1 00:00:00,346 --> 00:00:03,116 ที่เห็นนี่คือผมกำลังพยายามสร้างต้นแบบ 2 00:00:03,116 --> 00:00:06,036 ซึ่งใช้เวลาต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง 3 00:00:06,036 --> 00:00:09,957 นี่คือการใช้แรงงานเยี่ยงทาสเพื่อโครงการของตัวผมเอง 4 00:00:09,957 --> 00:00:14,947 นี่คือภาพการเคลื่อนที่ของการสร้างสรรค์งานด้วยตนเอง 5 00:00:14,947 --> 00:00:19,713 และนี่เปรียบได้กับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในโลกของอุตสาหกรรมการก่อสร้างและการผลิต 6 00:00:19,713 --> 00:00:22,501 ที่ใช้แรงงานอย่างหนักในการประกอบชิ้นส่วน 7 00:00:22,501 --> 00:00:25,335 และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมเริ่มศึกษา 8 00:00:25,335 --> 00:00:29,604 วิธีการโปรแกรมให้วัสดุุสามารถสร้างรูปร่างได้ด้วยตัวเอง 9 00:00:29,604 --> 00:00:31,364 แต่มันมีอีกโลกหนึ่ง 10 00:00:31,364 --> 00:00:33,359 ในปัจจุบัน ที่ระดับไมโครและนาโน 11 00:00:33,359 --> 00:00:36,110 กำลังมีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโลกเกิดขึ้น 12 00:00:36,110 --> 00:00:40,242 นั่นคือเราสามารถโปรแกรมวัสดุทางกายภาพ และวัสดุชีวภาพ 13 00:00:40,242 --> 00:00:42,966 ให้มันสามารถเปลี่ยนรูปร่าง คุณสมบัติ 14 00:00:42,966 --> 00:00:45,952 หรือกระทั่งคิดคำนวณโดยไม่ใช้วิถีซิลิกอน (อิเล็คทรอนิคส์) 15 00:00:45,952 --> 00:00:48,459 เรามีซอฟแวร์ชื่อว่า แคดนาโน (cadnano) 16 00:00:48,459 --> 00:00:51,242 ที่ช่วยให้เราออกแบบรูปร่างสามมิติ 17 00:00:51,242 --> 00:00:54,326 ดังเช่น หุ่นยนต์นาโน หรือ ระบบลำเลียงยา 18 00:00:54,326 --> 00:00:58,629 และใช้ ดีเอ็นเอ (DNA) ในการประกอบ สิ่งที่ทำหน้าที่ดังกล่าวขึ้นมาเอง 19 00:00:58,629 --> 00:01:00,702 แต่ถ้าเรามาพิจารณาในระดับขนาดของมนุษย์ 20 00:01:00,702 --> 00:01:03,758 มันมีปัญหาใหญ่หลายข้อที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข 21 00:01:03,758 --> 00:01:06,126 โดยเทคโนโลยีในระดับนาโนดังกล่าว 22 00:01:06,126 --> 00:01:08,225 ถ้าเราพิจารณาอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิต 23 00:01:08,225 --> 00:01:12,418 มันมีปัญหาในแง่ความไม่มีประสิทธิภาพ สิ้นเปลืองพลังงาน 24 00:01:12,418 --> 00:01:14,745 และการใช้เทคนิคที่ต้องใช้แรงงานมากเกินไป 25 00:01:14,745 --> 00:01:17,250 ลองยกตัวอย่างอันหนึ่งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน 26 00:01:17,250 --> 00:01:18,733 ระบบท่อส่งน้ำประปา 27 00:01:18,733 --> 00:01:22,458 เรามีท่อส่งน้ำที่มีความสามารถในการส่งปริมาณน้ำคงที่ 28 00:01:22,458 --> 00:01:26,917 มีค่าอัตราการไหลของน้ำที่คงที่ ยกเว้นปั๊มและวาล์วราคาแพง 29 00:01:26,917 --> 00:01:28,208 เราก็ฝังมันไว้ใต้ดิน 30 00:01:28,208 --> 00:01:30,829 ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง เช่นสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป 31 00:01:30,829 --> 00:01:33,466 พื้นเกิดการทรุดตัว หรือ ปริมาณการใช้น้ำเพิ่มขึ้น 32 00:01:33,466 --> 00:01:37,716 เราจะต้องทำทุกอย่างใหม่หมด เอาของเดิมออกมาแล้วทดแทนด้วยของใหม่ 33 00:01:37,716 --> 00:01:41,084 ดังนั้น ผมอยากเสนอให้เรารวมโลกทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน 34 00:01:41,084 --> 00:01:46,255 โดยที่เราจะสามารถนำเอาโลกระดับนาโน ที่สามารถโปรแกรมวัสดุให้ปรับเปลี่ยนได้ 35 00:01:46,255 --> 00:01:47,932 รวมเข้าด้วยกันกับภาวะแวดล้อมอย่างที่เรามีอยู่ 36 00:01:47,932 --> 00:01:50,118 แต่ผมไม่ได้หมายถึงเครื่องจักรกลอัตโนมัตินะ 37 00:01:50,118 --> 00:01:52,577 ผมไม่ได้หมายถึงแค่เครื่องจักรชาญฉลาดที่ทำงานแทนมนุษย์ 38 00:01:52,577 --> 00:01:56,461 แต่ผมหมายถึง วัสดุที่สามารถก่อสร้างด้วยตัวเองได้ตามคำสั่งของเรา 39 00:01:56,461 --> 00:01:58,517 และนั่นคือสิ่งที่เรียกว่า การประกอบตัวเอง 40 00:01:58,517 --> 00:02:03,034 ซึ่งเป็นกระบวนการที่สร้างโครงสร้าง ขึ้นมาจากชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายอยู่ 41 00:02:03,034 --> 00:02:05,527 ด้วยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างชิ้นส่วนเหล่านั้น 42 00:02:05,527 --> 00:02:08,702 แล้วเราจะต้องทำอย่างไร ถ้าเราต้องการให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นในระดับของมนุษย์ 43 00:02:08,702 --> 00:02:10,677 เราต้องการส่วนประกอบพื้นฐานสองสามอย่าง 44 00:02:10,677 --> 00:02:13,516 อันแรกคือวัสดุและรูปทรง 45 00:02:13,516 --> 00:02:16,985 และมันจะต้องผูกสัมพันธ์กับแหล่งพลังงานอย่างลงตัว 46 00:02:16,985 --> 00:02:18,643 คุณสามารถใช้พลังงานธรรมชาติ 47 00:02:18,643 --> 00:02:23,327 เช่น ความร้อน การเขย่า การสั่น แรงโน้มถ่วง หรือแรงแม่เหล็ก 48 00:02:23,327 --> 00:02:26,402 และคุณต้องออกแบบ การปฏิสัมพันธ์ของพวกมันอย่างชาญฉลาด 49 00:02:26,402 --> 00:02:28,535 และการปฏิสัมพันธ์นี้จะต้องยืดหยุ่นต่อความผิดพลาด 50 00:02:28,535 --> 00:02:32,535 และการปฏิสัมพันธ์จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนรูปร่าง ขณะที่มันเปลี่ยนจากสถานะหนี่งไปยังสถานะถัดไป 51 00:02:32,535 --> 00:02:35,767 ตอนนี้ ผมจะแสดงให้คุณดู โครงการจำนวนหนึ่งที่เราได้ทำขึ้น 52 00:02:35,767 --> 00:02:39,051 จากหนึ่งมิติ สองมิติ สามมิติ 53 00:02:39,051 --> 00:02:42,118 และแม้กระทั่ง 4 มิติ 54 00:02:42,118 --> 00:02:44,004 ในระบบแบบหนึ่งมิติ 55 00:02:44,004 --> 00:02:46,911 นี่คือโครงการที่เรียกว่า โปรตีนที่ม้วนพับเองได้ 56 00:02:46,911 --> 00:02:51,618 แนวคิดก็คือคุณนำโครงสร้าง 3 มิติ ของโปรตีน 57 00:02:51,618 --> 00:02:54,299 --ในกรณีนี้คือโปรตีนแครมบิน (crambin)-- 58 00:02:54,299 --> 00:02:57,945 คุณเลือกเอาเฉพาะส่วนหลัก --ดังนั้นจะไม่มีส่วนที่เชื่อมต่อหรือส่วนที่ทำปฏิกิริยากับสิ่งแวดล้อม-- 59 00:02:57,945 --> 00:03:01,096 แล้วคุณแยกย่อยมันออกมาเป็นลำดับของชิ้นส่วน 60 00:03:01,096 --> 00:03:03,370 จากนั้นเพิ่มความยืดหยุ่นเข้าไป 61 00:03:03,370 --> 00:03:05,711 และเมื่อผมโยนมันขึ้นไปในอากาศ แล้วรอรับตอนมันหล่นกลับลงมา 62 00:03:05,711 --> 00:03:10,562 มันจะเป็นโครงสร้างโปรตีน 3 มิติ พร้อมด้วยรายละเอียดที่ซับซ้อนครบถ้วน 63 00:03:10,562 --> 00:03:12,662 และนี่คือตัวอย่างที่จับต้องได้ 64 00:03:12,662 --> 00:03:16,396 ของโปรตีนในแบบ 3 มิติ และการม้วนตัวของมัน 65 00:03:16,396 --> 00:03:18,680 และรายละเอียดอันซับซ้อนของรูปทรง 66 00:03:18,680 --> 00:03:22,128 ดังนั้น เราสามารถศึกษาสิ่งนี้ในฐานะตัวอย่างหรือต้นแบบ 67 00:03:22,128 --> 00:03:24,930 และเราได้พัฒนามันไปสู่ระบบแบบ 2 มิติ 68 00:03:24,930 --> 00:03:29,229 นี่คือกระดาษที่สามารถม้วนตัวเอง เพื่อสร้างโครงสร้าง 3 มิติขึ้นมา 69 00:03:29,229 --> 00:03:33,682 กรณี 3 มิติ เราได้ทำโครงการที่่ TED Global ในปีที่แล้ว 70 00:03:33,682 --> 00:03:35,646 ร่วมกับ Autodesk และ อาร์เธอร์ ออลสัน (Arthur Olson) 71 00:03:35,646 --> 00:03:37,344 พวกเราเน้นไปที่ส่วนที่เกิดขึ้นด้วยตัวมันเอง 72 00:03:37,344 --> 00:03:41,663 นั่นคือส่วนประกอบแต่ละชิ้นซึ่งถูกปล่อยไว้ จะสามารถเชื่อมต่อเข้าด้วยกันได้ด้วยตัวเอง 73 00:03:41,663 --> 00:03:44,429 และเราผลิตขวดแก้วเหล่านี้เป็นจำนวน 500 ชุด 74 00:03:44,429 --> 00:03:46,896 พวกมันมีโมเลกุลที่โครงสร้างต่างๆ กันอยู่ข้างใน 75 00:03:46,896 --> 00:03:49,120 และมีสีสันที่สามารถเลือกจัดให้เข้าชุดกันได้ 76 00:03:49,120 --> 00:03:51,369 เราแจกจ่ายมันให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา TED 77 00:03:51,369 --> 00:03:53,870 และมันก็กลายเป็นต้นแบบที่เข้าใจได้โดยสัญชาตญาณ 78 00:03:53,870 --> 00:03:57,362 ว่าการสร้างตัวเองของโมเลกุลทำงาน ในระดับขนาดปกติของคนทั่วไปอย่างไร 79 00:03:57,362 --> 00:03:59,179 นี่คือ เชื้อไวรัสโปลิโอ 80 00:03:59,179 --> 00:04:01,111 ถ้าคุณเขย่ามันแรงๆ มันจะแยกออกจากกัน 81 00:04:01,111 --> 00:04:02,557 จากนั้นหากคุณเขย่าไปมาอย่างมั่วๆ 82 00:04:02,557 --> 00:04:06,061 มันจะเริ่มกลับมารวมตัว สร้างเป็นโครงสร้างของมันอีกครั้งหนึ่ง 83 00:04:06,061 --> 00:04:09,028 และนี่คือการสาธิตให้เห็นว่า เราสามารถใช้พลังงานแบบไร้ระเบียบ 84 00:04:09,028 --> 00:04:13,656 มาสร้างรูปทรงที่แน่นอนได้ 85 00:04:13,656 --> 00:04:17,180 เราได้เคยสาธิตให้เห็นว่าเราสามารถทำอย่างนี้ได้ ในระดับขนาดที่ใหญ่กว่านี้มาก 86 00:04:17,180 --> 00:04:19,334 เมื่อปีที่แล้ว ที่ TED เมืองลองบีช 87 00:04:19,334 --> 00:04:22,545 เราสร้างวัตถุที่สามารถสร้างวัตถุขึ้นมา 88 00:04:22,545 --> 00:04:26,082 แนวคิดก็คือ เราจะสามารถสร้างวัตถุที่ประกอบตัวมันเอง ที่มีขนาดใหญ่เท่าเฟอร์นิเจอร์ได้หรือไม่ 89 00:04:26,082 --> 00:04:28,583 เราก็เลยสร้างกล่องขนาดใหญ่ที่หมุนได้ 90 00:04:28,583 --> 00:04:31,796 และผู้คนสามารถเข้ามาหมุนกล่องนี้ เร็วบ้าง ช้าบ้าง 91 00:04:31,796 --> 00:04:33,381 เติมพลังงานใส่เข้าไปในระบบ 92 00:04:33,381 --> 00:04:36,827 และทำความเข้าใจว่า การประกอบชิ้นส่วนด้วยตัวเองทำงานอย่างไร 93 00:04:36,827 --> 00:04:38,206 และเราจะสามารถนำสิ่งนี้ 94 00:04:38,206 --> 00:04:42,952 ไปใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างและการผลิตได้อย่างไร 95 00:04:42,952 --> 00:04:44,619 จำได้ไหม ผมพูดถึง 4D สี่มิติ 96 00:04:44,619 --> 00:04:48,314 ดังนั้น ในวันนี้ เราจะเปิดเผยโครงการ 4 มิติเป็นครั้งแรก 97 00:04:48,314 --> 00:04:50,200 ซึ่งเราทำงานร่วมกับ แสตรทาซี่ 98 00:04:50,200 --> 00:04:52,035 และเราเรียกมันว่า การพิมพ์ 4 มิติ (4D printing) 99 00:04:52,035 --> 00:04:53,995 แนวคิดก็คือ 100 00:04:53,995 --> 00:04:56,995 คุณนำเอา การพิมพ์แบบ 3 มิติ ด้วยวัสดุหลากหลาย 101 00:04:56,995 --> 00:04:59,184 คุณนำวัสดุหลาย ๆ อย่างมารวมกัน 102 00:04:59,184 --> 00:05:01,068 จากนั้นคุณก็เพิ่มความสามารถใหม่เข้าไป 103 00:05:01,068 --> 00:05:02,934 นั่นคือความสามารถในการเปลี่ยนรูป 104 00:05:02,934 --> 00:05:04,251 ที่ซึ่ง เมื่อออกจากสายการผลิต 105 00:05:04,251 --> 00:05:08,578 ชิ้นส่วนจะสามารถเปลี่ยนรูป จากรูปทรงหนึ่งไปยังอีกรูปทรงหนึ่งได้ด้วยตัวเอง 106 00:05:08,578 --> 00:05:12,078 มันเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีสายไฟ ไม่มีมอเตอร์ 107 00:05:12,078 --> 00:05:13,729 ดังนั้น เมื่อคุณพิมพ์ชิ้นส่วนนี้แล้วเสร็จ 108 00:05:13,729 --> 00:05:16,533 มันจะสามารถเปลี่ยนรูปเป็นอย่างอื่นได้ 109 00:05:16,533 --> 00:05:21,494 และเรากำลังทำงานกับ ออโตเดส์ค (Autodesk) เพื่อพัฒนาซอฟแวร์ที่ชื่อว่า โปรเจค ไซบอร์ก (Project Cyborg) 110 00:05:21,494 --> 00:05:24,617 ซึ่งมันจะช่วยให้เราสามารถ จำลองพฤติกรรมการประกอบตัวเอง 111 00:05:24,617 --> 00:05:27,819 และพยายามปรับการม้วนพับตัวของแต่ละชิ้นส่วนให้ดีที่สุด 112 00:05:27,819 --> 00:05:30,549 แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราสามารถใช้ซอฟแวร์เดียวกันนี้ 113 00:05:30,549 --> 00:05:33,457 สำหรับการออกแบบระบบการประกอบตัวเองในระดับนาโน 114 00:05:33,457 --> 00:05:36,300 และในระดับปกติของมนุษย์ 115 00:05:36,300 --> 00:05:39,813 นี่คือชิ้นส่วนที่กำลังถูกพิมพ์ด้วยวัสดุหลายชนิด 116 00:05:39,813 --> 00:05:41,530 และนี่คือการสาธิตครั้งแรก 117 00:05:41,530 --> 00:05:43,434 สายยาวอันหนึ่งถูกจุ่มลงไปในน้ำ 118 00:05:43,434 --> 00:05:45,783 และมันก็ม้วนตัวเอง 119 00:05:45,783 --> 00:05:49,701 เป็นตัวอักษร M I T 120 00:05:49,701 --> 00:05:51,523 ผมเข้าข้างตัวเอง 121 00:05:51,523 --> 00:05:54,972 นี่คือชิ้นส่วนอีกอันหนึ่ง สายยาวอันหนึ่งถูกจุ่มลงไปในถังที่ใหญ่กว่า 122 00:05:54,972 --> 00:05:59,595 และมันม้วนตัวเองเป็นรูปลูกบาศก์แบบ 3 มิติ 123 00:05:59,595 --> 00:06:01,446 โดยไม่มีมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยว 124 00:06:01,446 --> 00:06:03,335 เราคิดว่า นี่เป็นครั้งแรก 125 00:06:03,335 --> 00:06:05,582 ที่ชุดคำสั่งและการเปลี่ยนรูป 126 00:06:05,582 --> 00:06:08,832 ได้ถูกฝังใส่เข้าไปในตัววัสดุโดยตรง 127 00:06:08,832 --> 00:06:11,562 และมันอาจจะเป็นเทคนิคการผลิต 128 00:06:11,562 --> 00:06:15,696 ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต 129 00:06:15,696 --> 00:06:16,882 ผมรู้ว่าคุณอาจจะกำลังคิดว่า 130 00:06:16,882 --> 00:06:21,114 โอเค มันเจ๋งดีนะ แต่เราจะนำเอาของพวกนี้ มาใช้ประโยชน์กับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วได้อย่างไร 131 00:06:21,114 --> 00:06:23,369 ดังนั้น ผมได้ริเริ่มสร้างห้องปฏิบัติการที่ MIT 132 00:06:23,369 --> 00:06:25,251 เรียกว่า Self-Assembly Lab 133 00:06:25,251 --> 00:06:28,395 พวกเราทุ่มเทให้กับการพัฒนาวัสดุที่โปรแกรมได้ 134 00:06:28,395 --> 00:06:29,586 ที่สามารถใช้ได้กับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว 135 00:06:29,586 --> 00:06:31,549 พวกเราคิดว่ามีบางภาคอุตสาหกรรม 136 00:06:31,549 --> 00:06:33,863 ที่สามารถนำไปใช้ได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ 137 00:06:33,863 --> 00:06:35,918 หนึ่งในนั้นก็คือภาคส่วนที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรงสุดขีด 138 00:06:35,918 --> 00:06:38,464 นี่คือสถานการณ์ที่การก่อสร้างด้วยเทคนิคที่ใช้อยู่ปัจจุบัน 139 00:06:38,464 --> 00:06:40,952 ไม่สามารถทำได้ 140 00:06:40,952 --> 00:06:44,512 มันใหญ่เกินไป อันตรายเกินไป มีราคาแพง และมีชิ้นส่วนมากเกินไป 141 00:06:44,512 --> 00:06:46,879 และอวกาศก็เป็นตัวอย่างที่ดีอันหนึ่ง 142 00:06:46,879 --> 00:06:49,245 พวกเราพยายามออกแบบโฉมหน้าใหม่สำหรับอวกาศ 143 00:06:49,245 --> 00:06:52,545 ที่สามารถประกอบสร้างตัวเองและปรับเปลี่ยนโครงสร้างได้ 144 00:06:52,545 --> 00:06:56,235 ซึ่งสามารถเปลี่ยนจากระบบที่ทำหน้าที่หนึ่ง ไปเป็นอีกระบบซึ่งทำอีกหน้าที่หนึ่งได้ 145 00:06:56,235 --> 00:06:58,346 กลับมาพูดถึงเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน 146 00:06:58,346 --> 00:07:02,245 ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เรากำลังทำงานกับบริษัทในบอสตัน ชื่อ Geosyntec 147 00:07:02,245 --> 00:07:05,045 พวกเรากำลังพัฒนาระบบท่อแบบใหม่ 148 00:07:05,045 --> 00:07:08,668 จิตนาการดูซิว่า ถ้าท่อน้ำสามารถขยายหรือหดตัว 149 00:07:08,668 --> 00:07:11,418 เพื่อเปลี่ยนปริมาณส่งน้ำ หรืออัตราการไหล 150 00:07:11,418 --> 00:07:15,952 หรือกระทั่งสามารถบีบตัวเพื่อขับดันน้ำ 151 00:07:15,952 --> 00:07:18,562 ดังนั้น นี่ก็จะเป็นปั๊มหรือวาล์วที่ราคาไม่แพง 152 00:07:18,562 --> 00:07:22,845 นี่คือระบบท่อที่สามารถสั่งและปรับเปลี่ยนได้โดยตัวมันเอง 153 00:07:22,845 --> 00:07:24,660 วันนี้ ผมอยากจะย้ำเตือนพวกท่าน 154 00:07:24,660 --> 00:07:28,044 ถึงความจริงที่ขมขื่นในโลกแห่งการสร้างและประกอบ 155 00:07:28,044 --> 00:07:31,509 มันคือสิ่งที่ซับซ้อน สร้างขึ้นด้วยชิ้นส่วนที่ซับซ้อน 156 00:07:31,509 --> 00:07:34,294 และประกอบเข้าด้วยกันอย่างซับซ้อน 157 00:07:34,294 --> 00:07:37,493 ดังนั้น ผมอยากจะเชิญพวกคุณ ไม่ว่าจะมาจากอุตสาหกรรมใด 158 00:07:37,493 --> 00:07:41,546 มาร่วมมือกับพวกเรา เพื่อสร้างโลกใหม่ในการสร้างและประกอบ 159 00:07:41,546 --> 00:07:45,245 สิ่งต่างๆ จากขนาดเล็กๆ ระดับนาโน ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่เราคุ้นเคย 160 00:07:45,245 --> 00:07:48,320 เพื่อให้เราสามารถเปลี่ยนจากโลกแบบนี้ 161 00:07:48,320 --> 00:07:51,270 ไปเป็นโลกแบบนี้ 162 00:08:00,632 --> 00:08:02,542 ขอบคุณครับ 163 00:08:02,542 --> 00:08:04,843 (เสียงปรบมือ)