WEBVTT 00:00:01.135 --> 00:00:03.111 ทุกคนเป็นทั้งนักเรียน 00:00:03.111 --> 00:00:04.623 และครูในคนเดียวกัน 00:00:04.623 --> 00:00:07.079 นี่คือแรงบันดาลใจของผม 00:00:07.079 --> 00:00:08.270 จากครูคนแรก 00:00:08.270 --> 00:00:09.215 แม่ของผมเอง 00:00:09.215 --> 00:00:11.838 และนี่คือผมซึ่งกำลังสอนวิชา 00:00:11.838 --> 00:00:13.791 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ 00:00:13.791 --> 00:00:15.031 ให้กับนักเรียน 200 คน 00:00:15.031 --> 00:00:16.303 ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด NOTE Paragraph 00:00:16.303 --> 00:00:17.759 ทั้งนักเรียนและตัวผมเอง 00:00:17.759 --> 00:00:18.935 ก็สนุกไปกับการเรียน 00:00:18.935 --> 00:00:20.351 แต่ผมก็เอะใจ 00:00:20.351 --> 00:00:22.062 ว่าขณะที่เนื้อหาที่เรียน 00:00:22.062 --> 00:00:23.351 ซึ่งจัดอยู่ในระดับสูง 00:00:23.351 --> 00:00:24.039 และทันสมัย 00:00:24.039 --> 00:00:26.358 แต่เทคโนโลยีที่ใช้สอนนั้นกลับตรงกันข้าม 00:00:26.358 --> 00:00:28.694 ความจริงแล้ว ผมใช้เทคโนโลยี 00:00:28.694 --> 00:00:31.064 แบบเดียวกับห้องเรียน 00:00:31.064 --> 00:00:33.694 ในศตวรรษที่ 14 เลย 00:00:33.694 --> 00:00:36.494 สังเกตได้จากทั้งหนังสือเรียน 00:00:36.494 --> 00:00:39.438 นักปราชญ์บนเวที 00:00:39.438 --> 00:00:41.337 และชายที่หลับอยู่ 00:00:41.337 --> 00:00:42.238 ด้านหลังห้อง (เสียงหัวเราะ) 00:00:42.238 --> 00:00:45.175 เหมือนวันนี้เลย NOTE Paragraph 00:00:45.175 --> 00:00:48.286 ครูที่ร่วมงานกับผม 00:00:48.286 --> 00:00:49.926 เซบาสเตียน ทราน และผมจึงคิดว่า 00:00:49.926 --> 00:00:51.700 มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ 00:00:51.700 --> 00:00:53.354 พวกเราท้าทายตัวเอง 00:00:53.354 --> 00:00:54.645 ให้สร้างห้องเรียนออนไลน์ 00:00:54.645 --> 00:00:56.276 ที่มีคุณภาพเท่าเทียมหรือดีกว่า 00:00:56.276 --> 00:00:58.612 ห้องเรียนของเราที่สแตนฟอร์ด 00:00:58.612 --> 00:01:00.822 แต่จะนำมันมาเผยแพร่ 00:01:00.822 --> 00:01:02.452 ให้ทุกคนบนโลกแบบฟรีๆ NOTE Paragraph 00:01:02.452 --> 00:01:05.020 เราประกาศรับสมัครนักเรียนในวันที่ 29 กรกฎาคม 00:01:05.020 --> 00:01:08.229 ภายในสองสัปดาห์ คน 50,000 คน 00:01:08.229 --> 00:01:09.636 ได้สมัครเข้าเรียน 00:01:09.636 --> 00:01:12.741 และนักเรียนก็เพิ่มขึ้นเป็น 160,000 คน 00:01:12.741 --> 00:01:14.805 จาก 209 ประเทศ 00:01:14.805 --> 00:01:16.613 พวกเราตื่นเต้นมาก 00:01:16.613 --> 00:01:17.734 ที่มีเสียงตอบรับล้นหลามขนาดนี้ 00:01:17.734 --> 00:01:20.373 และเราก็รู้สึกกลัวนิดๆเพราะพวกเรา 00:01:20.373 --> 00:01:22.684 ยังเตรียมการสอนไม่เสร็จเลย. (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:01:22.684 --> 00:01:24.296 พวกเราก็เลยเริ่มทำงาน 00:01:24.296 --> 00:01:25.932 พวกเราศึกษาสิ่งที่ผู้อื่นเคยทำ 00:01:25.932 --> 00:01:28.255 สิ่งที่เราสามารถลอกแบบและสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงได้ 00:01:28.255 --> 00:01:30.916 เบนจามิน บลูม ได้แสดงให้เห็นว่า 00:01:30.916 --> 00:01:32.725 การเรี่ยนแบบตัวต่อตัวได้ผลดีที่สุด 00:01:32.725 --> 00:01:34.853 นี่ก็เลยเป็นสิ่งที่เราพยายามเลียนแบบ 00:01:34.853 --> 00:01:36.293 เหมือนผมและแม่ผม 00:01:36.293 --> 00:01:37.798 ทั้งๆที่พวกเรารู้ว่า 00:01:37.798 --> 00:01:39.716 มันอาจเป็นหนึ่งต่อหลายพัน 00:01:39.716 --> 00:01:41.917 ตอนนี้ กล้องวิดีโอจากด้านบน 00:01:41.917 --> 00:01:43.749 กำลังบันทึกขณะที่ผมกำลังสอน 00:01:43.749 --> 00:01:45.428 และวาดรูปบนแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง NOTE Paragraph 00:01:45.428 --> 00:01:47.837 นักเรียนคนหนึ่งพูดว่า "การเรียนในห้องนี้ทำให้รู้สึก 00:01:47.837 --> 00:01:48.989 เหมือนนั่งอยู่ในบาร์ 00:01:48.989 --> 00:01:50.468 กับเพื่อนที่ฉลาดมากๆคนหนึ่ง 00:01:50.468 --> 00:01:51.672 ซึ่งกำลังอธิบายตรงส่วนที่ 00:01:51.672 --> 00:01:53.973 คุณยังจับใจความไม่ได้ แต่กำลังจะเข้าใจ" 00:01:53.973 --> 00:01:56.089 และนี่ตรงกับสิ่งที่เรามุ่งจะทำ NOTE Paragraph 00:01:56.089 --> 00:01:58.877 และจาก คาน อะคาเดมี่ (Khan Academy) ได้แสดงให้พวกเราเห็นว่า 00:01:58.877 --> 00:02:00.701 วิดีโอสั้นๆประมาณ 10 นาที 00:02:00.701 --> 00:02:02.477 ได้ผลอย่างมากกว่าการพยายาม 00:02:02.477 --> 00:02:04.548 ที่จะบันทึกการบรรยายที่ยาวหนึ่งชั่วโมง 00:02:04.548 --> 00:02:06.965 และเอามาไว้บนหน้าจอเล็ก 00:02:06.965 --> 00:02:09.157 พวกเราได้ตัดสินใจจะทำให้สั้นกว่านี้อีก 00:02:09.157 --> 00:02:10.805 และให้มีการโต้ตอบระหว่างกันมากยิ่งขึ้น 00:02:10.805 --> 00:02:13.052 วีดีโอแบบของเรามีความยาวสองนาที 00:02:13.052 --> 00:02:14.804 บางทีก็สั้นกว่านั้น และไม่เคยเกินหกนาที 00:02:14.804 --> 00:02:17.493 แล้วเราจะหยุดชั่วคราว 00:02:17.493 --> 00:02:18.860 สำหรับตั้งคำถามทดสอบ 00:02:18.860 --> 00:02:20.738 เพื่อให้รู้สึกเหมือนเป็นการสอนตัวต่อตัว 00:02:20.738 --> 00:02:23.140 ตรงนี้ ผมกำลังอธิบายวิธีการที่คอมพิวเตอร์ 00:02:23.140 --> 00:02:24.388 ใช้หลักไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ 00:02:24.388 --> 00:02:26.565 เพื่อที่จะแยกวิเคราะห์ประโยคอย่างไร และตรงนี้ 00:02:26.565 --> 00:02:28.629 มีการหยุดชั่วคราว เพื่อให้นักเรียน 00:02:28.629 --> 00:02:30.866 ได้คิดทบทวน ทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังเรียน 00:02:30.866 --> 00:02:32.506 แล้วก็เลือกคำตอบที่ถูกต้อง 00:02:32.506 --> 00:02:33.923 ก่อนที่พวกเขาจะเรียนต่อ NOTE Paragraph 00:02:33.923 --> 00:02:36.371 นักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อ 00:02:36.371 --> 00:02:37.619 เขาฝึกฝนอย่างกระตือรือร้นไปด้วย 00:02:37.619 --> 00:02:39.915 พวกเราอยากให้พวกเขามีส่วนร่วม ให้พยายามอย่างหนัก 00:02:39.915 --> 00:02:42.883 กับสิ่งที่คลุมเครือ และชี้แนะให้พวกเขา 00:02:42.883 --> 00:02:44.548 สังเคราะห์แนวคิดขึ้นมาเอง 00:02:44.548 --> 00:02:46.260 ส่วนใหญ่แล้วเราจะหลีกเลี่ยงคำถาม 00:02:46.260 --> 00:02:47.971 เช่น "นี่เป็นสูตร 00:02:47.971 --> 00:02:49.046 จงหาค่าของ Y 00:02:49.046 --> 00:02:50.258 เมื่อ X มีค่าเท่ากับสอง" 00:02:50.258 --> 00:02:52.075 พวกเราชอบคำถามปลายเปิดมากกว่า NOTE Paragraph 00:02:52.075 --> 00:02:55.253 มีนักเรียนคนหนึ่งเขียนว่า "ตอนนี้ผมเห็น 00:02:55.253 --> 00:02:57.115 เครือข่ายเบย์สและตัวอย่างของ 00:02:57.115 --> 00:02:58.683 ทฤษฎีเกมส์ทุกที่เลย" 00:02:58.683 --> 00:03:00.421 และผมชอบการตอบรับแบบนั้น 00:03:00.421 --> 00:03:02.227 มันเป็นเป้าหมายของเรา 00:03:02.227 --> 00:03:04.421 พวกเราไม่ได้ต้องการให้เด็กท่องจำสูตร 00:03:04.421 --> 00:03:05.611 เราอยากจะเปลี่ยนแปลงวิธี 00:03:05.611 --> 00:03:06.701 ที่พวกเขามองโลก 00:03:06.701 --> 00:03:08.027 และเราก็ทำสำเร็จ 00:03:08.027 --> 00:03:10.427 หรือจริงแล้วๆ ผมควรพูดว่า พวกนักเรียนทำสำเร็จ NOTE Paragraph 00:03:10.427 --> 00:03:12.346 และมันก็น่าขำอยู่บ้าง 00:03:12.346 --> 00:03:15.259 ที่เรามุ่งจะเปลี่ยนการศึกษาแบบดั้งเดิม 00:03:15.259 --> 00:03:17.275 และในการพยายามทำอย่างนั้น เราก็ได้ 00:03:17.275 --> 00:03:18.859 ทำให้ห้องเรียนออนไลน์ของเรา 00:03:18.859 --> 00:03:21.186 เป็นเหมือนกับห้องแบบเดิมในมหาวิทยาลัย 00:03:21.186 --> 00:03:23.027 มากกว่าห้องเรียนออนไลน์อื่นๆ 00:03:23.027 --> 00:03:26.242 ห้องเรียนออนไลน์ส่วนมากจะมีวิดีโอให้ดูเสมอ 00:03:26.242 --> 00:03:28.059 คุณสามารถดูมันตอนไหนก็ได้ 00:03:28.059 --> 00:03:30.346 แต่ถ้าคุณดูมันตอนไหนก็ได้ 00:03:30.346 --> 00:03:31.851 นั่นแปลว่าคุณสามารถดูพรุ่งนี้ก็ได้ 00:03:31.851 --> 00:03:33.259 และถ้าคุณสามารถดูมันพรุ่งนี้ได้ 00:03:33.259 --> 00:03:35.421 คุณอาจจะ 00:03:35.421 --> 00:03:37.179 ไม่ดูมันเลย (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:03:37.179 --> 00:03:39.371 เราก็เลยเอานวัตกรรม 00:03:39.371 --> 00:03:41.458 ของการส่งการบ้านกลับมาใช้ (เสียงหัวเราะ) 00:03:41.458 --> 00:03:42.770 คุณสามารถดูวีดีโอ 00:03:42.770 --> 00:03:44.682 ตอนไหนก็ได้ในสัปดาห์นั้น 00:03:44.682 --> 00:03:45.837 แต่ตอนสิ้นสุดสัปดาห์ 00:03:45.837 --> 00:03:47.554 คุณต้องทำการบ้านให้เสร็จ 00:03:47.554 --> 00:03:49.467 การทำอย่างนี้จูงใจให้นักเรียนเรียนอย่างต่อเนื่อง 00:03:49.467 --> 00:03:52.323 และแปลว่าทุกคนกำลังทำงานอยู่ 00:03:52.323 --> 00:03:53.841 ในเรื่องเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน 00:03:53.841 --> 00:03:55.338 ดังนั้นถ้าคุณไปที่บอร์ดการสนทนา 00:03:55.338 --> 00:03:58.042 คุณอาจจะได้คำตอบจากเพื่อนภายในไม่กี่นาที 00:03:58.042 --> 00:04:00.981 เดี๋ยวผมจะเอาบอร์ดการสนทนามาให้ดู ส่วนมากแล้ว 00:04:00.981 --> 00:04:03.747 บอร์ดพวกนี้นักเรียนเป็นคนจัดการกันเอง NOTE Paragraph 00:04:03.747 --> 00:04:06.971 จาก แดฟนิ คอลเลอร์ และ แอนดรู อึ้ง พวกเราเรียนรู้ 00:04:06.971 --> 00:04:08.967 แนวคิดการ "พลิก" ห้องเรียน 00:04:08.967 --> 00:04:10.262 นักเรียนดูวีดีโอตามลำพัง 00:04:10.262 --> 00:04:11.850 เสร็จแล้วพวกเขา 00:04:11.850 --> 00:04:13.560 จะมารวมกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 00:04:13.560 --> 00:04:16.717 จาก เอริค มาเซอร์ .. ผมได้เรียนรู้เรื่องเพื่อนสอนเพื่อน 00:04:16.717 --> 00:04:19.341 ว่าเพื่อนสามารถเป็นครูที่ดีที่สุดได้ 00:04:19.341 --> 00:04:20.773 เพราะพวกเขาเป็นคนที่ 00:04:20.773 --> 00:04:23.621 จำได้ว่ามันรู้สึกอย่างไงตอนไม่เข้าใจ 00:04:23.621 --> 00:04:26.302 เซบาสเตียน และผมลืมเรื่องนั้นไปแล้ว 00:04:26.302 --> 00:04:28.701 แน่นอน พวกเราไม่อาจมี 00:04:28.701 --> 00:04:30.333 การแลกเปลี่ยนความเห็นกัน 00:04:30.333 --> 00:04:31.879 ในห้องที่มีนักเรียนเป็นหมื่นคน 00:04:31.879 --> 00:04:35.365 เราเลยส่งเสริมและช่วยดูแลพวกกระดานสนทนาออนไลน์นี้ NOTE Paragraph 00:04:35.365 --> 00:04:38.413 และสุดท้ายนี้ จากโครงการ "สอนเพื่ออเมริกา" (Teach for America) 00:04:38.413 --> 00:04:39.894 ผมได้เรียนรู้ว่าห้องเรียนนั้น 00:04:39.894 --> 00:04:41.390 ไม่ได้เกี่ยวกับข้อมูลเพียงอย่างเดียว 00:04:41.390 --> 00:04:44.221 ที่สำคัญกว่านั้นคือแรงจูงใจและความมุ่งมั่น 00:04:44.221 --> 00:04:46.061 มันสำคัญมากที่นักเรียนจะเห็น 00:04:46.061 --> 00:04:47.861 ว่าพวกเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเขา 00:04:47.861 --> 00:04:49.270 และพวกเขาทุกคนกำลังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน NOTE Paragraph 00:04:49.270 --> 00:04:52.238 ห้องเรียนนี้เปิดสอนนานสิบสัปดาห์ 00:04:52.238 --> 00:04:56.149 และในตอนจบ ประมาณครึ่งหนึ่งของนักเรียน 160,000 คนได้ดู 00:04:56.149 --> 00:04:57.712 อย่างน้อยหนึ่งวีดีโอต่อสัปดาห์ 00:04:57.712 --> 00:05:00.405 และมีนักเรียนมากกว่า 20,000 คนที่ทำการบ้านครบทั้งหมด 00:05:00.405 --> 00:05:02.069 โดยใช้เวลา 50 ถึง 100 ชั่วโมง 00:05:02.069 --> 00:05:03.622 พวกเขาได้รับใบประกาศนียบัตร NOTE Paragraph 00:05:03.622 --> 00:05:05.741 แล้วพวกเราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการสอนนี้? 00:05:05.741 --> 00:05:08.557 เราได้ลองเอาความคิดเก่าๆ 00:05:08.557 --> 00:05:10.214 และความคิดใหม่ๆมาผสมกัน 00:05:10.214 --> 00:05:12.296 แต่ยังมีแนวคิดอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ลอง 00:05:12.296 --> 00:05:14.110 ตอนนี้เซบาสเตียนกำลังสอนอีกวิชาหนึ่งอยู่ 00:05:14.110 --> 00:05:15.478 ผมเองก็จะสอนอีกในฤดูใบไม้ร่วง 00:05:15.478 --> 00:05:19.238 สแตนฟอร์ด คอร์เซร่า (Stanford Coursera), ยูด้าซิตี้ (Udacity), เอ็มไอทีเอกซ์ (MITx) 00:05:19.238 --> 00:05:21.509 และที่อื่นๆก็มีวิชาที่กำลังจะเปิด 00:05:21.509 --> 00:05:22.997 มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นจริงๆ NOTE Paragraph 00:05:22.997 --> 00:05:24.469 แต่สำหรับผมแล้ว สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดส่วนหนึ่ง 00:05:24.469 --> 00:05:27.445 คือข้อมูลที่เรากำลังเก็บรวบรวม 00:05:27.445 --> 00:05:30.141 เรากำลังรวบรวม 00:05:30.141 --> 00:05:31.797 ปฏิสัมพันธ์หลายพันครั้งต่อนักเรียนต่อห้อง 00:05:31.797 --> 00:05:34.005 รวมๆกันแล้วเป็นการติดต่อสัมพันธ์กันหลายพันล้านครั้ง 00:05:34.005 --> 00:05:36.509 และตอนนี้เราจะเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลนั้น 00:05:36.509 --> 00:05:37.973 และเมื่อเราได้เรียนรู้จากมัน 00:05:37.973 --> 00:05:39.214 ได้ทำการทดลองมัน 00:05:39.214 --> 00:05:41.454 เราก็จะก้าวเข้าสู่การปฏิวัติที่แท้จริง 00:05:41.454 --> 00:05:44.230 และคุณจะเห็นผลลัพธ์ 00:05:44.230 --> 00:05:46.493 จากนักเรียนรุ่นใหม่ที่น่าทึ่ง 00:05:46.493 --> 00:05:48.746 (เสียงปรบมือ)