1 00:00:01,000 --> 00:00:03,000 ฉันรู้ค่ะ ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ 2 00:00:03,000 --> 00:00:05,000 คุณคงคิดว่าฉันหลงทาง 3 00:00:05,000 --> 00:00:07,000 และเดี๋ยวจะมีใครบางคนขึ้นมาบนเวที 4 00:00:07,000 --> 00:00:09,000 แล้วบอกให้ฉันกลับไปที่นั่งของตัวเอง 5 00:00:09,000 --> 00:00:15,000 (เสียงปรบมือ) 6 00:00:15,000 --> 00:00:18,000 ฉันเจอเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อย ในดูไบ 7 00:00:18,000 --> 00:00:20,000 "มาเที่ยวพักร้อนหรอคะ ?" 8 00:00:20,000 --> 00:00:22,000 (เสียงหัวเราะ) 9 00:00:22,000 --> 00:00:25,000 "มาเยี่ยมลูก ๆ เหรอ" 10 00:00:25,000 --> 00:00:27,000 "จะอยู่นานเท่าไหร่ล่ะ?" 11 00:00:27,000 --> 00:00:30,000 จริง ๆ แล้ว ฉันหวังจะอยู่ไปอีกนาน ๆ 12 00:00:30,000 --> 00:00:33,000 ฉันใช้ชีวิตและสอนหนังสืออยู่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง 13 00:00:33,000 --> 00:00:35,000 มากว่า 30 ปีแล้ว 14 00:00:35,000 --> 00:00:39,000 (เสียงปรบมือ) 15 00:00:39,000 --> 00:00:43,000 และในช่วงนั้น ฉันก็เห็นความเปลี่ยนแปลง หลาย ๆ อย่าง 16 00:00:43,000 --> 00:00:45,000 นี่คือตัวเลขสถิติ 17 00:00:45,000 --> 00:00:47,000 ที่ค่อนข้างน่าตกใจ 18 00:00:47,000 --> 00:00:49,000 และฉันต้องการจะบอกคุณวันนี้ 19 00:00:49,000 --> 00:00:51,000 เกี่ยวกับการสูญหายไปของภาษา 20 00:00:51,000 --> 00:00:54,000 และโลกาภิวัตน์ของภาษาอังกฤษ 21 00:00:54,000 --> 00:00:56,000 ฉันอยากจะเล่าเกี่ยวกับเพื่อนของฉัน 22 00:00:56,000 --> 00:00:59,000 ที่สอนภาษาอังกฤษสำหรับผู้ใหญ่ในดูไบ 23 00:00:59,000 --> 00:01:01,000 จนวันหนึ่ง 24 00:01:01,000 --> 00:01:03,000 เธอตัดสินใจพาพวกเขาไปที่สวน 25 00:01:03,000 --> 00:01:05,000 เพื่อสอนคำศัพท์เกี่ยวกับธรรมชาติ 26 00:01:05,000 --> 00:01:07,000 แต่กลับเป็นตัวเธอเองที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ 27 00:01:07,000 --> 00:01:09,000 ศัพท์ภาษาอาราบิกของต้นไม้ท้องถิ่น 28 00:01:09,000 --> 00:01:11,000 รวมไปถึงประโยชน์ของพวกมัน 29 00:01:11,000 --> 00:01:14,000 ทั้งทางการแพทย์ การใช้เป็นเครื่องสำอาง 30 00:01:14,000 --> 00:01:17,000 ใช้ปรุงอาหาร และเป็นสมุนไพร 31 00:01:17,000 --> 00:01:19,000 นักเรียนเหล่านั้นเอาความรู้พวกนี้มาจากไหน? 32 00:01:19,000 --> 00:01:21,000 แน่นอนว่า จากปู่ย่าตายาย 33 00:01:21,000 --> 00:01:24,000 หรือแม้แต่จากคุณทวด 34 00:01:24,000 --> 00:01:27,000 คงไม่จำเป็นที่จะต้องบอกคุณว่า มันสำคัญแต่ไหน 35 00:01:27,000 --> 00:01:29,000 ที่เราจะสามารถสื่อสาร 36 00:01:29,000 --> 00:01:31,000 จากรุ่นนึงสู่อีกรุ่นนึง 37 00:01:31,000 --> 00:01:33,000 แต่ที่น่าเศร้าก็คือ วันนี้ 38 00:01:33,000 --> 00:01:35,000 ภาษากำลังตายจากไป 39 00:01:35,000 --> 00:01:37,000 ในอัตราที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน 40 00:01:37,000 --> 00:01:40,000 ภาษาหนึ่ง จะหายไปทุก ๆ 14 วัน 41 00:01:41,000 --> 00:01:43,000 และในขณะเดียวกัน 42 00:01:43,000 --> 00:01:45,000 ภาษาอังกฤษก็เป็นภาษาสากลอย่างไม่อาจโต้แย้งได้ 43 00:01:45,000 --> 00:01:47,000 แล้วมันมีความสัมพันธ์กันไหมนะ? 44 00:01:47,000 --> 00:01:49,000 ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน 45 00:01:49,000 --> 00:01:52,000 แต่ฉันรู้ว่า ฉันเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก 46 00:01:52,000 --> 00:01:55,000 เมื่อฉันมาในประเทศแถบนี้ครั้งแรก ฉันมาที่คูเวต 47 00:01:55,000 --> 00:01:58,000 ในช่วงเวลานั้น มันค่อนข้างลำบาก 48 00:01:58,000 --> 00:02:00,000 ที่จริงแล้ว มันก็ไม่นานขนาดนั้น 49 00:02:00,000 --> 00:02:03,000 อันนี้ดูจะเก่าเกินไปหน่อย 50 00:02:03,000 --> 00:02:05,000 แต่กระนั้นก็ตาม 51 00:02:05,000 --> 00:02:07,000 ฉันถูกจ้างโดยบริติชเคาน์ซิล 52 00:02:07,000 --> 00:02:09,000 พร้อม ๆ กับครูอีกประมาณ 25 คน 53 00:02:09,000 --> 00:02:11,000 และพวกเราเป็นคนที่ไม่ใช่มุสลิมกลุ่มแรก 54 00:02:11,000 --> 00:02:14,000 ที่เข้ามาสอนในโรงเรียนรัฐในคูเวต 55 00:02:14,000 --> 00:02:16,000 พวกเราถูกจ้างให้สอนภาษาอังกฤษ 56 00:02:16,000 --> 00:02:20,000 เพราะรัฐบาลต้องการนำประเทศสู่ความทันสมัย 57 00:02:20,000 --> 00:02:23,000 และพัฒนาคุณภาพประชาชนผ่านการศึกษา 58 00:02:23,000 --> 00:02:25,000 และแน่นอนว่าสหราชอาณาจักรก็ได้ประโยชน์ 59 00:02:25,000 --> 00:02:28,000 จากบางส่วนของความมั่งคั่งทางน้ำมันนี้ด้วย 60 00:02:28,000 --> 00:02:30,000 โอเค 61 00:02:30,000 --> 00:02:33,000 สิ่งหลักที่ฉันเห็นได้ ถึงความเปลี่ยนแปลงก็คือ 62 00:02:33,000 --> 00:02:35,000 วิธีการสอนภาษาอังกฤษ 63 00:02:35,000 --> 00:02:37,000 ได้ถูกเปลี่ยนไป 64 00:02:37,000 --> 00:02:41,000 จากภารกิจที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกัน 65 00:02:41,000 --> 00:02:44,000 กลายเป็นธุรกิจระหว่างประเทศขนาดใหญ่ 66 00:02:44,000 --> 00:02:48,000 มันไม่ใช่แค่ภาษาต่างประเทศในหลักสูตรการเรียนอีกต่อไป 67 00:02:48,000 --> 00:02:50,000 และก็ไม่ได้อยู่แต่เพียงที่เดียว 68 00:02:50,000 --> 00:02:52,000 ในประเทศต้นกำเนิดอย่างอังกฤษ 69 00:02:52,000 --> 00:02:54,000 มันได้รับความนิยม 70 00:02:54,000 --> 00:02:57,000 สำหรับทุก ๆ ประเทศในโลก ที่พดภาษาอังกฤษ 71 00:02:57,000 --> 00:02:59,000 แล้วมันจะไม่ดียังไงหล่ะ ? 72 00:02:59,000 --> 00:03:02,000 เพราะสุดท้ายแล้ว ตำแหน่งความเป็นเลิศทางวิชาการ 73 00:03:02,000 --> 00:03:05,000 โดยอ้างอิงจาก World University Rankings 74 00:03:05,000 --> 00:03:07,000 ตกเป็นของมหาวิทยาลัย 75 00:03:07,000 --> 00:03:11,000 ของ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา 76 00:03:11,000 --> 00:03:15,000 ฉะนั้น ทุกคนเลยก็อยากมีความรู้ ทางภาษาอังกฤษไปโดยปริยาย 77 00:03:15,000 --> 00:03:17,000 แต่ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของภาษา 78 00:03:17,000 --> 00:03:19,000 คุณต้องผ่านการทดสอบ 79 00:03:19,000 --> 00:03:21,000 แล้วมันถูกต้องไหม 80 00:03:21,000 --> 00:03:23,000 ที่จะปฏิเสธนักเรียน 81 00:03:23,000 --> 00:03:25,000 เพียงเพราะความสามารถทางด้านภาษาเท่านั้น? 82 00:03:25,000 --> 00:03:27,000 บางที คุณอาจจะมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ 83 00:03:27,000 --> 00:03:29,000 ซึ่งเป็นอัจฉริยะ 84 00:03:29,000 --> 00:03:32,000 เขาจำเป็นต้องใช้ภาษาเดียวกันกับนักกฎหมายด้วยเหรอ? 85 00:03:32,000 --> 00:03:35,000 อืม..ฉันคิดว่าไม่ 86 00:03:36,000 --> 00:03:39,000 แต่ครูสอนภาษาอังกฤษอย่างพวกเราปฏิเสธพวกเขาตลอดเวลา 87 00:03:39,000 --> 00:03:41,000 เราตั้งป้ายห้าม 88 00:03:41,000 --> 00:03:43,000 และหยุดยั้งพวกเขาไม่ให้ไปต่อ 89 00:03:43,000 --> 00:03:45,000 พวกเขาไม่สามารถทำตามความฝันได้อีกต่อไป 90 00:03:45,000 --> 00:03:48,000 จนกว่าพวกเขาจะเข้าใจภาษาอังกฤษ 91 00:03:49,000 --> 00:03:52,000 ให้ฉันลองยกตัวอย่างดู 92 00:03:52,000 --> 00:03:56,000 ถ้าฉันเจอคนที่พูดภาษาดัชได้อย่างเดียว 93 00:03:56,000 --> 00:03:58,000 แต่เขามีวิธีรักษาโรคมะเร็ง 94 00:03:58,000 --> 00:04:01,000 ฉันควรจะห้ามไม่ให้เขาเข้ามหาวิทยาลัยในอังกฤษไหม? 95 00:04:01,000 --> 00:04:03,000 ฉันไม่คิดอย่างนั้น 96 00:04:03,000 --> 00:04:06,000 แต่นั้นแหละ เป็นสิ่งที่พวกเราทำกัน 97 00:04:06,000 --> 00:04:09,000 ครูสอนภาษาอังกฤษอย่างพวกเราก็เหมือนกับนายด่าน 98 00:04:09,000 --> 00:04:12,000 และขั้นแรก พวกคุณต้องทำให้พวกเราพอใจก่อน 99 00:04:12,000 --> 00:04:15,000 นั่นคือภาษาอังกฤษคุณต้องดีพอ 100 00:04:16,000 --> 00:04:18,000 มันอาจจะเป็นอันตรายได้ 101 00:04:18,000 --> 00:04:21,000 ที่ให้อำนาจมากเกินไป 102 00:04:21,000 --> 00:04:23,000 กับ ส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของสังคม 103 00:04:23,000 --> 00:04:26,000 บางทีข้อแบ่งกั้นนี้มันสากลเกินไป 104 00:04:26,000 --> 00:04:28,000 โอเค 105 00:04:28,000 --> 00:04:31,000 "แต่" ฉันได้ยินคุณพูด 106 00:04:31,000 --> 00:04:33,000 "แล้วเรื่องงานวิจัยหละ? 107 00:04:33,000 --> 00:04:35,000 มันเป็นภาษาอังกฤษหมดนะ" 108 00:04:35,000 --> 00:04:37,000 หนังสือตำราก็เป็นภาษาอังกฤษ 109 00:04:37,000 --> 00:04:39,000 งานวิจัยก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษ 110 00:04:39,000 --> 00:04:42,000 แต่นี่มันเป็นการตอบสนองคำทำนาย 111 00:04:42,000 --> 00:04:44,000 มันกลับมาหล่อเลี้ยงสนับสนุน ข้อบังคับเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ 112 00:04:44,000 --> 00:04:46,000 แล้วมันก็วนไปเรื่อย ๆ 113 00:04:46,000 --> 00:04:49,000 ฉันขอถามพวกคุณ เกิดอะไรขึ้นกับการแปล? 114 00:04:49,000 --> 00:04:53,000 ถ้าคุณนึกถึงยุครุ่นเรืองของอิสลาม 115 00:04:53,000 --> 00:04:56,000 มีงานแปลมากมายในช่วงนั้น 116 00:04:56,000 --> 00:04:59,000 พวกเขาแปลจากภาษาลาตินและกรีก 117 00:04:59,000 --> 00:05:01,000 เป็นภาษาอาหรับ เป็นภาษาเปอร์เชีย 118 00:05:01,000 --> 00:05:03,000 แล้วมันก็ถูกแปลต่อไป 119 00:05:03,000 --> 00:05:05,000 เป็นภาษาในกลุ่มเยอรมันนิคของยุโรป 120 00:05:05,000 --> 00:05:07,000 และก็กลุ่มภาษาโรมานซ์ 121 00:05:07,000 --> 00:05:11,000 และในที่สุดแสงสว่างก็ส่องมายังยุโรปในยุคมืด 122 00:05:12,000 --> 00:05:14,000 อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิด 123 00:05:14,000 --> 00:05:16,000 ฉันไม่ได้ต่อต้านการสอนภาษาอังกฤษ 124 00:05:16,000 --> 00:05:18,000 ของเหล่าครูสอนภาษาอังกฤษอย่างพวกคุณ 125 00:05:18,000 --> 00:05:20,000 ฉันดีใจ ที่เรามีภาษาสากล 126 00:05:20,000 --> 00:05:23,000 ปัจจุบันนี้เราต้องการมันมากกว่าที่เคยเป็นมา 127 00:05:23,000 --> 00:05:25,000 แต่ฉันต่อต้านการใช้ 128 00:05:25,000 --> 00:05:27,000 ที่เป็นเสมือนตัวแบ่งกั้น 129 00:05:27,000 --> 00:05:30,000 พวกเราอยากจะลงเอย ด้วยการที่เหลือภาษาแค่ 600 ภาษา 130 00:05:30,000 --> 00:05:33,000 แล้วมีภาษาอังกฤษหรือภาษาจีนเป็นภาษาหลักงั้นหรือ? 131 00:05:33,000 --> 00:05:36,000 พวกเราต้องการมากกว่านั้น ตรงไหนละที่เราควรวาดเส้นแบ่ง? 132 00:05:36,000 --> 00:05:38,000 ด้วยระบบนี้ 133 00:05:38,000 --> 00:05:41,000 เราวัดความฉลาด 134 00:05:41,000 --> 00:05:44,000 ด้วยความรู้ทางภาษาอังกฤษ 135 00:05:44,000 --> 00:05:46,000 เป็นอะไรที่ค่อนข้างไร้เหตุผล 136 00:05:46,000 --> 00:05:52,000 (ปรบมือ) 137 00:05:52,000 --> 00:05:54,000 และฉันอยากเตือนคุณ 138 00:05:54,000 --> 00:05:57,000 ว่าเหล่ายักษ์บนไหล่ 139 00:05:57,000 --> 00:05:59,000 วันนี้ ความรู้ ยืนหยัดได้ 140 00:05:59,000 --> 00:06:01,000 โดยไม่จำเป็นต้องพึงพาภาษาอังกฤษ 141 00:06:01,000 --> 00:06:03,000 พวกเขาเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษ 142 00:06:03,000 --> 00:06:06,000 อย่างกรณีของ ไอสไตน์ 143 00:06:07,000 --> 00:06:10,000 เขา ผู้ซึ่งเรียนซ่อมกับโรงเรียน 144 00:06:10,000 --> 00:06:12,000 เนื่องด้วยเขาเป็นโรคภาวะอ่านไม่เข้าใจ 145 00:06:12,000 --> 00:06:14,000 แต่เป็นเรื่องโชคดี สำหรับมนุษยชาติ 146 00:06:14,000 --> 00:06:17,000 ที่เขาไม่ต้องผ่านการสอบภาษาอังกฤษ 147 00:06:17,000 --> 00:06:20,000 เพราะมันไม่ได้เริ่ม จนกระทั้งปี คศ 1964 148 00:06:20,000 --> 00:06:22,000 สำหรับ TOEFL 149 00:06:22,000 --> 00:06:24,000 แบบทดสอบภาษาอังกฤษของอเมริกา 150 00:06:24,000 --> 00:06:26,000 ตอนนี้มันเผยแพร่ไปทั่ว 151 00:06:26,000 --> 00:06:29,000 มีแบบทดสอบภาษาอังกฤษมากมาย 152 00:06:29,000 --> 00:06:31,000 และนักเรียนเป็นล้านล้านคนต่อปี 153 00:06:31,000 --> 00:06:33,000 ต้องสอบข้อสอบเหล่านี้ 154 00:06:33,000 --> 00:06:35,000 ตอนนี้คุณอาจคิดว่า คุณและฉันด้วย 155 00:06:35,000 --> 00:06:37,000 การจ่ายภาษีแบบนี้ มันก็โอเค ไม่ได้เลวร้ายอะไร 156 00:06:37,000 --> 00:06:39,000 แต่มันเป็นสิ่งขัดขวาง 157 00:06:39,000 --> 00:06:41,000 เหล่าคนจนหลายล้านคน 158 00:06:41,000 --> 00:06:43,000 เลยเป็นว่าพวกเราปฏิเสธพวกเขาโดยอัตโนมัต 159 00:06:43,000 --> 00:06:46,000 (ปรบมือ) 160 00:06:46,000 --> 00:06:49,000 มันทำให้นึกถึงหัวข้อข่าวที่เห็นบ่อย ๆ 161 00:06:49,000 --> 00:06:51,000 "การศึกษา: การแบ่งแยกอย่างชัดเจน" 162 00:06:51,000 --> 00:06:53,000 ตอนนี้ฉันเข้าใจความหมายแล้ว 163 00:06:53,000 --> 00:06:56,000 ฉันเข้าใจว่าทำไมผู้คน ถึงได้มุ่งเน้นไปที่ภาษาอังกฤษ 164 00:06:56,000 --> 00:06:59,000 พวกเขาต้องให้ลูกพวกเขา มีโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต 165 00:07:00,000 --> 00:07:03,000 และเพื่อสิ่งนี้แล้ว พวกเขาต้องการการศึกษาทางตะวันตก 166 00:07:03,000 --> 00:07:05,000 เพราะว่า แน่นอน ผู้ที่ได้งานดี ๆ 167 00:07:05,000 --> 00:07:08,000 คือคนที่จบจากมหาวิทยาลัยตะวันตก 168 00:07:08,000 --> 00:07:10,000 ดั่งที่ฉันได้พูดก่อนหน้านี้ 169 00:07:10,000 --> 00:07:12,000 สิ่งนี้มันเป็นวัฏจักร 170 00:07:12,000 --> 00:07:14,000 โอเค 171 00:07:14,000 --> 00:07:16,000 ให้ฉันเล่าเรื่อง เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์สองคน 172 00:07:16,000 --> 00:07:18,000 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษสองคน 173 00:07:18,000 --> 00:07:20,000 พวกเขากำลังทำการทดลอง 174 00:07:20,000 --> 00:07:22,000 เกี่ยวกับพันธุกรรม 175 00:07:22,000 --> 00:07:25,000 แล้วก็เกี่ยวกับขาหน้าและหลังของสัตว์ 176 00:07:25,000 --> 00:07:27,000 แต่พวกเขาก็ไม่พบคำตอบที่ต้องการ 177 00:07:27,000 --> 00:07:29,000 พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร 178 00:07:29,000 --> 00:07:32,000 จนกระทั้งนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันเข้ามา 179 00:07:32,000 --> 00:07:35,000 ที่สังเกตว่าพวกเขาใช้คำสองคำ 180 00:07:35,000 --> 00:07:37,000 แทน ขาหน้า และขาหลัง 181 00:07:37,000 --> 00:07:41,000 แต่ ทางพันธุศาสตร์แล้ว มันไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย 182 00:07:41,000 --> 00:07:43,000 ซึ่งเป็นเช่นเดียวกันในภาษาเยอรมัน 183 00:07:43,000 --> 00:07:45,000 ดังนั้น ปิ๊งป่อง 184 00:07:45,000 --> 00:07:47,000 ปริศนาคลีคลาย 185 00:07:47,000 --> 00:07:49,000 ถ้าคุณนึกอะไรไม่ออก 186 00:07:49,000 --> 00:07:52,000 คุณติดขัด 187 00:07:52,000 --> 00:07:54,000 แต่อีกภาษานึงกลับทำให้คิดออก 188 00:07:54,000 --> 00:07:56,000 ถ้างั้น ด้วยความร่วมมือ 189 00:07:56,000 --> 00:07:59,000 พวกเราจะสามารถเรียนรู้ และค้นพบอะไรอีกมากมาย 190 00:08:01,000 --> 00:08:03,000 ลูกสาวของฉัน 191 00:08:03,000 --> 00:08:06,000 บินกลับอังกฤษจากคูเวต 192 00:08:06,000 --> 00:08:09,000 เธอเรียนวิทยาศาตร์และคณิตศาสตร์ เป็นภาษาอาหรับ 193 00:08:09,000 --> 00:08:12,000 ซึ่งโรงเรียนนั้นใช้ภาษาอาหรับในการสอน 194 00:08:12,000 --> 00:08:15,000 เธอต้องแปลมันเป็นภาษาอังกฤษใน ตอนที่เธอเรียนมัธยม 195 00:08:15,000 --> 00:08:17,000 แต่เธอก็เรียนดีที่สุดในชั้นเรียน 196 00:08:17,000 --> 00:08:19,000 ในวิชาเหล่านั้น 197 00:08:19,000 --> 00:08:21,000 มันทำให้เรารู้ว่า 198 00:08:21,000 --> 00:08:23,000 เมื่อนักเรียนจากต่างชาติมาหาเรา 199 00:08:23,000 --> 00:08:25,000 พวกเราอาจจะไม่ได้ให้ความเชื่อถือเท่าที่ควร 200 00:08:25,000 --> 00:08:27,000 กับเรื่องต่าง ๆ ที่พวกเขารู้ 201 00:08:27,000 --> 00:08:30,000 ในสิ่งที่พวกเขารู้เป็นภาษาของเขาเอง 202 00:08:30,000 --> 00:08:32,000 และเมื่อภาษานั้นตาย 203 00:08:32,000 --> 00:08:35,000 เราไม่รู้เลยว่าเราเสียอะไรไปบ้างกับภาษานั้น 204 00:08:35,000 --> 00:08:39,000 นี่คือ ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณดู CNN ช่วงนี้หรือเปล่า 205 00:08:39,000 --> 00:08:41,000 พวกเขาให้รางวัล ฮีโร่ อวอร์ด 206 00:08:41,000 --> 00:08:44,000 กับเด็กหนุ่มเลี้ยงแกะชาวเคนย่า 207 00:08:44,000 --> 00:08:47,000 ที่ไม่สามารถเรียนตอนกลางคืนในหมู่บ้านได้ 208 00:08:47,000 --> 00:08:49,000 เหมือนกับเด็กคนอื่นในหมู่บ้าน 209 00:08:49,000 --> 00:08:51,000 เพราะตะเกียงน้ำมันก๊าด 210 00:08:51,000 --> 00:08:53,000 มันมีควัน และมันก็ทำร้ายดวงตาเขา 211 00:08:53,000 --> 00:08:56,000 และอย่างไรก็ดี เขาก็มีน้ำมันก๊าดไม่เพียงพอ 212 00:08:56,000 --> 00:08:59,000 เพราะเงินเพียงดอลล่าเดียวต่อวัน เขาจะไปซื้ออะไรได้ 213 00:08:59,000 --> 00:09:01,000 ดังนั้นเขาเลยประดิษฐ์ 214 00:09:01,000 --> 00:09:04,000 ตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์ ฟรี ไม่คิดเงิน 215 00:09:04,000 --> 00:09:06,000 และในตอนนี้เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน 216 00:09:06,000 --> 00:09:08,000 ได้เรียนได้ดีทัดเทียมกัน 217 00:09:08,000 --> 00:09:12,000 กับเด็กที่มีไฟฟ้าใช้ในบ้าน 218 00:09:12,000 --> 00:09:18,000 (ปรบมือ) 219 00:09:18,000 --> 00:09:20,000 ตอนที่เขาได้รับรางวัล 220 00:09:20,000 --> 00:09:22,000 เขากล่าวคำพูดที่น่ารักมาก 221 00:09:22,000 --> 00:09:25,000 "เด็ก ๆ สามารถนำแอฟริกา ทุกวันนี้ 222 00:09:25,000 --> 00:09:27,000 จากทวีปอันแสนมืด 223 00:09:27,000 --> 00:09:29,000 สู่ทวีปแห่งความสว่างไสว 224 00:09:29,000 --> 00:09:31,000 ควาามคิดเรียบง่าย 225 00:09:31,000 --> 00:09:34,000 แต่มันให้ผลดีอะไรมากมาย 226 00:09:35,000 --> 00:09:37,000 ผู้ที่ไม่มีแสงสว่าง 227 00:09:37,000 --> 00:09:40,000 ทั้งทางรูปธรรมและนามธรรม 228 00:09:40,000 --> 00:09:43,000 ผู้ที่ไม่สามารถผ่านการทดสอบของเรา 229 00:09:43,000 --> 00:09:46,000 และพวกเราก็ไม่อาจรู้เลยว่าพวกเขารู้อะไรบ้าง 230 00:09:46,000 --> 00:09:49,000 จงอย่า ให้พวกเขา และ เรา 231 00:09:49,000 --> 00:09:51,000 ให้อยู่ในความมืดเลย 232 00:09:51,000 --> 00:09:54,000 แต่จงยินดี ในความหลากหลาย 233 00:09:54,000 --> 00:09:57,000 โปรดตระหนักถึงภาษาของคุณ 234 00:09:57,000 --> 00:10:01,000 ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความคิดดี ๆ เถอะคะ 235 00:10:01,000 --> 00:10:08,000 (เสียงปรบมือ) 236 00:10:08,000 --> 00:10:10,000 ขอบคุณมากคะ 237 00:10:10,000 --> 00:10:13,000 (เสียงปรบมือ)