0:00:14.626,0:00:16.293 เราจะเรียนรู้ได้อย่างไร 0:00:16.812,0:00:21.005 ทำไมคนบางคน[br]ถึงเรียนรู้อะไรได้ง่ายกว่าคนอื่น 0:00:21.445,0:00:24.595 ฉันลาร่า บอยด์ 0:00:24.617,0:00:27.974 ตอนนี้ฉันเป็นนักวิจัยสมอง[br]ที่ University of British Columbia 0:00:28.254,0:00:31.147 คำถามเหล่านี้ติดอยู่ในใจฉัน 0:00:31.148,0:00:34.038 (เสียงปรบมือ) 0:00:35.458,0:00:38.725 การวิจัยเกี่ยวกับสมอง[br]เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ 0:00:38.726,0:00:41.244 ในการทำความเข้าใจสรีรวิทยาของมนุษย์ 0:00:41.245,0:00:45.278 รวมถึงในการพิจารณาว่า[br]อะไรทำให้เราเป็นเรา 0:00:45.618,0:00:47.904 มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษมาก[br]ที่ได้เป็นนักวิจัยสมอง 0:00:47.905,0:00:49.173 และฉันอยากจะบอกกับทุกคน 0:00:49.174,0:00:51.944 ว่าฉันได้ทำงานที่น่าสนใจที่สุดในโลก 0:00:52.434,0:00:56.328 สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับสมอง[br]เปลี่ยนแปลงเร็วเท่าชั่วลมหายใจ 0:00:56.329,0:00:59.534 และอะไรก็ตามที่เราคิดว่า[br]เรารู้และเข้าใจเกี่ยวกับสมอง 0:00:59.535,0:01:02.745 กลายเป็นเรื่องไม่จริงหรือไม่สมบูรณ์ 0:01:03.433,0:01:06.974 ความเข้าใจผิดเหล่านี้ [br]บางเรื่องก็เห็นได้ชัดเจนกว่าเรื่องอื่น 0:01:06.975,0:01:09.577 เช่น พวกเราเคยคิดว่า 0:01:09.578,0:01:14.068 หลังพ้นวัยเด็กแล้วสมองจะ[br]ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ 0:01:14.069,0:01:18.017 กลับกลายเป็นว่า ความเชื่อนี้[br]ผิดจากความจริงเสียยิ่งกว่าอะไร 0:01:18.018,0:01:19.957 อีกความเข้าใจผิดหนึ่งเกี่ยวกับสมอง 0:01:19.958,0:01:23.136 คือความเชื่อว่าในขณะหนึ่งๆ [br]คุณใช้สมองแค่เพียงบางส่วน 0:01:23.137,0:01:25.716 และสมองจะหยุดทำงาน[br]เมื่อคุณไม่ได้ทำอะไรเลย 0:01:25.717,0:01:27.534 เรื่องนี้ก็ไม่จริงเช่นกัน 0:01:27.535,0:01:29.761 เรากลับพบว่า[br]แม้แต่เวลาที่คุณกำลังพักผ่อน 0:01:29.762,0:01:33.473 และไม่ได้คิดอะไรเลย[br]สมองก็ยังทำงานเต็มที่ 0:01:33.953,0:01:37.244 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น MRI 0:01:37.245,0:01:40.532 ทำให้เราได้ข้อค้นพบเหล่านี้ [br]และข้อค้นพบที่สำคัญอื่น ๆ 0:01:40.532,0:01:42.931 การค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุด น่าสนใจที่สุด 0:01:42.931,0:01:45.718 และปฏิรูปความรู้ด้านสมองมากที่สุด[br]ในบรรดาการค้นพบเหล่านี้ 0:01:45.718,0:01:49.351 นั่นคือ ทุกครั้งที่คุณเรียนรู้[br]ทักษะหรือความรู้ใหม่ 0:01:49.352,0:01:51.461 คุณเปลี่ยนสมองของคุณไปด้วย 0:01:51.461,0:01:54.691 นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่าการยืดหยุ่น[br]ปรับตัวของสมอง (Neuroplasticity) 0:01:54.691,0:01:58.737 เมื่อ 25 ปีที่แล้ว[br]พวกเราคิดว่าหลังจากช่วงวัยรุ่น 0:01:58.738,0:02:01.784 สมองมีแต่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางลบ 0:02:01.785,0:02:03.994 เซลล์สมองลดลงเมื่ออายุมากขึ้น 0:02:03.995,0:02:06.636 ผลกระทบจากความเสียหายในสมอง[br]เช่น เส้นเลือดตีบหรือแตก 0:02:06.637,0:02:09.470 แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีการศึกษา 0:02:09.470,0:02:12.978 ที่พบการปรับโครงสร้างจำนวนมาก[br]ในสมองของผู้ใหญ่ 0:02:13.668,0:02:15.844 และการวิจัยที่ตามมาก็แสดงให้เราเห็นว่า 0:02:15.845,0:02:19.366 ทุกพฤติกรรมของเรา[br]เปลี่ยนแปลงสมองของเราได้ 0:02:19.946,0:02:23.015 การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้[br]ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยอายุ 0:02:23.016,0:02:24.723 มันเป็นข่าวดีใช่มั้ย 0:02:24.724,0:02:27.397 และที่จริง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้[br]เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาเลย 0:02:27.398,0:02:29.529 ที่สำคัญมากคือ 0:02:29.530,0:02:32.398 การปรับโครงสร้างในสมอง[br]ช่วยส่งเสริมการฟื้นตัว 0:02:32.399,0:02:34.474 หลังจากที่สมองได้รับความเสียหาย 0:02:34.959,0:02:39.178 กุญแจของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ[br]ความยืดหยุ่นปรับตัวของสมอง 0:02:39.556,0:02:41.204 แล้วความสามารถนี้มันเป็นอย่างไรล่ะ 0:02:41.205,0:02:44.201 สมองของคุณสามารถเปลี่ยนแปลง[br]ได้ด้วยกระบวนการพื้นฐาน 3 อย่าง 0:02:44.202,0:02:45.961 เพื่อช่วยในการเรียนรู้ 0:02:45.962,0:02:48.001 วิธีแรกก็คือสารเคมี 0:02:48.002,0:02:51.574 การทำงานของสมองเกิดจากการส่งต่อ[br]ของสัญญาณทางเคมี 0:02:51.584,0:02:53.709 ระหว่างเซลล์ของสมอง[br]ที่เราเรียกว่าเซลล์ประสาท 0:02:53.710,0:02:57.148 การส่งสัญญาณเคมีเหล่านี้[br]กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาต่างๆ 0:02:57.539,0:03:00.267 เพื่อที่จะช่วยในการเรียนรู้[br]สมองของคุณสามารถเพิ่มปริมาณ 0:03:00.268,0:03:03.454 หรือความเข้มข้นของสัญญาณเคมี 0:03:03.459,0:03:06.459 ที่เกิดขึ้นระหว่างเซลล์ประสาทเหล่านี้ 0:03:06.462,0:03:09.021 และเพราะการเปลี่ยนแปลงแบบนี้[br]เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 0:03:09.022,0:03:10.979 มันจึงช่วยสนับสนุนความจำระยะสั้น 0:03:10.980,0:03:15.020 หรือเพิ่มความสามารถหรือทักษะ[br]การเคลื่อนไหวได้ชั่วคราวด้วย 0:03:15.550,0:03:18.799 วิธีที่สองที่สมองเปลี่ยนแปลง[br]เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ 0:03:18.800,0:03:20.934 คือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสมอง 0:03:21.375,0:03:25.493 ระหว่างที่เรียนรู้อยู่ สมองสามารถเปลี่ยน[br]การเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทได้ 0:03:25.494,0:03:28.742 วิธีนี้ โครงสร้างทางกายภาพของสมอง[br]เปลี่ยนแปลงไปจริงๆ 0:03:28.752,0:03:30.899 จึงต้องใช้เวลามากขึ้น 0:03:30.900,0:03:33.685 การเปลี่ยนแปลงรูปแบบนี้[br]จะเกี่ยวข้องกับความจำระยะยาว 0:03:33.686,0:03:37.037 และพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวในระยะยาว 0:03:37.038,0:03:41.004 กระบวนการเหล่านี้มีผลกระทบต่อกัน[br]ฉันจะยกตัวอย่างให้ฟังว่าเป็นอย่างไร 0:03:41.604,0:03:44.742 พวกเราพยายามเรียนรู้[br]ทักษะการเคลื่อนไหวใหม่ๆ 0:03:44.743,0:03:46.382 อาจจะเป็นการเล่นเปียโน 0:03:46.383,0:03:48.243 บางทีก็การเล่นกล 0:03:48.244,0:03:50.923 พวกเรามีประสบการณ์ว่าเรา[br]ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ 0:03:50.924,0:03:53.201 ในการฝึกฝนครั้งหนึ่งๆ 0:03:53.202,0:03:55.700 แล้วก็คิดว่า "เราทำได้แล้ว" 0:03:55.701,0:03:57.840 จากนั้น คุณอาจกลับมาทำอีกครั้งในวันต่อไป 0:03:57.841,0:04:01.292 ทุกพัฒนาการที่ได้ฝึกในวันก่อนหน้ากลับหายไป 0:04:01.293,0:04:02.792 เกิดอะไรขึ้น 0:04:02.793,0:04:05.822 ในช่วงระยะสั้น[br]สมองของคุณสามารถเพิ่ม 0:04:05.834,0:04:08.585 สัญญาณทางเคมีระหว่างเซลล์ประสาท 0:04:08.586,0:04:13.480 แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง การเปลี่ยนแปลงนั้น[br]ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนโครงสร้าง 0:04:13.481,0:04:16.507 ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความจำระยะยาว 0:04:17.257,0:04:20.591 อย่าลืมว่าความจำระยะยาวต้องใช้เวลา 0:04:20.593,0:04:23.725 และสิ่งที่คุณเห็นในระยะสั้น[br]ไม่ได้สะท้อนว่าเกิดการเรียนรู้ 0:04:23.726,0:04:25.473 ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ 0:04:25.474,0:04:27.853 ซึ่งช่วยให้เกิดความจำระยะยาว 0:04:27.854,0:04:31.764 ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางเคมี[br]จะช่วยความจำระยะสั้น 0:04:32.734,0:04:36.876 การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างยังสร้างเครือข่าย[br]ที่ประสานระหว่างพี้นที่ต่างๆ ในสมอง 0:04:36.877,0:04:39.225 ที่ร่วมกันทำหน้าที่สนับสนุนการเรียนรู้ 0:04:39.226,0:04:41.572 และยังอาจทำให้สมองบางส่วน 0:04:41.573,0:04:44.212 ที่สำคัญต่อพฤติกรรมจำเพาะบางอย่าง 0:04:44.213,0:04:46.808 เปลี่ยนโครงสร้างหรือขยายขนาดขึ้น 0:04:46.809,0:04:49.318 นี่คือตัวอย่าง 0:04:49.319,0:04:51.201 คนที่อ่านอักษรเบลล์ 0:04:51.202,0:04:56.616 มีสมองส่วนที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัสที่มือ[br]ขนาดใหญ่กว่าคนที่ไม่ได้อ่าน 0:04:56.617,0:05:00.934 สมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหวมือข้างที่ถนัด[br]ซึ่งอยู่บนสมองซีกซ้าย 0:05:00.935,0:05:04.797 ถ้าคุณเป็นคนที่ถนัดขวา พี้นที่ดังกล่าว[br]บนสมองซีกซ้ายจะใหญ่กว่าอีกด้าน 0:05:04.798,0:05:07.781 และงานวิจัยพบว่าคนขับรถแท็กซี่ในลอนดอน 0:05:07.782,0:05:12.424 ที่ต้องจำแผนที่ในลอนดอนให้ได้[br]เพื่อรับใบอนุญาตขับรถแท็กซี่ 0:05:12.425,0:05:17.210 มีพื้นที่สมองที่ทำงานด้านมิติสัมพันธ์[br]หรือการจดจำแผนที่ ที่ใหญ่กว่าคนปกติ 0:05:17.810,0:05:20.808 วิธีสุดท้ายที่สมองคุณสามารถเปลี่ยน[br]เพื่อเอื้อในการเรียนรู้ 0:05:20.809,0:05:22.539 คือการเปลี่ยนแปลงหน้าที่การทำงาน 0:05:23.679,0:05:25.551 เมื่อคุณใช้สมองส่วนใดส่วนหนึ่ง 0:05:25.552,0:05:29.311 มันจะไวต่อการกระตุ้นมากขึ้น [br]และง่ายที่จะถูกใช้งานอีกครั้ง 0:05:29.312,0:05:32.883 และเมื่อสมองของคุณมีพื้นที่[br]ที่ไวต่อการกระตุ้นเหล่านี้มากขึ้น 0:05:32.884,0:05:35.949 รูปแบบและจังหวะเวลา[br]ที่สมองถูกกระตุ้นก็เปลี่ยนไป 0:05:35.950,0:05:37.600 เมื่อเกิดการเรียนรู้ เราจะเห็นได้ว่า 0:05:37.601,0:05:41.611 เครือข่ายของกิจกรรมในสมองทั้งหมด[br]มีการขยับปรับเปลี่ยนเกิดขึ้น 0:05:42.459,0:05:44.377 ดังนั้น ความยืดหยุ่นปรับตัวของสมอง 0:05:44.378,0:05:48.752 จึงได้รับการสนับสนุนจากการเปลี่ยนแปลง[br]ของสารเคมี, โครงสร้าง, และหน้าที่การทำงาน 0:05:48.753,0:05:51.601 และเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วทั้งสมอง 0:05:51.602,0:05:53.952 สิ่งเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นเดี่ยวๆ ก็ได้ 0:05:53.953,0:05:57.334 แต่ส่วนมากจะเกิดร่วมกัน 0:05:57.335,0:05:59.662 ทั้งหมดช่วยในการเรียนรู้ 0:05:59.663,0:06:02.354 และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 0:06:04.167,0:06:08.914 ฉันบอกคุณแล้วว่าความยืดหยุ่นปรับตัวได้[br]ของสมองเรามันเจ๋งแค่ไหน 0:06:08.915,0:06:13.094 แต่ ทำไมคุณไม่สามารถเรียนรู้[br]สิ่งที่คุณอยากเรียนได้ง่าย ๆ ล่ะ 0:06:13.095,0:06:16.311 ทำไมเด็ก ๆ ถึงล้มเหลวในการเรียน 0:06:16.941,0:06:20.634 ทำไมเมื่ออายุมากขึ้นเราจึงมักขี้ลืม 0:06:20.635,0:06:23.948 และทำไมคนเราจึงไม่สามารถ[br]ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์หลังสมองเสียหาย 0:06:23.959,0:06:29.397 อะไรคือข้อจำกัดของความสามารถ[br]ในการยืดหยุ่นปรับตัวของสมอง 0:06:29.398,0:06:31.407 นี่แหละคือสิ่งที่ฉันศึกษาอยู่ 0:06:31.408,0:06:34.982 ฉันศึกษาเจาะลึกว่ามันสัมพันธ์กับ[br]การฟื้นตัวจากโรคสมองขาดเลือดอย่างไร 0:06:34.982,0:06:36.936 ไม่นานมานี้ โรคสมองขาดเลือดลดอันดับ 0:06:36.937,0:06:40.386 จากการเป็นสาเหตุการตาย[br]อันดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา 0:06:40.387,0:06:42.496 เป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 4 0:06:42.497,0:06:44.237 เป็นข่าวดีใช่มั้ยคะ 0:06:44.937,0:06:46.319 แต่จริง ๆ แล้วมันกลายเป็นว่า 0:06:46.320,0:06:49.359 จำนวนของคนที่เป็นโรคไม่ได้ลดลง 0:06:49.360,0:06:52.699 พวกเราแค่ทำให้คนไข้มีชีวิตอยู่ได้[br]หลังจากที่โรคมีอาการรุนแรงขึ้น 0:06:53.299,0:06:58.095 มันยากมากที่จะช่วยฟื้นฟูสมอง[br]จากโรคสมองขาดเลือด 0:06:58.096,0:06:59.372 พูดกันตรง ๆ เลยก็คือ 0:06:59.373,0:07:03.463 พวกเราล้มเหลวในการพัฒนา[br]ประสิทธิภาพของการฟื้นฟูผู้ป่วยเหล่านี้ 0:07:05.433,0:07:09.568 ผลลัพธ์โดยรวมของเรื่องนี้[br]คือโรคสมองขาดเลือดเป็นสาเหตุหลัก 0:07:09.569,0:07:13.739 ของภาวะพิการระยะยาวในวัยผู้ใหญ่ทั่วโลก 0:07:13.740,0:07:15.818 คนอายุน้อยป่วยด้วยโรคสมองขาดเลือดมากขึ้น 0:07:15.819,0:07:18.938 และมีแนวโน้มที่จะมีชีวิต[br]อยู่กับภาวะพิการยาวนานขึ้น 0:07:18.939,0:07:21.143 และการวิจัยจากกลุ่มของฉันแสดงให้เห็นว่า 0:07:21.144,0:07:25.952 คุณภาพชีวิตด้านสุขภาพของชาวแคนาดา[br]ที่เป็นโรคสมองขาดเลือดนั้นตกต่ำลง 0:07:26.122,0:07:27.860 มันชัดเจนมากที่เราจะต้องปรับปรุง 0:07:27.860,0:07:30.566 การช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ป่วย[br]จากโรคสมองขาดเลือดให้ดีขึ้น 0:07:30.566,0:07:33.708 นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่มากของสังคม 0:07:33.709,0:07:36.273 และเป็นหนึ่งในปัญหาที่เรา[br]ยังไม่ได้เข้าไปแก้ไข 0:07:36.653,0:07:38.504 แล้วเราจะทำอะไรได้ล่ะ 0:07:38.944,0:07:41.291 มีอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมาก คือ 0:07:41.292,0:07:45.793 สิ่งที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนแปลง[br]ความสามารถของสมองก็คือพฤติกรรมของคุณ 0:07:46.625,0:07:50.332 ปัญหาคือปริมาณของพฤติกรรม[br]จำนวนครั้งของการฝึกฝน 0:07:50.333,0:07:53.935 ที่จำเป็นในการเรียนรู้สิ่งใหม่[br]และเรียนรู้พฤติกรรมเก่าซ้ำ 0:07:53.936,0:07:55.551 ต้องทำซ้ำเยอะมากๆ 0:07:55.552,0:07:58.827 และจะทำอย่างไรให้การฝึกฝนนั้นมีประสิทธิภาพ 0:07:58.828,0:08:03.209 เป็นปัญหาที่ยากมากและแพงมากด้วย 0:08:03.210,0:08:05.389 แนวทางที่ฉันใช้ในงานวิจัยนั้น 0:08:05.390,0:08:09.297 คือการสร้างการบำบัดที่เหนี่ยวนำ [br]หรือเตรียมสมองให้พร้อมสำหรับการเรียนรู้ 0:08:09.298,0:08:14.031 ซึ่งวิธีพวกนี้รวมถึงการจำลองสมอง [br]การฝึกซ้อม และสมองกลหุ่นยนต์ 0:08:14.351,0:08:18.220 แต่จากงานวิจัย ทำให้ฉันได้รู้ว่า[br]ข้อจำกัดที่สำคัญ 0:08:18.221,0:08:21.764 ในการพัฒนาการรักษาที่สามารถฟื้นฟูสมอง[br]จากโรคสมองขาดเลือดได้อย่างรวดเร็ว 0:08:21.765,0:08:27.751 คือรูปแบบของความสามารถของความสามารถของสมอง[br]ซึ่งแตกต่างหลากหลายมาก จากคนหนึ่งถึงอีกคน 0:08:28.555,0:08:32.596 ในฐานะนักวิจัย [br]ความแตกต่างหลากหลายนี้ทำให้ฉันปวดหัว 0:08:32.597,0:08:35.866 มันทำให้ยากมากที่จะใช้สถิติ 0:08:35.866,0:08:38.390 เพื่อทดสอบข้อมูลและความคิดของคุณ 0:08:38.392,0:08:41.347 เพราะอย่างนี้ การศึกษา[br]วิธีบำบัดรักษาทางการแพทย์ 0:08:41.349,0:08:45.089 จึงถูกออกแบบมาให้ช่วยลด[br]ความแตกต่างหลากหลายให้เหลือน้อยที่สุด 0:08:45.090,0:08:48.334 แต่ในการวิจัยของฉัน[br]มันเห็นได้ชัดว่า 0:08:48.335,0:08:52.688 สิ่งสำคัญที่สุด และข้อมูล[br]ที่มีความหมายที่สุดที่เรารวบรวมมาได้ 0:08:52.689,0:08:55.061 ก็คือข้อมูลที่แสดงให้เห็น[br]ความหลายหลายเหล่านี้ 0:08:56.571,0:09:00.972 ดังนั้น จากการศึกษาสมองของผู้ป่วย[br]ภาวะสมองขาดเลือด พวกเราได้เรียนรู้มากมาย 0:09:00.973,0:09:05.782 และฉันคิดว่าบทเรียนนี้[br]มีค่ามากกับวงการอื่นๆ ด้วย 0:09:06.572,0:09:07.881 บทเรียนแรกก็คือ 0:09:07.882,0:09:11.973 ปัจจัยหลักที่ทำให้สมองของคุณเปลี่ยน[br]ก็คือพฤติกรรมของคุณเอง 0:09:11.974,0:09:15.334 มันไม่มียาที่กินแล้ว[br]ทำให้สมองของคุณเปลี่ยนแปลงไปได้ 0:09:15.907,0:09:19.367 ไม่มีอะไรมีประสิทธิภาพไปมากกว่าการฝึกฝน[br]ที่จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ 0:09:19.368,0:09:23.164 สำคัญที่สุดคือคุณต้องลงมือทำ 0:09:23.384,0:09:25.593 และที่จริง งานวิจัยของฉันแสดงให้เห็นว่า 0:09:25.594,0:09:30.408 ยิ่งยาก ยิ่งดิ้นรนพยายาม[br]ในช่วงของการฝึกฝนมากเท่าไหร่ 0:09:30.408,0:09:32.934 ก็ยิ่งนำไปสู่ ทั้งการเรียนรู้ที่ดีขึ้น 0:09:32.935,0:09:36.335 และการเปลี่ยนแปลงใน[br]โครงสร้างของสมองที่มากขึ้น 0:09:37.751,0:09:42.524 ปัญหาคือ ความยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงได้ของสมอง[br]อาจเกิดขึ้นได้ทั้งสองรูปแบบ 0:09:42.525,0:09:45.338 มันสามารถเป็นไปในแง่บวก[br]คุณได้เรียนรู้สิ่งใหม่ 0:09:45.339,0:09:47.928 ได้ปรับปรุงทักษะการเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น 0:09:47.929,0:09:51.692 แต่มันก็อาจเป็นไปในแง่ลบก็ได้[br]เช่น คุณลืมสิ่งที่คุณเคยรู้ 0:09:51.693,0:09:53.908 คุณเริ่มติดยาบางอย่าง 0:09:53.909,0:09:55.937 หรืออาจมีอาการเจ็บปวดเรื้อรัง 0:09:56.147,0:09:58.614 สมองของคุณเป็นเหมือนพลาสติกอันน่าทึ่ง 0:09:58.615,0:10:03.314 ที่ถูกปรับเปลี่ยนทั้งโครงสร้าง[br]และหน้าที่การทำงานได้ จากทุกสิ่งที่คุณทำ 0:10:03.315,0:10:06.470 รวมถึงสิ่งที่คุณไม่ได้ทำด้วย 0:10:07.070,0:10:09.801 บทเรียนที่สองที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับสมอง 0:10:09.802,0:10:13.722 คือไม่มีรูปแบบการเรียนรู้ใดๆ ที่จะทำให้[br]ทุกคนเข้าใจได้เท่ากัน 0:10:14.342,0:10:16.587 ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการเรียนรู้ 0:10:16.588,0:10:20.515 จากความเชื่อที่แพร่หลายว่า[br]เราต้องใช้เวลาฝึกฝน 10,000 ชั่วโมง 0:10:20.516,0:10:23.725 เพื่อเรียนรู้และชำนาญในทักษะใหม่ 0:10:23.726,0:10:27.065 ฉันรับรองได้เลยว่ามันไม่ง่ายแบบนั้น 0:10:27.066,0:10:28.198 สำหรับพวกเราบางคน 0:10:28.199,0:10:32.818 จำเป็นต้องมีการฝึกมากมาย[br]แต่คนอื่นที่อาจจะใช้เวลาฝึกน้อยกว่า 0:10:32.819,0:10:36.767 ดังนั้น การปรับเปลี่ยนสมองของเรานั้น[br]เป็นเรื่องเฉพาะตัวสูง 0:10:36.768,0:10:41.237 เกินกว่าจะมีวิธีการใดวิธีการหนึ่ง[br]ที่จะได้ผลสำหรับทุกคน 0:10:41.238,0:10:46.258 การตระหนักถึงความจริงข้อนี้ ทำให้เรา[br]เริ่มคิดถึงการแพทย์เฉพาะตัวบุคคล 0:10:46.259,0:10:49.227 คือแนวคิดที่ว่า [br]เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 0:10:49.228,0:10:53.007 แต่ละคนต้องการวิธีรักษาบำบัด[br]ที่เฉพาะเจาะจง เหมาะสมกับตนเอง 0:10:53.008,0:10:55.752 แนวคิดนี้ได้มาจากการรักษาโรคมะเร็ง 0:10:55.753,0:10:59.338 ที่แสดงให้เห็นว่าพันธุกรรม[br]เป็นปัจจัยสำคัญมากในการจับคู่ 0:10:59.339,0:11:03.739 ยาเคมีบำบัดบางตัว กับโรคมะเร็ง[br]ที่มีลักษณะเฉพาะบางอย่าง 0:11:04.460,0:11:08.224 งานวิจัยของฉันแสดงให้เห็นว่าแนวคิดนี้[br]นำไปใช้ในการฟื้นฟูโรคสมองขาดเลือดได้ด้วย 0:11:08.224,0:11:11.114 โครงสร้างและหน้าที่การทำงานของสมอง[br]มีลักษณะบางอย่าง 0:11:11.114,0:11:12.794 ที่เราเรียกว่าตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ 0:11:12.794,0:11:15.318 ปรากฏว่าตัวบ่งชี้ทางชีวภาพเหล่านี้[br]มีประโยชน์อย่างมาก 0:11:15.318,0:11:17.092 และช่วยเราในการจับคู่ 0:11:17.093,0:11:20.958 การรักษาในรูปแบบเฉพาะกับผู้ป่วยแต่ละคนได้ 0:11:20.959,0:11:24.793 ข้อมูลจากห้องทดลองของฉันชี้ให้เห็นว่า[br]เมื่อใช้ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพหลายอย่างรวมกัน 0:11:24.794,0:11:29.584 จะช่วยทำนายการเปลี่ยนแปลงของสมอง[br]และแบบแผนการฟื้นตัวของผู้ป่วยได้ดีที่สุด 0:11:29.588,0:11:34.170 ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลย[br]เพราะสมองคนเราซับซ้อนมาก 0:11:34.171,0:11:38.661 แต่ฉันคิดว่าเราสามารถมองแนวคิดนี้[br]ในมุมกว้างขึ้นกว่าเดิมได้ 0:11:39.831,0:11:43.776 โครงสร้างและการทำงานของสมอง[br]มีลักษณะเฉพาะเจาะจงในแต่ละคน 0:11:43.792,0:11:49.042 ความรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงได้ของสมอง[br]หลังเกิดภาวะสมองขาดเลือด นำไปใช้กับทุกคน 0:11:50.306,0:11:54.804 พฤติกรรมที่คุณทำในแต่ละวันนั้น[br]เป็นสิ่งที่สำคัญ 0:11:54.805,0:11:57.533 พฤติกรรมเหล่านั้นกำลังเปลี่ยนสมองของคุณ 0:11:57.534,0:11:59.275 ฉันเชื่อว่าเราต้องพิจารณา 0:11:59.276,0:12:03.355 ไม่ใช่แค่การแพทย์เฉพาะบุคคล[br]แต่ต้องคิดถึงการเรียนรู้เฉพาะบุคคลด้วย 0:12:03.356,0:12:05.831 รูปแบบที่เฉพาะเจาะจงของสมอง[br]จะมีผลกระทบกับตัวคุณ 0:12:05.832,0:12:08.981 ทั้งในฐานะผู้เรียนรู้และผู้ให้ความรู้ 0:12:08.982,0:12:11.938 ความคิดนี้ช่วยให้เราได้เข้าใจ 0:12:11.939,0:12:15.738 ว่าทำไมเด็กบางคนถึงมีความก้าวหน้า[br]ในรูปแบบการศึกษาแบบเก่า 0:12:15.739,0:12:17.348 แต่เด็กคนอื่นไม่สามารถทำได้ 0:12:17.349,0:12:19.719 ทำไมพวกเราบางคนถึงเรียนภาษาได้อย่างง่ายดาย 0:12:19.720,0:12:23.730 และหลายคนสามารถเล่นกีฬาได้ดี 0:12:25.330,0:12:28.381 ดังนั้น หลังจากที่คุณออกจากห้องนี้ 0:12:28.382,0:12:32.891 สมองของคุณจะไม่เหมือนกับ[br]ตอนที่คุณเข้ามาเมื่อเช้านี้ 0:12:32.892,0:12:35.549 และฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก 0:12:36.389,0:12:40.002 แต่พวกคุณแต่ละคนจะมีการเปลี่ยนแปลง[br]ของสมองที่แตกต่างกัน 0:12:40.552,0:12:42.706 ความเข้าใจในความแตกต่างเหล่านี้ 0:12:42.707,0:12:46.335 ในแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละคน[br]ในตัวแปรและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ 0:12:46.336,0:12:49.835 จะช่วยสร้างความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ต่อไป[br]ในวงการประสาทวิทยาศาสตร์ 0:12:49.847,0:12:53.596 ทำให้เราได้พัฒนาวิธีบำบัดรักษาใหม่ๆ [br]ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 0:12:53.597,0:12:57.906 ทำให้มีการจับคู่ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน 0:12:57.907,0:13:00.906 และระหว่างผู้ช่วยกับวิธีบำบัดรักษา 0:13:00.907,0:13:03.986 แนวคิดนี้ใช้ได้ไม่เพียง[br]ในการฟื้นฟูโรคสมองขาดเลือด 0:13:03.987,0:13:08.488 แต่ยังใช้ได้กับพวกเราแต่ละคน [br]ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่, ครู, ผู้จัดการ 0:13:08.489,0:13:12.869 และพวกคุณที่อยู่ที่ TEDx ในวันนี้[br]ในฐานะนักเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย 0:13:13.439,0:13:16.898 ค้นหาวิธีและสิ่งที่คุณเรียนรู้ได้ดีที่สุด 0:13:16.899,0:13:20.738 ทำพฤติกรรมที่ดีต่อสมองของคุณเหล่านั้นซ้ำๆ 0:13:20.739,0:13:23.936 เลิกทำพฤติกรรมที่ไม่ได้ช่วยในการเรียนรู้ 0:13:24.446,0:13:25.518 ฝึกฝน 0:13:26.078,0:13:30.487 การเรียนรู้คือการลงมือ[br]ทำสิ่งที่สมองของคุณต้องการ 0:13:30.488,0:13:34.320 ดังนั้น แผนการที่ดีที่สุด[br]จะแตกต่างไปในแต่ละคน 0:13:34.321,0:13:37.537 ที่จริง คุณรู้ไหมว่ามันยังแตกต่างกัน[br]ภายในตัวคนแต่ละคนอีก 0:13:37.538,0:13:40.508 การเรียนดนตรีสำหรับคุณอาจจะง่ายมาก 0:13:40.509,0:13:43.748 แต่การเรียนสโนว์บอร์ดอาจจะยากกว่า 0:13:44.478,0:13:46.288 ฉันหวังว่าหลังจากจบงานในวันนี้ 0:13:46.289,0:13:49.908 คุณจะกลับไปด้วยความภูมิใจ[br]ว่าสมองของคุณพิเศษมากแค่ไหน 0:13:49.909,0:13:54.681 คุณและสมองของคุณถูกปั้นแต่ง[br]ด้วยโลกที่อยู่รอบตัวคุณ 0:13:54.682,0:13:57.136 เข้าใจว่าทุกสิ่งที่คุณได้ลงมือทำ 0:13:57.137,0:14:01.656 ทุกสิ่งที่คุณได้พบ ทุกประสบการณ์ที่สัมผัส[br]จะเปลี่ยนแปลงสมองของคุณ 0:14:01.657,0:14:05.856 และมันจะเปลี่ยนให้ดีขึ้น หรือว่าแย่ลงก็ได้ 0:14:05.857,0:14:10.328 ดังนั้น หลังจากจบงานนี้ ขอให้คุณ[br]ออกไปสร้างสมองแบบที่คุณต้องการ 0:14:10.329,0:14:11.547 ขอบคุณมากค่ะ 0:14:11.548,0:14:13.251 (เสียงปรบมือ)