1 00:00:00,817 --> 00:00:03,651 คริส แอนเดอร์สัน: คุณเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ ทางคณิตศาสตร์ก็ว่าได้ 2 00:00:03,675 --> 00:00:06,739 คุณได้สอนที่ฮาร์วาด และ เอ็มไอที ตอนอายุน้อย 3 00:00:06,763 --> 00:00:08,953 และจากนั้น เอนเอสเอ ก็เรียกตัว 4 00:00:09,464 --> 00:00:10,668 มันเป็นอย่างไรบ้างครับ 5 00:00:11,207 --> 00:00:15,130 จิม ไซม่อนส์: เออ เอ็นเอสเอ -- นั่นคือ หน่วยความมั่นคงแห่งชาติ-- 6 00:00:15,154 --> 00:00:17,123 พวกเขาไม่ได้เรียกมาจริงๆ หรอกครับ 7 00:00:17,465 --> 00:00:21,939 พวกเขามีปฏิบัติการที่พรินส์ตัน ที่ซึ่งพวกเขาจ้างนักคณิตศาสตร์ 8 00:00:21,963 --> 00:00:24,905 ให้โจมตีรหัสลับ และอะไรแบบนั้น 9 00:00:25,294 --> 00:00:26,966 และผมรู้ว่ามันมีอยู่จริง 10 00:00:27,315 --> 00:00:29,495 และพวกเขาก็มีนโยบายที่ดีมากๆ 11 00:00:29,519 --> 00:00:33,369 เพราะคุณสามารถทำงานครึ่งเวลา กับคณิตศาสตร์ของคุณ 12 00:00:33,393 --> 00:00:36,877 และทำงานให้พวกเขาอย่างน้อนครึ่งเวลา 13 00:00:37,559 --> 00:00:39,033 และพวกเขาก็จ่ายให้เยอะด้วย 14 00:00:39,057 --> 00:00:42,108 ฉะนั้น นั่นเป็นการดึงตัวที่ยากที่จะยั้งได้ 15 00:00:42,132 --> 00:00:44,044 ผมก็เลยไปที่นั่น 16 00:00:44,068 --> 00:00:45,406 คริส: คุณเคยเป็นคนถอดรหัส 17 00:00:45,430 --> 00:00:46,596 จิม: เคยครับ 18 00:00:46,620 --> 00:00:47,777 คริส: จนกระทั่งคุณโดนไล่ออก 19 00:00:47,801 --> 00:00:49,384 จิม: อืม ผมถูกไล่ออก ใช่ครับ 20 00:00:49,408 --> 00:00:50,653 คริส: เป็นไงมาไงครับ 21 00:00:51,280 --> 00:00:52,613 จิม: อืม ยังไงน่ะหรอ 22 00:00:53,611 --> 00:00:58,567 ผมถูกไล่ออก เพราะว่า อืม ตอนนั้นเกิดสงครามเวียดนาม 23 00:00:58,591 --> 00:01:04,329 และหัวหน้าของหัวหน้าทั้งหลายในองค์กรผม เป็นแฟนพันธ์ุแท้สงคราม 24 00:01:04,353 --> 00:01:08,748 และเขียนบทความในนิตยสารนิวยอร์คไทมส์ ในหัวเรื่องจากปก 25 00:01:08,772 --> 00:01:10,542 เกี่ยวกับว่าเราจะชนะสงครามเวียดนามได้อย่างไร 26 00:01:10,566 --> 00:01:13,695 และผมไม่ชอบสงคราม ผมคิดว่ามันโง่เง่า 27 00:01:13,719 --> 00:01:16,384 ผมเลยเขียนจดหมายไปยังไทมส์ ซึ่งพวกเขาก็ตีพิมพ์ 28 00:01:16,408 --> 00:01:20,422 ว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ทำงานให้กับ แม็กซ์เวล เทเลอร์ 29 00:01:20,446 --> 00:01:25,132 ถ้าใครสักคนจะจำชื่อนั้นได้ เห็นด้วยกับแนวคิดของเขา 30 00:01:25,553 --> 00:01:27,211 และผมก็ให้เหตุผลของผม ... 31 00:01:27,235 --> 00:01:29,399 คริส: โอ้ โอเค ผมเห็นได้ว่านั่นอาจจะ -- 32 00:01:29,423 --> 00:01:31,978 จิม: ... ซึ่งมันต่างจากความคิดของ นายพลเทเลอร์ 33 00:01:32,002 --> 00:01:33,908 แต่สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครยอมพูดอะไร 34 00:01:33,932 --> 00:01:37,633 แต่หลังจากนั้น ผมอายุ 29 ในตอนนั้น และก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาหาผม 35 00:01:37,657 --> 00:01:40,745 และพูดว่า เขาเป็นนักข่าว จากนิตยสารนิวส์วีค 36 00:01:40,769 --> 00:01:46,136 และเขาอยากจะสัมภาษณ์ผม และถามว่าผมทำอย่างไรกับความคิดของผม 37 00:01:46,160 --> 00:01:50,059 และผมบอกเขาไปว่า "ส่วนใหญ่ผมกำลัง ทำงานด้านคณิตศาสตร์ตอนนี้ 38 00:01:50,083 --> 00:01:53,456 และเมื่อสงครามจบ จากนั้นผมจะทำงานส่วนใหญ่ให้พวกเขา" 39 00:01:54,123 --> 00:01:56,948 จากนั้น ผมทำแต่เรื่องต้องใช้สมอง ที่ผมควรจะทำในตอนนั้น -- 40 00:01:56,972 --> 00:02:01,129 ผมบอกเจ้านายที่ผมอยู่ในสังกัด ว่าผมให้สัมภาษณ์ 41 00:02:01,153 --> 00:02:02,612 เขาถามว่า "คุณพูดว่าอะไร" 42 00:02:02,636 --> 00:02:04,102 ผมก็บอกเขาไปว่าผมพูดอะไร 43 00:02:04,126 --> 00:02:06,441 จากนั้น เขาบอกว่า "ผมต้องโทรหาเทเลอร์" 44 00:02:06,465 --> 00:02:08,842 เขาโทรหาเทเลอร์ ใช้เวลา 10 นาที 45 00:02:08,866 --> 00:02:11,128 ผมถูกไล่ออกห้านาทีหลังจากนั้น 46 00:02:11,590 --> 00:02:12,812 คริส: โอเค 47 00:02:12,836 --> 00:02:13,987 จิม: แต่มันก็ไม่เลว 48 00:02:14,011 --> 00:02:16,504 คริส: ก็ไม่เลวเลย เพราะว่าคุณได้ไปที่สโตนี่ บรู๊ค 49 00:02:16,528 --> 00:02:19,661 และรับงานเป็นนักคณิตศาสตร์ 50 00:02:19,685 --> 00:02:22,137 คุณเริ่มทำงานกับผู้ชายคนนี้ 51 00:02:22,161 --> 00:02:23,325 เขาเป็นใครครับ 52 00:02:24,352 --> 00:02:25,764 จิม: โอ้ [ชิยิง-เชน] เฉิน 53 00:02:25,788 --> 00:02:28,892 เฉินเป็นนักคณิตศาสตร์ที่เจ๋งที่สุดในศตวรรษนี้ 54 00:02:28,916 --> 00:02:34,149 และผมรู้จักเขา ตอนผมเป็นนักเรียนระดับปริญญาที่เบิร์กลีย์ 55 00:02:34,173 --> 00:02:36,044 และผมก็มีความคิดบางอย่าง 56 00:02:36,068 --> 00:02:38,515 และไปนำไปเสนอเขา และเขาก็ชอบพวกมัน 57 00:02:38,539 --> 00:02:45,165 เราทำงานนี้ด้วยกัน ซึ่งคุณคงเห็นได้ 58 00:02:45,189 --> 00:02:46,339 นั่นแหละครับ 59 00:02:47,198 --> 00:02:50,804 คริส: มันนำคุณไปสู่การตีพิมพ์ ผลงานชื่อดังร่วมกัน 60 00:02:50,828 --> 00:02:54,066 คุณอธิบายให้เราเข้าใจได้ไหมครับ ว่ามันเป็นงานเกี่ยวกับอะไร 61 00:02:55,028 --> 00:02:56,186 จิม: ไม่ได้ครับ 62 00:02:56,210 --> 00:02:58,484 (เสียงหัวเราะ) 63 00:02:58,966 --> 00:03:01,030 จิม: ผมหมายถึง ผมคงอธิบายให้บางคนเข้าใจได้ 64 00:03:01,054 --> 00:03:03,129 (เสียงหัวเราะ) 65 00:03:03,153 --> 00:03:05,017 คริส: แล้วถ้าอธิบายอันนี้ล่ะครับ 66 00:03:05,041 --> 00:03:07,770 จิม: คงได้กับไม่กี่คนหรอกครับ ไม่มากหรอก 67 00:03:09,144 --> 00:03:11,958 คริส: ผมคิดว่าคุณบอกผมว่า มันมีอะไรเกี่ยวกับทรงกลม 68 00:03:11,982 --> 00:03:13,844 ลองเริ่มจากตรงนั้นไหมครับ 69 00:03:13,868 --> 00:03:17,468 จิม: ครับ มันเกี่ยวครับ แต่ผมขอพูดเกี่ยวกับงานนั้น -- 70 00:03:17,492 --> 00:03:20,692 มันเกี่ยวข้องกันนะครับ แต่ก่อนที่ผมจะพูดถึงเรื่องนั้น -- 71 00:03:20,716 --> 00:03:24,256 งานนั้นมันเป็นคณิตศาสตร์ชั้นดี 72 00:03:24,280 --> 00:03:26,772 ผมรู้สึกชอบมันมาก เฉินก็เช่นกัน 73 00:03:27,910 --> 00:03:32,086 มันเป็นจุดเริ่มต้นของสาขาย่อยเล็กๆ ที่ตอนนี้กำลังเติบโต 74 00:03:32,638 --> 00:03:37,932 แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น มันสามารถนำไปใช้กับฟิสิกส์ได้ 75 00:03:37,956 --> 00:03:42,251 ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่รู้จักมันเลย -- อย่างน้อยผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฟิสิกส์ 76 00:03:42,275 --> 00:03:44,557 และผมไม่คิดว่าเฉินก็ไม่ได้รู้มาก 77 00:03:44,581 --> 00:03:48,544 และประมาณ 10 ปีหลังจากงานตีพิมพ์ออกมา 78 00:03:48,568 --> 00:03:53,048 ชายที่ชื่อว่า เอ็ด วิทเทน ในพรินสตัน เริ่มที่จะใช้มันกับทฤษฎีสตริง 79 00:03:53,072 --> 00:03:57,924 และคนในรัสเซียก็เริ่มจะใช้มัน กับสิ่งที่เรียกว่า "สสารควบแน่น" 80 00:03:57,948 --> 00:04:02,841 ทุกวันนี้ สิ่งเหล่านั้นที่ถูกเรียกว่า ค่าคงที่ เฉิน-ไซมอนส์ 81 00:04:02,865 --> 00:04:04,730 ได้กระจายออกมาทั่วทั้งวงการฟิสิกส์ 82 00:04:04,754 --> 00:04:05,928 และมันก็น่าทึ่ง 83 00:04:05,952 --> 00:04:07,317 เราไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับฟิสิกส์ 84 00:04:07,714 --> 00:04:10,568 มันไม่เคยเกิดขึ้นกับผม ที่จะรู้สึกว่ามันน่าจะใช้กับฟิสิกส์ได้ 85 00:04:10,592 --> 00:04:14,380 แต่นั่นแหละคณิตศาสตร์ -- คุณไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น 86 00:04:14,404 --> 00:04:15,896 คริส: มันเหลือเชื่อมากเลยครับ 87 00:04:15,920 --> 00:04:20,284 ฉะนั้น เรากำลังพูดถึงเรื่องการวิวัฒนาการ ของความคิดมนุษย์ 88 00:04:20,308 --> 00:04:22,816 ที่อาจ หรืออาจจะไม่สัมผัสกับความจริง 89 00:04:22,840 --> 00:04:26,153 อย่างไรก็ดี คุณคิดทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ได้ 90 00:04:26,177 --> 00:04:28,025 โดยไม่รู้เรื่องฟิสิกส์ 91 00:04:28,049 --> 00:04:30,547 แล้วค้นพบในอีกสองทศวรรษต่อมา ว่ามันถูกนำไปปรับใช้ได้ 92 00:04:30,571 --> 00:04:33,602 เพื่ออธิบายโลกทางฟิสิกส์อย่างลึกซึ้ง 93 00:04:33,626 --> 00:04:34,779 มันเกิดขึ้นได้อย่างไรครับ 94 00:04:34,803 --> 00:04:35,960 จิม: พระเจ้าคงทราบครับ 95 00:04:35,984 --> 00:04:38,094 (เสียงหัวเราะ) 96 00:04:38,849 --> 00:04:41,999 แต่มีนักฟิสิกส์ชื่อดังชื่อว่า [ยูจีน] วิกเนอร์ 97 00:04:42,023 --> 00:04:47,611 และเขาเขียนบทความเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพที่ไม่สมเหตุสมผลของคณิตศาสตร์ 98 00:04:47,635 --> 00:04:51,587 อย่างไรก็ดี คณิตศาสตร์นี้ ซึ่งหยั่งรากในโลกแห่งความจริง 99 00:04:51,611 --> 00:04:56,606 ในบางแง่มุม -- เราเรียนรู้ที่จะนับ จะวัด ทุกๆ คนก็ทำกัน -- 100 00:04:56,630 --> 00:04:58,460 และจากนั้นมันก็เติบโตด้วยตัวของมัน 101 00:04:58,976 --> 00:05:01,817 แต่บ่อยครั้ง มันก็ย้อนกลับมาเพื่อกู้วิกฤติ 102 00:05:02,293 --> 00:05:04,471 ทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไปเป็นตัวอย่างหนึ่ง 103 00:05:04,495 --> 00:05:07,612 [เฮอร์มัน] มินคอฟฟสกี มีเรขาคณิตนี้ และไอสไตน์ก็ตระหนักว่า 104 00:05:07,636 --> 00:05:11,483 "เฮ้ย นี่มันใช่เลย ที่ฉันจะใช้คำนวณสัมพันธภาพทั่วไป" 105 00:05:11,507 --> 00:05:14,619 ฉะนั้น คุณไม่อาจรู้เลย มันเป็นปริศนา 106 00:05:15,056 --> 00:05:16,273 มันคือปริศนา 107 00:05:16,297 --> 00:05:19,593 คริส: งั้น นี่คืองานทางคณิตศาสตร์แห่งความคงที่ 108 00:05:19,617 --> 00:05:20,959 เล่าให้เราฟังหน่อยครับ 109 00:05:20,983 --> 00:05:26,907 จิม: ครับ นั่นกระดิ่ง -- มันเป็นทรงกลม และมันก็มีโครงระแนงรอบๆ -- 110 00:05:26,931 --> 00:05:28,504 พวกตารางเหล่านั้น 111 00:05:30,697 --> 00:05:35,603 ที่ผมกำลังจะแสดงให้เห็นตอนนี้ ถูกสำรวจไว้แต่แรกโดย [เลโอนาร์ด] ยูเลอร์ 112 00:05:35,627 --> 00:05:37,881 นักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ในยุค 1700 113 00:05:38,223 --> 00:05:43,404 และมันก็ค่อยๆ เติบโต เป็นสาขาในวิชาคณิตศาสตร์ที่สำคัญมากๆ 114 00:05:43,428 --> 00:05:45,762 โทโพโลยีเชิงพีชคณิต, เรขาคณิต 115 00:05:47,039 --> 00:05:51,403 เอกสารตรงนั้นมีที่มาจากสิ่งนี้ 116 00:05:51,427 --> 00:05:53,261 ฉะนั้น มันเป็นอย่างนี้ครับ 117 00:05:53,285 --> 00:05:57,737 มันมีแปดจุดยอด 12 ขอบ, หกหน้า 118 00:05:57,761 --> 00:06:01,591 และถ้าคุณมองมันแบบต่าง -- จุดยอดหักออกด้วยขอบบวกด้วยหน้า -- 119 00:06:01,615 --> 00:06:02,767 คุณจะได้สอง 120 00:06:02,791 --> 00:06:05,010 โอเค ดี สอง นั่นเป็นเลขที่ดี 121 00:06:05,034 --> 00:06:09,282 นี่คือวิธีการที่แตกต่างในการทำ -- นี่คือส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมที่คลุมอยู่ 122 00:06:09,306 --> 00:06:13,883 ที่มี 12 จุดยอด และ 30 มุม 123 00:06:13,907 --> 00:06:18,102 และ 20 หน้า, 20 ช่อง 124 00:06:18,576 --> 00:06:23,167 จุดยอดหักออกด้วยขอบบวกด้วยหน้า ก็ยังคงเท่ากับสอง 125 00:06:23,191 --> 00:06:26,038 อันที่จริง คุณสามารถทำแบบนี้ แบบไหนก็ได้ -- 126 00:06:26,062 --> 00:06:29,460 คลุมสิ่งนี้ด้วยโพลีกอนและสามเหลี่ยม แบบใดๆ ก็ตาม 127 00:06:29,484 --> 00:06:30,804 และผสมมันเข้าด้วยกัน 128 00:06:30,828 --> 00:06:34,107 และคุณเอาจุดยอดลบด้วยขอบ บวกด้วยหน้า -- คุณจะได้สอง 129 00:06:34,131 --> 00:06:35,742 นี่คือรูปที่ต่างกัน 130 00:06:36,480 --> 00:06:41,730 นี่คือทรงห่วงยาง หรือพื้นผิวของโดนัท 16 จุดยอด 131 00:06:41,754 --> 00:06:45,998 ถูกปกคลุมโดยสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหล่านี้ 32 มุม 16 หน้า 132 00:06:46,530 --> 00:06:49,214 จุดยอดหักออกด้วยขอบได้คำตอบเป็นศูนย์ 133 00:06:49,238 --> 00:06:50,713 มันออกมาเป็นศูนย์เสมอ 134 00:06:50,737 --> 00:06:55,047 ทุกครั้งทีคุณปกคลุมทรงห่วงยาง ด้วยสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยม 135 00:06:55,071 --> 00:06:59,006 หรืออะไรแนวนั้น คุณจะได้ศูนย์ 136 00:07:00,514 --> 00:07:02,904 ฉะนั้นมันจึงถูกเรียกว่า ลักษณะ ยูเลอร์ 137 00:07:02,928 --> 00:07:06,377 และมันเป็นสิ่งที่ถูกเรียกว่า ค่าคงที่โทโพโลจี 138 00:07:06,849 --> 00:07:08,005 มันน่าอัศจรรย์ไม่น้อย 139 00:07:08,029 --> 00:07:10,820 ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไรกับมัน คุณจะได้ตำคอบเดิมเสมอ 140 00:07:10,844 --> 00:07:17,143 ฉะนั้น นั่นเป็นแหล่งแรกของผลักดัน จากกลางยุค 1700 141 00:07:17,167 --> 00:07:20,936 เข้าไปในเรื่องซึ่งตอนนี้เรียกว่า โทโพโลจีเชิงเรขาคณิต 142 00:07:20,960 --> 00:07:23,943 คริส: และงานของคุณใช้แนวคิดแบบนี้ และขับเคลื่อนมัน 143 00:07:23,967 --> 00:07:26,416 เข้าไปยังทฤษฎีที่มีมิติมากกว่านั้น 144 00:07:26,440 --> 00:07:29,528 วัสดุที่มีมิติมาก และค้นพบค่าคงที่ใหม่ 145 00:07:29,552 --> 00:07:34,195 จิม: ครับ มันมีค่าคงที่มิติมากอยู่แล้ว 146 00:07:34,219 --> 00:07:38,676 คลาส พอนทริอจิน (Pontryagin) -- อันที่จริงมันมีคลาส เฉิน 147 00:07:38,700 --> 00:07:42,248 มันมีสาขาของชนิดค่าคงที่เหล่านี้ 148 00:07:42,272 --> 00:07:46,407 ผมพยายามที่จะทำงานกับหนึ่งในนั้น 149 00:07:46,431 --> 00:07:50,634 และการจำลองมันค่อนข้างจะเกี่ยวกับการจัดการ 150 00:07:50,658 --> 00:07:53,680 แทนที่จะเป็นในวิธีแบบที่เราทำกันทั่วไป 151 00:07:53,704 --> 00:07:58,063 และนั่นก็นำไปสู่งานนี้ และเราก็ได้เปิดเผยสิ่งใหม่บางอย่าง 152 00:07:58,087 --> 00:08:01,588 แต่ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะ คุณ ยูเลอร์ -- 153 00:08:01,612 --> 00:08:05,593 ผู้เขียนงานทางคณิตศาสตร์ไว้ถึง 70 ฉบับ 154 00:08:05,617 --> 00:08:07,348 และมีลูกๆ 13 คน 155 00:08:07,372 --> 00:08:13,814 ที่คงนั่งโยกขึ้นลงบนตักของเขา ขณะที่เขาเขียนสิ่งเหล่านี้ -- 156 00:08:13,838 --> 00:08:19,612 ถ้ามันไม่ใช่เพราะคุณ ยูเลอร์ มันก็คงจะไม่มีค่าคงที่พวกนี้ 157 00:08:20,157 --> 00:08:24,254 คริส: ครับ ฉะนั้น อย่างน้อย นั่นก็ทำให้เราได้ผู้ที่มีความคิดเป็นเลิศ 158 00:08:24,804 --> 00:08:26,347 มาพูดถึงการฟื้นฟูใหม่กันดีกว่า 159 00:08:26,371 --> 00:08:32,227 เพราะว่าคุณเอาคิดที่เป็นเลิศ และเคยเป็นคนถอดรหัสที่เอ็นเอสเอ 160 00:08:32,251 --> 00:08:35,480 คุณเริ่มที่จะกลายเป็นคนถอดรหัส ในอุตสาหกรรมการเงิน 161 00:08:35,504 --> 00:08:38,194 ผมคิดว่าคุณอาจไม่เชื่อ ทฤษฎีที่มีประสิทธิภาพทางการตลาด 162 00:08:38,218 --> 00:08:44,605 อย่างไรก็ดี คุณพบหนทางที่จะสร้างเงินได้ ที่น่าทึ่งในรอบสองทศวรรษ 163 00:08:44,629 --> 00:08:46,300 ผมได้รับทราบมาว่า 164 00:08:46,324 --> 00:08:49,823 สิ่งน่าทึ่งที่คุณได้ทำ ไม่ใช่เพียงแค่ ขนาดของผลตอบแทนทางการเงิน 165 00:08:49,847 --> 00:08:53,730 แต่เป็นการที่คุณได้พวกมันมา ด้วยความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่น้อยเหลือเชื่อ 166 00:08:53,754 --> 00:08:55,578 เมื่อเทียบกับ อุตสาหกรรมกองทุนบริหารความเสี่ยงอื่นๆ 167 00:08:55,602 --> 00:08:57,531 คุณทำอย่างนั้นได้อย่างไรครับ 168 00:08:58,071 --> 00:09:02,182 จิม: ผมทำมันโดยการรวมเข้ากลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม 169 00:09:02,206 --> 00:09:06,162 และผมก็เริ่มทำการค้า ผมเริ่มเบื่อคณิตศาสตร์นิดหน่อย 170 00:09:06,186 --> 00:09:10,109 ผมอยู่ในวัย 30 ปลายๆ มีเงินไม่มาก 171 00:09:10,133 --> 00:09:12,642 ผมเริ่มทำการค้า และมันก็ไปได้สวยมาก 172 00:09:13,063 --> 00:09:15,811 ผมทำเงินได้ค่อนข้างมากเพราะโชคช่วย 173 00:09:15,835 --> 00:09:17,501 คือผมหมายถึง ผมคิดว่ามันมาจากโชคล้วนๆ 174 00:09:17,525 --> 00:09:19,634 มันไม่ใช่เพราะแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ 175 00:09:19,658 --> 00:09:23,489 แต่เมื่อมองดูข้อมูลสักพัก ผมก็รู้ว่า 176 00:09:23,513 --> 00:09:26,066 มันดูเหมือนมีโครงสร้างบางอย่างตรงนั้น 177 00:09:26,090 --> 00:09:29,787 และผมก็จ้างนักคณิตศาสตร์จำนวนหนึ่ง และเริ่มสร้างแบบจำลอง -- 178 00:09:29,811 --> 00:09:34,076 เป็นอะไรบางอย่างที่เราทำ ตอนอยู่ที่ ไอดีเอ [สถาบันวิเคราะห์ความมั่นคง] 179 00:09:34,100 --> 00:09:36,933 คุณออกแบบอัลกอริธึม คุณทดสอบมันในคอมพิวเตอร์ 180 00:09:36,957 --> 00:09:39,123 มันได้ผมไหม หรือมันไม่ได้ผล อะไรแบบนั้น 181 00:09:39,443 --> 00:09:40,922 คริส: ขอผมดูได้ไหมครับ 182 00:09:40,946 --> 00:09:45,487 เพราะว่านี่เป็นกราฟทั่วๆ ไปของโภคภัณฑ์ 183 00:09:46,487 --> 00:09:50,528 ผมมองดูแล้วผมก็บอกว่า "นั่นมันก็แค่ขึ้นๆ ลงๆ แบบสุ่ม -- 184 00:09:50,552 --> 00:09:53,414 บางทีแนวโน้มขึ้นนิดหน่อย ตลอดช่วงเวลา" 185 00:09:53,438 --> 00:09:55,551 เป็นไปได้อย่างไรที่คุณมองที่สิ่งนั้น 186 00:09:55,575 --> 00:09:57,901 และเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่ได้เป็นแค่อะไรอย่างสุ่ม 187 00:09:57,925 --> 00:10:01,172 จิม: ในอดีต -- มันคือ กราฟในแบบเก่าๆ 188 00:10:01,196 --> 00:10:05,480 โภคภัณฑ์ หรือการแลกเปลี่ยนค่าเงิน มีแนวโน้มทิศทาง 189 00:10:05,504 --> 00:10:11,559 ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแนวโน้มที่อ่อนมาก ที่คุณเห็นตรงนี้ แต่อาจเป็นแนวโน้มในช่วง 190 00:10:11,583 --> 00:10:15,639 และถ้าคุณคิด โอเค ผมกำลังจะคาดเดาวันนี้ 191 00:10:15,663 --> 00:10:20,631 โดยความเคลื่อนไหวเฉลี่ยใน 20 วันที่ผ่านมา -- 192 00:10:20,655 --> 00:10:23,762 บางที นั่นอาจเป็นการคาดเดาที่ดี 193 00:10:23,786 --> 00:10:29,394 และอันที่จริง หลายปีก่อน ระบบที่ว่านี้น่าจะได้ผล -- 194 00:10:29,418 --> 00:10:31,809 ไม่ค่อยดีนัก แต่น่าจะได้ผล 195 00:10:31,833 --> 00:10:34,342 คุณอาจทำเงิน คุณอาจเสียเงิน คุณอาจได้เงิน 196 00:10:34,366 --> 00:10:36,564 แต่มันมีค่าเทียบเท่ากับทั้งปี 197 00:10:36,588 --> 00:10:40,829 และคุณอาจทำเงินได้นิดหน่อยระหว่างช่วงนั้น 198 00:10:41,884 --> 00:10:43,842 มันเป็นระบบที่เก่ามาก 199 00:10:44,525 --> 00:10:48,054 คริส: ฉะนั้น คุณอาจะทดสอบหลายๆ แนวโน้ม 200 00:10:48,078 --> 00:10:50,514 และดูว่า ยกตัวอย่างเช่น 201 00:10:50,538 --> 00:10:54,019 แนวโน้ม 10 วัน หรือ 15 วัน ใช้คาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปได้หรือไม่ 202 00:10:54,043 --> 00:11:00,805 จิม: แน่นอน คุณอาจลองทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้น และดูว่าอะไรที่ใช้การได้ดีที่สุด 203 00:11:01,515 --> 00:11:04,865 สิ่งที่เป็นไปตามแนวโน้มอาจดีในยุค 60 204 00:11:04,889 --> 00:11:07,021 และมันก็แบบว่าใช้ได้ในยุค 70 205 00:11:07,045 --> 00:11:08,918 แต่พอถึงยุค 80 มันก็ไม่ได้เรื่อง 206 00:11:08,942 --> 00:11:11,759 คริส: เพราะว่าใครๆ ก็คงเห็นมัน 207 00:11:11,783 --> 00:11:14,565 แล้ว คุณนำหน้าคนอื่นๆ ได้อย่างไรครับ 208 00:11:15,046 --> 00:11:21,178 จิม: พวกเราล้ำหน้าคนอื่นๆ โดยหาวิธีอื่น -- 209 00:11:21,202 --> 00:11:23,943 วิธีระยะสั้นกว่า ในบางแง่มุม 210 00:11:25,107 --> 00:11:28,454 จริงๆ ก็คือการรวบรวม เอาข้อมูลปริมาณมาก 211 00:11:28,478 --> 00:11:32,056 และเราต้องจัดการมันด้วยมือในอดีต 212 00:11:32,080 --> 00:11:35,546 พวกเราไปยังแหล่งสำรองกลาง และคัดลอก ค่าการแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์ 213 00:11:35,570 --> 00:11:38,835 และอะไรพวกนั้น เพราะว่ามันไม่ปรากฏในคอมพิวเตอร์ 214 00:11:38,859 --> 00:11:40,502 พวกเราได้ข้อมูลมากมาย 215 00:11:40,526 --> 00:11:44,686 และคนที่ฉลาดมากๆ -- นั่นคือกุญแจสำคัญ 216 00:11:45,463 --> 00:11:49,239 ผมไม่รู้จริงๆ ว่าจะจ้างคนมาทำการค้าพื้นฐาน ได้อย่างไร 217 00:11:49,749 --> 00:11:52,698 ผมเคยจ้างมาบ้าง -- บางคนก็ทำเงิน บางคนก็ไม่ทำเงิน 218 00:11:52,722 --> 00:11:54,602 ผมไม่ได้สร้างธุรกิจจากสิ่งนั้น 219 00:11:54,626 --> 00:11:56,668 แต่ผมรู้ว่าจะจ้างนักวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร 220 00:11:56,692 --> 00:12:00,081 เพราะว่า ผมมีประสบการณ์ในภาคส่วนนั้น 221 00:12:00,105 --> 00:12:01,943 ฉะนั้น นั่นคือสิ่งที่เราทำ 222 00:12:01,967 --> 00:12:05,198 และแบบจำลองเหล่านี้ก็ดีขึ้น และดีขึ้น อย่างช้าๆ 223 00:12:05,222 --> 00:12:06,557 และดียิ่งๆ ขึ้น 224 00:12:06,581 --> 00:12:09,795 คริส: คุณได้รับการกล่าวอ้างว่า ได้ทำสิ่งที่สำคัญในยุคการฟื้นฟู 225 00:12:09,819 --> 00:12:12,420 ซึ่งคือการสร้างวัฒนธรรมนี้ สร้างคนกลุ่มนี้ 226 00:12:12,444 --> 00:12:15,586 ผู้ซึ่งไม่ได้เป็นแค่มือปืนรับจ้าง ที่ใช้เงินหลอกล่อให้ทำงานได้ 227 00:12:15,610 --> 00:12:19,522 ความมุ่งมั่นของพวกเขา คือการได้ทำงานกับคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 228 00:12:19,860 --> 00:12:22,259 จิม: เราหวังว่ามันควรจะจริง 229 00:12:22,283 --> 00:12:25,863 แต่บางส่วนของมันก็คือเงิน 230 00:12:25,887 --> 00:12:27,280 คริส: พวกเขาจะทำเงินมาก 231 00:12:27,304 --> 00:12:29,841 จิม: ผมไม่อาจบอกได้ว่า ไม่มีใครมาที่นี่ เพราะว่าเงิน 232 00:12:29,865 --> 00:12:32,118 ผมคิดว่าหลายๆ คนมาก็เพราะเงิน 233 00:12:32,142 --> 00:12:34,163 แต่พวกเขายังมา เพราะว่ามันน่าจะสนุก 234 00:12:34,187 --> 00:12:36,675 คริส: การเรียนรู้ของเครื่องคอมพิวเตอร์ มีบทบาทในเรื่องนี้อย่างไรครับ 235 00:12:36,699 --> 00:12:39,763 จิม: ในบางแง่มุม สิ่งที่เราทำคือการเรียนรู้ของเครื่องคอมพิวเตอร์ 236 00:12:40,879 --> 00:12:47,170 คุณมองที่ข้อมูลมากมาย และพยายามกระตุ้น รูปแบบที่คาดเดาได้ต่างๆ 237 00:12:47,194 --> 00:12:49,376 จนกระทั่งคุณทำได้ดีขึ้น และดีขึ้น 238 00:12:49,400 --> 00:12:53,167 มันไม่จำเป็นที่มันจะต้องสนองตอบต่อตัวเอง ในแบบที่เราทำ 239 00:12:53,191 --> 00:12:55,500 แต่มันก็ได้ผล 240 00:12:56,150 --> 00:13:00,209 คริส: รูปแบบที่คาดเดาได้ต่างๆ เหล่านี้ อาจแปลกประหลาด และเหนือการคาดเดา 241 00:13:00,233 --> 00:13:02,147 ผมหมายถึง คุณดูที่ทุกอย่าง ใช่ไหมครับ 242 00:13:02,171 --> 00:13:05,488 คุณดูสภาพดินฟ้าอากาศ ความยาวของกระโปรง ความคิดเห็นทางการเมือง 243 00:13:05,512 --> 00:13:08,349 จิม: ครับ ความยาวของกระโปรง เราไม่ได้ลอง 244 00:13:08,373 --> 00:13:10,430 คริส: แล้วอะไรครับ 245 00:13:10,454 --> 00:13:11,612 จิม: ก็ทุกอย่างล่ะครับ 246 00:13:11,636 --> 00:13:14,900 ทุกอย่างที่วิเคราะห์ย่อยลงไปได้ -- ยกเว้นความยาวชายผ้า 247 00:13:16,852 --> 00:13:19,152 อากาศ, รายงานประจำปี 248 00:13:19,176 --> 00:13:23,908 รายงานไตรมาส, ประวัติของตัวข้อมูลเอง, ปริมาณ ว่ามาได้เลย 249 00:13:23,932 --> 00:13:25,083 อะไรก็ตามที่มี 250 00:13:25,107 --> 00:13:27,728 พวกเรานำข้อมูลหลายเทระไบต์เข้ามาทุกวัน 251 00:13:27,752 --> 00:13:31,876 และเก็บมันและส่งมัน และทำให้มันพร้อมสำหรับการวิเคราะห์ 252 00:13:33,446 --> 00:13:34,828 คุณมองหาความผิดปกติ 253 00:13:34,852 --> 00:13:37,805 คุณกำลังมองหา -- อย่างที่คุณบอก 254 00:13:37,829 --> 00:13:40,281 สมมติฐานตลาดที่มีประสิทธิภาพ มันไม่ถูกต้อง 255 00:13:40,305 --> 00:13:43,772 คริส: แต่ความผิดปกติใดๆ อาจเป็นแค่สิ่งบังเอิญ 256 00:13:43,796 --> 00:13:47,454 แล้ว ความลับคือแค่มองที่ความผิดปกติต่างๆ หลายๆ อย่าง 257 00:13:47,478 --> 00:13:48,806 และดูว่าเมื่อไรที่มันอยู่ในแนวเดียวกันใช่ไหมครับ 258 00:13:49,238 --> 00:13:52,451 จิม: ความผิดปกติใดๆ อาจเป็นเรื่องอย่างสุ่ม 259 00:13:52,475 --> 00:13:55,514 อย่างไรก็ดี ถ้าคุณมีข้อมูลเพียงพอ คุณสามารถบอกว่ามันไม่ใช่ 260 00:13:55,538 --> 00:14:00,488 คุณสามารถเห็นความผิดปกติที่ยังคงอยู่ เป็นเวลานานอย่างมีนัยสำคัญ 261 00:14:00,512 --> 00:14:05,487 ความน่าจะเป็นของมันที่เป็นอย่างสุ่ม ไม่ได้สูง 262 00:14:05,511 --> 00:14:10,369 แต่สิ่งเหล่านี้จางหายไปหลังจากช่วงหนึ่ง ความผิดปกติอาจถูกทำให้หายไป 263 00:14:10,393 --> 00:14:12,813 ฉะนั้น คุณจะต้องเป็นผู้นำของธุรกิจ 264 00:14:12,837 --> 00:14:15,509 คริส: หลายคนตอนนี้มองที่ อุตสาหกรรมกองทุนบริหารความเสี่ยง 265 00:14:15,533 --> 00:14:19,931 แล้วก็แบบว่า ... ตะลึงไปเลย 266 00:14:19,955 --> 00:14:22,127 ที่ว่ามันสร้างความมั่งคั่งมากมายเหลือเกิน 267 00:14:22,151 --> 00:14:24,396 และมีคนเก่งๆ มากมายไปยังที่นั่น 268 00:14:25,523 --> 00:14:29,529 คุณกังวลบ้างไหมครับ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมนั่น 269 00:14:29,553 --> 00:14:31,967 แล้วก็อุตสาหกรรมการเงินในแบบทั่วไป 270 00:14:31,991 --> 00:14:34,695 แบบว่าเหมือนอยู่บนรถไฟที่วิ่งหนีออกไป ที่ -- 271 00:14:34,719 --> 00:14:38,749 ผมไม่รู้สิครับ -- ที่ช่วยเพิ่มความไม่เท่าเทียมกันหรือเปล่าครับ 272 00:14:38,773 --> 00:14:42,604 คุณจะเอาชนะมันอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในอุตสาหกรรมกองทุนบริหารความเสี่ยง 273 00:14:42,628 --> 00:14:45,236 จิม: ผมคิดว่าในสามหรือสี่ปีที่ผ่านมา 274 00:14:45,260 --> 00:14:47,363 กองทุนบริหารความเสี่ยงไม่ได้เป็นไปอย่างดี 275 00:14:47,387 --> 00:14:48,787 เราทำได้อย่างยอมเยี่ยมเลยล่ะ 276 00:14:48,811 --> 00:14:52,812 แต่อุตสาหกรรมกองทุนบริหารความเสี่ยง ในภาพรวม ไม่ได้เป็นไปอย่างสวยงาม 277 00:14:52,836 --> 00:14:57,738 ตลาดหลักทรัพย์ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง อยู่ในขาขึ้นอย่างที่ทุกคนทราบ 278 00:14:57,762 --> 00:15:01,207 และอัตราส่วนผลตอบแทนทางด้านราคาก็เติบโต 279 00:15:01,231 --> 00:15:04,294 ฉะนั้นความมั่งคั่งมากมายที่ถูกสร้างขึ้นใน -- 280 00:15:04,318 --> 00:15:07,668 เอาเป็นว่า ห้าหรือหกปีให้หลัง -- ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยกองทุนบริหารความเสี่ยง 281 00:15:08,458 --> 00:15:11,679 คนอาจถามผมว่า "กองทุนบริหารความเสี่ยงเป็นอย่างไร" 282 00:15:11,703 --> 00:15:13,963 ผมจะบอกว่า "หนึ่ง และ 20 " 283 00:15:13,987 --> 00:15:17,553 ซึ่งหมายถึง -- ตอนนี้มันสอง และ 20 -- 284 00:15:17,577 --> 00:15:20,930 ค่าธรรมเนียมคงที่สองเปอร์เซ็นต์ และกำไร 20 เปอร์เซ็นต์ 285 00:15:20,954 --> 00:15:23,306 กองทุนบริหารความเสี่ยงเป็นอะไรที่ต่างออกไป 286 00:15:23,330 --> 00:15:26,569 คริส: ว่ากันว่า คุณเก็บค่าธรรมเนียม ให้สูงขึ้นกว่านั้นอีกนิด 287 00:15:27,339 --> 00:15:30,420 จิม: เราเก็บค่าธรรมเนียม ที่สูงที่สุดในโลกครั้งหนึ่ง 288 00:15:30,444 --> 00:15:33,670 ห้า และ 44 นั่นคือสิ่งที่เราเก็บ 289 00:15:33,694 --> 00:15:35,092 คริส: ห้า และ 44 290 00:15:35,116 --> 00:15:38,350 งั้นก็ คงที่ห้าเปอร์เซ็นต์ และส่วนเพิ่ม 44 เปอร์เซ็นต์ 291 00:15:38,374 --> 00:15:41,157 คุณยังเงินทำให้ผู้ลงทุนของคุณ อย่างมากมายน่าทึ่ง 292 00:15:41,181 --> 00:15:42,633 จิม: เราได้ผลตอบแทนกับมาดี ใช่ครับ 293 00:15:42,657 --> 00:15:45,657 หลายคนหัวเสียเอามากๆ: "คุณเก็บค่าธรรมเนียมซะสูงได้อย่างไร" 294 00:15:45,681 --> 00:15:47,308 ผมบอกว่า "โอเค คุณถอนออกไปก็ได้นะ" 295 00:15:47,332 --> 00:15:50,150 แต่ "ผมจะได้มากกว่านี้ได้อย่างไรล่ะ" นั่นแหละที่คนเป็น -- 296 00:15:50,174 --> 00:15:51,678 (เสียงหัวเราะ) 297 00:15:51,702 --> 00:15:54,142 ณ จุดหนึ่ง อย่างที่ผมคิดว่าผมบอกคุณ 298 00:15:54,166 --> 00:15:59,341 เราซื้อจากนักลงทุนทั้งหมด เพราะมันมีกำลังผลิตสำหรับกองทุน 299 00:15:59,365 --> 00:16:02,069 คริส: แต่เราควรกังวลไหมเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมกองทุนบริหารความเสี่ยง 300 00:16:02,093 --> 00:16:07,531 ที่จะดึงนักคณิตศาสตร์เยี่ยมๆ และผู้มีพรสวรรค์อื่นๆของโลก มากเกินไป 301 00:16:07,555 --> 00:16:10,793 เพื่อให้ทำงานกับสิ่งนั้น แทนที่จะไปแก้ปัญหาอื่นๆ ในโลก 302 00:16:10,817 --> 00:16:12,746 จิม: ครับ มันไม่ใช่แค่คณิตศาสตร์ 303 00:16:12,770 --> 00:16:15,449 เราจ้างนักบินอวกาศ และนักฟิสิกส์ และอะไรแนวนั้น 304 00:16:15,833 --> 00:16:18,264 ผมไม่คิดว่าเราจะต้องกังวลเกี่ยวกับมันมากนัก 305 00:16:18,288 --> 00:16:21,430 มันยังคงเป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็ก 306 00:16:21,454 --> 00:16:27,451 และอันที่จริง การนำวิทยาศาสตร์ มาสู่โลกแห่งการลงทุน 307 00:16:27,475 --> 00:16:29,634 ได้พัฒนาโลกดังกล่าว 308 00:16:29,658 --> 00:16:33,728 มันลดความไม่แน่นอน มันเพิ่มสภาพคล่อง 309 00:16:33,752 --> 00:16:36,941 การกระจายตัวนั้นแคบลง เพราะว่าคนค้าอะไรแนวๆ นั้น 310 00:16:36,965 --> 00:16:42,041 ฉะนั้น ผมไม่กังวลเท่าไร ถ้าไอสไตน์ ลุกขึ้นมาและเริ่มตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยง 311 00:16:42,478 --> 00:16:46,642 คริส: ตอนนี้ คุณอยู่ในช่วงหนึ่งในชีวิตของคุณ ที่คุณจะลงทุนจริงๆ 312 00:16:46,666 --> 00:16:50,400 แม้ว่า สุดท้ายที่ปลายห่วงโซ่อุปทาน -- 313 00:16:50,424 --> 00:16:54,528 ที่จริงคุณกำลังเร่งคณิตศาสตร์ไปทั่วอเมริกา 314 00:16:54,552 --> 00:16:56,417 นี่คือภรรยาของคุณ มาริลิน 315 00:16:56,441 --> 00:17:01,197 คุณกำลังทำงานเกี่ยวกับการกุศลด้วยกัน 316 00:17:01,221 --> 00:17:02,384 เล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับ 317 00:17:02,408 --> 00:17:06,057 จิม: ครับ มาริลิน ก่อตั้ง -- 318 00:17:06,081 --> 00:17:09,528 นั่นครับ เธออยู่ตรงนั้น ภรรยาคนสวยของผม -- 319 00:17:09,552 --> 00:17:12,524 เธอก่อตั้งมูลนิธิมาเกือบ 20 ปีแล้ว 320 00:17:12,548 --> 00:17:13,699 ผมคิดว่าตั้งแต่ยุคปี 94 321 00:17:13,723 --> 00:17:15,818 ผมบอกว่า 93 แต่เธอบอกว่ามันเป็น 94 322 00:17:15,842 --> 00:17:18,413 แต่มันก็สักปีในสองปีนั้นแหละครับ 323 00:17:18,437 --> 00:17:20,572 (เสียงหัวเราะ) 324 00:17:20,596 --> 00:17:27,315 เราก่อตั้งมูลนิธิ เป็นวิธีง่ายๆ ที่เราจะได้ทำการกุศล 325 00:17:28,346 --> 00:17:30,853 เราเก็บหนังสือ และทำสิ่งอื่นๆ 326 00:17:30,877 --> 00:17:37,591 เราไม่ได้มีวิสัยทัศน์ในเวลานั้น แต่วิสัยทัศน์ก็ค่อยๆ เกิดขึ้นมา -- 327 00:17:37,615 --> 00:17:43,119 ซึ่งคือการจะมุ่งความสนใจ ไปยังคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 328 00:17:43,569 --> 00:17:46,341 และนั่นคือสิ่งที่เราทำ 329 00:17:46,365 --> 00:17:52,720 ราวๆ หกปีก่อน ผมออกจากยุคเรืองอำนาจ และผมไปทำงานที่มูลนิธิ 330 00:17:52,744 --> 00:17:54,315 และนั่นคือสิ่งที่เราทำ 331 00:17:54,339 --> 00:17:57,248 คริส: และคณิตศาสตร์สำหรับอเมริกา โดยหลักแล้วก็คือ 332 00:17:57,272 --> 00:17:59,910 การลงทุนกับครูคณิตศาสตร์ทั่วทั้งประเทศ 333 00:17:59,934 --> 00:18:03,736 จัดให้พวกเขามีรายได้เพิ่ม ให้การสนับสนุนพวกเขา และให้การอบรม 334 00:18:03,760 --> 00:18:06,811 และได้พยายามจริงๆ ที่จะทำให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น 335 00:18:06,835 --> 00:18:09,436 และทำให้มันเป็นการเรียกร้อง ที่บรรดาครูต่างปรารถนาให้มีขึ้น 336 00:18:09,460 --> 00:18:14,250 จิม: ครับ -- แทนที่จะหวดครูแย่ๆ 337 00:18:14,274 --> 00:18:19,127 ซึ่งก่อปัญหาทางจรรยาบรรณ ให้กับทั้งวงการการศึกษา 338 00:18:19,151 --> 00:18:21,592 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 339 00:18:21,616 --> 00:18:27,746 เรามุ่งไปที่การเฉลิมฉลองให้กับคนดี และให้การยกย่องพวกเขา 340 00:18:27,770 --> 00:18:30,701 ครับ พวกเราให้เงินเพิ่มเติมกับพวกเขา 15,000 ดอลล่าร์ต่อปี 341 00:18:30,725 --> 00:18:35,192 เรามีครูคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 800 คน ในมหานครนิวยอร์ค ในโรงเรียนรัฐทุกๆ วันนี้ 342 00:18:35,216 --> 00:18:37,030 เป็นแกนหลัก 343 00:18:37,054 --> 00:18:40,740 พวกเขามีจรรยาบรรณที่ดี 344 00:18:40,764 --> 00:18:43,270 พวกเขาคงอยู่ในวงการนี้ 345 00:18:43,294 --> 00:18:46,189 ปีถัดไป มันจะกลายเป็น 1,000 คน และนั่นจะเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ 346 00:18:46,213 --> 00:18:49,757 ของครูคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ในโรงเรียนรัฐใน [นคร] นิวยอร์ก 347 00:18:49,781 --> 00:18:55,686 (เสียงปรบมือ) 348 00:18:55,710 --> 00:18:59,120 คริส: จิม นี่คืออีกโครงการหนึ่ง ที่คุณให้การสนับสนุนในเชิงการกุศล: 349 00:18:59,144 --> 00:19:01,541 การทำวิจัยในเรื่องต้นกำเนิดชีวิต ผมเดาว่าอย่างนั้น 350 00:19:01,565 --> 00:19:03,012 ที่เรากำลังมองอยู่นี่คืออะไรครับ 351 00:19:03,536 --> 00:19:05,418 จิม: ผมจะเก็บไว้สักครู่ 352 00:19:05,442 --> 00:19:07,604 และจากนั้นผมจะบอกคุณ ว่าคุณกำลังมองอะไรอยู่ 353 00:19:07,628 --> 00:19:10,684 กำเนิดชีวิตเป็นคำถามที่น่าสนใจ 354 00:19:10,708 --> 00:19:12,241 เรามาถึงที่นี่ได้อย่างไร 355 00:19:13,170 --> 00:19:14,941 ครับ มันมีสองคำถาม 356 00:19:14,965 --> 00:19:20,833 อย่างแรกคือ ทางนั้นคืออะไร จากธรณีวิทยา ถึง ชีววิทยา -- 357 00:19:20,857 --> 00:19:22,238 พวกเรามาถึงนี่ได้อย่างไร 358 00:19:22,262 --> 00:19:24,626 และอีกคำถามคือ เราเริ่มต้นด้วยอะไร 359 00:19:24,650 --> 00:19:27,752 วัสดุสารอะไร ถ้ามันจะมี เราจะต้องทำตามหนทางนี้หรือ 360 00:19:27,776 --> 00:19:30,837 นั่นคือสองคำถามที่น่าสนใจอย่างมาก 361 00:19:31,773 --> 00:19:37,607 คำถามแรกคือทางที่ซับซ้อน จากธรณีวิทยาไปจนถึงอาร์เอ็นเอ 362 00:19:37,631 --> 00:19:39,889 หรืออะไรบางอย่างเช่น -- พวกมันได้ทำงานได้อย่างไร 363 00:19:39,913 --> 00:19:42,301 และสิ่งอื่นๆ เราต้องลงมือทำงานกับอะไร 364 00:19:42,325 --> 00:19:44,096 ครับ มันมากกว่าที่เราคิด 365 00:19:44,120 --> 00:19:48,963 ภาพตรงนี้ คือดาวที่กำลังถูกสร้างขึ้น 366 00:19:49,836 --> 00:19:53,261 ตอนนี้ ทุกๆ ปี ในทางช้างเผือกของเรา ซึ่งมีดาวแสนล้านดวง 367 00:19:53,285 --> 00:19:55,780 ดาวใหม่ประมาณสองดวงถูกสร้างขึ้น 368 00:19:55,804 --> 00:19:58,274 อย่าถามผมว่ามันถูกสร้างอย่างไร แต่พวกมันถูกสร้างขึ้น 369 00:19:58,298 --> 00:20:01,378 และมันใช้เวลาประมาณล้านปี เพื่อให้เข้าที่ 370 00:20:02,132 --> 00:20:04,308 ฉะนั้น ในระยะที่คงที่ 371 00:20:04,332 --> 00:20:08,180 มีดาวประมาณสองล้านดวง ที่ถูกสร้างขึ้นได้ตลอดเวลา 372 00:20:08,204 --> 00:20:11,662 นั่นเป็นสักแห่งหนึ่ง ในระยะที่จะเข้าที่ 373 00:20:12,067 --> 00:20:15,003 และมันก็มีขยะเหล่านี้ วนเวียนอยู่รอบๆ 374 00:20:15,027 --> 00:20:16,525 ฝุ่น และอะไรพวกนั้น 375 00:20:17,479 --> 00:20:20,502 และมันอาจจะก่อตัวเป็นระบบสุริยจักรวาล หรืออะไรก็ตามแต่ 376 00:20:20,526 --> 00:20:22,702 แต่ที่สำคัญก็คือ -- 377 00:20:22,726 --> 00:20:29,074 ในฝุ่นเหล่านี้ที่วนเวียน อยู่รอบๆ ดาวที่กำลังก่อกำเนิด 378 00:20:29,098 --> 00:20:35,133 ถูกพบว่ามีโมเลกุลอินทรีย์อย่างมีนัยสำคัญ 379 00:20:35,958 --> 00:20:42,097 โมเลกุลไม่ใช่แค่ที่เหมือนมีเธน แต่เป็นฟอร์มาดิไฮด์ และไซยาไนด์ -- 380 00:20:42,121 --> 00:20:48,638 สิ่งที่เป็นโครงสร้างหลัก -- และเป็นต้นกำเนิดของชีวิต จะว่าอย่างนั้นก็ได้ 381 00:20:49,136 --> 00:20:51,828 ฉะนั้น มันอาจเป็นอะไรที่คาดเดาได้ 382 00:20:52,395 --> 00:20:59,329 และมันอาจะเป็นอะไรที่เดาได้ ว่าดาวเคราะห์ทั่วไปในจักรวาล 383 00:20:59,353 --> 00:21:02,965 เริ่มต้นจากบางโครงสร้างหลากพื้นฐานเหล่านี้ 384 00:21:03,830 --> 00:21:06,545 ทีนี้ นั่นมันหมายความว่า มันจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ทั่วไปงั้นหรือ 385 00:21:06,569 --> 00:21:07,933 ก็บางที 386 00:21:07,957 --> 00:21:12,084 แต่มันเป็นคำถามที่ว่าหนทางนี้ มันซับซ้อนแค่ไหน 387 00:21:12,108 --> 00:21:16,502 จากพวกนั้น ที่เริ่มต้นบอบบาง เมล็ดเหล่านั้น เรื่อยมาจนเป็นชีวิต 388 00:21:16,526 --> 00:21:21,718 และเมล็ดส่วนใหญ่เหล่านี้ จะตกลงสู่โลกที่รกร้าง 389 00:21:21,742 --> 00:21:23,151 คริส: ฉะนั้นสำหรับคุณ โดยส่วนตัวเลย 390 00:21:23,175 --> 00:21:25,897 การค้นหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่า เรามาจากไหน 391 00:21:25,921 --> 00:21:29,579 สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นอะไรบางอย่างที่คุณอยากจะได้เห็น 392 00:21:29,603 --> 00:21:31,389 จิม: อยากจะเห็นมากครับ 393 00:21:31,413 --> 00:21:32,903 และอยากที่จะรู้ -- 394 00:21:32,927 --> 00:21:38,097 ถ้าหากหนทางนั้นซับซ้อนเหลือเกิน และแทบจะเป็นไปไม่ได้ 395 00:21:38,121 --> 00:21:42,875 ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นด้วยอะไร คุณก็อาจมีความโดดเด่นเป็นเอกภาพได้ 396 00:21:43,336 --> 00:21:44,488 แต่ในอีกแง่หนึ่ง 397 00:21:44,512 --> 00:21:47,990 เทียบได้เสมือนธุลีอินทรีย์นี้ทั้งหมด ที่กำลังล่องลอยอยู่ 398 00:21:48,014 --> 00:21:51,805 เราก็สามารถมีเพื่อนมากมายในโลกกว้าง 399 00:21:52,947 --> 00:21:54,108 มันคงจะดีมากถ้าได้รู้ 400 00:21:54,132 --> 00:21:57,612 คริส: จิม สองสามปีมานี้ ผมได้มีโอกาสพูดกับ อีลอน มัสค์ 401 00:21:57,636 --> 00:22:00,473 และผมถามเขาถึงความลับความสำเร็จของเขา 402 00:22:00,497 --> 00:22:04,188 และเขาก็จริงจังกับฟิสิกส์ใช่ไหมครับ 403 00:22:04,696 --> 00:22:08,699 ฟังคุณแล้ว ที่ผมได้ยินจากคุณก็คือ ให้จริงจังกับคณิตศาสตร์ 404 00:22:08,723 --> 00:22:11,726 ที่อบอวนอยู่กับคุณมาทั้งชีวิต 405 00:22:12,123 --> 00:22:16,686 มันทำให้อนาคตที่ไม่มีขอบเขตกับคุณ และตอนนี้ มันอนุญาตให้คุณตรวจสอบ 406 00:22:16,710 --> 00:22:21,206 ในอนาคตของคนพันล้านและเด็กพันล้าน ทั่วแอฟริกาและที่อื่นๆ 407 00:22:21,567 --> 00:22:24,425 มันจะเป็นวิทยาศาสตร์ได้ไหมที่ได้ผล 408 00:22:24,449 --> 00:22:27,221 เป็นไปได้ไหมที่คณิตศาสตร์จะได้ผล 409 00:22:27,245 --> 00:22:31,617 จิม: ครับ คณิตศาสตร์มันได้ผลแน่ๆ คณิตศาสตร์ได้ผลอย่างแน่นอน 410 00:22:31,641 --> 00:22:32,839 แต่มันก็สนุกดีครับ 411 00:22:32,863 --> 00:22:37,809 การที่ได้ทำงานกับมาริลิน และ การได้มาปล่อยมันออกไปก็เป็นอะไรที่เพลินมากๆ 412 00:22:37,833 --> 00:22:40,769 คริส: ผมเพิ่งรู้ว่า -- มันเป็นแนวคิดที่สร้างแรงบันดาลใจสำหรับผม 413 00:22:40,793 --> 00:22:44,800 ที่ว่าการจริงจังกับความรู้ ให้อะไรมากกว่าที่คิด 414 00:22:44,824 --> 00:22:47,842 ขอขอบคุณมากสำหรับชีวิตที่น่าทึ่งของคุณ และขอบคุณที่มาที่ TED ครับ 415 00:22:47,866 --> 00:22:48,617 ขอบคุณครับ 416 00:22:48,651 --> 00:22:49,752 จิม ไซม่อนส์ ครับ 417 00:22:49,806 --> 00:22:54,186 (เสียงปรบมือ)