1 00:00:03,170 --> 00:00:06,151 เมื่อผมก้าวลงจากรถประจำทาง 2 00:00:06,151 --> 00:00:07,896 ผมมุ่งตรงไปที่มุมตึก 3 00:00:07,896 --> 00:00:11,284 เพื่อมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก จะไปฝึกอบรมอักษรเบรลล์ 4 00:00:11,284 --> 00:00:13,394 มันเป็นวันหนึ่งในฤดูหนาวปี 2009 5 00:00:13,394 --> 00:00:15,815 และ ผมตาบอด มาประมาณ 1 ปีแล้ว 6 00:00:15,815 --> 00:00:17,948 ผมก็ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี 7 00:00:17,948 --> 00:00:19,855 ผมกำลังจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง 8 00:00:19,855 --> 00:00:21,316 ผม เลี้ยวซ้าย 9 00:00:21,316 --> 00:00:23,920 กดปุ่มอัตโนมัติ ที่มีไว้ให้สัญญาณเสียง แก่คนข้ามถนน 10 00:00:23,920 --> 00:00:25,844 และ กำลังรอข้าม 11 00:00:25,844 --> 00:00:27,933 เมื่อได้สัญญาณ ผมก็เริ่มเดินออกไป 12 00:00:27,933 --> 00:00:29,606 และข้ามไปอีกฝั่งได้อย่างปลอดภัย 13 00:00:29,606 --> 00:00:31,702 เมื่อกำลังก้าวย่างไปตามทางเดิน 14 00:00:31,702 --> 00:00:34,396 ผมก็ได้ยินเสียงของเก้าอี้เหล็กตัวหนึ่ง 15 00:00:34,396 --> 00:00:38,552 กำลังโดนลากผ่านพื้นคอนกรีต ผ่านหน้าผมไป 16 00:00:38,552 --> 00:00:40,469 ผมรู้ว่า มันมีร้านกาแฟตรงหัวมุม 17 00:00:40,469 --> 00:00:42,115 และก็มีเก้าอี้เรียงไว้หน้าร้าน 18 00:00:42,115 --> 00:00:43,511 ดังนั้น ผมจึงเดินหลบไปทางซ้าย 19 00:00:43,511 --> 00:00:45,355 เดินชิดริมถนนขึ้นอีกหน่อย 20 00:00:45,355 --> 00:00:48,995 พอผมหลบ เสียงลากเก้าอี้ก็ไปทางซ้าย 21 00:00:48,995 --> 00:00:51,076 ผมจึงรู้สึกว่า ผมหลบผิดทิศ 22 00:00:51,076 --> 00:00:52,914 จึงเปลี่ยนไปทางด้านขวา 23 00:00:52,914 --> 00:00:56,409 เสียงเก้าอี้ก็ไปทางขวาตามผมอีก 24 00:00:56,409 --> 00:00:58,774 ทีนี้ ผมเริ่มจะกระวนกระวายใจ 25 00:00:58,774 --> 00:01:00,387 ผมจึงหันกลับมาทางซ้าย 26 00:01:00,387 --> 00:01:01,676 เสียงเก้าอี้ก็ตามมาทางซ้าย 27 00:01:01,676 --> 00:01:04,284 ขวางทางเดินผม 28 00:01:04,284 --> 00:01:07,286 ตอนนี้ ผมแทบบ้า 29 00:01:07,286 --> 00:01:08,871 เลยตะโกนออกไป 30 00:01:08,871 --> 00:01:12,132 "ใครอยู่ตรงนั้น เกิดอะไรขึ้น" 31 00:01:12,132 --> 00:01:14,384 และหลังจากผมตะโกนไป 32 00:01:14,384 --> 00:01:17,069 ผมได้ยินอีกเสียง เป็นคล้ายโซ่สั่นๆ 33 00:01:17,069 --> 00:01:18,915 ฟังดูคุ้นๆ 34 00:01:18,915 --> 00:01:20,778 ผมเลยคิดว่ามีอีกกรณีหนึ่งที่เป็นไปได้ 35 00:01:20,778 --> 00:01:22,709 ผมเอื้อมมือซ้ายออกไป 36 00:01:22,709 --> 00:01:26,113 ไปสัมผัสบางอย่างปุยๆ 37 00:01:26,113 --> 00:01:28,664 ผมคิดว่ามันเป็นหู 38 00:01:28,664 --> 00:01:32,926 เป็นหูสุนัข บางทีคงเป็นโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ 39 00:01:32,926 --> 00:01:34,915 เชือกจูงถูกพันอยู่กับเก้าอี้ 40 00:01:34,915 --> 00:01:36,652 เจ้าของคงไปซื้อกาแฟอยู่ 41 00:01:36,652 --> 00:01:38,444 และน้องหมาก็กำลังพยายาม 42 00:01:38,444 --> 00:01:41,782 ที่จะทักทายผม หรืออยากให้ผมเกาหูให้ 43 00:01:41,782 --> 00:01:44,394 ใครจะรู้ บางทีเธออาจอยากเป็นอาสาสมัครอยู่ 44 00:01:44,394 --> 00:01:46,773 (เสียงหัวเราะ) 45 00:01:46,773 --> 00:01:49,182 เรื่องที่ผมเล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง 46 00:01:49,182 --> 00:01:52,381 ที่นำพามาจาก ความกลัวและเข้าใจผิดไปเอง 47 00:01:52,381 --> 00:01:55,284 ในการเดินทางในเมือง 48 00:01:55,284 --> 00:01:56,607 โดยที่มองไม่เห็น 49 00:01:56,607 --> 00:01:59,568 ทำตัวกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว 50 00:01:59,568 --> 00:02:02,468 และผู้คนรอบข้าง 51 00:02:02,468 --> 00:02:06,369 ขอผมเล่าย้อนไปซักนิด 52 00:02:06,369 --> 00:02:08,928 ในวันฉลองนักบุญแพทริค (St. Patrick's Day) ปี 2008 53 00:02:08,928 --> 00:02:11,515 ผมไปโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัด 54 00:02:11,515 --> 00:02:13,709 ตัดเนื้องอกในสมองออก 55 00:02:13,709 --> 00:02:15,796 การผ่าตัด สำเร็จ 56 00:02:15,796 --> 00:02:18,965 สองวันต่อมา สายตาผมเริ่มแย่ 57 00:02:18,965 --> 00:02:22,487 วันที่สาม ผมมองไม่เห็น 58 00:02:22,487 --> 00:02:24,584 ทันใดนั้น ผมถูกครอบงำ 59 00:02:24,584 --> 00:02:28,473 ด้วยความกลัว สับสน อ่อนแอ 60 00:02:28,473 --> 00:02:30,922 เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่เจอแบบเดียวกัน 61 00:02:30,922 --> 00:02:33,414 ผมมีเวลาหยุดคิด 62 00:02:33,414 --> 00:02:35,165 ผมเริ่มตระหนักว่า 63 00:02:35,165 --> 00:02:38,089 มีหลายสิ่งอย่างที่ผมควรจะขอบคุณ 64 00:02:38,089 --> 00:02:41,085 โดยเฉพาะ ผมนึกถึงเรื่องของพ่อผม 65 00:02:41,085 --> 00:02:43,282 ผู้จากไปเพราะภาวะแทรกซ้อน 66 00:02:43,282 --> 00:02:45,385 จากการผ่าตัดสมอง 67 00:02:45,385 --> 00:02:50,476 พ่ออายุ 36 ผม 7 ขวบ 68 00:02:50,476 --> 00:02:53,169 ถึงแม้เหตุการณ์ต่างๆ 69 00:02:53,169 --> 00:02:55,401 จะทำให้ผมกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้น 70 00:02:55,401 --> 00:02:58,035 ผมก็ไม่อาจคาดเดาอนาคต 71 00:02:58,035 --> 00:02:59,793 ผมยังมีชีวิต 72 00:02:59,793 --> 00:03:02,505 ลูกชายก็ยังมีผม 73 00:03:02,505 --> 00:03:04,392 และ ผมไม่ใช่คนแรก 74 00:03:04,392 --> 00:03:06,005 ที่สูญเสียการมองเห็นไป 75 00:03:06,005 --> 00:03:08,154 ผมรู้ว่ามันจะต้องมีระบบ 76 00:03:08,154 --> 00:03:10,471 เทคนิค และ การเรียนรู้ 77 00:03:10,471 --> 00:03:13,033 มาช่วยให้ชีวิตผมมีความหมาย และเติมเต็ม 78 00:03:13,033 --> 00:03:14,635 แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม 79 00:03:14,635 --> 00:03:16,782 เมื่อผมได้ออกจากโรงพยาบาล 80 00:03:16,782 --> 00:03:19,486 หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมก็มีเป้าหมาย 81 00:03:19,486 --> 00:03:21,616 ที่จะออกไปฝึกฝน 82 00:03:21,616 --> 00:03:26,780 เรียนรู้ให้เร็วที่สุด 83 00:03:26,780 --> 00:03:30,828 ผมกลับมาทำงานอีกครั้งภายในหกเดือน 84 00:03:30,828 --> 00:03:32,430 การฝึกฝนเริ่มต้นขึ้น 85 00:03:32,430 --> 00:03:34,090 หัดแม้แต่การขี่จักรยานคู่ 86 00:03:34,090 --> 00:03:35,715 กับเพื่อนเก่าของผม 87 00:03:35,715 --> 00:03:38,412 ผมเดินทางไปทำงานเองได้ 88 00:03:38,412 --> 00:03:40,887 เดินตามถนน ขึ้นรถประจำทาง 89 00:03:40,887 --> 00:03:43,650 งานไม่ง่ายเลย 90 00:03:43,650 --> 00:03:45,917 แต่สิ่งที่ผมไม่ได้คาดหวัง 91 00:03:45,917 --> 00:03:48,889 จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ 92 00:03:48,889 --> 00:03:52,637 คือประสบการณ์ที่น่าทึ่งของการเทียบสองภาวะ 93 00:03:52,637 --> 00:03:56,577 ระหว่างตอนที่ผมมองเห็นและมองไม่เห็น 94 00:03:56,577 --> 00:03:59,250 กับสถานที่เดิมๆ คนเดิมๆ 95 00:03:59,250 --> 00:04:02,753 ในเวลาอันสั้นแค่นี้ 96 00:04:02,753 --> 00:04:04,649 สิ่งเหล่านี้ ทำให้ผมเข้าใจปรุโปร่ง 97 00:04:04,649 --> 00:04:06,146 หรือที่ผมชอบเรียกว่า เข้าใจแบบมืดสนิท 98 00:04:06,146 --> 00:04:09,535 ว่าสิ่งที่ผมเรียนรู้จากการสูญเสียการมองเห็น 99 00:04:09,535 --> 00:04:12,502 มีตั้งแต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ 100 00:04:12,502 --> 00:04:14,167 ไปจนถึงสิ่งที่ลึกซึ้ง 101 00:04:14,167 --> 00:04:16,735 จากเรื่องปกติไปจนถึงน่าขัน 102 00:04:16,735 --> 00:04:19,752 ในฐานะที่ผมเป็นสถาปนิก 103 00:04:19,752 --> 00:04:22,266 ประสบการณ์ของการมองเห็นและไม่เห็น 104 00:04:22,266 --> 00:04:24,551 ในสถานที่เดิมๆ เมืองเดิมๆ 105 00:04:24,551 --> 00:04:26,564 ในเวลาอันสั้นแค่นี้ 106 00:04:26,564 --> 00:04:28,770 ทำให้ผมรู้ลึกถึง 107 00:04:28,770 --> 00:04:31,944 ตัวเมือง 108 00:04:31,944 --> 00:04:33,818 สิ่งที่สุดยอดที่สุด 109 00:04:33,818 --> 00:04:35,812 คือการได้เรียนรู้ว่า 110 00:04:35,812 --> 00:04:39,752 เมืองกรุงเป็นที่ที่เลิศเลอสำหรับคนตาบอด 111 00:04:39,752 --> 00:04:42,073 และผมก็รู้สึกประหลาดใจ 112 00:04:42,073 --> 00:04:45,441 กับแนวโน้มของเมืองกรุง ที่อ่อนโยนและเอาใจใส่กับผม 113 00:04:45,441 --> 00:04:48,921 แทนที่จะไม่แยแส หรือ ปฏิบัติกับผมแย่กว่านั้น 114 00:04:48,921 --> 00:04:50,684 และผมก็ได้พบว่า 115 00:04:50,684 --> 00:04:52,673 คนตาบอดดูเหมือนจะมี 116 00:04:52,673 --> 00:04:56,742 อิทธิพลด้านบวกกับเมืองกรุง 117 00:04:56,742 --> 00:04:59,996 มันทำให้ผมสงสัยนิดหน่อย 118 00:04:59,996 --> 00:05:02,556 ผมกลับมามองดูว่า 119 00:05:02,556 --> 00:05:07,918 ทำไมเมืองกรุงถึงเป็นเมืองดีสำหรับคนตาบอด 120 00:05:07,918 --> 00:05:11,540 สิ่งที่มาพร้อมกับการอบรมฟื้นฟูให้กับคนตาบอด 121 00:05:11,540 --> 00:05:15,411 คือการเรียนรู้ที่จะพึ่งพาสัมผัสอื่นๆ 122 00:05:15,411 --> 00:05:18,637 สิ่งที่ทุกคนอาจจะมองข้ามไป 123 00:05:18,637 --> 00:05:21,182 เหมือนโลกใหม่สำหรับการรับข้อมูล 124 00:05:21,182 --> 00:05:22,631 ได้เปิดออกแล้ว 125 00:05:22,631 --> 00:05:24,159 ผมตื่นตะลึงไปกับเสียงซิมโฟนี 126 00:05:24,159 --> 00:05:27,135 และเสียงเล็กเสียงน้อยรอบตัวในเมือง 127 00:05:27,135 --> 00:05:28,427 ที่ผมจะต้องฟังและเรียนรู้ 128 00:05:28,427 --> 00:05:30,309 และเข้าใจว่าผมอยู่ที่ไหน 129 00:05:30,309 --> 00:05:33,114 จะขยับไปอย่างไร และ ต้องไปทางไหน 130 00:05:33,114 --> 00:05:35,838 เช่นเดียวกับการจับด้ามไม้เท้า 131 00:05:35,838 --> 00:05:39,752 คุณสามารถรับรู้แตกต่างของผิวสัมผัสที่พื้นได้ 132 00:05:39,752 --> 00:05:42,186 และค่อยๆ จับแนวทางได้ว่าคุณอยู่ที่ไหน 133 00:05:42,186 --> 00:05:43,728 และกำลังจะไปไหน 134 00:05:43,728 --> 00:05:46,620 เช่นเดียวกับ แดดที่ทำให้หน้าร้อนฝั่งเดียว 135 00:05:46,620 --> 00:05:49,449 หรือ สายลมที่กระทบคอ 136 00:05:49,449 --> 00:05:51,649 บอกใบ้ทิศทาง 137 00:05:51,649 --> 00:05:53,342 และการเดินผ่านแต่ละช่วงตึก 138 00:05:53,342 --> 00:05:56,847 และเวลากับสถานที่ที่คุณเดินผ่าน 139 00:05:56,847 --> 00:05:59,280 รวมไปถึง การรับรู้กลิ่น 140 00:05:59,280 --> 00:06:01,981 บางท้องที่ก็มีกลิ่นเฉพาะตัว 141 00:06:01,981 --> 00:06:05,022 เช่นเดียวกับสถานที่และสิ่งรอบตัว 142 00:06:05,022 --> 00:06:06,814 คุณอาจตามจมูกคุณไป 143 00:06:06,814 --> 00:06:10,243 ถึงร้านเบเกอรีใหม่ที่คุณตามหาอยู่ 144 00:06:10,243 --> 00:06:11,952 ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมประหลาดใจ 145 00:06:11,952 --> 00:06:14,957 เพราะผมเพิ่งเรียนรู้ว่า 146 00:06:14,957 --> 00:06:17,510 การมองไม่เห็นของผม 147 00:06:17,510 --> 00:06:19,945 ได้ใช้สัมผัสอีกหลายอย่าง 148 00:06:19,945 --> 00:06:22,970 มากกว่าตอนที่ผมมองเห็นเสียอีก 149 00:06:22,970 --> 00:06:25,710 และสิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจอีกอย่าง คือการที่เมืองของผม 150 00:06:25,710 --> 00:06:27,342 เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก 151 00:06:27,342 --> 00:06:29,079 เมื่อตอนมองเห็น 152 00:06:29,079 --> 00:06:31,268 ทุกคนเหมือนจะสนใจตัวเอง 153 00:06:31,268 --> 00:06:33,081 สนใจแต่ธุระตัว 154 00:06:33,081 --> 00:06:34,348 เมื่อมองไม่เห็นแล้ว 155 00:06:34,348 --> 00:06:37,147 กลับกลายเป็นอีกเรื่องเลย 156 00:06:37,147 --> 00:06:38,626 จะไม่มีทางรู้เลยว่าใครมองใครอยู่ 157 00:06:38,626 --> 00:06:42,175 แต่ผมมักสงสัยว่าหลายคนมองผมอยู่ 158 00:06:42,175 --> 00:06:44,323 ผมไม่หวาดระแวง แต่ทุกที่ที่ไป 159 00:06:44,323 --> 00:06:47,352 ผมจะได้รับคำแนะนำต่างๆ 160 00:06:47,352 --> 00:06:49,672 ไปทางนี้ ทางนั้น ระวังตรงนั้นนะ 161 00:06:49,672 --> 00:06:51,749 ข้อมูลมากๆ ก็ดี 162 00:06:51,749 --> 00:06:54,235 บ้างก็มีประโยชน์ แต่หลายทีก็ตรงกันข้าม 163 00:06:54,235 --> 00:06:57,804 ต้องเรียนรู้ว่าเขาต้องการสื่ออะไร 164 00:06:57,804 --> 00:07:01,357 บ้างก็เป็นข้อมูลผิดๆ และไม่ช่วยอะไรเลย 165 00:07:01,357 --> 00:07:04,368 แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดี เมื่อมองในภาพรวมนะ 166 00:07:04,368 --> 00:07:05,904 ครั้งหนึ่งในโอคแลนด์ 167 00:07:05,904 --> 00:07:08,791 ขนะเดินไปถึงหัวมุมของถนน 168 00:07:08,791 --> 00:07:11,598 ผมรอสัญญาณเสียงให้คนข้ามถนนอยู่ 169 00:07:11,598 --> 00:07:14,084 เมื่อผมกำลังจะก้าวลงถนน 170 00:07:14,084 --> 00:07:16,116 ทันใดนั้น มือขวาผม 171 00:07:16,116 --> 00:07:17,796 ก็ถูกมีผู้ชายคนหนึ่งคว้าไว้ 172 00:07:17,796 --> 00:07:20,208 เขากระชากแขนผม แล้วก็ดึงผมเดินข้ามทางม้าลายไป 173 00:07:20,208 --> 00:07:21,882 มันเป็นการถูกลากข้ามถนน 174 00:07:21,882 --> 00:07:24,134 พร้อมเสียงพูดเป็นภาษาจีนกลาง 175 00:07:24,134 --> 00:07:25,542 (เสียงหัวเราะ) 176 00:07:25,542 --> 00:07:29,681 ผมรู้สึกว่าไม่มีทางที่จะหลุด จากกำมือของชายคนนี้ได้ 177 00:07:29,681 --> 00:07:31,404 แต่เขาก็พาข้ามสำเร็จนะ 178 00:07:31,404 --> 00:07:33,754 ผมควรทำอย่างไรดี 179 00:07:33,754 --> 00:07:35,550 แต่เชื่อผมนะ มันมีวิธีสุภาพกว่านี้ 180 00:07:35,550 --> 00:07:37,723 ในการยื่นมือช่วยเหลือ 181 00:07:37,723 --> 00:07:39,245 เพราะผมไม่รู้ว่ามีใครอยู่ตรงนั้น 182 00:07:39,245 --> 00:07:41,225 คงจะดีถ้าทักทายกันก่อน 183 00:07:41,225 --> 00:07:43,361 แล้วถามว่า "ต้องการความช่วยเหลือไหม" 184 00:07:43,361 --> 00:07:46,412 ตอนอยู่ในเมืองโอคแลนด์ ผมงงงัน 185 00:07:46,412 --> 00:07:49,030 ว่าเมืองโอ๊คแลนด์เปลี่ยนไปแค่ไหน 186 00:07:49,030 --> 00:07:51,532 เมื่อผมมองไม่เห็น 187 00:07:51,532 --> 00:07:53,699 ผมชอบเมืองนี้ตอนผมมองเห็น 188 00:07:53,699 --> 00:07:56,275 เป็นเมืองที่ดีมาก 189 00:07:56,275 --> 00:07:57,544 แต่พอผมมองไม่เห็น 190 00:07:57,544 --> 00:07:59,859 และต้องเดินไปตามถนน 191 00:07:59,859 --> 00:08:03,070 มีคนให้พรผมตลอดทาง 192 00:08:03,070 --> 00:08:04,624 "โชคดีนะ พี่" 193 00:08:04,624 --> 00:08:06,887 "ไปโลด พี่ชาย" 194 00:08:06,887 --> 00:08:08,637 "พระเจ้าคุ้มครองนะ" 195 00:08:08,637 --> 00:08:10,497 ตอนผมมองเห็น ไม่เจอแบบนี้เลย 196 00:08:10,497 --> 00:08:11,833 (เสียงหัวเราะ) 197 00:08:11,833 --> 00:08:18,158 แต่ผมไม่เจอแบบนี้ในซานฟรานซิสโก แม้ผมจะมองไม่เห็นเหมือนกัน 198 00:08:18,158 --> 00:08:21,150 เพื่อนตาบอดของผมบางคนรำคาญนะ 199 00:08:21,150 --> 00:08:22,743 ไม่เฉพาะแต่ผม 200 00:08:22,743 --> 00:08:24,792 มันทำให้ผมรู้สึก 201 00:08:24,792 --> 00:08:27,936 ว่าพวกเขาสงสารผม 202 00:08:27,936 --> 00:08:31,049 ผมพยายามเข้าใจว่ามันมาจากมนุษยธรรม 203 00:08:31,049 --> 00:08:34,159 โดยรวม มันก็เจ๋งดีแหละ 204 00:08:34,159 --> 00:08:36,019 เวลาผมรู้สึกจิตตก 205 00:08:36,019 --> 00:08:37,927 ผมเพียงไปเดินในตัวเมืองโอคแลนด์ 206 00:08:37,927 --> 00:08:40,586 ผมก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว 207 00:08:40,586 --> 00:08:43,857 ไม่ต้องใช้เวลาเลย 208 00:08:43,857 --> 00:08:45,892 นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า 209 00:08:45,892 --> 00:08:47,674 คนพิการ ตาบอด 210 00:08:47,674 --> 00:08:50,394 สามารถก้าวข้ามผ่านสังคม 211 00:08:50,394 --> 00:08:53,120 เชื้อชาติ เศรษฐกิจ ได้อย่างไร 212 00:08:53,120 --> 00:08:56,955 ความพิการกลับนำมาซึ่งโอกาสที่เท่าเทียม 213 00:08:56,955 --> 00:08:59,398 ทุกคนได้รับการต้อนรับ 214 00:08:59,398 --> 00:09:01,959 ผมเคยได้ยินว่าชุมชนคนพิการ 215 00:09:01,959 --> 00:09:04,461 แบ่งคนเป็นสองประเภท 216 00:09:04,461 --> 00:09:06,220 คนที่มีความพิการ 217 00:09:06,220 --> 00:09:10,882 และคนที่ยังไม่เจอความพิการของตัวเอง 218 00:09:10,882 --> 00:09:13,003 มันเป็นความคิดต่าง 219 00:09:13,003 --> 00:09:15,252 ผมว่ามันสวยงามนะ 220 00:09:15,252 --> 00:09:17,428 เพราะมันดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 221 00:09:17,428 --> 00:09:19,533 มากกว่าการแบ่งแยก พวกเรากับพวกเขา 222 00:09:19,533 --> 00:09:22,101 หรือ พวกมีความสามารถกับพวกไม่มีความสามารถ 223 00:09:22,101 --> 00:09:24,879 มันมีความเที่ยงธรรม เคารพกันและกัน 224 00:09:24,879 --> 00:09:28,183 ให้กับชีวิตที่เปราะบาง 225 00:09:28,183 --> 00:09:30,108 สิ่งสุดท้ายที่อยากฝากไว้ 226 00:09:30,108 --> 00:09:34,176 คือไม่เฉพาะเมืองกรุงที่เป็นมิตรกับคนตาบอด 227 00:09:34,176 --> 00:09:37,355 เมืองกรุงต้องการเรา 228 00:09:37,355 --> 00:09:39,393 ผมมั่นใจ 229 00:09:39,393 --> 00:09:40,989 สิ่งที่อยากเสนอในวันนี้ 230 00:09:40,989 --> 00:09:44,429 คือการนำคนตาบอดมาเป็นต้นแบบของผู้อาศัยในเมืองนั้น 231 00:09:44,429 --> 00:09:47,714 เมื่อคุณคิดจะออกแบบเมืองใหม่ที่วิเศษ 232 00:09:47,714 --> 00:09:49,575 ไม่ใช่ให้คนตาบอด ถูกนึกถึง 233 00:09:49,575 --> 00:09:51,808 เมื่อพิมพ์เขียวของเมืองถูกร่างขึ้นแล้ว 234 00:09:51,808 --> 00:09:54,861 ถึงตอนนั้นมันคงสายเกินไป 235 00:09:54,861 --> 00:09:58,045 ถ้าออกแบบเมืองโดยคำนึงถึงคนพิการตาบอด 236 00:09:58,045 --> 00:10:02,630 ก็จะเป็นเมืองที่มีทางเดินถนนที่สมบูรณ์ 237 00:10:02,630 --> 00:10:04,744 เต็มไปด้วยตัวเลือกต่างๆ 238 00:10:04,744 --> 00:10:08,176 ให้เลือกเต็มถนนไปหมด 239 00:10:08,176 --> 00:10:10,498 ถ้าออกแบบเมืองโดยคำนึงถึงคนพิการตาบอด 240 00:10:10,498 --> 00:10:13,618 ทางเดินเท้าจะเดินง่าย คาดเดาง่าย 241 00:10:13,618 --> 00:10:15,971 ระยะห่างระหว่างตึกจะสมดุล 242 00:10:15,971 --> 00:10:19,410 ระหว่างคนกับรถยนต์ 243 00:10:19,410 --> 00:10:23,467 แต่จริงแล้ว ใครต้องการรถยนต์ 244 00:10:23,467 --> 00:10:26,552 ถ้าคุณตาบอด คุณไม่ขับรถนะ (เสียงหัวเราะ) 245 00:10:26,552 --> 00:10:29,915 ไม่มีใครชอบคนตาบอดขับรถ (เสียงหัวเราะ) 246 00:10:29,915 --> 00:10:32,625 ถ้าออกแบบเมืองโดยคำนึงถึงคนตาบอด 247 00:10:32,625 --> 00:10:35,268 ออกแบบเมืองที่มีความยั่งยืน 248 00:10:35,268 --> 00:10:38,960 เดินทางสะดวก เชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนดี 249 00:10:38,960 --> 00:10:40,562 สามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้สะดวก 250 00:10:40,562 --> 00:10:43,581 ในทั้งเมืองและข้างเคียง 251 00:10:43,581 --> 00:10:45,647 ถ้าออกแบบเมืองโดยคำนึงถึงคนตาบอด 252 00:10:45,647 --> 00:10:48,466 จะสร้างงานได้มากมาย 253 00:10:48,466 --> 00:10:49,796 คนตาบอดก็อยากทำงานนะ 254 00:10:49,796 --> 00:10:52,235 อยากมีรายได้เลี้ยงชีพ 255 00:10:52,235 --> 00:10:54,991 ดังนั้น การออกแบบเมืองให้คนพิการทางสายตา 256 00:10:54,991 --> 00:10:57,060 ควรจะตระหนักถึง 257 00:10:57,060 --> 00:10:59,938 การมีส่วนร่วมมากชึ้น 258 00:10:59,938 --> 00:11:03,544 เท่าเทียมมากขึ้น เป็นของทุก ๆ คนมากขึ้น 259 00:11:03,544 --> 00:11:05,764 จากประสบการณ์ที่ผมเคยมองเห็น 260 00:11:05,764 --> 00:11:07,742 มันฟังดูเป็นเมืองที่น่าจะเจ๋งมาก 261 00:11:07,742 --> 00:11:11,089 สำหรับคนพิการทางสายตา หรือพิการทางอื่น 262 00:11:11,089 --> 00:11:13,573 หรือ ความพิการที่คุณยังไม่รู้ตัว 263 00:11:13,573 --> 00:11:16,185 ขอบคุณครับ 264 00:11:16,185 --> 00:11:20,185 (เสียงปรบมือ)