WEBVTT 00:00:00.516 --> 00:00:04.623 ฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับความทุกข์ที่ฉันเผชิญอยู่ 00:00:04.623 --> 00:00:07.127 และฉันเดาว่าพวกคุณจำนวนไม่น้อย 00:00:07.127 --> 00:00:09.047 ก็ทุกข์จากมันเช่นกัน 00:00:09.047 --> 00:00:11.144 เมื่อฉันเดินรอบห้องแสดงภาพ 00:00:11.144 --> 00:00:13.247 ห้องแล้วห้องเล่าที่เต็มไปด้วยภาพเขียน 00:00:13.247 --> 00:00:17.764 หลังจากประมาณ 15 หรือ 20 นาที 00:00:17.764 --> 00:00:19.655 ฉันก็ตระหนักว่าฉันไม่ได้คิดถึงภาพเขียนเหล่านั้น 00:00:19.655 --> 00:00:21.263 ฉันไม่เชื่อมโยงกับพวกมัน 00:00:21.263 --> 00:00:23.767 แต่ฉันกลับคิดถึง กาแฟสักถ้วย 00:00:23.767 --> 00:00:26.767 ฉันต้องการมันเพื่อปลุกตัวเองให้ตื่น 00:00:26.767 --> 00:00:29.951 ฉันกำลังทรมานกับอาการล้าจากห้องแสดงภาพ NOTE Paragraph 00:00:29.951 --> 00:00:32.327 มีกี่คนที่เป็นแบบนี้บ้าง 00:00:32.327 --> 00:00:34.332 ค่ะ ฮ่าๆ 00:00:34.332 --> 00:00:36.482 ในบางครั้งคุณอาจทนได้นาน 00:00:36.482 --> 00:00:38.576 กว่า 20 นาที หรืออาจจะสั้นกว่านั้น 00:00:38.576 --> 00:00:40.790 แต่ฉันคิดเราทุกคนก็เคยเผชิญกันมาแล้ว 00:00:40.790 --> 00:00:42.871 แล้วคุณรู้สึกผิดตามมาบ้างหรือเปล่า? 00:00:42.871 --> 00:00:45.858 สำหรับฉัน ฉันมองไปที่ภาพเขียนบนผนัง 00:00:45.858 --> 00:00:48.873 และคิดว่า มีบางคนตัดสินใจติดภาพไว้ตรงนั้น 00:00:48.873 --> 00:00:51.401 โดยคิดว่าพวกมันดีพอที่จะอยู่บนผนัง 00:00:51.401 --> 00:00:52.759 แต่ฉันก็ไม่ได้เห็นแบบนั้นเสมอไป 00:00:52.759 --> 00:00:55.423 ในความเป็นจริง ส่วนใหญ่ฉันก็ไม่เห็นแบบนั้น NOTE Paragraph 00:00:55.423 --> 00:00:59.197 แล้วฉันก็จากไป ด้วยความรู้สึกไม่เป็นสุข 00:00:59.197 --> 00:01:02.664 ฉันรู้สึกผิด และไม่มีความสุขกับตัวเอง 00:01:02.664 --> 00:01:04.727 แทนที่จะคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับภาพเขียน 00:01:04.727 --> 00:01:06.184 ฉันกลับคิดว่า มีบางอย่างผิดปกติกับตัวฉันเอง 00:01:06.184 --> 00:01:09.092 และมันก็ไม่ได้เป็นประสบการณ์ที่ดี ที่จากห้องแสดงภาพมา ด้วยความรู้สึกแบบนั้น NOTE Paragraph 00:01:09.092 --> 00:01:10.363 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:01:10.363 --> 00:01:12.672 ฉันคิดว่าเราควรหยุดพัก 00:01:12.672 --> 00:01:15.132 ถ้าคุณคิดจะเข้าร้านอาหาร 00:01:15.132 --> 00:01:18.819 เมื่อคุณดูเมนู 00:01:18.819 --> 00:01:21.002 คุณคิดจะสั่งทุกอย่างในเมนูหรือเปล่า 00:01:21.002 --> 00:01:22.884 ไม่! คุณเลือก 00:01:22.884 --> 00:01:26.059 ถ้าคุณไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเสื้อสักตัว 00:01:26.059 --> 00:01:29.036 คุณจะลองเสื้อทุกๆ ตัว 00:01:29.036 --> 00:01:30.364 และต้องการเสื้อทุกๆ ตัวไหม? 00:01:30.364 --> 00:01:34.491 ไม่อย่างแน่นอน คุณสามารถเลือกได้ มันควรต้องเป็นแบบนั้น 00:01:34.491 --> 00:01:37.112 แล้วทำไม เราถึงไม่ควร 00:01:37.112 --> 00:01:39.685 เลือกเวลาที่เราไปชมห้องแสดงงานศิลปะ? 00:01:39.685 --> 00:01:42.980 ทำไมเราต้องเชื่อมโยงได้กับทุกภาพ? NOTE Paragraph 00:01:42.980 --> 00:01:45.684 ทีนี้ ฉันพยายามที่จะใช้วิธีใหม่ 00:01:45.684 --> 00:01:47.302 โดยมีสองสิ่งที่ฉันทำ 00:01:47.302 --> 00:01:51.796 คือ เมื่อฉันไปห้องแสดงภาพตอนแรก ฉันจะเดินเร็วมาก 00:01:51.796 --> 00:01:56.031 มองดูทุกสิ่งทุกอย่าง และฉันจะเจาะจง 00:01:56.031 --> 00:01:59.085 เฉพาะภาพที่ทำให้ฉันเดินช้าลงด้วยเหตุผลใดก็ตาม 00:01:59.085 --> 00:02:01.886 แม้ฉันไม่รู้ว่าทำไมมันทำให้ฉันช้าลง 00:02:01.886 --> 00:02:03.943 แต่มันมีบางสิ่งที่ดึงฉันเหมือนกับแม่เหล็ก 00:02:03.943 --> 00:02:07.061 แล้วฉันจะไม่สนใจภาพอื่นๆ ที่เหลือ และจะตรงไปที่ภาพนั้น 00:02:07.061 --> 00:02:09.525 นี่เป็นสิ่งแรกที่ฉันทำ นั่นคือ ดำเนินการคัดสรรภาพเขียนด้วยตัวเอง 00:02:09.525 --> 00:02:12.821 ฉันเลือกภาพเขียน มันอาจเป็นเพียงแค่หนึ่งใน 50 ภาพ 00:02:12.821 --> 00:02:16.511 แล้ว สิ่งที่สองที่ฉันทำคือ ฉันจะยืนอยู่หน้าภาพวาดนั้น 00:02:16.511 --> 00:02:19.588 และฉันเล่าเรื่องราวของภาพนั้นให้กับตัวเอง NOTE Paragraph 00:02:19.588 --> 00:02:23.186 ทำไมต้องเป็นเรื่องราวน่ะเหรอ? ฉันคิดว่าพวกเราถูกโยงเข้าด้วยกัน 00:02:23.186 --> 00:02:27.077 ดีเอ็นเอของเราสั่งให้เราเล่าเรื่องต่างๆ 00:02:27.077 --> 00:02:29.446 เราเล่าเรื่องตลอดเวลา เกี่ยวกับทุกอย่าง 00:02:29.446 --> 00:02:34.557 และฉันว่า เราทำแบบนั้น เพราะโลกนี้มันดู วุ่นวาย อลหม่าน 00:02:34.557 --> 00:02:38.508 และบางที เรื่องราวที่เราพยายามเล่า เพื่อจะเข้าใจโลกให้มากขึ้นอีกนิด 00:02:38.508 --> 00:02:40.677 อาจจัดระเบียบให้กับมันได้บ้าง 00:02:40.677 --> 00:02:44.668 แล้วทำไมไม่ใช้แนวคิดนี้กับตอนที่เราดูภาพเขียนบ้างล่ะ? 00:02:44.668 --> 00:02:48.383 ดังนั้น ทีนี้ฉันมีวิธีคล้ายๆ กับการดูเมนูในร้านอาหาร 00:02:48.383 --> 00:02:51.606 เมื่อเข้าชมห้องแสดงภาพศิลปะ NOTE Paragraph 00:02:51.606 --> 00:02:54.814 มีภาพอยู่สามภาพที่ฉันจะให้คุณดู 00:02:54.814 --> 00:02:57.878 ภาพเหล่านี้ทำให้ฉันหยุดเดินต่อ 00:02:57.878 --> 00:03:00.424 และอยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับมัน 00:03:00.424 --> 00:03:03.975 ภาพแรกแทบจะไม่ต้องแนะนำอะไรมาก -- 00:03:03.975 --> 00:03:07.006 "เด็กสาวกับต่างหูมุก" โดยโยฮันเนส เวอร์เมียร์ 00:03:07.006 --> 00:03:09.162 จิตรกรดัตช์ มีชีวิตอยู่ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 00:03:09.162 --> 00:03:11.662 นี่คือจิตรกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุด 00:03:11.662 --> 00:03:13.806 ฉันเห็นมันครั้งแรกเมื่ออายุ 19 ปี 00:03:13.806 --> 00:03:16.086 และฉันออกไปหาซื้อโปสเตอร์มาเก็บไว้แทบจะในทันที 00:03:16.086 --> 00:03:20.243 และที่จริงแล้วฉันยังเก็บโปสเตอร์นั้นไว้ 30 ปีให้หลัง และมันยังแขวนอยู่ในบ้านฉัน 00:03:20.243 --> 00:03:23.393 มันไปกับฉันในทุกๆ ที่ ที่ฉันไป 00:03:23.393 --> 00:03:25.737 ฉันไม่เคยเบื่อที่จะมองดูเธอ NOTE Paragraph 00:03:25.737 --> 00:03:29.516 เริ่มจากสิ่งที่ทำให้ฉันต้องหยุดชะงักเกี่ยวกับเธอ ในตอนแรก 00:03:29.516 --> 00:03:32.073 เป็นเพียงสีอันสวยสดที่เขาใช้ 00:03:32.073 --> 00:03:34.017 และแสงที่ตกกระทบบนใบหน้าของเธอ 00:03:34.017 --> 00:03:36.801 แต่สิ่งที่ทำให้ฉันต้องกลับมาคิดถึงมัน 00:03:36.801 --> 00:03:39.857 ปีแล้วปีเล่า กลับเป็นอีกสิ่งหนึ่ง 00:03:39.857 --> 00:03:43.551 นั่นก็คือสีหน้าของเธอ สีหน้าที่แสดงความขัดแย้ง 00:03:43.551 --> 00:03:45.969 ฉันไม่สามารถบอกว่า เธอมีความสุข หรือ เศร้า 00:03:45.969 --> 00:03:48.936 และฉันเปลี่ยนใจตลอดเวลา 00:03:48.936 --> 00:03:52.535 นั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันต้องคอยกลับมาดูมัน NOTE Paragraph 00:03:52.535 --> 00:03:56.544 วันหนึ่ง 16 ปีหลังจากฉันมีโปสเตอร์แผ่นนี้ติดอยู่บนผนัง 00:03:56.544 --> 00:03:59.226 ฉันนอนบนเตียงและจ้องมองดูเธอ 00:03:59.226 --> 00:04:01.805 และฉันก็พลันคิด ฉันสงสัย 00:04:01.805 --> 00:04:05.723 ว่าจิตรกรได้ทำอะไรกับเธอ ทำให้เธอมีสีหน้าเป็นเช่นนั้น 00:04:05.723 --> 00:04:08.667 และมันเป็นครั้งแรกที่ฉันคิดว่า 00:04:08.667 --> 00:04:11.467 การแสดงออกบนใบหน้าของเธอ อันที่จริงแล้วสะท้อนให้เห็น 00:04:11.467 --> 00:04:13.606 ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา 00:04:13.606 --> 00:04:16.762 แต่ก่อนนั้น ฉันได้แต่คิดว่ามันเป็นแค่ภาพวาดของเด็กผู้หญิง 00:04:16.762 --> 00:04:21.531 ตอนนี้ ฉันเริ่มคิดว่า มันภาพวาดของความสัมพันธ์ 00:04:21.531 --> 00:04:24.363 และฉันคิดว่า แล้วมันเป็นความสัมพันธ์อะไรเล่า? NOTE Paragraph 00:04:24.363 --> 00:04:27.571 ดังนั้น ฉันจึงเริ่มหาข้อมูล และค้นพบ 00:04:27.571 --> 00:04:29.896 ว่าเราไม่รู้เลยว่าเธอเป็นใคร 00:04:29.896 --> 00:04:32.243 ที่จริงแล้ว เราไม่รู้เลยว่าเหล่านางแบบ 00:04:32.243 --> 00:04:34.603 ในภาพเขียนของเวอร์เมียร์นั้นเป็นใคร 00:04:34.603 --> 00:04:36.730 และเรารู้น้อยมากเกี่ยวกับตัวของ เวอร์เมียร์ 00:04:36.730 --> 00:04:39.504 ซึ่งทำให้ฉันร้อง ยิ้ปปี้! 00:04:39.504 --> 00:04:44.163 ฉันสามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการ ฉันสามารถสร้างเรื่องอย่างไรก็ได้อย่างที่ฉันต้องการ NOTE Paragraph 00:04:44.163 --> 00:04:46.759 ดังนั้น นี่คือเรื่องที่ฉันแต่งขึ้นเอง 00:04:46.759 --> 00:04:48.636 ในตอนแรก ฉันคิดว่า 00:04:48.636 --> 00:04:50.728 ฉันต้องเอาเธอมาไว้ในบ้านให้ได้ก่อน 00:04:50.728 --> 00:04:53.216 เวอร์เมียร์รู้จักเธอได้อย่างไร? 00:04:53.216 --> 00:04:54.760 คือ มันมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า 00:04:54.760 --> 00:04:59.183 เธอเป็นลูกสาววัย 12 ปีของเขา 00:04:59.183 --> 00:05:01.408 ลูกสาวซึ่งในเวลานั้นอายุ 12 เมื่เขาวาดภาพภาพนั้น 00:05:01.408 --> 00:05:04.104 แล้วฉันก็คิดต่อว่า ไม่ สายตาที่เธอมองนั้นดูใกล้ชิดกันมาก 00:05:04.104 --> 00:05:06.288 แต่ไม่ใช่ในลักษณะที่ลูกสาวจะมองพ่อของเธอ 00:05:06.288 --> 00:05:08.128 มีอยู่สิ่งหนึ่ง ในจิตรกรรมดัตช์ในช่วงเวลานั้น 00:05:08.128 --> 00:05:11.720 นั่นคือถ้าปากของหญิงสาวเผยอ มันจะบ่งชี้ความพร้อมทางเพศของเธอ 00:05:11.720 --> 00:05:13.608 มันก็คงไม่เหมาะสมสำหรับเวอร์เมียร์ 00:05:13.608 --> 00:05:15.504 ที่จะวาดภาพลูกสาวของเขาแบบนั้น NOTE Paragraph 00:05:15.504 --> 00:05:17.384 ดังนั้นหล่อนไม่ใช่ลูกสาวของเขา แต่เป็นใครบางคน 00:05:17.384 --> 00:05:19.634 ที่ใกล้ชิดกับเขา ใกล้ชิดในทางกายภาพ 00:05:19.634 --> 00:05:21.898 แล้วใครอีก ที่จะอยู่ในบ้านได้? 00:05:21.898 --> 00:05:25.281 คนรับใช้ คนรับใช้ที่น่ารัก 00:05:25.281 --> 00:05:26.842 เอาล่ะ เธออยู่ในบ้านแล้ว 00:05:26.842 --> 00:05:29.503 แล้วเราจะเอาเธอไปอยู่ในสตูดิโอได้อย่างไร 00:05:29.503 --> 00:05:31.637 เราไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับเวอร์เมียร์ 00:05:31.637 --> 00:05:33.776 แต่สิ่งเล็กๆที่เรารู้แน่ๆ สิ่งหนึ่งที่เรารู้ 00:05:33.776 --> 00:05:36.767 คือ เขาแต่งงานหญิงคาทอลิก พวกเขาอาศัยกับมารดาของเธอ 00:05:36.767 --> 00:05:39.040 ในบ้านที่เขามีห้องของเขาเอง 00:05:39.040 --> 00:05:43.323 ที่ซึ่งเขามีสตูดิโอของตัวเอง นอกจากนี้เขายังมีลูกอีก 11 คน 00:05:43.323 --> 00:05:46.400 มันคงจะเป็นบ้านที่วุ่ยวายและเสียงดัง 00:05:46.400 --> 00:05:49.344 แต่ถ้าคุณได้เห็นภาพของเวอร์เมียร์มาก่อน 00:05:49.344 --> 00:05:53.208 คุณจะรู้ว่า มันกลับดูเงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ NOTE Paragraph 00:05:53.208 --> 00:05:57.104 จิตรกรจะระบายสีภาพเขียนที่ดูเงียบสงบแบบนั้น ในขณะที่มีเด็ก 11 คนอยู่ในบ้านได้อย่างไร? 00:05:57.104 --> 00:05:59.400 เขาคงต้องแบ่งชีวิต 00:05:59.400 --> 00:06:03.080 เขาเข้าไปในสตูดิโอแล้วบอกทุกคนว่า "ห้ามใครเข้ามาเป็นอันขาด 00:06:03.080 --> 00:06:07.808 ห้ามภรรยา ห้ามเด็กๆ แต่เอาล่ะ ให้แม่บ้านสามารถเข้ามาทำความสะอาดได้" 00:06:07.808 --> 00:06:14.859 เธออยู่สตูดิโอ เขาพาเธอเข้ามในสตูดิโอ พวกเขาอยู่ด้วยกัน 00:06:14.859 --> 00:06:16.939 และเขาตัดสินใจจะวาดภาพของเธอ NOTE Paragraph 00:06:16.939 --> 00:06:19.207 เขาให้เธอสวมเสื้อผ้าธรรมดา 00:06:19.207 --> 00:06:22.578 ผู้หญิงทั้งหมด หรือผู้หญิงส่วนใหญ่ ในภาพอื่นๆ ของเวอร์เมียร์ 00:06:22.578 --> 00:06:28.544 สวมผ้ากำมะหยี ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ซึ่งเป็นวัสดุที่หรูหรามาก 00:06:28.544 --> 00:06:31.064 แต่นี่เป็นเสื้อผ้าธรรมดามาก สิ่งเดียวที่ไม่ธรรมดา 00:06:31.064 --> 00:06:33.104 คือต่างหูมุกของเธอ 00:06:33.104 --> 00:06:36.551 ทีนี้ ถ้าเธอเป็นคนใช้ มันไม่มีทางที่เธอจะซื้อ 00:06:36.551 --> 00:06:38.758 ต่างหูมุกแม้แต่เพียงคู่เดียว 00:06:38.758 --> 00:06:42.020 ดังนั้น มันต้องไม่ใช่ต่างหูมุกของหล่อน แล้วมันเป็นของใครเล่า? 00:06:42.020 --> 00:06:47.061 เราบังเอิญรู้ว่า มันมีรายการเสื้อผ้า ของแคธารินาผู้เป็นภรรยา 00:06:47.061 --> 00:06:50.677 ในรายการนั้น มีเสื้อโค้ทสีเหลืองประดับด้วยขนสัตว์สีขาว 00:06:50.677 --> 00:06:52.424 เสื้อรัดอกสีเหลืองและดำ 00:06:52.424 --> 00:06:56.118 และคุณเห็นเสื้อผ้าเหล่านั้นในภาพเขียนอื่น ๆ มากมาย 00:06:56.118 --> 00:06:59.232 หญิงหลายคนในภาพเขียนของเวอร์เมียร์ 00:06:59.232 --> 00:07:03.710 ดังนั้น มันชัดเจนว่า เสื้อผ้าของภรรยา ถูกยืมไปให้ผู้หญิงหลายคนใส่ 00:07:03.710 --> 00:07:06.229 มันก็คงไม่ใช่ยากเย็นที่จะเดา 00:07:06.229 --> 00:07:09.813 ว่าต่างหูมุก แท้จริงแล้วเป็นของภรรยาของเขา NOTE Paragraph 00:07:09.813 --> 00:07:12.990 ดังนั้น เราได้องค์ประกอบทั้งหมดสำหรับเรื่องราวของเราแล้ว 00:07:12.990 --> 00:07:15.420 เธออยู่ในสตูดิโอกับเขาเป็นเวลานาน 00:07:15.420 --> 00:07:17.463 ภาพวาดเหล่านี้ใช้เวลานานกว่าจะวาดขึ้นมาได้ 00:07:17.463 --> 00:07:20.334 พวกเขาคงต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันลำพัง ตลอดเวลา 00:07:20.334 --> 00:07:22.334 เธอสวมใส่ต่างหูมุกของภรรยาของเขา 00:07:22.334 --> 00:07:25.149 เธอสวย เธอรักเขาอย่างเห็นได้ชัด เธอเกิดความขัดแย้งขึ้นในใจ 00:07:25.149 --> 00:07:27.941 แล้วภรรยาเขารู้หรือเปล่า? บางทีอาจจะไม่ 00:07:27.941 --> 00:07:31.319 และถ้าเธอไม่รู้ ก็-- 00:07:31.319 --> 00:07:33.174 นั่นคือ เรื่องราว NOTE Paragraph 00:07:33.174 --> 00:07:35.351 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:07:35.351 --> 00:07:37.941 ภาพวาดถัดไปที่ฉันจะพูดถึง 00:07:37.941 --> 00:07:41.188 มีชื่อว่า "เด็กชายผู้สร้างบ้านจากไพ่" โดย ชาร์แด็ง 00:07:41.188 --> 00:07:45.564 เขาเป็นจิตรกรฝรั่งเศสในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 มีชื่อเสียงในด้านภาพหุ่นนิ่ง 00:07:45.564 --> 00:07:48.157 แต่บางครั้งเขาก็วาดภาพคน 00:07:48.157 --> 00:07:52.124 อันที่จริงแล้ว เขาวาดภาพนี้ไว้ 4 เวอร์ชัน 00:07:52.124 --> 00:07:56.084 เด็กชายคนละคน กำลังสร้างบ้านจากไพ่ ทุกคนกำลังตั้งใจ 00:07:56.084 --> 00:07:59.548 ฉันชอบเวอร์ชันนี้มากที่สุด เพราะเด็กบางคน 00:07:59.548 --> 00:08:02.941 แก่เกินไป และบางคนก็เด็กไป สำหรับฉัน แล้วเด็กคนนี้ 00:08:02.941 --> 00:08:05.893 เปรียบดังข้าวต้มในนิทานหนูน้อยโกลดี้ล็อกคส์ คือ กำลังพอดี NOTE Paragraph 00:08:05.893 --> 00:08:09.884 เขาไม่ดูเป็นเด็ก และยังไม่เป็นหนุ่มนัก 00:08:09.884 --> 00:08:14.677 เขาคือสมดุลที่แท้จริงระหว่างความไร้เดียงสา และประสบการณ์ 00:08:14.677 --> 00:08:19.160 และนั่น ทำให้ฉันหยุดเดิน ต่อหน้าภาพๆนี้ 00:08:19.160 --> 00:08:22.877 และฉันดูที่ใบหน้าเขา มันเหมือนกับภาพของเวอร์เมียร์อยู่เล็กน้อย 00:08:22.877 --> 00:08:25.500 แสงมาในจากด้านซ้าย ใบหน้าของเขาถูกอาบ 00:08:25.500 --> 00:08:27.724 ไปด้วยแสงที่เรืองรองนี้ มันอยู่ตรงกลางภาพวาดพอดี 00:08:27.724 --> 00:08:30.736 และเมื่อคนมองดูมัน ฉันพบว่าเมื่อฉันกำลังมองดูมัน 00:08:30.736 --> 00:08:31.943 ฉันยืนอยู่และคิดในใจว่า 00:08:31.943 --> 00:08:34.896 "มองฉันสิ ได้โปรดมองดูฉัน" 00:08:34.896 --> 00:08:37.632 แต่เขาก็ไม่ได้มองมาที่ฉัน เขายังคงดูที่ไพ่ของเขา 00:08:37.632 --> 00:08:40.384 และมีสิ่งหนึ่งที่น่าดึงดูดเกี่ยวกับภาพนี้ 00:08:40.384 --> 00:08:44.874 เขาจดจ่อกับสิ่งที่เขาทำอยู่มาก จนไม่มองมาที่เรา 00:08:44.874 --> 00:08:48.767 และสำหรับฉันแล้ว นั่นคือสัญลักษณ์ของงานชิ้นเอก 00:08:48.767 --> 00:08:52.744 ของภาพวาดตรงที่คำอธิษฐานจะไม่เป็นจริง 00:08:52.744 --> 00:08:54.265 เขาจะไม่มีทางมองมาที่ฉัน NOTE Paragraph 00:08:54.265 --> 00:08:55.944 ดังนั้น ฉันจึงคิดขึ้นมาเรื่องหนึ่งว่า 00:08:55.944 --> 00:08:59.160 หากฉันยืนอยู่ตำแหน่งนี้ จะมีใครบ้างที่กำลังมองเขาอยู่ 00:08:59.160 --> 00:09:01.362 ไม่ใช่จิตรกรแน่ ฉันไม่อยากคิดว่าเป็นคนวาด 00:09:01.362 --> 00:09:03.888 ฉันคิดถึงตัวเขาเองในตอนแก่ 00:09:03.888 --> 00:09:09.833 เขาเป็นชายหนุ่ม เป็นคนรับใช้ มีคนรับใช้ที่แก่กว่า ที่กำลังมองดูคนรับใช้หนุ่ม 00:09:09.833 --> 00:09:12.304 แล้วพูดว่า "มองฉันสิ ฉันจะเตือนแกให้รู้ว่า 00:09:12.304 --> 00:09:14.754 แกกำลังจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ได้โปรดมองที่ฉัน" 00:09:14.754 --> 00:09:16.280 แต่เขาไม่เคยทำตาม NOTE Paragraph 00:09:16.280 --> 00:09:20.083 และเมื่อขาดความแน่ชัด ลึกซึ้งในเรื่องราว ดั่งภาพ "หญิงสาวกับต่างหูมุก" 00:09:20.083 --> 00:09:22.127 เราจึงไม่รู้ว่า เธอมีสุข หรือเศร้า 00:09:22.127 --> 00:09:23.776 ฉันเขียนเรื่องของเธอหนาเท่าหนังสือนิยาย 00:09:23.776 --> 00:09:25.776 แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเธอสุข หรือเศร้า 00:09:25.776 --> 00:09:27.880 ครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันกลับมาพิจาณาภาพนั้น 00:09:27.880 --> 00:09:32.561 มองหาคำตอบ ค้นหาเรื่องราวเพื่อเติมเต็มช่องว่าง 00:09:32.561 --> 00:09:36.008 และเราอาจสร้างเรื่องราว และมันช่วยทำให้เราพอใจได้ครู่หนึ่ง 00:09:36.008 --> 00:09:41.823 แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ และเราต้องกลับมาพิจารณามัน ครั้งแล้วครั้งเล่า NOTE Paragraph 00:09:41.823 --> 00:09:44.361 ภาพวาดสุดท้ายที่ฉันจะพูดถึง 00:09:44.361 --> 00:09:49.225 ชื่อว่า "นิรนาม" โดยจิตรกรนิรนาม (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:09:49.225 --> 00:09:52.276 นี่เป็นภาพวาดแนวทิวดอร์ที่ซื้อ โดยห้องแสดงภาพภาพเหมือนแห่งชาติ 00:09:52.276 --> 00:09:54.889 พวกเขาคิดว่ามันเป็นภาพของชายชื่อ เซอร์ โทมัส โอเวอร์บิวรี่ 00:09:54.889 --> 00:09:57.553 แต่แล้วพวกเขาพบว่านั่นไม่ใช่ภาพเขา 00:09:57.553 --> 00:09:59.153 และพวกเขาไม่รู้ว่าเป็นภาพใคร NOTE Paragraph 00:09:59.153 --> 00:10:01.296 ที่ห้องแสดงภาพภาพเหมือนแห่งชาติ 00:10:01.296 --> 00:10:03.065 ถ้าคุณไม่ทราบชีวประวัติของจิตรกรรม 00:10:03.065 --> 00:10:04.689 ภาพนั้นก็ไร้ประโยชน์กับคุณ 00:10:04.689 --> 00:10:07.113 พวกเขาไม่สามารถแขวนมันบนผนัง เพราะไม่รู้ว่า ชายคนดังกล่าวคือใคร 00:10:07.113 --> 00:10:12.017 กรรมของภาพเหล่านี้ เมื่อหาที่มาไม่ได้ ก็ต้องลงเอยในห้องเก็บของ 00:10:12.017 --> 00:10:14.161 เหมือนๆกับภาพไร้ที่มา อีกมากมาย 00:10:14.161 --> 00:10:16.672 หลายภาพถือเป็นจิตรกรรมที่งดงาม NOTE Paragraph 00:10:16.672 --> 00:10:21.675 จิตรกรรมเหล่านี้ ทำให้ฉันหยุดเดินต่อ ด้วยเหตุผลสามประการ: 00:10:21.675 --> 00:10:24.552 หนึ่งคือ การไม่ต่อเนื่องระหว่างปากของเขา 00:10:24.552 --> 00:10:27.257 ซึ่งกำลังยิ้ม และดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด 00:10:27.257 --> 00:10:30.264 เขาไม่มีความสุข แล้วทำไมเขาถึงไม่มีความสุขล่ะ? 00:10:30.264 --> 00:10:33.981 สิ่งที่สอง ที่ดึงดูดฉัน 00:10:33.981 --> 00:10:35.697 คือแก้มที่แดงสดใสของเขา 00:10:35.697 --> 00:10:39.304 เขากำลังสะท้าน เขินอาย ที่เห็นการวาดภาพเหมือนของตน 00:10:39.304 --> 00:10:42.338 เขาต้องเป็นคนที่ขวยเขินตลาดเวลา 00:10:42.338 --> 00:10:44.480 เขาคิดอะไรอยู่นะ จนทำให้เขาหน้าแดง 00:10:44.480 --> 00:10:48.256 สิ่งที่สาม ที่ทำให้ฉันหยุดเดินต่อ 00:10:48.256 --> 00:10:51.056 คือ เสื้อตัวนอกอันงดงามของเขา 00:10:51.056 --> 00:10:54.624 ผ้าไหมสีเทา และกระดุมสวยงามเหล่านั้น 00:10:54.624 --> 00:10:56.256 และคุณรู้มั๊ย มันทำให้ฉันนึกถึงว่า 00:10:56.256 --> 00:11:01.048 ใส่แล้วมันต้องพอดีตัว และ ดูพอง เหมือนผ้านวมคลุมเตียง NOTE Paragraph 00:11:01.048 --> 00:11:03.704 ฉันหมกมุ่นคิดถึงเตียง และ แก้มอันแดงเรื่อ 00:11:03.704 --> 00:11:06.464 แน่นอน มันทำให้ฉันอดคิดถึงเรื่องเพศไม่ได้ ตอนที่มองเขา 00:11:06.464 --> 00:11:09.072 ฉันฉุกคิดว่า แล้วเขากำลังคิดแบบนี้ด้วยหรือเปล่านะ 00:11:09.072 --> 00:11:11.344 และฉันคิดต่อว่า ถ้าฉันจะแต่งซักเรื่อง 00:11:11.344 --> 00:11:13.328 อะไรคือสิ่งสุดท้ายที่ฉันเขียนลงไป 00:11:13.328 --> 00:11:16.958 อืม สุภาพบุรุษทิวดอร์นายนี้หมกมุ่นกับเรื่องอะไรอยู่นะ 00:11:16.958 --> 00:11:18.888 ฉันระลึกถึง พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ใช่เลย 00:11:18.888 --> 00:11:23.032 เขาคงจะสาละวนกับการสืบทอดทายาทของเขา 00:11:23.032 --> 00:11:26.681 ใครจะสืบทอดชื่อของเขาและมรดกของเขา 00:11:26.681 --> 00:11:30.561 คุณจับเรืองเหล่านี้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน นั่นจะเป็นพล็อตเรื่องของตุณ 00:11:30.561 --> 00:11:33.915 เพื่อตอบคุณทุกคำถาม ที่เคยทำให้คุณ ต้องแวะกลับมาเรื่อยๆ 00:11:33.915 --> 00:11:38.636 ทีนี้ ลองฟังเรื่องนี้ 00:11:38.636 --> 00:11:41.566 มันชื่อสั้นๆ ว่า NOTE Paragraph 00:11:41.566 --> 00:11:44.297 "โรซี่" NOTE Paragraph 00:11:44.297 --> 00:11:48.347 ผมยังคงสวมเสื้อปักสีขาวที่แคโรไลน์เคยให้ผมไว้ 00:11:48.347 --> 00:11:52.658 มันเป็นแบบคอสูงธรรมดา ถอดแขนได้ 00:11:52.658 --> 00:11:55.834 และกระดุมอันประณีตของทำจากไหมบิดเป็นปม 00:11:55.834 --> 00:11:58.760 กระดุมวางถี่เพื่อให้รัดตัวพอดีเวลาสวม 00:11:58.760 --> 00:12:02.323 เสื้อตัวนี้ทำให้ผมคิดถึงผ้าคลุมเตียงหลังใหญ่ 00:12:02.323 --> 00:12:06.073 บางทีนั่นอาจจะเป็นความตั้งใจ 00:12:06.073 --> 00:12:10.991 ผมสวมมันครั้งแรกเพื่อร่วมมื้อเย็นอันบรรจง ซึ่งพ่อแม่ของเธอจัดให้เพื่อเป็นเกียรติแก่เรา 00:12:10.991 --> 00:12:12.817 ผมรู้ว่า ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นพูด 00:12:12.817 --> 00:12:15.386 แก้มทั้งสองข้างของผม ก็แดงเรื่อแล้ว 00:12:15.386 --> 00:12:19.087 ผมแก้มแดงง่าย จากสิ่งเร้าภายนอก 00:12:19.087 --> 00:12:21.442 จากไวน์ จากอารมณ์ระทึก NOTE Paragraph 00:12:21.442 --> 00:12:25.907 ตอนเด็กๆ ผมถูกพี่สาว น้องสาว และ เพื่อนที่โรงเรียนล้อ 00:12:25.907 --> 00:12:28.354 แต่ จอร์จ ไม่เคยล้อผม 00:12:28.354 --> 00:12:31.428 ผมยอมให้จอร์จเท่านั้น เรียกผมว่า โรซี่ ได้ 00:12:31.428 --> 00:12:33.587 แต่คนอื่น ผมไม่ยอม 00:12:33.587 --> 00:12:37.811 เขามีวิธีพูดอันนุ่มนวล 00:12:37.811 --> 00:12:40.610 เมื่อผมประกาศออกไป หน้าของจอร์จ 00:12:40.610 --> 00:12:43.674 ไม่แดงระเรื่อ แต่กลับซีดเหมือนสีเสื้อของผม 00:12:43.674 --> 00:12:45.578 เขาไม่น่ารู้สึกประหลาดใจนะ 00:12:45.578 --> 00:12:47.250 มันเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว 00:12:47.250 --> 00:12:51.098 ว่า วันหนึ่งผมต้องแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเขา 00:12:51.098 --> 00:12:53.682 แต่มันคงยากที่จะได้ยิน เรื่องนี้ถูกพูดออกมาดังๆ 00:12:53.682 --> 00:12:56.983 ผมรู้ ผมเองก็แทบจะเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ NOTE Paragraph 00:12:56.983 --> 00:13:01.385 หลังจากนั้น ผมพบจอร์จที่ระเบียง เขากำลังเลบไปที่สวนหลังครัว 00:13:01.385 --> 00:13:06.642 แม้ว่าเขาจะดื่มตลอดทั้งบ่าย เขายังคงดูซีด 00:13:06.642 --> 00:13:10.867 เรายืนอยู่ด้วยกัน และมองเหล่าสาวใช้ตัดผักกาดหอม 00:13:10.867 --> 00:13:13.129 "เสื้อผมสวยมั๊ย" ผมถาม NOTE Paragraph 00:13:13.129 --> 00:13:18.573 เขาเหลือบมาที่ผม "คอเสื้อนั่นดูจะรัดคอคุณแน่นไปนะ" NOTE Paragraph 00:13:18.573 --> 00:13:20.577 "เราจะยังเจอกันอีก นะ" ผมเสนอ 00:13:20.577 --> 00:13:23.865 "เรายังจะไปล่าสัตว์ เล่นไพ่ และ ขึ้นศาล ด้วยกันได้ 00:13:23.865 --> 00:13:25.601 ไม่เห็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย" 00:13:25.601 --> 00:13:29.318 จอร์จไม่ได้พูดอะไร 00:13:29.318 --> 00:13:32.712 "ผมอายุ 23 ปีแล้ว ถึงเวลาต้องแต่งงาน 00:13:32.712 --> 00:13:36.817 และผลิตทายาท ผมถูกคาดหวังไว้แบบนี้" NOTE Paragraph 00:13:36.817 --> 00:13:40.398 จอร์จกระดกแก้วไวน์จนหมด แล้วหันมาทางผม 00:13:40.398 --> 00:13:44.481 "ขอแสดงความยินดี กับงานแต่งที่กำลังจะมาถึงของคุณ เจมส์ 00:13:44.481 --> 00:13:49.317 ผมแน่ใจว่า คุณและเธอจะมีความสุขร่วมกัน" 00:13:49.317 --> 00:13:52.634 เขาไม่เคยเรียกชื่อเล่นของผมอีกเลย NOTE Paragraph 00:13:52.634 --> 00:13:54.393 ขอบคุณค่ะ NOTE Paragraph 00:13:54.393 --> 00:13:57.775 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:13:57.775 --> 00:13:58.957 ขอบคุณ NOTE Paragraph 00:13:58.957 --> 00:14:00.504 (เสียงปรบมือ)