1 00:00:00,739 --> 00:00:02,739 ผมได้ใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมา 2 00:00:02,739 --> 00:00:05,398 พยายามตอบปริศนาสองข้อ: 3 00:00:05,398 --> 00:00:09,759 ทำไมผลิตภาพที่ได้ จึงเป็นที่ผิดหวังมาก 4 00:00:09,759 --> 00:00:11,641 ในบริษัททุกแห่งที่ผมทำงาน 5 00:00:11,641 --> 00:00:15,335 ผมเคยทำงานมาแล้ว กับบริษัทต่างๆ มากกว่า 500 บริษัท 6 00:00:15,335 --> 00:00:17,780 ทั้งๆ ที่เรามีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทั้งหลาย -- 7 00:00:17,780 --> 00:00:21,072 เช่น คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสื่อสาร การสื่อสารทางไกล 8 00:00:21,072 --> 00:00:23,433 อินเทอร์เน็ต 9 00:00:23,433 --> 00:00:24,831 ปริศนาข้อที่สอง: 10 00:00:24,831 --> 00:00:27,863 ทำไมจึงมีความผูกพันกับงานน้อยมาก 11 00:00:27,863 --> 00:00:29,967 ทำไมผู้คนจึงรู้สึกทุกข์ร้อนมาก 12 00:00:29,967 --> 00:00:33,617 แม้กระทั่งไม่ผูกพันกับงาน อย่างออกนอกหน้า 13 00:00:33,617 --> 00:00:35,141 ไม่ผูกพันกับเพื่อนร่วมงานของตน 14 00:00:35,141 --> 00:00:39,872 ปฏิบัติงานขัดกับผลประโยชน์ของบริษัทของตน 15 00:00:39,872 --> 00:00:43,976 แม้จะมีงานหรือเหตุการณ์ทั้งหลาย ที่ให้เข้าไปมีส่วนร่วม 16 00:00:43,976 --> 00:00:47,973 งานฉลอง การริเริ่มผู้คน 17 00:00:47,973 --> 00:00:50,572 โปรแกรมพัฒนาความเป็นผู้นำ เพื่อฝึก 18 00:00:50,572 --> 00:00:54,956 ผู้จัดการ เรื่องวิธีการจูงใจทีมงานของเขา ให้ดีขึ้น 19 00:00:54,956 --> 00:00:56,694 ในตอนแรก ผมคิดว่ามี 20 00:00:56,694 --> 00:00:58,663 ปัญหาเรื่องไก่กับไข่: 21 00:00:58,663 --> 00:01:01,215 เพราะว่าผู้คนผูกพันน้อยลง พวกเขาจึงมีผลิตภาพลดลง 22 00:01:01,215 --> 00:01:03,452 หรือในทางกลับกัน เพราะว่าพวกเขามีผลิตภาพน้อย 23 00:01:03,452 --> 00:01:05,643 เราจึงกดดันมากขึ้น และพวกเขาก็เลยผูกพันน้อยลง 24 00:01:05,643 --> 00:01:07,511 แต่ในขณะที่เราทำการวิเคราะห์ 25 00:01:07,511 --> 00:01:09,432 เราก็ตระหนักว่า มีหนึ่งสาเหตุร่วม ที่เป็นรากของ 26 00:01:09,432 --> 00:01:10,815 ปัญหาสองข้อนี้ 27 00:01:10,815 --> 00:01:15,371 ซึ่งจริงๆ แล้ว สัมพันธ์กับเสาหลักพื้นฐานของการจัดการ 28 00:01:15,371 --> 00:01:18,541 วิธีการที่เราจัดตั้งองค์กรนั้น ขึ้นอยู่กับเสาหลักสองต้น 29 00:01:18,541 --> 00:01:21,294 ความแข็ง--โครงสร้าง กระบวนการ ระบบ 30 00:01:21,294 --> 00:01:22,518 ความอ่อน -- 31 00:01:22,518 --> 00:01:27,973 ความรู้สึก อารมณ์ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล อุปนิสัย บุคลิกภาพ 32 00:01:27,973 --> 00:01:29,445 และเมื่อใดก็ตามที่บริษัท 33 00:01:29,445 --> 00:01:33,155 จัดระบบใหม่ เปลี่ยนโครงสร้างใหม่ ยกเครื่องใหม่ 34 00:01:33,155 --> 00:01:35,603 หรือเข้าโปรแกรมเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม 35 00:01:35,603 --> 00:01:37,633 มันก็จะเลือกเสาหลักทั้งสองนี้ 36 00:01:37,633 --> 00:01:39,682 ตอนนี้ เราพยายามที่จะขัดเกลาทั้งสองหลักนี้ 37 00:01:39,682 --> 00:01:41,578 เราพยายามที่จะรวมมันเข้าด้วยกัน 38 00:01:41,578 --> 00:01:43,206 ปัญหาแท้จริงก็คือ -- 39 00:01:43,206 --> 00:01:45,243 และนี่คือ คำตอบปริศนาสองข้อนั้น -- 40 00:01:45,243 --> 00:01:48,177 เสาหลักพวกนี้ล้าสมัยแล้ว 41 00:01:48,177 --> 00:01:50,859 ทุกอย่างที่คุณอ่านในหนังสือธุรกิจนั้น มีฐานอยู่บน 42 00:01:50,859 --> 00:01:52,524 เสาหนึ่ง หรืออีกเสาหนึ่ง 43 00:01:52,524 --> 00:01:53,791 หรือรวมกันทั้งสอง 44 00:01:53,791 --> 00:01:55,105 พวกมันล้าสมัยแล้ว 45 00:01:55,105 --> 00:01:57,402 พวกมันทำงานอย่างไร 46 00:01:57,402 --> 00:01:59,689 เมื่อคุณพยายามใช้วิธีการเหล่านี้ 47 00:01:59,689 --> 00:02:01,837 ต่อหน้าความซับซ้อนใหม่ๆของธุรกิจ 48 00:02:01,837 --> 00:02:04,834 วิธีแข็ง (the hard)ตามหลักแล้ว เป็นวิธีการที่ คุณเริ่มต้นจากกลยุทธ์ 49 00:02:04,834 --> 00:02:08,463 สิ่งที่จำเป็น โครงสร้าง กระบวนการ ระบบ ดัชนีชี้วัด (KPIs) บัตรบันทึกคะแนน (scorecards ) 50 00:02:08,463 --> 00:02:11,340 คณะกรรมการ กองบัญชาการ ศูนย์กลาง กลุ่ม 51 00:02:11,340 --> 00:02:12,450 คุณว่ามาเถอะ 52 00:02:12,450 --> 00:02:17,881 ผมไม่สนใจทั้งหมดเกี่ยวกับ มาตราวัด สิ่งที่จูงใจ คณะกรรมการระบบงานส่วนกลาง (middle offices ) และส่วนต่อประสาน (interfaces) 53 00:02:17,881 --> 00:02:19,876 โดยพื้นฐานแล้ว อะไรเกิดขึ้นทางซ้ายมือ 54 00:02:19,876 --> 00:02:23,140 คุณมีความซับซ้อนมากขึ้น ความซับซ้อนใหม่ของธุรกิจ 55 00:02:23,140 --> 00:02:27,427 เราต้องการคุณภาพ ค่าใช้จ่าย ความน่าเชื่อถือ ความเร็ว 56 00:02:27,427 --> 00:02:29,813 และทุกครั้ง ที่มีสิ่งที่จำเป็นอย่างใหม่ 57 00:02:29,813 --> 00:02:31,292 เราก็ใช้วิธีการเดิม 58 00:02:31,292 --> 00:02:34,405 เราสร้างระบบที่จัดกระบวนโครงสร้างเฉพาะงานขึ้นมา 59 00:02:34,405 --> 00:02:37,643 โดยพื้นฐาน ก็เพื่อจัดการกับ ความซับซ้อนใหม่นั้นของธุรกิจ 60 00:02:37,643 --> 00:02:41,382 วิธีการแข็ง สร้างความซับซ้อนที่เหมาะสมขึ้นมา 61 00:02:41,382 --> 00:02:43,220 ในองค์กรนั้น 62 00:02:43,220 --> 00:02:44,798 เราลองมาดูตัวอย่าง 63 00:02:44,798 --> 00:02:47,694 บริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง แผนกวิศวกรรม 64 00:02:47,694 --> 00:02:49,486 เป็นเมทริกซ์ห้ามิติ 65 00:02:49,486 --> 00:02:51,518 ถ้าคุณเปิดเซลล์ใดๆของเมทริกซ์นั้น 66 00:02:51,518 --> 00:02:54,531 คุณก็จะพบเมทริกซ์ 20 มิติ อีกอันหนึ่ง 67 00:02:54,531 --> 00:02:57,394 คุณก็จะได้ นาย เสียง (Mr. Noise) นาย บริโภคน้ำมัน (Mr. Petrol Consumption) 68 00:02:57,394 --> 00:02:59,352 นาย คุณสมบัติป้องกันการชน (Mr. Anti-Collision Properties) 69 00:02:59,352 --> 00:03:01,182 สำหรับสิ่งที่ต้องการใหม่ๆนั้น 70 00:03:01,182 --> 00:03:03,057 คุณได้ภาระกิจเฉพาะ (dedicated function) 71 00:03:03,057 --> 00:03:05,846 ทำหน้าที่จัดวิศวกรมามาจัดการ 72 00:03:05,846 --> 00:03:07,394 สิ่งที่ต้องการใหม่ๆนั้น 73 00:03:07,394 --> 00:03:09,993 อะไรเกิดขึ้น เมื่อสิ่งที่ต้องการใหม่ผุดขึ้นมา 74 00:03:09,993 --> 00:03:12,085 หลายปีมาแล้ว สิ่งที่ต้องการอย่างใหม่ 75 00:03:12,085 --> 00:03:13,932 ปรากฏขึ้นในท้องตลาด: 76 00:03:13,932 --> 00:03:16,083 ความยาวของระยะเวลาประกัน 77 00:03:16,083 --> 00:03:19,018 ดังนั้น สิ่งที่ต้องการอย่างใหม่นั้นก็คือ สามารถซ่อมแซมได้ 78 00:03:19,018 --> 00:03:20,518 การทำรถยนต์ให้ซ่อมได้ง่าย 79 00:03:20,518 --> 00:03:24,524 ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว เมื่อคุณนำรถมาที่อู่ เพื่อซ่อมดวงไฟ 80 00:03:24,524 --> 00:03:26,781 แต่ถ้าคุณต้องย้ายเครื่องยนต์ออกไป 81 00:03:26,781 --> 00:03:28,110 เพื่อให้เข้าถึงไฟดวงนั้น 82 00:03:28,110 --> 00:03:30,549 รถคันนั้น ก็จะต้องอยู่ในอู่หนึ่งสัปดาห์ 83 00:03:30,549 --> 00:03:33,436 แทนที่จะเป็นสองชั่วโมง แล้วงบประกัน ก็จะระเบิดเพิ่มขึ้น 84 00:03:33,436 --> 00:03:36,381 แล้วอะไรเป็นวิธีการแก้ปัญหา โดยใช้แนวทางแบบไม้แข็งในอดีต 85 00:03:36,381 --> 00:03:39,431 ถ้าการซ่อมแซมได้ เป็นสิ่งที่ต้องการใหม่นั้น 86 00:03:39,431 --> 00:03:41,520 การแก้ปัญหาก็คือ เพื่อสร้างหน้าที่ใหม่ขึ้นมา 87 00:03:41,520 --> 00:03:43,693 ได้แก่ นาย ซ่อมแซมได้ 88 00:03:43,693 --> 00:03:47,636 และนายซ่อมแซมได้นี้ ก็จะสร้าง กระบวนการซ่อมแซมได้ขึ้นมา 89 00:03:47,636 --> 00:03:51,494 ด้วยบัตรคะแนนที่ให้ซ่อมแซมได้ และด้วยเมทริกที่ให้ซ่อมแซมได้ 90 00:03:51,494 --> 00:03:54,308 และในที่สุด สิ่งจูงใจในเรื่องการซ่อมแซมได้ 91 00:03:54,308 --> 00:03:58,072 นั่นมาอยู่บนสุด ของดัชนีชี้วัดอื่นอีก 25 ตัว 92 00:03:58,072 --> 00:04:01,578 คนเหล่านี้กี่เปอร์เซ็นต์ เป็นค่าตอบแทนตามผลงาน (variable compensation) 93 00:04:01,578 --> 00:04:05,405 อย่างมากที่สุดก็ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ หารด้วยดัชนีชี้วัดทั้ง 26 ตัว 94 00:04:05,405 --> 00:04:09,502 การซ่อมแซมได้ ทำให้เกิดความแตกต่าง 0.8 เปอร์เซ็นต์ 95 00:04:09,502 --> 00:04:11,562 มันทำให้เกิดความแตกต่างอะไรขึ้นหรือ ในการปฏิบัติงานของพวกเขา 96 00:04:11,562 --> 00:04:14,184 ในการเลือกเพื่อให้ง่ายของพวกเขา ไม่มี เป็นศูนย์ 97 00:04:14,184 --> 00:04:17,849 แต่อะไรเกิดขึ้นหรือ สำหรับผลกระทบเป็นศูนย์ นายซ่อมได้ กระบวนการ 98 00:04:17,849 --> 00:04:22,522 บัตรคะแนน การประเมิน การประสานงาน กับตัวประสานงานทั้ง 25 นั่น 99 00:04:22,522 --> 00:04:24,418 จึงมีผลกระทบเป็นศูนย์ 100 00:04:24,418 --> 00:04:26,959 ตอนนี้ ตรงหน้าความซับซ้อนใหม่ของธุรกิจนั้น 101 00:04:26,959 --> 00:04:29,896 การแก้ปัญหา ไม่ใช่เพียงดึงกล่องออกมา 102 00:04:29,896 --> 00:04:32,322 พร้อมกับช่องทางการสื่อสาร 103 00:04:32,322 --> 00:04:35,407 โดยพื้นฐานแล้ว เป็นการทำงานร่วมกัน 104 00:04:35,407 --> 00:04:37,978 วิธีการที่ส่วนต่างๆนั้น ทำงานร่วมกัน 105 00:04:37,978 --> 00:04:42,710 การเชื่อมต่อกัน การสื่อสารระหว่างกัน ช่องว่างระหว่างส่วนต่างๆ 106 00:04:42,710 --> 00:04:47,213 มันไม่ใช่โครงร่างของกล่องเหล่านั้น แต่เป็นระบบประสาท 107 00:04:47,213 --> 00:04:50,250 ของการปรับตัวได้ และความเฉลียวฉลาด 108 00:04:50,250 --> 00:04:53,150 ครับ โดยทั่วๆไป คุณอาจเรียกมันว่า การทำงานร่วมกัน 109 00:04:53,150 --> 00:04:55,689 เมื่อใดก็ตามที่ผู้คนร่วมมือกัน 110 00:04:55,689 --> 00:04:59,617 พวกเขาจะใช้ทรัพยากรน้อยกว่า ในทุกๆสิ่ง 111 00:04:59,617 --> 00:05:02,149 ครับ ปัญหาเรื่องการซ่อม 112 00:05:02,149 --> 00:05:04,901 เป็นปัญหาการทำงานร่วมกัน 113 00:05:04,901 --> 00:05:08,122 เมื่อคุณออกแบบรถยนต์ กรุณาคิดพิจารณาถึง 114 00:05:08,122 --> 00:05:10,830 ความจำเป็นของผู้ที่จะซ่อมรถนั้นด้วย 115 00:05:10,830 --> 00:05:13,937 ในอู่ซ่อมหลังการขาย 116 00:05:13,937 --> 00:05:16,554 เมื่อเราไม่ร่วมมือกัน เราจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้น 117 00:05:16,554 --> 00:05:20,336 อุปกรณ์มากขึ้น ระบบมากขึ้น ทีมงานมากขึ้น 118 00:05:20,336 --> 00:05:25,427 เราจำเป็นต้องมี -- เมื่อการเตรียมการ โซ่อุปทาน (supply chain) การผลิต ไม่ร่วมมือกัน 119 00:05:25,427 --> 00:05:28,205 เราจำเป็นต้องมี สต๊อกเพิ่มขึ้น รายการสินค้ามากขึ้น เงินทุนทีใช้มากกว่า 120 00:05:28,205 --> 00:05:30,146 ใครจะจ่ายเพื่อสิ่งเหล่านั้นเล่าครับ 121 00:05:30,146 --> 00:05:32,108 ผู้ถือหุ้นหรือ ลูกค้าหรือ 122 00:05:32,108 --> 00:05:33,439 ไม่ครับ พวกเขาจะปฏิเสธ 123 00:05:33,439 --> 00:05:36,248 แล้ว เหลือใครเล่า? ลูกจ้าง 124 00:05:36,248 --> 00:05:38,956 ซึ่งต้องจ่ายเงินชดเชย ด้วยความมานะอุตสาหะอย่างมาก 125 00:05:38,956 --> 00:05:42,276 ของแต่ละคน ให้กับการขาดความร่วมมือนั้น 126 00:05:42,276 --> 00:05:45,944 ความเครียด เหนื่อยล้า พวกเขาก็แพ้ไปเอง หรืออุบัติเหตุ 127 00:05:45,944 --> 00:05:48,768 ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าทำไมพวกเขาจึงไม่ผูกพันกับงาน 128 00:05:48,768 --> 00:05:52,565 ไม้แข็ง และไม้อ่อน พยายามจะสนับสนุน ความร่วมมืออย่างไร 129 00:05:52,565 --> 00:05:57,195 ไม้แข็ง: ในธนาคาร เมื่อมีปัญหา 130 00:05:57,195 --> 00:06:00,255 ระหว่างงานสนับสนุน (back office) และงานส่วนหน้า(front office) 131 00:06:00,255 --> 00:06:02,345 พวกเขาไม่ร่วมมือกัน อะไรคือการแก้ปัญหา 132 00:06:02,345 --> 00:06:05,440 พวกเขาก็สร้างงานส่วนกลาง (middle office) ขึ้นมา 133 00:06:05,440 --> 00:06:07,476 หนึ่งปีต่อมา เกิดอะไรขึ้น 134 00:06:07,476 --> 00:06:09,484 แทนที่จะมีปัญหาเดียว ระหว่างส่วนหลังกับส่วนหน้า 135 00:06:09,484 --> 00:06:10,838 ตอนนี้มีสองปัญหา 136 00:06:10,838 --> 00:06:11,961 ระหว่างส่วนหลังกับส่วนกลาง 137 00:06:11,961 --> 00:06:14,177 และระหว่างส่วนกลางกับส่วนหน้า 138 00:06:14,177 --> 00:06:16,642 บวกด้วย ผมต้องจ่ายเงินให้กับส่วนกลาง 139 00:06:16,642 --> 00:06:19,900 วิธีไม้แข็ง จึงไม่สามารถเกื้อกูลการร่วมมือกัน 140 00:06:19,900 --> 00:06:24,336 มันทำได้เพียงเพิ่มกล่องใหม่เข้าไป หรือกระดูกชิ้นใหม่เข้าไปในโครงร่าง 141 00:06:24,336 --> 00:06:25,971 วิธีไม้อ่อน: 142 00:06:25,971 --> 00:06:29,800 เพื่อทำให้ผู้คนร่วมมือกัน เราจำเป็นต้องทำให้ พวกเขาชอบพอกัน 143 00:06:29,800 --> 00:06:31,494 ปรับปรุงความรู้สึกที่มีต่อกัน ให้ดีขึ้น 144 00:06:31,494 --> 00:06:34,450 ถ้าผู้คนชอบพอกัน พวกเขาก็จะร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น 145 00:06:34,450 --> 00:06:36,221 ผิดทั้งหมด 146 00:06:36,221 --> 00:06:38,621 เป็นได้แม้กระทั่ง ต่อต้านอำนาจผลิต 147 00:06:38,621 --> 00:06:41,037 ครับ ที่บ้าน ผมมีทีวีสองเครื่อง ทำไมหรือครับ 148 00:06:41,037 --> 00:06:43,909 ที่แน่ๆ ไม่ใช่เพื่อต้องร่วมมือกับภรรยาผม 149 00:06:43,909 --> 00:06:45,549 (เสียงหัวเราะ) 150 00:06:45,549 --> 00:06:48,453 ไม่ใช่เพื่อบังคับ ให้ภรรยาผมเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง 151 00:06:48,453 --> 00:06:52,463 และทำไมผมจึงพยายามที่จะไม่บังคับให้ภรรยาผม เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง 152 00:06:52,463 --> 00:06:55,130 แน่ๆ ก็คือ เพราะว่าผมรักภรรยาของผม 153 00:06:55,130 --> 00:06:58,355 ถ้าหากผมไม่ได้รักภรรยาของผมแล้ว ทีวีเครื่องเดียวก็น่าจะพอแล้ว 154 00:06:58,355 --> 00:07:00,850 คุณก็จะดูรายการฟุตบอลที่คุณชอบ 155 00:07:00,850 --> 00:07:03,405 ถ้าคุณไม่มีความสุข ก็หนังสือหรือไม่ก็ประตูนั่นไง 156 00:07:03,405 --> 00:07:04,608 (เสียงหัวเราะ) 157 00:07:04,947 --> 00:07:05,950 ยิ่งคุณชอบพอกันและกันมากขึ้นเท่าใด 158 00:07:06,489 --> 00:07:09,102 คุณก็จะยิ่งหลีกเลี่ยงการร่วมมือกันจริงๆ 159 00:07:09,102 --> 00:07:13,276 ซึ่งอาจทำให้ความสัมพันธ์ของเราตึงเครียดขึ้น ด้วยการบังคับให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่ยาก 160 00:07:13,276 --> 00:07:16,283 และเราก็จะเลือกทีวีเครื่องที่สอง หรือไม่เราก็จะขยาย 161 00:07:16,283 --> 00:07:19,207 การตัดสินใจในเรื่องข้างบนนั้น ไปให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาด 162 00:07:19,207 --> 00:07:23,916 ที่แน่ๆ วิธีการเหล่านี้ล้าสมัยแล้ว 163 00:07:23,916 --> 00:07:27,699 เพื่อที่จะจัดการกับความซับซ้อน เพื่อที่จะเพิ่มระบบประสาทเข้าไป 164 00:07:27,699 --> 00:07:30,961 เราได้สร้างสิ่งที่เราเรียกว่า วิธีเรียบง่ายแบบฉลาด 165 00:07:30,961 --> 00:07:32,481 ซึ่งขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ง่ายๆ 166 00:07:32,481 --> 00:07:34,743 กฎง่ายๆหมายเลขหนึ่ง: 167 00:07:34,743 --> 00:07:37,768 ให้เข้าใจว่าคนอื่นๆทำอะไร 168 00:07:37,768 --> 00:07:39,665 งานที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไร 169 00:07:39,665 --> 00:07:43,300 เราจำเป็นคิดนอกกรอบ 170 00:07:43,300 --> 00:07:47,318 คำอธิบายลักษณะงาน คิดให้เกินกว่าพื้นผิว 171 00:07:47,318 --> 00:07:50,823 ของสิ่งที่เราเห็น เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาที่แท้จริง 172 00:07:50,823 --> 00:07:53,531 ผมเอง คนออกแบบ ถ้าผมเอาลวดใส่ไว้ตรงนี้ 173 00:07:53,531 --> 00:07:55,534 ผมรู้ว่า มันจะหมายความว่า เราก็จะต้อง 174 00:07:55,534 --> 00:07:58,100 ย้ายเครื่องยนต์ออกไป เพื่อให้เข้าถึงดวงไฟ 175 00:07:58,100 --> 00:08:00,948 ประการที่สอง คุณจำเป็นต้องทำให้ ผู้รวบรวม (integrators)แข็งแกร่งขึ้น 176 00:08:00,948 --> 00:08:04,808 ผู้รวบรวม ไม่ใช่สำนักงานส่วนกลาง แต่เป็นผู้จัดการ (manager) 177 00:08:04,808 --> 00:08:06,569 ผู้จัดการที่มีอยู่ ที่คุณจะเสริมแรงพวกเขา 178 00:08:06,569 --> 00:08:09,003 เพื่อให้พวกเขามีอำนาจและความสนใจ 179 00:08:09,003 --> 00:08:11,166 ที่จะทำให้คนอื่นๆมาร่วมมือกัน 180 00:08:11,166 --> 00:08:14,898 คุณจะเสริมแรงผู้จัดการของคุณ ให้เป็นผู้รวบรวม ได้อย่างไร 181 00:08:14,898 --> 00:08:16,373 โดยการเอาชั้นๆที่บุผนังออกไป 182 00:08:16,373 --> 00:08:17,737 เมื่อมีชั้นหลายๆชั้นมากเกินไป 183 00:08:17,737 --> 00:08:19,287 ผู้คนก็ห่างไกลเกินไป จากการปฎิบัติการ 184 00:08:19,287 --> 00:08:21,401 พวกเขาจึงจำเป็นต้องมีดัชนีชี้วัด เมทริกซ์ 185 00:08:21,401 --> 00:08:25,729 พวกเขาต้องการตัวแทนชั้นเลว แทนที่จะเอาความเป็นจริง 186 00:08:25,729 --> 00:08:27,331 พวกเขาไม่เข้าใจความเป็นจริง 187 00:08:27,331 --> 00:08:30,431 และพวกเขาก็เพิ่มความซับซ้อน ของ เมทริกซ์ ดัชนีชี้วัด เข้าไปอีก 188 00:08:30,431 --> 00:08:32,883 โดยการเอากฎเกณฑ์ออกไป -- ถ้าเราใหญ่โตขึ้นเท่าใด 189 00:08:32,883 --> 00:08:34,516 เรายิ่งต้องการผู้รวบรวม มากยิ่งขึ้นเท่านั้น 190 00:08:34,516 --> 00:08:36,837 ดังนั้น เราจึงต้องมีกฎเกณฑ์น้อยลง 191 00:08:36,837 --> 00:08:40,731 เพื่อให้อำนาจที่สุขุมรอบคอบ แก่ผู้จัดการ 192 00:08:40,731 --> 00:08:41,858 แต่เรากลับทำสิ่งตรงกันข้าม -- 193 00:08:41,858 --> 00:08:44,044 เราใหญ่โตขึ้น เราก็สร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมามากขึ้น 194 00:08:44,044 --> 00:08:47,294 และเราจบลงด้วย สารานุกรมบริเตนนิกา ของกฎเกณฑ์ต่างๆ 195 00:08:47,294 --> 00:08:49,394 คุณจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณของอำนาจ 196 00:08:49,394 --> 00:08:51,122 เพื่อที่ว่า คุณจะสามารถมอบอำนาจให้แก่ทุกๆคนได้ 197 00:08:51,122 --> 00:08:54,108 เพื่อใช้การตัดสินของพวกเขา ใช้ความเฉลียวฉลาดของพวกเขา 198 00:08:54,108 --> 00:08:56,259 คุณต้องแจกบัตรให้แก่ผู้คนมากขึ้น 199 00:08:56,259 --> 00:08:59,616 เพื่อที่ว่า พวกเขามีบัตรจำนวนมากถึงจุดจำเป็น 200 00:08:59,616 --> 00:09:01,575 เพื่อเสี่ยงที่จะมาร่วมมือกัน 201 00:09:01,575 --> 00:09:03,330 เพื่อออกมาจากฉนวนที่ป้องกันตัวเอง 202 00:09:03,330 --> 00:09:05,694 ไม่เช่นนั้นแล้ว พวกเขาก็จะถดถอยไป พวกเขาจะไม่ผูกพัน 203 00:09:05,694 --> 00:09:07,940 กฎเกณฑ์เหล่านี้ มาจากทฤษฎีเกม (game theory) 204 00:09:07,940 --> 00:09:10,168 และสังคมวิทยาโครงสร้าง 205 00:09:10,168 --> 00:09:13,020 คุณสามารถเพิ่ม shadow of the future ได้ 206 00:09:13,020 --> 00:09:15,921 สร้างวงจรของผลสะท้อนกลับ (feedback loops) ซึ่งเปิดผู้คน 207 00:09:15,921 --> 00:09:18,522 เข้าสู่ผลของการปฏิบัติของพวกเขา 208 00:09:18,522 --> 00:09:20,466 นี่เป็นสิ่งที่บริษัทรถยนต์ได้ปฏิบัติกัน 209 00:09:20,466 --> 00:09:23,256 เมื่อพวกเขาเห็นว่า นายซ่อมได้ ไม่ได้ให้ผลอะไร 210 00:09:23,256 --> 00:09:24,891 พวกเขาพูดกับวิศวกรออกแบบว่า 211 00:09:24,891 --> 00:09:29,586 เอาละ ในสามปี เมื่อรถใหม่ ถูกนำออกสู่ตลาด 212 00:09:29,586 --> 00:09:32,530 คุณจะย้ายไปที่ เครือข่ายหลังการขาย และมารับหน้าที่ 213 00:09:32,530 --> 00:09:34,905 ด้านงบการประกัน 214 00:09:34,905 --> 00:09:38,284 และถ้าหากว่างบประกัน เพิ่มระเบิดขึ้น 215 00:09:38,284 --> 00:09:40,951 มันก็จะระเบิดใส่หน้าคุณ (เสียงหัวเราะ) 216 00:09:40,951 --> 00:09:46,892 มีพลังยิ่งมากกว่าค่าชดเชยตามผลงาน 0.8 เปอร์เซ็นต์ 217 00:09:46,892 --> 00:09:50,614 คุณจำเป็นต้องเพิ่ม การพึ่งพาอาศัยกันอีกด้วย 218 00:09:50,614 --> 00:09:54,329 ด้วยการเอาตัวกันชน ซึ่งทำให้เราไม่พึ่งพาใคร ออกไปเสีย 219 00:09:54,329 --> 00:09:56,801 เมื่อคุณเอากันชนเหล่านี้ออกไปแล้ว 220 00:09:56,801 --> 00:09:59,798 คุณก็ดึงจมูกผม ผมก็ดึงหูคุณ 221 00:09:59,798 --> 00:10:01,180 เราก็จะได้ร่วมมือกัน 222 00:10:01,180 --> 00:10:02,720 เอาทีวีเครื่องที่สองออกไปเสีย 223 00:10:02,720 --> 00:10:04,964 มีทีวีเครื่องที่สองที่กำลังใช้กันอยู่ อีกมาก 224 00:10:04,964 --> 00:10:06,265 ซึ่งไม่ได้สร้างคุณค่าอะไร 225 00:10:06,265 --> 00:10:10,953 มันแค่เพียงทำให้เกิดการไม่พึ่งพากัน ที่ทำหน้าที่ผิดปกติไป 226 00:10:10,953 --> 00:10:13,382 คุณจำเป็นต้องให้รางวัล แก่ผู้ที่ให้ความร่วมมือ 227 00:10:13,382 --> 00:10:15,061 และกล่าวโทษ ผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือมือ 228 00:10:15,061 --> 00:10:18,130 ประธานกรรมการบริหารของบริษัทเลโก้กรุ๊ป 229 00:10:18,130 --> 00:10:20,953 ชื่อ จอร์เกน วิก คนััดส์ทอร์พ มีวิธีการชั้นยอดในการใช้มัน 230 00:10:20,953 --> 00:10:23,858 เขาบอกว่า ไม่กล่าวโทษ เมื่อมีความล้มเหลว 231 00:10:23,858 --> 00:10:28,393 แต่การกล่าวโทษ มีไว้สำหรับความล้มเหลว ที่จะไปช่วยหรือขอร้องให้ช่วย 232 00:10:28,393 --> 00:10:30,772 มันเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง 233 00:10:30,772 --> 00:10:33,292 ในทันที ผมหันมาสนใจเรื่องความโปร่งใส 234 00:10:33,292 --> 00:10:35,332 เรื่องจุดอ่อนจริงๆของผม การคาดการณ์จริงๆของผม 235 00:10:35,332 --> 00:10:37,418 เพราะผมรู้ว่า ผมจะไม่ถูกกล่าวโทษ ถ้าหากผมล้มเหลว 236 00:10:37,418 --> 00:10:41,286 แต่จะถูกกล่าวโทษ ถ้าหากว่าผมไม่ยอมช่วย หรือไม่ยอมขอความช่วยเหลือ 237 00:10:41,286 --> 00:10:44,213 เมื่อคุณทำสิ่งนี้ มันมีความหมายเกี่ยวพันมากมาย 238 00:10:44,213 --> 00:10:47,158 กับการออกแบบองค์กร 239 00:10:47,158 --> 00:10:49,576 คุณหยุดการวาดภาพกล่อง เส้นไข่ปลา เส้นเต็ม 240 00:10:49,576 --> 00:10:50,966 แต่คุณดูที่ผลกระทบที่มันมีต่อกัน 241 00:10:50,966 --> 00:10:53,945 มันมีความหมายเกี่ยวพันมากมาย กับนโยบายด้านการเงิน 242 00:10:53,945 --> 00:10:55,159 ที่เราใช้ 243 00:10:55,159 --> 00:10:57,781 ในเรื่อง การปฎิบัติงานด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ 244 00:10:57,781 --> 00:11:00,205 เมื่อเราทำสิ่งนั้น คุณก็สามารถจัดการกับความซับซ้อนได้ 245 00:11:00,205 --> 00:11:01,798 ความซับซ้อนใหม่ของธุรกิจ 246 00:11:01,798 --> 00:11:04,731 โดยไม่รู้สึกยุ่งยาก 247 00:11:04,731 --> 00:11:08,381 คุณสร้างคุณค่าให้มากขึ้น โดยค่าใช้จ่ายต่ำลง 248 00:11:08,381 --> 00:11:12,955 ในขณะเดียวกัน คุณก็ปรับปรุงการปฎิบัติงาน และความพึงพอใจในการทำงาน 249 00:11:12,955 --> 00:11:15,684 เพราะว่าคุณได้เอาสาเหตุรากเหง้าธรรมดาๆ 250 00:11:15,684 --> 00:11:17,300 ที่ขัดขวางทั้งสองอย่างนั้น ออกไปแล้ว 251 00:11:17,300 --> 00:11:22,010 ความซับซ้อนยุ่งยาก: นี่เป็นการสนามรบของคุณ ผู้นำทางธุรกิจทั้งหลาย 252 00:11:22,010 --> 00:11:24,837 การสู้รบที่แท้จริง ไม่ใช่ต่อสู้กับคู่แข่ง 253 00:11:24,837 --> 00:11:27,258 เป็นเรื่องไร้สาระ เป็นนามธรรมอย่างมาก 254 00:11:27,258 --> 00:11:29,921 เราพบคู่แข่ง ที่เราจะต่อสู้กับพวกเขา เมื่อไหร่หรือ 255 00:11:29,921 --> 00:11:32,822 การสู้รบที่แท้จริง ก็คือสู้กับตัวเราเอง 256 00:11:32,822 --> 00:11:36,176 สู้กับระบบราชการของเรา ความซับซ้อนสับสนของเรา 257 00:11:36,176 --> 00:11:39,333 เพียงคุณเท่านั้น ที่จะสู้ได้ ที่จะทำได้ 258 00:11:39,333 --> 00:11:41,420 ขอบคุณครับ 259 00:11:41,420 --> 00:11:44,112 (เสียงปรบมือ)