[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:00.84,0:00:03.14,Default,,0000,0000,0000,,ในวิดีโอตอนที่แล้ว \Nเราได้พูดถึงว่า Dialogue: 0,0:00:03.14,0:00:11.03,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมอะตอมทุกอะตอมจึง\Nอยากมีอิเล็กตรอน 8 ตัวในชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:00:11.03,0:00:14.51,Default,,0000,0000,0000,,เพราะว่านี่เป็นการจัดเรียงอิเล็กตรอน\Nที่ทำให้อะตอมมีความเสถียร (คงตัว) มากที่สุด Dialogue: 0,0:00:14.51,0:00:17.74,Default,,0000,0000,0000,,และในความเป็นจริง\Nเราจะสังเกตได้จากสิ่งรอบตัวเรา Dialogue: 0,0:00:17.74,0:00:21.18,Default,,0000,0000,0000,,จริง ๆ นะครับ Dialogue: 0,0:00:21.18,0:00:24.42,Default,,0000,0000,0000,,เราลองมาเริ่มดูกันนะครับว่า\Nในแต่ละ "หมู่ (group)" ของตารางธาตุ Dialogue: 0,0:00:24.42,0:00:26.35,Default,,0000,0000,0000,,จะมีอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง Dialogue: 0,0:00:26.35,0:00:30.22,Default,,0000,0000,0000,,หมู่ หรือ "group" ในตารางธาตุ\Nหมายถึงธาตุที่อยู่ในแถวเดียวกันจากบนลงล่าง Dialogue: 0,0:00:30.22,0:00:32.48,Default,,0000,0000,0000,,อย่างกลุ่มนี้ ตรงนี้ครับ\Nซึ่งจริง ๆ แล้ว ผมจะเริ่มที่กลุ่มนี้ก่อน Dialogue: 0,0:00:32.48,0:00:35.96,Default,,0000,0000,0000,,เพราะมันมีชื่อพิเศษ Dialogue: 0,0:00:35.96,0:00:39.16,Default,,0000,0000,0000,,กลุ่มนี้ตรงนี้ เราเรียกว่า แก๊สเฉื่อย (noble gases) Dialogue: 0,0:00:39.16,0:00:42.90,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณไล่จากบนลงล่างในกลุ่มนี้\Nคุณเห็นไหมครับว่าธาตุเหล่านี้มีอะไรที่เหมือนกัน Dialogue: 0,0:00:42.90,0:00:45.97,Default,,0000,0000,0000,,ในคอลัมน์เดียวกันในตารางธาตุ\Nมีอะไรที่เหมือนกันครับ? Dialogue: 0,0:00:45.97,0:00:50.10,Default,,0000,0000,0000,,ครับ..ในวิดีโอตอนที่แล้ว\Nเราเห็นแล้วว่าธาตุทุกชนิดในคอลัมน์เดียวกัน Dialogue: 0,0:00:50.10,0:00:52.70,Default,,0000,0000,0000,,จะมีจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากัน Dialogue: 0,0:00:52.70,0:00:56.58,Default,,0000,0000,0000,,หรือมีจำนวนอิเล็กตรอนในชั้นนอกสุดเท่ากัน Dialogue: 0,0:00:56.58,0:00:58.00,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ Dialogue: 0,0:00:58.00,0:01:01.16,Default,,0000,0000,0000,,คอลัมน์นี้ ตรงนี้ ..\Nซึ่งเราเรียนไปแล้วนะครับคือ โลหะอัลคาไล Dialogue: 0,0:01:01.16,0:01:05.83,Default,,0000,0000,0000,,จะมีอิเล็กตรอน 1 ตัวอยู่ที่ชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:01:05.83,0:01:10.83,Default,,0000,0000,0000,,และผมก็ได้บอกแล้วว่า\Nไฮโดรเจนนั้นไม่ถูกจัดเป็นโลหะอัลคาไล Dialogue: 0,0:01:10.83,0:01:13.23,Default,,0000,0000,0000,,เพราะว่ามันไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นโลหะ Dialogue: 0,0:01:13.23,0:01:17.49,Default,,0000,0000,0000,,และมันก็ไม่ได้ต้องการที่อยากจะให้\Nอิเล็กตรอนเหมือนที่โลหะเป็น Dialogue: 0,0:01:17.49,0:01:21.08,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อเราพูดถึงคุณสมบัติของโลหะของธาตุหนึ่ง ๆ Dialogue: 0,0:01:21.08,0:01:24.64,Default,,0000,0000,0000,,เราจะนึกถึงว่า ธาตุนั้นมีแนวโน้ม\Nที่จะให้อิเล็กตรอนมากน้อยแค่ไหน Dialogue: 0,0:01:24.64,0:01:26.46,Default,,0000,0000,0000,,เราจะพูดเกี่ยวกับคุณสมบัติอื่นของโลหะ Dialogue: 0,0:01:26.46,0:01:30.02,Default,,0000,0000,0000,,โดยเฉพาะคุณสมบัติที่เรารู้สึกว่า\Nถ้าเป็นโลหะ ต้องเงามัน Dialogue: 0,0:01:30.02,0:01:32.61,Default,,0000,0000,0000,,นำไฟฟ้าได้ Dialogue: 0,0:01:32.61,0:01:34.06,Default,,0000,0000,0000,,และเราจะดูด้วยว่ามันอยู่ในตารางธาตุกันอย่างไร Dialogue: 0,0:01:34.06,0:01:35.76,Default,,0000,0000,0000,,แต่ตอนนี้ กลับมาที่เรากำลังคุยกันอยู่ก่อนนะครับ Dialogue: 0,0:01:35.76,0:01:37.61,Default,,0000,0000,0000,,คอลัมน์นี้ ตรงนี้ Dialogue: 0,0:01:37.61,0:01:48.39,Default,,0000,0000,0000,,เราเรียกว่า โลหะอัลคาไลเอิร์ธ Dialogue: 0,0:01:48.39,0:01:54.34,Default,,0000,0000,0000,,ธาตุในคอลัมน์นี้จะมีอิเล็กตรอน 2 ตัว\Nในชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:01:54.34,0:01:56.45,Default,,0000,0000,0000,,และจำได้ใช่ไหมครับว่า\Nธาตุทุกชนิดต้องการจะมีเวเลนซ์อิเล็กตรอน = 8 Dialogue: 0,0:01:56.45,0:02:00.07,Default,,0000,0000,0000,,ถ้ามันเลือกวิธีที่จะหาอิเล็กตรอนมาเพิ่ม\Nเพื่อให้ครบ 8 ตัว Dialogue: 0,0:02:00.07,0:02:01.13,Default,,0000,0000,0000,,ก็ต้องใช้เวลาเยอะทีเดียว Dialogue: 0,0:02:01.13,0:02:05.85,Default,,0000,0000,0000,,วิธีนี้ เราต้องหาอิเล็กตรอนมาเติมถึง 6 ตัว Dialogue: 0,0:02:05.85,0:02:07.34,Default,,0000,0000,0000,,แล้วใครล่ะครับที่จะไปเอามา? Dialogue: 0,0:02:07.34,0:02:09.09,Default,,0000,0000,0000,,เพราะไม่มีใครที่จะอยากให้อิเล็กตรอนเลย Dialogue: 0,0:02:09.09,0:02:10.86,Default,,0000,0000,0000,,ตอนนี้ มันเกือบจะมีอิเล็กตรอนครบ 8 อยู่แล้ว Dialogue: 0,0:02:10.86,0:02:15.35,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ถ้าเราให้อิเล็กตรอน น่าจะทำให้ครบ 8 อิเล็กตรอน\Nได้ง่ายกว่ามากนะครับ Dialogue: 0,0:02:15.35,0:02:19.12,Default,,0000,0000,0000,,ในความเป็นจริง เวลาคุณมีอิเล็กตรอนแค่ 1 ตัวที่จะให้ออกไป Dialogue: 0,0:02:19.12,0:02:22.15,Default,,0000,0000,0000,,ดังเช่นกรณี โลหะอัลคาไล Dialogue: 0,0:02:22.15,0:02:24.98,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณมีอิเล็กตรอนเพียง 1 ตัวที่จะให้ออกไป\Nและมันก็อยากจะทำแบบนี้จริง ๆ ครับ Dialogue: 0,0:02:24.98,0:02:30.44,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ธาตุกลุ่มนี้ในธรรมชาติจะหายากมากครับ\Nที่จะเจอในรูปธาตุบริสุทธิ์ Dialogue: 0,0:02:30.44,0:02:32.90,Default,,0000,0000,0000,,คำว่า "ธาตุบริสุทธิ์" ที่ผมพูดถึงนี้\Nหมายความว่า มันมีแต่ลิเทียมอย่างเดียว Dialogue: 0,0:02:32.90,0:02:36.73,Default,,0000,0000,0000,,ไม่มีอย่างอื่นปนนะครับ \Nหรือว่ามีโซเดียมอย่างเดียว Dialogue: 0,0:02:36.73,0:02:37.95,Default,,0000,0000,0000,,หรือมีโปตัสเซียมอย่างเดียว Dialogue: 0,0:02:37.95,0:02:42.53,Default,,0000,0000,0000,,ธาตุกลุ่มนี้เรามักจะพบมัน\Nทำปฏิกิริยากับอย่างสารอื่น Dialogue: 0,0:02:42.53,0:02:44.47,Default,,0000,0000,0000,,อาจจะเป็นธาตุอื่นที่อยู่อีกด้านหนึ่งของตารางธาตุ Dialogue: 0,0:02:44.47,0:02:46.52,Default,,0000,0000,0000,,เพราะว่าฝั่งนี้อยากจะให้อิเล็กตรอนมาก ๆ Dialogue: 0,0:02:46.52,0:02:49.15,Default,,0000,0000,0000,,ในขณะที่ฝั่งนี้ก็อยากจะได้อิเล็กตรอนมาก ๆ Dialogue: 0,0:02:49.15,0:02:51.34,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ก็เป็นไปได้ที่จะเกิดปฏิกิริยากันขึ้น Dialogue: 0,0:02:51.34,0:02:56.20,Default,,0000,0000,0000,,ส่วนธาตุกลุ่มนี้ (โลหะอัลคาไลเอิร์ธ)\Nก็มีความไวต่อการเกิดปฏิกิริยานะครับ Dialogue: 0,0:02:56.20,0:02:59.16,Default,,0000,0000,0000,,แต่อาจจะไม่เท่ากับโลหะอัลคาไล Dialogue: 0,0:02:59.16,0:03:01.71,Default,,0000,0000,0000,,และเนื่องจากธาตุกลุ่มนี้ก็ Dialogue: 0,0:03:01.71,0:03:06.21,Default,,0000,0000,0000,,มีจำนวนอิเล็กตรอนใกล้เคียงกับ 8 เช่นกัน Dialogue: 0,0:03:06.21,0:03:12.42,Default,,0000,0000,0000,,แค่พยายามอีกนิดหน่อย.. Dialogue: 0,0:03:12.42,0:03:14.67,Default,,0000,0000,0000,,เพียงเอาอิเล็กตรอนออกไป 2 ตัว Dialogue: 0,0:03:14.67,0:03:16.82,Default,,0000,0000,0000,,แต่กลุ่มนี้ (โลหะอัลคาไล) เอาอิเล็กตรอนออกไป\Nแค่ตัวเดียว (ก็ได้ 8 อิเล็กตรอนแล้ว) Dialogue: 0,0:03:16.82,0:03:20.44,Default,,0000,0000,0000,,และเราก็เรียนแล้วว่า ธาตุกลุ่มนี้\Nก็มีอิเล็กตรอน 2 ตัวที่ชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:03:20.44,0:03:23.14,Default,,0000,0000,0000,,เราเรียกธาตุกลุ่มนี้ว่า.... Dialogue: 0,0:03:23.14,0:03:26.71,Default,,0000,0000,0000,,โลหะทรานสิชัน... \Nเพราะว่าเวลาคุณใส่อิเล็กตรอนเข้าไป Dialogue: 0,0:03:26.71,0:03:31.41,Default,,0000,0000,0000,,มันจะเข้าไปเติมในชั้น d ของชั้นรองลงไป Dialogue: 0,0:03:31.41,0:03:31.94,Default,,0000,0000,0000,,ใช่ไหมครับ? Dialogue: 0,0:03:31.94,0:03:36.66,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ชั้นนอกสุดจะมีอิเล็กตรอน 2 ตัวเสมอ Dialogue: 0,0:03:36.66,0:03:45.46,Default,,0000,0000,0000,,ตรงนี้เป็น period ที่ 4\Nธาตุทั้งหมดตรงนี้ จะมีชั้นนอกสุดเป็น 4s2 Dialogue: 0,0:03:45.46,0:03:52.95,Default,,0000,0000,0000,,แต่เวลาเติมอิเล็กตรอน จะใส่ลงไปในชั้น 3d Dialogue: 0,0:03:52.95,0:03:54.69,Default,,0000,0000,0000,,ตรงนี้มีอิเล็กตรอน 2 ตัว Dialogue: 0,0:03:54.69,0:03:57.40,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ทั้งหมดตรงนี้จะมีอิเล็กตรอนที่ชั้นนอกสุด 2 ตัว Dialogue: 0,0:03:57.40,0:04:01.19,Default,,0000,0000,0000,,ทั้งหมดนี้ก็จะคล้ายกับโลหะอัลคาไลเอิร์ธ Dialogue: 0,0:04:01.19,0:04:06.32,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งต้องเสียอิเล็กตรอน 2 ตัว\Nเพื่อจะทำให้ตัวเอง "มีความสุข" Dialogue: 0,0:04:06.32,0:04:08.41,Default,,0000,0000,0000,,ที่ผมคิดนะครับ... Dialogue: 0,0:04:08.41,0:04:11.81,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งมันอาจจะเป็นความจริง Dialogue: 0,0:04:11.81,0:04:19.65,Default,,0000,0000,0000,,ก็คือธาตุเหล่านี้มีอิเล็กตรอนสำรองอยู่ครับ\Nในกรณีที่มันต้องเสียเวเลนซ์อิเล็กตรอนไป Dialogue: 0,0:04:19.65,0:04:25.58,Default,,0000,0000,0000,,ตัวอย่าง เหล็กมี 2 เวเลนซ์อิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:04:25.58,0:04:29.89,Default,,0000,0000,0000,,แบบนี้... ถ้ามันเสียอิเล็กตรอนไป Dialogue: 0,0:04:29.89,0:04:36.42,Default,,0000,0000,0000,,มันก็ยังมีอิเล็กตรอนสำรองอยู่\Nในชั้น d ที่อยู่รองลงไป Dialogue: 0,0:04:36.42,0:04:40.98,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ถ้ามันเสียอิเล็กตรอนในชั้น 4s2 ไป Dialogue: 0,0:04:40.98,0:04:43.74,Default,,0000,0000,0000,,ก็ยังมีอิเล็กตรอนในชั้น 3d ที่มีระดับพลังงานสูง Dialogue: 0,0:04:43.74,0:04:45.65,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งสามารถขึ้นมาแทนที่ได้ Dialogue: 0,0:04:45.65,0:04:47.93,Default,,0000,0000,0000,,ส่วนตัวนี้ ผมใช้เครื่องหมายคำพูด " " นะครับ\Nก็เพราะว่า.. Dialogue: 0,0:04:47.93,0:04:50.77,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นวิธีที่ผมวาดภาพเอาเอง Dialogue: 0,0:04:50.77,0:04:53.30,Default,,0000,0000,0000,,และเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงพูดถึงเรื่องนี้ Dialogue: 0,0:04:53.30,0:04:58.02,Default,,0000,0000,0000,,เพราะโลหะมักจะชอบให้อิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:04:58.02,0:05:00.38,Default,,0000,0000,0000,,และธาตุเหล่านี้จะเกิดปฏิกิริยาด้วย Dialogue: 0,0:05:00.38,0:05:03.68,Default,,0000,0000,0000,,มันบอกว่า...เฮ้..มาเอาอิเล็กตรอนฉันไปสิ Dialogue: 0,0:05:03.68,0:05:06.68,Default,,0000,0000,0000,,และพวกนี้ ก็จะเริ่มบอกว่า Dialogue: 0,0:05:06.68,0:05:09.26,Default,,0000,0000,0000,,คุณเติมอิเล็กตรอนในชั้น d อยู่นั่นแหละ\Nผมเอาอิเล็กตรอน 2 ตัวนี้ไปก่อนแล้วนะ Dialogue: 0,0:05:09.26,0:05:11.42,Default,,0000,0000,0000,,แต่ผมไม่ได้มีอิเล็กตรอนแค่ 2 ตัวข้างนอกนั้นนี่ครับ Dialogue: 0,0:05:11.42,0:05:13.52,Default,,0000,0000,0000,,ผมยังมีอิเล็กตรอนอีก Dialogue: 0,0:05:13.52,0:05:16.05,Default,,0000,0000,0000,,เก็บไว้ในชั้น d Dialogue: 0,0:05:16.05,0:05:18.69,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในโลหะทรานสิชัน Dialogue: 0,0:05:18.69,0:05:21.47,Default,,0000,0000,0000,,ก็จะเหมือนกับที่พบในโลหะทั่วไป Dialogue: 0,0:05:21.47,0:05:24.11,Default,,0000,0000,0000,,ตรงนี้ก็เป็นโลหะนะครับ... อย่าดูทั้งหมู่นะครับ Dialogue: 0,0:05:24.11,0:05:27.96,Default,,0000,0000,0000,,ที่เป็นโลหะ ให้ดูที่สี ตรงนี้ครับ Dialogue: 0,0:05:27.96,0:05:31.94,Default,,0000,0000,0000,,กลุ่มนี้เป็นโลหะที่มีอิเล็กตรอนจำนวนมากที่จะให้ได้ Dialogue: 0,0:05:31.94,0:05:35.37,Default,,0000,0000,0000,,ไม่เพียงแต่จะมีอิเล็กตรอนจำนวนมากตรงนี้\Nแต่ยังมีอิเล็กตรอนที่อยู่ในชั้น d ด้วย Dialogue: 0,0:05:35.37,0:05:37.66,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเวลามันอยู่ในสภาวะธาตุบริสุทธิ์ Dialogue: 0,0:05:37.66,0:05:39.82,Default,,0000,0000,0000,,เวลาที่ผมพูดอย่างนี้ หมายความว่า Dialogue: 0,0:05:39.82,0:05:41.45,Default,,0000,0000,0000,,คุณจะมีกล่องใบใหญ่ ๆ 1 กล่องสำหรับอะลูมิเนียม Dialogue: 0,0:05:41.45,0:05:45.70,Default,,0000,0000,0000,,อะลูมิเนียม จะไม่ทำปฏิกิริยากับสารอื่น เช่น อ๊อกซิเจน Dialogue: 0,0:05:45.70,0:05:47.50,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น มันก็จะอยู่เป็นก้อนอะลูมิเนียมอยู่อย่างนั้น Dialogue: 0,0:05:47.50,0:05:47.81,Default,,0000,0000,0000,,ใช่ไหมครับ? Dialogue: 0,0:05:47.81,0:05:49.64,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณมีอะลูมิเนียมอยู่จำนวนหนึ่ง Dialogue: 0,0:05:49.64,0:05:51.84,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ จะมีพันธะโลหะ\Nซึ่งอะตอมของอะลูมิเนียมทั้งหมดนี้ก็จะบอกว่า.. Dialogue: 0,0:05:51.84,0:05:54.55,Default,,0000,0000,0000,,คุณรู้มั้ย ผมมีอิเล็กตรอนเหลือตรงนี้ Dialogue: 0,0:05:54.55,0:05:59.47,Default,,0000,0000,0000,,ในกรณีของอะลูมิเนียม \Nมีอิเล็กตรอน 3 ตัวอยู่ที่ชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:05:59.47,0:06:04.04,Default,,0000,0000,0000,,แต่ผมมีอิเล็กตรอนในชั้น d ด้วย Dialogue: 0,0:06:04.04,0:06:06.60,Default,,0000,0000,0000,,ผมจะเอาอิเล็กตรอนมาแบ่งกับอะตอม\Nอื่น ๆ ของอะลูกมิเนียมนะครับ Dialogue: 0,0:06:06.60,0:06:09.17,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น คุณก็จะได้ "ทะเล" ของ\Nอะตอมอะลูมิเนียม Dialogue: 0,0:06:09.17,0:06:10.43,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งดึงดูดกันอยู่ Dialogue: 0,0:06:10.43,0:06:12.75,Default,,0000,0000,0000,,หรือคุณได้สร้าง "ทะเลอิเล็กตรอน" \Nของอะลูมิเนียม นั่นเอง Dialogue: 0,0:06:12.75,0:06:16.50,Default,,0000,0000,0000,,คุณจะมีอิเล็กตรอนจำนวนมาก Dialogue: 0,0:06:16.50,0:06:22.62,Default,,0000,0000,0000,,แทรกอยู่ระหว่างอะตอม \Nและเนื่องจากอะตอมเหล่านี้ได้ Dialogue: 0,0:06:22.62,0:06:24.27,Default,,0000,0000,0000,,ให้อิเล็กตรอนไปใช้ร่วมกันแล้ว \Nมันก็เลยดึงดูดกัน Dialogue: 0,0:06:24.27,0:06:24.95,Default,,0000,0000,0000,,ถูกต้องไหมครับ? Dialogue: 0,0:06:24.95,0:06:30.03,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น อะตอมจริง ๆ แล้ว \Nตรงนี้ ก็จะกลายเป็น Al3+ Dialogue: 0,0:06:30.03,0:06:31.40,Default,,0000,0000,0000,,เพราะได้ให้อิเล็กตรอนไป 3 ตัว Dialogue: 0,0:06:31.40,0:06:33.47,Default,,0000,0000,0000,,ผมจะยังไม่พูดมากไปกว่านี้นะครับ Dialogue: 0,0:06:33.47,0:06:35.41,Default,,0000,0000,0000,,ตอนนี้ เพียงต้องการให้คุณเข้าใจว่า\Nมันอยู่กันอย่างไร Dialogue: 0,0:06:35.41,0:06:38.32,Default,,0000,0000,0000,,และทำไมโลหะจึงนำไฟฟ้าได้ดีมาก Dialogue: 0,0:06:38.32,0:06:41.32,Default,,0000,0000,0000,,ก็เพราะว่า ไฟฟ้าคือการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:06:41.32,0:06:46.33,Default,,0000,0000,0000,,หากต้องการให้อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ \Nคุณต้องมีอิเล็กตรอนจำนวนมากเผื่อไว้รอบ ๆ Dialogue: 0,0:06:46.33,0:06:48.98,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ธาตุที่อยู่บริเวณนี้ \Nจึงเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีมาก Dialogue: 0,0:06:48.98,0:06:53.65,Default,,0000,0000,0000,,ที่จริงแล้ว เงิน (silver) เป็น\Nตัวนำไฟฟ้าที่ดีที่สุด Dialogue: 0,0:06:53.65,0:06:57.24,Default,,0000,0000,0000,,เงิน..ตรงนี้ครับ \Nเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีที่สุดบนโลกนี้ Dialogue: 0,0:06:57.24,0:07:01.44,Default,,0000,0000,0000,,แต่เราไม่เอามาใช้ในสายไฟ\Nแต่กลับใช้ทองแดงแทน Dialogue: 0,0:07:01.44,0:07:04.30,Default,,0000,0000,0000,,ก็เพราะว่า ทองแดงนั้นหาได้ง่ายกว่าเงิน Dialogue: 0,0:07:04.30,0:07:06.14,Default,,0000,0000,0000,,แต่จริง ๆ แล้ว เงินเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีที่สุดครับ Dialogue: 0,0:07:06.14,0:07:09.34,Default,,0000,0000,0000,,...ตามที่ผมคิด Dialogue: 0,0:07:09.34,0:07:11.01,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อคุณเติมอิเล็กตรอนลงในออร์บิทัลหนึ่ง Dialogue: 0,0:07:11.01,0:07:12.89,Default,,0000,0000,0000,,ออร์บิทัลนั้นจะเข้าสู่สภาวะเสถียร (คงตัว) Dialogue: 0,0:07:12.89,0:07:16.14,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ธาตุเหล่านี้ มีอิเล็กตรอนในชั้น d เต็มหมดแล้ว Dialogue: 0,0:07:16.14,0:07:18.96,Default,,0000,0000,0000,,ในขณะที่ธาตุตรงนี้ (ทรานสิชัน)\Nชั้น d ยังไม่เต็ม Dialogue: 0,0:07:18.96,0:07:21.97,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น มันจึงมีอิเล็กตรอนเผื่อจำนวนมาก\Nซึ่งดีมากสำหรับการนำไฟฟ้า Dialogue: 0,0:07:21.97,0:07:24.12,Default,,0000,0000,0000,,เอาละครับ นี่คือสิ่งที่ผมคิดเอา Dialogue: 0,0:07:24.12,0:07:26.00,Default,,0000,0000,0000,,ผมไม่เคยทำการทดลองเพื่อพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่นะครับ Dialogue: 0,0:07:26.00,0:07:29.10,Default,,0000,0000,0000,,แต่อยากจะให้แนวคิดแก่คุณว่า\Nทำไมธาตุเหล่านี้จึงนำไฟฟ้าได้ Dialogue: 0,0:07:29.10,0:07:32.37,Default,,0000,0000,0000,,สำหรับโลหะทรานสิชัน Dialogue: 0,0:07:32.37,0:07:33.87,Default,,0000,0000,0000,,ธาตุกลุ่มนี้เราถือว่าเป็นโลหะ Dialogue: 0,0:07:33.87,0:07:35.94,Default,,0000,0000,0000,,แต่จัดเป็นอีกกลุ่มหนึ่งคือ โลหะทรานสิชัน Dialogue: 0,0:07:35.94,0:07:37.96,Default,,0000,0000,0000,,ก็เพราะว่า มันยังมีที่ให้เติมอิเล็กตรอนในชั้น d Dialogue: 0,0:07:37.96,0:07:40.60,Default,,0000,0000,0000,,แต่โลหะทรานสิชันนี่ฟังดูแล้ว Dialogue: 0,0:07:40.60,0:07:41.39,Default,,0000,0000,0000,,ไม่น่าจะดีเท่าโลหะนะครับ Dialogue: 0,0:07:41.39,0:07:45.61,Default,,0000,0000,0000,,แต่ถ้าคุณมานั่งคิดถึงโลหะ\N..คุณก็จะนึกถึง "เหล็ก" เป็นอันดับแรก Dialogue: 0,0:07:45.61,0:07:49.02,Default,,0000,0000,0000,,และผมก็ต้องคิดถึง เงิน ทองแดง และทอง ด้วย Dialogue: 0,0:07:49.02,0:07:51.27,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น การที่เรียกธาตุเหล่านี้ว่าเป็น โลหะทรานสิชัน\Nอาจจะไม่ค่อยยุติธรรมนักนะครับ Dialogue: 0,0:07:51.27,0:07:55.23,Default,,0000,0000,0000,,ผมไม่คิดว่าอะลูมิเนียมจะเป็นโลหะ\Nมากไปกว่าที่เหล็กเป็น Dialogue: 0,0:07:55.23,0:07:58.14,Default,,0000,0000,0000,,แต่ในการจัดประเภทของธาตุในทางเคมี Dialogue: 0,0:07:58.14,0:08:04.70,Default,,0000,0000,0000,,อะลูมิเนียมมีความเป็นโลหะมากกว่า\Nโลหะทรานสิชันตรงนี้ Dialogue: 0,0:08:04.70,0:08:07.28,Default,,0000,0000,0000,,เดี๋ยวให้ผมเขียนเวเลนซ์อิเล็กตรอนก่อนนะครับ Dialogue: 0,0:08:07.28,0:08:09.22,Default,,0000,0000,0000,,ธาตุทั้งหมดตรงนี้มี 3 เวเลนซ์อิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:08:09.22,0:08:13.72,Default,,0000,0000,0000,,4,5,6,7 Dialogue: 0,0:08:13.72,0:08:18.15,Default,,0000,0000,0000,,ตรงนี้ จะมีอิเล็กตรอน 3 ตัวในชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:08:18.15,0:08:21.42,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ถ้ามันให้อิเล็กตรอน ก็น่าจะ\Nง่ายกว่ารับเข้ามา Dialogue: 0,0:08:21.42,0:08:25.99,Default,,0000,0000,0000,,แต่ก็ไม่แน่ครับ ในบางกรณี\Nก็อาจจะมีรับอิเล็กตรอนเหมือนกัน Dialogue: 0,0:08:25.99,0:08:27.91,Default,,0000,0000,0000,,โดยเฉพาะ โบรอน Dialogue: 0,0:08:27.91,0:08:31.18,Default,,0000,0000,0000,,มีบางครั้งที่โบรอนรับอิเล็กตรอน 5 ตัว Dialogue: 0,0:08:31.18,0:08:32.82,Default,,0000,0000,0000,,แม้ว่าดูจะยาก Dialogue: 0,0:08:32.82,0:08:35.09,Default,,0000,0000,0000,,แต่ก็ง่ายกว่าที่จะให้ 3 อิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:08:35.09,0:08:39.34,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น พวกที่เป็นโลหะจึงอยู่เฉพาะตรงนี้ (ไม่รวมโบรอน) Dialogue: 0,0:08:39.34,0:08:43.23,Default,,0000,0000,0000,,และอย่างที่คุณเห็นนะครับ \Nถ้าคุณดูไล่ลงมาในตารางธาตุ Dialogue: 0,0:08:43.23,0:08:46.65,Default,,0000,0000,0000,,คุณจะเจอโลหะที่มีเวเลนซ์อิเล็กตรอน\Nจำนวนมากขึ้น Dialogue: 0,0:08:46.65,0:08:50.73,Default,,0000,0000,0000,,อย่างเช่น ตะกั่ว (lead) Dialogue: 0,0:08:50.73,0:08:52.12,Default,,0000,0000,0000,,ก็จัดเป็นโลหะ Dialogue: 0,0:08:52.12,0:08:53.69,Default,,0000,0000,0000,,แม้ว่าจะมี 4 เวเลนซ์อิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:08:53.69,0:09:00.49,Default,,0000,0000,0000,,นี่ก็เพราะว่า อะตอมมันมีขนาดใหญ่มาก\Nรัศมีใหญ่มาก Dialogue: 0,0:09:00.49,0:09:03.03,Default,,0000,0000,0000,,จนชั้นนอกสุดไกลจากนิวเคลียสมาก Dialogue: 0,0:09:03.03,0:09:05.15,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น มันจะให้อิเล็กตรอนได้ง่าย Dialogue: 0,0:09:05.15,0:09:08.51,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณดูที่คาร์บอน Dialogue: 0,0:09:08.51,0:09:10.47,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนอยู่ใกล้กับนิวเคลียสมาก Dialogue: 0,0:09:10.47,0:09:11.82,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น อิเล็กตรอนจะถูกปล่อย\Nออกไปยากมาก Dialogue: 0,0:09:11.82,0:09:15.29,Default,,0000,0000,0000,,คาร์บอนจึงชอบที่จะรับอิเล็กตรอน\Nจากอะตอมอื่นมากกว่า Dialogue: 0,0:09:15.29,0:09:16.84,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อให้ได้อิเล็กตรอนครบ 8 ตัว Dialogue: 0,0:09:16.84,0:09:20.27,Default,,0000,0000,0000,,ในขณะที่เวเลนซ์อิเล็กตรอนของธาตุกลุ่มนี้\Nอยูไกลจากนิวเคลียสมาก Dialogue: 0,0:09:20.27,0:09:23.07,Default,,0000,0000,0000,,จึงมีโอกาสที่จะกำจัดอิเล็กตรอนออกไป Dialogue: 0,0:09:23.07,0:09:25.44,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อให้ตัวเองมีอิเล็กตรอนครบ 8 ตัวในชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:09:25.44,0:09:27.96,Default,,0000,0000,0000,,คล้ายกับซีนอน Dialogue: 0,0:09:27.96,0:09:32.26,Default,,0000,0000,0000,,และถ้าคุณดูไปเรื่อย ๆ ถึงกลุ่มนี้\Nก็จะไม่ใช่โลหะอีกต่อไป Dialogue: 0,0:09:32.26,0:09:32.60,Default,,0000,0000,0000,,ถูกต้องไหมครับ? Dialogue: 0,0:09:32.60,0:09:36.33,Default,,0000,0000,0000,,เพราะธาตุเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะ\Nรับอิเล็กตรอน เวลาเกิดปฏิกิริยา Dialogue: 0,0:09:36.33,0:09:38.82,Default,,0000,0000,0000,,และช่องสีเหลืองนี้ เป็นกลุ่มที่\Nมีความไวต่อการเกิดปฏิกิริยาสูงมาก Dialogue: 0,0:09:38.82,0:09:43.72,Default,,0000,0000,0000,,โดยเฉพาะการทำปฏิกิริยากับโลหะอัลคาไล Dialogue: 0,0:09:43.72,0:09:46.03,Default,,0000,0000,0000,,โลหะจะอยู่ตรงนี้ \Nส่วนตรงนี้เราเรียกว่า ฮาโลเจน นะครับ Dialogue: 0,0:09:46.03,0:09:48.62,Default,,0000,0000,0000,,คุณอาจจะเคยได้ยินคำนี้มาก่อน Dialogue: 0,0:09:48.62,0:09:54.98,Default,,0000,0000,0000,,หลอดฮาโลเจน Dialogue: 0,0:09:54.98,0:10:00.07,Default,,0000,0000,0000,,การที่เราเรียกอย่างนั้น ไม่ได้เรียกผิดนะครับ Dialogue: 0,0:10:00.07,0:10:02.56,Default,,0000,0000,0000,,ผมอาจจะทำวิดีโอเกี่ยวกับหลอดฮาโลเจนในอนาคตนะครับ Dialogue: 0,0:10:02.56,0:10:05.26,Default,,0000,0000,0000,,สุดท้าย กลุ่มนี้เป็นแก๊สเฉื่อย Dialogue: 0,0:10:05.26,0:10:07.76,Default,,0000,0000,0000,,ที่น่าสนใจเกี่ยวกับแก๊สเฉื่อยก็คือ Dialogue: 0,0:10:07.76,0:10:10.00,Default,,0000,0000,0000,,มันมีอิเล็กตรอน 8 ตัวที่ชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:10:10.00,0:10:11.54,Default,,0000,0000,0000,,ใช่ไหมครับ Dialogue: 0,0:10:11.54,0:10:12.22,Default,,0000,0000,0000,,ยกเว้น ฮีเลียม Dialogue: 0,0:10:12.22,0:10:13.85,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งมีอิเล็กตรอน 2 ตัวที่ชั้นนอกสุด \Nถูกต้องไหมครับ? Dialogue: 0,0:10:13.85,0:10:22.29,Default,,0000,0000,0000,,การจัดเรียงอิเล็กตรอนของฮีเลียมคือ 1s2 Dialogue: 0,0:10:22.29,0:10:24.04,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือ นีออน Dialogue: 0,0:10:24.04,0:10:28.05,Default,,0000,0000,0000,,จะเป็น 1s2, 2s2, 2p6 Dialogue: 0,0:10:28.05,0:10:30.51,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งมีอิเล็กตรอน 8 ตัวในชั้นนอกสุด Dialogue: 0,0:10:30.51,0:10:31.37,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น มันก็มีความสุขแล้วครับ Dialogue: 0,0:10:31.37,0:10:32.96,Default,,0000,0000,0000,,อาร์กอน ก็เช่นเดียวกัน Dialogue: 0,0:10:32.96,0:10:38.01,Default,,0000,0000,0000,,ชั้นนอกสุดจะเป็น 3s2, 3p6 Dialogue: 0,0:10:38.01,0:10:41.05,Default,,0000,0000,0000,,คริปตอน จะมีอิเล็กตรอนชั้นนอกสุดเป็น Dialogue: 0,0:10:41.05,0:10:43.00,Default,,0000,0000,0000,,4s2, 4p6\N(ในวิดีโอพูดผิด) Dialogue: 0,0:10:43.00,0:10:47.84,Default,,0000,0000,0000,,และก็มี 3d Dialogue: 0,0:10:47.84,0:10:50.07,Default,,0000,0000,0000,,แต่ว่าชั้นนอกสุดจะมีอิเล็กตรอนครบ 8 ตัว Dialogue: 0,0:10:50.07,0:10:51.00,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น มันก็มีความสุข Dialogue: 0,0:10:51.00,0:10:52.68,Default,,0000,0000,0000,,ธาตุเหล่านี้ จึงไม่อยากจะไปทำปฏิกิริยากับใคร Dialogue: 0,0:10:52.68,0:10:54.70,Default,,0000,0000,0000,,คล้ายกับว่า ธาตุอื่น ๆ สามารถเกิด\Nปฏิกิริยาต่าง ๆ ได้ Dialogue: 0,0:10:54.70,0:10:57.72,Default,,0000,0000,0000,,ก็เกิดไป Dialogue: 0,0:10:57.72,0:10:58.96,Default,,0000,0000,0000,,แต่พวกเรามีความสุขแล้ว Dialogue: 0,0:10:58.96,0:11:00.85,Default,,0000,0000,0000,,แล้วเราก็ไม่อยากให้หรือรับอิเล็กตรอนจากใคร Dialogue: 0,0:11:00.85,0:11:08.46,Default,,0000,0000,0000,,ธาตุกลุ่มนี้จึงเฉื่อยมาก ๆ \N(ไม่ทำปฏิกิริยากับใคร) Dialogue: 0,0:11:08.46,0:11:11.55,Default,,0000,0000,0000,,คุณทราบไหมครับ\Nสมัยก่อน ตอนที่ยังมีการสร้างเรือเหาะ Dialogue: 0,0:11:11.55,0:11:17.15,Default,,0000,0000,0000,,ที่มีชื่อเสียงอย่างเรือเหาะฮินเดนเบอร์ก Dialogue: 0,0:11:17.15,0:11:19.29,Default,,0000,0000,0000,,ตอนนั้น เขาใช้ไฮโดรเจน Dialogue: 0,0:11:19.29,0:11:22.38,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งไฮโดรเจนเป็นธาตุที่ค่อนข้างจะ\Nไวต่อการเกิดปฏิกิริยา Dialogue: 0,0:11:22.38,0:11:24.56,Default,,0000,0000,0000,,และก็ติดไฟง่ายมาก \Nดังนั้น มันจึงระเบิดอย่างรวดเร็ว Dialogue: 0,0:11:24.56,0:11:29.63,Default,,0000,0000,0000,,สมัยนี้ เวลาทำลูกโป่งสำหรับตัวตลกหรือเด็ก ๆ Dialogue: 0,0:11:29.63,0:11:33.93,Default,,0000,0000,0000,,แทนที่จะใช้ไฮโดรเจน \Nเดี๋ยวนี้นิยมใช้ฮีเลียมมากกว่า Dialogue: 0,0:11:33.93,0:11:36.84,Default,,0000,0000,0000,,เพราะฮีเลียมเป็นแก๊สเฉื่อย\Nมีความไวต่อการเกิดปฏิกิริยาน้อยมาก Dialogue: 0,0:11:36.84,0:11:41.15,Default,,0000,0000,0000,,และก็มีโอกาสระเบิดได้น้อยมาก Dialogue: 0,0:11:41.15,0:11:42.79,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าเอามาใช้ในงานวันเกิดเด็ก ๆ Dialogue: 0,0:11:42.79,0:11:45.30,Default,,0000,0000,0000,,เอาละครับ...ผมคงจบเพียงแค่นี้สำหรับวิดีโอตอนนี้ Dialogue: 0,0:11:45.30,0:11:47.78,Default,,0000,0000,0000,,ในตอนต่อไป เราจะมาพูดกันนิดหน่อยเกี่ยวกับแนวโน้มของธาตุในตารางธาตุครับ Dialogue: 0,0:11:47.78,0:11:50.82,Default,,0000,0000,0000,,เกี่ยวกับแนวโน้มของคุณสมบัติต่าง ๆ \Nของธาตุในตารางธาตุครับ