ถ้าชีวิตคุณเหลือเวลาเพียงไม่กี่เดือน

คุณจะบอกลาผู้คนด้วยวิธีไหน

ซ้าคเลือกที่จะใช้เสียงดนตรี

(เสียงคนเล่นดนตรี)เพลง Cloudsโดยซ้าค โซบีช

(เสียงนักข่าว)

ซ้าคชอบแต่งเพลงมาก

เขาหวังทิ้งบทเพลงไว้

กับเวลาที่เหลืออยู่แค่เพียงไม่กี่เดือน

เพลงนั้นมีชื่อว่า "Clouds"

(เสียงซ้าคพูด)ผมก็เหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป

ที่เหมือนตัวเองไม่อาจเอาชนะหรือยอมรับ

ความจริงที่ว่าตัวเองเหลือเวลาในโลกนี้

เพียง 5 เดือน

ทั้งๆที่ผมกำลังจะขึ้นชั้นมัธยม

แถมวางแผนไว้อย่างละเอียดว่าจะทำอะไรบ้าง

แต่บางครั้งเราทำอะไรไม่ได้

ผมชื่อซ้าค โซบีชอายุ 17

ป่วยเป็นมะเร็งกระดูก หมอบอกว่าผมเหลือเวลา

แค่ไม่กี่เดือนแต่ผมมีอะไรเยอะแยะที่อยากทำ

ผมอยากให้คนรู้ว่าผมไม่ได้กำลังจะตาย

แต่ผมกำลังเริ่ม "ใช้ชีวิต" ให้เป็นต่างหาก

ชีวิตช่วงวันท้ายๆของผม

คุณรู้หรือเปล่าว่าผู้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิต

ระหว่างสานฝันให้เป็นจริงกับรอความตายไปวันๆ

ผมประสบทั้งสองแบบ และตัวคุณเองก็เหมือนกัน

คงมีทั้งวันดีและไม่ดีคละเคล้ากันไป

(แม่ซ้าคพูด) เขาเป็นเด็กใส่ใจและเห็นใจคน

อย่างดูบาสกัน ฉันหัวเราะนักบาสที่วิ่งตลกๆ

แต่ซ้าคจะบอกว่า.....เขาเล่นเก่งนะแม่

เขามักมองหามุมดีๆของคนอื่นเสมอๆ

ซึ่งเป็นการสอนบทเรียนล้ำค่าให้กับเรา

(น้องซ้าคพูด) เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นว่า

ทุกอย่างจะโอเค ถ้าเราคิดถึง

คนอื่นมากกว่าตัวเราเอง

(พ่อซ้าคพูด) เขาเป็นคนที่

แค่นั่งใกล้ๆก็สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

เหมือนเขามีพลังออร่าที่ทำให้คนมีความสุข

(ซ้าคพูด) ถ้าถามว่าอะไรทำให้ผมมีความสุข

การทำให้คนอื่นยิ้มได้นั่นแหละทำให้ผมสุข

เป็นสิ่งวิเศษมากสำหรับการมีชีวิตบนโลกนี้

ที่ได้ช่วยคนอื่นๆให้มีความสุข

ผมชอบโครงสร้างครอบครัวผมนะ ผู้ชายสอง

ผู้หญิงสอง มีพ่อและแม่ มันดูสมดุลกันดี

(แม่ซ้าคพูด)เกรซชอบทำเหมือนเป็นลูกซ้าค

(เกรซพูด) พี่เหมือนเป็นครึ่งหนึ่งของหนู

แค่เราอยู่ใกล้กัน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

ถ้าถามถึงชีวิตที่ปราศจากซ้าค หนูคิดไม่ออก

ทุกครั้งที่นึกถึงหนูจะรู้สึกปวดมวนท้อง

(แม่ซ้าคพูด) ตอนที่ซ้าคเรียนชั้นม.2

เขาวิ่งเล่นกับเกรซอย่างสนุกสนาน

พอกลับบ้านมาบอกว่าแม่ผมเจ็บสะโพก

ฉันรีบพาลูกไป MRIโดยไม่มีเรื่องมะเร็งในหัว

(ซ้าคพูด) ผลตรวจออกมาว่าผมเป็นมะเร็ง

มะเร็งกระดูกชนิดหนึ่ง บอกตรงๆผมแทบไม่เชื่อ

(เกรซพูด) ฉันอยู่ในครัวแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

ฉันรีบขึ้้นไปข้างบน และเอาแต่ร้องไห้

ฉันบอกกับตัวเองว่า ฉันร้องไห้ราวกับ

ซ้าคกำลังจะจากเราไปพรุ่งนี้ก็ไม่ปาน

(ซ้าคพูด) แม่เคยเข้ามาในห้องนอนผม

เห็นผมนอนบนพื้น เพราะผมไม่อยาก

เชื่อมโยงเตียงนอนกับความเจ็บป่วย

(แม่พูด) ใช่ เขาทำอย่างนั้นหลังผ่านคีโมมา

ซ้าคต้องตรวจ CT สแกนตลอด และวันหนึ่ง

ก็พบว่าปอดสองข้างของเขามีก้อนเนื้อร้ายอยู่

หมอบอกว่าเขาเหลือเวลาแค่ 6 เดือนถึง 1 ปี

(ซ้าคพูด) ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

สำหรับผมมันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย

(แม่พูด) จริงๆเรามีทางเลือกในการผ่าตัด

แต่ต้องตัดขาซ้ายและกระดูกเชิงกรานบางส่วนไป

ทำให้เขานั่งไม่ได้ เราเลยตัดสินใจว่า

ไม่ดีกว่า เพราะคุณภาพชีวิตลูกอยู่ตรงไหน

(ซ้าคพูด)อยู่รพ.แม้มันจะดูปลอดเชื้อก็จริง

แต่ผมไม่ได้รู้สึกสะอาดตามไปด้วย

ชีวิตใน รพ.มันทำให้ผมเครียด

อยู่รพ.มันทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยว

(แม่พูด)เขาเป็นคนตัดสินใจเองว่าไม่อยากอยู่

ไม่อยากรู้สึกป่วยอยากอยู่บ้านและใกล้เพื่อน

(พ่อพูด)ในบ้านที่มี 6 คนและลูกๆ 4 คนแบบนี้

ผมชอบอยู่ตามลำพังกับซ้าคมากที่สุด

แค่นั่งใกล้ๆกัน

ดูหนัง คุยเรื่องรถ คุยเรื่องสัพเพเหระกัน

(แม่พูด) ซ้าคเป็นคนมีฝันที่ยิ่งใหญ่

ชอบอยู่ในรถ อ่านนิตยสารรถ หรือคุยเรื่องรถ

สิ่งเดียวที่ทำตอนอยู่ รพ.

(ซ้าค)ผมชอบไล่ดูว่ารถคันไหนราคาไม่แพงมาก

แต่มีสมรรถนะสูงซึ่ง Nissan GTR ตอบโจทย์นี้

ผมฝันจะเป็นเจ้าของมันมาหลายปีมาก

(แม่พูด)วันนี้เรามีเซอร์ไพรส์มาฝาก

(ซ้าค)ผมไม่ชอบเซอร์ไพรส์นะ

(แม่พูด) แต่รับรองได้ว่าลูกต้องชอบมันแน่ๆ

แม่ล้อเล่นหรือเปล่านี่

(แม่พูด)ลูกคงเห่อขับเป็นอาทิตย์แน่ๆ

(เกรซพูด)พี่พาฉันไปด้วยนะ

(พ่อพูด)ไงซ้าค ชอบมั้ยลูก น่าทึ่งมั้ย

เห็นหน้าลูกเป็นประกาย

แล้วทำให้เรามีความสุข

(ซ้าคพูด)ความรู้สึกผมเหมือน

จมอยู่ในน้ำเย็นแต่ในความหมายที่ดีนะฮะ

(พ่อพูด)มันไม่ใช่แค่ได้รถมาครอง

แต่มันคือประสบการณ์

ที่ซ้าคมีความสุขขณะขับรถ

และผมเองก็มีความสุขที่ได้นั่งไปกับเขาด้วย

ตัวผมเองมีความสุขที่ได้ทำอะไรกับลูก

(ซ้าคพูด)การทำแบบนี้มันช่วยผมรู้สึกดีขึ้น

เพราะผมเลือกได้ว่าจะนั่งรอที่บ้าน

หรือออกไปทำอะไรบ้าๆแบบนั้นดี

(แม่พูด)เซลล์มะเร็งลามไปที่กระดูกเชิงกราน

ฉันเริ่มคิดว่าควรเริ่มเขียนบันทึกได้แล้ว

(ซ้าคพูด)เพลงเป็นการบรรยายความรู้สึกของผม

เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระคนอื่น

(แม่พูด)ฉันกำลังทำความสะอาดชั้นบน

และเจอโน้ตเพลงเกลื่อนไปหมด

ฉันหยิบขึ้นมาแผ่นหนึ่ง นั่นคือเพลง Clouds

แซมมี่ กับซ้าคเป็นเพื่อนรักกัน

พวกเขาสนิทกันมาหลายปีแล้ว

พวกเขาชอบแต่งเพลงกัน

นั่นเป็นการสื่อสารระหว่างเขาทั้งสอง

(แซมมี่พูด)การแต่งเพลงเป็นส่วนหนึ่งของเรา

แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้เหมือนเขา

ฉันคงทำใจยากที่จะเสียเขาไปในวันหนึ่ง

(ซ้าคพูด)ผมอยู่ในสถานการณ์ที่ยากยิ่งกว่า

เพราะชีวิตผมกำลังจะถึงจุดจบ แต่เธอไม่

(แซมมี่พูด)มีไม่กี่คนที่ฉันจะรักได้เท่าเขา

(ซ้าคพูด)ผมได้บรรยายความรู้สึกลงในเพลงนี้

เพื่อย้ำเตือนและเป็นตัวแทน

ให้นึกถึงยามผมลาโลกไปแล้ว

(แม่พูด) การทำอย่างนี้เท่ากับ

เป็นการบอกว่าโอเคและบอกลาไปพร้อมกัน

ฉันรู้สึกขอบคุณลูกมาก เพราะต่อไปมันจะมีค่า

(พี่ชายพูด)เพลงเขาสะท้อนว่าเขาแคร์เรามาก

(เกรซพูด)มีเพลงหนึ่งที่เขาเขียนให้

เพลง For my Grace ที่ฉันพกติดตัวตลอดเวลา

(เกรซพูด)หนูรักพี่นะ

(ซ้าคพูด)พี่ก็รักเธอจ้ะ

รักเหมือนวันแรกเลย

(ตากล้องถาม) แน่นะว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

(ซ้าคพูด)มากๆเลยล่ะ น้องเป็นคนที่เจ๋ง

ตั้งแต่พบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ผมรู้สึกว่า

ครอบครัวผมเข้มแข็งมากขึ้น เรารักกันมากขึ้น

เราผ่านเหตุการณ์ร้ายๆนี่ไปด้วยกันตลอด

(พี่ชายพูด)เราเกาะเกี่ยวกันเป็นครอบครัว

ผมพูดเปรียบเปรยให้ฟังนะฮะ

ตั้งแต่เกิดปัญหา

เรารับรู้และพร้อมฟันฝ่าปัญหาไปด้วยกัน

ในฐานะที่เราอยู่ในครอบครัวเดียวกัน

(น้องสาว) ถามว่าพี่เป็นไง

พี่เป็นคนยิ้มง่าย สุขตลอด

ท่าเดินกระโผลกกระเผลกไปมา

แต่พี่ดูมีความสุข มันเรียบง่ายขนาดนั้นเลย

(ซ้าคพูด)ผมไม่รู้ว่าเพื่อนๆจะยอมรับได้มั้ย

ในวันที่ผมจากไป

แต่ถ้าพวกเขาปฏิบัติกับผม

เหมือนปกติ ผมว่าทุกอย่างมันจะโอเค

(เพื่อนพูด)เขาเป็นคนไว้ใจได้ ยิ้มเก่ง

ทั้งๆที่กำลังป่วยอยู่

(เพื่อนอีกคน)เขาเป็นเหมือนแสงสว่าง

เวลาอยู่ใกล้ วันที่ฉันรู้สึกแย่ๆ

ฉันจะรู้สึกดีขึ้นเป็นอย่างมาก

ฉันว่าคงเพราะความคิดลบของฉันเอง

(เพื่อนอีกคน)เขาจะอยู่ในใจผมตลอด

เขามักสอนเรื่องคุณค่าชีวิตให้ผม

เรามีความทรงจำที่ดีต่อกัน

ทุกอย่างฝังแน่นในตัวผม

สอนผมให้รู้ว่าผมคือใคร

(แม่)เอมมี่เป็นเด็กฉลาด

เธอรู้ว่าเขากำลังจะตาย แต่ก็ยังเดทกับเขา

เธอนั่งข้างๆแม่ของเธอ แล้วแม่ก็ถามว่า

เธอยังจะเดทกับซ้าคมั้ยถ้าเขาไม่ป่วย

เธอตอบว่าแน่นอน

เธอช่วยเขาผ่านช่วงเลวร้ายไปด้วยดี

(ซ้าคพูด)เดทแรก เราเตรียมไปปิคนิคที่สวน

(เอมมี่พูด)ฉันรู้ว่าเขาต้อง CTสแกนวันนั้น

(ซ้าคพูด)หมอบอกผล เอมมี่ดูขรึมมาก

เธอดูเครียดมาก ผมปลอบว่าไม่เลวร้ายหรอก

เธอตกใจที่ปอดผมถูกทำลายลงเกือบหมด

ผมก็แบบว่า อือม์...โอเค

(เอ็มมี่พูด)ฉันเอาแต่ร้องไห้

เพราะรู้สึกว่านี่มันเรื่องจริงนี่นา

ซึ่งก่อนหน้านั้นทุกอย่างดูปกติมาก

(ซ้าค)ใจผมอยากไปปิคนิคก่อนแล้วค่อยผ่าตัด

แต่หมอบอกไม่ได้ ต้องผ่าตัดด่วน

(แม่พูด)เขารู้สึกหมดหวังมาก เพราะเขา

รอคอยเดทที่สำคัญนั้นมาก

(ซ้าคพูด) ผมรู้สึกโกรธมากที่ไม่ได้ไปปิคนิค

ผมอยากไปปิคนิคมาก มันดูน่าสนุกดีนะ

แต่เพราะปอดผมแท้ๆเชียว

(เอมมี่) อรุณสวัสดิ์

วันนี้ไม่ไปโรงเรียนนะ

(ซ้าคพูด) งั้นเราจะไปไหนกันล่ะ

(เอมมี่พูด) ไว้เดี๋ยวรู้เอง

(ซ้าคพูด) แต่ผมไม่รู้ว่าจะขับไปที่ไหนนี่

(เอมมี่พูด) สตาร์ทรถเลย เดี๋ยวบอกว่าไปไหน

(บนจอ) ฉันรักเธอมากนะซ้าค

อย่าจากฉันไปไหน

(ซ้าคพูด) ผมกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่

ทุกอย่างดูเฟอร์เฟค แม้พิซซ่าจะเย็นชืด

แต่ปิคนิคครั้งนั้นมันกระชับความสัมพันธ์เรา

(เอมมี่พูด) เราอยากมีอนาคตร่วมกัน

เราต่างรู้ว่าเรารักกัน

เราพูดเรื่องการแต่งงาน

มีลูก มีงานที่มั่นคงทำ

เราพูดถึงเรื่องนี้ทุกครั้งที่เรารู้สึกแย่ๆ

เราต่างร้องไห้ทุกครั้ง

ที่เราวางแผนเรื่องเหล่านี้กัน

(ซ้าคพูด) เราวางแผนว่าจะมีลูกสัก 3-4 คนดี

แต่ 4 คนน่าจะดีเพราะผมมีพี่น้อง 4 คน

มันเวริ์คมาก

มันเหมือนเป็นความฝันสูงสุดของผม

บางคนอาจคิดว่า

มันเกิดขึ้นไม่ได้

คุณคงว่าเป็นไปไม่ได้

ในความเป็นจริงมันคงไม่เป็นอย่างนั้นหรอก

(เอมมี่พูด)ฉันกลัวความรู้สึกตอนออกจากรพ.

ในวันที่เขาจากไป

เขาไม่มีวันเดินออกมาด้วย

แล้วฉันต้องเดินออกมาคนเดียว

(ซ้าคพูด) ผมจะรักเธอจนตาย จนวันที่ผมจากไป

ถ้าถามว่าทำไมไม่แต่งงานกันเลยล่ะ

แล้วรอจนกว่า "ความตายจะมาพราก"

ไหนๆผมจะตายอยู่แล้วนี่ แต่มันไม่เป็นไรหรอก

อย่างไงผมก็จะรักเธอจนวันตาย และจะรักตลอดไป

(จัสตินพูด)ทุกคนช่วยมารวมตัวกันข้างล่าง

ผมชื่อจัสติน เป็นไดเร็คเตอร์ทำหนังสารคดี

ผมมาทีนี่เพื่อทำหนังสารคดีครอบครัวคุณ

ผมมาเพื่อพบกับลูกชายที่วิเศษมากๆของคุณ

คนที่ทำเพลงเจ๋งๆลงในยูทูปให้แรงบันดาลใจมาก

ผมไม่ได้มาแค่เจอเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆคนหนึ่ง

แต่ต้องการเจอเด็กหนุ่มที่จะเปลี่ยนชีวิตผม

ตอนผมติดต่อมาที่แม่ของคุณ ผมบอกว่า

อยากทำเอ็มวีให้เพลงของคุณ แต่ยังทำไม่ได้

กระทั่งผมเล่าเรื่องราวของคุณให้คนอื่นฟัง

ว่าอยากตอบแทน ในสิ่งดีๆที่คุณมอบให้พวกเรา

ผลงานชิ้นนี้มันพิเศษมาก นั่นไม่ใช่เพราะคุณ

กำลังจะตาย แต่มันคือวิถีแห่งการมีชีวิตอยู่

ของคุณต่างหาก ที่สำคัญมากกว่า

ที่ผมอยากบอกให้คุณรู้

(เสียงในTV)เพลงเธอเพราะมาก นี่สำหรับเธอนะ

(เอ็มมี่พูด) ดูจากเอ็มวีแล้ว มันบอกได้ว่า

ทุกคนรักเรื่องราว และชื่นชมซ้าคมาก

มันน่าทึ่งมากที่ได้ดูเอ็มวีนี้

(เกรซพูด)ซ้าคดูน่าทึ่งมากๆ

เขาเองก็ไม่อยากเชื่อ เราเองก็เหมือนกัน

(ซ้าคพูด)มันเป็นเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นกับผม

เป็นเรื่องเหลือเชื่อในชีวิต

(แซมมี่พูด)ตอนท้ายเอ็มวีมีแต่คนบอกรักซ้าค

ฉันอดร้องไห้ไม่ได้เลย

(ซ้าคพูด)สิ่งนี้มันทำให้ผมอยากมีชีวิตต่อ

โอ้ว...เกรซ

น้องเป็นเพื่อนที่ดีของผมมาตลอด 14 ปี

เราทำอะไรต่ออะไรมาด้วยกัน

น้องคงทำใจยากสักหน่อย ถ้าผมต้องจากไป

แต่เขาต้องเข้มแข็งผมจะสอนบทเรียนนี้ให้เอง

แล้วเขาก็จะเข้มแข็งขึ้น

แซมเป็นพี่ที่ดีมาก ใครๆคงอยากมีพี่แบบนี้

เขาสอนความรู้ให้ผมมากมาย

สอนผมผ่านเรื่องราวต่างๆไปได้ด้วยดี

ผมอยากบอกว่ารักพี่มากๆ

แม้ผู้ชายจะไม่พูดเรื่องนี้บ่อย

แต่ผมอยากบอกว่ารักพี่มากๆนะ

แอลลี่...ถ้าพูดถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อ่ะนะ

แหย่น้อง...(เสียงหัวเราะ)

พี่คงคิดถึงเธอมาก

เธอชอบย้ำเตือนให้พี่มีศรัทธาในตัวเอง

และให้พี่มีศรัทธาในทุกสิ่ง

พ่อและแม่อันประเสริฐที่เลี้ยงดูผมมาอย่างดี

ถ้าผมมีลูกก็อยากเลี้ยงเขาให้ดีแบบนี้

ขอบคุณกับการเป็นพ่อแม่ที่ดี

ที่ทำหน้าที่ที่ยากให้ได้ดีแบบนี้

เป็นพ่อแม่ที่ใครๆก็อยากได้

ผมรักพ่อแม่มาก

ขอบคุณที่เกิดมาเป็นพ่อแม่ของผม

ชีวิตคือช่วงเวลาที่สวยงาม

ทุกประสบการณ์เป็นสิ่งที่มีค่ามาก

ทุกคนค่อยๆสอนผมให้ยอมรับความจริงทีละนิดๆ

(เอ็มมี่พูด)เรื่องนี้สอนฉันไม่ใช่เรืองเกรด

หรือเรื่องดูเท่ห์ในสายตาใคร

แต่สอนว่าอะไรทำให้เรามีความสุข

เราไม่รู้ว่าเราจะจากโลกไปวันไหน

แต่อย่างน้อยเราควรสุขในทุกวันๆของชีวิต

(ซ้าคพูด) มันเป็นเรื่องเรียบง่ายมาก

ที่จะทำให้คนอื่นเป็นสุข แม้มันอาจใช้เวลา

หรือผ่านช่วงเวลาลำบาก แต่อย่างน้อย

เราได้เรียนรู้ ที่จะช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้น

(แม่) ฉันอยากขอบคุณ

ด้านดีของโรคมะเร็งนี่้ คืออย่าปฏิเสธมัน

แค่ยอมรับมัน

แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

ชีวิตดูเต็มอิ่มขึ้น

ทุกอย่างมีความหมายมากขึ้น

แง่งามของชีวิตมันงดงามมากขึ้น

ลูกเป็นเด็กดี

แล้วฉันก็ภูมิใจมากๆที่ได้เป็นแม่เขา

(ซ้าคพูด)ความตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

มันดูน่ากลัวเพราะเราไม่รู้ว่ามันเป็นไงต่อ

ถ้ามันมีภาวะต่อจากนี้อ่ะนะ

มันเหมือนคุณนั่งอยู่ท่ามกลางความมืด

ทางเลือกหนึ่งคุณอาจเอาแต่กรีดร้อง

ร่ำร้องด้วยความกลัวว่าอะไรอยู่ข้างนอก

หรือคุณจะแค่ปล่อยวาง

นอนหลับพักผ่อน

มีความสุขทุกขณะจิต

ผมอยากให้พวกคุณจดจำผมในฐานะ

เด็กผู้ชาย "นักต่อสู้" คนหนึ่ง

ผมไม่ได้พ่ายแพ้แต่อย่างใด

ช่วงวันสุดท้ายของผม