1 00:00:00,000 --> 00:00:00,520 - 2 00:00:00,520 --> 00:00:04,360 ในวิดีโอก่อนๆ, ผมได้กล่าวไว้ว่าแรงค์ของ 3 00:00:04,360 --> 00:00:08,280 เมทริกซ์ A เท่ากับแรงค์ของทรานสโพสของมัน 4 00:00:08,280 --> 00:00:09,910 และผมให้เหตุผลแบบลวกๆ ไป 5 00:00:09,910 --> 00:00:12,310 มันคือตอนจบของวิดีโอ, และผมเหนื่อยแล้ว 6 00:00:12,310 --> 00:00:13,710 ที่จริงมันตอนท้ายของวันแล้ว 7 00:00:13,710 --> 00:00:16,810 และผมว่ามันมีค่าที่จะพูดถึง 8 00:00:16,810 --> 00:00:17,300 มันอีกหน่อย 9 00:00:17,300 --> 00:00:18,620 เพราะมันเป็นบทเรียนที่สำคัญ 10 00:00:18,620 --> 00:00:21,550 มันจะช่วยให้เราเข้าใจทุกอย่างเที่เราเรียน 11 00:00:21,550 --> 00:00:23,200 ได้ดีขึ้น 12 00:00:23,200 --> 00:00:25,560 ลองมาเข้าใจ -- ผมจะเริ่มต้นด้วย 13 00:00:25,560 --> 00:00:26,830 แรงค์ของ A ทรานสโพสก่อน 14 00:00:26,830 --> 00:00:31,630 - 15 00:00:31,630 --> 00:00:37,080 แรงค์ของ A ทรานสโพส เท่ากับมิติของ 16 00:00:37,080 --> 00:00:40,020 สเปซคอลัมน์ของ A ทรานสโพส 17 00:00:40,020 --> 00:00:42,690 นั่นคือนิยามของแรงค์ 18 00:00:42,690 --> 00:00:46,810 มิติของสเปซคอลัมน์ของ A ทรานสโพส 19 00:00:46,810 --> 00:00:53,950 คือจำนวนเวกเตอร์ฐานสำหรับ 20 00:00:53,950 --> 00:00:55,330 สเปซคอลัมน์ของ A ทรานสโพส 21 00:00:55,330 --> 00:00:56,810 นั่นคิอมิติ 22 00:00:56,810 --> 00:00:59,900 สำหรับสับสเปซใดๆ, คุณหาได้ว่ามีเวกเตอร์ฐานกี่ตัวที่ 23 00:00:59,900 --> 00:01:01,910 คุณจำเป็นต้องใช้ในสับสเปซ, และคุณนับมัน 24 00:01:01,910 --> 00:01:02,830 นั่นก็คือมิติของคุณ 25 00:01:02,830 --> 00:01:07,180 มันก็คือจำนวนเวกเตอร์ฐานของสเปซคอลัมน์ 26 00:01:07,180 --> 00:01:10,150 ของ A ทรานสโพส, ซึ่งก็เหมือนกันแน่นอน 27 00:01:10,150 --> 00:01:12,530 สิ่งนี้เราเห็นมาหลายครั้งแล้ว, มันเหมือนกับ 28 00:01:12,530 --> 00:01:13,780 สเปซแถวของ A 29 00:01:13,780 --> 00:01:17,690 - 30 00:01:17,690 --> 00:01:17,950 จริงไหม? 31 00:01:17,950 --> 00:01:20,220 คอลัมน์ของ A ทรานสโพสนั้นเหมือนกับ 32 00:01:20,220 --> 00:01:21,785 แถวของ A 33 00:01:21,785 --> 00:01:24,310 เพราะคุณสลับแถวกับคอลัมน์กัน 34 00:01:24,310 --> 00:01:27,480 ทีนี้, เราจะหาจำนวนของเวกเตอร์ฐาน 35 00:01:27,480 --> 00:01:30,390 ที่เราต้องใช้สำหรับสเปซคอลัมน์ของ A ทรานสโพส, หรือ 36 00:01:30,390 --> 00:01:32,040 สเปซแถวของ A ได้อย่างไร? 37 00:01:32,040 --> 00:01:34,160 ลองคิดถึงสเปซคอลัมน์ของ A 38 00:01:34,160 --> 00:01:36,330 ทรานสโพสว่ามันบอกอะไรเรา 39 00:01:36,330 --> 00:01:38,290 มันก็เท่ากับ -- สมมุติว่า, ขอผม 40 00:01:38,290 --> 00:01:39,690 วาด A แบบนี้นะ 41 00:01:39,690 --> 00:01:43,400 - 42 00:01:43,400 --> 00:01:44,420 นั่นคือเมทริกซ์ A 43 00:01:44,420 --> 00:01:47,160 สมมุติว่ามันคือเมทริกซ์ขนาด m คูณ n 44 00:01:47,160 --> 00:01:49,210 ขอผมเขียนมันเป็นเวกเตอร์แถวหลายๆ ตัวนะ 45 00:01:49,210 --> 00:01:51,040 ผมสามารถเขียนมันเป็นเวกเตอร์คอลัมน์หลายๆ ตัว, แต่ 46 00:01:51,040 --> 00:01:53,150 ตรงนี้ลองใช้เวกเตอร์แถวกัน 47 00:01:53,150 --> 00:01:55,420 เรามีแถวที่ 1 48 00:01:55,420 --> 00:01:57,420 ทรานสโพสของเวกเตอร์คอลัมน์ 49 00:01:57,420 --> 00:02:02,460 นั่นคือแถว 1, และเราจะมีแถว 2, และ 50 00:02:02,460 --> 00:02:05,710 เราก็ไปจนถึงแถวที่ m 51 00:02:05,710 --> 00:02:06,010 จริงไหม? 52 00:02:06,010 --> 00:02:06,970 มันคือเมทริกซ์ขนาด m คูณ n 53 00:02:06,970 --> 00:02:10,289 เวกเตอร์แต่ลตัวนี้ จะเป็นสมาชิกของ rn, เพราะพวกมัน 54 00:02:10,289 --> 00:02:11,690 จะมีค่า n ค่าในนั้น 55 00:02:11,690 --> 00:02:13,800 เพราะเรามี n คอลัมน์ 56 00:02:13,800 --> 00:02:15,730 แล้ว, A จะเป็นอย่างไร 57 00:02:15,730 --> 00:02:17,050 A จะเป็นแบบนั้น 58 00:02:17,050 --> 00:02:20,660 แล้ว A ทรานสโพส, แถวพวกนี้ทั้งหมด 59 00:02:20,660 --> 00:02:22,480 จะเป็นคอลัมน์ 60 00:02:22,480 --> 00:02:27,670 A ทรานสโพสจะเป็นแบบนี้. r1, r2, 61 00:02:27,670 --> 00:02:30,890 ไปจนถึง rm 62 00:02:30,890 --> 00:02:33,880 และนี่แน่นอนจะเป็นเมทริกซ์ขนาด n คูณ m 63 00:02:33,880 --> 00:02:35,485 คุณสลับพวกนี้ไปได้ 64 00:02:35,485 --> 00:02:38,670 แล้วแถวพวกนี้ทั้งหมดจะเป็นคอลัมน์ 65 00:02:38,670 --> 00:02:39,650 จริงไหม? 66 00:02:39,650 --> 00:02:41,590 และแน่นอน สเปซคอลัมน์ -- มันอาจไม่ 67 00:02:41,590 --> 00:02:47,350 ชัดเท่าไหร่ -- สเปซคอลัมน์ของ A ทรานสโพส เท่ากับ 68 00:02:47,350 --> 00:02:56,270 สแปนของ r1, r2 ไปจนถึง rm 69 00:02:56,270 --> 00:02:56,900 จริงไหม? 70 00:02:56,900 --> 00:02:58,390 มันเท่ากับสแปนของเจ้าพวกนี้ 71 00:02:58,390 --> 00:03:00,780 หรือคุณอาจบอกได้เช่นกันว่า, มันเท่ากับสเแปน 72 00:03:00,780 --> 00:03:01,470 ของแถวของ A 73 00:03:01,470 --> 00:03:03,740 นั่นคือสาเหตุที่มันเรียกว่าสเปซแถว 74 00:03:03,740 --> 00:03:12,560 นี่เท่ากับสแปนของแถวของ A 75 00:03:12,560 --> 00:03:14,530 สองอย่างนี้เหมือนกัน 76 00:03:14,530 --> 00:03:16,100 ทีนี้, พวกนี้คือสแปน 77 00:03:16,100 --> 00:03:18,260 นั่นหมายความว่า นี่คือสับสเปซ คือผลรวม 78 00:03:18,260 --> 00:03:20,700 เชิงเส้นของคอลัมน์เหล่านี้ทั้งหมด, หรือผลรวม 79 00:03:20,700 --> 00:03:22,090 เชิงเส้นของแถวเหล่านี้ทั้งหมด 80 00:03:22,090 --> 00:03:26,030 ถ้าเราอยากได้ฐานของมัน, เราก็ต้องหาเซตที่เล็กที่สุด 81 00:03:26,030 --> 00:03:29,280 ของเวกเตอร์อิสระเชิงเส้น ที่เราสามารถใช้มัน 82 00:03:29,280 --> 00:03:30,880 สร้างคอลัมน์ใดๆ พวกนี้ 83 00:03:30,880 --> 00:03:34,830 หรือเราสามารถสร้างแถวใดๆ เหล่านี้, ตรงนี้ 84 00:03:34,830 --> 00:03:37,270 ทีนี้, เกิดอะไรขึ้นเมื่อเราทำ A ในลักษณะ 85 00:03:37,270 --> 00:03:40,070 ขั้นบันไดลดรูปตามแถว? 86 00:03:40,070 --> 00:03:46,290 เราทำการดำเนินการแถวหลายๆ ครั้ง เพื่อให้มี 87 00:03:46,290 --> 00:03:49,020 ลักษณะขั้นบันไดลดรูปตามแถว 88 00:03:49,020 --> 00:03:49,140 จริงไหม? 89 00:03:49,140 --> 00:03:52,150 ดำเนินการแถวไปเรื่อยๆ, และคุณได้อะไร 90 00:03:52,150 --> 00:03:53,050 แบบนี้ 91 00:03:53,050 --> 00:03:57,410 คุณจะได้ขั้นบันไดลดรูปตามแถวของ A 92 00:03:57,410 --> 00:03:59,610 ขั้นบันไดลดรูปตามแถวของ A จะเป็น 93 00:03:59,610 --> 00:04:00,840 แบบนี้ 94 00:04:00,840 --> 00:04:04,180 คุณจะได้แถวจุดหมุน, แถวที่ 95 00:04:04,180 --> 00:04:05,650 มีค่าจุดหมุน 96 00:04:05,650 --> 00:04:08,010 สมมุติว่านั่นคือตัวหนึ่ง 97 00:04:08,010 --> 00:04:08,980 สมมุติว่านั่นคือตัวหนึ่ง 98 00:04:08,980 --> 00:04:11,390 นี่จะมี 0 ลงไปเรื่อยๆ 99 00:04:11,390 --> 00:04:12,770 อันนี้จะมี 0 100 00:04:12,770 --> 00:04:14,760 ค่าจุดหมุนของคุณต้องไม่ใช่ศูนย์ 101 00:04:14,760 --> 00:04:16,180 ในคอลัมน์ของมัน 102 00:04:16,180 --> 00:04:18,220 และทุกอย่างไปทางซ้ายของมันต้องเป็น 0 103 00:04:18,220 --> 00:04:19,790 สมมุติว่าอันนี้ไม่ใช่ 104 00:04:19,790 --> 00:04:21,360 มีค่าที่ไม่ใช่ 0 อยู่ 105 00:04:21,360 --> 00:04:22,600 พวกนี้คือ 0 106 00:04:22,600 --> 00:04:24,690 เรามีค่าจุดหมุนอีกตัวตรงนี้ 107 00:04:24,690 --> 00:04:25,340 อย่างอื่นเป็น 0 หมด 108 00:04:25,340 --> 00:04:29,350 สมมุติว่าทุกอย่างที่เหลือไม่ใช่ค่าจุดหมุน 109 00:04:29,350 --> 00:04:32,510 แล้วคุณมาตรงนี้ และคุณมีแถวจุดหมุน 110 00:04:32,510 --> 00:04:35,350 หลายๆ ตัว, หรือค่าจุดหมุนจำนวนหนึ่ง, จริงไหม? 111 00:04:35,350 --> 00:04:37,630 และคุณได้อันนี้มาจากการดำเนินการแถว 112 00:04:37,630 --> 00:04:38,880 เชิงเส้นกับเจ้าพวกนี้ 113 00:04:38,880 --> 00:04:41,670 แล้วการดำเนินการแถวเชิงเส้้นเหล่านี้ -- คุณก็รู้, ผมหา 114 00:04:41,670 --> 00:04:44,655 3 คูณแถวที่สอง, และผมบวกมันกับแถวที่ 1, นั่นจะ 115 00:04:44,655 --> 00:04:45,790 กลายเป็นแถวที่สองอันใหม่ของผม 116 00:04:45,790 --> 00:04:47,840 แล้วคุณก็ทำไป แล้วคุณได้พวกนี้ตรงนี้ 117 00:04:47,840 --> 00:04:49,170 สิ่งเหล่านี้ตรงนี้คือผลรวม 118 00:04:49,170 --> 00:04:50,890 เชิงเส้นของเจ้าพวกนั้น 119 00:04:50,890 --> 00:04:52,830 หรือวิธีทำอีกอย่างคือ, คุณย้อนการดำเนินการ 120 00:04:52,830 --> 00:04:53,380 แถวเหล่านั้น 121 00:04:53,380 --> 00:04:56,170 ผมสามารถเริ่มด้วยเจ้านี่ตรงนี้ 122 00:04:56,170 --> 00:04:58,990 และเราสามารถทำการย้อนการดำเนินการ 123 00:04:58,990 --> 00:05:00,420 แถวได้ง่ายๆ 124 00:05:00,420 --> 00:05:02,470 การดำเนินการเชิงเส้นใด, คุณสามารถทำการย้อนได้ 125 00:05:02,470 --> 00:05:04,040 เราเห็นมาหลายครั้งแล้ว 126 00:05:04,040 --> 00:05:09,690 คุณสามารถดำเนินการแถวกับเจ้าพวกนี้ เพื่อ 127 00:05:09,690 --> 00:05:11,420 ให้ได้เจ้าพวกนี้ทั้งหมดได้ 128 00:05:11,420 --> 00:05:15,070 หรือวิธีมองอีกอย่างคือว่า, เวกเตอร์พวกนี้ตรงนี้, แถว 129 00:05:15,070 --> 00:05:20,400 พวกนี้ตรงนี้, พวกมันสแปนทั้งหมดนี่ -- หรือเวกเตอร์แถว 130 00:05:20,400 --> 00:05:23,170 ทั้งหมดนี้สามารถแทนได้ด้วยผลรวมเชิงเส้นของ 131 00:05:23,170 --> 00:05:24,190 แถวจุดหมุนตรงนี้ 132 00:05:24,190 --> 00:05:29,280 แน่นอน, แถวที่ไม่ใช่จุดหมุนของคุณ จะเป็น 0 หมด 133 00:05:29,280 --> 00:05:31,380 และพวกนี้จะไม่มีความหมาย 134 00:05:31,380 --> 00:05:33,670 แต่, แถวจุดหมุนของคุณ, ถ้าคุณหาผลรวมเชิงเส้น 135 00:05:33,670 --> 00:05:37,870 ของพวกมัน, คุณจะย้อนลักษณะขั้นบันไดแล้ว 136 00:05:37,870 --> 00:05:39,190 ได้เมทริกซ์ของคุณกลับมา 137 00:05:39,190 --> 00:05:41,280 ดังนั้น, เจ้าพวกนี้ทั้งหมดสามารถแทนได้ด้วย 138 00:05:41,280 --> 00:05:42,730 ผลรวมเชิงเส้นของพวกมัน 139 00:05:42,730 --> 00:05:47,140 และค่าจุดหมุนทั้งหมดนี้ ตามนิยามแล้ว -- อืม 140 00:05:47,140 --> 00:05:48,590 เกือบตามนิยามแล้ว -- พวกมันเป็น 141 00:05:48,590 --> 00:05:49,900 อิสระเชิงเส้น, จริงไหม? 142 00:05:49,900 --> 00:05:50,970 เพราะผมมี 1 ตรงนี้ 143 00:05:50,970 --> 00:05:53,320 ไม่มีตัวไหนมี 1 ตรงนี้ 144 00:05:53,320 --> 00:05:55,880 เจ้านี่จึงไม่สามารถแทนได้ด้วยผลรวม 145 00:05:55,880 --> 00:05:57,990 เชิงเส้นของตัวอื่น 146 00:05:57,990 --> 00:06:00,710 ทำไมผมถึงทำแบบฝึกหัดนี้ด้วย? 147 00:06:00,710 --> 00:06:02,300 ตรงนี้, เราเริ่มต้นบอกว่า เราอยากหา 148 00:06:02,300 --> 00:06:05,470 ฐานของสเปซแถว 149 00:06:05,470 --> 00:06:09,600 เราอยากได้เซตที่เล็กที่สุดของเวกเตอร์อิสระเชิงเส้น 150 00:06:09,600 --> 00:06:12,610 ที่สแปนทุกอย่างที่เจ้าพวกนี้สแปนได้ 151 00:06:12,610 --> 00:06:14,920 ทีนี้, ถ้าเจ้าพวกนี้ทั้งหมด สามารถแทนได้ด้วย 152 00:06:14,920 --> 00:06:17,660 ผลรวมเชิงเส้นของเวกเตอร์แถวเหล่านี้ในลักษณะขั้นบันไดลดรูป 153 00:06:17,660 --> 00:06:23,090 ตามแถว -- หรือแถวจุดหมุนในลักษณะขั้นบันไดลดรูปตามแถว -- 154 00:06:23,090 --> 00:06:25,910 เจ้าพวกนี้จะเป็นอิสระเชิงส้นทั้งหมด, แล้วพวกมัน 155 00:06:25,910 --> 00:06:27,980 จะเป็นฐานที่เข้าท่า 156 00:06:27,980 --> 00:06:30,810 แถวจุดหมุนเหล่านี้ตรงนี้, นั่นคือตัวหนึ่ง, นี่ 157 00:06:30,810 --> 00:06:33,750 คือตัวที่สอง, นี่คือตัวที่สาม, บางทีพวกมัน 158 00:06:33,750 --> 00:06:34,380 อาจมีแค่สาม 159 00:06:34,380 --> 00:06:36,050 นี่คือตัวอย่างเฉพาะขอผม 160 00:06:36,050 --> 00:06:38,715 มันจะเป็นฐานที่เหมาะสมสำหรับสเปซแถว 161 00:06:38,715 --> 00:06:40,520 ขอผมเขียนนี่ลงไปนะ 162 00:06:40,520 --> 00:06:57,480 แถวจุดหมุนในลักษณะขั้นบันไดลดรูปตามแถวของ A เป็นฐาน 163 00:06:57,480 --> 00:07:03,470 ของสเปซว่างของ A 164 00:07:03,470 --> 00:07:07,180 แล้วสเปซแถวของ A, หรือสเปซ 165 00:07:07,180 --> 00:07:08,230 คอลัมน์ของ A ทรานสโพสก็เหมือนกัน 166 00:07:08,230 --> 00:07:10,370 สเปซแถวของ A เหมือนกับ 167 00:07:10,370 --> 00:07:11,490 สเปซคอลัมน์ของ A ทรานสโพส 168 00:07:11,490 --> 00:07:13,150 เราเห็นมาหลายครั้งแล้ว 169 00:07:13,150 --> 00:07:16,870 ทีนี้, ถ้าเราอยากรู้มิติของสเปซ 170 00:07:16,870 --> 00:07:20,770 คอลัมน์คุณ, เราก็แค่นับจำนวนแถวจุดหมุนที่คุณมี 171 00:07:20,770 --> 00:07:22,530 คุณก็แค่นับจำนวนแถวจุดหมุน 172 00:07:22,530 --> 00:07:25,740 แล้วมิติของสเปซแถวคุณ, ซึ่งก็เหมือนกับ 173 00:07:25,740 --> 00:07:28,360 สเปซคอลัมน์ของ A ทรานสโพส, จะ 174 00:07:28,360 --> 00:07:32,420 เป็นจำนวนของแถวจุดหมุน ที่คุณมีในลักษณะขั้นบันไดลดรูปตามแถว 175 00:07:32,420 --> 00:07:35,010 หรือ, ถ้าให้ง่ายกว่านั้น, คือจำนวนค่าจุดหมุนที่คุณมี 176 00:07:35,010 --> 00:07:37,430 เพราะค่าจุดหมุนทุกค่ามีแถวจุดหมุน 177 00:07:37,430 --> 00:07:46,760 แล้วเราสามารถเขียนได้ว่า แรงค์ของ A ทรานสโพส 178 00:07:46,760 --> 00:07:57,180 เท่ากับจำนวนค่าจุดหมุนของลักษณะขั้นบันไดลดรูปตามแถวของ A 179 00:07:57,180 --> 00:07:57,490 จริงไหม? 180 00:07:57,490 --> 00:07:59,950 เพราะค่าจุดหมุนทุกจุดตรงกับแถวจุดหมุน 181 00:07:59,950 --> 00:08:03,840 แถวจุดหมุนเหล่านั้น เป็นฐานที่เหมาะสมสำหรับสเปซ 182 00:08:03,840 --> 00:08:06,260 แถวทั้งหมด, เพราะทุกแถวสามารถสร้างได้จาก 183 00:08:06,260 --> 00:08:07,910 ผลรวมเชิงเส้นของเจ้าพวกนี้ 184 00:08:07,910 --> 00:08:10,270 และเนื่องจากทั้งหมดนี้สามารถ, อะไรก็ตามที่เจ้าพวกนี้ 185 00:08:10,270 --> 00:08:12,970 สร้างได้, เจ้าพวกนี้ก็สร้างได้ 186 00:08:12,970 --> 00:08:13,930 ใช้ได้ 187 00:08:13,930 --> 00:08:16,350 ทีนี้, แรงค์ของ A คืออะไร? 188 00:08:16,350 --> 00:08:18,160 นี่คือแรงค์ของ A ทรานสโพส ที่เรา 189 00:08:18,160 --> 00:08:20,440 ทำมาถึงตอนนี้ 190 00:08:20,440 --> 00:08:30,350 แรงค์ของ A เท่ากับมิติของ 191 00:08:30,350 --> 00:08:32,620 สเปซคอลัมน์ของ A 192 00:08:32,620 --> 00:08:41,669 หรือ, คุณบอกได้ว่า มันคือจำนวนเวกเตอร์ในฐาน 193 00:08:41,669 --> 00:08:44,450 สำหรับสเปซคอลัมน์ของ A 194 00:08:44,450 --> 00:08:50,910 แล้วถ้าเราเอาเมทริกซ์ A เดิมที่เราใช้บนนี้มา, และเรา 195 00:08:50,910 --> 00:08:55,860 เขียนมันเป็นเวกเตอร์คอลัมน์หลายๆ ตัวแทน, ได้ c1, c2, 196 00:08:55,860 --> 00:08:57,720 ไปจนถึง cn 197 00:08:57,720 --> 00:09:00,440 เรามี n คอลัมน์ตรงนี้ 198 00:09:00,440 --> 00:09:02,490 สเปซคอลัมน์ก็คือสับสเปซ 199 00:09:02,490 --> 00:09:05,150 ที่สแปนโดยเจ้าพวกนี้ทั้งหมดตรงนี้, จริงไหม? 200 00:09:05,150 --> 00:09:06,790 สแปนโดยเวกเตอร์คอลัมน์พวกนี้แต่ลตัว 201 00:09:06,790 --> 00:09:13,810 แล้วสเปซคอลัมน์ของ A เท่ากับสแปนของ c1, c2 202 00:09:13,810 --> 00:09:15,810 ไปจนถึง cn 203 00:09:15,810 --> 00:09:17,410 นั่นคือนิยามของมัน 204 00:09:17,410 --> 00:09:19,280 แต่เราอยากรู้จำนวนของเวกเตอร์ฐาน 205 00:09:19,280 --> 00:09:23,020 และเราเห็นมาก่อนแล้ว -- เราทำมาหลายครั้งแล้ว -- 206 00:09:23,020 --> 00:09:25,170 เวกเตอร์ฐานที่เหมาะสมคืออะไร 207 00:09:25,170 --> 00:09:28,800 ถ้าเราเขียนมันในลักษณะขั้นบันไดลดรูปตามแถว, และคุณมี 208 00:09:28,800 --> 00:09:33,480 ค่าจุดหมุน และคอลัมน์จุดหมุนที่ตรงกัน, 209 00:09:33,480 --> 00:09:35,820 ค่าจุดหมุน กับคอลัมน์จุดหมุนที่ตรงกัน 210 00:09:35,820 --> 00:09:37,380 ของพวกมันแบบนั้น 211 00:09:37,380 --> 00:09:41,540 บางทีอันนั้นเป็นแบบนั้น, แล้วอันนี้ไม่ใช่, 212 00:09:41,540 --> 00:09:42,620 แล้วอันนี้ใช่ 213 00:09:42,620 --> 00:09:44,210 คุณก็จะได้เวกเตอร์จุดหมุนจำนวนหนึ่งมา 214 00:09:44,210 --> 00:09:47,040 - 215 00:09:47,040 --> 00:09:49,450 ขอผมใช้อีกสีหนึ่งตรงนี้นะ 216 00:09:49,450 --> 00:09:53,190 เมื่อคุณเขียน A ในลักษณะขั้นบันไดลดรูปตามแถว, เรา 217 00:09:53,190 --> 00:09:56,660 รู้ว่าเวกเตอร์ฐาน, หรือคอลัมน์ฐานที่สร้าง 218 00:09:56,660 --> 00:09:59,090 ฐานสำหรับสเปซคอลัมน์ของคุณ, คือคอลัมน์ 219 00:09:59,090 --> 00:10:02,000 ที่ตรงกับคอลัมน์จุดหมุน 220 00:10:02,000 --> 00:10:04,750 แล้วคอลัมน์แรกตรงนี้คือคอลัมน์จุดหมุน, แล้วเจ้านี่ 221 00:10:04,750 --> 00:10:05,780 จะเป็นเวกเตอร์ฐาน 222 00:10:05,780 --> 00:10:08,010 คอลัมน์ที่สอง, เจ้านี่ก็เป็นเวกเตอร์จุดหมุนด้วย 223 00:10:08,010 --> 00:10:10,720 หรือบางทีตัวที่สี่ตรงนี้, เจ้านี่ก็เป็น 224 00:10:10,720 --> 00:10:11,880 เวกเตอร์จุดหมุนด้วย 225 00:10:11,880 --> 00:10:15,690 ดังนั้นโดยทั่วไป, เราก็บอกว่า เฮ้, ถ้าคุณอยากนับ 226 00:10:15,690 --> 00:10:17,290 จำนวนเวกเตอร์ฐาน -- เพราะเราไม่ต้องรู้ 227 00:10:17,290 --> 00:10:18,400 ว่าเวกเตอร์ฐานคืออะไร เวลาหาแรงค์ 228 00:10:18,400 --> 00:10:20,230 เราแค่ต้องรู้จำนวนของมัน 229 00:10:20,230 --> 00:10:22,960 แล้วคุณบอกว่า, ทีนี้, สำหรับคอลัมน์จุดหมุนทุกตัวตรงนี้, เราจะ 230 00:10:22,960 --> 00:10:24,530 เวกเตอร์ฐานตรงนี้ 231 00:10:24,530 --> 00:10:26,990 เราก็แค่นับจำนวนคอลัมน์จุดหมุน 232 00:10:26,990 --> 00:10:29,510 แต่จำนวนของคอลัมน์จุดหมุน เท่ากับ 233 00:10:29,510 --> 00:10:31,510 จำนวนค่าจุดหมุน ที่เรามี. เพราะค่าจุดหมุน 234 00:10:31,510 --> 00:10:33,200 ทุกค่ามีคอลัมน์ของมันเอง 235 00:10:33,200 --> 00:10:42,220 เราก็บอกได้ว่า แรงค์ของ A เท่ากับจำนวน 236 00:10:42,220 --> 00:10:49,870 ค่าจุดหมุนในลักษณะขั้นบันไดลดรูปตามแถวของ A 237 00:10:49,870 --> 00:10:53,000 และ, อย่างที่คุณเห็นได้ชัดแล้ว, นั่นเหมือนกับ 238 00:10:53,000 --> 00:10:55,940 สิ่งที่เราสรุปไปว่า เท่ากับแรงค์ของ A 239 00:10:55,940 --> 00:10:57,480 ทรานสโพส -- คือมิติของ 240 00:10:57,480 --> 00:10:59,720 สเปซคอลัมน์ของ A ทรานสโพส 241 00:10:59,720 --> 00:11:02,240 หรือมิติของสเปซว่างของ A 242 00:11:02,240 --> 00:11:04,450 เราจึงสามารถเขียนสรุปได้แล้ว 243 00:11:04,450 --> 00:11:11,100 แรงค์ของ A ย่อมเท่ากับแรงค์ของ 244 00:11:11,100 --> 00:11:12,350 A ทรานสโพสแน่นอน 245 00:11:12,350 --> 00:11:13,300 -