WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:03.840 เคยสงสัยกันไหมคะว่า ยันต์ที่เขาเขียนๆกันลงในผ้า ลงในกระดาษ 00:00:03.860 --> 00:00:05.740 หรือว่าที่เขาเอามาสักตามตัวกันเนี่ย 00:00:05.740 --> 00:00:07.840 มันเขียนว่าอะไร มีความหมายว่ายังไง 00:00:07.840 --> 00:00:10.240 สวัสดีค่ะ วิวจากช่องยูทูบ Point of View ค่ะ 00:00:10.260 --> 00:00:13.000 วันนี้จะมาอ่านยันต์ให้ฟังค่ะ 00:00:13.800 --> 00:00:16.960 อาจจะแปลกใจนิดนึงว่าแบบเฮ้ยพี่ พี่ไปอ่านยันต์ออกได้ยังไง อะไรยังไง 00:00:16.960 --> 00:00:20.880 ก็ต้องเท้าความย้อนกลับไปถึงประวัติชีวิต ตัวเองก่อนเล็กน้อยนะคะ 00:00:20.880 --> 00:00:24.420 คือ ยันต์ทั้งหลายทั้งแหล่มันเขียนด้วยตัวอักษรขอมหวัด 00:00:24.420 --> 00:00:28.100 พูดง่ายๆว่าเป็นอักษรเขมรโบราณ ที่ไทยรับมาแล้วก็มาประยุกต์เล็กๆน้อยๆค่ะ 00:00:28.140 --> 00:00:30.200 ซึ่งในสมัยที่เรียนคณะอักษรศาสตร์นะคะ 00:00:30.200 --> 00:00:32.140 วิวเคยเรียนวิชาภาษาเขมรอยู่ค่ะ 00:00:32.140 --> 00:00:35.040 แม้ว่าปัจจุบันจะละลายหายสิ้นไปหมดแล้วก็ตามนะ 00:00:35.060 --> 00:00:39.880 แต่ว่ามันมีวิชาอีกวิชานึงค่ะ ชื่อว่าวิชาภาษาเขมรที่สัมพันธ์กับภาษาไทย 00:00:39.880 --> 00:00:44.100 และในวิชานี้นะคะ ตอนจบเทอมเนี่ย เขาจะมีให้ทำรายงานหนึ่งชิ้น 00:00:44.100 --> 00:00:46.100 เป็นเปเปอร์ หรือเขาเรียกว่าภาคนิพนธ์น่ะแหละ 00:00:46.100 --> 00:00:48.960 ตอนนั้นวิวทำเรื่องเกี่ยวกับการอ่านยันต์นี่แหละค่ะ 00:00:48.960 --> 00:00:51.180 ว่ายันต์ต่างๆเนี่ยมันหมายความว่ายังไง 00:00:51.180 --> 00:00:53.180 ดังนั้นหลังจากเรียนจบมาเนิ่นนานนะคะ 00:00:53.180 --> 00:00:56.460 วิวก็ดองรายงานฉบับนี้ไว้โดยที่ไม่ได้พูดอะไรให้ใครฟังอีก 00:00:56.460 --> 00:00:58.460 แต่ว่าพอมาเล่าให้เพื่อนฟัง ว่าเฮ้ยรู้ป้ะ 00:00:58.460 --> 00:01:00.520 ตอนมหาลัยเนี่ย ชั้นทำรายงานเรื่องนี้นะ 00:01:00.520 --> 00:01:02.520 ทุกคนก็ดูจะอยากรู้กันค่ะว่าเฮ้ย 00:01:02.520 --> 00:01:04.340 จริงๆแล้วยันต์มันเขียนว่าอะไร อะไรอย่างเงี้ย 00:01:04.340 --> 00:01:08.080 ก็เลยคิดว่าอะไหนๆก็ไหนๆ มาลองอ่านยันต์ให้ฟังกันดีกว่าค่ะ 00:01:08.080 --> 00:01:11.100 เผื่อเราจะเข้าใจยันต์ที่เขาอธิบายๆกันมากขึ้นนะ 00:01:11.100 --> 00:01:13.900 โดยวันนี้นะคะวิวจะไม่ได้อ่านยันต์ทุกประเภทให้ทุกคนฟัง 00:01:13.900 --> 00:01:16.880 เพราะว่ายันต์ก็มีหลากหลายมากมายเต็มไปหมดนะ 00:01:16.880 --> 00:01:18.880 แต่จะอ่านแค่สามแบบให้ดูค่ะ 00:01:18.880 --> 00:01:21.700 แบบแรกก็คือ ยันต์ที่เขาเรียกว่า ยันต์มหาอุตม์ 00:01:23.820 --> 00:01:26.400 อ่า เคยดูหนังเรื่องมหาอุตม์ใช่ไหมคะ นั่นแหละค่ะ 00:01:26.400 --> 00:01:29.260 ส่วนประเภทที่สองนะคะก็เป็นยันต์ที่ค่อนข้างฮิตเหมือนกัน 00:01:29.260 --> 00:01:30.460 เรียกว่ายันต์เก้ายอด 00:01:31.400 --> 00:01:34.000 ส่วนประเภทที่สามนะคะเป็นยันต์ประเภทที่ฮิตที่สุดเลย 00:01:34.000 --> 00:01:35.580 ก็คือยันต์ห้าแถวนั่นเอง 00:01:37.080 --> 00:01:39.160 ที่ดารงดาราสักกันนั่นล่ะค่ะ 00:01:39.160 --> 00:01:41.540 ถ้าสนใจแล้วก็ไปฟังกันเลยดีกว่าค่ะ 00:01:45.580 --> 00:01:47.020 ต้องบอกก่อนนะคะว่ายันต์พวกนี้ 00:01:47.020 --> 00:01:49.820 ส่วนมากจะเขียนด้วยตัวอักษรขอม 00:01:49.820 --> 00:01:52.340 แต่ว่าสิ่งที่เขียนเนี่ยจะไม่ใช่ภาษาไทย จะไม่ใช่แบบว่า 00:01:52.340 --> 00:01:55.240 สวัสดี ขอจงมีความสุข อะไรอย่างเงี้ย ไม่ใช่ 00:01:55.240 --> 00:01:56.780 เขาจะเขียนเป็นภาษาบาลีค่ะ 00:01:56.780 --> 00:02:00.020 คือที่เราเคยสวดมนต์ภาษาบาลีกัน แบบนะโมตัสสะอะไรอย่างเงี้ย 00:02:00.020 --> 00:02:01.880 นั่นแหละค่ะ เค้าจะเขียนเป็นภาษาแบบนั้น 00:02:01.880 --> 00:02:03.880 ซึ่งแปลว่าการที่เราจะแปลยันต์ออกนะคะ 00:02:03.880 --> 00:02:06.980 เราจะต้องแปลตัวอักษรขอมเนี่ยออกเป็นภาษาบาลีก่อน 00:02:06.980 --> 00:02:08.940 แล้วที่สำคัญนะคะ พวกภาษาบาลีพวกเนี้ย 00:02:08.940 --> 00:02:11.980 เขาก็ไม่ได้เขียนตรงๆ ไม่ใช่แบบนะโมตัสสะภะคะวะโต อะไรยังงี้นะ 00:02:11.980 --> 00:02:13.960 แต่ว่าเขาจะเขียนเป็นตัวอักษรย่ออีก 00:02:13.960 --> 00:02:16.220 คือนึกออกไหม ยันต์มันมีแค่เนี้ย กลมๆเล็กๆ 00:02:16.220 --> 00:02:19.780 จะให้มาเขียนบทสวดทั้งหมดอะไรยังงี้ มันก็ยาวไป ไม่โอเคนะคะ 00:02:19.780 --> 00:02:22.120 ดังนั้นเขาก็เลยเขียนเป็นตัวอักษรย่ออีกทีนึงค่ะ 00:02:22.120 --> 00:02:23.320 ดูวิชาการจังเลยอะ 00:02:23.320 --> 00:02:25.320 เรามาเริ่มที่ยันต์ประเภทที่หนึ่งกันเลยดีกว่าค่ะ 00:02:25.320 --> 00:02:27.740 ประเภทที่หนึ่งนะคะก็คือ ยันต์มหาอุตม์นั่นเอง 00:02:27.740 --> 00:02:31.260 ซึ่งยันต์มหาอุตม์เนี่ยนะคะ ตัวอักษรขอมเนี่ยเขาเขียนเอาไว้ว่า 00:02:31.260 --> 00:02:33.260 นะโม พุทธายะ อิ สวา สุ 00:02:33.260 --> 00:02:35.760 อะ คำประโยคนี้ ประโยคนี้คืออะไร 00:02:35.760 --> 00:02:38.240 นะโมนะคะ ก็คือนะโมนั่นแหละ นะโมตัสสะ 00:02:38.240 --> 00:02:40.440 หมายถึงความนอบน้อม ขอนอบน้อมนะคะ 00:02:40.440 --> 00:02:42.300 พุทธายะนี่ก็หมายถึงพระพุทธเจ้า 00:02:42.300 --> 00:02:44.180 ดังนั้นนะโม พุทธายะจึงหมายถึงว่า 00:02:44.180 --> 00:02:46.620 ข้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า นะจ๊ะ 00:02:46.620 --> 00:02:50.100 ส่วน อิ สวา สุ เนี่ย เป็นคำย่อของบทสวดมนต์ที่เราคุ้นเคยกันดีค่ะ 00:02:50.100 --> 00:02:50.880 อิคืออะไร 00:02:50.880 --> 00:02:53.940 อิคือ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ 00:02:53.940 --> 00:02:56.100 วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู 00:02:56.100 --> 00:02:57.360 อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ 00:02:57.360 --> 00:02:59.120 นั่นล่ะค่ะบทที่เราคุ้นเคยกัน 00:02:59.120 --> 00:03:01.360 ก็คือบทบูชาพระพุทธเจ้านั่นเอง 00:03:01.360 --> 00:03:03.700 พอรู้อิแล้วก็น่าจะรู้สะนะ ว่าสะมาจากไหน 00:03:03.700 --> 00:03:08.040 สะก็มาจากสวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม...นั่นแหละค่ะบทนั้นเลย 00:03:08.040 --> 00:03:09.100 แล้วสุล่ะมาจากไหน 00:03:09.100 --> 00:03:11.220 สุก็คือ สุปะฏิปันโน สาวะกะสังโฆ 00:03:11.220 --> 00:03:12.800 บลาๆๆ เช่นเดียวกัน 00:03:12.800 --> 00:03:15.560 ดังนั้นยันต์มหาอุตม์คืออะไร ยันต์มหาอุตม์คือบอกว่า 00:03:15.560 --> 00:03:18.380 ข้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า เสร็จแล้วก็สรรเสริญ 00:03:18.380 --> 00:03:21.180 คุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม แล้วก็พระสงฆ์นั่นเอง 00:03:21.180 --> 00:03:23.580 อะ นี่ก็คือยันต์แรกนะคะ คือยันต์มหาอุตม์ 00:03:23.580 --> 00:03:25.240 ถัดไปค่ะ ยันต์เก้ายอด 00:03:25.240 --> 00:03:26.680 อันนี้จะตัวอักษรเยอะนิดนึง 00:03:26.680 --> 00:03:28.780 ถามว่าเขาเขียนว่าอะไร ค่อนข้างยาวเลยทีเดียว 00:03:28.780 --> 00:03:33.480 เขาเขียนไว้ว่า อะสังวิสุ โลปุสะพุภะ สังวิทาปุกะยะปะ 00:03:33.480 --> 00:03:36.300 นะโมพุทธายะ มะอะอุ อะระหัง 00:03:36.300 --> 00:03:40.040 โอ้ ยาวมากกก นี่คืออะไร นี่มาสอนวิชาภาษาบาลีหรือยังไง 00:03:40.040 --> 00:03:42.260 บอกก่อนนะคะว่าตัวเองไม่ได้เชี่ยวชาญภาษาบาลี 00:03:42.260 --> 00:03:44.660 เอาเป็นว่าแปลแทบไม่ออกเลยดีกว่า ตอนทำรายงานก็ 00:03:44.660 --> 00:03:46.180 ค้นข้อมูลเยอะพอสมควรนะคะ 00:03:46.200 --> 00:03:47.280 ดังนั้นอย่าถามมากกว่านี้ 00:03:47.300 --> 00:03:49.020 หรือเอายันต์อื่นมาให้อ่าน ลืมไปหมดแล้ว 00:03:49.020 --> 00:03:51.980 ทีนี้ถามว่าประโยคเมื่อกี้ที่พูดมาเนี่ยแปลว่าอะไร 00:03:51.980 --> 00:03:55.600 คำว่าอะสังวิสุ โลปุสะพุภะเนี่ย เขาหมายถึง 00:03:55.600 --> 00:03:57.320 อะแรกหมายถึง พระอะระหัง 00:03:57.320 --> 00:03:59.400 ส่วนสังเนี่ยหมายถึง สัมมาสัมพุทโธ 00:03:59.400 --> 00:04:01.580 คือใช้คำว่า สัง แทน สัม นั่นเองนะคะ 00:04:01.580 --> 00:04:04.280 แล้วก็วิหมายถึง วิชชาจะระณะสัมปันโน 00:04:04.280 --> 00:04:06.700 สุก็คือสุคะโต โลคือโลกะวิทู 00:04:06.700 --> 00:04:09.760 ดังนั้นอะสังวิสุ โลปุสะพุภะก็คือ 00:04:09.760 --> 00:04:12.900 อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน บลาๆ 00:04:12.900 --> 00:04:15.260 เหมือนเมื่อกี้เป๊ะเลยนะคะ ดังนั้นก็คือการ 00:04:15.260 --> 00:04:17.260 บูชาพระพุทธเจ้านั่นแหละนะ 00:04:17.260 --> 00:04:19.260 ส่วนประโยคถัดไปนะคะที่เขาบอกว่า 00:04:19.260 --> 00:04:22.380 สังวิทาปุกะยะปะ อันนี้เป็นชื่อย่อคัมภีร์ 00:04:22.380 --> 00:04:24.500 เป็นคัมภีร์อภิธรรมเจ็ดพระคัมภีร์นะคะ 00:04:24.500 --> 00:04:26.500 ก็...ก็ช่างมันเหอะ ชื่อมันยาวน่ะนะ 00:04:26.500 --> 00:04:29.420 เอาเป็นว่าเป็นการพูดถึง พระคัมภีร์อภิธรรมต่างๆนานานะ 00:04:29.420 --> 00:04:31.260 มะอะอุ นะคะ อันนี้คือ 00:04:31.260 --> 00:04:33.820 มะ เนี่ยนะคะหมายถึง มะนุสสานังพุทโธภะคะวาติ 00:04:33.820 --> 00:04:35.120 เป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้านะคะ 00:04:35.120 --> 00:04:37.460 ส่วนอะเนี่ย มาจากอะกาลิโกเอหิปัสสิโก 00:04:37.460 --> 00:04:39.200 ใช้เป็นสัญลักษณ์แทนพระธรรม คือพระธรรมเนี่ย 00:04:39.220 --> 00:04:40.980 อยู่เหนือกาลเวลานั่นเองนะคะ 00:04:40.980 --> 00:04:43.300 ส่วนสุดท้ายนะคะ อุ พระพุทธ พระธรรมมาแล้ว 00:04:43.320 --> 00:04:45.300 ก็น่าจะเดาได้ว่าอุหมายถึงพระสงฆ์ค่ะ 00:04:45.300 --> 00:04:48.540 ก็คืออุชุปะฏิปันโน สาวะกะสังโฆนั่นเองนะคะ 00:04:48.540 --> 00:04:52.140 ก็คือเป็นแบบพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำนองนี้นะ 00:04:52.140 --> 00:04:52.960 ก็เลยหมายถึงว่า 00:04:52.960 --> 00:04:56.600 ข้าขอสรรเสริญพระพุทธเจ้า ชั้นจำพระอภิธรรมทั้งเจ็ดได้ 00:04:56.600 --> 00:04:59.480 แล้วก็ขอบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั่นเองค่ะ 00:04:59.480 --> 00:05:02.700 ส่วนยันต์แบบสุดท้ายที่เราจะมา อ่านให้ฟังในวันนี้นะคะ ก็คือยันต์ห้าแถว 00:05:02.700 --> 00:05:05.120 อันนี้จะเป็นอันที่หลายคนคุ้นเคยกันนิดนึงนะ 00:05:05.120 --> 00:05:07.940 ยันต์ห้าแถว หรือที่เรียกว่ายันต์ห้าแถวหนุนดวง 00:05:07.940 --> 00:05:10.540 ยันต์โภคทรัพย์ห้าแถวอะไรอย่างเงี้ย เขียนว่าอะไร 00:05:10.540 --> 00:05:13.320 ต้องบอกว่าถึงจะมีห้าแถวก็ตามแต่มันเป็นการเล่นคำค่ะ 00:05:13.320 --> 00:05:16.520 คือมันเขียนประโยคเดียวกันแหละ มันแค่สลับตัวกันไปเรื่อยๆๆ 00:05:16.520 --> 00:05:18.100 ดังนั้นมีแค่ประโยคเดียวเท่านั้น 00:05:18.100 --> 00:05:21.440 ซึ่งประโยคดังกล่าวนะคะเขียนว่า นะโมพุทธายะนะเมติ 00:05:21.440 --> 00:05:22.860 ซึ่งอันนี้ก็หมายความว่า 00:05:22.860 --> 00:05:25.840 ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระพุทธเจ้า นั่นเอง 00:05:25.840 --> 00:05:30.200 สรุป ยันต์ทุกชนิดที่ยกขึ้นมา ยันต์ส่วนมากที่พระเขียนๆให้ 00:05:30.200 --> 00:05:32.200 ยันต์ส่วนมากที่พระเอามาสักให้เราเนี่ยนะ 00:05:32.200 --> 00:05:34.200 ความหมายแทบจะเหมือนกันหมดเลย ก็คือ 00:05:34.200 --> 00:05:36.000 ข้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า 00:05:36.000 --> 00:05:37.400 พระพุทธเจ้าเจ๋งมาก 00:05:37.400 --> 00:05:40.480 ขอบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 00:05:40.480 --> 00:05:43.380 ข้าจำบทสวดมนต์ได้ 00:05:43.380 --> 00:05:45.380 ถามว่าแล้วที่แปลความหมายกันว่าแบบ 00:05:45.380 --> 00:05:46.920 อันนี้ช่วยให้กันภัย 00:05:46.920 --> 00:05:49.740 อันนั้นช่วยให้รักษาโรคนู่นนี่นั่นแล้วมันทำไมเหรอ 00:05:49.740 --> 00:05:51.540 คือ อันนี้เป็นการตีความเองนะคะ 00:05:51.540 --> 00:05:54.620 ว่าการที่เราบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเนี่ย 00:05:54.620 --> 00:05:57.700 ก็เป็นเหมือนกับว่า อ๋อ ขอให้พระพุทธเจ้าดูแลเรานะจ๊ะ 00:05:57.700 --> 00:05:59.820 ชั้นบูชาพระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าแล้ว 00:05:59.820 --> 00:06:02.140 ขอให้พระพุทธเจ้าดูแลรักษาเราด้วย 00:06:02.140 --> 00:06:03.184 ก็เป็นทำนองนี้ค่ะ 00:06:03.184 --> 00:06:04.780 คลิปนี้จะซีเรียสนิดนึงนะคะ 00:06:04.780 --> 00:06:07.400 เนื้อหาค่อนข้างเป็นวิชาการ เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล่าอะไรนึกออกไหม 00:06:07.400 --> 00:06:10.403 แต่ว่าคิดว่าเป็นเรื่องที่หลายคนน่าจะสนใจ 00:06:10.403 --> 00:06:12.880 แล้วก็น่าจะหาข้อมูลเองค่อนข้างยาก 00:06:12.880 --> 00:06:15.480 เพราะว่าตอนที่ทำรายงานก็หาข้อมูลค่อนข้างยากอะนะ 00:06:15.480 --> 00:06:17.640 ก็เลยอยากมาแชร์ให้ทุกคนได้ฟังค่ะ 00:06:17.640 --> 00:06:20.620 ถ้าชื่นชอบคลิปนี้ยังไงนะคะ อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังให้วิวนะคะ 00:06:20.620 --> 00:06:22.780 แล้วก็กดแชร์ เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ 00:06:22.780 --> 00:06:26.780 ไม่อยากพลาดคลิปวิดิโอใหม่ๆนะคะ อย่าลืมกด subscribe และกดปุ่มกระดิ่งเล็กๆข้างๆค่ะ 00:06:26.780 --> 00:06:29.520 มันจะได้แจ้งเตือนทุกครั้งที่วิวอัพคลิปวิดิโอเลย 00:06:29.520 --> 00:06:32.780 แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ๊ายบาย สวัสดีค่า 00:06:32.780 --> 00:06:34.780 อาจจะข้อมูลไม่เป๊ะนิดนึงนะ เพราะว่า... 00:06:34.780 --> 00:06:39.660 ก็อย่างที่บอก เวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว นับตั้งแต่การทำรายงานฉบับนั้นในสมัยปีสี่ 00:06:39.660 --> 00:06:41.660 แต่ว่าก็เป็นเรื่องที่สนุกนะ 00:06:41.660 --> 00:06:43.880 การที่เราเห็นอะไรมาตั้งแต่เด็กแล้วเราไม่เคยอ่านอะ 00:06:43.880 --> 00:06:48.300 แล้วก็แบบอยู่ดีๆก็ลองมานั่งอ่านดู แล้วก็ Oh! my gosh อะไรยังงี้ 00:06:48.300 --> 00:06:52.120 อยากสนับสนุนน้องๆทั้งหลายนะคะ ที่จะต้องทำรายงานวิชาอะไรก็ตาม 00:06:52.120 --> 00:06:56.540 แล้วครูอนุญาตว่าให้เลือกทำเรื่องอะไรก็ได้ในวิชานั้นนะ 00:06:56.540 --> 00:07:01.200 อย่าไปทำเลยเรื่องง่ายๆอะ เลือกทำเรื่องที่เราอยากรู้น่าจะดีที่สุดค่ะ 00:07:01.200 --> 00:07:03.400 เพราะมันจะทำให้เราสนุกสนานกับรายงานฉบับนั้น 00:07:03.400 --> 00:07:05.060 แล้วเราก็จะจำมันไปอีกนานแสนนาน 00:07:05.060 --> 00:07:08.000 ดีกว่าไปทำเรื่องที่แบบ เออ ให้ง่ายๆให้มันส่งๆไปนะ 00:07:08.000 --> 00:07:10.740 แล้วเราก็จะลืม เราก็จะไม่ได้อะไรจากรายงานฉบับนั้นเลยนะคะ 00:07:10.740 --> 00:07:14.400 อย่างเล่มนี้ก็เป็นเล่มที่ถือว่าเลือกเรื่องที่ยากพอสมควร 00:07:14.400 --> 00:07:17.360 แต่ว่าก็ไม่เสียใจเลยที่ทำนะ เพราะเป็นเรื่องที่คาใจอะ 00:07:17.360 --> 00:07:21.840 คือตอนเรียนวิชานี้ จะให้ไปนั่งแปลชื่อผลมงผลไม้ ที่มาจากภาษาเขมรไรงี้มันก็แบบ 00:07:21.840 --> 00:07:25.240 ไม่อยากรู้เรื่องผลไม้อะ อยากรู้เรื่องนี้ อะไรยังงี้นะคะ 00:07:25.240 --> 00:07:27.240 ก็สนุกสนานกันไปนะคะ