WEBVTT 00:00:06.681 --> 00:00:08.624 บนชายฝั่งของไอแลนด์เหนือ 00:00:08.624 --> 00:00:12.121 ที่ราบขนาดใหญ่ของแผ่นหินและเสาหินบะซอล 00:00:12.121 --> 00:00:14.162 ที่เรียกว่า ไจแอนต์ส คอสเวย์ 00:00:14.162 --> 00:00:16.042 แผ่ขยายสู่ทะเล 00:00:16.042 --> 00:00:18.042 คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์สำหรับสิ่งนี้คือ 00:00:18.042 --> 00:00:22.397 มันเป็นผลจากลาวาที่หลอมละลาย มาสัมผัสกันและแตกออก 00:00:22.397 --> 00:00:25.775 ขณะที่มันเย็นตัวลง เมื่อเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ 00:00:25.775 --> 00:00:30.526 แต่ตำนานไอริชโบราณเล่าเรื่องที่ต่างกัน NOTE Paragraph 00:00:30.526 --> 00:00:32.158 ตามเรื่องเล่าปรัมปรานี้ 00:00:32.158 --> 00:00:36.401 ยักษ์นามว่า ฟินน์ แมคคูล อาศัยอยู่บนชายฝั่งนอร์ธแอนเทียม 00:00:36.401 --> 00:00:38.279 กับภรรยา โอนาห์ อย่างมีความสุข 00:00:38.279 --> 00:00:41.008 จะมีเรื่องรำคาญใจก็ตรงที่ พวกเขาได้รับการคุกคาม 00:00:41.008 --> 00:00:43.338 จากยักษ์ บีแนนดอนเนอร์ 00:00:43.338 --> 00:00:47.870 หรือมนุษย์แดง ที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามในสกอตแลนด์ 00:00:47.870 --> 00:00:51.078 ทั้งสองฝ่ายคำรามผรุสวาท และขว้างหินใส่กันและกัน 00:00:51.078 --> 00:00:54.077 ในสนามประลองกำลังสุดระทึก NOTE Paragraph 00:00:54.077 --> 00:00:58.601 ครั้งหนึ่ง ยกก้อนดินขึ้นมา และทุ่มมันเข้าใส่ศัตรู 00:00:58.601 --> 00:01:01.223 แต่มันตกลงก่อนจะถึงแผ่นดิน 00:01:01.223 --> 00:01:04.172 ก้อนดินดังกล่าว ก็คือ ไอส์ล ออฟ แมน 00:01:04.172 --> 00:01:07.360 และหลุมที่เกิดจากการดึงก้อนดินออกไป ก็ถูกน้ำท่วม 00:01:07.360 --> 00:01:09.874 กลายเป็น ล็อก เนย์ 00:01:09.874 --> 00:01:12.213 การแผลงวาจาของยักษ์ทั้งสองนั้นยังไม่จบ 00:01:12.213 --> 00:01:17.109 จนวันหนึ่ง บีแนนดอนเนอร์ ก็ท้าฟินน์สู้กันแบบตัวต่อตัว 00:01:17.109 --> 00:01:21.188 ยักษ์จากไอแลนด์ก็โยน ก้อนหินมนใหญ่ลงทะเล 00:01:21.188 --> 00:01:26.230 เพื่อสร้างเป็นสะพานทางเดินหิน ข้ามไปยังชายฝั่งสกอตแลนด์ NOTE Paragraph 00:01:26.230 --> 00:01:28.548 ฟินน์เดินข้ามไปด้วยความเดือดดาล 00:01:28.548 --> 00:01:30.466 เมื่อเข้าใกล้สกอตแลนด์ 00:01:30.466 --> 00:01:33.597 เขาก็เห็นบีแนนดอนเนอร์จากระยะไกล 00:01:33.597 --> 00:01:36.066 ฟินน์เป็นยักษ์ใหญ่ก็จริง 00:01:36.066 --> 00:01:39.498 แต่เมื่อเขาได้เห็นประกายสายตา จากศัตรูขนาดมหึมาจ้องมายังเขา 00:01:39.498 --> 00:01:41.304 ความกล้าก็ถูกสั่นคลอน 00:01:41.304 --> 00:01:47.986 เพียงชำเลืองดูคอขนาดใหญ่และกำปั้นหนัก ๆ ของบีแนนดอนเนอร์ ฟินน์ก็ถึงกับผละหนี NOTE Paragraph 00:01:47.986 --> 00:01:50.813 เมื่อกลับถึงบ้านโดยมีบีแนนดอนเนอร์ ตามมาติด ๆ 00:01:50.813 --> 00:01:55.446 ฟินน์เล่าเรื่องศัตรูให้โอนาห์ฟัง ด้วยเสียงอันสั่นเทา 00:01:55.446 --> 00:01:58.114 พวกเขารู้ว่า ถ้าต้องเจอกับ บีแนนดอนเนอร์ แบบตัวต่อตัว 00:01:58.114 --> 00:01:59.663 มีหวังเขาต้องถูกทุบแบนแน่ ๆ 00:01:59.663 --> 00:02:02.180 และโอนาห์ก็คิดแผนอันแยบยลได้ 00:02:02.180 --> 00:02:04.583 พวกเขาต้องสร้างกลลวงเรื่องขนาด 00:02:04.583 --> 00:02:09.850 เพื่อให้ฟินน์ดูยิ่งใหญ่ราวขุนเขา ในขณะที่ตัวจริงของเขาอยู่ในที่ซ่อน NOTE Paragraph 00:02:09.850 --> 00:02:12.533 เมื่อ บีแนนดอนเนอร์ อยู่ใกล้ปลายสะพาน 00:02:12.533 --> 00:02:15.785 โอนาห์ก็ยัดสามีของตัวเองไว้ในเปลเด็ก 00:02:15.785 --> 00:02:18.602 โดยแต่งตัวฟินน์เป็นเด็กทารกขนาดยักษ์ 00:02:18.602 --> 00:02:22.405 ฟินน์นอนเงียบ ๆ ในขณะที่บีแนนดอนเนอร์ ทุบประตูเข้ามา 00:02:22.405 --> 00:02:25.053 และเดินเข้ามาทำเอาบ้านสะเทือนไปทั้งหลัง NOTE Paragraph 00:02:25.053 --> 00:02:29.106 โอนาห์พูดกับแขกผู้เดือดดาลว่า สามีของหล่อนไม่อยู่บ้าน 00:02:29.106 --> 00:02:32.897 แต่ถ้าอยากจะนั่งลงเพื่อกินอะไรรอไปพลาง ๆ ก็ไม่ขัดอะไรหรอก 00:02:32.897 --> 00:02:35.869 เมื่อบีแนนดอนเนอร์ งับเค้กที่อยู่ตรงหน้า 00:02:35.869 --> 00:02:37.919 ก็เป็นอันต้องร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด 00:02:37.919 --> 00:02:43.281 ฟันเขาร่วงกราว เพราะโลหะที่โอนาห์ซ่อนเอาไว้ข้างใน 00:02:43.281 --> 00:02:45.970 หล่อนบอกเขาว่า นี่เป็นขนมปังสุดโปรดของฟินน์เชียวนะ 00:02:45.970 --> 00:02:48.865 เพื่อสร้างความสับสนให้กับบีแนนดอนเนอร์ 00:02:48.865 --> 00:02:51.708 ว่าเขาคงจะกระดูกคนละเบอร์กับศัตรูซะแล้ว NOTE Paragraph 00:02:51.708 --> 00:02:53.444 เมื่อฟินน์ร้องโอ๊กขึ้นมา 00:02:53.444 --> 00:02:58.838 ความสนใจของบีแนนดอนเนอร์ ก็ตกลงมาที่ทารกขนาดยักษ์ในมุมห้อง 00:02:58.838 --> 00:03:02.704 เด็กน้อยกำยำที่ห่อตัวอยู่ในผ้าห่มหนา 00:03:02.704 --> 00:03:07.170 บีแนนดอนเนอร์ ตัวสั่นเมื่อคิดว่า พ่อของเด็กจะมีหน้าตาอย่างไร 00:03:07.170 --> 00:03:09.681 เขาตัดสินใจว่าเขาจะไม่ขอเห็นของจริงดีกว่า NOTE Paragraph 00:03:09.681 --> 00:03:13.947 ขณะที่ บีแนนดอนเนอร์ เผ่น เขาพังหินที่เชื่อมชายฝั่งทั้งสองไปด้วย 00:03:13.947 --> 00:03:15.984 เพื่อเป็นการทำลายทางข้าม 00:03:15.984 --> 00:03:19.436 สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือ โครงสร้างหินที่เหมือนกันทั้งสองข้าง 00:03:19.436 --> 00:03:22.305 ข้างหนึ่งอยู่บนชายฝั่งนอร์ทแอนเทรียม ของไอแลนด์ 00:03:22.305 --> 00:03:26.663 และอีกข้างหนึ่งอยู่ที่ถ้ำฟินกัลในสกอตแลนด์ ที่อยู่ตรงข้ามกัน