การทำงานของนาโนแพทช์

00:10:58.529 --> 00:11:01.192
อย่างถึ่ถ้วนในสภาพแวดล้อมของห้องทดลอง

00:11:01.192 --> 00:11:05.165
และในฐานะนักวิทยาศาสตร์ 
ผมชอบครับ และผมก็รักวิทยาศาสตร์

00:11:05.165 --> 00:11:07.673
อย่างไรก็ดี ในฐานะวิศวกร

00:11:07.673 --> 00:11:09.386
ในฐานะวิศวกรชีวการแพทย์

00:11:09.386 --> 00:11:11.589
และในฐานะคนคนหนึ่ง

00:11:11.589 --> 00:11:12.820
ผมคงจะไม่พอใจหรอกครับ

00:11:12.820 --> 00:11:15.513
จนกว่าเราจะได้นำมันออกไปใช้นอกห้องทดลอง

00:11:15.513 --> 00:11:17.944
และให้มันเข้าถึงคนจำนวนมาก

00:11:17.944 --> 00:11:21.480
โดยเฉพาะคนที่ต้องการมันมากที่สุด

NOTE Paragraph

00:11:21.480 --> 00:11:24.182
ดังนั้น เราได้เริ่มต้นการเดินทางนี้

00:11:24.182 --> 00:11:26.843
และเราได้เริ่มต้นการเดินทางนี้ในวิถึที่ต่างออกไป

00:11:26.843 --> 00:11:29.832
เราเริ่มต้นที่ปาปัว นิว กินี

NOTE Paragraph

00:11:29.832 --> 00:11:35.637
เอาล่ะ ปาปัว นิว กินี เป็นตัวอย่างของประเทศกำลังพัฒนา

00:11:35.637 --> 00:11:38.773
มันมีขนาดใหญ่พอๆ กับฝรั่งเศส

00:11:38.773 --> 00:11:41.608
แต่มีปัญหาจากอุปสรรค์สำคัญมากมาย

00:11:41.608 --> 00:11:45.676
ที่ปรากฏอยู่ในโลกของวัคซีนในปัจจุบัน

00:11:45.676 --> 00:11:47.289
มีเรื่องการขนส่ง

00:11:47.289 --> 00:11:51.647
ภายในประเทศนี้ มีตู้เย็นที่ใช้แช่วัคซีนเพียง 800 ตู้

00:11:51.647 --> 00:11:55.940
มีหลายตู้ที่เก่าแล้ว เช่นตู้นี้ในพอร์ต มอเรสบี
หลายๆ ตู้ก็กำลังจะพัง

00:11:55.940 --> 00:11:58.856
และอีกหลายตู้ก็ไม่ได้อยู่ทางเหนือ
พื้นที่ที่พวกมันเป็นที่ต้องการ

00:11:58.856 --> 00:12:00.319
นั่นคือความท้าทาย

00:12:00.319 --> 00:12:05.502
นอกจากนั้น ปาปัว นิว กินี ยังมีการเกิดโรคเอชพีวี
มากที่สุดในโลก

00:12:05.502 --> 00:12:09.733
ฮิวเมน พาปิโลมาไวรัส (human papillomavirus)
ปัจจัย [ที่ทำให้เกิดความเสี่ยง] โรคมะเร็งปากมดลูก

00:12:09.733 --> 00:12:12.434
ถึงกระนั้น วัคซีนก็ยังไม่แพร่หลาย

00:12:12.434 --> 00:12:14.348
เพราะว่ามันแพงเกินไป

00:12:14.348 --> 00:12:17.094
จากสองเหตุผลนั้น และคุณสมบัติของนาโนแพทช์

00:12:17.094 --> 00:12:19.709
พวกเราลงภาคสนามและนำนาโนแพทช์ไปทดสอบ

00:12:19.709 --> 00:12:22.160
ที่ปาปัว นิว กินี

00:12:22.160 --> 00:12:26.143
และเราจะติดตามผลนั้นในอีกไม่ช้า

NOTE Paragraph

00:12:26.143 --> 00:12:29.625
ครับ การทำงานแนวนี้มันไม่ง่ายเลย

00:12:29.625 --> 00:12:30.973
มันท้าทายครับ

00:12:30.973 --> 00:12:34.297
แต่ไม่มีสิ่งใดอื่นในโลกนี้ที่ผมควรจะทำ

00:12:34.297 --> 00:12:36.320
และเมื่อเรามองไปเบื้องหน้า

00:12:36.320 --> 00:12:40.062
ผมอยากจะแบ่งปันความคิดกับคุณ

00:12:40.062 --> 00:12:44.070
มันเป็นความคิดเกี่ยวกับอนาคต

00:12:44.070 --> 00:12:46.003
ที่ซึ่งอัตราการตาย 17 ล้านรายต่อปี

00:12:46.003 --> 00:12:48.347
จากโรคคิดต่อที่เรากำลังประสบในขณะนี้

00:12:48.347 --> 00:12:50.981
เป็นหมายเหตุทางประวัติศาสตร์

00:12:50.981 --> 00:12:53.077
และเป็นหมายเหตุทางประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จได้

00:12:53.077 --> 00:12:56.545
จากวัคซีนที่มีพัฒนาไปอย่างมาก

00:12:56.545 --> 00:12:58.828
ครับ ผมยืนอยู่ตรงนี้ในวันนี้ต่อหน้าพวกคุณ

00:12:58.828 --> 00:13:00.501
ในสถานที่กำเนิดของเข็มและหลอดฉีดยา

00:13:00.501 --> 00:13:03.298
อุปกรณ์ที่มีอายุ 160 ปี

00:13:03.298 --> 00:13:05.634
ผมนำเสนอวิธีการใหม่

00:13:05.634 --> 00:13:07.883
ที่อาจช่วยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้จริงๆ

00:13:07.883 --> 00:13:11.865
และมันก็คือ นาโนแพทช์ 
ซึ่งมีคุณสมบัติปลอดเข็ม ปลอดความเจ็บปวด

00:13:11.865 --> 00:13:16.296
ไม่ต้องพึ่งพาระบบให้ความเย็น 
และคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น

00:13:16.296 --> 00:13:18.249
ขอบคุณครับ

00:13:18.249 --> 00:13:21.417
(เสียงปรบมือ)