1 00:00:00,000 --> 00:00:01,820 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 2 00:00:01,820 --> 00:00:05,860 หลังจากคราวที่แล้วนะคะ วิวทำคลิป เกี่ยวกับประวัติของย่านหมอชิตไปเนี่ย 3 00:00:05,860 --> 00:00:10,220 ทำให้หลายๆคนนะคะรู้สึกสนใจมากค่ะ แล้วก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเลยทีเดียว 4 00:00:10,220 --> 00:00:12,280 หลายคนก็คอมเมนต์ขอมานะคะ บอกว่า 5 00:00:12,280 --> 00:00:16,600 เฮ้ย เรามาคุยกันเรื่องประวัติความเป็นมา ของชื่อต่างๆที่เราคุ้นเคยกันอีกดีไหม 6 00:00:16,600 --> 00:00:19,120 อยากรู้เรื่องตรงนั้นบ้าง อยากรู้เรื่องนี้ตรงนี้บ้างนะคะ 7 00:00:19,120 --> 00:00:21,600 เอาจริงๆบางที่วิวก็รู้ บางที่วิวก็ไม่รู้นะคะ 8 00:00:21,600 --> 00:00:25,940 บางที่ก็ค้นได้ บางที่ก็ค้นไม่ได้ บางที่ก็เป็นแค่ข้อสันนิษฐานต่างๆ 9 00:00:25,940 --> 00:00:28,920 แต่อย่างไรก็ตามค่ะ เหล่านี้ก็เป็นประวัติที่น่าสนใจนะคะ 10 00:00:28,920 --> 00:00:32,560 ดังนั้นวิวก็เลยหยิบสถานที่นึงขึ้นมา คุยกับทุกคนในวันนี้ค่ะ 11 00:00:32,560 --> 00:00:36,480 สถานที่นั้นนะคะ บอกว่าพูดชื่อขึ้นมา ไม่มีใครไม่รู้จักแน่ๆค่ะ 12 00:00:36,480 --> 00:00:39,140 สถานที่นั้นก็คือ ย่านสีลม นั่นเอง 13 00:00:39,140 --> 00:00:40,280 อะ พูดถึงสีลม 14 00:00:40,280 --> 00:00:42,600 เป็นทั้งชื่อสถานีรถไฟใต้ดิน 15 00:00:42,600 --> 00:00:44,140 เป็นทั้งชื่อย่านธุรกิจ 16 00:00:44,140 --> 00:00:45,340 เป็นทั้งชื่อถนน 17 00:00:45,340 --> 00:00:48,420 ว่าแต่สีลม ทำไมต้องสีลมด้วย แล้วสีลมมันสีอะไร 18 00:00:48,420 --> 00:00:49,800 มีที่มาจากอะไรนะคะ 19 00:00:49,800 --> 00:00:53,000 วันนี้ วิวไปค้นคำตอบ มาตอบให้ทุกคนฟังแล้วค่ะ 20 00:00:53,000 --> 00:00:53,940 แต่อย่างไรก็ตามนะคะ 21 00:00:53,940 --> 00:00:56,560 ก่อนอื่นอย่าลืมกดติดตามวิว ให้ครบทุกช่องทางนะคะ 22 00:00:56,560 --> 00:00:58,520 หลายคนยังไม่รู้ว่าวิวมี Instagram ด้วยนะ 23 00:00:58,520 --> 00:01:00,380 แต่ละช่องทางเนี่ย เนื้อหาไม่เหมือนกันเลย 24 00:01:00,380 --> 00:01:02,840 แล้วรูปแบบก็แตกต่างกันไปหมดเลยนะคะ 25 00:01:02,840 --> 00:01:04,440 ดังนั้นลองไปตามกันดูค่ะ 26 00:01:04,440 --> 00:01:06,620 สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง 27 00:01:06,620 --> 00:01:08,300 สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ 28 00:01:08,300 --> 00:01:10,420 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 29 00:01:14,440 --> 00:01:17,320 ก่อนอื่นนะคะ ถ้าเราจะมาพูดถึง ประวัติของสีลมกันเนี่ย 30 00:01:17,320 --> 00:01:19,860 หลายคนพอพูดถึงสีลม พูดถึงอะไรอย่างนี้ 31 00:01:19,860 --> 00:01:21,040 ชอบเล่นมุกกันใช่ไหมคะ 32 00:01:21,040 --> 00:01:22,560 แปลชื่อสีลมกันว่า 33 00:01:22,560 --> 00:01:23,720 Color of the wind 34 00:01:27,840 --> 00:01:30,820 เหมือนชื่อเพลงประกอบ เรื่อง Pocahontas อะไรประมาณนี้ 35 00:01:30,820 --> 00:01:32,160 ต้องขอบอกว่า ไม่ใช่ค่ะ 36 00:01:32,160 --> 00:01:34,140 สีลมในที่นี้ไม่ได้แปลแบบนั้นนะคะ 37 00:01:34,140 --> 00:01:37,900 เพราะว่าจริงๆคำว่า สี เนี่ยนะคะ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 38 00:01:37,900 --> 00:01:40,280 ให้ความหมายไว้ทั้งหมด 3 ความหมายด้วยกันค่ะ 39 00:01:40,280 --> 00:01:42,440 ความหมายแรกเนี่ยคือความหมายที่เอาจริงๆ 40 00:01:42,440 --> 00:01:45,280 วิวไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่า มันมีความหมายนี้ด้วย 41 00:01:45,280 --> 00:01:48,480 จนกระทั่งได้ไปเปิดพจนานุกรมราชบัณฑิตฯ เพื่อมาทำคลิปนี้นี่แหละ 42 00:01:48,480 --> 00:01:50,120 เค้าบอกว่าคำว่าสีนะคะ 43 00:01:50,120 --> 00:01:51,660 หมายถึง ปีมะโรง 44 00:01:51,660 --> 00:01:53,840 ใช่ ปีนักษัตร ปีงูใหญ่ของเรานี่แหละ 45 00:01:53,840 --> 00:01:56,780 ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไม ปีมะโรงถึงใช้คำว่าสีนะคะ 46 00:01:56,780 --> 00:01:59,940 อย่างไรก็ตาม ไม่สำคัญค่ะ ข้ามไปที่ความหมายที่สองดีกว่าค่ะ 47 00:01:59,940 --> 00:02:04,000 ความหมายที่สองของคำว่าสีเป็นความหมาย ที่เราหลายๆคนคุ้นเคยกันดีนะคะ 48 00:02:04,000 --> 00:02:06,760 ก็คือคำว่าสีที่แปลว่า color แปลว่า 49 00:02:06,760 --> 00:02:09,140 เอ่อ ถ้าจะตอบตามราชบัณฑิตยสถานก็คือ 50 00:02:09,140 --> 00:02:13,580 การที่แสงมากระทบวัตถุหนึ่งแล้วสะท้อนเข้าตา แล้วเป็นอะไรต่างๆให้เราได้รับรู้ 51 00:02:13,580 --> 00:02:15,820 อย่างเช่น แดง เขียว เหลือง อะไรเป็นต้น 52 00:02:15,820 --> 00:02:20,400 อะ ประมาณนี้ นี่ก็คือวิธีการอธิบายยากๆ ว่าสีที่แปลว่า color คืออะไรนะ 53 00:02:20,400 --> 00:02:22,680 เอาจริงๆคำว่าสีนี่ก็ให้ความหมายยากอยู่นะ 54 00:02:22,680 --> 00:02:26,440 ลองนึกสภาพว่าเราต้องอธิบาย คำว่าสีคืออะไรให้กับคนที่ 55 00:02:26,440 --> 00:02:28,200 ตาบอดสี ไม่เคยเห็นสีมาก่อนในชีวิต 56 00:02:28,200 --> 00:02:31,020 เออ หรือว่าคนที่ตาบอดเลยก็ยากอยู่นะคะ 57 00:02:31,020 --> 00:02:35,300 อย่างไรก็ตาม ราชบัณฑิตฯ ของเราก็เก่งมากๆนะคะ สามารถให้ความหมายของสีได้ 58 00:02:35,300 --> 00:02:37,400 ก็ตามนี้เลยที่เขียนไว้ให้นะคะ 59 00:02:37,400 --> 00:02:39,500 ทั้งนี้ทั้งนั้นนะคะ นี่คือการนอกเรื่องค่ะ 60 00:02:39,500 --> 00:02:41,520 เพราะว่าความหมายที่สองของคำว่าสีเนี่ย 61 00:02:41,520 --> 00:02:45,700 เพราะว่าความหมายที่สองของคำว่าสีที่ แปลว่า color ไม่ได้เกี่ยวข้องกับถนนสีลมเลยค่ะ 62 00:02:45,700 --> 00:02:48,640 ถนนสีลมเกี่ยวข้องกับความหมายที่สามค่ะ 63 00:02:48,640 --> 00:02:52,020 ความหมายที่สามของคำว่าสีนะคะ ราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายไว้ว่า 64 00:02:52,020 --> 00:02:55,840 เกี่ยวข้องกับการเสียดสี การถู การขัด อะไรประมาณนี้นะคะ 65 00:02:55,840 --> 00:02:57,380 อารมณ์ประมาณเหมือนแปรงสีฟัน 66 00:02:57,380 --> 00:03:00,620 ก็คือการที่เอาแปรงมาขัดถูฟัน ประมาณนั้นเลยนะคะ 67 00:03:00,620 --> 00:03:03,460 นี่คือความหมายที่เกี่ยวข้องกับถนนสีลมของเราค่ะ 68 00:03:03,460 --> 00:03:06,640 และแน่นอน คำว่าสีในที่นี้ เราใช้กับสิ่งนึงค่ะ 69 00:03:06,640 --> 00:03:10,700 นอกจากจะใช้กับแปรงสีฟันและใช้กับ สิ่งต่างๆรอบตัวอีกมากมายแล้วเนี่ย 70 00:03:10,700 --> 00:03:13,500 เรายังใช้กับ โรงสีข้าว นั่นเองนะคะ 71 00:03:13,500 --> 00:03:17,640 ซึ่งแน่นอนว่าถนนสีลมของเราเนี่ย ก็เกี่ยวข้องกับโรงสีข้าวนี่ล่ะค่ะ 72 00:03:17,640 --> 00:03:19,980 คือถ้าเราพูดถึงพฤติกรรมการกินของคนไทยนะ 73 00:03:19,980 --> 00:03:21,620 ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน 74 00:03:21,620 --> 00:03:24,700 เราก็รู้กันดีค่ะว่าคนไทย กินข้าวเป็นอาหารหลัก ถูกไหม 75 00:03:24,700 --> 00:03:26,640 ทีนี้ กว่าเราจะเอาข้าวมากินได้ 76 00:03:26,640 --> 00:03:30,180 กว่าที่ข้าวที่มันออกจากต้นมา ตากจนแห้งเป็นข้าวเปลือกเนี่ย 77 00:03:30,180 --> 00:03:32,740 เราจะเอามาหุงกินเป็นข้าวสวยทุกวันนี้ได้นะคะ 78 00:03:32,740 --> 00:03:34,680 มันจะต้องผ่านกระบวนการนึงค่ะ 79 00:03:34,680 --> 00:03:37,120 นั่นก็คือกระบวนการสีข้าวนั่นเอง 80 00:03:37,120 --> 00:03:38,720 ซึ่งเอาจริงๆคนไทยสมัยโบราณเนี่ย 81 00:03:38,720 --> 00:03:42,000 เค้าก็ไม่ใช้การสีข้าวที่เป็นโรงสี เป็นอะไรเหมือนปัจจุบันนี้หรอก 82 00:03:42,000 --> 00:03:44,160 เค้าก็ใช้วิธีการตำข้าวกันใช่ไหมคะ 83 00:03:44,160 --> 00:03:46,840 เค้าก็จะมีครกตำข้าวใหญ่ๆกันทุกครัวเรือนเลย 84 00:03:46,840 --> 00:03:49,560 แล้วก็ตำๆๆๆจนเปลือกกระเทาะออกไป 85 00:03:49,560 --> 00:03:52,620 แต่ทีนี้ค่ะ การตำข้าวก็อาจจะช้านิดนึง ดังนั้น 86 00:03:52,620 --> 00:03:55,040 มันก็เลยมีสิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยีเข้ามาช่วยนะคะ 87 00:03:55,040 --> 00:03:59,440 เทคโนโลยีนั้นก็คือเทคโนโลยีการสีข้าว ด้วยโรงสีแบบตะวันตกนั่นเองค่ะ 88 00:03:59,440 --> 00:04:03,840 การสีข้าวด้วยโรงสีแบบตะวันตกเนี่ยนะคะ เข้ามาในดินแดนที่เป็นประเทศไทยครั้งแรก 89 00:04:03,840 --> 00:04:05,740 ตามหลักฐานเท่าที่วิวหาเจอเนี่ยนะคะ 90 00:04:05,740 --> 00:04:09,740 ค้นเจอว่าเข้ามาในช่วงประมาณยุค สมเด็จพระนารายณ์มหาราชค่ะ 91 00:04:09,740 --> 00:04:11,740 ซึ่งในยุคนั้นเนี่ยนะคะ ก็เป็นยุคที่ 92 00:04:11,740 --> 00:04:14,740 อิทธิพลตะวันตกเนี่ย หลั่งไหลเข้ามาค่อนข้างมากใช่ไหม 93 00:04:14,740 --> 00:04:16,860 อย่างที่เราได้ดูกันในเรื่องบุพเพสันนิวาส 94 00:04:16,860 --> 00:04:20,200 จะเห็นว่าช่วงนั้นมีฝรั่ง มีชาวต่างชาติ ประเทศนู้นประเทศนี้ 95 00:04:20,200 --> 00:04:23,100 เข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยาเยอะมากนะคะ 96 00:04:23,100 --> 00:04:26,960 ดังนั้นมันมีฝรั่งอยู่คนนึงค่ะ เป็นบาทหลวงชื่อว่าบาทหลวงลา ลูแบร์ 97 00:04:26,960 --> 00:04:31,400 เค้าเป็นคนที่บันทึกเรื่องราวต่างๆใน ประเทศของเราไว้เยอะมาก ทำให้เราได้รู้นะคะ 98 00:04:31,400 --> 00:04:33,700 ก็บันทึกเอาไว้นะคะตามสิ่งที่เค้าเห็น 99 00:04:33,700 --> 00:04:36,080 มีอคติบ้าง จินตนาการบ้าง อะไรบ้าง 100 00:04:36,080 --> 00:04:37,580 ก็แล้วแต่เราจะตีความนะ 101 00:04:37,580 --> 00:04:41,400 แต่อย่างน้อยเนี่ย มันก็ทำให้เราได้รู้ว่า ในสมัยนั้นๆเนี่ยนะคะ มีอะไรบ้าง 102 00:04:41,400 --> 00:04:43,720 ในดินแดนที่เป็นประเทศไทยปัจจุบันนะคะ 103 00:04:43,720 --> 00:04:46,540 ทีนี้บาทหลวงลา ลูแบร์เนี่ยนะคะ ได้มีการบันทึกไว้ค่ะ 104 00:04:46,540 --> 00:04:49,920 ในช่วงที่กล่าวถึงการกินเมล็ดพืช ของไทยอะไรเนี่ยนะคะ 105 00:04:49,920 --> 00:04:53,680 นอกจากจะบันทึกว่าคนไทยกินข้าว เป็นอาหารหลัก อะไรต่างๆแล้วเนี่ย 106 00:04:53,680 --> 00:04:55,500 เค้าก็ได้บันทึกถึงสิ่งนึงค่ะว่า 107 00:04:55,500 --> 00:04:57,700 ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเนี่ยนะคะ 108 00:04:57,700 --> 00:05:00,700 เนื่องจากพระองค์โปรด ความเป็นตะวันตกค่อนข้างมาก 109 00:05:00,700 --> 00:05:02,240 ดังนั้นเนี่ย พระองค์ก็เลย 110 00:05:02,240 --> 00:05:05,400 มีการรับเรื่องการปลูกข้าวสาลีเข้ามาด้วยค่ะ 111 00:05:05,400 --> 00:05:10,220 คือเหมือนกับว่า เออ เห็นฝรั่งปลูกข้าวสาลี ทำขนมปังกัน ก็มีการปลูกบ้างนะคะ 112 00:05:10,220 --> 00:05:13,500 ทีนี้ก็มีการบันทึกถึงสิ่งที่เรียกว่าโรงสีค่ะ 113 00:05:13,500 --> 00:05:14,880 เพราะว่าถ้ามีข้าวสาลีแล้วเนี่ย 114 00:05:14,880 --> 00:05:17,900 การจะทำมาเป็นแป้งทำอะไร ก็ต้องมีโรงสีใช่ไหมคะ 115 00:05:17,900 --> 00:05:21,720 เค้าก็มีการบันทึกไว้ค่ะว่ามันมีโรงสี เข้ามาตั้งแต่สมัยอยุธยาละ 116 00:05:21,720 --> 00:05:23,500 ตั้งอยู่ทั้งหมด 2 ที่ด้วยกันค่ะ 117 00:05:23,500 --> 00:05:26,120 ที่แรกก็คือใกล้ๆกับกรุงศรีอยุธยานะคะ 118 00:05:26,120 --> 00:05:29,460 แล้วที่ที่สองก็คือใกล้ๆกับละโว้ หรือว่าเมืองลพบุรีนั่นเอง 119 00:05:29,460 --> 00:05:31,700 ซึ่งเป็นเมืองหลวงอีกแห่งนึงในสมัยนั้นเนอะ 120 00:05:31,700 --> 00:05:34,300 อย่างไรก็ตามค่ะ หลังจากสมัยสมเด็จพระนารายณ์ 121 00:05:34,300 --> 00:05:37,600 เทคโนโลยีการสีข้าวก็อาจจะ เลือนหายไปจากประเทศไทยนะ 122 00:05:37,600 --> 00:05:39,300 เพราะว่าไม่ได้มีการกล่าวถึงอีก 123 00:05:39,300 --> 00:05:42,060 จนกระทั่งเข้ามาในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ค่ะ 124 00:05:42,060 --> 00:05:44,140 ในช่วงสมัยของรัชกาลที่ 4 นะคะ 125 00:05:44,140 --> 00:05:46,160 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 126 00:05:46,160 --> 00:05:47,800 ก็จะเห็นว่าเป็นอีกระลอกนึงนะคะ 127 00:05:47,800 --> 00:05:52,080 ที่อิทธิพลตะวันตกหลั่งไหลเข้ามา ในดินแดนที่เป็นประเทศไทยปัจจุบัน 128 00:05:52,080 --> 00:05:53,360 เยอะมากนะคะ 129 00:05:53,360 --> 00:05:56,080 ชาวสยามของเรารับอิทธิพลตะวันตกมามากมาย 130 00:05:56,080 --> 00:05:58,760 และสิ่งนึงที่รับมาด้วย แน่นอนว่าก็คือ 131 00:05:58,760 --> 00:05:59,900 โรงสีนั่นเองนะคะ 132 00:05:59,900 --> 00:06:02,700 โรงสีกลับมาที่สยามของเราอีกรอบนึงนะคะ 133 00:06:02,700 --> 00:06:04,280 เราสามารถจะเห็นหลักฐานได้จาก 134 00:06:04,280 --> 00:06:07,660 พระราชหัตถเลขาของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนะคะ 135 00:06:07,660 --> 00:06:11,980 ที่ทรงเขียนตอบโต้กับคนนั้นคนนี้ เรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐกิจอะไรของเรา 136 00:06:11,980 --> 00:06:16,120 เช่น เขียนไปที่อเมริกาบอกว่า มีชาวอเมริกันเข้ามาตั้งโรงสีในประเทศไทยนะ 137 00:06:16,120 --> 00:06:17,180 อะไรทำนองนี้ 138 00:06:17,180 --> 00:06:21,820 หรือเราจะสามารถเห็นหลักฐานได้จากหนังสือ ที่เรียกว่า Siam Directory ของหมอสมิธ 139 00:06:21,820 --> 00:06:26,040 หมอสมิธนี่ก็เป็นอีกคนนึงที่บันทึกเรื่องราว เกี่ยวกับประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 4 นะคะ 140 00:06:26,040 --> 00:06:30,040 ก็ทำให้เราได้เห็นสภาพสังคม ในยุคสมัยนั้นแหละ ประมาณนั้นเลยนะ 141 00:06:30,040 --> 00:06:33,780 เราก็จะเห็นว่าเค้าบันทึกว่าในช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่ชาวตะวันตก 142 00:06:33,780 --> 00:06:36,800 เข้ามามีกิจการอะไรต่างๆในสยามค่อนข้างมาก 143 00:06:36,800 --> 00:06:38,820 รวมถึงกิจการโรงสีด้วยนะคะ 144 00:06:38,820 --> 00:06:42,500 ชาวตะวันตกก็เข้ามาตั้ง โรงสีต่างๆมากมายในสยามค่ะ 145 00:06:42,500 --> 00:06:46,380 ทีนี้ถามว่าเรื่องราวที่วิวเล่าทั้งหมด เกี่ยวข้องกับถนนสีลมยังไงนะคะ 146 00:06:46,380 --> 00:06:47,600 ยังเข้ามาไม่ถึงสีลมเลย 147 00:06:47,600 --> 00:06:50,520 ตอนนี้ดูเหมือนปูพื้นเกี่ยวกับสภาพสังคมไทย 148 00:06:50,520 --> 00:06:52,500 อะไรเกี่ยวกับโรงสีมามากมายนะคะ 149 00:06:52,500 --> 00:06:56,840 ก็ต้องบอกว่าในสมัยรัชกาลที่ 4 ค่ะ ที่ดินบริเวณที่เป็นย่านสีลมปัจจุบันเนี่ย 150 00:06:56,840 --> 00:06:58,860 เป็นที่ดินที่ค่อนข้างจะ 151 00:06:58,860 --> 00:07:00,960 ยังไม่ได้อยู่กลางเมืองขนาดนั้น นึกออกไหม 152 00:07:00,960 --> 00:07:03,440 กลางเมืองของเราก็คือเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน 153 00:07:03,440 --> 00:07:05,940 พระบรมมหาราชวัง อะไรประมาณนั้นเลยนะคะ 154 00:07:05,940 --> 00:07:08,080 ถามว่าแถวนี้ คนแถวนี้เค้าทำอะไรกัน 155 00:07:08,080 --> 00:07:09,900 เค้าก็ทำสวน ทำนา 156 00:07:09,900 --> 00:07:12,840 แล้วก็รวมถึงเลี้ยงสัตว์ อะไรประมาณนี้ด้วยนะคะ 157 00:07:12,840 --> 00:07:15,520 ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างจะโล่งกว้าง ประมาณนั้นเถอะ 158 00:07:15,520 --> 00:07:17,080 ปรากฏว่าในยุคสมัยนั้นค่ะ 159 00:07:17,080 --> 00:07:19,900 ก็มีพ่อค้าต่างชาติ มีสถานกงสุลอะไรต่างๆ 160 00:07:19,900 --> 00:07:21,980 เข้ามาตั้งในประเทศไทยมากมายนะคะ 161 00:07:21,980 --> 00:07:25,580 บังเอิญว่าชาวต่างชาติเหล่านั้นค่ะ เกิดเรียกร้องสิ่งนึงขึ้นมานะคะ 162 00:07:25,580 --> 00:07:29,080 ก็คือเรียกร้องว่า เฮ้ย เราอยากมีที่ขี่ม้าเล่นน่ะ 163 00:07:29,080 --> 00:07:31,220 คือในเมืองมันอาจจะแออัดนิดนึง 164 00:07:31,220 --> 00:07:34,380 อยากได้ถนนสักเส้นนึงที่ขี่ม้าชมทิวทัศน์ได้ 165 00:07:34,380 --> 00:07:36,240 เป็นการตากอากาศ ประมาณนี้นะ 166 00:07:36,240 --> 00:07:38,580 มีถนนเส้นไหนบ้างนะที่เหมาะกับสิ่งนี้ 167 00:07:38,580 --> 00:07:41,700 ประกอบกับว่าในช่วงนั้นนะคะ สยามประเทศของเราเนี่ยก็กำลัง 168 00:07:41,700 --> 00:07:44,400 พัฒนาตัวเองมากมายในด้านนั้นด้านนี้ 169 00:07:44,400 --> 00:07:48,780 เอ้า สร้างนู่น สร้างนี่ สร้างนั่น เพื่อให้ เจริญทัดเทียมกับนานาประเทศใช่ไหมคะ 170 00:07:48,780 --> 00:07:51,360 และสิ่งนึงที่เราจะต้องพัฒนานั่นก็คือ 171 00:07:51,360 --> 00:07:53,280 การคมนาคมนั่นเองนะคะ 172 00:07:53,280 --> 00:07:55,980 ซึ่งการคมนาคมในสมัยโบร่ำโบราณเนี่ย 173 00:07:55,980 --> 00:07:58,520 การคมนาคมหลักของเราก็คือทางน้ำใช่ไหม 174 00:07:58,520 --> 00:08:01,140 มันก็จะมีคลองต่างๆมากมายอยู่ในกรุงเทพ 175 00:08:01,140 --> 00:08:05,520 ถึงขนาดที่ว่าเราเคยได้ชื่อว่าเป็น เวนิสแห่งตะวันออกประมาณนั้นเลยถูกไหม 176 00:08:05,520 --> 00:08:08,140 ทีนี้มันก็บังเอิญมีคลองอยู่สองเส้นค่ะ 177 00:08:08,140 --> 00:08:10,820 ที่เค้าต้องการจะขุดให้มันเชื่อมต่อกันนะคะ 178 00:08:10,820 --> 00:08:14,760 คลองนั้นนะคะก็คือคลองบางรัก กับคลองถนนตรงนั่นเองค่ะ 179 00:08:14,760 --> 00:08:17,980 ทีนี้พอมีคลองสองเส้นนะคะ ต้องการขุดคลองเชื่อมกัน 180 00:08:17,980 --> 00:08:20,080 เค้าก็ขุดๆๆ ขุดเป็นคลองค่ะ 181 00:08:20,080 --> 00:08:21,920 ทีนี้เวลาขุดคลองจะเกิดอะไรขึ้น 182 00:08:21,920 --> 00:08:24,460 ก็คือเราขุดพื้นลงไป เราขุดดินขึ้นมา 183 00:08:24,460 --> 00:08:26,340 มันก็จะต้องมีดินที่เหลือขึ้นมาใช่ไหม 184 00:08:26,340 --> 00:08:27,700 เอ๊ จะเอาไปทำอะไรดีนะ 185 00:08:27,700 --> 00:08:31,340 เค้าก็เลยเอาดินพวกนั้นค่ะ มาตั้งๆๆๆ เป็นคันดินนะคะ 186 00:08:31,340 --> 00:08:34,740 แล้วก็จัดการเปลี่ยนคันดินนั้นนะคะ ที่เกิดจากการขุดคลองเนี่ย 187 00:08:34,740 --> 00:08:36,200 มาเป็นถนนค่ะ 188 00:08:36,200 --> 00:08:38,860 ถนนเส้นนั้นนะคะได้ชื่อว่า ถนนขวาง ค่ะ 189 00:08:38,860 --> 00:08:42,120 ซึ่งบังเอิญมากๆเลยนะคะว่า ถนนขวางเส้นนั้นเนี่ย พอตัดขึ้นมา 190 00:08:42,120 --> 00:08:44,800 ก็บังเอิญว่ามันกว้างใหญ่นะคะ เหมาะกับการขี่ม้าเล่น 191 00:08:44,800 --> 00:08:49,780 ก็เลยตรงกับจุดประสงค์ที่สถานกงสุล ชาวต่างชาติอยากจะมาขี่ม้าเล่นพอดีค่ะ 192 00:08:49,780 --> 00:08:53,100 ทีนี้พอมีถนน ที่ดินบริเวณนี้ก็เริ่มเจริญขึ้นนะคะ 193 00:08:53,100 --> 00:08:56,560 ดังนั้นนะคะก็เลยเริ่มมีการปรับปรุงทัศนียภาพต่างๆ 194 00:08:56,560 --> 00:08:59,520 เริ่มมีคนเอาต้นประดู่มาปลูกสองข้างถนน 195 00:08:59,520 --> 00:09:01,140 อะ ร่มรื่นสวยงามไป 196 00:09:01,140 --> 00:09:03,340 และที่สำคัญมีสิ่งนึงเกิดขึ้นค่ะ 197 00:09:03,340 --> 00:09:05,640 นั่นก็คือมีชาวต่างชาติเนี่ยนะคะ 198 00:09:05,640 --> 00:09:08,980 เข้ามาตั้งโรงสีอยู่บริเวณถนนเส้นนี้ค่ะ 199 00:09:08,980 --> 00:09:11,240 แล้วทีนี้นึกว่าโรงสีเนี่ยมันเด่น 200 00:09:11,240 --> 00:09:12,520 มันเด่นมากๆเลยนะทุกคน 201 00:09:12,520 --> 00:09:17,240 ดังนั้นนะคะ พอโรงสีมันเด่นมากๆเนี่ย มันดันเด่นกว่าชื่อการขวางของถนนอะไรอย่างนี้ 202 00:09:17,240 --> 00:09:18,960 ถนนมันไม่ได้ขวางชัดเจนขนาดนั้น 203 00:09:18,960 --> 00:09:20,080 โรงสีเด่นกว่า 204 00:09:20,080 --> 00:09:22,720 คนเราเนี่ยชอบเรียกชื่อตามอะไรที่เห็นกับตา 205 00:09:22,720 --> 00:09:25,000 แล้วก็เรียกมากกว่าชื่อ official อยู่แล้วใช่ไหม 206 00:09:25,000 --> 00:09:28,700 ดังนั้นนะคะเค้าก็เลยเอาคำว่าโรงสี มาเรียกเป็นชื่อถนนนั่นเองค่ะ 207 00:09:28,700 --> 00:09:30,880 แต่ทีนี้นะคะ ถามว่าทำไมต้องเป็นสีลม 208 00:09:30,880 --> 00:09:33,000 สีไฟได้ไหม สีดินได้ไหม สีน้ำได้ไหม 209 00:09:33,000 --> 00:09:34,100 ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ค่ะ 210 00:09:34,100 --> 00:09:36,180 เพราะว่าถ้าเป็นสีน้ำ มันก็จะต้องเป็นระบายสี 211 00:09:37,460 --> 00:09:39,120 ไม่ควรเล่นมุกนี้นะคะ แป้กมาก 212 00:09:39,120 --> 00:09:42,340 ดังนั้นกลับมาที่เรื่องราวมีสาระดีกว่านะทุกคนนะคะ 213 00:09:42,340 --> 00:09:46,320 ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ค่ะ เพราะว่า โรงสีในประเทศไทยที่นำเข้ามาเนี่ย 214 00:09:46,320 --> 00:09:48,620 มันก็มีหลักๆอยู่ทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกันค่ะ 215 00:09:48,620 --> 00:09:50,860 ประเภทแรกก็คือ โรงสีไฟ นะคะ 216 00:09:50,860 --> 00:09:53,720 ซึ่งโรงสีไฟเนี่ยหมายถึงโรงสีที่ใช้จักรกล 217 00:09:53,720 --> 00:09:55,660 ใช้เครื่องยนต์กลไฟอะไรประมาณนี้ 218 00:09:55,660 --> 00:09:59,800 ในการเป็นพลังในการขับเคลื่อนให้ โรงสีมันทำงานอะไรต่างๆนะคะ 219 00:09:59,800 --> 00:10:02,180 อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวของกับเราค่ะ 220 00:10:02,180 --> 00:10:04,880 สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเราเนี่ยคือโรงสีอีกประเภทนึงนะคะ 221 00:10:04,880 --> 00:10:06,680 ก็คือ โรงสีลม นั่นเอง 222 00:10:06,680 --> 00:10:08,920 คือโรงสีที่ใช้พลังงานลมเป็นหลักนะคะ 223 00:10:08,920 --> 00:10:11,020 ก็คือโรงสีที่มีกังหันลมอยู่ข้างหน้า 224 00:10:11,020 --> 00:10:12,520 มีลมพัดมา กังหันหมุน 225 00:10:12,520 --> 00:10:16,440 กังหันหมุนเสร็จ ไปเป็นพลังงานดึงให้ กลไกอะไรต่างๆข้างในทำงาน 226 00:10:16,440 --> 00:10:19,240 อารมณ์คล้ายๆเครื่องหมายดัชมิลล์ ที่เราเห็นกันน่ะแหละ 227 00:10:19,240 --> 00:10:21,900 หรือที่ในภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่า windmill นั่นเองนะคะ 228 00:10:21,900 --> 00:10:24,840 ทีนี้โรงสีที่ตั้งอยู่บริเวณถนนสีลมเนี่ย 229 00:10:24,840 --> 00:10:28,200 มันดันเป็น windmill หรือมันดันเป็นโรงสีลมนี่ล่ะค่ะ 230 00:10:28,200 --> 00:10:31,520 ดังนั้นเนี่ยนะคะ คนก็เลยเรียกถนนเส้นนี้ว่า 231 00:10:31,520 --> 00:10:32,580 ถนนสีลม 232 00:10:32,580 --> 00:10:36,440 ย่อมาจากถนนที่มีโรงสีลมตั้งอยู่นั่นเองค่ะ 233 00:10:36,440 --> 00:10:40,220 ซึ่งในปัจจุบันเนี่ยนะคะ เราก็จะเห็นว่า ตรงบริเวณถนนนราธิวาสเนี่ย 234 00:10:40,220 --> 00:10:44,160 ก็ยังมีรูปกังหันตั้งไว้อยู่ แม้ว่าจะใช้ไม่ได้จริงหรืออะไรนะคะ 235 00:10:44,160 --> 00:10:49,360 ก็เป็นอนุสรณ์ถึงที่มาของชื่อถนนสีลม ชื่อย่านสีลม อะไรแถวๆนี้นี่แหละค่ะ 236 00:10:49,360 --> 00:10:52,520 ซึ่งพอเราเรียกชื่อถนนเส้นนี้ว่า ถนนสีลม 237 00:10:52,520 --> 00:10:56,600 ย่านที่อยู่รอบๆถนนสีลมก็เลย กลายเป็น ย่านสีลม นั่นเองค่ะ 238 00:10:56,600 --> 00:10:57,700 เป็นยังไงบ้างคะทุกคน 239 00:10:57,700 --> 00:11:01,700 ได้คำตอบที่ตัวเองต้องการกันไหม ว่าสรุปแล้วถนนสีลมสีอะไร 240 00:11:01,700 --> 00:11:03,960 ก็คือสีข้าวด้วยลมนั่นเองค่ะ 241 00:11:03,960 --> 00:11:05,640 ถ้าใครชื่นชอบคลิปแบบนี้นะคะ 242 00:11:05,640 --> 00:11:10,060 อยากให้วิวไปหาที่มาอะไรของอะไรอีก ก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้เลยค่ะ 243 00:11:10,060 --> 00:11:14,200 หรือว่าใครมีความรู้เพิ่มเติมนะคะ อยากจะมาแชร์กันก็คอมเมนต์ด้านล่างได้เช่นกันค่ะ 244 00:11:14,200 --> 00:11:17,020 ส่วนใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว 245 00:11:17,020 --> 00:11:19,020 แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ 246 00:11:19,020 --> 00:11:20,720 แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน 247 00:11:20,720 --> 00:11:22,420 บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ 248 00:11:22,420 --> 00:11:24,960 เอาจริงรู้สึกปะว่าคลิปนี้เล่นมุกแป้กไปหลายมุกมาก 249 00:11:24,960 --> 00:11:26,260 เหนื่อยใจกับตัวเองเหมือนกันนะ 250 00:11:26,260 --> 00:11:29,100 ก็จะพยายามไม่ค่อยเล่นมุกแป้กแล้วกันนะคะทุกคน 251 00:11:29,100 --> 00:11:31,740 แต่ตอนเล่นก็ไม่คิดว่ามันแป้กนะ ตอนเล่นก็คิดว่ามันฮา 252 00:11:31,740 --> 00:11:34,320 แต่ก็...ก็เล่นไปแล้วค่อยรู้สึกว่ามันแป้ก 253 00:11:34,320 --> 00:11:35,360 แต่ก็ยังไม่ยอมตัดทิ้ง 254 00:11:35,360 --> 00:11:37,600 ก็ฝืนน่ะนะ ดังนั้นช่างมันเถอะค่ะทุกคน 255 00:11:37,600 --> 00:11:39,980 เอาเป็นว่าความสุขเล็กๆน้อยๆของคนเล่านะคะ 256 00:11:39,980 --> 00:11:41,360 วันนี้ลาไปก่อนละกันค่ะ 257 00:11:41,360 --> 00:11:43,160 บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ