เคยสงสัยกันไหมคะว่า
ยันต์ที่เขาเขียนๆกันลงในผ้า ลงในกระดาษ
หรือว่าที่เขาเอามาสักตามตัวกันเนี่ย
มันเขียนว่าอะไร มีความหมายว่ายังไง
สวัสดีค่ะ วิวจากช่องยูทูบ Point of View ค่ะ
วันนี้จะมาอ่านยันต์ให้ฟังค่ะ
อาจจะแปลกใจนิดนึงว่าแบบเฮ้ยพี่
พี่ไปอ่านยันต์ออกได้ยังไง อะไรยังไง
ก็ต้องเท้าความย้อนกลับไปถึงประวัติชีวิต
ตัวเองก่อนเล็กน้อยนะคะ
คือ ยันต์ทั้งหลายทั้งแหล่มันเขียนด้วยตัวอักษรขอมหวัด
พูดง่ายๆว่าเป็นอักษรเขมรโบราณ
ที่ไทยรับมาแล้วก็มาประยุกต์เล็กๆน้อยๆค่ะ
ซึ่งในสมัยที่เรียนคณะอักษรศาสตร์นะคะ
วิวเคยเรียนวิชาภาษาเขมรอยู่ค่ะ
แม้ว่าปัจจุบันจะละลายหายสิ้นไปหมดแล้วก็ตามนะ
แต่ว่ามันมีวิชาอีกวิชานึงค่ะ
ชื่อว่าวิชาภาษาเขมรที่สัมพันธ์กับภาษาไทย
และในวิชานี้นะคะ ตอนจบเทอมเนี่ย
เขาจะมีให้ทำรายงานหนึ่งชิ้น
เป็นเปเปอร์ หรือเขาเรียกว่าภาคนิพนธ์น่ะแหละ
ตอนนั้นวิวทำเรื่องเกี่ยวกับการอ่านยันต์นี่แหละค่ะ
ว่ายันต์ต่างๆเนี่ยมันหมายความว่ายังไง
ดังนั้นหลังจากเรียนจบมาเนิ่นนานนะคะ
วิวก็ดองรายงานฉบับนี้ไว้โดยที่ไม่ได้พูดอะไรให้ใครฟังอีก
แต่ว่าพอมาเล่าให้เพื่อนฟัง ว่าเฮ้ยรู้ป้ะ
ตอนมหาลัยเนี่ย ชั้นทำรายงานเรื่องนี้นะ
ทุกคนก็ดูจะอยากรู้กันค่ะว่าเฮ้ย
จริงๆแล้วยันต์มันเขียนว่าอะไร อะไรอย่างเงี้ย
ก็เลยคิดว่าอะไหนๆก็ไหนๆ
มาลองอ่านยันต์ให้ฟังกันดีกว่าค่ะ
เผื่อเราจะเข้าใจยันต์ที่เขาอธิบายๆกันมากขึ้นนะ
โดยวันนี้นะคะวิวจะไม่ได้อ่านยันต์ทุกประเภทให้ทุกคนฟัง
เพราะว่ายันต์ก็มีหลากหลายมากมายเต็มไปหมดนะ
แต่จะอ่านแค่สามแบบให้ดูค่ะ
แบบแรกก็คือ ยันต์ที่เขาเรียกว่า ยันต์มหาอุตม์
อ่า เคยดูหนังเรื่องมหาอุตม์ใช่ไหมคะ นั่นแหละค่ะ
ส่วนประเภทที่สองนะคะก็เป็นยันต์ที่ค่อนข้างฮิตเหมือนกัน
เรียกว่ายันต์เก้ายอด
ส่วนประเภทที่สามนะคะเป็นยันต์ประเภทที่ฮิตที่สุดเลย
ก็คือยันต์ห้าแถวนั่นเอง
ที่ดารงดาราสักกันนั่นล่ะค่ะ
ถ้าสนใจแล้วก็ไปฟังกันเลยดีกว่าค่ะ
ต้องบอกก่อนนะคะว่ายันต์พวกนี้
ส่วนมากจะเขียนด้วยตัวอักษรขอม
แต่ว่าสิ่งที่เขียนเนี่ยจะไม่ใช่ภาษาไทย จะไม่ใช่แบบว่า
สวัสดี ขอจงมีความสุข อะไรอย่างเงี้ย ไม่ใช่
เขาจะเขียนเป็นภาษาบาลีค่ะ
คือที่เราเคยสวดมนต์ภาษาบาลีกัน
แบบนะโมตัสสะอะไรอย่างเงี้ย
นั่นแหละค่ะ เค้าจะเขียนเป็นภาษาแบบนั้น
ซึ่งแปลว่าการที่เราจะแปลยันต์ออกนะคะ
เราจะต้องแปลตัวอักษรขอมเนี่ยออกเป็นภาษาบาลีก่อน
แล้วที่สำคัญนะคะ พวกภาษาบาลีพวกเนี้ย
เขาก็ไม่ได้เขียนตรงๆ
ไม่ใช่แบบนะโมตัสสะภะคะวะโต อะไรยังงี้นะ
แต่ว่าเขาจะเขียนเป็นตัวอักษรย่ออีก
คือนึกออกไหม ยันต์มันมีแค่เนี้ย กลมๆเล็กๆ
จะให้มาเขียนบทสวดทั้งหมดอะไรยังงี้
มันก็ยาวไป ไม่โอเคนะคะ
ดังนั้นเขาก็เลยเขียนเป็นตัวอักษรย่ออีกทีนึงค่ะ
ดูวิชาการจังเลยอะ
เรามาเริ่มที่ยันต์ประเภทที่หนึ่งกันเลยดีกว่าค่ะ
ประเภทที่หนึ่งนะคะก็คือ ยันต์มหาอุตม์นั่นเอง
ซึ่งยันต์มหาอุตม์เนี่ยนะคะ
ตัวอักษรขอมเนี่ยเขาเขียนเอาไว้ว่า
นะโม พุทธายะ อิ สวา สุ
อะ คำประโยคนี้ ประโยคนี้คืออะไร
นะโมนะคะ ก็คือนะโมนั่นแหละ นะโมตัสสะ
หมายถึงความนอบน้อม ขอนอบน้อมนะคะ
พุทธายะนี่ก็หมายถึงพระพุทธเจ้า
ดังนั้นนะโม พุทธายะจึงหมายถึงว่า
ข้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า นะจ๊ะ
ส่วน อิ สวา สุ เนี่ย
เป็นคำย่อของบทสวดมนต์ที่เราคุ้นเคยกันดีค่ะ
อิคืออะไร
อิคือ อิติปิ โส ภะคะวา
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ
นั่นล่ะค่ะบทที่เราคุ้นเคยกัน
ก็คือบทบูชาพระพุทธเจ้านั่นเอง
พอรู้อิแล้วก็น่าจะรู้สะนะ ว่าสะมาจากไหน
สะก็มาจากสวากขาโต
ภะคะวะตา ธัมโม...นั่นแหละค่ะบทนั้นเลย
แล้วสุล่ะมาจากไหน
สุก็คือ สุปะฏิปันโน สาวะกะสังโฆ
บลาๆๆ เช่นเดียวกัน
ดังนั้นยันต์มหาอุตม์คืออะไร ยันต์มหาอุตม์คือบอกว่า
ข้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า เสร็จแล้วก็สรรเสริญ
คุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม แล้วก็พระสงฆ์นั่นเอง
อะ นี่ก็คือยันต์แรกนะคะ คือยันต์มหาอุตม์
ถัดไปค่ะ ยันต์เก้ายอด
อันนี้จะตัวอักษรเยอะนิดนึง
ถามว่าเขาเขียนว่าอะไร ค่อนข้างยาวเลยทีเดียว
เขาเขียนไว้ว่า อะสังวิสุ โลปุสะพุภะ สังวิทาปุกะยะปะ
นะโมพุทธายะ มะอะอุ อะระหัง
โอ้ ยาวมากกก นี่คืออะไร นี่มาสอนวิชาภาษาบาลีหรือยังไง
บอกก่อนนะคะว่าตัวเองไม่ได้เชี่ยวชาญภาษาบาลี
เอาเป็นว่าแปลแทบไม่ออกเลยดีกว่า ตอนทำรายงานก็
ค้นข้อมูลเยอะพอสมควรนะคะ
ดังนั้นอย่าถามมากกว่านี้
หรือเอายันต์อื่นมาให้อ่าน ลืมไปหมดแล้ว
ทีนี้ถามว่าประโยคเมื่อกี้ที่พูดมาเนี่ยแปลว่าอะไร
คำว่าอะสังวิสุ โลปุสะพุภะเนี่ย เขาหมายถึง
อะแรกหมายถึง พระอะระหัง
ส่วนสังเนี่ยหมายถึง สัมมาสัมพุทโธ
คือใช้คำว่า สัง แทน สัม นั่นเองนะคะ
แล้วก็วิหมายถึง วิชชาจะระณะสัมปันโน
สุก็คือสุคะโต โลคือโลกะวิทู
ดังนั้นอะสังวิสุ โลปุสะพุภะก็คือ
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน บลาๆ
เหมือนเมื่อกี้เป๊ะเลยนะคะ ดังนั้นก็คือการ
บูชาพระพุทธเจ้านั่นแหละนะ
ส่วนประโยคถัดไปนะคะที่เขาบอกว่า
สังวิทาปุกะยะปะ อันนี้เป็นชื่อย่อคัมภีร์
เป็นคัมภีร์อภิธรรมเจ็ดพระคัมภีร์นะคะ
ก็...ก็ช่างมันเหอะ ชื่อมันยาวน่ะนะ
เอาเป็นว่าเป็นการพูดถึง
พระคัมภีร์อภิธรรมต่างๆนานานะ
มะอะอุ นะคะ อันนี้คือ
มะ เนี่ยนะคะหมายถึง มะนุสสานังพุทโธภะคะวาติ
เป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้านะคะ
ส่วนอะเนี่ย มาจากอะกาลิโกเอหิปัสสิโก
ใช้เป็นสัญลักษณ์แทนพระธรรม คือพระธรรมเนี่ย
อยู่เหนือกาลเวลานั่นเองนะคะ
ส่วนสุดท้ายนะคะ อุ
พระพุทธ พระธรรมมาแล้ว
ก็น่าจะเดาได้ว่าอุหมายถึงพระสงฆ์ค่ะ
ก็คืออุชุปะฏิปันโน สาวะกะสังโฆนั่นเองนะคะ
ก็คือเป็นแบบพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี
ปฏิบัติชอบ ทำนองนี้นะ
ก็เลยหมายถึงว่า
ข้าขอสรรเสริญพระพุทธเจ้า
ชั้นจำพระอภิธรรมทั้งเจ็ดได้
แล้วก็ขอบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั่นเองค่ะ
ส่วนยันต์แบบสุดท้ายที่เราจะมา
อ่านให้ฟังในวันนี้นะคะ ก็คือยันต์ห้าแถว
อันนี้จะเป็นอันที่หลายคนคุ้นเคยกันนิดนึงนะ
ยันต์ห้าแถว หรือที่เรียกว่ายันต์ห้าแถวหนุนดวง
ยันต์โภคทรัพย์ห้าแถวอะไรอย่างเงี้ย เขียนว่าอะไร
ต้องบอกว่าถึงจะมีห้าแถวก็ตามแต่มันเป็นการเล่นคำค่ะ
คือมันเขียนประโยคเดียวกันแหละ
มันแค่สลับตัวกันไปเรื่อยๆๆ
ดังนั้นมีแค่ประโยคเดียวเท่านั้น
ซึ่งประโยคดังกล่าวนะคะเขียนว่า นะโมพุทธายะนะเมติ
ซึ่งอันนี้ก็หมายความว่า
ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระพุทธเจ้า นั่นเอง
สรุป ยันต์ทุกชนิดที่ยกขึ้นมา ยันต์ส่วนมากที่พระเขียนๆให้
ยันต์ส่วนมากที่พระเอามาสักให้เราเนี่ยนะ
ความหมายแทบจะเหมือนกันหมดเลย ก็คือ
ข้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าเจ๋งมาก
ขอบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ข้าจำบทสวดมนต์ได้
ถามว่าแล้วที่แปลความหมายกันว่าแบบ
อันนี้ช่วยให้กันภัย
อันนั้นช่วยให้รักษาโรคนู่นนี่นั่นแล้วมันทำไมเหรอ
คือ อันนี้เป็นการตีความเองนะคะ
ว่าการที่เราบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเนี่ย
ก็เป็นเหมือนกับว่า อ๋อ ขอให้พระพุทธเจ้าดูแลเรานะจ๊ะ
ชั้นบูชาพระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าแล้ว
ขอให้พระพุทธเจ้าดูแลรักษาเราด้วย
ก็เป็นทำนองนี้ค่ะ
คลิปนี้จะซีเรียสนิดนึงนะคะ
เนื้อหาค่อนข้างเป็นวิชาการ
เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล่าอะไรนึกออกไหม
แต่ว่าคิดว่าเป็นเรื่องที่หลายคนน่าจะสนใจ
แล้วก็น่าจะหาข้อมูลเองค่อนข้างยาก
เพราะว่าตอนที่ทำรายงานก็หาข้อมูลค่อนข้างยากอะนะ
ก็เลยอยากมาแชร์ให้ทุกคนได้ฟังค่ะ
ถ้าชื่นชอบคลิปนี้ยังไงนะคะ อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังให้วิวนะคะ
แล้วก็กดแชร์ เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
ไม่อยากพลาดคลิปวิดิโอใหม่ๆนะคะ
อย่าลืมกด subscribe และกดปุ่มกระดิ่งเล็กๆข้างๆค่ะ
มันจะได้แจ้งเตือนทุกครั้งที่วิวอัพคลิปวิดิโอเลย
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ๊ายบาย สวัสดีค่า
อาจจะข้อมูลไม่เป๊ะนิดนึงนะ เพราะว่า...
ก็อย่างที่บอก เวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว
นับตั้งแต่การทำรายงานฉบับนั้นในสมัยปีสี่
แต่ว่าก็เป็นเรื่องที่สนุกนะ
การที่เราเห็นอะไรมาตั้งแต่เด็กแล้วเราไม่เคยอ่านอะ
แล้วก็แบบอยู่ดีๆก็ลองมานั่งอ่านดู
แล้วก็ Oh! my gosh อะไรยังงี้
อยากสนับสนุนน้องๆทั้งหลายนะคะ
ที่จะต้องทำรายงานวิชาอะไรก็ตาม
แล้วครูอนุญาตว่าให้เลือกทำเรื่องอะไรก็ได้ในวิชานั้นนะ
อย่าไปทำเลยเรื่องง่ายๆอะ
เลือกทำเรื่องที่เราอยากรู้น่าจะดีที่สุดค่ะ
เพราะมันจะทำให้เราสนุกสนานกับรายงานฉบับนั้น
แล้วเราก็จะจำมันไปอีกนานแสนนาน
ดีกว่าไปทำเรื่องที่แบบ เออ ให้ง่ายๆให้มันส่งๆไปนะ
แล้วเราก็จะลืม เราก็จะไม่ได้อะไรจากรายงานฉบับนั้นเลยนะคะ
อย่างเล่มนี้ก็เป็นเล่มที่ถือว่าเลือกเรื่องที่ยากพอสมควร
แต่ว่าก็ไม่เสียใจเลยที่ทำนะ เพราะเป็นเรื่องที่คาใจอะ
คือตอนเรียนวิชานี้ จะให้ไปนั่งแปลชื่อผลมงผลไม้
ที่มาจากภาษาเขมรไรงี้มันก็แบบ
ไม่อยากรู้เรื่องผลไม้อะ อยากรู้เรื่องนี้ อะไรยังงี้นะคะ
ก็สนุกสนานกันไปนะคะ