0:00:00.145,0:00:03.553 ตอนนี้ผมอยู่กับเจสซี่ โร ครูคณิตศาสตร์ที่[br]Summit San Jose 0:00:03.553,0:00:05.160 และเป็น teaching fellow ของคานอะคาเดมี่ 0:00:05.160,0:00:08.403 คุณมีแนวคิดหรือคำถามที่น่าสนใจด้วย 0:00:08.403,0:00:11.599 ครับ คำถามหนึ่งที่นักเรียนถามบ่อยๆ ตอน[br]เริ่มเรียนพีชคณิต 0:00:11.599,0:00:16.106 คือว่าทำไมเราต้องใช้ตัวอักษร ทำไมเราไม่ใช้[br]ตัวเลขแทนทุกอย่าง? 0:00:16.106,0:00:18.076 ทำต้องตัวอักษร? ทำไมเราต้องมี 0:00:18.076,0:00:21.811 x, y, z แล้วก็ abc เวลาเริ่มยุ่งกับพีชคณิตด้วย? 0:00:21.811,0:00:22.680 ใช่ ใช่แล้ว 0:00:22.680,0:00:28.286 มันน่าสนใจ ทำไมเราไม่ลองให้[br]คนอื่นลองคิดสักครู่ 0:00:28.286,0:00:30.232 ซาล คุณจะตอบคำถามนี้อย่างไร? 0:00:30.232,0:00:32.193 ทำไมเราต้องใช้ตัวอักษรในพีชคณิต? 0:00:32.193,0:00:35.824 ทำไมต้องตัวอักษร ผมคิดว่ามีหลายวิธี 0:00:35.824,0:00:38.026 วิธีหนึ่งคือถ้าคุณมีสิ่งที่ไม่ทราบค่า 0:00:38.026,0:00:44.239 ถ้าคุณเขียน x บวก 3 เท่ากับ 10 0:00:44.239,0:00:46.577 สาเหตุที่เราทำอย่างนี้เพราะ[br]เราไม่รู้ว่า x คืออะไร 0:00:46.577,0:00:48.298 มันเป็นปริมาณไม่ทราบค่า 0:00:48.298,0:00:50.197 และเราจะต้องแก้หาค่ามันด้วยวิธีสักอย่าง 0:00:50.197,0:00:51.710 แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นตัวอักษร x 0:00:51.710,0:00:55.703 เราเขียนเลยก็ได้ว่า ช่องว่าง บวก 3 เท่ากับ 10 0:00:55.703,0:00:59.725 หรือเราเขียนว่า เครื่องหมายคำถาม[br]บวก 3 เท่ากับ 10 ก็ได้ 0:00:59.725,0:01:03.147 มันไม่จำเป็นต้องเป็นตัวอักษร แต่เรา[br]ต้องใช้สัญลักษณ์สักอย่าง 0:01:03.147,0:01:07.434 มันจะเป็นหน้ายิ้ม บวก 3 เท่ากับ 10 ก็ได้ 0:01:07.434,0:01:12.181 แต่ก่อนจะรู้ค่าจริง คุณต้องมีสัญลักษณ์แทน[br]มันไปก่อน ไม่ว่ามันจะแทนค่าอะไร 0:01:12.181,0:01:15.700 ทีนี้ เราก็ไปแก้สมการ และรู้ว่าสัญลักษณ์[br]หมายถึงอะไรจริงๆ 0:01:15.700,0:01:17.916 แต่ถ้าเรารู้มาก่อน มันก็จะไม่ใช่[br]ตัวแปรไม่ทราบค่า 0:01:17.916,0:01:20.387 มันไม่ใช่สิ่งที่เราไม่รู้ 0:01:20.387,0:01:23.576 นั่นคือสาเหตุหนึ่งที่ผมใช้ตัวอักษร 0:01:23.576,0:01:26.489 นั่นคือเมื่อตัวเลขอย่างเดียวไม่ช่วยอะไร 0:01:26.489,0:01:28.942 อีกวิธีหนึ่งคือ เวลาคุณบรรยายความสัมพันธ์[br]ระหว่างจำนวน 0:01:28.942,0:01:32.286 คุณอาจคิดอย่างเช่น -- ผมบอกว่า -- 0:01:32.286,0:01:38.021 เมื่อเไหร่ก็ตามที่คุณให้ 3 มา ผมจะให้ 4 0:01:38.021,0:01:43.762 แล้วผมบอกว่า ถ้าคุณให้ 5 มา [br]ผมจะให้ 6 คืนคุณ 0:01:43.762,0:01:46.050 ผมทำอย่างนี้ได้ตลอดไป 0:01:46.050,0:01:51.626 ถ้าคุณให้ 7.1 ผมมา ผมจะให้คุณคืน 8.1 0:01:51.626,0:01:54.431 และผมเขียนรายการนี้ไปเรื่อยๆ ได้ 0:01:54.431,0:01:57.477 คุณให้จำนวนใดๆ มา ผมก็บอกคุณได้ว่า[br]ผมจะให้อะไรคุณ 0:01:57.477,0:02:00.879 แต่ผมจะใช้ทั้งพื้นที่ทั้งเวลา[br]ถ้าผมเขียนทุกอย่างออกมา 0:02:00.879,0:02:06.259 และเราทำอย่างสวยงามกว่านี้ได้ ถ้าเราใช้[br]ตัวอักษรเพื่อบรรยายความสัมพันธ์ 0:02:06.259,0:02:11.296 เราอาจเรียกสิ่งที่คุณให้ผมว่า x และเรียก[br]สิ่งที่ผมให้คุณว่า y 0:02:11.296,0:02:14.678 แล้วผมบอกว่า ดูสิ ไม่ว่าคุณให้อะไรผมมา[br]ผมจะบวก 1 เข้าไป 0:02:14.678,0:02:16.867 และนั่นคือสิ่งที่ผมให้คุณคืน 0:02:16.867,0:02:20.670 และตอนนี้ สมการง่ายมากอันนี้ 0:02:20.670,0:02:24.717 สามารถบรรยายความสัมพันธ์[br]จำนวนนับไม่ถ้วน ระหว่าง x 0:02:24.717,0:02:28.219 กับจำนวนค่า y ที่คู่กับ x จำนวนนับไม่ถ้วน 0:02:28.219,0:02:31.497 ตอนนี้ มีคนรู้ว่า ไม่ว่าคุณจะให้ x อะไรก็ตามมา 0:02:31.497,0:02:34.612 ถ้าคุณให้ 3 ผมก็บวก 1 เข้าไป [br]แล้วผมจะให้ 4 คุณ 0:02:34.627,0:02:38.200 คุณให้ 7.1 ผมก็บวก 1 เข้าไป [br]แล้วให้ 8.1 แก่คุณ 0:02:38.200,0:02:41.166 มันไม่มีวิธีที่สวยกว่านี้ที่คุณทำได้[br]นอกจากใช้สัญลักษณ์ 0:02:41.166,0:02:43.959 ที่่จริงแล้ว ผมไม่ต้องใช้ x กับ y ก็ได้ 0:02:43.959,0:02:46.648 นี่เป็นแค่ธรรมเนียมที่ใช้กันมาในประวัติศาสตร์ 0:02:46.648,0:02:49.725 ผมกำหนดได้ว่า สิ่งที่คุณให้ผมคือ ดาว 0:02:49.725,0:02:54.827 และสิ่งที่ผมให้คุณคือหน้ายิ้ม 0:02:54.827,0:02:57.733 และนี่ก็คือวิธีแสดงผลที่ถูกต้องเช่นกัน 0:02:57.733,0:03:01.733 ตัวอักษรที่จริงแล้วแค่สัญลักษณ์ [br]ไม่มีอะไรมากกว่านั้น