1 00:00:14,226 --> 00:00:15,931 ลองนึกถึงสถานที่ที่มึดมากๆ 2 00:00:15,931 --> 00:00:18,149 คุณมองไม่เห็นอะไรเลยแม้กระทั่งจมูกของคุณเอง 3 00:00:18,149 --> 00:00:21,217 จะลืมตาหรือหลับตา มันก็ไม่ต่างกัน 4 00:00:21,217 --> 00:00:23,985 เพราะว่า ที่นี่แสงตะวันไม่เคยสาดส่อง 5 00:00:23,985 --> 00:00:26,073 มองไปข้างหน้า คุณเห็นแสง 6 00:00:26,073 --> 00:00:27,961 เมื่อคุณคืบเข้าไปเพื่อจะสอดส่อง 7 00:00:27,961 --> 00:00:30,212 แสงสีฟ้าก็โผบินรอบตัวคุณ 8 00:00:30,212 --> 00:00:32,396 "ฉันดูมันได้ทั้งวันเลยนะเนี่ย" คุณคิด 9 00:00:32,396 --> 00:00:33,417 แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น 10 00:00:33,417 --> 00:00:36,268 เพราะว่าปากของปลาตกเบ็ดอ้าออกอย่างรวดเร็ว 11 00:00:36,268 --> 00:00:38,471 และกินคุณไปทั้งตัวเลย 12 00:00:38,471 --> 00:00:40,046 คุณเป็นหนึ่งในสิ่งชีวิตอีกมากมาย 13 00:00:40,046 --> 00:00:42,352 ณ ใต้ก้นมหาสมุทร ที่เรียนรู้ช้าเกินไป 14 00:00:42,352 --> 00:00:45,939 ที่จะซาบซึ้งถึงพบพลังของการเรืองแสงทางชีวภาพ 15 00:00:45,939 --> 00:00:48,233 การเรืองแสงทางชีวภาพนั้น หมายถึงความสามารถ 16 00:00:48,233 --> 00:00:50,858 ของสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่สามารถสร้างแสงได้ 17 00:00:50,858 --> 00:00:52,535 ร่างกายของมนุษย์สามารถสร้างสิ่งต่างๆ 18 00:00:52,535 --> 00:00:55,626 เช่น ขี้หู หรือว่า เล็บเท้า 19 00:00:55,626 --> 00:00:57,214 แต่สิ่งมีชีวิตพวกนี้สามารถเปลี่ยน 20 00:00:57,214 --> 00:00:59,862 ส่วนของร่างกายของพวกมันเป็นแท่งเรืองแสงได้ 21 00:00:59,862 --> 00:01:02,230 มันเหมือนกับธรรมชาติสร้างให้พวกมันพร้อมจะอวดฟุ้ง 22 00:01:02,230 --> 00:01:03,203 ทำไมน่ะหรือ 23 00:01:03,203 --> 00:01:04,539 ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง 24 00:01:04,539 --> 00:01:08,601 การเรืองแสงทางชีวภาพนั้นส่งเสริมให้สิ่งมีชีวิต มีโอกาสอยู่รอด 25 00:01:08,601 --> 00:01:10,044 ยกตัวอย่างเช่น หิ่งห้อย 26 00:01:10,044 --> 00:01:11,603 ความสามารถของมันที่เรืองแสงสีเขียวได้ 27 00:01:11,603 --> 00:01:14,434 ช่วยมันในการหาคู่ ในคืนฤดูร้อนอันแสนอบอุ่น 28 00:01:14,434 --> 00:01:17,342 แต่มันก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตหนึ่งในอีกหลายชนิด ที่สามารถเรืองแสงได้ 29 00:01:17,342 --> 00:01:20,054 หนอนรถไฟ Phrixothrix hirtus 30 00:01:20,054 --> 00:01:21,936 สามารถทำให้ร่างกายของมันส่องสว่างได้สองสี 31 00:01:21,936 --> 00:01:23,171 แดงและเขียว 32 00:01:23,171 --> 00:01:24,261 คุณอยากที่จะกินอะไรบางอย่าง 33 00:01:24,261 --> 00:01:26,561 ที่เหมือนกับทางขึ้นลงเครื่องบินหรือเปล่าล่ะ 34 00:01:26,561 --> 00:01:28,813 นักล่าที่มีวิจารณญาณก็คิดเช่นเดียวกัน 35 00:01:28,813 --> 00:01:31,719 แสงกระพริบนั้นทำให้หนอนปลอดภัย 36 00:01:31,719 --> 00:01:33,778 จากนั้นก็ยังมีกุ้งในทะเลลึก 37 00:01:33,778 --> 00:01:35,527 Acantherphyra purpurea 38 00:01:35,527 --> 00:01:36,862 เมื่อมันรู้สึกว่าถูกคุกคาม 39 00:01:36,862 --> 00:01:40,027 มันพ่นหมอกเมือกที่เรืองแสงออกจากปากของมัน 40 00:01:40,027 --> 00:01:41,326 ใครจะไม่อยากวิ่งหนีไปอีกทาง 41 00:01:41,326 --> 00:01:43,600 เมื่อพวกมันเพิ่งโดนอาเจียนใส่แบบนั้น 42 00:01:43,600 --> 00:01:46,143 นอกจากนี้ เมือกนั้นยังล่อตานักล่าที่ตัวโตกว่า 43 00:01:46,143 --> 00:01:48,386 ที่อยากจะกินศัตรูของกุ้ง 44 00:01:48,386 --> 00:01:50,687 แล้วถ้าคุณเรืองแสงไม่ได้ล่ะ 45 00:01:50,687 --> 00:01:51,741 ไม่มีปัญหา 46 00:01:51,741 --> 00:01:53,322 มันยังมีอีกหลายหนทางสำหรับสิ่งมีชีวิต 47 00:01:53,322 --> 00:01:55,524 ที่จะทำให้การเรืองแสงทางชีวภาพทำประโยชน์ให้พวกมัน 48 00:01:55,524 --> 00:01:58,556 แม้ว่าพวกมันไม่ได้เกิดมากับสิ่งที่จะทำให้เรืองแสงได้ 49 00:01:58,556 --> 00:02:00,400 ลองกลับไปดูปลาตกเบ็ดกัน 50 00:02:00,400 --> 00:02:02,402 ณ วินาทีก่อนที่มันพยายามจะกินคุณ 51 00:02:02,402 --> 00:02:04,196 เหยื่อล่อที่เรืองแสงบนหัวของมัน 52 00:02:04,196 --> 00:02:07,181 มันเป็นถุงหนังที่เรียกว่า เอสก้า (esca) 53 00:02:07,181 --> 00:02:10,035 ในถุงนั้นบรรจุแบคทีเรียที่สามารถเรืองแสงได้ 54 00:02:10,035 --> 00:02:12,290 ปลาตกเบ็ดเรืองแสงเองไม่ได้ 55 00:02:12,290 --> 00:02:16,327 ดังนั้นมันจึงถือถุงที่มีแบคทีเรียเรืองแสงได้แทน 56 00:02:16,327 --> 00:02:18,001 จำหิงห้อยได้ไหม 57 00:02:18,001 --> 00:02:20,083 มันสามารถเรืองแสงเองได้จริงๆ 58 00:02:20,083 --> 00:02:22,674 ในโคมของมันมีสารเคมีอยู่สองชนิด 59 00:02:22,674 --> 00:02:25,190 ลูซิเฟอริน (luciferin) กับ ลูซิเฟอเรส (luciferase) 60 00:02:25,190 --> 00:02:28,095 เมื่อลูซิเฟอเรสและลูซิเฟอรินของหิงห้อยเข้าผสมกัน 61 00:02:28,095 --> 00:02:29,389 ในภาวะที่มีออกซิเจน 62 00:02:29,389 --> 00:02:31,474 และพลังงานจากเซลล์ที่เรียกว่า เอทีพี (ATP) 63 00:02:31,474 --> 00:02:35,184 ปฎิกิริยาเคมีนั้นให้พลังงาน ปรากฎออกมาในรูปของแสง 64 00:02:35,184 --> 00:02:36,644 เมื่อนักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า 65 00:02:36,644 --> 00:02:39,606 หิงห้อยสร้างลูซิเฟอเรสและลูซิเฟอรินของมันได้อย่างไร 66 00:02:39,606 --> 00:02:41,193 พวกเขาใช้เทคนิคการตัดต่อพันธุกรรม 67 00:02:41,193 --> 00:02:43,110 เพื่อที่จะสร้างปฎิกิริยาที่ให้แสง 68 00:02:43,110 --> 00:02:46,259 ให้เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่ไม่สามารถเรืองแสงได้ 69 00:02:46,259 --> 00:02:48,461 ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาแทรกยีน 70 00:02:48,461 --> 00:02:50,123 หรือคู่มือสำหรับเซลล์ 71 00:02:50,123 --> 00:02:54,363 เพื่อสร้างลูซิเฟอเรสและลูซิเฟอรินของหิงห้อย ในต้นยาสูบ 72 00:02:54,363 --> 00:02:57,216 เมื่อมันอยู่ในนั้นแล้ว ต้นยาสูบก็ทำตามคู่มือ 73 00:02:57,216 --> 00:03:01,231 รวมมันเข้าไปในดีเอ็นเอของตัวเอง และส่องแสงเหมือนกับไฟต้นคริสมาส 74 00:03:01,231 --> 00:03:02,794 ความงามแห่งการเรืองแสงทางชีวภาพ 75 00:03:02,794 --> 00:03:05,544 ไม่เหมือนกับแสงจากดวงอาทิตย์หรือหลอดไส้ 76 00:03:05,544 --> 00:03:07,136 ตรงที่มันไม่ร้อน 77 00:03:07,136 --> 00:03:09,422 มันเกิดขึ้นในช่วงอุณหภูมิ 78 00:03:09,422 --> 00:03:11,406 ที่จะไม่สามารถเผาสิ่งมีชีวิตได้ 79 00:03:11,406 --> 00:03:12,844 และไม่เหมือนกับแท่งเรืองแสง 80 00:03:12,844 --> 00:03:15,720 ซึ่งจะค่อยๆจางไปเมื่อสารเคมีข้างในถูกใช้หมด 81 00:03:15,720 --> 00:03:19,466 ปฎิกิริยาการเรืองแสงทางชีวภาพนั้น ใช้แหล่งพลังงานที่มีการเติมกลับเข้าไปได้ 82 00:03:19,466 --> 00:03:20,931 นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมวิศวกร 83 00:03:20,931 --> 00:03:24,221 กำลังพยายามที่จะพัฒนาต้นไม้ที่เรืองแสงได้ 84 00:03:24,221 --> 00:03:26,767 ลองคิดดูสิ ถ้าต้นไม้บนข้างทางหลวง 85 00:03:26,767 --> 00:03:28,817 สามารถส่องสว่างให้กับทาง โดยใช้แค่เพียงออกซิเจน 86 00:03:28,817 --> 00:03:32,464 และวัตถุดิบอื่นๆที่สะอาด และมีอยู่ทั่วไปใช้ได้ฟรีๆ 87 00:03:32,464 --> 00:03:34,539 ลองพูดถึงเรื่องความได้เปรียบในการอยู่รอด 88 00:03:34,539 --> 00:03:37,157 นั่นอาจทำให้โลกของเราอยู่ได้นานขึ้น 89 00:03:37,157 --> 00:03:39,494 คุณกำลังคิดถึงทางเลือกอื่นๆอยู่อีกหรือเปล่า 90 00:03:39,494 --> 00:03:42,363 ที่จะนำการเรืองแสงทางชีวภาพมาทำประโยชน์ 91 00:03:42,363 --> 00:03:44,402 แท่งเรืองแสงที่คุณแกว่งไปมาในงานคอนเสิร์ต 92 00:03:44,402 --> 00:03:46,001 อาจช่วยคุณในการหาคู่ 93 00:03:46,001 --> 00:03:49,754 แต่การเรืองแสงนั้นจะช่วยส่งเสริมให้คุณอยู่รอดได้อย่างไร 94 00:03:49,754 --> 00:03:51,631 ถ้าคุณเริ่มที่จะคิดมาในแนวทางนี้ 95 00:03:51,631 --> 00:03:53,466 คุณก็ได้เห็นแสงสว่างแล้ว