WEBVTT 00:00:00.490 --> 00:00:03.220 เรารู้แล้วว่าการหายใจระดับเซลล์สามารถ 00:00:03.220 --> 00:00:05.820 แบ่งได้เป็น 3 ระยะ 00:00:05.820 --> 00:00:11.490 แบ่งได้เป็น 3 ระยะ 00:00:11.490 --> 00:00:16.760 กระบวนการแรกคือ ไกลโคไลซิส เป็นกระบวนการสลาย 00:00:16.760 --> 00:00:18.010 กลูโคส 00:00:18.010 --> 00:00:23.620 กลูโคส 00:00:23.620 --> 00:00:27.540 และปฏิกิริยานี้สามารถเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีออกซิเจน 00:00:27.540 --> 00:00:31.590 ถ้าไม่ใช้ออกซิเจนก็จะเข้าสู่กระบวนการหมัก 00:00:31.590 --> 00:00:34.800 ผมจะอธิบายเรื่องนั้นอีกทีครับ 00:00:34.800 --> 00:00:37.320 คร่าวๆ คือ กระบวนการหมักที่เกิดขึ้นในคน 00:00:37.320 --> 00:00:38.750 จะสร้างกรดแลคติค 00:00:38.750 --> 00:00:41.150 ส่วนในสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นอาจจะ 00:00:41.150 --> 00:00:43.200 สร้างแอลกอฮอร์หรือเอทานอล 00:00:43.200 --> 00:00:45.675 ถ้าในปฏิกริยาใช้ออกซิเจน ส่วนใหญ่ร่างกายเรา 00:00:45.675 --> 00:00:48.690 ใช้ปฏิกริยานี้ ถ้ามี 00:00:48.690 --> 00:00:50.610 ออกซิเจน ก็จะเข้าสู่ 00:00:50.610 --> 00:00:54.190 กระบวนการ Kreb's cycle 00:00:54.190 --> 00:00:58.750 หรือบางครั้งเรียกว่า Citric acid cycle เพราะมันเกี่ยวกับ 00:00:58.750 --> 00:01:00.390 กรดซิตริก 00:01:00.390 --> 00:01:03.390 สารอย่างเดียวกับที่มีในส้ม มะนาว 00:01:03.390 --> 00:01:05.630 จากนั้น เราจะไปที่กระบวนการ 00:01:05.630 --> 00:01:07.310 กระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอน 00:01:07.310 --> 00:01:10.090 Electron transport chain 00:01:10.090 --> 00:01:12.750 ตามที่เรียนมาจากวิดีโอม้วนแรกเรื่องการหายใจระดับเซลล์ 00:01:12.750 --> 00:01:15.610 ว่า ATP จำนวนมหาศาลสร้างจาก 00:01:15.610 --> 00:01:16.500 กระบวนการนี้ 00:01:16.500 --> 00:01:18.920 โดยที่ส่วนประกอบของปฏิกิริยานี้จะมาจาก 00:01:18.920 --> 00:01:20.360 ส่วนข้างบนนี้ (ไกลโคไลซิส) 00:01:20.360 --> 00:01:23.460 ในวีดีโอนี้ครับ เราจะสนใจที่ 00:01:23.460 --> 00:01:24.710 ไกลโคไลซิส 00:01:24.710 --> 00:01:27.500 ไกลโคไลซิส 00:01:27.500 --> 00:01:31.080 มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก 00:01:31.080 --> 00:01:32.830 เพราะคุณอาจจะสับสนได้ 00:01:32.830 --> 00:01:34.550 ผมจะแสดงส่วนยากให้ดูเล็กน้อย 00:01:34.550 --> 00:01:35.480 กระบวนการที่แท้จริง 00:01:35.480 --> 00:01:36.750 มันอาจจะน่าเบื่อเล็กน้อย 00:01:36.750 --> 00:01:39.160 แต่ที่ผมทำคือทำให้มันง่ายที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ 00:01:39.160 --> 00:01:40.420 เท่าที่เป็นไปได้ 00:01:40.420 --> 00:01:42.550 หลังจากนี้ เราจะชม 00:01:42.550 --> 00:01:45.770 ส่วนยากของกระบวนการไกลโคไลซิส 00:01:45.770 --> 00:01:46.940 เพื่อให้เรารู้ถึงที่มามากขึ้น 00:01:46.940 --> 00:01:49.230 ซึ่ง ไกลโคไลซิส หรือ การหายใจระดับเซลล์นั้น 00:01:49.230 --> 00:01:50.480 เริ่มต้นด้วยกลูโคส 00:01:50.480 --> 00:01:53.230 เริ่มต้นด้วยกลูโคส 00:01:53.230 --> 00:01:55.130 ซึ่งสูตรทางโมเลกุลของกลูโคสก็คือ 00:01:55.130 --> 00:01:59.660 C6H12O6 00:01:59.660 --> 00:02:01.850 หลังจากนั้นผมสามารถวาดโครงสร้างโมเลกุลให้ได้ 00:02:01.850 --> 00:02:02.300 มันอาจจะใช้เวลาเล็กน้อย 00:02:02.300 --> 00:02:04.270 แต่ผมขอเขียนเป็นโซ่ตรงละกัน 00:02:04.270 --> 00:02:07.010 ซึ่งที่จริงมันอาจจะเป็นรูปทรงวงแหวนก็ได้ 00:02:07.010 --> 00:02:12.700 แต่เพื่อให้ง่าย ผมจะวาดคาร์บอน 6 อันเป็นเส้นเดียว 00:02:12.700 --> 00:02:15.950 ซึ่งไกลโคไลซิสมีสองขั้นตอน 00:02:15.950 --> 00:02:16.820 ที่เราควรรู้ 00:02:16.820 --> 00:02:19.420 ขั้นตอนแรก เป็นขั้นตอนการลงทุน 00:02:19.420 --> 00:02:23.000 ซึ่งขั้นตอนการลงทุนจะใช้ 2 ATP 00:02:23.000 --> 00:02:29.910 ซึ่งขั้นตอนการลงทุนจะใช้ 2 ATP 00:02:29.910 --> 00:02:32.270 ซึ่งเป้าหมายของการหายใจระดับเซลล์คือ 00:02:32.270 --> 00:02:35.650 การสร้าง ATP แต่ในขั้นตอนแรก 00:02:35.650 --> 00:02:37.360 เราต้องใช้ ATP 2 อัน 00:02:37.360 --> 00:02:40.980 ผมจะใช้ ATP 2 อันเพื่อแตกกลูโคสเป็น 00:02:40.980 --> 00:02:50.710 โมเลกุลที่มี 3 คาร์บอน 2 โมเลกุล 00:02:50.710 --> 00:02:53.730 และพวกมันก็มีกลุ่มฟอสเฟตเกาะอยู่ด้วย 00:02:53.730 --> 00:02:56.690 ซึ่งกลุ่มฟอสเฟตเหล่านี้มาจาก ATP 00:02:56.690 --> 00:02:58.910 เมื่อพวกมันมีกลุ่มฟอสเฟตเกาะอยู่ 00:02:58.910 --> 00:03:01.520 เราจะเรียกมันว่า 00:03:01.520 --> 00:03:02.910 PGAL 00:03:02.910 --> 00:03:04.040 แต่คุณไม่จำเป็นต้องจำตรงนี้ 00:03:04.040 --> 00:03:12.360 ซึ่งชื่อเต็มคือ phosphoglyceraldehyde 00:03:12.360 --> 00:03:13.420 ซึ่งคำนี้สะกดยากมาก 00:03:13.420 --> 00:03:14.420 ส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องรู้ 00:03:14.420 --> 00:03:15.950 ที่คุณต้องรู้คือ 00:03:15.950 --> 00:03:17.840 ในตอนแรกคุณใช้ ATP ไป 2 โมเลกุล 00:03:17.840 --> 00:03:20.350 นี่คือเหตุผลว่าทำไมมันถึงมีชื่อว่าขั้นตอนการลงทุน 00:03:20.350 --> 00:03:29.020 ซึ่งก็เหมือนกับในทางธุรกิจ เราต้องลงทุนก่อน 00:03:29.020 --> 00:03:33.510 หลังจากนั้นโมเลกุล PGAL 2 โมเลกุล ก็จะไปสู่ 00:03:33.510 --> 00:03:35.350 ขั้นตอนของ payoff phase 00:03:35.350 --> 00:03:39.480 ในขั้นตอน payoff phase นั้น โมเลกุลของ 00:03:39.480 --> 00:03:42.280 PGAL จะถูกเปลี่ยนเป็น pyruvate 00:03:42.280 --> 00:03:45.310 ซึ่งก็คือโมเลกุล 3-คาร์บอน แต่ถูกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย 00:03:45.310 --> 00:03:48.670 ซึ่งขั้นตอนสู่การเป็น pyruvate 00:03:48.670 --> 00:03:53.130 ผมจะวาด pyruvate เป็นสีน้ำเงิน 00:03:53.130 --> 00:03:54.620 คุณควรจะรู้จักคำๆ นี้ 00:03:54.620 --> 00:03:56.290 ผมจะวาดโครงสร้างของมัน 00:03:56.290 --> 00:03:57.100 Pyruvate 00:03:57.100 --> 00:03:59.730 หรือบางครั้ง มันจะถูกเรียกว่า กรดไพรูวิค 00:03:59.730 --> 00:04:02.560 ซึ่งมันคือสิ่งเดียวกัน 00:04:02.560 --> 00:04:05.890 และมันคือผลที่ได้จากไกลโคไลซิส 00:04:05.890 --> 00:04:08.200 ซึ่งในตอนแรก คุณเริ่มด้วยกลูโคส ในขั้นตอนการลงทุน 00:04:08.200 --> 00:04:10.480 แล้วคุณก็ได้ PGAL 00:04:10.480 --> 00:04:12.540 ซึ่งคือผลที่ได้จากการแตกกลูโคสออก 00:04:12.540 --> 00:04:14.070 และแปะกลุ่มฟอสเฟตเข้าไป 00:04:14.070 --> 00:04:17.310 และโมเลกุลนี้จะเข้าสู่ 00:04:17.310 --> 00:04:18.490 payoff phase 00:04:18.490 --> 00:04:22.029 ซึ่งคุณจะได้ไพรูเวท 2 โมเลกุลจาก 00:04:22.029 --> 00:04:25.220 กลูโคสทุกโมเลกุลที่คุณเริ่มไว้ด้วย 00:04:25.220 --> 00:04:27.860 ซึ่งคุณอาจจะสงสัยว่า นี่ Sal มันมี payoff phase ด้วยนะ 00:04:27.860 --> 00:04:30.310 แล้ว payoff คืออะไร 00:04:30.310 --> 00:04:35.710 อืม.. จาก payoff 00:04:35.710 --> 00:04:37.280 ขั้น payoff phase 00:04:37.280 --> 00:04:38.530 นี่คือ payoff phase 00:04:41.460 --> 00:04:43.150 และ...ขอโทษนะครับที่พื้นหลังเป็นสีขาว 00:04:43.150 --> 00:04:45.300 จริงๆแล้วที่กระดานเป็นแบบนี้เพราะผม 00:04:45.300 --> 00:04:47.800 นำข้อมูลมาจากวิกิพีเดีย ของเขามัน 00:04:47.800 --> 00:04:50.390 เป็นสีขาว พี้นหลังที่เห็นจึงเป็นแบบนี้ 00:04:50.390 --> 00:04:50.950 ในวิดีโอ 00:04:50.950 --> 00:04:53.910 แต่ยังไงผมก็ชอบพื้นหลังสีดำ 00:04:53.910 --> 00:04:55.040 มากกว่า 00:04:55.040 --> 00:04:57.750 ตรงนี้เป็น payoff phase 00:04:57.750 --> 00:05:00.990 ได้มาจาก Phosphoglyceraldehyde 00:05:00.990 --> 00:05:05.080 ซึ่งกลายเป็น กรดไพรูวิค จะได้ 2 สิ่งออกมา 00:05:05.080 --> 00:05:07.420 ผมว่า มันออกมา 3 สิ่ง 00:05:07.420 --> 00:05:11.860 เราสลาย PGALเป็น 00:05:11.860 --> 00:05:13.450 ไพรูเวต จะมี 2 ATP ออกมาด้วย 00:05:13.450 --> 00:05:16.120 2 ATP 00:05:16.120 --> 00:05:17.880 ผมจะได้ 2 ATP 00:05:17.880 --> 00:05:20.490 และ 2 ATP จากอีกโมเลกุล 00:05:20.490 --> 00:05:22.410 และจากการสลายนั้นจะได้ NADH ด้วย 00:05:22.410 --> 00:05:27.540 NADH 00:05:27.540 --> 00:05:29.820 ใช้สีเข้มกว่านี้เขียนดีกว่า 00:05:29.820 --> 00:05:31.070 NADH 00:05:36.940 --> 00:05:39.910 แน่นอนว่า มันไม่ได้สร้างโมเลกุลทั้งหมด 00:05:39.910 --> 00:05:40.800 จากความว่างเปล่า 00:05:40.800 --> 00:05:43.450 ที่สำคัญคือ การสร้างNADH ใช้ 00:05:43.450 --> 00:05:47.640 NAD+ ดังนั้นตั้งจึงต้นที่ NAD+ 00:05:47.640 --> 00:05:51.260 แล้วรีดิวส์ 00:05:51.260 --> 00:05:53.150 ด้วยการเพิ่ม H 00:05:53.150 --> 00:05:55.170 จำได้นะ! ที่ไปเรียน 2 ครั้งที่แล้ว เธอ 00:05:55.170 --> 00:05:57.830 ได้ดูการรีดักชันของ H 00:05:57.830 --> 00:06:01.110 ดังนั้นจะได้ว่า NAD+ ถูกรีดิวส์เป็น NADH 00:06:01.110 --> 00:06:05.110 ต่อไป NADH จะใช้ในกระบวนการ 00:06:05.110 --> 00:06:08.470 Electron transport chain ที่ใช้สร้าง ATP 00:06:08.470 --> 00:06:13.090 และทั้งหมดนี้ที่เราได้รู้คือกระบวนการของ 00:06:13.090 --> 00:06:16.390 Glycolysis ที่มีสารตั้งต้น 00:06:16.390 --> 00:06:17.640 คือกลูโคส 00:06:17.640 --> 00:06:21.480 กลูโคส 00:06:21.480 --> 00:06:24.520 และคุณจะใช้ NAD+ 00:06:24.520 --> 00:06:27.840 NAD+ 00:06:27.840 --> 00:06:29.870 ความจริง ทุกโมลของกลูโคส 00:06:29.870 --> 00:06:33.540 ใช้ NAD+ 2 โมเลกุล 00:06:33.540 --> 00:06:34.990 กับ ATP 2 โมเลกุล 00:06:38.420 --> 00:06:40.860 ตอนนี้ผมกำลังเขียนสารตั้งต้น 00:06:40.860 --> 00:06:42.350 ที่ใช้ 00:06:42.350 --> 00:06:44.750 และเธอต้องใช้--- เอ่อ 00:06:44.750 --> 00:06:47.290 ในตอนแรกพวกนี้เป็น ADP ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ATP ครับ 00:06:47.290 --> 00:06:51.550 ADP อีก 4 โมเลกุล 00:06:51.550 --> 00:06:57.150 แล้ว สิ้นสุดกระบวนการ Glycolysis 00:06:57.150 --> 00:06:57.840 ที่ผมเขียนตรงส่วนนี้ 00:06:57.840 --> 00:07:01.055 ผม...ขอโทษนะครับ ตรงนี้เป็น ADP 00:07:01.055 --> 00:07:04.950 ADP 00:07:04.950 --> 00:07:08.970 แก้เป็น 00:07:08.970 --> 00:07:10.540 4 ADPs 00:07:10.540 --> 00:07:12.390 จากนั้น เธอก็ใช้ 00:07:12.390 --> 00:07:15.820 หมู่ฟอสเฟต 4 หมู่ 00:07:15.820 --> 00:07:18.540 หมู่ฟอสเฟต 4 หมู่ บางครั้งจะเขียนฟอสเฟต 00:07:18.540 --> 00:07:19.310 แบบนั้นก็ได้ 00:07:19.310 --> 00:07:20.440 แต่ผมเลือกแบบนี้ละกัน 00:07:20.440 --> 00:07:21.740 ฟอสเฟต 4 หมู่ 00:07:25.670 --> 00:07:30.790 หลังจากสิ้นสุดปฏิกริยา Glycolysis จะได้ไพรูเวต 2 00:07:30.790 --> 00:07:37.680 จะได้ไพรูเวต 2 โมเลกุล NADH อีก 2 โมเลกุล 00:07:40.660 --> 00:07:43.190 โดย NAD จะถูกรีดิวส์ 00:07:43.190 --> 00:07:45.010 มันรับ H 00:07:45.010 --> 00:07:45.850 RIG 00:07:45.850 --> 00:07:46.590 OIL RIG 00:07:46.590 --> 00:07:48.850 Reduction คือการรับอิเล็กตรอน 00:07:48.850 --> 00:07:50.200 ในทางชีววิทยาเราถือว่า 00:07:50.200 --> 00:07:51.110 มันเป็นการรับ H 00:07:51.110 --> 00:07:53.320 เพราะ H มี Electronegativity ต่ำ 00:07:53.320 --> 00:07:54.260 H จึงเสียอิเล็กตรอน 00:07:54.260 --> 00:07:56.020 ก็คือ รับอิเล็กตรอนจากมันนั่นเอง 00:07:56.020 --> 00:08:01.810 ดังนั้น 2 NADH 2 ATP ใช้ใน 00:08:01.810 --> 00:08:02.720 investment phase 00:08:02.720 --> 00:08:04.390 ที่ผมเขียนแยกกันไว้ 00:08:04.390 --> 00:08:05.860 และ 2 โมเลกุลนี้ถูกใช้ใน Investment phase 00:08:05.860 --> 00:08:07.865 แล้วกลายเป็น 00:08:07.865 --> 00:08:10.860 ADP 2 โมเลกุล 00:08:10.860 --> 00:08:13.630 แล้วเจ้าตัวนี้ 00:08:13.630 --> 00:08:14.750 เปลี่ยนเป็น ATP 00:08:14.750 --> 00:08:19.090 จะได้ 4 ATP 00:08:19.090 --> 00:08:20.570 ผมคิดว่าเราไม่ได้ใช้ 4 ตัว 00:08:20.570 --> 00:08:22.890 เราใช้แค่ฟอสเฟส 2 ตัว 00:08:22.890 --> 00:08:24.570 เพราะมันใช้แค่ 2 ตัว 00:08:24.570 --> 00:08:26.710 จากนั้น เราจะใช้อีก 2 ตัว เพื่อ 00:08:26.710 --> 00:08:28.560 ให้ตรงนั้นมี 4 ตัว 00:08:28.560 --> 00:08:31.270 แต่รวมๆแล้ว เธอจะใช้ กลูโคส ตั้งต้น 00:08:31.270 --> 00:08:33.020 ได้ ไพรูเวต 2 โมเลกุล เป็นผลิตภัณฑ์ 00:08:33.020 --> 00:08:35.090 จ่าย ATP 2 โมเลกุล 00:08:35.090 --> 00:08:36.909 ได้ 4 ATP กลับมา 00:08:36.909 --> 00:08:39.559 ดังนั้น จะได้ a net of 2 ATP 00:08:39.559 --> 00:08:41.490 ให้ผมเขียนสรุปตรงนั้น สรุปว่า 00:08:41.490 --> 00:08:45.840 ผลพลอยได้จาก Glycolysis คือ 2 ATP 00:08:45.840 --> 00:08:51.290 กับ 2 NADH จากนั้นจะเอา 2 อย่างนี้ไปใช้ใน 00:08:51.290 --> 00:08:54.600 electron transport chain เพื่อ ผลิต 3 ATP 00:08:54.600 --> 00:08:59.150 ตอนนี้เธอได้ NADH แล้วก็จะได้ 2 ไพรูเวต 00:08:59.150 --> 00:09:02.930 เอาไปเปลี่ยนเป็น acetyl-CoA ที่จะเป็น 00:09:02.930 --> 00:09:04.950 วัตถุดิบของ Kreb's cycle 00:09:04.950 --> 00:09:10.690 ทั้งหมดนี้เป็นสารที่ได้จาก Glycolysis 00:09:10.690 --> 00:09:13.070 ตอนนี้เราได้ภาพรวมแล้ว เราไปดู 00:09:13.070 --> 00:09:13.800 กลไกของมันกันเถอะ 00:09:13.800 --> 00:09:15.730 ภาพดูค่อนข้างซับซ้อนกว่า 00:09:16.440 --> 00:09:18.970 แต่มันก็แนวเดียวกันกับที่เรียนไปแล้ว 00:09:18.970 --> 00:09:22.000 คือ เริ่มที่ กลูโคสที่มี 00:09:22.000 --> 00:09:24.270 รูปร่างเป็น 6 ลูกโซ่ 00:09:24.270 --> 00:09:26.060 ต่อเป็นวง วงแหวน 00:09:26.060 --> 00:09:30.280 (นับ C) 00:09:30.280 --> 00:09:33.110 เขียนในแบบนี้ก็ได้ 00:09:33.110 --> 00:09:34.226 ทำให้ดูง่ายขึ้น 00:09:34.226 --> 00:09:36.020 C6H12O6 เข้าทำปฏิกริยา 00:09:36.020 --> 00:09:37.460 ใช้ 1 ATP ตรงนี้ 00:09:37.460 --> 00:09:39.430 ผมจะเน้นสีไว้ 00:09:39.430 --> 00:09:42.310 ผมจะใช้สีส้มเน้นตรง ที่ใช้ ATP 00:09:42.310 --> 00:09:43.870 ใช้ 1 ATP ตรงนี้ 00:09:43.870 --> 00:09:46.050 ใช้ 1 ATP ตรงนี้ 00:09:46.050 --> 00:09:48.500 และ อย่างที่บอก สารที่ได้ในแต่ละขั้น 00:09:48.500 --> 00:09:49.370 จะมีชื่อที่ต่างกันนิดหน่อย 00:09:49.370 --> 00:09:49.880 แต่สารที่อยู่ตรงนี้คือ 00:09:49.880 --> 00:09:52.040 phosphoglyceraldehyde 00:09:52.040 --> 00:09:54.480 หรือเรียกว่า glyceraldehyde 3-phosphate 00:09:54.480 --> 00:09:56.850 มันก็คือโมเลกุลเดียวกัน 00:09:56.850 --> 00:10:00.130 อย่างที่เห็นในรูปที่ผมวาดก่อนหน้านี้ 00:10:00.130 --> 00:10:03.020 เรามี 1..2..3 คาร์บอน 00:10:05.670 --> 00:10:07.630 ที่มีฟอสเฟสอยู่ด้วย 00:10:07.630 --> 00:10:09.600 จริงๆแล้วฟอสเฟสสร้างพันธะกับออกซิเจน 00:10:09.600 --> 00:10:12.160 แต่ผมอยากเข้าใจง่าย 00:10:12.160 --> 00:10:13.560 จึงวาดหมู่ฟอสเฟสแบบนี้ 00:10:13.560 --> 00:10:15.750 ที่เขียนให้ดูแล้วนี่ไง 00:10:16.440 --> 00:10:18.535 phosphoglyceraldehyde ตรงนี้มี 00:10:18.535 --> 00:10:20.700 โครงสร้างจริงคือ แบบนี้ 00:10:20.700 --> 00:10:23.630 ผมคิดว่าบางครั้งเธอดูโครงสร้างแล้วอาจจะทำให้ 00:10:23.630 --> 00:10:24.680 ลืมภาพรวมของ 00:13:26.930 --> 00:13:29.570 ครับ ผมก็หวังว่าวีดีโอนี้ช่วยคุณได้